เมื่อเห็นว่าหญิงสาวสนใจคอนโดมิเนียมจริงๆ ทินภัทรเลยรับปากว่าจะลองถามผู้ซื้อคนก่อนๆ ให้ว่ามีใครอยากจะปล่อยห้องต่อบ้างแล้วเขาจะติดต่อเธอมาอีกที
ที่ชายหนุ่มยังไม่ตัดสินใจขายก็เพราะเขาอยากจะรู้จักเธอให้มากขึ้นกว่านี้อีกนิด เพราะถ้าต้องขายห้องให้กับเธอแล้วเขาก็อยากจะมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาปัญหาอะไรตามมาทีหลัง
หลังจากทานอาหารเสร็จทั้งสองก็บอกลากันที่หน้าร้าน
“แล้วผมจะติดต่อไปนะครับ”
“ได้ค่ะ หวังว่าคุณทินจะมีข่าวดีให้ชัญญ่านะคะ”
“ครับ ขับรถกลับบ้านดีๆ นะครับ”
“เช่นกันค่ะ ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้นะคะ”
มญชุ์ชัญญาขับรถกลับมาที่บ้านที่ตนเองอาศัยอยู่ตั้งแต่เกิดแต่ตอนนี้หญิงสาวรู้สึกว่าสมาชิกในบ้านนั้นมากเกินจนเธอแทบไม่มีเวลาส่วนตัวเลย
“อาชัญญ่าขาทำไมวันนี้กลับช้าจังเลยคะ น้องหมิวคิดถึงอาชัญญ่าที่สุดเลยค่ะ” น้องหมิวเด็กน้อยวัยห้าขวบลูกสาวของพี่ชายคนโตวิ่งเข้ามาหามญชุ์ชัญญาเมื่อเธอเดินเข้ามาในบ้าน
“อาไปทำธุระมาค่ะ น้องหมิวทำการบ้านเสร็จแล้วเหรอคะ”
“เสร็จแล้วค่ะ อาชัญญ่าเล่านิทานให้น้องหมิวฟังหน่อยได้มั้ยคะ”
“อาขอไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อนได้ไหมคะ อาเพิ่งมาจากข้างนอกตอนนี้มีแต่เหงื่อเลยค่ะ ตัวอาเหม็นมาก”
“ไม่เหม็นเลยค่ะตัวอาชัญญ่าห้อมหอมกว่าคุณแม่อีกนะคะ”
“น้องหมิวอย่าพูดแบบนี้สิคะ ถ้าเกิดคุณแม่ได้ยินจะเสียใจนะ” เธอรีบกระซิบกับหลานสาว
“ก็น้องหมิวพูดจริง อาชัญญ่าสวยแล้วตัวก็หอมมากเลยค่ะ” เด็กสาวพูดพร้อมกับหอมแก้มคุณอาสาวอย่างประจบ
“ชัญญ่าไปไหนมาเหรอลูก” คุณวารีถามลูกสาวคนเล็กซึ่งปกติแล้วจะต้องมารับประทานอาหารค่ำด้วยกันแต่วันนี้เธอโทรศัพท์มาบอกผู้เป็นมารดาว่าจะกลับมาบ้านช้าหน่อยให้ทุกคนทานอาหารเย็นได้เลย
“หนูไปกินข้าวกับเพื่อนมาค่ะ”
“เพื่อนแน่นะไม่ใช่แอบมีแฟนล่ะ”
“แม่ขาหนูเพิ่งกลับมาเมืองไทยจะมีแฟนที่ไหนกันล่ะ”
“ไม่มีก็ดีแล้ว แม่มีเรื่องอยากจะคุยกับชัญญ่าหน่อยนะ เดี๋ยวอาบน้ำแล้วเข้าไปคุยกับแม่ในห้องทำงานของคุณพ่อนะ”
“เรื่องสำคัญเหรอคะแม่ ทำไมต้องเข้าไปคุยในห้องทำงานด้วยคุยกันตรงนี้ก็ได้”
“เรื่องสำคัญจ้ะ หนูรีบอาบน้ำเถอะเดี๋ยวจะได้คุยกัน”
“ได้ค่ะแม่” มญชุ์ชัญญาก้มลงหอมแก้มหลานสาวตัวน้อยก่อนจะขึ้นไปอาบน้ำ
เธอพอจะรู้มาว่าเรื่องที่มารดาจะคุยนั้นเป็นเรื่องอะไร หญิงสาวอาบน้ำเสร็จก็เคาะประตูห้องทำงานของผู้เป็นบิดาเมื่อเปิดเข้ามาด้านในก็เห็นว่าตอนนี้นอกจากบิดามารดาของตนเองแล้วยัง ยังมีคุณปู่กับคุณย่าอยู่ด้านในด้วย
“สงสัยจะเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ ใช่ไหมคะทุกคนถึงอยู่กันพร้อมหน้าแบบนี้”
“ใช่จ้ะ หนูมานั่งกับย่าตรงนี้นะลูก”
“ค่ะคุณย่า” มญชุ์ชัญญาเดินไปนั่งกับคุณย่าไพลิน
“ชัญญ่าพร้อมจะฟังเรื่องที่ปู่จะพูดแล้วใช่มั้ยลูก”
“คุณปู่จะพูดเรื่องอะไรคะ”
“ก็เรื่องการแต่งงานของหนูไงล่ะลูก”
“การแต่งงานของหนูเหรอคะคุณปู่” มญชุ์ชัญญาพอรู้มาว่าคุณปู่อยากจะให้เธอแต่งงานซึ่งคุณปู่ก็เคยพูดเรื่องนี้ไว้ก่อนที่เธอจะไปเรียนต่อต่างประเทศ
หญิงสาวคิดว่าทุกคนจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วเพราะตอนที่เธอกลับมาถึงเมืองไทยใหม่ๆ ก็ไม่ได้มีใครพูดถึงเรื่องนี้เลย
“หนูนึกว่าคุณปู่จะเปลี่ยนใจแล้วนะคะ”
“ไม่เปลี่ยนใจหรอกแต่ที่ปู่ยังไม่พูดตอนที่หนูกลับมาถึงบ้านเพราะปู่อยากให้หนูได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระก่อน”
“คุณปู่ขาหนูเพิ่งกลับมาจากอังกฤษได้แค่สองเดือนเองนะคะขอเวลาหน่อยได้ไหมหนูยังไม่อยากแต่งงาน”
“หนูไม่อยากแต่งแต่หนูก็จำเป็นต้องแต่ง”
“ทำไมหนูจะต้องแต่งด้วยล่ะคะคุณปู่ หนูว่าอยู่เป็นโสดแบบนี้มันก็ดีมากๆ หรือคุณปู่กับคุณย่าและคุณพ่อคุณแม่ไม่อยากจะเลี้ยงดูหนูแล้วถึงอยากจะให้หนูแต่งงาน” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนกำลังน้อยใจ
“ไม่มีใครคิดแบบนั้นเลยแต่ที่ปู่อยากจะให้แต่งก็เพราะอยากจะทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อนน่ะ”
“เพื่อนคุณปู่ใครคะ”
“ก็คุณปู่สุทัศน์ไงล่ะ”
“หนูรู้มาว่าท่านเสียชีวิตไปแล้ว ทำไมคุณปู่ยังจะยึดกับสัญญาอีกล่ะ”
“มันไม่ใช่แค่เพียงสัญญาหรอกนะ ตอนนี้พินัยกรรมของคุณปู่สุทัศน์เปิดออกมาแล้วในพินัยกรรมระบุว่าหนูต้องแต่งงานกับหลานชายของเขา”
“พินัยกรรมของบ้านนั้นมันเกี่ยวอะไรกับหนูคะ”
“ปู่จะอธิบายให้ฟังนะ พินัยกรรมของปู่สุทัศน์บอกว่าจะให้หลานชายของเขาแต่งงานกับหนูและมีลูกด้วยกันหนึ่งคนแล้วสมบัติของคุณปู่สุทัศน์จะตกเป็นของหลานชายแต่ถ้าหนูไม่แต่งงานกับเขาสมบัติทุกอย่างจะตกมาเป็นของหนู”
“มีพินัยกรรมแปลกๆ แบบนี้ด้วยเหรอคะ”
“ใช่จ้ะ”
“คุณปู่คะแล้วถ้าหนูไม่ยอมแต่งงานล่ะ”
“มันก็เป็นสิทธิ์ของหนูนะแต่สมบัติทั้งหมดของเขาก็จะเป็นของหนู หนูคิดว่าจะรับสมบัติทั้งหมดได้ไหม”
“ถ้าหนูไม่แต่งงานแต่หนูเซ็นยกสมบัติคืนให้เขาได้ไหมคะ หนูยังไม่พร้อมที่จะแต่งงานหรือมีครอบครัว”
“มันเป็นไปไม่ได้หรอกลูกทุกคนต้องทำตามเงื่อนไขในพินัยกรรม”
“แต่เราเป็นคนนอกนะคะคุณปู่ทำไมจะต้องทำตามด้วย” หญิงสาวมองไม่เห็นเหตุผลอะไรที่เธอจะต้องทำตามเลย
“เพราะปู่สุทัศน์เป็นเพื่อนสนิทของปู่และก็เป็นคนที่มีบุญคุณกับปู่มาก ปู่ก็อยากให้ทุกคนทำตามพินัยกรรม ปู่อยากให้เราสองครอบครัวมีทายาทเพื่อสืบสกุล”
“แล้วทำไมต้องเป็นหนูด้วยล่ะคะ”
“ก็เพราะทางนั้นเขามีแต่หลานผู้ชายนี่”
“คุณปู่คะ นี่มันปีไหนแล้วไม่มีใครเขาคลุมถุงชนกันหรอกค่ะ”
“หนูจะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกนะ ลูกเพราะเราจะพาหนูไปเจอพี่เขาก่อนให้หนูทำความรู้จักพี่เขาสักนิดแล้วค่อยแต่งงานกัน” คุณย่าประไพอธิบายเพิ่ม
“แต่มันจะมีประโยชน์อะไรล่ะคะเพราะสุดท้ายหนูก็ต้องแต่งงานใช่ไหม แม่คะแม่ช่วยหนูได้ไหม”
“แม่เข้าใจหนูนะลูกแต่เรื่องนี้แม่ช่วยหนูไม่ได้จริงๆ”
“ชัญญ่าถ้าหนูลำบากใจมากหนูไม่ต้องแต่งก็ได้นะลูก ลืมเรื่องคำสัญญาที่ปู่มีให้กับเพื่อนไปก็ได้ แล้วก็เอาสมบัติของเขามาตามที่พินัยกรรมระบุ ยังไงเพื่อนของปู่ก็ตายไปแล้ว คงมาต่อว่าปู่ไม่ได้ เอาไว้ปู่ตายไปปู่จะไปขอโทษและอธิบายกับเขาเอง” คุณอำนาจพูดอย่างปลงตกที่ตนเองไม่สามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อนรักได้อย่างที่รับปากไว้
ก่อนที่คุณสุทัศน์จะเสียชีวิตเขาได้พูดเรื่องนี้และฝากให้จัดการทุกอย่างต่อเพราะอยากให้ทั้งสองครอบครัวได้เป็นทองแผ่นเดียวกัน เนื่องจากคุณสุทัศน์กลัวว่าหลานชายจะไปคว้าเอาผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าเข้ามาเป็นสะใภ้และตนเองก็รับปากเพื่อนไว้แล้วว่าจะยกหลานสาวให้
“คุณค่ะ อย่าคิดมากเลยฉันเชื่อว่าเพื่อนของคุณจะเข้าใจค่ะ” ย่าประไพปลอบใจสามี
“ผมก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้นนะ”
“เอาล่ะย่าว่าเราคุยกันแค่นี้ก่อนดีกว่านะ คุณปู่ถึงเวลาพักผ่อนแล้ววิทยากับวารีพาพ่อขึ้นข้างบนหน่อยนะ”
“ค่ะคุณแม่”
มญชุ์ชัญญามองหน้าทินภัทรเธอลังเลเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าตอบตกลง“ชัญญ่าของพี่น่ารักที่สุด”ทินภัทรกระซิบเบาๆ ก่อนจะกดริมฝีปากร้อนลงบนเรียวปากอิ่มอย่างแผ่วเบา ปลายลิ้นร้อนไล้ไปบนกลีบปากนุ่มที่เม้มเข้าหากันแน่นแต่ไม่นานก็เผยอออกเพราะมือร้อนเลื่อนมากอบกุมหน้าอกอวบอิ่มเคล้นคลึงจนหญิงสาวรู้สึกเสียวซ่านและเผยอปากเปิดโอกาสให้เขาส่งปลายลิ้นเข้าไปในโพรงปากเล็กปลายลิ้นร้อนตวัดไล่ต้อนปลายลิ้นเล็ก เมื่อเธอพยายามหลบหลีกก็กลายเป็นหยอกเย้ากระตุ้นให้เขาเปลี่ยนจากจูบหวานเป็นจูบที่เร่าร้อนและหนักหน่วงมากขึ้น ร่างกายของมญชุ์ชัญญาอ่อนระทวยไปกับจูบรสที่ชายหนุ่มมอบให้ หญิงสาวปล่อยกายปล่อยใจไปกับอารมณ์พิศวาสที่เขาปลุกเร้าขึ้นอย่างเต็มที่มญชุ์ชัญญาคล้องแขนไปบนลำคอแกร่งจูบตอบเขาไปตามอารมณ์ความรู้สึกแม้จะเคยจูบกับเขาแค่ไม่กี่ครั้งแต่ก็เรียนรู้จากการกระทำของเขาได้เป็นอย่างดี“จูบเก่งขึ้นแล้วนะ”ชายหนุ่มผละจูบออกแล้วกระซิบจากนั้นก็กดจูบลงไปอีกครั้งอย่างหิวกระหายเพราะตั้งแต่กลับมาจากเสม็ดก็ยังไม่ได้ใกล้ชิดกับมญชุ์ชัญญาเลยสักครั้งหญิงสาวกำลังเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบที่ทินภัทรมอบให้ ลิ้นเล็กเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นใหญ่หย
มญชุ์ชัญญาเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนก็เห็นว่าตอนนี้สามีของเธอนั้นทำงานเสร็จแล้วเขานั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์เล็กๆ ในห้องนอนในมือถือแก้วเครื่องดื่ม เมื่อเห็นแบบนั้นมญชุ์ชัญญาก็ไม่อยากจะเข้ากันเลยเพราะยังรู้สึกเข็ดกับเรื่องคืนนั้นตั้งแต่กลับมาจากสมุยเธอกับทินภัทรก็ยังไม่เคยนอนด้วยกันอีกเลย แม้ว่าจะนอนเตียงเดียวกันแต่มญชุ์ชัญญาก็บอกเขาว่าตนเองยังไม่พร้อมเพราะร่างกายยังไม่หายดีร้อยเปอร์เซ็นต์ทินภัทรก็ไม่ได้บังคับหรือทำให้เธอรู้สึกอึดอัดอะไรแต่หญิงสาวก็คิดว่าเธอจะบอกเขาแบบนี้ไม่ได้ตลอด“ชัญญ่ามาดื่มด้วยกันไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ทินอยากออกไปดื่มข้างนอกกับเพื่อนไหมคะ”“ทำไมถึงอยากให้พี่ไปดื่มข้างนอกล่ะ”“ก็ตั้งแต่แต่งานพี่ไม่เคยออกไปสังสรรค์กับเพื่อนเลย อยู่แต่บ้านไม่เบื่อเหรอคะ ถ้าพี่จะออกไปดื่มชัญญ่าไม่ว่าหรอกนะคะ”“ตอนนี้พี่ยังไม่อยากออกไป เอาไว้คืนไหนพี่อยากจะออกไปดื่มพี่จะบอกชัญญ่าและจะพาชัญญ่าไปด้วย”“ไปดื่มกับเพื่อนจะพาชัญญ่าไปทำไมคะ”“ทำไมจะพาไปไม่ได้ล่ะ”“ก็ถ้าพาไปด้วยพี่กับเพื่อนก็คงจะเกรงใจและคุยกันไม่สนุก ชัญญ่าไม่อยากให้พี่อึดอัด”“พี่ไม่เคยอึดอัดเลยนะ แล้วชัญญ่าล่ะอึดอัดไหมที่มาอย
กลับมาจากสมุยความสัมพันธ์ของมญชุ์ชัญญาและทินภัทรก็พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นทั้งสองพูดคุยกันเหมือนคู่แต่งงานปกติซึ่งคุณย่าอรุณีก็สังเกตได้เธอ จึงอยากจะให้ทั้งสองคนได้ใช้ชีวิตด้วยกันตามลำพังมากขึ้นและหวังว่าเร็วๆ นี้จะมีเหลนให้อุ้มก่อนที่เธอจะอายุมากจนไม่มีแรงจะช่วยเลี้ยง“ช่วงนี้งานที่บริษัทเป็นยังไงบ้างทิน” คุณย่าอรุณีถามในค่ำวันหนึ่งขณะที่ทุกคนนั่งคุยกันอยู่ในห้องรับแขก“ช่วงนี้งานไม่ค่อยยุ่งเท่าไหร่ครับคุณย่ามีอะไรหรือเปล่า”“ถ้างานไม่ยุ่งย่าก็คิดว่าทินน่าจะหาเวลาว่างพาหนูชัญญ่าไปฮันนีมูนได้แล้วนะ นี่ก็แต่งงานกันมาเกือบจะหนึ่งเดือนแล้ว”“เราไปสมุยมาแล้วนะคะคุณย่า”“นั้นเขาเรียกไปฮันนีมูนที่ไหนล่ะ”“ผมก็คิดเรื่องนี้อยู่เหมือนกันครับ แต่ยังไม่รู้ว่าจะพาไปที่ไหนชัญญ่าล่ะอยากไปเที่ยวที่ไหน”“เราไม่ต้องไปฮันนีมูนก็ได้นะคะ ชัญญ่าไม่อยากให้พี่เสียงาน”“ไม่เสียงานหรอก พี่ว่าแต่งงานกันแล้วก็ต้องมีเวลาอยู่ด้วยกัน”“ไปเที่ยวกันให้เต็มที่เลยนะเรื่องค่าใช้จ่ายย่าจะเป็นคนจัดการเอง”“ผมไม่รบกวนคุณย่าหรอกครับเรื่องนี้ให้ผมจัดการเองดีกว่า ว่าแต่ชัญญ่าเถอะมีที่ไหนอยากไปเป็นพิเศษหรือเปล่า ไปทั่วยุโรปไหมไป
“พี่คิดว่าชัญญ่ากำลังเข้าใจเรื่องทั้งหมดผิดนะ”“เข้าใจผิดยังไงคะ” มญชุ์ชัญญามองหน้าเขาแล้วรู้สึกถึงความผิดปกติเมื่อเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขา“ชัญญ่าคิดว่าเมื่อคืนพี่เมาและจำอะไรไม่ได้ใช่ไหม”“ค่ะ”“คนเมาที่ไหนเขาจะทำเรื่องแบบนั้นได้และพี่ก็ดื่มไปแค่แก้วสองแก้วเองไม่ได้เมาเลยสักนิด”“แล้วทำไมพนักงานถึงหิ้วปีกพี่กลับมาแบบนั้นล่ะ” เธอมองหน้าด้วยความสงสัย“พี่ขอโทษทีทำให้ชัญญ่าเข้าใจผิดว่าพี่เมา แต่ถ้าพี่ไม่ทำอย่างนั้นชัญญาจะยอมให้พี่ใกล้ชิดและจะยอมนอนกับพี่เหรอ”“พี่ทินใจร้ายมาก พี่ทำร้ายความรู้สึกของชัญญ่าทำไมพี่ต้องทำแบบนั้นด้วย”“พี่ขอโทษพี่รู้ว่าพี่ผิดแล้วพี่ก็ยินดีรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดที่มันเกิดขึ้น เรายกเลิกสัญญาการแต่งงานตามพินัยกรรมนะแล้วคบกันอย่างจริงจัง”“พี่ทำแบบนี้กับชัญญ่าแล้วยังจะมาพูดแบบนี้อีกเหรอ พี่กำลังล้อเล่นความรู้สึกของชัญญ่า พี่คงสนุกมากใช่ไหม” เสียงที่พูดปนสะอื้นที่ถามออกมาทำให้ทินภัทรรู้สึกผิดมาก“ชัญญ่ากำลังเข้าใจพี่ผิดนะ พี่ไม่ได้ล้อเล่นกับความรู้สึกของชัญญ่าเลยนะ พี่รู้สึกดีกับชัญญ่าจริงๆ”“พี่พูดออกมาเพราะอยากจะรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นใช่ไหมคะ สำหรับชัญ
ทินภัทรรู้ดีว่ามญชุ์ชัญญานั้นเพิ่งนอนพักได้ไม่กี่ชั่วโมงและคิดว่าเธอน่าจะต้องการเวลาพักผ่อนเพิ่มขึ้นอีกสักนิดชายหนุ่มพามญชุ์ชัญญามารับประทานอาหารเช้าที่ร้านของรีสอร์ท ขณะที่นั่งทานทินภัทรแอบสังเกตว่าวันนี้หญิงสาวดูเงียบผิดปกติและพยายามหลบสายตาของเขาตลอด ทินภัทรอยากจะพูดเรื่องเมื่อคืนแต่ก็ยังไม่รู้จะเริ่มต้นพูดยังไง เขาคงต้องเรียบเรียงคำพูดอีกนิดก่อนจะบอกกับเธอว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้เมาและจำเรื่องทุกอย่างได้ดี“ชัญญ่าทำไมวันนี้กินนิดเดียวล่ะ อาหารไม่อร่อยเหรอ ให้พี่พาไปกินร้านข้างนอกไหม”“อาหารอร่อยค่ะ ชัญญ่าไม่ค่อยจะหิวเท่าไหร่”“ถ้าอย่างนั้นเรากลับไปพักที่รีสอร์ทกันดีไหม”“ค่ะ” หญิงสาวพูดแล้วลุกขึ้นเดินตามทินภัทรออกมาจากห้องอาหารของทางรีสอร์ท“กลางวันนี้ชัญญ่าอยากจะกินอาหารร้านไหน หรือไปกินอะไรคิดไว้หรือยัง”“พี่ทินคะเราเพิ่งกินมื้อเช้ายังไม่ถึงสิบนาทีพี่ถามถึงมื้อกลางวันแล้วชัญญ่าคิดไม่ออกหรอกค่ะ”“คิดไม่ออกก็ไม่เป็นไร พี่ว่าเราขับรถไปหาอะไรร้านอาหารบรรยากาศดีๆ กันดีกว่าเจอร้านไหนถูกใจเราก็แวะแล้วช่วงเย็นก็กลับเล่นน้ำที่หน้าชายหาดกันนะ อยากเล่นน้ำทะเลไหม”“อยากค่ะ” มญชุ์ชัญญามองชายหาด
มญชุ์ชัญญาเผลอครางกระเส่าเมื่อความเสียวแผ่ซ่านไปทั่วร่างสองมือจับไหล่หนาไว้แน่น อกอิ่มแอ่นเข้าหากร้อนด้วยความซ่านรัญจวนอย่างห้ามไม่อยู่ เขาดูดกินโดยไม่รู้สึกเบื่อ ท่อนเอ็นขยับเข้าออกจากเบาเป็นหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ หัวแม่มือเขี่ยยอดเกสรสวาทเป็นจังหวะ“พี่ทินขา ชัญญ่าเสียวเร็วกว่านี้ได้ไหม”ในที่สุดหญิงสาวก็ทนไม่ไหว เสียงกระซิบที่ข้างหูเต็มไปด้วยแรงปรารถนาอยากให้เขาช่วยปลดปล่อยเสียงนั้นกระตุ้นให้ทินภัทรกระหน่ำแรงใส่เธออย่างบ้าคลั่ง สะโพกกลมกลึงส่ายร่อนรับความกับท่อนเอ็นร้อนที่กระแทกเข้าหาไปตามอารมณ์ที่ไม่อาจควบคุมตัวเองได้“อ่า....ดีมากชัญญ่า ตอดแรงแบบนี้พี่เสียวมากชัญญ่าของพี่เก่งที่สุด”เขาครางแหบต่ำเมื่อร่องสวาทของหญิงสาวตอดรัดอย่างแรง ทินภัทรก็รู้สึกทรมานและต้องการปลดปล่อยเป็นอย่างมาก หญิงสาวเองก็ไม่ต่างกันเลยมญชุ์ชัญญาหอบหายใจถี่ หน้าอกอวบอิ่มแอ่นโค้งปรนเปรอความหิวกระหายของชายหนุ่มด้วยความเต็มใจ เมื่อเขาทั้งกัดทั้งดูดเธอก็เกร็งสะท้านทินภัทรผละจากเต้างามแล้วจับขาข้างหนึ่งของเธอขึ้นพาดไว้บนไหล่กว้างก่อนจะกระแทกเข้าหาร่องรักอย่างดุเดือด“อื้อพี่ทิน.....”“อ่าส์ ตอดแรงแบบนี้ถึงใจพี่ที