LOGIN“นั่งก่อนสิ...หนู” ธันวาชี้ไปที่เก้าอี้คนไข้ แล้วเดินไปที่ตู้เก็บอุปกรณ์ทางการแพทย์ เขาหยิบยาปรับฮอร์โมนออกมาพร้อมกับถ้วยอนามัยแบบซิลิโคนสีชมพูอ่อนที่บรรจุอยู่ในซองพลาสติกใส
“นี่คือยาปรับฮอร์โมน หนูทานตามที่เขียนเอาไว้ให้ตามนี้เลยนะ” ธันวาอธิบายถึงวิธีทานยาอย่างละเอียด พลางยื่นถ้วยอนามัยให้เธอ
“ส่วนนี่คือผ้าอนามัยแบบถ้วย หรือที่เราเรียกว่า menstrual cup”
ขวัญรวินทร์มองด้วยความสงสัย ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“หนูไม่กล้าใช้หรอกค่ะ...อาหมอ ใหญ่ขนาดนี้” ธันวายิ้มเล็กน้อยก่อนจะอธิบายให้เด็กสาวฟัง
“แต่มันเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่มีประจำเดือนครั้งละมาก ๆ อย่างหนูนะ ช่วงนี้หนูมีกิจกรรมรับน้องที่มหาลัยด้วยไม่ใช่เหรอ อาหมอเห็นว่ามันใส่แล้วคล่องตัวดี แล้วก็สามารถใช้ซ้ำได้อีก ทำความสะอาดก็ง่าย” นายแพทย์หนุ่มพยายามอธิบายอย่างใจเย็น พลางแกะซองพลาสติกแล้วโชว์ให้เธอดู
ขวัญรวินทร์มองถ้วยซิลิโคนที่อยู่ในมือของธันวาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
“ใส่เข้าไปมันไม่อึดอัดแย่เหรอคะ”
“ไม่หรอก...ก่อนที่หนูจะใส่เข้าไป...ก็ต้องพับให้มันเป็นรูปตัวซีแบบนี้เสียก่อน แล้วก็ค่อยๆ สอดเข้าไป” เขาอธิบายอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ขวัญรวินทร์พยักหน้าหงึกๆ แต่แววตายังคงฉายแววความกังวล
“หนู!!!… หนู เอ่อ หนูไม่กล้าใส่จริง ๆ อะค่ะ” เด็กสาวเอ่ยขึ้นด้วยความไม่มั่นใจ
ธันวาชะงักไปชั่วครู่ ดวงตาคมกริบสบเข้ากับดวงตาคู่สวยที่เต็มไปด้วยความไร้เดียงสา ความปรารถนาที่จะช่วยเหลือผสมผสานกับแรงดึงดูดบางอย่างที่เขาไม่อาจปฏิเสธได้...เริ่มก่อตัวขึ้นในอก
“มันไม่ได้อันตราย แล้วก็ไม่เจ็บปวดอะไรอย่างที่หนูกังวลหรอก…” ธันวาเอ่ยปลอบโยนอีกครั้ง น้ำเสียงทุ้มนุ่ม
ขวัญรวินทร์เงียบไปครู่หนึ่ง ใบหน้าหวานแดงระเรื่อด้วยความอายและความประหม่า แต่แววตากลับสั่นไหวด้วยความไม่แน่ใจและความต้องการที่จะเชื่อในคำพูดของเขา
“จริงเหรอคะ” เสียงของเธอแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน ราวกับกระซิบถามกับตัวเอง
“จริงสิครับ...ถ้าหนูตรวจเสร็จแล้ว เดี๋ยวอาหมอลองใส่ให้เลย...เอามั้ย!!!” ธันวาเสนอ แววตาของเขายังคงเปี่ยมด้วยความอ่อนโยนและห่วงใย แต่ลึกๆ ลงไปในดวงตาคมกริบนั้น กลับมีประกายบางอย่างที่ยากจะอ่านออก มันคือความปรารถนาที่เขากำลังเก็บงำไว้ภายใต้ท่าทีที่สุขุม
ขวัญรวินทร์ลังเล เธออายที่จะต้องเผยเรือนกายให้ชายตรงหน้าได้เห็นอีกครั้ง แต่เมื่อสบเข้ากับดวงตาที่อ่อนโยนและเปี่ยมด้วยความเอาอกเอาใจของธันวา หัวใจของเธอก็สั่นไหวอย่างรุนแรง เธอหลงรักความอ่อนโยนและความเอาอกเอาใจของเขาอย่างถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว
ธันวาคือผู้ชายที่เข้ามาในชีวิตเธอในยามที่เธออ่อนแอที่สุด และมอบความอบอุ่นที่เธอโหยหามาตลอดตั้งแต่ผู้เป็นบิดาจากไป ในวินาทีนั้น ความอายทั้งหมดดูเหมือนจะเลือนหายไปในอากาศ ความต้องการที่จะพึ่งพิงและมีเขาอยู่ใกล้ๆ มันครอบงำจิตใจของเธอไปอย่างสิ้นเชิง
“จะดีเหรอคะ..อาหมอ หนูเขินอะ” เธอถามกลับไปอย่างเขินอายใบหน้าแดงระเรื่อ แต่ในน้ำเสียงนั้นกลับเจือไปด้วยความยินยอม ธันวายิ้มเล็กน้อย เป็นรอยยิ้มที่ทำให้ขวัญรวินทร์รู้สึกอบอุ่น
“หนูจะเขินทำไม ไม่ต้องเขินนะครับ เดี๋ยวตอนตรวจอาหมอก็ปิดม่านกั้นให้อยู่แล้ว” เขาใช้คำพูดที่ฟังดูมีเหตุผล แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันคือวิธีหว่านล้อมให้เธอเปิดใจและเปิดกายให้เขาได้เข้าใกล้มากกว่าเดิม ขวัญรวินทร์สูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ
“งั้นก็ได้ค่ะ” คำตอบนั้นเบาเสียจนแทบไม่ได้ยิน แต่สำหรับธันวาแล้ว มันคือคำอนุญาตที่เขาเฝ้ารอ...คำอนุญาตที่จะได้สัมผัสเรือนร่างที่น่าทะนุถนอมนั้นอีกครั้ง.
แสงไฟสลัวในห้องตรวจสาดส่องลงบนเตียงขาหยั่งสีขาวสะอาดตา ขวัญรวินทร์ ค่อยๆ ขยับตัวขึ้นนอนบนนั้นอย่างเงอะงะ หัวใจเต้นรัวระส่ำด้วยความประหม่า ดวงตากลมโตคู่สวยจับจ้องไปยังใบหน้าของ นายแพทย์ธันวา ที่ยืนอยู่ตรงหน้า ก่อนจะค่อย ๆ เลื่อนผ้าม่านมากั้นเอาไว้ เพื่อกั้นความรู้สึกหลากหลายปะปนกันอยู่ในแววตาของทั้งสอง
นายแพทย์หนุ่มพยายามรวบรวมสติและจรรยาบรรณแพทย์ไว้ให้มั่นคงที่สุด แต่ภาพของเรือนกายขาวอวบที่นอนอยู่เบื้องหน้าในชุดนักศึกษาที่เผยให้เห็นเรียวขาขาวเนียนและส่วนโค้งเว้าของร่างกายก็ปลุกเร้าความปรารถนาที่ซ่อนลึกอยู่ในใจให้ปั่นป่วน
“อาหมอขออนุญาตนะครับ” ธันวาเอ่ยเสียงทุ้มนุ่ม พลางสวมถุงมือยางอย่างคล่องแคล่ว ทุกการเคลื่อนไหวของเขานุ่มนวลและช้าลงอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาคมกริบของเขาแอบลุกขึ้นมองใบหน้าสวยหวานของขวัญรวินทร์ที่กำลังหลับตาพริ้มด้วยความเคลิบเคลิ้ม เธอกัดริมฝีปากแน่นด้วยความประหม่า
ธันวาเอื้อมมือไปสัมผัสขอบกางเกงชั้นในลายการ์ตูนสีหวานน่ารักของเธออย่างแผ่วเบา ปลายนิ้วเกี่ยวรั้งลงไปเล็กน้อย ทันใดนั้นเสียงของเด็กสาวก็รีบร้องห้ามขึ้นเสียก่อน!
“อาหมอคะ!!!...หนูลืมไปเลยว่ามันเลอะมาก!!! หนู!!!...หนูขอไปทำความสะอาดก่อนได้ไหมคะ” เสียงของขวัญรวินทร์สั่นระริกด้วยความอับอาย ใบหน้าหวานแดงระเรื่อ..เมื่อตระหนักว่าตัวเองลืมแม้แต่การเปลี่ยนกระโปรงเพื่อขึ้นขาหยั่ง
“ไม่ต้องหรอกขวัญรวินทร์!!!” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นพร้อมเรียกชื่อจริงของเธอ ราวกับพยายามดึงตัวเองกลับสู่บทบาทของอาจารย์หมอ เขาพยายามสร้างระยะห่างระหว่างตัวเองกับเด็กสาวตรงหน้าที่เป็นทั้งลูกศิษย์และคนคุ้นเคย เพราะรู้ดีว่าหากปล่อยให้ความรู้สึกเลยเถิดไปมากกว่านี้ มันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ และการเรียกชื่อเธออย่างเป็นทางการ เหมือนตอนที่ขวัญรวินทร์อยู่ในชั้นเรียน อาจช่วยย้ำเตือนขอบเขตที่เขากำลังจะก้าวล่วงไปก็เป็นได้
ขวัญรวินทร์ขยับตัวลุกขึ้นมองธันวา ใบหน้าของเธอยังคงแดงซ่านด้วยความเขินอาย แต่ในใจกลับสั่นไหว ทุกสัมผัสของเขาทำให้หัวใจเธอเต้นรัว เขาเป็นอาจารย์หมอ ผู้ที่สาว ๆ ค่อนคณะหมายปอง และขวัญรวินทร์ก็เป็นหนึ่งในนั้น ถึงแม้ว่าเธอจะคบหาอยู่กับภูริช แต่ความรู้สึกก็ยังคงเป็นเพื่อนกันอยู่ ไม่ได้มีอะไรเกินเลย เพราะเธอเองแอบหลงรักธันวามาตั้งแต่เด็กๆ ตั้งแต่ที่เธอยังเป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่วิ่งเล่นในคลินิกของพ่อ และมักจะเห็นธันวา หนุ่มรุ่นน้องของผู้เป็นบิดา ที่รูปหล่อและใจดีมาให้คุณพ่อของเธอช่วยติววิชายาก ๆ ให้หลายครั้งหลายคราก่อนที่เขาจะสอบติดแพทย์
สำหรับขวัญรวินทร์ ธันวาไม่ใช่แค่ 'อาจารย์' แต่เป็นดั่ง 'ป๊อปปี้เลิฟ' ในวัยเยาว์ที่ฝังลึกอยู่ในความทรงจำเสมอมา ไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่ง เธอจะได้อยู่ใกล้ชิดเขามากขนาดนี้ ในสถานการณ์ที่เปราะบางและอ่อนไหวที่สุดในชีวิต ความรู้สึกเขินอายปะปนกับความอบอุ่นและความปรารถนาบางอย่างที่เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ
“เดี๋ยวอาหมอจะทำความสะอาดให้เธอเองนะ...ขวัญรวินทร์” เขาพูดกับเธออย่างใจเย็น ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบผ้าก๊อซและน้ำยาฆ่าเชื้อ
“อาหมอขา เราอยู่กันแค่สองคนเองนะคะ เรียกหนูซะห่างเหินเชียว” เสียงเล็กๆ ออดอ้อนปนน้อยใจ ดวงตากลมโตช้อนมองเขาอย่างตัดพ้อ ทำให้ธันวาใจอ่อนยวบ ความพยายามที่เขาจะคงบทบาทความเป็นอาจารย์เอาไว้พังทลายลงในพริบตา
ขวัญรวินทร์รู้ดีว่าก่อนหน้านี้ไม่มีใครล่วงรู้เลยว่าทั้งสองคนรู้จักกันมาก่อนหน้า เธอเป็นเพียงนักศึกษาแพทย์คนหนึ่งในสายตาของคนภายนอก และเขาคืออาจารย์หมอผู้ทรงเกียรติ แต่หลังจากคืนนั้น...คืนที่หัวใจของเธอถูกปลอบโยนในอ้อมกอดของเขา คืนที่ความอับอายและหวาดกลัวจางหายไปภายใต้สัมผัสที่อ่อนโยน เธอก็ไม่อยากเรียกเขาว่า 'อาจารย์' อีกต่อไปแล้ว คำว่า 'อาหมอ' ที่เธอใช้เรียกตั้งแต่เด็กๆ ดูจะอบอุ่นและใกล้ชิดกว่ามากนัก
หรือถ้าให้ดีกว่านี้...คงต้องเรียก 'ที่รัก' แล้วล่ะ! ความคิดนั้นผุดขึ้นมาในใจของขวัญรวินทร์ ทำให้ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง เธอหลุบตาลงเล็กน้อย พยายามซ่อนความรู้สึกที่เอ่อล้น แต่รอยยิ้มบางๆ ก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเธอ
ความไร้เดียงสาปนความกล้าหาญของเด็กสาวตรงหน้า ทำให้ธันวาถึงกับพูดไม่ออก หัวใจของนายแพทย์หนุ่มเต้นระรัวอย่างควบคุมไม่ได้ ความรู้สึกที่พยายามเก็บกดมาตลอดเวลากำลังปะทุขึ้นอย่างรุนแรง เขารู้สึกได้ถึงแรงดึงดูดที่ยากจะต้านทาน และตระหนักว่า กำแพงที่เขาสร้างขึ้นเพื่อกันตัวเองจากเธอได้พังทลายลงไปเสียแล้ว
ตอนที่ 15 ตรวจเสร็จต้องฉีดยา NCบนโซฟาในคลินิกที่เงียบสงัด เสียงหอบหายใจของธันวาและขวัญรวินทร์ผสานเข้ากับเสียงฝนที่ยังคงพร่างพรมอยู่ภายนอก ร่างกายของทั้งคู่กำลังเคลื่อนไหวเข้าหากันอย่างเร่าร้อน สัมผัสที่รุนแรงและลึกซึ้งทำให้ขวัญรวินทร์บิดเร้าด้วยความเสียวซ่านจนไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป“อาหมอขา ใกล้เสร็จหรือยังคะ” ขวัญรวินทร์ ถามเสียงพร่าหอบ ดวงตาคู่สวยปิดพริ้ม ใบหน้าหวานแดงซ่านไปทั่วทั้งการโดนสัมผัสจากริมฝีปากและเกิดจากความเสียวซ่านของเธอเองเธอกอดรัดแผ่นหลังของธันวาแน่นขึ้น พลางจิกเล็บลงไปอย่างแรง ร่างกายบอบบางของเธอบิดเร้าด้วยความเร่าร้อนที่ธันวากำลังมอบให้ ผิวเนื้อขาวนวลผ่องสะท้อนแสงไฟสลัวๆ ทั่วทั้งเนินอกอิ่ม เรือนร่างที่งดงามราวกับงานปั้น และลำคอระหงปรากฏร่องรอยแดงของการถูกดูดไปทั่ว บ่งบอกถึงแรงปรารถนาอันรุนแรงที่เพิ่งผ่านพ้นไป หน้าท้องแบนราบกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหอบหายใจถี่กระชั้น ยิ่งขับเน้นให้สะโพกผายได้รูปดูเย้ายวนยิ่งขึ้นไปอีกธันวามองภาพตรงหน้าด้วยความลุ่มหลง เขาก้มลงจูบซับร่องรอยที่เขาทิ้งไว้บนผิวเนื้อของเธออย่างแผ่วเบา แต่การกระทำของเขากลับเร่งเร้าความปรารถนาในตัวขวัญร
ตอนที่ 14 วินิจฉัยพลาดพิฆาตรูมือหนาลูบไล้ไปตามผิวกายเนียนนุ่มของขวัญรวินทร์อย่างแผ่วเบา สัมผัสที่อ่อนโยนแต่เต็มไปด้วยความร้อนแรงทำให้ขวัญรวินทร์บิดเร้าด้วยความเสียวซ่าน เธอจิกเล็บลงบนแผ่นหลังกว้างของธันวาด้วยความอัดอั้น ก่อนที่ทั้งคู่จะหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ท่ามกลางความเงียบงันของคลินิกยามวิกาล มีเพียงเสียงครางแผ่วเบาของขวัญรวินทร์ และเสียงหอบหายใจที่ถี่กระชั้นของธันวา ที่สะท้อนก้องอยู่ในห้องตรวจในขณะที่ธันวาใช้แท่งรักของตัวเองดันถ้วยอนามัยเข้าไปจนลึกสุด น้องชายของเขาก็สัมผัสกับความร้อนระอุภายในกายของเธอ ความคับแน่นที่เย้ายวนเชิญชวนให้เขาก้าวข้ามเส้นบางๆ ที่กั้นขวาง ธันวารู้สึกราวกับถูกสะกดด้วยมนต์เสน่ห์ของหญิงสาวตรงหน้า สติสัมปชัญญะของเขาเลือนหายไปชั่วขณะ มีเพียงความปรารถนาอันดิบเถื่อนที่เข้าครอบงำในความสลัวของห้องตรวจที่อบอวลไปด้วยกลิ่นคาวเลือดจางๆ และกลิ่นกายหอมอ่อนๆ ของเด็กสาว สัมผัสที่เกินเลยได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ธันวากำลังอยู่ในห้วงอารมณ์ที่ยากจะควบคุม เขาไม่สามารถรักษาท่าทีความเป็นหมอเอาไว้ได้“ของอาหมอ...ดันถ้วยอนามัยเข้าไปจนลึกสุดแล้ว หนูเจ็บมั้ย”“ไม่เจ็บค่ะ อาหมอทำแรงกว
ตอนที่ 13 เต็มใจให้หลอกเมื่อร่างของขวัญรวินทร์เกร็งกระตุกเฮือกสุดท้าย ธันวาก็ผละใบหน้าออกมาจากความฉ่ำหวานนั้น ปลายลิ้นลากไล้ขึ้นไปตามร่องกลีบสวาทที่บัดนี้บวมช้ำด้วยแรงปรารถนา สูดดมกลิ่นหอมหวลจากกายสาวอย่างลุ่มหลง ดวงตาคมกริบจ้องมองเข้าไปในดวงตาฉ่ำหวานที่ปรือปรอยของขวัญรวินทร์ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความห่วงใยผสมผสานกับความต้องการที่ยังไม่ดับมอดม่านกั้นสีขาวที่กั้นระหว่างเตียงตรวจถูกเปิดออกช้าๆ มันกำลังจะกลายเป็นประจักษ์พยานแห่งความปรารถนาที่ซ่อนเร้น ธันวาโน้มตัวลงไปโอบกอดร่างบอบบางของเธอแนบแน่น ดึงร่างเด็กสาวเข้ามาสู่กลางลำตัวที่ร้อนผ่าวของเขา ขวัญรวินทร์ซบหน้าเข้ากับแผงอกของอาจารย์หนุ่มอย่างอ่อนระทวย เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยในอ้อมกอดนี้อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ความเจ็บปวดทางกายและใจที่เคยกัดกินดูจะบรรเทาลงไปอย่างน่าอัศจรรย์“อาหมอรู้สาเหตุที่เลือดหนูไหลออกมาเยอะๆ แล้วล่ะ” ธันวา เอ่ยเสียงทุ้มต่ำ ปลายนิ้วของเขาค่อยๆ เอื้อมไปเกลี่ยเส้นผมที่ปรกใบหน้าของเธอออกอย่างแผ่วเบา สัมผัสที่ผิวเนื้อทำให้หัวใจของธันวากระตุกวูบขวัญรวินทร์เม้มปากแน่น ใบหน้าหวานแดงก่ำด้วยความอายและความสับสน เธอพยาย
ตอนที่ 12 วิธีรักษาของอาหมอปลายนิ้วเรียวสัมผัสกับเนื้อผ้าบางเบาของกางเกงชั้นในลายการ์ตูนสีหวานน่ารักอีกครั้ง ผิวเนื้ออุ่นร้อนที่ซ่อนอยู่ภายใน ทำให้หัวใจของธันวาเต้นรัวอย่างรุนแรง ความปรารถนาที่ถูกกดทับมานานกำลังปะทุขึ้น และยากที่จะควบคุม มือของเขาค่อยๆ สอดเข้าไปใต้ขอบผ้า คลี่คลายสิ่งที่ปกปิดเรือนกายสาวออกอย่างช้าๆ“ให้หนูไปทำความสะอาดเองเถอะค่ะอาหมอ...มันสกปรกจริงๆ นะคะ นะคะอาหมอ” ขวัญรวินทร์อ้อนวอนอีกครั้ง เสียงของเธอแผ่วเบาราวกระซิบ เธอพยายามขยับสะโพกหลบ แต่ก็ไม่สำเร็จ“หนูไม่ต้องอาย...อาหมอนะครับ” ธันวาปลอบโยนเหมือนรู้ใจเด็กสาว เสียงของเขาแหบพร่ากว่าปกติเล็กน้อย เมื่อกางเกงชั้นในถูกถอดออกอย่างสมบูรณ์ ภาพของกลีบกุหลาบงามที่เปรอะเปื้อนคราบเลือดก็ปรากฏสู่สายตา ช่างน่าปรารถนาและน่าทะนุถนอมไปพร้อม ๆ กัน“เดี๋ยวอาหมอจะทำความสะอาดให้เองนะครับ..” คำพูดนั้นหลุดออกจากริมฝีปากของธันวาโดยไม่ตั้งใจ เขาเอื้อมมือไปสัมผัสกลีบกุหลาบเบาๆ แผ่วเบาราวกับกลัวว่ามันจะแตกสลาย เลือดที่ซึมออกมาเล็กน้อยยิ่งขับเน้นให้กลีบแคมอวบอิ่มดูช้ำและน่าสงสารเด็กสาวนอนหันหน้าไปอีกฝากหนึ่ง ไม่อยากคิดเลยว่า เขาจะรู้สึกเช
ตอนที่ 11 หนูเขินนะคะ“นั่งก่อนสิ...หนู” ธันวาชี้ไปที่เก้าอี้คนไข้ แล้วเดินไปที่ตู้เก็บอุปกรณ์ทางการแพทย์ เขาหยิบยาปรับฮอร์โมนออกมาพร้อมกับถ้วยอนามัยแบบซิลิโคนสีชมพูอ่อนที่บรรจุอยู่ในซองพลาสติกใส“นี่คือยาปรับฮอร์โมน หนูทานตามที่เขียนเอาไว้ให้ตามนี้เลยนะ” ธันวาอธิบายถึงวิธีทานยาอย่างละเอียด พลางยื่นถ้วยอนามัยให้เธอ“ส่วนนี่คือผ้าอนามัยแบบถ้วย หรือที่เราเรียกว่า menstrual cup”ขวัญรวินทร์มองด้วยความสงสัย ก่อนจะเอ่ยขึ้น“หนูไม่กล้าใช้หรอกค่ะ...อาหมอ ใหญ่ขนาดนี้” ธันวายิ้มเล็กน้อยก่อนจะอธิบายให้เด็กสาวฟัง“แต่มันเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่มีประจำเดือนครั้งละมาก ๆ อย่างหนูนะ ช่วงนี้หนูมีกิจกรรมรับน้องที่มหาลัยด้วยไม่ใช่เหรอ อาหมอเห็นว่ามันใส่แล้วคล่องตัวดี แล้วก็สามารถใช้ซ้ำได้อีก ทำความสะอาดก็ง่าย” นายแพทย์หนุ่มพยายามอธิบายอย่างใจเย็น พลางแกะซองพลาสติกแล้วโชว์ให้เธอดูขวัญรวินทร์มองถ้วยซิลิโคนที่อยู่ในมือของธันวาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ“ใส่เข้าไปมันไม่อึดอัดแย่เหรอคะ”“ไม่หรอก...ก่อนที่หนูจะใส่เข้าไป...ก็ต้องพับให้มันเป็นรูปตัวซีแบบนี้เสียก่อน แล้วก็ค่อยๆ สอดเข้าไป” เขาอธิบายอย่างเป็นขั้นเป็
ตอนที่ 10 ผลข้างเคียงธันวาขับรถออกมาจากคฤหาสน์ที่เต็มไปด้วยความอึดอัดและคำพูดเชือดเฉือนจากคุณอรุณรัศมีมารดาของกานต์ชนกแฟนสาว โดยเขาอ้างเหตุผลเรื่องเคสผ่าคลอดฉุกเฉิน ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นเพียงข้ออ้างที่เขาใช้หลบหนีจากความอึดอัดที่ไม่อาจทนอยู่ต่อได้ เสียงโทรศัพท์จากพยาบาลที่โทรมาเตือนเรื่องเคสกลางดึก เป็นเพียงการย้ำเตือนเท่านั้น ไม่ได้มีเคสเร่งด่วนถึงขนาดต้องรีบกลับอย่างที่เขาบอกรถหรูเคลื่อนตัวไปตามท้องถนนที่เริ่มคึกคักขึ้นเรื่อย ๆ ยามค่ำคืน แสงไฟจากป้ายโฆษณาข้างทางสะท้อนเข้ามาในรถเป็นระยะ หัวใจยังคงเต็มไปด้วยความขุ่นมัวจากคำพูดของคุณอรุณรัศมีที่ตอกย้ำถึงความไม่คู่ควรของเขากับลูกสาวของเธอธันวากำพวงมาลัยแน่นขณะรถเคลื่อนไปตามถนนที่เริ่มเงียบสงัดในยามดึก เขายังคงรู้สึกถึงแรงกดดันจากบทสนทนาที่โต๊ะอาหาร แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ดึงเขาออกจากห้วงความคิด ธันวาเหลือบมองหน้าจอ เป็นสายจากวนิดา พยาบาลหน้าห้องตรวจของเขาเอง“สวัสดีค่ะ...หมอธัน...เมื่อสักครู่” เสียงวนิดาฟังดูลังเลในตอนแรก ก่อนจะเอ่ยต่อ“คือดาจะโทรมาสอบถามน่ะค่ะ” ธันวาอมยิ้มเล็กน้อย เขารู้ทันทีว่าวนิดากำลังสงสัยเรื่องอะไร“อ๋อ...







