Home / มาเฟีย / พันธะร้ายขังรัก / บทที่ 4 ยื่นคำขาด

Share

บทที่ 4 ยื่นคำขาด

last update Last Updated: 2025-08-25 13:51:17

ปัจจุบัน..

 หลังจากฟังแฟนสาวเล่าจบอลินดาก็มีสีหน้าตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด จิตใจเหม่อลอยราวกับกำลังใช้ความคิดอย่างหนักหน่วง 

ใช่เธอกำลังคิดว่าจะทำยังไงดีกับเรื่องนี้ ขณะเดียวกันก็นึกสงสารตัวเองและแฟนสาวที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้

 เธอลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนดึงสติตัวเองกลับมา แล้วเอื้อนเอ่ยกับแฟนสาวอย่างตัดพ้อ 

“เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไม่เธอไม่บอกเค้าเลย ทำไมต้องเก็บความเครียดเอาไว้คนเดียว นี่ถ้าเค้าไม่เค้นเอาคำตอบเธอก็คงปิดไปเรื่อย ๆ ใช่ไหม”

 “เค้าขอโทษ ที่ไม่บอกเพราะเค้าไม่อยากให้เธอเครียดไปด้วยไง อย่างอนเค้าเลยนะ” เห็นสายตาเศร้าและได้ยินคำตัดพ้อของสาวคนรักโยษิตาพลันรู้สึกผิดขึ้นมาทันใด รีบขอโทษยกใหญ่พร้อมกับยื่นมือไปกอบกุมมือคนรักไว้แน่น “อย่างอนเค้าเลยนะที่เค้าทำไปเพราะรักเธอ ไม่อยากให้เธอเครียด”

 “เค้าไม่งอนหรอกแค่น้อยใจนิดหน่อย ทีหลังมีอะไรต้องรีบบอกเลยนะเราเป็นคนรักกันมีอะไรก็ต้องช่วยกันสิ เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกันนะ” อลินดารีบเปลี่ยนอารมณ์เมื่อเห็นสีหน้าสลดของแฟนสาวลำพังแฟนสาวแบกรับเรื่องที่บ้านมันก็หนักมากแล้วไม่อยากเพิ่มเรื่องไม่สบายใจให้แฟนสาวอีก 

ในเวลานี้เธอต้องจับมือแฟนสาวให้แน่นแล้วคิดแก้ปัญหาต่างหาก

 “ขอบคุณที่ไม่งอนเค้า และอยู่เคียงข้างเค้ามาตลอดนะ” โยษิตาส่งยิ้มอ่อน ๆ ให้สาวคนรักจากที่เครียด ๆ ก็รู้สึกเบาลงบ้าง อย่างน้อยตอนนี้เธอก็รู้แล้วว่าไม่ได้สู้คนเดียว แต่ยังมีคนที่รักสู้เคียงข้าง 

ทว่าเพียงเสี้ยวนาทีอารมณ์ของเธอก็กลับมาหม่นหมองอีกครั้งเมื่อนึกอะไรบางอย่างได้ ก่อนจะเอ่ยกับสาวคนรักอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเศร้า

 “แต่หลังจากนี้เราคงจะใช้ชีวิตกันลำบากมากขึ้น เพราะด้วยนิสัยของแด๊ดแล้วเค้าคิดว่าแด๊ดคงให้คนตามสืบแน่ ๆ ว่าแฟนเค้าเป็นใคร”

 “หรือเราบอกความจริงกับทุกคนดี บอกว่าเรารักกัน” สิ้นเสียงแฟนสาวอลินดาก็โพลงขึ้นมา ตอนนี้เธอคิดอะไรไม่ออกจริง ๆ จึงได้เอ่ยประโยคสิ้นคิดนี้ออกมาทั้งที่รู้เต็มอกว่าทั้งครอบครัวเธอกับแฟนสาวไม่มีทางยอมรับ 

เธอกับแฟนสาวต่างเคยพูดเกริ่น ๆ เรื่องรักร่วมเพศกับครอบครัวแล้วปฏิกิริยาตอบกลับคือทุกคนรับไม่ได้

 “ข้อนี้ไม่ได้แน่ ๆ เธอไม่รู้หรอกว่าแด๊ดกับพี่แทนโหดขนาดไหน พวกเขามีอำนาจมากพอที่จะทำให้คนคนหนึ่งหายสาบสูญไปได้ตลอดกาลเลยนะ ทุกอย่างมันแย่กว่าที่เธอคิดอีกนะ” 

โยษิตารีบห้ามความคิดสาวคนรักเพราะเธอรู้ถึงผลที่จะตามมาดี ตระกูลของเธอเป็นตระกูลมาเฟียเรื่องอำนาจและอิทธิพลไม่ต้องพูดถึง อย่างที่เธอบอกสาวคนรักไป 

 ยิ่งเรื่องความโหดเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาเธอมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนพ่อ และพี่ชายของเธอสามารถฆ่าคนได้เหมือนผักเหมือนปลาเพียงแค่คนคนนั้นขัดผลประโยชน์ หรือทำอะไรให้ไม่พอใจ

 “โอเคเค้าจะไม่บอกใคร เรื่องระหว่างเราจะเป็นความลับตลอดไป แค่เค้าได้อยู่กับเธอแบบนี้ไปเรื่อย ๆ มันก็มีความสุขมากแล้ว” 

อลินดาเข้าใจโดยง่ายเพราะเธอก็พอรู้ถึงความเป็นมาของครอบครัวแฟนสาวอยู่บ้างว่าพ่อของแฟนสาวเป็นมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลของประเทศเลยก็ว่าได้ และพี่ชายของแฟนสาวก็กำลังจะขึ้นมารับตำแหน่งต่อจากผู้เป็นพ่อในอีกไม่นาน

 “ขอบคุณที่เธอเข้าใจเค้า เค้ารักเธอมากนะ” โยษิตาระบายยิ้มให้สาวคนรักบาง ๆ สายตาจ้องมองใบหน้าเรียวด้วยความรู้สึกเศร้าหมอง 

หลังจากนี้เธอคงแสดงความรักต่อคนรักได้ไม่เต็มที่แล้วเพราะต้องป้องกันไว้ก่อน “หลังจากนี้เราคงแสดงอะไรออกไปมากไม่ได้แล้วเดี๋ยวคนอื่นจะจับพิรุธได้ว่าเราไม่ได้เป็นแค่เพื่อน”

 “ไม่เป็นไรหรอกเค้าเข้าใจ ช่วงนี้พวกเราห่าง ๆ กันก่อนก็ได้ จะได้ไม่ต้องเป็นที่จับตามองของคนที่บ้านเธอมากนัก” แน่นอนว่าอลินดาเข้าใจดีพยักหน้ารับคำแฟนสาวอย่างว่าง่ายแม้ในใจจะไม่อยากทำก็ตาม

 ทั้งสองต่างมองสบสายตากันนิ่ง ๆ ส่งผ่านความรู้สึกมากมายที่ท่วมท้นอยู่ในอก ก่อนอลินดาจะเอ่ยปลอบใจแฟนสาว 

“ถอยครั้งนี้ก็เพื่อรักษาความสัมพันธ์ของเรานะ ปิดมาได้ตั้งเก้าปีปิดต่อไปก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไร เราเป็นผู้หญิงด้วยกันทั้งคู่ต่อให้เก่งขนาดไหนก็ไม่มีทางรู้ความจริงได้ง่ายขนาดนั้นหรอก ถ้าเราสองคนต่างก็ไม่มีใครปริปากพูดออกไป” 

 “เอาแบบนั้นก็ได้...แต่ว่าเค้าก็ไม่อยากให้มันต้องหลบ ๆ ซ่อน จนเราไม่เป็นตัวของตัวเองอยู่ดี เอาเป็นว่าแค่มาเจอกันให้น้อยลงหน่อย แต่ทุกอย่างยังเหมือนเดิม โอเคไหม?” 

 ทั้งสองตกลงปลงใจกันอยู่สักพักว่าควรจะทำอย่างไรกับปัญหานี้ดี ก่อนจะได้ข้อสรุปว่าพวกเธอจำเป็นที่จะต้องออกมาเจอกันให้น้อยลงกว่าเดิม เพราะต้องทำให้ที่บ้านของโยษิตาตายใจเสียก่อนว่าเธอไม่ได้มีความสัมผัสที่ลึกซึ้งกับใคร 

ไม่อย่างนั้นอลินดาอาจจะเดือดร้อนเอาได้ อีกอย่างโยษิตาก็จำเป็นที่จะต้องต่อกรกับผู้เป็นพ่อเกี่ยวกับเรื่องงานแต่งงานอะไรนั่นก่อน เมื่อไหร่ที่สถานการณ์กลับมาเป็นปกติจึงจะค่อยว่ากันอีกทีหนึ่ง...

 วันนี้เป็นวันที่ทั้งสองร่ำลากันนานกว่าปกติ อาจเป็นเพราะรู้ว่าจะไม่ได้เจอหน้ากันแบบนี้อีกสักพักใหญ่ ๆ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเธอก็เข้าใจในเหตุผลดี ต่างฝ่ายก็ต่างเต็มใจที่จะหาทางออกของปัญหานี้ร่วมกัน

 โยษิตากลับมาที่บ้านด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ทว่าวินาทีที่ก้าวเท้าเข้ามาในบ้านจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังสวนขึ้นมาจนสามารถดึงความสนใจของเธอได้ในทันที

 “ไปไหนมา?” 

นั่นเป็นเสียงของแทนไท เขายืนกอดอกรอน้องสาวกลับบ้านมาตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสองโมง ซึ่งผ่านมาหลายชั่วโมงจนน่าสงสัย แค่ออกไปทานข้าวกับเพื่อน ไม่น่าจะนานได้ถึงขนาดนี้

 “ก็ไปกินข้าวกับเพื่อนไงคะ เมื่อเช้าพี่แทนก็ถามหยกแล้วไม่ใช่รึไง”

 “ที่มากกว่าไปกินข้าวกับเพื่อนน่ะ ไปไหนมาเหรอ?”

 “ก็ไม่มีนี่คะ ไปกินข้าวเฉย ๆ ไม่ได้ไปไหนทั้งนั้นค่ะ” โยษิตายังคงยืนยันคำเดิม แม้ว่าพี่ชายจะตั้งคำถามกลับมาอย่างไม่หยุดหย่อน 

เธอรู้อยู่แก่ใจว่าการที่พี่ชายหันมาสนใจเรื่องของเธอ ต้องเป็นคำสั่งของคนเป็นพ่ออย่างแน่นอน

 “แล้วเพื่อนนี่คนไหน พี่รู้จักหรือเปล่า”

 “ก็อลินไงคะ คนที่หยกเคยพามาที่บ้าน”

 “คนนั้นน่ะเหรอ สนิทกันมากเลยใช่ไหม?” คำถามดังกล่าวทำเอาผู้ฟังถึงกับชะงักงันด้วยกลัวว่าพี่ชายจะรู้ความจริงแล้วเอาไปรายงานพ่อจนเกิดเป็นปัญหาใหญ่เข้า 

เธอกลัวเหลือเกิน...

 “ก็ในระดับหนึ่งแหละค่ะ พี่แทนมีอะไรหรือเปล่าคะปกติไม่เห็นจะสนใจเรื่องเพื่อนหยกเลย ตอนนี้ทำไมอยู่ ๆ ถึงได้อยากรู้นู่นอย่างรู้นี่ไปหมดเลยล่ะคะ”

 “พี่แค่แปลกใจว่าทำไมหยกถึงกล้าปฏิเสธความต้องการของพ่อได้อย่างเต็มปากเต็มคำขนาดนั้น ทีแรกแค่ปฏิเสธก็ไม่ได้แปลกใจเท่ากับเหตุผลที่หยกบอกไว้หรอกนะ ผู้ชายคนนั้นเป็นใครบอกพี่มาดี ๆ แล้วพี่จะไม่มายุ่มย่ามอะไรกับเราอีก”

 “หยกไม่เชื่อหรอกค่ะว่าถ้าหยอกบอกพี่แทนไปแล้วพี่แทนจะไม่เข้ามายุ่งวุ่นวายเรื่องนี้ หยกไม่อยากให้เขาต้องมาเหนื่อยใจกับบ้านเรา ลำพังแค่หยกคนเดียวก็มากพอแล้วค่ะ” 

โยษิตาเริ่มรู้สึกไม่พอใจ เมื่อเห็นว่าพี่ชายพยายามจะถามถึงคนรัก เธอจำได้ดีว่าวันนั้นบอกไปอย่างชัดเจนแล้วว่าเมื่อไรที่พร้อมเธอจะบอกเอง ไม่ได้ต้องการให้ใครมาคาดคั้นเอาคำตอบจากของเธอแบบนี้เลย

 ใช่ว่าโยษิตาจะรู้สึกไม่พอใจอยู่คนเดียวมาเฟียหนุ่มเองก็เริ่มไม่สบอารมณ์กับน้องสาวแล้วกับความปากแข็งของเธอ 

เมื่อพูดกันดี ๆ ไม่ได้เขาจึงยื่นคำขาดไปหวังว่าจะใช้ได้ผลกับน้องสาว “งั้นหยกก็เลือกเอาก็แล้วกันนะว่าจะบอกพี่มาดี ๆ หรือว่าจะให้พี่ตามสืบแล้วรู้เรื่องด้วยตัวเอง ถึงวันนั้นจะเกิดอะไรขึ้นหยกคงรู้ดี ยังไม่ต้องตอบตอนนี้ก็ได้เก็บเอาไปคิด แล้วเลือกให้ได้ว่าจะเอายังไง หวังว่าจะได้คำตอบเร็ว ๆ นี้นะ พี่ไม่อยากเสียเวลารอนาน”

 โยษิตาถึงกับน้ำตาคลอเบ้านึกผิดหวังในตัวคนเป็นพี่ชายยิ่งนักเพราะที่ผ่านมาเขาเป็นคนที่คอยปกป้องเธอมาตลอด ทว่าวันนี้เขากับเป็นที่กำลังจะพังความรักของเธอลงกับมือ

 “พี่แทนใจร้าย!” เธอตะเบ็งเสียงต่อว่าคนเป็นพี่ชายดังลั่น ก่อนจะรีบเดินกึ่งวิ่งขึ้นห้องนอนตัวเองไปทิ้งให้คนเป็นพี่ชายอย่างมาเฟียหนุ่มมองตามหลังด้วยความอ่อนใจ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พันธะร้ายขังรัก   The end

    วันต่อมา ทั้งสองก็พากันไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาล แล้วไปจดทะเบียนสมรสที่สำนักงานทะเบียนต่อ"เราเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้วนะ ต่อจากนี้ห้ามชายตามองผู้ชายคนไหนแม้แต่นิดเดียว" ทันทีที่ใบทะเบียนสมรสที่มีลายลักษณ์อักษรของหญิงสาวกับตัวเองอยู่ในมือมาเฟียหนุ่มก็ยืดออกแสดงความความเป็นเจ้าของอย่างเต็มภาคภูมิ"แค่ดูเป็นอาหารตาก็ไม่ได้เหรอคะสามี" อลินดาพูดหยอกสามีป้ายแดงด้วยใบหน้าเคลือบรอยยิ้มบาง ๆ ขณะกำลังจูงมือกันเดินออกจากสำนักงานทะเบียน"มีผัวหล่อขนาดนี้แล้วจะไปมองผู้ชายคนอื่นทำไม มองผัวนี่แหละครับเป็นอาหารตาชั้นดี" เธอได้แต่ส่ายหน้าเบา ๆ พอได้ยินคำพูดจาหลงตัวเองของคนเป็นสามีเธอเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเขาก็หลงตัวเองเหมือนกัน ต่อให้ที่เขาพูดมาจะจริงก็เถอะ ด้วยความมันเขี้ยวอดพูดแกล้งเขาไปไม่ได้ "พี่หล่อก็จริง แค่มองทุกวันมันก็เบื่อเหมือนกันนะ"คำพูดจากริมฝีปากอิ่มทำคนฟังหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความไม่ชอบใจ พลันหยุดเดินอัตโนมัติแล้วหันไปมองหน้าร่างบางพร้อมพ่นคำพูดออกไประรัว"อย่าแม้แต่จะคิด ห้ามเบื่อ ห้ามเลิกรัก ห้ามมองผู้ชายคนอื่น ห้ามทิ้งกัน ห.."อลินดาฟังแทบไม่ทันจนเธอต้องรีบยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปาก

  • พันธะร้ายขังรัก   บทที่ 98 ท้อง

    เมื่อกลับมาถึงคอนโดเธอยังคงทำตัวปกติรอจนมาเฟียหนุ่มหลับจึงแอบเอาที่ตรวจครรภ์ไปตรวจในห้องน้ำ หัวใจดวงน้อย ๆ เต้นแรงแทบจะกระเด็นกระดอนออกมานอกอกระหว่างที่กำลังรอผลตรวจ มันลุ้นเสียยิ่งกว่าลุ้นเสียอีก หากถามว่าเธอพร้อมมีลูกในตอนนี้ไหมตอบเลยว่าไม่ แต่หากว่าลูกมาแล้วจริง ๆ เธอก็คงต้องพร้อมให้ได้ "อึก.." เธอลอบกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงลำคอแห้งผากอึกใหญ่ ก่อนจะยื่นมือที่สั่นเพราะความตื่นเต้นไปหยิบที่ตรวจครรภ์ที่วางบนอ่างล้างหน้าขึ้นมาดู "อ่า..ทำไมรีบมาจังลูกแม่ยังใช้ชีวิตวัยรุ่นไม่คุ้มเลย" พอเห็นผลตรวจที่ขึ้นสีแดงสองขีดเธอถึงกับยกมือขึ้นกุมขมับความรู้สึกมันตีกันมั่วไปหมด ใจหนึ่งเธอก็ดีใจแต่อีกใจก็นึกกังวลอะไรหลาย ๆ อย่าง เธอหลับตาลงพยายามตั้งสติ ขจัดความรู้สึกไม่ดีออกไป จากนั้นก็กำที่ตรวจครรภ์ไว้ในมือแน่นแล้วเปิดประตูเดินออกจากห้องน้ำ เดินไปหย่อนก้นนั่งบนเตียงข้าง ๆ ร่างสูงที่นอนหลับอยู่ สายตาจ้องมองใบหน้าคมคายด้วยความรู้สึกมันเขี้ยวที่เธอท้องคงจะสมใจเขาแล้วสิ นิ้วเรียวยื่นไปกรีดกรายตามแนวคิ้วโก้งทั้งสอง แล้วค่อย ๆ ลากลงตามจมูกโด่งเป็นสันมาหยุดที่ริมฝีปากหยักสีชมพูพลางครุ่นคิดในใจว่าหากเป็นล

  • พันธะร้ายขังรัก   บทที่ 97 แพ้ท้องแทนเมีย

    เป็นเพราะเธอที่เข้ามาทำให้โลกอันดำมืดของเขาสว่างไสว เธอเป็นคนที่เข้ามาเติมทุกอย่างที่เขาขาดหายให้เต็มแล้วแบบนี้จะไม่ให้เขารัก และขอบคุณเธอได้ยังไงกันสองสายตามองสบประสานกันอย่างลึกซึ้งส่งผ่านความรู้สึกมากมายที่อยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ ก่อนทั้งสองจะละสายตาจากกันเมื่อหมอวัยกลางคนเดินเข้ามา มีแค่มีที่ยังกอบกุมกันไว้แน่นด้วยลุ้นระทึกกับผลตรวจที่อยู่ในมือหมอ"ผลตรวจร่างกายของคนไข้ปกติทุกอย่างครับ ไม่มีอะไรต้องกังวล" พอได้ฟังผลตรวจทั้งมาเฟียหนุ่มกับอลินดาก็ถอนหายใจออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน ด้วยรู้สึกโล่งอกที่ผลออกมาปกติ ทว่าอีกใจก็อดสงสัยไม่ได้อยู่ดีกับอาการที่เป็นอยู่"แล้วอาการที่ผมเป็นอยู่นี่ล่ะครับ" มาเฟียหนุ่มถามไถ่ไป"จากอาการที่คนไข้บอกมาถ้าร่างกายปกติก็มีเพียงอย่างเดียวครับ" หมอวัยกลางคนกล่าวยิ้ม ๆ แล้วเงียบไปชั่วครู่จึงเอ่ยต่อ "แพ้ท้องแทนภรรยา""ห๊ะ!!"สิ้นคำบอกกล่าวจากหมอมาเฟียหนุ่มกับอลินดาถึงกับตาเบิกกว้างร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจระคนฉงน พลันหันมองหน้ากันอัตโนมัติ"ประจำเดือนน้องอลินมารึยังเดือนนี้" มาเฟียหนุ่มรีบถามไถ่ด้วยความตื่นเต้นพลางก้มมองหน้าท้องของคนรัก ลึก ๆ ในใจเขาอยากให

  • พันธะร้ายขังรัก   บทที่ 96 กังวล

    หนึ่งเดือนต่อมา.."พี่แทนลุกขึ้นมากินข้าวอย่าเอาแต่นอนแบบนี้" อลินดาเขย่าเรียกคนตัวโตที่เอาแต่นอนตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยงข้าวปลาก็ไม่ยอมลุกขึ้นมาทานด้วยความเป็นห่วงช่วงหนึ่งอาทิตย์มานี้เขาเอาแต่นอน ข้าวปลาก็ไม่ค่อยทานบอกว่าเบื่อจนน้ำหนักลดลงไปหนึ่งกิโลแล้ว หนำซ้ำยังมีอาการอ่อนเพลีย ปวดท้องปวดหลังราวกับผู้หญิงมีประจำเดือนยังไงยังงั้น แต่พอพาไปหาหมอหมอกลับบอกว่าปกติทุกอย่างถามว่าเขามีความเครียดหรือเปล่าเขาก็บอกว่าไม่เลย เขามีความสุขที่สุดด้วยซ้ำเพราะได้อยู่กับเธอแทบทุกวันทุกคืนตั้งแต่วันที่ไปหาพ่อแม่ของเธอด้วยกัน ได้พูดคุยจนเข้าใจเธอกับเขาก็ไปมาหาสู่ และอยู่ด้วยกันบ่อยขึ้นซึ่งมาเฟียหนุ่มจะมาอยู่ที่คอนโดของเธอเรียกได้ว่าตอนนี้เขาครองห้องเธอไปแล้ว ส่วนเธอก็มีบางคืนที่กลับไปนอนที่บ้านบ้างเพื่อไม่ให้พ่อแม่ว่าเอาได้ว่าอยู่แต่กับผู้ชายจนลืมบ้านลืมช่อง "พี่แทนลุกขึ้นมากินอะไรสักนิดก่อน แล้วค่อยนอนต่อ" เธอเขย่าคนตัวโตแรงกว่าเดิมเมื่อเขายังคงนอนหลับต่อ "ตื่นแล้วครับ" ในที่สุดคนถูกปลุกก็ต้องลืมตาตื่นด้วยความจำใจ เขายกมือทั้งสองขยี้ตาไล่อาการงัวเงียออก ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นนั่งด้วยความรู้สึกที่

  • พันธะร้ายขังรัก   บทที่ 95 ตีตราจอง2

    ภายในห้องน้ำเปลี่ยนเป็นสมรภูมิรักของคนทั้งสองไปแล้วน้ำที่ว่าเย็นก็ดับความร้อนแรงนี้ไม่ได้ มาเฟียหนุ่มเดินหน้ากระแทกไม่หยั่ง อีกคนก็รอรับด้วยความกระสันเสียวและสุขสม กว่าจะอิ่มหนำก็ใช้เวลาไปไม่น้อยอลินดาถึงกับขาอ่อนยืนไม่ไหวเป็นมาเฟียหนุ่มที่ต้องคอยดูแลจัดการอาบน้ำถูสบู่ และสระผมให้ แล้วอุ้มออกมาวางบนเตียง"หึ" มาเฟียหนุ่มหัวเราะในลำคออย่างนึกเอ็นดูคนตัวเล็กที่นั่งตาปอยอยู่ริมเตียง ก่อนจะโน้มหน้าลงไปจูบหน้าผากมนเบา ๆ แล้วเดินไปเอาผ้าขนหนูอีกผืน จากนั้นก็กระโดดขึ้นเตียงไปนั่งข้างหลังเธอจัดการเช็ดผมให้อลินดายกยิ้มออกมาน้อย ๆ กับการกระทำแสนอ่อนโยนของคนตัวโตใครจะคิดว่ามาเฟียหนุ่มอย่างเขาจะมีมุมอ่อนโยนด้วย เขาอ่อนโยนจนบางทีเธอก็คิดไม่ถึง"ขอบคุณค่ะ" ครั้นเขาเช็ดผมให้เสร็จเธอก็เอี้ยวหน้าไปขอบคุณพร้อมทั้งฉีกยิ้มให้เขาจนตายี มาเฟียหนุ่มจึงใช้จังหวะนั้นจุบปากเธอไปหนึ่งทีถือเป็นค่าเช็ดผม แล้วจึงลุกลงจากเตียงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหาเสื้อให้เธอใส่ เขายืนเลือกอยู่สักพักโดยมีอลินดานั่งมองที่เตียง เมื่อเลือกได้ก็พาไปยื่นให้ "ใส่ไปก่อนครับ เดี๋ยวชุดน้องอลินพี่ให้แม่บ้านเอาไปซักให้"อลินดามองเสื

  • พันธะร้ายขังรัก   บทที่ 94 ตีตราจอง1

    ทั้งสองรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้งในช่วงค่ำ ๆ หลังจากนอนพักเอาแรงกันจนอิ่มแล้วมาเฟียหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์บนหัวเตียงมาเปิดหน้าจอดูเวลา เมื่อเห็นว่าใกล้สองทุ่มแล้วจึงบอกกล่าวกับร่างบางในอ้อมกอด "ลุกขึ้นไปอาบน้ำครับจะได้ไปหาอะไรกินกัน""ขอนอนนิ่ง ๆ แบบนี้อีกสักพักได้ไหม" อลินดาแสดงท่าทีงอแงเพราะรู้สึกง่วง ๆ และขี้เกียจน้อย ๆ ซึ่งมาเฟียหนุ่มก็ไม่คิดขัดใจปล่อยให้เธอนอนกอดเขาต่อไปไม่คิดจะลุกหนีผ่านไปราว ๆ ยี่สิบนาทีจึงเรียกเธออีกครั้ง "พี่ว่าลุกขึ้นได้แล้วครับน้องอลิน""หือ.." อลินดาถึงกับตาโตหูผึ่ง ผงกหน้าขึ้นมองคนตัวโตด้วยความแปลกใจเมื่อได้ยินคำเรียกที่เขาเรียกแทนตัวเองและเธอ มันฟังดูละมุนจนรู้สึกจักกะจี้ในหัวใจ ไม่คุ้นชินเอาเสียเลย"หืออะไรครับ ต่อไปนี้เราจะเรียกกันแบบนี้โอเคไหมครับ" "โอเคก็ได้ค่ะ" อลินดาพยักหน้าเอออออย่างว่าง่ายแม้จะรู้สึกเขอะเขิน และไม่ชินหูก็ตาม"น่ารักที่สุด" มาเฟียหนุ่มก้มลงหอมหน้ามนฟอดใหญ่ ก่อนจะเคลื่อนลงหอมแก้มซ้ายขวาของเธอต่อด้วยความรักใคร่เอ็นดู ขณะที่คนถูกหอมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่หลังจากเธอตัดสินใจวางทิ้งความรู้ไม่ดีต่อมาเฟียหนุ่มเกี่ยวกับเรื่องในอดีต และท

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status