/ โรแมนติก / พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ / 4. ได้โปรดอย่าทำอะไรฉันเลย

공유

4. ได้โปรดอย่าทำอะไรฉันเลย

last update 최신 업데이트: 2025-03-05 13:39:22

เวลานี้ดึกมากแล้ว ณัฐชาสูญเสียพลังงานจากการทำงานทั้งวัน เธอหิวและง่วงมากจนรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะหลับไปในทุกๆ นาที

ร่างกายเหนื่อยล้า แต่ความคิดถึงอาหารยังคงรบกวนสมอง เธอทานขนมชิ้นเดียวตอนกลางวัน และมันไม่อาจเติมเต็มความหิวได้เลย

"ฉันหิวมาก...เราหาอะไรทานก่อนได้ไหมคะ" 

เสียงของเธอดังขึ้นอย่างเบาๆ แต่ในนั้นก็มีความออดอ้อนเล็กน้อย เหมือนจะคอยทวงความเอาใจใส่จากเขา

แต่คำพูดของเธอก็หายไปในอากาศที่เย็นและเงียบสงบ เขายังคงเงียบ ไม่ตอบอะไร

เขาเอื้อมมือไปข้างหลังเบาะรถหยิบขนมปังออกมาจากกระเป๋า แล้วมันก็ถูกโยนลงบนตักของเธออย่างไม่แยแส

"เอ้านี่...กินสะ;" 

เสียงเขาห้วน ๆ แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่คำสั่งที่มาจากความโกรธ หรือความไม่พอใจจริงๆ มากนัก เธอมองขนมปังที่อยู่บนตัก รู้สึกเหมือนมันเป็นสัญลักษณ์ของความปรานีที่เขามอบให้

แม้คำพูดของเขาจะไม่สุภาพนัก แต่มันก็ช่วยให้เธอรู้สึกว่าความใจร้ายของเขาไม่ได้ครอบงำเขาไปทั้งหมด

เธอยิ้มบางๆ อย่างอ่อนโยน มันเป็นรอยยิ้มที่สะท้อนความรู้สึกขอบคุณที่เธอไม่อยากให้เขาเห็น แต่เธอก็พูดขึ้นมาเบาๆ ด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยประชด

"ขอบคุณค่ะ... ที่ยังปรานีฉัน"

แต่ทันทีที่พูดจบ เขาก็หันมามองเธอด้วยสายตาที่ทิ่มแทงเหมือนกับว่าคำพูดนั้นทำให้เขาโกรธ เขาถลึงตาใส่เธออย่างชัดเจน แต่แทนที่จะตอบโต้ เขากลับส่ายหัวเบาๆ แล้วปล่อยไป

ความเงียบเข้าครอบงำในรถอีกครั้ง เขาไม่ตอบคำพูดของเธอ ไม่พยายามสร้างบทสนทนาหรือทำให้บรรยากาศดีขึ้น 

เขาคงไม่อยากจะพูดอะไรเพิ่มเติม เพียงแต่ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่มันควรจะเป็น

ณัฐชานั่งนิ่งๆ มองออกไปนอกหน้าต่าง ความรู้สึกบางอย่างในใจเธอที่ไม่อาจบอกออกไปกับเขาได้

ในความเงียบที่อยู่ระหว่างทั้งคู่ เสียงหายใจของเธอกับเขาเหมือนจะบรรเลงร่วมกันในอากาศ แต่ไม่มีคำพูดไหนที่สามารถอธิบายความ

รู้สึกในตอนนี้ได้เลย

รถแล่นผ่านเส้นทางอันยาวไกลออกไปนอกเมือง แสงไฟถนนเริ่มเลือนหาย เหลือเพียงความมืดที่ปกคลุมโดยรอบเท่านั้น

เสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นในความเงียบ ทำลายบรรยากาศที่ตึงเครียดภายในรถทันที

"ริง...ริง...ริง..."

เธอสะดุ้งเล็กน้อย เสียงนั้นมาจากโทรศัพท์ของเขาที่วางอยู่บนคอนโซลหน้า เขาเหลือบตามองหน้าจอเพียงครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบมันขึ้นมา

"ว่าไง?" 

เสียงของเขาเย็นชาและหนักแน่นในขณะที่รับสาย สายตายังคงจับจ้องที่กระจกด้านหน้า

“บอสครับ...ขอโทษนะครับที่โทรมารบกวนกลางดึก คือผมเห็นบอสโทรหาตอนนั้นอยู่บนเครื่องไม่ได้รับสายครับ”

“อ๋อ...ฉันจะบอกว่าฉันไม่เข้าบริษัทสักพักนะ มีอะไรคุณจัดการได้เลย...ใครถามบอกผมไปต่างประเทศ”

“รับทราบครับบอส” 

เสียงตอบกลับจากนายกนกลูกน้องมือขวาของเขา และลูกน้องก็แจ้งเรื่องงานที่ไปประชุมวันนี้

เธอใช้จังหวะนี้รวบรวมความกล้า ดวงตาเหลือบไปที่ประตูรถอีกครั้ง เธอคิดหาวิธีที่จะปลดล็อกประตู แต่ถูกสายตาของเขามองอยู่เธอจึง

ชะงัก

เขาวางสายลงอย่างรวดเร็ว โทรศัพท์ตัดขาดการสนทนา ก่อนที่เขาจะหันกลับมามองเธอด้วยสายตาที่เธอไม่สามารถอ่านได้

"อย่าคิดหนีไปไหน" 

เขาพูดเพียงเท่านั้น แต่คำพูดของเขากลับทรงพลังพอที่จะทำให้เธอหยุดความคิดที่จะหนีในทันที

เสียงโทรศัพท์ที่เพิ่งเงียบหายกลับเป็นเพียงอีกหนึ่งส่วนเล็ก ๆ ในเหตุการณ์ที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกขังอยู่ในความมืดมิดของ

สถานการณ์นี้

เสียงภายในรถเงียบลงหลังจากคำพูดที่ราวกับคำสั่งเด็ดขาดนั้น เธอเบือนหน้าหนี มองออกไปนอกหน้าต่าง ร่างกายเธอเกร็งแน่น ความโกรธและความกลัวปะปนกันจนเธอแทบไม่สามารถหายใจได้อย่างปกติ

"คุณไม่มีสิทธิ์มาบังคับฉันแบบนี้!" 

เธอพูดเสียงสั่น ขณะที่มือทั้งสองข้างกำแน่นอยู่บนตัก

"ถ้าคุณทำอะไรฉัน ฉันสาบานเลยว่าคุณจะต้องเสียใจ"

เขาเหลือบมองเธอเพียงเล็กน้อย ใบหน้าเย็นชาและไร้ความรู้สึก

"ทำไมคุณจะเกลียดผมหรอ เชิญเลย... ผมเองก็ไม่ได้ต้องการความรักจากคุณอยู่แล้ว"

คำพูดนั้นเหมือนกระบี่ที่แทงเข้าไปในหัวใจเธอ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา แต่เธอกลับกัดฟันแน่น ไม่ยอมให้เสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมา

"คุณมันบ้าไปแล้ว! ทำไมคุณถึงต้องทำแบบนี้ ทำไมคุณถึงเลือกที่จะทำลายกันแบบนี้" เธอถามเสียงดัง ลมหายใจสะท้อนความขมขื่น

เขาไม่ได้ตอบในทันที แต่กลับขับรถต่อไปเงียบ ๆ ราวกับคำพูดของเธอไม่มีความสำคัญสำหรับเขาเลย

"บางทีการทำลายคุณ...อาจเป็นทางเดียวที่พ่อของคุณเจ็บปวดที่สุด"

"ถ้าคุณคิดจะขืนใจหรือทำร้ายฉัน คุณจะไม่มีวันได้ครอบครองฉันในแบบที่คุณต้องการ"

เขาหัวเราะเบา ๆ เสียงหัวเราะนั้นฟังดูน่ากลัวและเสียดแทง

"คุณคิดเหรอว่าผมต้องการแค่ร่างกายของคุณ? ผมต้องการให้คุณจำไว้ ว่าคุณไม่มีวันหนีพ้นจากผมได้"

เธอนั่งนิ่ง ดวงตาสั่นระริก น้ำตาหยดหนึ่งไหลรินลงมาตามแก้ม มือของเธอจิกแน่นที่เบาะรถ แต่ในใจยังคงต่อสู้กับความหวาดกลัวและความสับสน

"ฉันเกลียดคุณ..." เธอกลั้นเสียงสะอื้นและพูดออกมาเบา ๆ ราวกับกระซิบ

เขาเพียงแค่หันมามองเธอแวบหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเย็นชาอีกครั้ง

"ดี...เพราะเกลียดนี่แหละ คุณถึงไม่มีทางลืมผมได้"

ณัฐชานั่งนิ่ง สายตามองผ่านกระจกหน้ารถออกไปอย่างไม่ละสายตา ป้ายบอกทางที่ผ่านไปแต่ละป้ายทำให้เธอพยายามจดจำเส้นทาง เธอรู้ดีว่าการรู้เส้นทางอาจเป็นความหวังเดียวในการหนีเอาตัวรอด

เขาขับรถต่อไปโดยไม่พูดอะไร ดวงหน้าเย็นชาของเขาทำให้เธอเดาไม่ได้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ รถเคลื่อนตัวไปเรื่อย ๆ

เขาพาเธอออกจากกรุงเทพมานานเกือบสี่ชั่วโมงแล้ว ณัฐชาหันไปมองเขาชั่วขณะ ใจเธอเต็มไปด้วยความกลัวและความสงสัย

"คุณจะพาฉันไปที่ไหนกันแน่?" เธอกลั้นใจถาม น้ำเสียงพยายามแข็ง แต่แฝงความสั่นไหว

เขาไม่หันมามองเธอด้วยซ้ำ ดวงตายังคงจับจ้องถนนข้างหน้า "เดี๋ยวก็รู้เอง..."

คำตอบสั้น ๆ นั้นยิ่งทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกกดดันหนักขึ้น หัวใจเธอเต้นแรง ความคิดต่าง ๆ วิ่งวนในหัว

เธอคิดถึงทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น หากเขาพาเธอไปยังสถานที่ที่ไม่มีคน เธอจะทำอย่างไร? จะหนียังไง? หรือเขาต้องการจะฆ่าเธอในป่าหรือเปล่า?

รถเคลื่อนเข้าสู่เขตพื้นที่ชนบทมากขึ้นเรื่อย ๆ สองข้างทางเริ่มเต็มไปด้วยต้นไม้และความมืดมิดของค่ำคืนที่กำลังคืบคลานเข้ามา เธอรู้สึกได้ถึงความหนาวเหน็บที่เริ่มแทรกซึมเข้ามาในหัวใจ

ณัฐชากำมือแน่น เธอต้องตั้งสติ เธอไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองกลายเป็นเหยื่อของสถานการณ์นี้ เธอแอบมองหาสิ่งของรอบตัวในรถที่พอจะใช้เป็นอาวุธได้ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

“คุณจะฆ่าฉันหรือไง?” 

เธอพูดขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เสียงของเธอเข้มขึ้น แม้จะหวาดกลัวแต่ก็เต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว

เขาหันมามองเธอครู่หนึ่ง ดวงตาเย็นชาของเขาทำให้เธอขนลุก

"ฆ่าคุณเหรอ?" เขายิ้มบาง ๆ ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงความน่ากลัว

"ผมยังไม่ได้คิดเรื่องนั้น...อย่างน้อยก็ยังไม่ถึงเวลา"

คำพูดนั้นทำให้เธอรู้สึกเหมือนลมหายใจหยุดชะงัก ความคิดที่จะหาทางหนีเริ่มเข้ามาในหัวของเธออีกครั้ง

ณัฐชาพยายามสงบใจ แม้ในความกลัว เธอก็ยังต้องวางแผนเพื่อเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์ที่เหมือนฝันร้ายนี้ให้ได้

เธอมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง คำพูดที่ออกจากปากเขาทำให้หัวใจเธอบีบรัด เธอเคยเชื่อว่าเขาเป็นคนดี คนที่เธอ

เคยไว้ใจและรู้จักอย่างลึกซึ้ง แต่ตอนนี้เขาดูเป็นคนละคน

"คุณมีแฟนอยู่แล้ว...ทำแบบนี้แฟนคุณจะเสียใจนะ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน แต่พยายามใช้เหตุผลเกลี้ยกล่อมเขา หวังว่าคำพูด

ของเธอจะกระตุ้นให้เขาคิดได้

เขาหัวเราะเสียงต่ำ น้ำเสียงเย็นชา

"แฟนเหรอ? ผมไม่เคยมีแฟน...มีแค่คู่นอนเล่นเท่านั้น"

คำพูดของเขาฟังดูไร้เยื่อใยและน่ากลัว ราวกับตั้งใจทำให้เธอมองเขาในแง่ร้ายที่สุด แต่ความจริงในใจเขากลับตรงกันข้าม

เขาไม่เคยมีใครอื่นเลยนอกจากเธอ เขาแค่ต้องการทำให้เธอเกลียดเขา หวังว่าเธอจะยอมแพ้และเลิกดิ้นรน

ณัฐชาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ คำพูดของเขาเหมือนมีดกรีดหัวใจเธอให้แหลกสลาย เธอรู้สึกเหมือนกำลังคุยกับคนแปลกหน้า ไม่ใช่

คนที่เธอเคยรัก

"นี่คุณไม่ใช่คนที่ฉันเคยรู้จัก...คุณมันน่าทุเรศที่สุด"

คำพูดของเธอทำให้เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปมองถนนเหมือนเดิม

ดวงตาของเขายังคงนิ่งเฉย ราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่เธอพูด แต่ลึกลงไปในใจ เขารู้สึกเหมือนคำพูดนั้นแทงลึกเข้าไปในจิตใจของเขาเอง

"งั้นเหรอ..." เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่เย็นชาเหมือนเดิม

"ถ้าเธอคิดว่าฉันเลว ก็จำฉันในแบบนั้นไปตลอดเลยก็แล้วกัน" เขาพูดพลางเหลือบมองหน้าเธอผ่านกระจก

ณัฐชานั่งเงียบ น้ำตาคลอเต็มดวงตา หัวใจของเธอสับสนจนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป เสียงเครื่องยนต์ของรถดังต่อเนื่อง

บรรยากาศในรถอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก เธอพยายามสะกดกลั้นน้ำตาและตั้งสติ คิดหาวิธีที่จะหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   ตอนพิเศษ ค่ำคืนแห่งรัก

    แปดเดือนต่อมา"โอ๊ย! ปวดท้อง!" ณัฐชาร้องเสียงหลง เม็ดเหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้า ความเจ็บปวดจากการคลอดทำให้เธอแทบหมดแรงหัสนัยน์รีบเข้าไปประคองเธอไว้ก่อนจะอุ้มขึ้นรถโดยไม่รอช้า "อดทนนะที่รัก ใกล้ได้เห็นหน้าลูกของเราแล้ว"ณัฐชายิ้มทั้งน้ำตา แม้จะเจ็บปวดแต่หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความสุขเมื่อถึงโรงพยาบาล พยาบาลรีบเข้ามาช่วยดูแล "คุณพ่อจะเข้าห้องคลอดด้วยไหมคะ?"หัสนัยน์พยักหน้าแน่วแน่ "แน่นอนครับ ผมอยากอยู่ให้กำลังใจภรรยาและลูกของผม"เวลาผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมง จู่ ๆ เสียงร้องของทารกก็ดังขึ้น"ยินดีด้วยนะคะ! คุณได้ลูกสาวค่ะ"หัสนัยน์ยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกายด้วยความตื้นตัน เขาหันไปกุมมือณัฐชาแน่น น้ำตาของเขาไหลทันที"ขอบคุณมากนะที่ทำให้พี่มีลูกสาวที่น่ารักแบบนี้"ณัฐชายิ้มทั้งน้ำตา ความเหนื่อยล้าจางหายไปเมื่อได้เห็นหน้าลูกน้อยนอกห้องคลอด ครอบครัวทั้งสองฝ่าย พราวฟ้าและณัฐพลต่างรอคอยข่าวดีอย่างใจจดใจจ่อเมื่อพยาบาลเดินออกมาพร้อมรอยยิ้ม ทุกคนก็เฮด้วยความยินดีณัฐพลหันไปกระซิบข้างหูพราวฟ้า "ฟ้า…พี่อยากมีลูกแล้ว"พราวฟ้าหันมาค้อนใส่ "เราควรแต่งงานก่อนมั้ย? อยู่ ๆ จะมาขอมีลูกเลย พี่พลนี่จริงๆ เลย!"

  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   15. ขอรักเธอตลอดไป (จบ)

    เย็นวันนี้ ณัฐชามีงานเลี้ยงรุ่นที่จัดขึ้นในโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งใจกลางเมือง ทันทีที่เธอก้าวลงบันไดบ้านในชุดราตรีสีครีมเปิดไหล่ เผยให้เห็นความงามสง่าที่โดดเด่น ดวงหน้าแต่งแต้มด้วยเมคอัพอ่อนๆ ริมฝีปากเงางามด้วยลิปกลอสสีชมพูอ่อนที่เพิ่มเสน่ห์ให้ดูอ่อนหวานและมีเสน่ห์ในเวลาเดียวกันณัฐพลที่ยืนรออยู่ด้านล่างมองน้องสาวด้วยสายตาเอ็นดูและชื่นชมไม่ปิดบัง เขายิ้มพลางเอ่ยแซวด้วยน้ำเสียงขี้เล่น“วันนี้น้องสาวพี่สวยมากเลย ดูสง่า หนุ่มๆ ในงานคงมองจนลืมกะพริบตาแน่ๆ”ณัฐชาหัวเราะเขินอาย เธอส่ายหัวเบาๆ พร้อมตอบกลับด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ “แหม…ชมกันเองแบบนี้ ใครจะไปเชื่อล่ะค่ะ”บรรยากาศภายนอกเย็นฉ่ำด้วยฝนที่ตกปรอยๆ ท้องฟ้ามืดครึ้ม ไม่มีดาวสักดวงปรากฏให้เห็น เมื่อถึงโรงแรม ณัฐชาเปิดประตูรถแล้วเอ่ยกับพี่ชายก่อนก้าวลง“สี่ทุ่มครึ่งพี่มารับหนูนะคะ ขอบคุณค่ะ” เธอส่งยิ้มอ่อนโยนแล้วเดินเข้าไปในงานอย่างมั่นใจภายในงานเลี้ยง เสียงพูดคุยสลับกับเสียงดนตรีคลอเบาๆ ทำให้บรรยากาศดูคึกคัก เพื่อนๆ ทั้งหญิงชายต่างหันมองณัฐชาเป็นตาเดียวกัน ความงามสะดุดตาของเธอสร้างความประทับใจให้ทุกคน รูปร่างสมส่วน ผิวขาวเนียนละเอียดยิ่งทำให

  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   16. ค่ำคืนแห่งรัก (ตอนพิเศษ)

    แปดเดือนต่อมา"โอ๊ย! ปวดท้อง!" ณัฐชาร้องเสียงหลง เม็ดเหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้า ความเจ็บปวดจากการคลอดทำให้เธอแทบหมดแรงหัสนัยน์รีบเข้าไปประคองเธอไว้ก่อนจะอุ้มขึ้นรถโดยไม่รอช้า "อดทนนะที่รัก ใกล้ได้เห็นหน้าลูกของเราแล้ว"ณัฐชายิ้มทั้งน้ำตา แม้จะเจ็บปวดแต่หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความสุขเมื่อถึงโรงพยาบาล พยาบาลรีบเข้ามาช่วยดูแล "คุณพ่อจะเข้าห้องคลอดด้วยไหมคะ?"หัสนัยน์พยักหน้าแน่วแน่ "แน่นอนครับ ผมอยากอยู่ให้กำลังใจภรรยาและลูกของผม"เวลาผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมง จู่ ๆ เสียงร้องของทารกก็ดังขึ้น"ยินดีด้วยนะคะ! คุณได้ลูกสาวค่ะ"หัสนัยน์ยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกายด้วยความตื้นตัน เขาหันไปกุมมือณัฐชาแน่น น้ำตาของเขาไหลทันที"ขอบคุณมากนะที่ทำให้พี่มีลูกสาวที่น่ารักแบบนี้"ณัฐชายิ้มทั้งน้ำตา ความเหนื่อยล้าจางหายไปเมื่อได้เห็นหน้าลูกน้อยนอกห้องคลอด ครอบครัวทั้งสองฝ่าย พราวฟ้าและณัฐพลต่างรอคอยข่าวดีอย่างใจจดใจจ่อเมื่อพยาบาลเดินออกมาพร้อมรอยยิ้ม ทุกคนก็เฮด้วยความยินดีณัฐพลหันไปกระซิบข้างหูพราวฟ้า "ฟ้า…พี่อยากมีลูกแล้ว"พราวฟ้าหันมาค้อนใส่ "เราควรแต่งงานก่อนมั้ย? อยู่ ๆ จะมาขอมีลูกเลย พี่พลนี่จริงๆ เลย!"

  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   15. ขอรักเธอตลอดไป (จบ)

    เย็นวันนี้ ณัฐชามีงานเลี้ยงรุ่นที่จัดขึ้นในโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งใจกลางเมือง ทันทีที่เธอก้าวลงบันไดบ้านในชุดราตรีสีครีมเปิดไหล่ เผยให้เห็นความงามสง่าที่โดดเด่น ดวงหน้าแต่งแต้มด้วยเมคอัพอ่อนๆ ริมฝีปากเงางามด้วยลิปกลอสสีชมพูอ่อนที่เพิ่มเสน่ห์ให้ดูอ่อนหวานและมีเสน่ห์ในเวลาเดียวกันณัฐพลที่ยืนรออยู่ด้านล่างมองน้องสาวด้วยสายตาเอ็นดูและชื่นชมไม่ปิดบัง เขายิ้มพลางเอ่ยแซวด้วยน้ำเสียงขี้เล่น“วันนี้น้องสาวพี่สวยมากเลย ดูสง่า หนุ่มๆ ในงานคงมองจนลืมกะพริบตาแน่ๆ”ณัฐชาหัวเราะเขินอาย เธอส่ายหัวเบาๆ พร้อมตอบกลับด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ “แหม…ชมกันเองแบบนี้ ใครจะไปเชื่อล่ะค่ะ”บรรยากาศภายนอกเย็นฉ่ำด้วยฝนที่ตกปรอยๆ ท้องฟ้ามืดครึ้ม ไม่มีดาวสักดวงปรากฏให้เห็น เมื่อถึงโรงแรม ณัฐชาเปิดประตูรถแล้วเอ่ยกับพี่ชายก่อนก้าวลง“สี่ทุ่มครึ่งพี่มารับหนูนะคะ ขอบคุณค่ะ” เธอส่งยิ้มอ่อนโยนแล้วเดินเข้าไปในงานอย่างมั่นใจภายในงานเลี้ยง เสียงพูดคุยสลับกับเสียงดนตรีคลอเบาๆ ทำให้บรรยากาศดูคึกคัก เพื่อนๆ ทั้งหญิงชายต่างหันมองณัฐชาเป็นตาเดียวกัน ความงามสะดุดตาของเธอสร้างความประทับใจให้ทุกคน รูปร่างสมส่วน ผิวขาวเนียนละเอียดยิ่งทำให

  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   14. อาการแบบนี้

    เช้าตรู่วันใหม่ที่เต็มไปด้วยแสงแดดอ่อนโยน หัสนัยน์ถือถุงขนมเดินเข้ามาในบ้านของณัฐชา เขาพยายามรวบรวมความกล้าพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความกังวล“สวัสดีครับคุณลุง คุณป้า วันนี้แม่ทำขนมมาให้ ผมเลยเอามาฝากครับ”เขากล่าวเสียงนุ่มนวลพลางยื่นถุงขนมไปวางบนโต๊ะ รพีหันมายิ้มรับด้วยท่าทางใจดี“ของโปรดณัฐชาเลย ขอบคุณมากนะ ฝากขอบคุณแม่เราด้วยล่ะนัยน์”“ได้เลยครับ”หัสนัยน์ตอบด้วยรอยยิ้ม แต่สายตาก็ยังมองหาณัฐชาอย่างลุ้นๆ“แล้วณัฐชาอยู่ไหนเหรอครับ?”อาคม ผู้เป็นพ่อของณัฐชา เงยหน้าจากหนังสือพิมพ์ พลางพยักหน้าไปทางสวนหลังบ้าน“น่าจะอยู่ที่สวนข้างบ้านนะ”“ขอบคุณครับคุณลุง”หัสนัยน์โค้งศีรษะเล็กน้อย ก่อนหยิบขนมที่ถูกจัดใส่จานแล้วเดินตรงไปยังสวนทันทีที่สวนข้างบ้านในสวนที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาชนิด ณัฐชากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ใต้ร่มเงาต้นไม้ใหญ่ เธอเพลินอยู่กับการอ่านหนังสือ แต่เมื่อเสียงฝีเท้าของหัสนัยน์ดังใกล้เข้ามา เธอเงยหน้าขึ้นและขมวดคิ้วทันที“แม่พี่ทำขนมที่ณัฐชาชอบมาให้ ลองทานหน่อยนะ”เสียงของหัสนัยน์ดังขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เขาพยายามยื่นจานขนมไปตรงหน้าเธอ ณัฐชาลุกข

  • พันธะแค้น กำเนิดหัวใจ   13. โอกาสสุดท้าย

    คอนโดณัฐชาเสียงเบรกดังเอี๊ยดทำลายความเงียบในลานจอดรถ หัสนัยน์รีบลงจากรถด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความร้อนใจ เขาเดินตรงไปที่ลิฟต์ รัวนิ้วกดหมายเลขชั้นของณัฐชาอย่างไม่รอช้า ในใจเขาสับสนวุ่นวาย คำพูดมากมายผุดขึ้นแต่ไม่มีคำไหนที่รู้สึกว่าเหมาะสมจะเอ่ยออกไปเมื่อพบเธอเมื่อมาถึงหน้าประตูห้องของณัฐชา เขายกมือกดกริ่ง เสียงเรียกดังสะท้อนอยู่ในโถงเงียบสงัด เขายืนรอครู่หนึ่งแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ หัสนัยน์ถอนหายใจ รู้สึกถึงน้ำหนักของความเงียบที่กดทับหัวใจ เขาพึมพำกับตัวเองว่าเธออาจโกรธเขาและไม่อยากพบหน้า แต่เขาไม่อาจรอได้นานไปกว่านี้ภายในห้อง เสียงกริ่งดังมาถึงในขณะที่ณัฐชากำลังอาบน้ำอยู่ เธอไม่ได้สนใจมากนัก คิดว่าคนที่มาอาจเป็นพ่อแม่ ซึ่งมีคีย์การ์ดเปิดห้องอยู่แล้ว เธอค่อยๆ ปล่อยให้น้ำอุ่นชะล้างความเหนื่อยล้าของวัน โดยไม่ได้คิดเลยว่าคนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือเขาหัสนัยน์มองประตูที่เงียบงัน ก่อนหยิบคีย์การ์ดจากกระเป๋าออกมา เขามองมันชั่วครู่ด้วยความลังเล ก่อนจะใช้มันเปิดประตูเข้าไป ภายในห้องยังคงอบอุ่นและมีกลิ่นหอมจางๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอ เขากวาดสายตามองรอบๆ อย่างระมัดระวัง ก่อนเดินไปนั่งลงบนโซฟาด้

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status