เขาต้องแต่งงานกับเธอเพราะพินัยกรรม แต่เมื่อได้เจอก็รู้สึกถูกชะตาแต่เธอกลับบอกเขาว่าที่แต่งงานเพราะอยากทดแทนบุญคุณและจะหย่ากับเขาทันทีเมื่อครบหนึ่งปี เมื่อคนหนึ่งอยากหย่าแต่คนหนึ่งอยากรั้งไว้ เขาต้องทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เธอไม่จากไป
View Moreหลังจากคุณธีระทนายความประจำตระกูลอ่านพินัยกรรมของคุณปู่จบลงทินภัทรก็มีสีหน้าเครียดกว่าทุกคนที่อยู่ในห้อง
“คุณลุงธีระครับ ตอนที่คุณปู่เขียนพินัยกรรมคุณปู่มีสติดีใช่ไหมครับ” ชายหนุ่มถามออกมาอย่างไม่เกรงใจเพราะเขารู้สึกว่าพินัยกรรมนั้นมันไม่สมเหตุสมผลและไม่ยุติธรรมกับเขาเลย
“ทินทำไมไปว่าคุณปู่แบบนั้น ตอนที่คุณปู่ท่านป่วยจนถึงท่านเสียชีวิตท่านก็มีสติดีมากและพูดจารู้เรื่องมาตลอด” คุณย่าอรุณีว่าหลานชาย
“คุณย่าครับแต่พินัยกรรมมันผิดปกติมากๆ เลยนะครับคุณย่าจู่ๆ คุณปู่จะให้ผมแต่งงานกับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ได้ยังไง”
“เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ไหนนะ ทินเธอเป็นหลานสาวของคุณอำนาจเพื่อนสนิทของคุณปู่” คุณอรุณีอธิบายให้หลายชายฟังอย่างใจเย็น
“คุณย่าครับนี่มันสมัยไหนแล้วยังจะมีการคลุมถุงชนอีกเหรอผมไม่ยอมหรอกนะครับ ผมยังไม่อยากแต่งงานกับใครทั้งนั้น”
“ถ้าคุณทินณภัทรไม่ทำตามพินัยกรรมที่คุณปู่ระบุไว้ สมบัติทุกอย่างของคุณปู่ก็จะถูกยกให้กับฝ่ายนั้น” คุณธีระทนายบอกกับชายหนุ่มอีกครั้ง
“ลุงธีระครับเราแก้พินัยกรรมไม่ได้เหรอ”
“ไม่ได้หรอกครับมันผิดกฎหมาย”
“แต่ในห้องนี้ก็มีแค่คุณลุงกับผู้ช่วย คุณย่า คุณอาและผม พวกเราก็คนกันเองทั้งนั้น คุณลุงช่วยผมไม่ได้เหรอครับ” ทินภัทรขอร้องเพราะเขาไม่อยากจะแต่งงานตามที่คุณปู่เขียนไว้ในพินัยกรรม
“ผมทำแบบนั้นไม่ได้ครับผิดทั้งกฎหมายผิดทั้งจรรยาบรรณวิชาชีพและที่สำคัญมันจะทำให้ผมผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับคุณปู่ของคุณไว้ ผมเป็นทนายต้องทำตามคั้งย่างเคร่งครัดครับ”
“คุณย่าช่วยผมหน่อยครับ” เมื่อขอร้องทนายไม่ได้เขาก็หันมาขอร้องคุณย่าแทน
“ย่าก็ไม่รู้จะช่วยทินยังไงนะ”
“อาว่าทินลองไปคุยกับฝ่ายผู้หญิงก่อนสิเผื่อว่าทางนั้นก็อยากจะแต่งเหมือนกัน” วศินผู้เป็นอาเสนอ เรื่องนี้เขาไม่เดือดร้อนอะไรเลยเพราะบิดาของเขาได้มอบหุ้นและที่ดินกับเขาก่อนที่ท่านจะเสียชีวิตเขาจึงไม่มีส่วนในสมบัติที่เหลือของท่าน
“แล้วถ้าฝ่ายนั้นไม่ยอมแต่งล่ะครับลุงธีระ”
“ถ้าฝ่ายนั้นไม่ยอมแต่งก็เป็นหน้าที่ของคุณที่จะต้องทำให้เธอยอมแต่งงานครับ”
“แบบนี้ผมก็แย่น่ะสิถ้าเธออยากจะได้สมบัติของคุณปู่ไปคนเดียว”
“ไม่หรอกครับ เท่าที่ผมได้คุยกับคุณปู่ของคุณท่านบอกว่าคุณอำนาจเองก็อยากให้หลานสาวของเขาแต่งงานกับคุณทินภัทรเหมือนกัน”
“เขาจะยอมเหรอครับ”
“ทางนั้นเขาก็คงมีวิธีบังคับเธอเหมือนกันครับ”
“มีทางไหนที่พอจะทำให้งานแต่งถูกยกเลิกไหมล่ะคุณทนาย ฉันไม่อยากให้หลานชายแต่งงานกับคนที่เขาไม่รักหรอกนะ” คุณอรุณีเห็นใจหลานชายอยู่ไม่น้อย
“คุณอรุณีครับในพินัยกรรมระบุไว้ว่าคุณทินภัทรจะต้องแต่งงานกับหลานสาวของคุณอำนาจและมีลูกชายด้วยกันสมบัติทั้งหมดถึงจะกลายเป็นของคุณทินภัทร ถ้าเกิดมีการยกเลิกการแต่งงานสมับติก็จะตกเป็นของหลานสาวคุณอำนาจ คุณทินภัทรจะได้แค่เงินเดือนอยู่แต่ไม่มีสิทธิ์ในสมบัติของท่านเลยแต่ถ้าแต่งงานแล้วไม่มีลูกภายในห้าปีและสมบัติก็จะแบ่งครึ่งครับ”
“แล้วถ้าผมไม่อยากได้สมบัติของคุณปู่ ผมก็ไม่ต้องแต่งงานใช่ไหมครับคุณลุง”
“ใช่ครับ”
“ถ้าอย่างงั้นผมไม่เอาก็ได้ผมคิดว่าผมสามารถสร้างทุกอย่างขึ้นมาเองได้ไม่ต้องง้อสมบัติของคุณปู่หรอก”
ทินภัทรพูดอย่างหัวเสียเพราะเขาเป็นคนช่วยคุณปู่บริหารบริษัทมานานหลายปีแต่พอท่านเสียชีวิตเขากลับไม่ได้สมบัติอะไรของท่านเลย
“ทิน ย่ารู้นะว่าทินเป็นคนเก่งมีความสามารถและบริษัทที่ทินเปิดกับเพื่อนก็กำลังไปได้ดี แต่ทินลองนึกถึงหัวใจของปู่และพ่อของทินบ้าง ปู่กับพ่อช่วยกันสร้างบริษัทจนเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้แล้วจู่ๆ จะให้มันไปอยู่ในมือของคนอื่นทินคิดว่าปู่จะรู้สึกยังไง ที่น้ำพักน้ำแรงของท่านสุดท้ายแล้วก็จะกลายไปเป็นของคนอื่น”
คุณอรุณีกล่อมหลานชายเพราะถ้าหากทินภัทรตัดสินใจแบบนั้นจริงๆ สมบัติที่สามีเธอพยายามสร้างมามันก็จะตกไปให้กับหลานของคุณอำนาจซึ่งเธอเองก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เธอคิดว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลยไม่ใช่ว่าเธอห่วงสมบัติแต่สมบัติมากมายขนาดนั้นมันก็ควรจะเป็นของลูกของหลานไม่ใช่ยกให้คนอื่น
“คุณย่าครับผมจะต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นจริงๆ ครับ”
“เพื่อรักษาสมบัติของคุณปู่ไว้มันคงไม่หนักหนาอะไรหรอกลูก ทินแต่งงานกับเธอรีบมีลูกกับเธอจากนั้นก็หย่า”
“ผมกลัวว่าเธอจะไม่ยอมหย่าสิครับคุณย่าแล้วการสมบัติทุกอย่างก็จะกลายเป็นของเธอ”
“ย่าว่าเราก็คงต้องตกลงกับก่อนนะ”
“แต่การมีลูกไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ ระหว่างนั้นชีวิตผมจะเป็นยังไงผมคงเหมือนคนตกนรกทั้งเป็น”
“คุณทินภัทรอย่าคิดลบแบบนั้นสิครับบางทีอาจจะมีความสุขก็ได้เพราะผู้หญิงที่คุณปู่ให้คุณทินแต่งงานด้วยเธอหน้าตาก็สวยใช้ได้ทีเดียว”
“ผมเจอผู้หญิงสวยมาเยอะแล้วครับคุณลุง”
“ลุงรู้ว่าคุณทินภัทรผ่านผู้หญิงมาเยอะแต่จะลองคบกับเธออีกสักคนก็คงไม่แปลกอะไรหรอกนะครับ ลองให้โอกาสตัวเองได้รู้จักเธอ ได้เรียนรู้นิสัยใจคอกันดีไหม จากนั้นก็แต่งงานกับเธอมีลูกชายหนึ่งคนตามที่คุณปู่ระบุไว้ตามพินัยกรรมแล้วหลังจากนั้นจะตัดสินใจยังไงก็ตามใจคุณเลยครับ”
“คุณลุงธีระพูดง่ายนี่แต่ผมต้องขาดอิสระนานเลยนะครับ”
“แต่เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีมันก้าวหน้าแล้วนะเราสามารถให้คุณหมอช่วย ให้การตั้งครรภ์เร็วขึ้นรวมถึงเลือกเพศได้อามีเพื่อนเป็นหมอเดี๋ยวอาจะช่วยเอง” คุณวศินเสนอทางช่วยหลานชาย
“ขอโทษนะครับคุณวศินแต่ในพินัยกรรมก็ระบุไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าการตั้งครรภ์ต้องเป็นไปตามธรรมชาติเท่านั้น” คุณธีระอธิบายอีกครั้ง
“แล้วถ้าเกิดผมแต่งงานมาแล้วมีแต่ลูกล่ะครับ ผมคงไม่ต้องทนอยู่กับเธอตลอดชีวิตเหรอ”
“สงสัยคุณทินภัทรจะฟังที่ลุงพูดไม่หมดนะครับ พินัยกรรมข้อสุดท้ายระบุไว้ว่าถ้าหากคุณแต่งงานกับหลานสาวของคุณอำนาจห้าปีแล้วยังไม่มีลูกด้วยกันท่านก็จะยกสมบัติให้คุณทินภัทร ครึ่งหนึ่งส่วนอีกครึ่งหนึ่งก็จะยกให้กับหลานสาวของคุณอำนาจ”
“ไม่มีทางหรอกสมบัติของคุณปู่ที่ผมช่วยหามาจะแบ่งให้คนอื่นได้ยังไง”
“ย่าก็ไม่เห็นด้วยเลย สมบัติครึ่งหนึ่งมันก็เยอะนะ”
“ถ้าคุณทินภัทรไม่อยากให้สมบัติทั้งหมดตกไปอยู่ในมือของคนอื่นคุณก็ต้องรีบแต่งงานกับเธอและมีลูกกับเธอทางเลือกมันมีแค่สองทางครับ” ทนายความอธิบายให้เขาฟังอีกครั้ง
“แล้วถ้าระหว่างแต่งงานเธอขอหย่าล่ะครับ”
“ถ้าเธอเป็นคนขอหย่าสมบัติทั้งหมดจะเป็นของคุณครับแต่นั้นต้องผ่านไปแล้วหนึ่งปีนะครับ”
คำตอบของทนายประจำตระกูลทำให้ทินภัทรพอจะมองเห็นทางออก เขาจะต้องทำให้ผู้หญิงคนนั้นขอหย่าจากเขาให้ได้
“แล้วผมต้องแต่งงานตอนไหนครับลุงธีระ”
“แล้วแต่คุณทินภัทรเลยครับอยากแต่งตอนไหนก็ได้แต่ทางที่ดีก็ควรไปเจอกับหลานสาวของคุณอำนาจก่อน”
“ทางนั้นเขารู้ตัวไหมครับว่าจะต้องแต่งงานกับผม”
“ผู้ใหญ่รู้ครับ แต่หลานของคุณอำนาจจะรู้หรือเปล่าผมเองก็”แน่ใจ”
มญชุ์ชัญญามองหน้าทินภัทรเธอลังเลเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าตอบตกลง“ชัญญ่าของพี่น่ารักที่สุด”ทินภัทรกระซิบเบาๆ ก่อนจะกดริมฝีปากร้อนลงบนเรียวปากอิ่มอย่างแผ่วเบา ปลายลิ้นร้อนไล้ไปบนกลีบปากนุ่มที่เม้มเข้าหากันแน่นแต่ไม่นานก็เผยอออกเพราะมือร้อนเลื่อนมากอบกุมหน้าอกอวบอิ่มเคล้นคลึงจนหญิงสาวรู้สึกเสียวซ่านและเผยอปากเปิดโอกาสให้เขาส่งปลายลิ้นเข้าไปในโพรงปากเล็กปลายลิ้นร้อนตวัดไล่ต้อนปลายลิ้นเล็ก เมื่อเธอพยายามหลบหลีกก็กลายเป็นหยอกเย้ากระตุ้นให้เขาเปลี่ยนจากจูบหวานเป็นจูบที่เร่าร้อนและหนักหน่วงมากขึ้น ร่างกายของมญชุ์ชัญญาอ่อนระทวยไปกับจูบรสที่ชายหนุ่มมอบให้ หญิงสาวปล่อยกายปล่อยใจไปกับอารมณ์พิศวาสที่เขาปลุกเร้าขึ้นอย่างเต็มที่มญชุ์ชัญญาคล้องแขนไปบนลำคอแกร่งจูบตอบเขาไปตามอารมณ์ความรู้สึกแม้จะเคยจูบกับเขาแค่ไม่กี่ครั้งแต่ก็เรียนรู้จากการกระทำของเขาได้เป็นอย่างดี“จูบเก่งขึ้นแล้วนะ”ชายหนุ่มผละจูบออกแล้วกระซิบจากนั้นก็กดจูบลงไปอีกครั้งอย่างหิวกระหายเพราะตั้งแต่กลับมาจากเสม็ดก็ยังไม่ได้ใกล้ชิดกับมญชุ์ชัญญาเลยสักครั้งหญิงสาวกำลังเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบที่ทินภัทรมอบให้ ลิ้นเล็กเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นใหญ่หย
มญชุ์ชัญญาเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนก็เห็นว่าตอนนี้สามีของเธอนั้นทำงานเสร็จแล้วเขานั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์เล็กๆ ในห้องนอนในมือถือแก้วเครื่องดื่ม เมื่อเห็นแบบนั้นมญชุ์ชัญญาก็ไม่อยากจะเข้ากันเลยเพราะยังรู้สึกเข็ดกับเรื่องคืนนั้นตั้งแต่กลับมาจากสมุยเธอกับทินภัทรก็ยังไม่เคยนอนด้วยกันอีกเลย แม้ว่าจะนอนเตียงเดียวกันแต่มญชุ์ชัญญาก็บอกเขาว่าตนเองยังไม่พร้อมเพราะร่างกายยังไม่หายดีร้อยเปอร์เซ็นต์ทินภัทรก็ไม่ได้บังคับหรือทำให้เธอรู้สึกอึดอัดอะไรแต่หญิงสาวก็คิดว่าเธอจะบอกเขาแบบนี้ไม่ได้ตลอด“ชัญญ่ามาดื่มด้วยกันไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ทินอยากออกไปดื่มข้างนอกกับเพื่อนไหมคะ”“ทำไมถึงอยากให้พี่ไปดื่มข้างนอกล่ะ”“ก็ตั้งแต่แต่งานพี่ไม่เคยออกไปสังสรรค์กับเพื่อนเลย อยู่แต่บ้านไม่เบื่อเหรอคะ ถ้าพี่จะออกไปดื่มชัญญ่าไม่ว่าหรอกนะคะ”“ตอนนี้พี่ยังไม่อยากออกไป เอาไว้คืนไหนพี่อยากจะออกไปดื่มพี่จะบอกชัญญ่าและจะพาชัญญ่าไปด้วย”“ไปดื่มกับเพื่อนจะพาชัญญ่าไปทำไมคะ”“ทำไมจะพาไปไม่ได้ล่ะ”“ก็ถ้าพาไปด้วยพี่กับเพื่อนก็คงจะเกรงใจและคุยกันไม่สนุก ชัญญ่าไม่อยากให้พี่อึดอัด”“พี่ไม่เคยอึดอัดเลยนะ แล้วชัญญ่าล่ะอึดอัดไหมที่มาอย
กลับมาจากสมุยความสัมพันธ์ของมญชุ์ชัญญาและทินภัทรก็พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นทั้งสองพูดคุยกันเหมือนคู่แต่งงานปกติซึ่งคุณย่าอรุณีก็สังเกตได้เธอ จึงอยากจะให้ทั้งสองคนได้ใช้ชีวิตด้วยกันตามลำพังมากขึ้นและหวังว่าเร็วๆ นี้จะมีเหลนให้อุ้มก่อนที่เธอจะอายุมากจนไม่มีแรงจะช่วยเลี้ยง“ช่วงนี้งานที่บริษัทเป็นยังไงบ้างทิน” คุณย่าอรุณีถามในค่ำวันหนึ่งขณะที่ทุกคนนั่งคุยกันอยู่ในห้องรับแขก“ช่วงนี้งานไม่ค่อยยุ่งเท่าไหร่ครับคุณย่ามีอะไรหรือเปล่า”“ถ้างานไม่ยุ่งย่าก็คิดว่าทินน่าจะหาเวลาว่างพาหนูชัญญ่าไปฮันนีมูนได้แล้วนะ นี่ก็แต่งงานกันมาเกือบจะหนึ่งเดือนแล้ว”“เราไปสมุยมาแล้วนะคะคุณย่า”“นั้นเขาเรียกไปฮันนีมูนที่ไหนล่ะ”“ผมก็คิดเรื่องนี้อยู่เหมือนกันครับ แต่ยังไม่รู้ว่าจะพาไปที่ไหนชัญญ่าล่ะอยากไปเที่ยวที่ไหน”“เราไม่ต้องไปฮันนีมูนก็ได้นะคะ ชัญญ่าไม่อยากให้พี่เสียงาน”“ไม่เสียงานหรอก พี่ว่าแต่งงานกันแล้วก็ต้องมีเวลาอยู่ด้วยกัน”“ไปเที่ยวกันให้เต็มที่เลยนะเรื่องค่าใช้จ่ายย่าจะเป็นคนจัดการเอง”“ผมไม่รบกวนคุณย่าหรอกครับเรื่องนี้ให้ผมจัดการเองดีกว่า ว่าแต่ชัญญ่าเถอะมีที่ไหนอยากไปเป็นพิเศษหรือเปล่า ไปทั่วยุโรปไหมไป
“พี่คิดว่าชัญญ่ากำลังเข้าใจเรื่องทั้งหมดผิดนะ”“เข้าใจผิดยังไงคะ” มญชุ์ชัญญามองหน้าเขาแล้วรู้สึกถึงความผิดปกติเมื่อเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขา“ชัญญ่าคิดว่าเมื่อคืนพี่เมาและจำอะไรไม่ได้ใช่ไหม”“ค่ะ”“คนเมาที่ไหนเขาจะทำเรื่องแบบนั้นได้และพี่ก็ดื่มไปแค่แก้วสองแก้วเองไม่ได้เมาเลยสักนิด”“แล้วทำไมพนักงานถึงหิ้วปีกพี่กลับมาแบบนั้นล่ะ” เธอมองหน้าด้วยความสงสัย“พี่ขอโทษทีทำให้ชัญญ่าเข้าใจผิดว่าพี่เมา แต่ถ้าพี่ไม่ทำอย่างนั้นชัญญาจะยอมให้พี่ใกล้ชิดและจะยอมนอนกับพี่เหรอ”“พี่ทินใจร้ายมาก พี่ทำร้ายความรู้สึกของชัญญ่าทำไมพี่ต้องทำแบบนั้นด้วย”“พี่ขอโทษพี่รู้ว่าพี่ผิดแล้วพี่ก็ยินดีรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดที่มันเกิดขึ้น เรายกเลิกสัญญาการแต่งงานตามพินัยกรรมนะแล้วคบกันอย่างจริงจัง”“พี่ทำแบบนี้กับชัญญ่าแล้วยังจะมาพูดแบบนี้อีกเหรอ พี่กำลังล้อเล่นความรู้สึกของชัญญ่า พี่คงสนุกมากใช่ไหม” เสียงที่พูดปนสะอื้นที่ถามออกมาทำให้ทินภัทรรู้สึกผิดมาก“ชัญญ่ากำลังเข้าใจพี่ผิดนะ พี่ไม่ได้ล้อเล่นกับความรู้สึกของชัญญ่าเลยนะ พี่รู้สึกดีกับชัญญ่าจริงๆ”“พี่พูดออกมาเพราะอยากจะรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นใช่ไหมคะ สำหรับชัญ
ทินภัทรรู้ดีว่ามญชุ์ชัญญานั้นเพิ่งนอนพักได้ไม่กี่ชั่วโมงและคิดว่าเธอน่าจะต้องการเวลาพักผ่อนเพิ่มขึ้นอีกสักนิดชายหนุ่มพามญชุ์ชัญญามารับประทานอาหารเช้าที่ร้านของรีสอร์ท ขณะที่นั่งทานทินภัทรแอบสังเกตว่าวันนี้หญิงสาวดูเงียบผิดปกติและพยายามหลบสายตาของเขาตลอด ทินภัทรอยากจะพูดเรื่องเมื่อคืนแต่ก็ยังไม่รู้จะเริ่มต้นพูดยังไง เขาคงต้องเรียบเรียงคำพูดอีกนิดก่อนจะบอกกับเธอว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้เมาและจำเรื่องทุกอย่างได้ดี“ชัญญ่าทำไมวันนี้กินนิดเดียวล่ะ อาหารไม่อร่อยเหรอ ให้พี่พาไปกินร้านข้างนอกไหม”“อาหารอร่อยค่ะ ชัญญ่าไม่ค่อยจะหิวเท่าไหร่”“ถ้าอย่างนั้นเรากลับไปพักที่รีสอร์ทกันดีไหม”“ค่ะ” หญิงสาวพูดแล้วลุกขึ้นเดินตามทินภัทรออกมาจากห้องอาหารของทางรีสอร์ท“กลางวันนี้ชัญญ่าอยากจะกินอาหารร้านไหน หรือไปกินอะไรคิดไว้หรือยัง”“พี่ทินคะเราเพิ่งกินมื้อเช้ายังไม่ถึงสิบนาทีพี่ถามถึงมื้อกลางวันแล้วชัญญ่าคิดไม่ออกหรอกค่ะ”“คิดไม่ออกก็ไม่เป็นไร พี่ว่าเราขับรถไปหาอะไรร้านอาหารบรรยากาศดีๆ กันดีกว่าเจอร้านไหนถูกใจเราก็แวะแล้วช่วงเย็นก็กลับเล่นน้ำที่หน้าชายหาดกันนะ อยากเล่นน้ำทะเลไหม”“อยากค่ะ” มญชุ์ชัญญามองชายหาด
มญชุ์ชัญญาเผลอครางกระเส่าเมื่อความเสียวแผ่ซ่านไปทั่วร่างสองมือจับไหล่หนาไว้แน่น อกอิ่มแอ่นเข้าหากร้อนด้วยความซ่านรัญจวนอย่างห้ามไม่อยู่ เขาดูดกินโดยไม่รู้สึกเบื่อ ท่อนเอ็นขยับเข้าออกจากเบาเป็นหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ หัวแม่มือเขี่ยยอดเกสรสวาทเป็นจังหวะ“พี่ทินขา ชัญญ่าเสียวเร็วกว่านี้ได้ไหม”ในที่สุดหญิงสาวก็ทนไม่ไหว เสียงกระซิบที่ข้างหูเต็มไปด้วยแรงปรารถนาอยากให้เขาช่วยปลดปล่อยเสียงนั้นกระตุ้นให้ทินภัทรกระหน่ำแรงใส่เธออย่างบ้าคลั่ง สะโพกกลมกลึงส่ายร่อนรับความกับท่อนเอ็นร้อนที่กระแทกเข้าหาไปตามอารมณ์ที่ไม่อาจควบคุมตัวเองได้“อ่า....ดีมากชัญญ่า ตอดแรงแบบนี้พี่เสียวมากชัญญ่าของพี่เก่งที่สุด”เขาครางแหบต่ำเมื่อร่องสวาทของหญิงสาวตอดรัดอย่างแรง ทินภัทรก็รู้สึกทรมานและต้องการปลดปล่อยเป็นอย่างมาก หญิงสาวเองก็ไม่ต่างกันเลยมญชุ์ชัญญาหอบหายใจถี่ หน้าอกอวบอิ่มแอ่นโค้งปรนเปรอความหิวกระหายของชายหนุ่มด้วยความเต็มใจ เมื่อเขาทั้งกัดทั้งดูดเธอก็เกร็งสะท้านทินภัทรผละจากเต้างามแล้วจับขาข้างหนึ่งของเธอขึ้นพาดไว้บนไหล่กว้างก่อนจะกระแทกเข้าหาร่องรักอย่างดุเดือด“อื้อพี่ทิน.....”“อ่าส์ ตอดแรงแบบนี้ถึงใจพี่ที
Comments