Home / มาเฟีย / พันธะร้ายขังรัก / บทที่ 4 ยื่นคำขาด

Share

บทที่ 4 ยื่นคำขาด

last update Last Updated: 2025-08-25 13:51:17

ปัจจุบัน..

 หลังจากฟังแฟนสาวเล่าจบอลินดาก็มีสีหน้าตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด จิตใจเหม่อลอยราวกับกำลังใช้ความคิดอย่างหนักหน่วง 

ใช่เธอกำลังคิดว่าจะทำยังไงดีกับเรื่องนี้ ขณะเดียวกันก็นึกสงสารตัวเองและแฟนสาวที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้

 เธอลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนดึงสติตัวเองกลับมา แล้วเอื้อนเอ่ยกับแฟนสาวอย่างตัดพ้อ 

“เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไม่เธอไม่บอกเค้าเลย ทำไมต้องเก็บความเครียดเอาไว้คนเดียว นี่ถ้าเค้าไม่เค้นเอาคำตอบเธอก็คงปิดไปเรื่อย ๆ ใช่ไหม”

 “เค้าขอโทษ ที่ไม่บอกเพราะเค้าไม่อยากให้เธอเครียดไปด้วยไง อย่างอนเค้าเลยนะ” เห็นสายตาเศร้าและได้ยินคำตัดพ้อของสาวคนรักโยษิตาพลันรู้สึกผิดขึ้นมาทันใด รีบขอโทษยกใหญ่พร้อมกับยื่นมือไปกอบกุมมือคนรักไว้แน่น “อย่างอนเค้าเลยนะที่เค้าทำไปเพราะรักเธอ ไม่อยากให้เธอเครียด”

 “เค้าไม่งอนหรอกแค่น้อยใจนิดหน่อย ทีหลังมีอะไรต้องรีบบอกเลยนะเราเป็นคนรักกันมีอะไรก็ต้องช่วยกันสิ เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกันนะ” อลินดารีบเปลี่ยนอารมณ์เมื่อเห็นสีหน้าสลดของแฟนสาวลำพังแฟนสาวแบกรับเรื่องที่บ้านมันก็หนักมากแล้วไม่อยากเพิ่มเรื่องไม่สบายใจให้แฟนสาวอีก 

ในเวลานี้เธอต้องจับมือแฟนสาวให้แน่นแล้วคิดแก้ปัญหาต่างหาก

 “ขอบคุณที่ไม่งอนเค้า และอยู่เคียงข้างเค้ามาตลอดนะ” โยษิตาส่งยิ้มอ่อน ๆ ให้สาวคนรักจากที่เครียด ๆ ก็รู้สึกเบาลงบ้าง อย่างน้อยตอนนี้เธอก็รู้แล้วว่าไม่ได้สู้คนเดียว แต่ยังมีคนที่รักสู้เคียงข้าง 

ทว่าเพียงเสี้ยวนาทีอารมณ์ของเธอก็กลับมาหม่นหมองอีกครั้งเมื่อนึกอะไรบางอย่างได้ ก่อนจะเอ่ยกับสาวคนรักอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเศร้า

 “แต่หลังจากนี้เราคงจะใช้ชีวิตกันลำบากมากขึ้น เพราะด้วยนิสัยของแด๊ดแล้วเค้าคิดว่าแด๊ดคงให้คนตามสืบแน่ ๆ ว่าแฟนเค้าเป็นใคร”

 “หรือเราบอกความจริงกับทุกคนดี บอกว่าเรารักกัน” สิ้นเสียงแฟนสาวอลินดาก็โพลงขึ้นมา ตอนนี้เธอคิดอะไรไม่ออกจริง ๆ จึงได้เอ่ยประโยคสิ้นคิดนี้ออกมาทั้งที่รู้เต็มอกว่าทั้งครอบครัวเธอกับแฟนสาวไม่มีทางยอมรับ 

เธอกับแฟนสาวต่างเคยพูดเกริ่น ๆ เรื่องรักร่วมเพศกับครอบครัวแล้วปฏิกิริยาตอบกลับคือทุกคนรับไม่ได้

 “ข้อนี้ไม่ได้แน่ ๆ เธอไม่รู้หรอกว่าแด๊ดกับพี่แทนโหดขนาดไหน พวกเขามีอำนาจมากพอที่จะทำให้คนคนหนึ่งหายสาบสูญไปได้ตลอดกาลเลยนะ ทุกอย่างมันแย่กว่าที่เธอคิดอีกนะ” 

โยษิตารีบห้ามความคิดสาวคนรักเพราะเธอรู้ถึงผลที่จะตามมาดี ตระกูลของเธอเป็นตระกูลมาเฟียเรื่องอำนาจและอิทธิพลไม่ต้องพูดถึง อย่างที่เธอบอกสาวคนรักไป 

 ยิ่งเรื่องความโหดเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาเธอมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนพ่อ และพี่ชายของเธอสามารถฆ่าคนได้เหมือนผักเหมือนปลาเพียงแค่คนคนนั้นขัดผลประโยชน์ หรือทำอะไรให้ไม่พอใจ

 “โอเคเค้าจะไม่บอกใคร เรื่องระหว่างเราจะเป็นความลับตลอดไป แค่เค้าได้อยู่กับเธอแบบนี้ไปเรื่อย ๆ มันก็มีความสุขมากแล้ว” 

อลินดาเข้าใจโดยง่ายเพราะเธอก็พอรู้ถึงความเป็นมาของครอบครัวแฟนสาวอยู่บ้างว่าพ่อของแฟนสาวเป็นมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลของประเทศเลยก็ว่าได้ และพี่ชายของแฟนสาวก็กำลังจะขึ้นมารับตำแหน่งต่อจากผู้เป็นพ่อในอีกไม่นาน

 “ขอบคุณที่เธอเข้าใจเค้า เค้ารักเธอมากนะ” โยษิตาระบายยิ้มให้สาวคนรักบาง ๆ สายตาจ้องมองใบหน้าเรียวด้วยความรู้สึกเศร้าหมอง 

หลังจากนี้เธอคงแสดงความรักต่อคนรักได้ไม่เต็มที่แล้วเพราะต้องป้องกันไว้ก่อน “หลังจากนี้เราคงแสดงอะไรออกไปมากไม่ได้แล้วเดี๋ยวคนอื่นจะจับพิรุธได้ว่าเราไม่ได้เป็นแค่เพื่อน”

 “ไม่เป็นไรหรอกเค้าเข้าใจ ช่วงนี้พวกเราห่าง ๆ กันก่อนก็ได้ จะได้ไม่ต้องเป็นที่จับตามองของคนที่บ้านเธอมากนัก” แน่นอนว่าอลินดาเข้าใจดีพยักหน้ารับคำแฟนสาวอย่างว่าง่ายแม้ในใจจะไม่อยากทำก็ตาม

 ทั้งสองต่างมองสบสายตากันนิ่ง ๆ ส่งผ่านความรู้สึกมากมายที่ท่วมท้นอยู่ในอก ก่อนอลินดาจะเอ่ยปลอบใจแฟนสาว 

“ถอยครั้งนี้ก็เพื่อรักษาความสัมพันธ์ของเรานะ ปิดมาได้ตั้งเก้าปีปิดต่อไปก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไร เราเป็นผู้หญิงด้วยกันทั้งคู่ต่อให้เก่งขนาดไหนก็ไม่มีทางรู้ความจริงได้ง่ายขนาดนั้นหรอก ถ้าเราสองคนต่างก็ไม่มีใครปริปากพูดออกไป” 

 “เอาแบบนั้นก็ได้...แต่ว่าเค้าก็ไม่อยากให้มันต้องหลบ ๆ ซ่อน จนเราไม่เป็นตัวของตัวเองอยู่ดี เอาเป็นว่าแค่มาเจอกันให้น้อยลงหน่อย แต่ทุกอย่างยังเหมือนเดิม โอเคไหม?” 

 ทั้งสองตกลงปลงใจกันอยู่สักพักว่าควรจะทำอย่างไรกับปัญหานี้ดี ก่อนจะได้ข้อสรุปว่าพวกเธอจำเป็นที่จะต้องออกมาเจอกันให้น้อยลงกว่าเดิม เพราะต้องทำให้ที่บ้านของโยษิตาตายใจเสียก่อนว่าเธอไม่ได้มีความสัมผัสที่ลึกซึ้งกับใคร 

ไม่อย่างนั้นอลินดาอาจจะเดือดร้อนเอาได้ อีกอย่างโยษิตาก็จำเป็นที่จะต้องต่อกรกับผู้เป็นพ่อเกี่ยวกับเรื่องงานแต่งงานอะไรนั่นก่อน เมื่อไหร่ที่สถานการณ์กลับมาเป็นปกติจึงจะค่อยว่ากันอีกทีหนึ่ง...

 วันนี้เป็นวันที่ทั้งสองร่ำลากันนานกว่าปกติ อาจเป็นเพราะรู้ว่าจะไม่ได้เจอหน้ากันแบบนี้อีกสักพักใหญ่ ๆ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเธอก็เข้าใจในเหตุผลดี ต่างฝ่ายก็ต่างเต็มใจที่จะหาทางออกของปัญหานี้ร่วมกัน

 โยษิตากลับมาที่บ้านด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ทว่าวินาทีที่ก้าวเท้าเข้ามาในบ้านจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังสวนขึ้นมาจนสามารถดึงความสนใจของเธอได้ในทันที

 “ไปไหนมา?” 

นั่นเป็นเสียงของแทนไท เขายืนกอดอกรอน้องสาวกลับบ้านมาตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสองโมง ซึ่งผ่านมาหลายชั่วโมงจนน่าสงสัย แค่ออกไปทานข้าวกับเพื่อน ไม่น่าจะนานได้ถึงขนาดนี้

 “ก็ไปกินข้าวกับเพื่อนไงคะ เมื่อเช้าพี่แทนก็ถามหยกแล้วไม่ใช่รึไง”

 “ที่มากกว่าไปกินข้าวกับเพื่อนน่ะ ไปไหนมาเหรอ?”

 “ก็ไม่มีนี่คะ ไปกินข้าวเฉย ๆ ไม่ได้ไปไหนทั้งนั้นค่ะ” โยษิตายังคงยืนยันคำเดิม แม้ว่าพี่ชายจะตั้งคำถามกลับมาอย่างไม่หยุดหย่อน 

เธอรู้อยู่แก่ใจว่าการที่พี่ชายหันมาสนใจเรื่องของเธอ ต้องเป็นคำสั่งของคนเป็นพ่ออย่างแน่นอน

 “แล้วเพื่อนนี่คนไหน พี่รู้จักหรือเปล่า”

 “ก็อลินไงคะ คนที่หยกเคยพามาที่บ้าน”

 “คนนั้นน่ะเหรอ สนิทกันมากเลยใช่ไหม?” คำถามดังกล่าวทำเอาผู้ฟังถึงกับชะงักงันด้วยกลัวว่าพี่ชายจะรู้ความจริงแล้วเอาไปรายงานพ่อจนเกิดเป็นปัญหาใหญ่เข้า 

เธอกลัวเหลือเกิน...

 “ก็ในระดับหนึ่งแหละค่ะ พี่แทนมีอะไรหรือเปล่าคะปกติไม่เห็นจะสนใจเรื่องเพื่อนหยกเลย ตอนนี้ทำไมอยู่ ๆ ถึงได้อยากรู้นู่นอย่างรู้นี่ไปหมดเลยล่ะคะ”

 “พี่แค่แปลกใจว่าทำไมหยกถึงกล้าปฏิเสธความต้องการของพ่อได้อย่างเต็มปากเต็มคำขนาดนั้น ทีแรกแค่ปฏิเสธก็ไม่ได้แปลกใจเท่ากับเหตุผลที่หยกบอกไว้หรอกนะ ผู้ชายคนนั้นเป็นใครบอกพี่มาดี ๆ แล้วพี่จะไม่มายุ่มย่ามอะไรกับเราอีก”

 “หยกไม่เชื่อหรอกค่ะว่าถ้าหยอกบอกพี่แทนไปแล้วพี่แทนจะไม่เข้ามายุ่งวุ่นวายเรื่องนี้ หยกไม่อยากให้เขาต้องมาเหนื่อยใจกับบ้านเรา ลำพังแค่หยกคนเดียวก็มากพอแล้วค่ะ” 

โยษิตาเริ่มรู้สึกไม่พอใจ เมื่อเห็นว่าพี่ชายพยายามจะถามถึงคนรัก เธอจำได้ดีว่าวันนั้นบอกไปอย่างชัดเจนแล้วว่าเมื่อไรที่พร้อมเธอจะบอกเอง ไม่ได้ต้องการให้ใครมาคาดคั้นเอาคำตอบจากของเธอแบบนี้เลย

 ใช่ว่าโยษิตาจะรู้สึกไม่พอใจอยู่คนเดียวมาเฟียหนุ่มเองก็เริ่มไม่สบอารมณ์กับน้องสาวแล้วกับความปากแข็งของเธอ 

เมื่อพูดกันดี ๆ ไม่ได้เขาจึงยื่นคำขาดไปหวังว่าจะใช้ได้ผลกับน้องสาว “งั้นหยกก็เลือกเอาก็แล้วกันนะว่าจะบอกพี่มาดี ๆ หรือว่าจะให้พี่ตามสืบแล้วรู้เรื่องด้วยตัวเอง ถึงวันนั้นจะเกิดอะไรขึ้นหยกคงรู้ดี ยังไม่ต้องตอบตอนนี้ก็ได้เก็บเอาไปคิด แล้วเลือกให้ได้ว่าจะเอายังไง หวังว่าจะได้คำตอบเร็ว ๆ นี้นะ พี่ไม่อยากเสียเวลารอนาน”

 โยษิตาถึงกับน้ำตาคลอเบ้านึกผิดหวังในตัวคนเป็นพี่ชายยิ่งนักเพราะที่ผ่านมาเขาเป็นคนที่คอยปกป้องเธอมาตลอด ทว่าวันนี้เขากับเป็นที่กำลังจะพังความรักของเธอลงกับมือ

 “พี่แทนใจร้าย!” เธอตะเบ็งเสียงต่อว่าคนเป็นพี่ชายดังลั่น ก่อนจะรีบเดินกึ่งวิ่งขึ้นห้องนอนตัวเองไปทิ้งให้คนเป็นพี่ชายอย่างมาเฟียหนุ่มมองตามหลังด้วยความอ่อนใจ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พันธะร้ายขังรัก   บทที่ 19 ปีศาจร้าย

    "หยก..เธอไปอยู่ที่ไหนกัน" อลินดายังคงนอนนิ่งอยู่บนโซฟาแม้มาเฟียหนุ่มกับลูกน้องจะออกจากห้องไปหมดแล้วก็ตามเรื่องที่ได้รู้มันทำให้เธอหมดเรี่ยวแรงจริง ๆ เพราะโยษิตาเป็นเสมือนหัวใจของเธอ ทว่าตอนนี้หัวใจดวงนั้นกลับหายไปแล้วโดยที่เธอไม่รู้เลยว่าหายไปไหน น้ำสีใสยังคงรินไหลออกจากดวงตาคมไม่หยุด ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่เธอนอนร้องไห้อยู่แบบนั้นกระทั่งตระหนักได้ว่าเธอไม่ควรปล่อยให้ตัวเองอ่อนแอแบบนี้สู้เอาเวลาไปสืบเสาะว่าแฟนสาวอยู่ที่ไหนดีกว่าคิดได้ดังนั้นก็ดีดตัวลุกขึ้นยืน ใช้มือเช็ดน้ำตาออกจนแห้ง ก่อนจะเดินเข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ แล้วก็ออกมาแต่งหน้าแต่งตัว จากนั้นจึงเดินทางออกจากคอนโดตรงไปสนามบินทันทีเพื่อสืบหาว่าโยษิตาบินไปประเทศไหน โดยเธอไม่รู้เลยว่าทุกย่างก้าวของตัวเองมีคนของมาเฟียหนุ่มแอบติดตามเมื่อมาถึงสนามบินเธอก็ใช้เส้นสายของผู้เป็นพ่อขอดูข้อมูลการเดินทางเข้าออกของสนามบิน ทว่าเธอกลับต้องผิดหวังเพราะข้อมูลการเดินทางออกนอกประเทศไม่มีชื่อแฟนสาวเลยสักไฟล์อดทำให้คิดไม่ได้ว่ามาเฟียหนุ่มพูดโกหก ความจริงแล้วแฟนสาวอาจยังอยู่ในประเทศไทย"คนเลว! คุณหลอกฉัน" เธอสบถออกมาด้วยความโกรธมือทั้งสองกำ

  • พันธะร้ายขังรัก   บทที่ 18 ลองชุดแต่งงาน2

    วันต่อมา…กริ่ง กริ่ง~เสียงกริ่งดังสนั่นไปทั่วห้องนอนสี่เหลี่ยมปลุกให้อลินดาเจ้าของห้องที่นอนหลับอยู่บนเตียงใหญ่สะดุ้งลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ“โอ๊ย! ใครมาตั้งแต่เช้าเนี่ย” เธอสบถออกมาอย่างอารมณ์เสียพร้อมกับหยัดกายลุกขึ้นนั่ง ใช้มือยีผมแรง ๆ จนยุ่งเหยิง ก่อนจะพาตัวลงจากเตียงเดินตรงไปที่ประตูด้วยความไม่พอใจหมายมั่นปั้นมือไว้อย่างแรงว่าหากคนที่มากดกริ่งปลุกมีเรื่องไม่สำคัญพอเธอจะด่าเข้าให้โทษฐานที่มากวนเวลานอนแกร็ก!วินาทีที่เปิดประตูออกไปเธอก็ต้องตาเบิกกว้างด้วยความตกใจเพราะคนที่ยืนอยู่หน้าห้องคือผู้ชายสารเลว และด้านหลังของเขามีลูกน้องสองคนยืนประกอบอยู่ในมือถือถุงใส่ชุดแต่งงานไม่ต่ำกว่าห้าชุด เธออุตส่าห์หนีมาอยู่ที่คอนโดแล้วเขาก็ยังพาชุดแต่งงานตามมาอีกเหรอแต่แล้วยังไงเธอจะไม่ยอมทำตามที่เขาต้องการเด็ดขาด คิดได้ดังนั้นก็รีบผลักประตูให้ปิดลง ทว่าเหมือนอีกคนจะเร็วกว่าเพราะเขาดันใช้เท้าดักไว้ก่อนที่ประตูจะปิดลง จากนั้นก็ใช้มือผลักประตูให้เปิดกว้างแล้วเดินเข้าไปด้านในอย่างหน้าตาเฉย ตามด้วยลูกน้องอีกสองคน“พวกคุณออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้นะ” เธอรีบวิ่งไปขวางร่างสูงเอาไว้พร้อมกับไล่ตะเพิ

  • พันธะร้ายขังรัก   บทที่ 17 ลองชุดแต่งงาน1

    “แด๊ดดี๊กับมามี๊รู้จักเขาดีแล้วเหรอคะถึงยอมให้อลินแต่งงานกับเขาง่าย ๆ บางทีเขาอาจจะเป็นคนไม่ดีก็ได้นะคะ อีกอย่างอลินก็ไม่ได้รักเขาเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นความผิดพลาด และเรื่องแบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติมากนะคะในสมัยนี้” ทันทีที่มาเฟียหนุ่มจากไปอลินดาก็รีบเดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งบนโซฟาที่เขาเคยนั่งแล้วพูดคุยกับพ่อแม่ พยายามหาเหตุผลต่าง ๆ มาอ้างหวังว่าจะเปลี่ยนความคิดพวกท่านได้“รู้จักสิ” ภาคินตอบเสียงเรียบสายตาจับจ้องหน้าบุตรสาวนิ่ง ๆ “แทนไทเป็นลูกมาคัล แอคคาร์โดผู้ทรงอิทธิพลทางธุรกิจของไทยเพียบพร้อมทั้งครอบครัว ฐานะ การศึกษา และหน้าตาดี แล้วมีตรงไหนที่ไม่ดี หรือไม่เหมาะสมกับลูก” “อลินหมายถึงนิสัยค่ะแด๊ดดี๊” อลินดามองหน้าผู้เป็นพ่ออย่างอ่อนใจ“ยังไงลูกก็ต้องแต่งงานกับเขา ไม่มีข้ออ้างอะไรทั้งสิ้นเพราะแด๊ดได้ตกลงไปแล้ว” ภาคินยังคงยืนยันคำเดิมเพราะเขาต้องการให้บุตรสาวเลิกคบผู้หญิงด้วยกัน ว่าจบก็ลุกเดินขึ้นห้องไปทันทีไม่ฟังเสียงทักท้วงของบุตรสาวที่ดังตามหลังมาสักนิด“มามี๊ช่วยอลินด้วยนะคะ อลินไม่อยากแต่งงานกับเขา มามี๊ช่วยไปพูดกับแด๊ดดี๊ให้หน่อยนะคะ” เมื่อพูดเปลี่ยนใจผู้เป็นพ่อไม่สำเร็

  • พันธะร้ายขังรัก   บทที่ 16 มัดมือชก2

    ในประเทศไทยคงจะมีแค่ครอบครัวมาคัลที่ใช้นามสกุลนี้ ซึ่งเขาก็เคยพบเจอมามาคัลบ่อย ๆ ในงานสังสรรค์ต่าง ๆ เพราะอยู่ในแวดวงธุรกิจเหมือนกัน และยังรู้ว่ามาคัลมีบุตรชายกับบุตรสาวชื่อแทนไทกับโยษิตา เขารู้จักโยษิตาบุตรสาวคนเล็กของมาคัลเพราะเธอเป็นเพื่อนกับบุตรสาวของเขา เคยไปมาหาสู่บุตรสาวที่บ้านบ่อย ๆ เมื่อก่อนเขาคิดว่าทั้งสองเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้เขาบังเอิญเห็นทั้งสองแสดงความรักต่อกันเกินคำว่าเพื่อนจึงนึกสงสัยเลยแอบตามดูพฤติกรรมทั้งสองห่าง ๆ จนได้รู้ความจริงบางอย่าง ส่วนแทนไทบุตรชายคนโตของมาคัลเขาเพิ่งเคยเห็นครั้งนี้เป็นครั้งแรกเพราะชายหนุ่มไม่เคยไปออกงาน หรือปรากฏตัวที่ไหนเลยการที่ชายหนุ่มปรากฏกายที่บ้านในวันนี้ทำให้เขาสงสัย และแปลกใจเป็นอย่างมาก ยิ่งได้เห็นสีหน้าท่าทางแปลก ๆ ของบุตรสาวตอนคุยกับชายหนุ่มเมื่อกี้ก็ยิ่งทำให้สงสัยเข้าไปอีกรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ “ครับ วันนี้ผมมีเรื่องจะมาคุยกับท่านทั้งสองครับ” มาเฟียหนุ่มยิ้มรับคำพูดภาคินเล็กน้อย จากนั้นก็พูดเข้าเรื่องทันทีพร้อมกับหย่อนก้นนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้ามผู้ใหญ่ทั้งสอง ทิ้งให้อีกคนยืนเคว้งอยู่คนเดียวเพราะทำอะไรไม่

  • พันธะร้ายขังรัก   บทที่ 15 มัดมือชก1

    หัวใจดวงน้อย ๆ ของอลินดากระหน่ำเต้นขึ้นมาฉับพลันในตอนที่รถคันหรูเคลื่อนตัวเข้าสู่รั้วบ้านของเธอ รีบหันไปถามร่างสูงข้าง ๆ ด้วยน้ำเสียงร้อนรน “คุณมาบ้านฉันทำไม คิดจะทำอะไรบอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะ”“หึ” คนถูกถามหันไปแสยะยิ้มร้ายมุมปากให้หญิงสาวแทนคำตอบ ก่อนจะเบี่ยงหน้ามองออกไปนอกกระจกเหมือนเดิม กระทั่งรถจอดสนิทลงหน้าบ้านหญิงสาวจึงหันกลับไปออกคำสั่งกับร่างบางข้าง ๆ “ลงไปสิถึงบ้านเธอแล้ว”“คุณมีแผนอะไรกันแน่ คงไม่ใช่ใจดีมาส่งฉันที่บ้านอย่างเดียวใช่ไหม” อลินดาเลิกคิ้วขึ้นมองใบหน้าคมคายอย่างหวาดระแวงเพราะเธอไม่เชื่อสักนิดว่าเขาจะใจดีมาส่งเธอแค่อย่างเดียว แต่กลับได้รับความเงียบแทนคำตอบ หนำซ้ำเขายังจ้องหน้าเธอด้วยสายตาของคนที่เหนือกว่ายิ่งทำให้เธอไม่ไว้ใจเข้าไปอีก พยายามอ่านสายตาของเขาแต่ก็ไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลยมาเฟียหนุ่มมองสบสายตาหญิงสาวนิ่ง ๆ นานนับนาที ก่อนจะเป็นฝ่ายเปิดประตูลงจาจรถไปเมื่อเธอยังคงนั่งนิ่งไม่ยอมลงสักทีทำให้อลินดาต้องรีบเปิดประตูลงตามไป แล้วรีบวิ่งไปยืนขวางหน้าร่างสูงที่ทำท่าจะเดินเข้าไปในบ้านของเธอ “คุณจะไปไหน”“…”มาเฟียหนุ่มไม่ตอบเหมือนเดิมเลือกจะเดินเลี่ยงเธอไปอีกทาง ซึ่

  • พันธะร้ายขังรัก   บทที่ 14 จัดการขั้นเด็ดขาด2

    วันต่อมา…หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน วันนี้อลินดาก็ตัดสินใจว่าจะไปเฝ้าดูลาดเลาแถว ๆ หน้าบ้านแฟนสาวก่อนเผื่อจะมีโอกาสเข้าไป ให้เธอทนอยู่โดยไม่รู้เรื่องราวของแฟนสาวเลยเธอก็อยู่ไม่เป็นสุขใจมันพะหว้าพะวงตลอดเวลา โดยเธอได้กลับไปยืมรถของน้องชายที่บ้านแล้วขับไปยังบ้านแฟนสาวเพราะหากขับรถของตัวเองไปก็เกรงว่ามาเฟียหนุ่ม และคนอื่น ๆ ในบ้านนั้นจะจำได้เธอนั่งดูลาดเลาอยู่ภายในรถบริเวณริมกำแพงบ้านแฟนสาว ทว่าผ่านไปชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่าก็ไม่มีวี่แววว่าคนในบ้านหลังนี้จะออกไปไหนเลย“บ้าเอ๊ย! ใจคอไม่คิดจะออกไปไหนกันเลยเหรอ” เธอสบถออกมาอย่างหัวเสียพร้อมกับยกมือขึ้นยีผมแรง ๆ จนยุ่งเหยิงเพื่อระบายความหงุดหงิดที่เกิดขึ้น เธอเป็นคนประเภทที่ไม่ชอบรออะไรนาน ๆ ด้วยสิ ในวินาทีที่เธอตัดสินใจจะกลับก็มีรถลีมูซีนแล่นออกมาจากบ้าน เธอพยายามใช้สายตาเพ่งมองผ่านกระจกมืดเข้าไปก็เห็นว่าเป็นมาเฟียหนุ่มกับพ่อของเขานี่แหละเป็นโอกาสดีของเธอที่จะเข้าไปหาแฟนสาว ทันทีที่รถลีมูซีนแล่นออกไปไกลเธอก็รีบขับรถเข้าไปยังบ้านแฟนสาวด้วยความเร็วหัวใจของเธออดสั่นไหวไม่ได้ในตอนที่จอดรถลงหน้าบ้านแฟนสาว แล้วเห็นชายใส่ชุดสูทสีดำหน้าตาดุดันเดินต

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status