เมื่อบิดามารดาพาปู่อำนาจออกไปจากห้องแล้วคุณย่าไพลินกับหลานสาวก็อยู่กันตามลำพังในห้อง
“คุณย่ามีอะไรจะพูดกับหนูใช่ไหมคะ”
“ใช่จ้ะ ย่าอยากจะขอร้องให้หนูยอมแต่งงานเพื่อความสบายใจของคุณปู่ ตอนนี้คุณปู่สุขภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่ย่าไม่อยากให้ท่านต้องเครียด”
“คุณย่าคะหนูไม่เข้าใจว่าทำไมคุณปู่จะต้องจริงจังกับเรื่องนี้ด้วยในเมื่อคุณปู่สุทัศน์ก็เสียชีวิตไปแล้วไม่มีใครรู้เรื่องสัญญานี้หรอกนะคะ”
“ก็เพราะคุณปู่ทัศน์เป็นเพื่อนรักของคุณปู่เป็นเพื่อนตายแทนกันได้”
“ตายแทนกันได้เลยเหรอคะ คุณย่าพูดเกินไปหรือเปล่า”
“ย่าอาจจะพูดเกินจริงไปบ้างแต่ความหมายมันก็คล้ายกัน”
“คล้ายกันยังไงคะ”
“หนูอยากฟังเรื่องในอดีตของคุณปู่ไหมล่ะ”
“อยากฟังค่ะคุณย่า”
“ในอดีตคุณปู่ของหนูกับคุณปู่สุทัศน์เป็นเพื่อนรักกันมาก ครอบครัวของคุณปู่เราค่อนข้างมีฐานะจึงช่วยให้เงินทุนคุณปู่สุทัศน์ไปเปิดบริษัทจนกิจการรุ่งเรืองมาจนถึงทุกวันนี้”
“แบบนี้ก็เท่ากับคุณปู่เป็นฝ่ายช่วยเขาไหมคะ”
“ใช่จ้ะนี่คือเรื่องที่ปู่ของหนูช่วยคุณปู่สุทัศน์ แต่เรื่องที่ย่าจะเล่าต่อจากนี้คือเรื่องที่เขาช่วยคุณปู่”
“ช่วยยังไงคะ”
“ตอนที่ปู่จีบย่าทางบ้านของย่าไม่เห็นด้วยและพยายามกีดกันทุกวิถีทางก็ได้คุณปู่สุทัศน์นี่แหละที่คอยส่งจดหมายให้”
“จดหมายรักเหรอคะคุณย่า”
“จ้ะ เราติดต่อกันผ่านทางจดหมาย เมื่อตาทวดรู้ก็จะให้ย่าแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น พอปู่ของหนูรู้เรื่องก็เลยตัดสินใจจะพาย่าหนีออกมา ตอนนั้นมีลูกน้องของตาทวดพยายามตามมาจับย่า แต่คุณปู่สุทัศน์ก็ช่วยขวางไว้ ท่านโดนลูกน้องของคุณตาทวดรุมกระทืบเจ็บแทบปางตาย ซ้ำยังโดนแทงจนต้องเข้าไปนอนอยู่ที่โรงพยาบาลนานเป็นเดือน ถ้าไม่ได้คุณปู่สุทัศน์ช่วยให้ย่าหนีมาในวันนั้นปู่กับย่าก็คงไม่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันแบบนี้หรอก”
“เรื่องมันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
“มันอาจจะฟังดูเหลือเชื่อไปหน่อยแต่ทุกอย่างมันก็เป็นความจริง”
“ทำไมตาทวดถึงไม่อยากให้คุณย่าแต่งงานกับคุณปู่เหรอคะ”
“เพราะตาทวดอยากให้ย่าแต่งงานกับคนในพื้นที่เดียวกัน จะได้ช่วยทำมาหากินเพราะครอบครัวของย่าเป็นครอบครัวเกษตรกรมีที่ดินทำกินมาก็เลยอยากหาคนมาช่วย”
“แล้วคุณปู่ทำเกษตรไม่เป็นเหรอคะ”
“ครอบครัวของคุณปู่ เป็นคนไทยเชื้อสายจีนที่มีอาชีพค้าขายไม่ถนัดเรื่องใช้แรงงานหรือทำไร่ทำนาเลย ตาทวดของหนูก็เลยไม่ชอบเท่าไหร่”
“เพราะเหตุผลนี้เหรอคะคุณปู่ถึงจะต้องทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อน”
“ใช่จ้ะปู่คิดจริงจังเรื่องนี้มาก ที่ย่าเล่าให้เรื่องนี้ให้หนูฟังเพื่อให้หนูลองชั่งใจดูว่าหนูจะทำตามคำขอของคุณปู่ได้หรือเปล่า”
“คุณย่าคะถ้าหนูยอมแต่งงานจริงๆ แล้วทางฝ่ายนั้นเขาไม่ยอมแต่งงานขึ้นมาล่ะ”
“ย่าคิดว่าถ้าเขาอยากได้สมบัติของปู่เขาคืนเขาก็น่าจะยอมแต่งงาน”
“เงื่อนไขมันมีอะไรบ้างนะคะคุณย่าลองบอกหนูอีกทีได้ไหม” หญิงสาวอยากหาทางออกอื่นที่ไม่ใช่การแต่งงาน
“เงื่อนไขก็คือหนูต้องแต่งงานกับเขาใช้ชีวิตร่วมกันมีลูกด้วยกันจากนั้นจะหย่าขาดจากกันหลังจากหนึ่งปีก็ได้หรือถ้าแต่งงานแล้วไม่มีลูกด้วยกันใช้ชีวิตด้วยกันครบห้าปีต่างฝ่ายต่างก็แยกย้ายแต่ในกรณีที่อยู่ด้วยกันครบห้าปีแล้วไม่มีลูกด้วยกันสมบัติก็จะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนหนูส่วนหนึ่งและเขาอีกหนึ่งส่วน แต่แต่งงานมีลูกด้วยกันแล้วหย่ากันสมบัติก็จะเป็นของเขาทั้งหมดอีกข้อหนึ่งก็คือถ้าหนูเป็นคนขอหย่าสมบัติก็จะตกเป็นของเขาทั้งหมดเหมือนกันแต่นั้นต้องผ่านการแต่งงานไปแล้วหนึ่งปี หนูคิดว่าจะทนแต่งงานกับเขาได้ไหมอย่างน้อยก็หนึ่งปีถ้าครบกำหนดหนึ่งปีแล้วหนูก็จะกลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนเดิม”
“คุณย่าคะหนูขอแต่งงานกับเขาเป็นพิธีได้ไหม หนูขอไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องอื่น”
“เรื่องนี้ย่าก็ไม่แน่ใจเหมือนกันหนูต้องคุยกับพี่เขาเองนะ”
“คุณย่าเคยเจอหลานคุณปู่สุทัศน์ไหมเขาเป็นคนยังไงคะ”
“เคยเจอนานแล้วเขาทำงานเก่งและดูเป็นผู้ใหญ่ย่าคิดว่าหนูน่าจะตกลงเรื่องนี้กับเขาได้ไม่ยาก”
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีสิคะ”
“ตอนนี้หนูมีแฟนหรือคนรักที่ไหนหรือเปล่า”
“ไม่มีหรอกค่ะ”
“ย่าไม่ว่าอะไรนะถ้าหนูจะมีคนรักหรือมีแฟนอยู่แล้วแต่หนูอธิบายให้เขาเข้าใจถึงความจำเป็นที่หนูจะต้องแต่งงาน ถ้าหากเขารอหนูได้ครบหนึ่งปีหนูก็ขอยาจากพี่เขาและกลับมาหาคนรักย่าเชื่อว่าถ้าเขารักเขาจะรอหนูได้”
“คุณย่าคะหนูไม่รู้จะตัดสินใจเรื่องนี้ยังไงดี หนูขอเจอผู้ชายคนนั้นก่อนได้ไหม หนูอยากจะตกลงเงื่อนไขกับเขาบางอย่าง”
“ได้สิลูก วันพรุ่งนี้ตอนเย็นเขาเชิญพวกเราไปทานข้าวที่บ้านเขา”
“ทำไมมันเร็วแบบนี้ล่ะคะ”
“ย่าว่าฝั่งโน้นก็คงอยากจะรีบจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยเหมือนกัน”
“คุณย่าค่ะสมบัติของปู่สุทัศน์มันมีมากมายแค่ไหนคะ”
“ทำไมหนูทำแบบนี้ล่ะหรือหนูนึกอยากจะได้สมบัติของเขา”
“เปล่าค่ะหนูไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลย แต่หนูกำลังคิดว่าถ้าหากสมบัติมันไม่ได้มากมายอะไรเขาก็คงไม่ยอมตกลงแต่งงานหรอกแต่ถ้าสมบัติมันเยอะมากเพื่อแลกกับอิสระเขาก็คงยอมตกลงแต่งงาน”
“ย่าก็ไม่รู้หรอกนะว่าทางนั้นมีสมบัติมากมายแค่ไหน แต่เท่าที่ดูกิจการของคุณปู่สุทัศน์ก็ใหญ่โตและบริษัทขยายใหญ่ขึ้นมากฝ่ายนั้นก็คงไม่ยอมเสียผลประโยชน์ตรงนี้หรอก”
“คุณย่าคะเราคุยกับทนายแล้วแอบจัดการยกสมบัติให้เขาเงียบๆ ได้ไหม”
“เรื่องนี้มันก็อาจจะพอเป็นไปได้แต่ หนูก็รู้นี่ว่าอีกเหตุผลหนึ่งคือคุณปู่อยากให้หนูแต่งงานกับหลานชายของเพื่อนจริงๆ หนูทำเพื่อคุณปู่ได้ไหม อย่างน้อยก็ให้คุณปู่สบายใจ ย่าไม่รู้หรอกนะว่าคุณปู่จะอยู่กับพวกเราได้นานแค่ไหน”
“ทำไมคุณอย่าพูดแบบนั้นล่ะคะ”
“ตอนนี้สุขภาพของคุณปู่ย่ำแย่มาก ผลการตรวจร่างกายครั้งล่าสุดการทำงานของหัวใจคุณปู่ไม่ค่อยดีเลย ครั้นจะผ่าตัดท่านก็อายุมากแล้วคุณหมอเลยแนะนำให้ประคับประคองไปก่อน ถ้าท่านมีเรื่องเครียดหรือเรื่องอะไรไม่สบายใจมันก็จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของท่าน ย่ากลัวว่าท่านจะจากเราไปเร็วกว่าที่ย่าคิดไว้” คุณย่าประไพพูดเสียงสั่นเมื่อนึกถึงคำพูดของคุณหมอครั้งล่าสุด
“คุณย่าคะถ้าหนูไม่แต่งงานหนูจะกลายเป็นหลานเนรคุณไหมคะ”
“ไม่มีใครว่าหนูแบบนั้นหรอกคนทุกคนเคารพการตัดสินใจของหนู มันขึ้นอยู่กับหนูว่าหนูจะตัดสินใจยังไง”
“หนูคิดว่าการแต่งงานมันเป็นเรื่องไกลตัวมากๆ แต่หนูก็เป็นห่วงสุขภาพของคุณปู่ด้วย หนูจะลองไปคุยกับเขาก่อนนะคะ ถ้าเขายอมทำตามที่หนูเสนอหนูก็จะแต่งงานกับเขาค่ะ”
“ขอบใจมากนะลูกที่พยายามทำเพื่อคุณปู่”
มญชุ์ชัญญามองหน้าทินภัทรเธอลังเลเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าตอบตกลง“ชัญญ่าของพี่น่ารักที่สุด”ทินภัทรกระซิบเบาๆ ก่อนจะกดริมฝีปากร้อนลงบนเรียวปากอิ่มอย่างแผ่วเบา ปลายลิ้นร้อนไล้ไปบนกลีบปากนุ่มที่เม้มเข้าหากันแน่นแต่ไม่นานก็เผยอออกเพราะมือร้อนเลื่อนมากอบกุมหน้าอกอวบอิ่มเคล้นคลึงจนหญิงสาวรู้สึกเสียวซ่านและเผยอปากเปิดโอกาสให้เขาส่งปลายลิ้นเข้าไปในโพรงปากเล็กปลายลิ้นร้อนตวัดไล่ต้อนปลายลิ้นเล็ก เมื่อเธอพยายามหลบหลีกก็กลายเป็นหยอกเย้ากระตุ้นให้เขาเปลี่ยนจากจูบหวานเป็นจูบที่เร่าร้อนและหนักหน่วงมากขึ้น ร่างกายของมญชุ์ชัญญาอ่อนระทวยไปกับจูบรสที่ชายหนุ่มมอบให้ หญิงสาวปล่อยกายปล่อยใจไปกับอารมณ์พิศวาสที่เขาปลุกเร้าขึ้นอย่างเต็มที่มญชุ์ชัญญาคล้องแขนไปบนลำคอแกร่งจูบตอบเขาไปตามอารมณ์ความรู้สึกแม้จะเคยจูบกับเขาแค่ไม่กี่ครั้งแต่ก็เรียนรู้จากการกระทำของเขาได้เป็นอย่างดี“จูบเก่งขึ้นแล้วนะ”ชายหนุ่มผละจูบออกแล้วกระซิบจากนั้นก็กดจูบลงไปอีกครั้งอย่างหิวกระหายเพราะตั้งแต่กลับมาจากเสม็ดก็ยังไม่ได้ใกล้ชิดกับมญชุ์ชัญญาเลยสักครั้งหญิงสาวกำลังเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบที่ทินภัทรมอบให้ ลิ้นเล็กเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นใหญ่หย
มญชุ์ชัญญาเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนก็เห็นว่าตอนนี้สามีของเธอนั้นทำงานเสร็จแล้วเขานั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์เล็กๆ ในห้องนอนในมือถือแก้วเครื่องดื่ม เมื่อเห็นแบบนั้นมญชุ์ชัญญาก็ไม่อยากจะเข้ากันเลยเพราะยังรู้สึกเข็ดกับเรื่องคืนนั้นตั้งแต่กลับมาจากสมุยเธอกับทินภัทรก็ยังไม่เคยนอนด้วยกันอีกเลย แม้ว่าจะนอนเตียงเดียวกันแต่มญชุ์ชัญญาก็บอกเขาว่าตนเองยังไม่พร้อมเพราะร่างกายยังไม่หายดีร้อยเปอร์เซ็นต์ทินภัทรก็ไม่ได้บังคับหรือทำให้เธอรู้สึกอึดอัดอะไรแต่หญิงสาวก็คิดว่าเธอจะบอกเขาแบบนี้ไม่ได้ตลอด“ชัญญ่ามาดื่มด้วยกันไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ทินอยากออกไปดื่มข้างนอกกับเพื่อนไหมคะ”“ทำไมถึงอยากให้พี่ไปดื่มข้างนอกล่ะ”“ก็ตั้งแต่แต่งานพี่ไม่เคยออกไปสังสรรค์กับเพื่อนเลย อยู่แต่บ้านไม่เบื่อเหรอคะ ถ้าพี่จะออกไปดื่มชัญญ่าไม่ว่าหรอกนะคะ”“ตอนนี้พี่ยังไม่อยากออกไป เอาไว้คืนไหนพี่อยากจะออกไปดื่มพี่จะบอกชัญญ่าและจะพาชัญญ่าไปด้วย”“ไปดื่มกับเพื่อนจะพาชัญญ่าไปทำไมคะ”“ทำไมจะพาไปไม่ได้ล่ะ”“ก็ถ้าพาไปด้วยพี่กับเพื่อนก็คงจะเกรงใจและคุยกันไม่สนุก ชัญญ่าไม่อยากให้พี่อึดอัด”“พี่ไม่เคยอึดอัดเลยนะ แล้วชัญญ่าล่ะอึดอัดไหมที่มาอย
กลับมาจากสมุยความสัมพันธ์ของมญชุ์ชัญญาและทินภัทรก็พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นทั้งสองพูดคุยกันเหมือนคู่แต่งงานปกติซึ่งคุณย่าอรุณีก็สังเกตได้เธอ จึงอยากจะให้ทั้งสองคนได้ใช้ชีวิตด้วยกันตามลำพังมากขึ้นและหวังว่าเร็วๆ นี้จะมีเหลนให้อุ้มก่อนที่เธอจะอายุมากจนไม่มีแรงจะช่วยเลี้ยง“ช่วงนี้งานที่บริษัทเป็นยังไงบ้างทิน” คุณย่าอรุณีถามในค่ำวันหนึ่งขณะที่ทุกคนนั่งคุยกันอยู่ในห้องรับแขก“ช่วงนี้งานไม่ค่อยยุ่งเท่าไหร่ครับคุณย่ามีอะไรหรือเปล่า”“ถ้างานไม่ยุ่งย่าก็คิดว่าทินน่าจะหาเวลาว่างพาหนูชัญญ่าไปฮันนีมูนได้แล้วนะ นี่ก็แต่งงานกันมาเกือบจะหนึ่งเดือนแล้ว”“เราไปสมุยมาแล้วนะคะคุณย่า”“นั้นเขาเรียกไปฮันนีมูนที่ไหนล่ะ”“ผมก็คิดเรื่องนี้อยู่เหมือนกันครับ แต่ยังไม่รู้ว่าจะพาไปที่ไหนชัญญ่าล่ะอยากไปเที่ยวที่ไหน”“เราไม่ต้องไปฮันนีมูนก็ได้นะคะ ชัญญ่าไม่อยากให้พี่เสียงาน”“ไม่เสียงานหรอก พี่ว่าแต่งงานกันแล้วก็ต้องมีเวลาอยู่ด้วยกัน”“ไปเที่ยวกันให้เต็มที่เลยนะเรื่องค่าใช้จ่ายย่าจะเป็นคนจัดการเอง”“ผมไม่รบกวนคุณย่าหรอกครับเรื่องนี้ให้ผมจัดการเองดีกว่า ว่าแต่ชัญญ่าเถอะมีที่ไหนอยากไปเป็นพิเศษหรือเปล่า ไปทั่วยุโรปไหมไป
“พี่คิดว่าชัญญ่ากำลังเข้าใจเรื่องทั้งหมดผิดนะ”“เข้าใจผิดยังไงคะ” มญชุ์ชัญญามองหน้าเขาแล้วรู้สึกถึงความผิดปกติเมื่อเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขา“ชัญญ่าคิดว่าเมื่อคืนพี่เมาและจำอะไรไม่ได้ใช่ไหม”“ค่ะ”“คนเมาที่ไหนเขาจะทำเรื่องแบบนั้นได้และพี่ก็ดื่มไปแค่แก้วสองแก้วเองไม่ได้เมาเลยสักนิด”“แล้วทำไมพนักงานถึงหิ้วปีกพี่กลับมาแบบนั้นล่ะ” เธอมองหน้าด้วยความสงสัย“พี่ขอโทษทีทำให้ชัญญ่าเข้าใจผิดว่าพี่เมา แต่ถ้าพี่ไม่ทำอย่างนั้นชัญญาจะยอมให้พี่ใกล้ชิดและจะยอมนอนกับพี่เหรอ”“พี่ทินใจร้ายมาก พี่ทำร้ายความรู้สึกของชัญญ่าทำไมพี่ต้องทำแบบนั้นด้วย”“พี่ขอโทษพี่รู้ว่าพี่ผิดแล้วพี่ก็ยินดีรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดที่มันเกิดขึ้น เรายกเลิกสัญญาการแต่งงานตามพินัยกรรมนะแล้วคบกันอย่างจริงจัง”“พี่ทำแบบนี้กับชัญญ่าแล้วยังจะมาพูดแบบนี้อีกเหรอ พี่กำลังล้อเล่นความรู้สึกของชัญญ่า พี่คงสนุกมากใช่ไหม” เสียงที่พูดปนสะอื้นที่ถามออกมาทำให้ทินภัทรรู้สึกผิดมาก“ชัญญ่ากำลังเข้าใจพี่ผิดนะ พี่ไม่ได้ล้อเล่นกับความรู้สึกของชัญญ่าเลยนะ พี่รู้สึกดีกับชัญญ่าจริงๆ”“พี่พูดออกมาเพราะอยากจะรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นใช่ไหมคะ สำหรับชัญ
ทินภัทรรู้ดีว่ามญชุ์ชัญญานั้นเพิ่งนอนพักได้ไม่กี่ชั่วโมงและคิดว่าเธอน่าจะต้องการเวลาพักผ่อนเพิ่มขึ้นอีกสักนิดชายหนุ่มพามญชุ์ชัญญามารับประทานอาหารเช้าที่ร้านของรีสอร์ท ขณะที่นั่งทานทินภัทรแอบสังเกตว่าวันนี้หญิงสาวดูเงียบผิดปกติและพยายามหลบสายตาของเขาตลอด ทินภัทรอยากจะพูดเรื่องเมื่อคืนแต่ก็ยังไม่รู้จะเริ่มต้นพูดยังไง เขาคงต้องเรียบเรียงคำพูดอีกนิดก่อนจะบอกกับเธอว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้เมาและจำเรื่องทุกอย่างได้ดี“ชัญญ่าทำไมวันนี้กินนิดเดียวล่ะ อาหารไม่อร่อยเหรอ ให้พี่พาไปกินร้านข้างนอกไหม”“อาหารอร่อยค่ะ ชัญญ่าไม่ค่อยจะหิวเท่าไหร่”“ถ้าอย่างนั้นเรากลับไปพักที่รีสอร์ทกันดีไหม”“ค่ะ” หญิงสาวพูดแล้วลุกขึ้นเดินตามทินภัทรออกมาจากห้องอาหารของทางรีสอร์ท“กลางวันนี้ชัญญ่าอยากจะกินอาหารร้านไหน หรือไปกินอะไรคิดไว้หรือยัง”“พี่ทินคะเราเพิ่งกินมื้อเช้ายังไม่ถึงสิบนาทีพี่ถามถึงมื้อกลางวันแล้วชัญญ่าคิดไม่ออกหรอกค่ะ”“คิดไม่ออกก็ไม่เป็นไร พี่ว่าเราขับรถไปหาอะไรร้านอาหารบรรยากาศดีๆ กันดีกว่าเจอร้านไหนถูกใจเราก็แวะแล้วช่วงเย็นก็กลับเล่นน้ำที่หน้าชายหาดกันนะ อยากเล่นน้ำทะเลไหม”“อยากค่ะ” มญชุ์ชัญญามองชายหาด
มญชุ์ชัญญาเผลอครางกระเส่าเมื่อความเสียวแผ่ซ่านไปทั่วร่างสองมือจับไหล่หนาไว้แน่น อกอิ่มแอ่นเข้าหากร้อนด้วยความซ่านรัญจวนอย่างห้ามไม่อยู่ เขาดูดกินโดยไม่รู้สึกเบื่อ ท่อนเอ็นขยับเข้าออกจากเบาเป็นหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ หัวแม่มือเขี่ยยอดเกสรสวาทเป็นจังหวะ“พี่ทินขา ชัญญ่าเสียวเร็วกว่านี้ได้ไหม”ในที่สุดหญิงสาวก็ทนไม่ไหว เสียงกระซิบที่ข้างหูเต็มไปด้วยแรงปรารถนาอยากให้เขาช่วยปลดปล่อยเสียงนั้นกระตุ้นให้ทินภัทรกระหน่ำแรงใส่เธออย่างบ้าคลั่ง สะโพกกลมกลึงส่ายร่อนรับความกับท่อนเอ็นร้อนที่กระแทกเข้าหาไปตามอารมณ์ที่ไม่อาจควบคุมตัวเองได้“อ่า....ดีมากชัญญ่า ตอดแรงแบบนี้พี่เสียวมากชัญญ่าของพี่เก่งที่สุด”เขาครางแหบต่ำเมื่อร่องสวาทของหญิงสาวตอดรัดอย่างแรง ทินภัทรก็รู้สึกทรมานและต้องการปลดปล่อยเป็นอย่างมาก หญิงสาวเองก็ไม่ต่างกันเลยมญชุ์ชัญญาหอบหายใจถี่ หน้าอกอวบอิ่มแอ่นโค้งปรนเปรอความหิวกระหายของชายหนุ่มด้วยความเต็มใจ เมื่อเขาทั้งกัดทั้งดูดเธอก็เกร็งสะท้านทินภัทรผละจากเต้างามแล้วจับขาข้างหนึ่งของเธอขึ้นพาดไว้บนไหล่กว้างก่อนจะกระแทกเข้าหาร่องรักอย่างดุเดือด“อื้อพี่ทิน.....”“อ่าส์ ตอดแรงแบบนี้ถึงใจพี่ที