บทที่ 9
หลินหลินกลับมาที่บ้านในตอนเช้าเห็นลูกชายตัวเล็กซึ่งหลายวันที่เขาไม่ได้เห็นน้องณธีเลยมีแต่พี่เลี้ยงอยู่ดูแล ตัวเธอละเลยความเป็นแม่ขนาดนี้เลยเหรอ เธอทิ้งทุกอย่างและก้าวเดินตรงไปหาลูกชายวัยสองขวบที่นั่งทานข้าวบนโต๊ะอาหารสำหรับเด็ก พี่เลี้ยงที่ป้อนข้าวอยู่นั้นขยับออก
"คุณผู้หญิง" หลินหลินพยักหน้าให้กับพี่เลี้ยงและรับถ้วยข้าวมา เพื่อที่จะป้อนข้าวลูกชายเองเด็กชายตัวเล็กวัยสองขวบกำลังหัดพูดยิ้มหวานให้ผู้เป็นแม่ด้วยความเป็นเด็กดีใจมากที่แม่ของตัวเองนั้นมาหา
"หม่ามี๊ รักมี๊ คิดถึง" ในดวงตาคู่น้อยน้ำตาเอ่อล้นหลินหลินละเลยความเป็นแม่ให้แต่พี่เลี้ยงดูแลจนตัวเองนั้นไม่เคยได้เข้าใกล้ลูก เมื่อได้ฟังคำพูดของลูกบอกว่าคิดถึงมันรู้สึกจุกอกและพูดอะไรไม่ออกนอกจากน้ำตาที่ไหลออกมา
"ฮึ๊บ มี๊ก็คิดถึงลูกมากๆ เลยนะ รู้ไหมมี๊จะไม่ไปไหน วันนี้หม่ามี๊จะอยู่ดูแลน้องณธีและเล่นกับน้องณธีนะลูก" มือของหลินหลินสั่นมากเธอยกมือลูบหัวของลูกชายและยิ้มทั้งน้ำตาเด็กชายตัวเล็กยิ้มหวานให้กับผู้เป็นแม่และจับมือตอบ
"รักมี๊สุดๆ" ถ้วยข้าวในมือนั้นปกติแล้วพี่เลี้ยงบอกว่าน้องณธีจะกินไม่หมดแต่ในครั้งนี้เขากลับกินข้าวในถ้วยหมดจนไม่เหลือน่าจะเป็นเพราะความดีใจที่แม่ของเขาอยู่ด้วยและเป็นคนป้อนข้าวเอง
ในช่วงสายหลินหลินป้อนข้าวลูกชายเสร็จจึงนอนเล่นกับลูกชายในห้องนั่งเล่น จนกระทั่งเธอพาลูกชายขึ้นไปอาบน้ำ
มีแต่พี่เลี้ยงที่คอยดูแลจนไม่รู้ว่าการอาบน้ำให้ลูกเป็นยังไง แต่หลินหลินก็พร้อมที่จะปรับตัวและเป็นคุณแม่ที่ดีเธอบอกให้พี่เลี้ยงเป็นคนสอนจนกระทั่งอาบน้ำให้ลูกเสร็จ น้องณธีเป็นเด็กที่ฉลาดพูดเร็วและบอกง่าย
"มี๊ขอดมหัวหน่อยสิ หอมไหมนะ" เธออุ้มลูกชายวางไว้บนเตียงนอนและใช้ผ้าเช็ดหัวเช็ดผมให้กับลูกชายเบาๆ น้องณธีกับธารามซึ่งหน้าคล้ายกันดั่งกับฝาแฝด หลินหลินเธอยิ้มให้กับลูกชายยิ่งเช็ดผมให้กับเขาดูแลเขาเอาใจใส่เขายิ่งรู้สึกมีความสุขมันผ่อนคลายความเครียดและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้มาก
"หม่ามี๊ไม่ไปไหนนะ" ด้วยความเป็นเด็กอยู่บ้านเดียวกับพ่อและแม่แต่ต้องอยู่กับเพียงแค่พี่เลี้ยงหลินหลินเธอเห็นลูกที่มองตัวเองและส่ายหน้าไปมากลัวว่าเธอจะหนี ยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิดทำไมถึงละเลยลูกได้ขนาดนี้เป็นเพราะว่าแสงสีความสนุกใช้ชีวิตใช้แต่เงินจึงไม่หันมองคนใกล้ตัวเหตุผลนี้คงทำให้สามีเธอนั้นโกรธด้วยจึงกลายเป็นความเจ็บปวดที่เขาเลิกรักเธอ
"ไม่ไปไหนครับ...มี๊ไม่ไปไหนจะอยู่กับลูกชายครับ" ประตูห้องเปิดเข้ามาในช่วง 13 :00 น .ปกติแล้วเขาจะต้องกลับบ้านในตอนเย็น ธารามเดินเข้ามาในห้องด้วยใบหน้าเข้มขรึมดั่งกับคนไม่พอใจแต่พอเห็นหลินหลินกำลังกอดกับลูกชายหยอกล้อกัน
"ปะป๊า" เด็กชายตัวเล็กยิ้มกว้างมากกว่าเดิมเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อนั้นเข้ามาหา เขารีบลุกขึ้นทันทียกมือทั้งสองข้างเพื่อให้พ่ออุ้ม
"ว่ายังไงครับคนเก่งของป๊า ไหนขอป๊าหอมหน่อยสิลูก" ถึงแม้ว่าในสายตาของธารามมองมาที่หลินหลินแต่เขายังคงยิ้มและหัวเราะกับลูกชายธารามนั่งลงที่เตียงหยอกล้อกับลูกชาย หลินหลินยิ้มดีใจที่วันนี้ครอบครัวมีความสุขถึงแม้มันจะเป็นช่วงเวลาอันสั้นก็ตาม
"คุณคะวันนี้เราทำกับข้าวนั่งทานกับลูกกันไหม ช่วยกันทำเราจะได้ฝึกพัฒนาการของลูกด้วยไง" ธารามมองมาที่หลินหลินที่เอ่ยชวนตัวเองที่กำลังจะอ้าปากเตรียมที่เพื่อจะปฏิเสธแต่ลูกชายนั้นเอ่ยพูดขึ้นไม่พอยังจับแขนของเขาเขย่าใบหน้าที่ดีใจทำให้ธารามไม่สามารถปฏิเสธลูกชายตัวเล็กได้
"ปะป๊า...นะครับปะป๊าอยากทำ" มือหนาลูบหัวของลูกชายและพยักหน้า
"ได้สิครับถ้าอยากทำเดี๋ยวป๊าจะโชว์ฝีมือเอง เราไปกันเลยไหมป๊าหิวข้าวแล้ว" ธารามลุกขึ้นยื่นมือหาลูกชายทั้งสองข้างเพื่อโอบอุ้มเจ้าตัวเล็กนั้นออกจากห้อง
เมื่อลงมาด้านล่างธารามพาน้องณธีลูกชายตัวเล็กเข้ามาในครัวนั่งลงที่เก้าอี้ ส่วนหลินหลินที่ไม่เคยทำกับข้าวเลยได้เพียงแต่เปิดตู้เย็นแล้วเอาของออกมาล้าง
"คุณจะใช้อะไรบ้างคะ เดี๋ยวฉันจะได้เตรียมถูกคุณจะทำเมนูอะไร" หลินหลินนั่งยองๆ ลงเพราะว่าผักในตู้เย็นนั้นอยู่ชั้นล่าง เธอเอ่ยถามธารามโดยที่ไม่ได้หันมองส่วนคนตัวโตก็มองก้มลงซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทั้งคู่หันมองหน้ากันในระยะใกล้ชิด
"อุ๊ย...ปิดตา" เด็กชายตัวเล็กทำท่าทียกมือปิดตาทั้งสองข้างเสียงหัวเราะและคำพูดนั้นทำให้พ่อและแม่ของเขาถึงกับสะดุ้ง
"หลบ" น้ำเสียงห้วนๆ เอ่ยบอกให้เธอหลบและยังผลักไหล่ของหลินหลินออกการกระทำนั้นลูกชายไม่เห็นเพราะเขาหันมองแล้ว
"พูดดีๆ ก็ได้นี่คะ" หลินหลินจึงเอ่ยพูดบอกเขาที่มองมาด้วยสายตาที่ไม่พอใจในตัวเธอ
"คนแบบเธอสมควรที่จะให้ฉันพูดดีด้วยหรอก ถ้าไม่ติดว่าลูกอยู่ตรงนี้ ฉันคงไม่แม้แต่จะเข้าใกล้เธอด้วยซ้ำ" ยังดีนะที่มีลูกชายอยู่ตรงนี้ไม่อย่างนั้นธารามคงว่าให้มากกว่านี้อีกแต่ไม่เป็นไรความสัมพันธ์จะดีขึ้น ถ้าเกิดเรามีลูกเพราะยังไงณธีก็คือสายเลือดของเขาเเละเธอ
"วันนี้ป๊าจะผัดข้าวแล้วก็ต้มจืดให้กับน้องณธีนะลูก โอเคไหม" น้องณธีพยักหน้าให้กับผู้เป็นพ่อเขายิ้มนั่งรอที่เก้าอี้ไม่ดื้อไปไหนมองพ่อและแม่ทำกับข้าวให้กับตัวเอง
"หยิบหัวไชเท้าให้หน่อย" ธารามเอ่ยขึ้นเรียกให้หลินหลินนั้นหยิบหัวไชเท้าให้ตัวเองเพื่อที่จะต้มน้ำซุปแต่หลินหลินเธอไม่เคยทำกับข้าวเข้าครัวเลยสักครั้งจึงไม่รู้จักชนิดของผักสักเท่าไร เธอหันหน้ากลับมามองที่ธารามและเอ่ยถามเขา ซึ่งนิตาที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องครัวเห็นการกระทำของหลินหลินทำให้นิตาไม่พอใจจนเเสดงออกทางแววตาอย่างชัดเจน
"ฉันไม่รู้ว่าอันไหนอันนี้หรือเปล่าคะที่รัก" หลินหลินหยิบหัวไชเท้ายกขึ้นและเรียกธารามว่าที่รักซึ่งคิ้วหนาขมวดเข้าหากันไม่รู้ว่าหลินหลินกำลังเล่นอะไร
"ลูกกำลังมีความสุข ฉันอยากให้เขาเห็นเรารักกันขอสักวันนะคะ" หลินหลินขยับเข้าใกล้สามีกระซิบข้างหูเบาๆ สายตามองมายังนิตา
"ก็แค่วันนี้วันเดียวเท่านั้นแหละ" นั่นคือเสียงตอบกลับของธารามเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่านิตายืนมองอยู่คิดว่าหลินหลินภรรยาของเขาอยากให้ลูกมีความสุขเพราะพ่อแม่รักกัน
"ปะป๊ากับหม่ามี๊รักกัน" นิตากำหมัดเข้าหากันแน่จนตัวสั่นเธอเห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กนั่งอยู่ที่เก้าอี้บอกพ่อกับแม่รักกันและทั้งสองนั้นดูรักกันมากหัวเราะให้กับลูกจึงรีบเดินออกมา
"รักกันเหรอ ที่คุณรีบกลับมาบ้านคุณบอกว่ามีธุระรีบออกมาจากบริษัท คุณกลับมาหาภรรยาของคุณ คุณกลับมาหาอีหลินหลิน" นิตาเหมือนกับคนบ้ายืนเกร็งพร้อมกับมือทั้งสองข้างกำหมัดไว้ เธอกลับมาก่อนเวลาก็เพราะว่าอยากรู้ว่าธารามนั้นกลับมาที่บ้านหรือเปล่าและก็เป็นจริงอย่างที่เธอคิด
"ไม่มีวัน ฉันไม่มีวันให้คนรักของฉันไปรักเธอหลินหลิน เธอมันผู้หญิงที่เหลือแต่ตัวไม่เหลืออะไรแล้ว เธอไม่สมควรได้รับความรัก เธอไม่สมควรได้รับมันต้องเป็นฉันเท่านั้น จะต้องเป็นฉัน"
นิตารีบหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าสะพายและโทรหาใครบางคนก่อนที่จะขับรถออกจากบ้านไป
บทที่ 12เรือนร่างบางที่เปลือยเปล่าพยายามขัดขืนจนหมดแรงเธอนอนนิ่งน้ำตาไหลริน หลินหลินไม่ได้เสียใจที่จะมีอะไรกันกับสามมีแต่เธอเสียใจที่เขานั้นข่มเหงบังคับขืนใจให้มีอะไรด้วยจนร่างกายนั้นปวดร้าว"อ๊าส์~เธอบีบบังคับให้ฉันทำแบบนี้เองนะ" เสียงครวญครางของคนตัวโตที่กำลังสนุกกับยอดอกอวบอิ่มทั้งสองเต้ามือหนาบีบเคล้นขยำจนมันแทบแหลกราวกับลูกโป่งปากอันร้อนผ่าวดูดเม็ดหัวสีชมพูดั่งกับเม็ดบัวบนยอดอกสลับทั้งซ้ายและขวากัดขบฟันลงจนคนตัวเล็กนั้นสะดุ้ง"ฉันจะทำให้ถึงใจเธอเหมือนกับที่มันทำดีไหมล่ะ" ในใจรู้สึกโกรธมากที่ธารามทำแบบนั้นเธอหันมองหน้าเขาทั้งน้ำตา คนตัวโตไม่หยุดการกระทำอย่างแน่นอนเรียวปากน้อยถูกบดขยี้และถูกจับขาชันขึ้นเป็นรูปตัวเอ็มเรือนร่างบางนอนเปลือยกายอยู่บนเตียงชันขาตั้งท่ารอ เขาที่ปลดเสื้อผ้าออกและขึ้นไปนั่งอยู่ระหว่างขาของเธอแท่งเอ็นร้อนที่คุ้นเคยเล่นทำกิจกรรมอย่างมีความสุข แต่ตอนนี้กลายเป็นแท่งเอ็นร้อนอันใหญ่ที่แสนเจ็บปวด ปลายหัวแท่งเอ็นร้อนจ่อหน้าช่องสวาทเขากระแทกพรวดเดียวโดยที่ไม่สนใจว่าเธอจะเจ็บแค่ไหน"อ๊อย!"เรือนร่างบาง
บทที่ 11 "นายครับเรื่องที่นายให้ผมไปจัดการผมไปสืบมาแล้ว คุณเฉินลู่เป็นแฟนเก่าสมัยมัธยมของคุณหลินหลิน และในวันนั้นที่คุณเฉินลู่พาคุณหลินหลินออกไป ทางคุณหลินหลินสมยอมไม่ได้มีการอุ้มหรือฉุดกระชากไปโดยเด็ดขาด" ธารามกำหมัดและทุบลงที่โต๊ะทำงานของตัวเองลูกน้องที่เขาไว้ใจที่คอยให้สืบเรื่องนั้นรายงานว่าหลินหลินเต็มใจไปกับเฉินลู่ "เธอนี่มันร่านจริงๆ" "และยังมีเรื่องเมื่อสามปีก่อน ทั้งคู่เคยพากันเข้ารีสอร์ทนี่คือหลักฐานครับ" ธารามก้มมองภาพถ่ายที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งมีผู้หญิงและผู้ชายยืนกอดคอกันซึ่งด้านหลังเหมือนกับหลินหลินจริงๆ และมันเป็นภาพถ่ายตอนกลางคืนซึ่งมองไม่ชัดแฟนเก่าอย่างนั้นเหรอ แล้วนัดเจอกันเมื่อสามปีก่อนก็ต้องหลังจากที่แต่งงานเป็นปีแล้วทำไมหลินหลินถึงยังไปเจอแฟนเก่า"ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าผู้หญิงคนนี้จะทำกับฉันได้" ยิ่งทำให้ธารามโกรธมาก ลูกน้องคนนั้นยังไม่พูดไม่จบเขาเอ่ยพูดขึ้นอีก"คุณธาราม ถ้าผมจะพูดอะไรบางอย่างคุณจะโกรธผมไหม" ธารามเงยหน้ามองลูกน้องคนนั้น เขาไว้ใจในตัวลูกน้องคนนี้ระดับหนึ่ง แต่ไม่ถึงกับไว้ใจทุกอย่างในทุกๆ ครั้งที่ต้องการให้ลูกน้องคนนี้สืบหาความจริง เขามักจะโทรไม่ค่อยใ
บทที่ 10นิตาเธอนัดเจอยศที่ร้านอาหารซึ่งไม่เข้าไปในบ้านไม่อยากไปเจอผู้หญิงอีกคนที่เป็นภรรยาของยศเพราะทั้งสองคนไม่ถูกกัน"ที่อารมณ์เสียแบบนี้ยังจัดการไอ้ธารามไม่ได้ใช่ไหม วิธีง่ายๆ แค่นี้ทำไมแกถึง...." นิตาถอนหายใจและวางแก้วน้ำลง ธารามไม่ใช่ผู้ชายทั่วไปที่จะคว้าเอาผู้หญิงไม่เลือกหน้าซึ่งนิตารู้ดี"คุณพ่อคะ คุณธารามไม่ใช่คนแบบนั้น เขาไม่เอาผู้หญิงที่ไหนก็ได้มาทำเมียหรือว่าคว้าผู้หญิงข้างทางมาบำเรอร่างกาย เขาให้เกียรติผู้หญิงด้วยซ้ำ นิตาไม่อยากพูดถึงตรงนั้นตอนนี้ธารามมีใจให้กับหลินหลินหลานสาวของคุณพ่อนั่นแหละ" นิตาที่อยู่กับพ่อตัวเองแตกต่างจากนิตาที่อยู่กับธารามน้ำเสียงที่เคยอ่อนโยนกลายเป็นน้ำเสียงแข็งกระด้างพูดด้วยความโมโห"เอาเถอะที่แกต้องการให้ฉันออกมาหาไม่มีอะไรจริงๆ แกเข้าไปหาฉันที่บ้านก็ได้นะ ทำเหมือนไม่เคยเข้าไป""ไม่เอาค่ะ ไม่อยากไปเจอเมียใหม่ของคุณพ่อ ที่นิตานัดเจอคุณพ่อในวันนี้ นิตามีเรื่องอยากให้คุณพ่อช่วย" ผู้ชายวัยกลางคนใบหน้าจ้องมองผู้เป็นลูกสาวฝั่งตรงข้ามของโต๊ะจนคิ้วขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัยที่ลูกสาวนั้นต้องการให้ตัว
บทที่ 9หลินหลินกลับมาที่บ้านในตอนเช้าเห็นลูกชายตัวเล็กซึ่งหลายวันที่เขาไม่ได้เห็นน้องณธีเลยมีแต่พี่เลี้ยงอยู่ดูแล ตัวเธอละเลยความเป็นแม่ขนาดนี้เลยเหรอ เธอทิ้งทุกอย่างและก้าวเดินตรงไปหาลูกชายวัยสองขวบที่นั่งทานข้าวบนโต๊ะอาหารสำหรับเด็ก พี่เลี้ยงที่ป้อนข้าวอยู่นั้นขยับออก"คุณผู้หญิง" หลินหลินพยักหน้าให้กับพี่เลี้ยงและรับถ้วยข้าวมา เพื่อที่จะป้อนข้าวลูกชายเองเด็กชายตัวเล็กวัยสองขวบกำลังหัดพูดยิ้มหวานให้ผู้เป็นแม่ด้วยความเป็นเด็กดีใจมากที่แม่ของตัวเองนั้นมาหา"หม่ามี๊ รักมี๊ คิดถึง" ในดวงตาคู่น้อยน้ำตาเอ่อล้นหลินหลินละเลยความเป็นแม่ให้แต่พี่เลี้ยงดูแลจนตัวเองนั้นไม่เคยได้เข้าใกล้ลูก เมื่อได้ฟังคำพูดของลูกบอกว่าคิดถึงมันรู้สึกจุกอกและพูดอะไรไม่ออกนอกจากน้ำตาที่ไหลออกมา"ฮึ๊บ มี๊ก็คิดถึงลูกมากๆ เลยนะ รู้ไหมมี๊จะไม่ไปไหน วันนี้หม่ามี๊จะอยู่ดูแลน้องณธีและเล่นกับน้องณธีนะลูก" มือของหลินหลินสั่นมากเธอยกมือลูบหัวของลูกชายและยิ้มทั้งน้ำตาเด็กชายตัวเล็กยิ้มหวานให้กับผู้เป็นแม่และจับมือตอบ"รักมี๊สุดๆ" ถ้วยข้าวในมือนั้นปกติแล้วพี่เลี้ยงบอกว่าน
บทที่ 8ในตอนที่ธารามนอนอยู่นั้นเขาได้ยินเสียงประตูมีคนมาเคาะและเรียกเสียงดังซึ่งธารามนอนในห้องทำงานตัวเองด้านล่างโดยที่หนีหลินหลินมานอนโซฟาในห้องทำงาน เขาลุกขึ้นจากโซฟาด้วยความหงุดหงิดแต่พอเปิดประตูออกมาเห็นนิตาเขาจึงปรับเปลี่ยนสีหน้าทันทีในตอนดึกขนาดนี้แล้วทำไมนิตาถึงยังไม่นอน"นิตามีอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงยังไม่นอนนี่มันดึกมากแล้วนะ" ธารามก้มมองนาฬิกาที่แขนของตัวเองและเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าเธอยืนนิ่งถือโทรศัพท์เอาไว้ใบหน้าสวยนั้นดูใสซื่อ"คุณธารามคะ คือนิตาไม่รู้ว่าจะบอกคุณดีหรือเปล่า แต่มันคงไม่ดีแน่ๆ เพราะจะทำให้สามีภรรยานั้นเกลียดกัน นิตากลับห้องดีกว่าค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ" นิตาเดินหันหลังกลับเหมือนสำนึกผิดที่เขาทั้งสองคนจะทะเลาะกัน แต่จริงๆ แล้วในใจของเธอรอวันที่เขาหย่ากันต่างหากเมื่อนิตาหันหลังธารามจึงคว้าจับแขนของนิตาเอาไว้ดึงให้หันกลับ"มีอะไรนิตามาเคาะประตูเรียกผมแล้วอยู่ๆ ก็กลับไปจะปล่อยให้ผมค้างคาใจหรือยังไง เกิดอะไรขึ้น" สายตาของธารามจ้องมองนิตาที่ดูกล้าๆ กลัวๆ ไม่กล้าที่จะบอก เขาขมวดคิ้วเพ่งมองไปยังใบหน้าน้อยเอ่ยถามย้ำอีกครั้งจนนิตายื่นโทรศั
บทที่ 7 คนตัวโตสวมใส่ชุดกาวน์หมอสีขาวนั่งเก้าอี้ด้านข้างของเตียงกุมมือของหญิงสาวที่ตนเองนั้นรักตั้งแต่ตอนเรียน ใบหน้าน้อยซีดเซียวจนดูน่ากลัวเขาช่วยให้เธอพ้นขีดอันตรายแต่ยังคงมีไข้อ่อนๆ "หลินหลินทำไมเธอถึงตกอยู่ในสภาพนั้น" เปลือกตาน้อยค่อยๆ ลืมตื่นขึ้นยังคงหวาดผวากับเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นกับตัวเองก่อนหน้านี้จนกลายเป็นเสียงละเมอร้องไห้ "หลินหลินเธอกำลังฝันร้าย" เรือนร่างบางลืมตาตื่นขึ้นตกใจผวากอดคนตรงหน้าด้วยความกลัว เมื่อเธอรู้ว่าตัวเองนั้นพ้นจากอันตรายยิ่งทำให้เธอร้องไห้หนัก"หมอคิม ฮื่อๆ" มือหนาของคนตัวโตนั้นลูบหัวของร่างบางเบาๆ และโอบกอดกระชับแน่น"ไม่เป็นอะไรแล้วนะ ไม่มีใครทำอะไรเธอแล้วค่อยๆ สูดลมหายใจเข้าและปล่อยออกตั้งสตินะหลินหลิน" หมอคิมจับไหล่ของหลินหลินทั้งสองข้างบอกให้เธอนั้นตั้งสติ คนตัวเล็กได้เพียงแต่ยกมือเช็ดน้ำตาตัวเองรู้สึกเจ็บที่หน้าอกแปลกๆ "เป็นอะไรเจ็บหน้าอกเหรอค่อยๆ สูดลมหายใจเข้าแล้วก็ปล่อยออกดูนะ นี่น้ำ" หมอคิมรีบคว้าหยิบแก้วน้ำมาให้กับหลินหลินดื่ม"หลินอยากกลับบ้านค่ะ" หมอคิมส่ายหน้าไปมาปฏิเสธในสิ่งที่หลินหลินต้องการ เธอต้องให้น้ำเกลืออยู่ที่โรงพยาบาลเพร