หน้าหลัก / รักโบราณ / พิศวาส 3000 ปี / ปิดเมืองข้า...ค้นหานาง! 1.1

แชร์

ปิดเมืองข้า...ค้นหานาง! 1.1

ผู้เขียน: จ้าวฮุ่ยอิง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-06 19:15:34

ชายแดนเมืองจิงโจ

จวนแม่ทัพ

ภายในห้องบรรทมชินอ๋อง

 พระวรกายสูงใหญ่ของจอมมารชินซางทรงบรรทมสนิทในเวลาแห่งรัตติกาล ตลอดระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมาจอมมารหนุ่มหรือชินอ๋องแห่งแคว้นเทียนโจว ดำรงพระชนม์ชีพดั่งเช่นมนุษย์ธรรมดาเดินดินทั่วไป มีความรู้สึกร้อน หนาวและเจ็บป่วย รวมไปถึงได้รับบาดแผลจากการทำสงครามไม่แตกต่างจากผู้อื่นแม้แต่น้อย ในเวลานี้ไอจอมมารและพลังปีศาจที่ทรงมีอยู่คู่พระวรกายได้เลือนหายไปจนหมดสิ้นนับตั้งแต่ปานไฟอัคคีย้ายไปสถิตอยู่กับคู่ชะตาของพระองค์

 จอมมารจึงคงเหลือเพียงวรยุทธ์จากดินแดนปีศาจที่ทรงฝึกฝนมานับหลายแสนปีเท่านั้น เมื่อไอมารเลือนหายความเป็นมนุษย์เข้ามาแทนที่พระองค์จึงเริ่มได้รับบาดเจ็บจากการทำสงคราม บาดแผลปรากฏอยู่บนพระวรกายหลายแห่ง แต่โชคยังดีที่ภายในพระวรกายทรงมีเลือดปีศาจจึงทำให้บาดแผลสมานเข้าหากันได้ในเร็ววัน แต่สิ่งหนึ่งที่หามีผู้ใดล่วงรู้นั่นก็คือทรงไม่มีวันตายเพราะเป็นอมตะ 

ทว่าความเป็นอมตะของพระองค์ล้วนอยู่ในปานรูปไฟอัคคีทั้งสิ้น ปานดังกล่าวคือสัญลักษณ์ของจอมมาร พลังเวทปีศาจและญาณตบะขั้นที่แปดที่ทรงฝึกฝนมาล้วนอยู่ในปานไฟอัคคีทั้งสิ้น อีกทั้งยังเป็นตาที่สามของพระองค์สามารถล่วงรู้เหตุการณ์ในอนาคต อดีตและปัจจุบัน ครั้นย้ายไปสถิตอยู่กับคู่ชะตาทำให้พระองค์มิอาจหยั่งรู้ได้ดั่งเช่นกาลก่อน ตรงกันข้ามกับคู่ชะตาจะสามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ในอนาคต อดีตและปัจจุบันเข้ามาแทนที่

แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงหลงเหลืออยู่นั่นก็คือรูปสังขารที่มิโรยรา ไม่ว่าระยะเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด จะเป็นร้อยปีหรือพันปีหรือเป็นหมื่นๆ ปี พระองค์ยังทรงเต็มไปด้วยพระสิริโฉมอันงดงามมิมีเสื่อมคลาย ทรงอ่อนชันษาดั่งเช่นบุรุษหนุ่มในวัยยี่สิบปี เป็นเช่นนี้ตลอดกาล

ถึงแม้ว่าจะทรงมีพระชนมายุในโลกมนุษย์เข้าสู่ปีที่ยี่สิบเก้า แต่ถ้าหากเทียบพระชนมายุในดินแดนปีศาจแล้วไซร้ จอมมารมีพระชนมายุถึงสองแสนปี และตลอดห้าปีที่ผ่านมาจอมมารเฝ้าค้นหาติดตามเจ้าสาวในชุดสีขาว ผู้ถูกกำหนดให้เป็นคู่ชีวิตของพระองค์มาโดยตลอด

เหตุที่ทรงเลือกประทับอยู่แถบชายแดน นอกจากสามารถป้องกันเทียนโจวให้ปลอดภัยตามสัตย์สัญญาที่ทรงให้ไว้กับเฉินกงฮ่องเต้ จอมมารสามารถใช้โอกาสดังกล่าวออกติดตามค้นหาคู่ชะตาของพระองค์ไปในแต่ละแคว้นยามเมื่อยกกองทัพออกโจมตีแคว้นศัตรูหรือหากมีแคว้นอื่นมารุกราน 

ครั้นเมื่อรบชนะจอมมารชินซางจะเสด็จเข้าเมืองหลวงและค้นหาคู่ชะตาชนิดพลิกบ้านเรือนของแต่ละแคว้นจนละเอียดถี่ยิบ โดยเฉพาะจวนขุนนางที่บุตรีได้สมรสกับเชื้อพระวงศ์ พระองค์จะส่งทหารไปตรวจตราบ้านนั้นทุกซอกทุกมุมโดยเฉพาะเจ้าสาว จะถูกนำมาเข้าเฝ้าต่อหน้าพระพักตร์เพื่อพระองค์ได้เพ่งพิศว่าใช่เจ้าสาวในชุดขาวของพระองค์ที่หายไปหรือไม่ โดยอ้างว่าเพื่อความปลอดภัยของเทียนโจว แคว้นที่แพ้สงครามจะต้องทำตามเงื่อนไขของเทพสงครามทุกประการโดยไร้สิ้นข้อแม้ใดๆ 

และถึงแม้ว่าพระองค์จะทรงน่าสะพรึงกลัว ดุดัน อีกทั้งโหดร้ายเต็มไปด้วยความเลือดเย็นและเป็นที่ประหวั่นพรั่นพรึงในสนามรบ แต่โดยเนื้อแท้แล้วไซร้จอมมารชินซางมีพระทัยอ่อนโยน และจะแสดงออกเฉพาะคนที่ทรงรักเท่านั้น พระองค์มีอุปนิสัย รักแรง เกลียดแรง แค้นลึกถึงรากเหง้า และที่สำคัญทรงหวงแหนทุกสิ่งที่เป็นของพระองค์อย่างยิ่งยวดและอย่าหวังว่าผู้ใดจะได้ครอบครอง

ในขณะเดียวกันแม้ว่าจะทรงมีลักษณะดุดันและน่าสะพรึงกลัวเช่นนั้น ทว่ากลับกลายเป็นที่ชื่นชมของประชาชนไปทุกหัวระแหง โดยเฉพาะทรงเป็นที่ใฝ่ฝันและได้รับความนิยมจากอิสตรีที่ได้มีโอกาสประสบพบพระพักตร์ องค์หญิงจากแคว้นน้อยใหญ่เดินทางไกลมาแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ไมตรีกับแคว้นเทียนโจวก็หวังที่จะได้ถูกยกให้เป็นพระชายาของชินอ๋องนั่นเอง 

ด้วยเพราะสาเหตุนี้จึงทรงประทับอยู่แต่ชายแดนมิยอมเหยียบเข้าเมืองหลวงแต่อย่างใด เพื่อตัดปัญหาในเรื่องสมรสพระราชทานที่จะต้องมีขึ้นรวมไปถึงต้องรับพระชายาเพิ่ม ซึ่งเป็นผลมาจากการทำสงครามของพระองค์ ด้วยภายในราชสำนักตอนนี้เต็มไปด้วยพระสนมที่พ่ายแพ้สงคราม และเดินทางมาอภิเษกสมรสเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ไมตรีสงบศึกระหว่างแคว้นกันอย่างคับคั่ง ทำให้วังหลังเต็มไปด้วยพระสนมมากมาย 

ด้วยเหตุนี้ทำให้บรรดาองค์ชายต่างๆ ซึ่งประสูติจากโจวฟางหยางฮ่องเต้ ที่ถึงเกณฑ์อายุแต่งงานแล้วต่างได้รับพระราชทานอภิเษกสมรสกับบรรดาองค์หญิงต่างๆ อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงจนเนืองแน่นไปหมด ซึ่งโจวฟางหยางฮ่องเต้ก็ทรงต้องการให้เป็นเช่นนั้น พระองค์มิประสงค์ให้พระอนุชาต่างพระมารดาเสด็จหวนคืนเมืองหลวงแต่อย่างใด

 ด้วยเพราะทรงริษยาและชิงชังพระอนุชาต่างพระมารดาอย่างยิ่งยวด ยิ่งพสกนิกรและทหารในกองทัพชื่นชมรักเทิดทูนชินอ๋องจนถึงขนาดพากันกราบไหว้บูชาภาพเหมือนของชินอ๋องดุจดั่งเทพเจ้า แทนที่จะรักและเทิดทูนพระองค์ซึ่งเป็นฮ่องเต้ปกครองแคว้น ยิ่งเพิ่มความชิงชังที่มีต่อพระอนุชามากล้นทวีคูณ ด้วยทรงกลัวว่าหากชินอ๋องเสด็จหวนกลับคืนเมืองหลวง พระองค์จะมิหลงเหลืออำนาจใดๆ ที่อยู่ในพระหัตถ์อีกต่อไป 

 ท่ามกลางความมืดมิดในยามราตรีและความเงียบงันที่แผ่เข้ามาปกคลุมโดยรอบ พระพักตร์หล่อเหลาในยามบรรทมไม่หลงเหลือความเย็นชาปรากฏอยู่แต่อย่างใด เกศาสีเงินยวงปล่อยยาวสยายค่อยๆ ปรกลงบนพระพักตร์เมื่อพระองค์เข้าสู่ห้วงเวลาแห่งความฝัน 

ในฝันนั้นคืองานพิธีอภิเษกสมรสของโจวฟางหยางฮ่องเต้และองค์หญิงจากต่างแคว้น ภายในพระราชวังหลวงบริเวณตำหนักบูรพา ซึ่งเป็นที่ประทับของพระสนมองค์ใหม่กำลังจะเข้าพิธีอภิเษก ได้ถูกประดับด้วยผ้าแดงมงคลทั้งด้านนอกและด้านใน เจ้าสาวในชุดขาว สวมมงกุฎหงส์กำลังก้าวออกจากพระตำหนักเพื่อเดินทางไปเข้าพิธีโดยมีพัดสีขาวที่ทำมาจากขนห่านฟ้าปิดบังใบหน้า

 “หยุดก่อน!” สุรเสียงดังก้องสั่งห้ามเจ้าสาวให้หยุดพระดำเนินตรงหน้าพระตำหนักในขณะที่กำลังจะขึ้นเกี้ยว

จอมมารทรงยืนสูงทะมึนอยู่ตรงหน้าเกี้ยวพระที่นั่ง พระเนตรสีนิลกาฬทรงทอดพระเนตรเจ้าสาวในชุดสีขาวเขม็งเพื่อสำรวจนางก่อนเข้าพิธี ใบหน้าที่ถูกพัดปิดบังอยู่ในขณะนั้นเห็นเพียงแค่ดวงตากลมโต ค่อยๆ หันกลับมามองพระองค์ด้วยความสงสัย

“เทพสงครามอุตสาห์เสด็จมาถึงตำหนักบูรพามีพระประสงค์สิ่งใดหรือเพคะ” องค์หญิงต่างแคว้นรับสั่งถามกลับไป

จอมมารทรงยืนทอดพระเนตรเจ้าสาวในชุดขาวเขม็งตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ชุดเจ้าสาวช่างคุ้นตาเสียนี่กระไร ก่อนจะทอดพระเนตรมงกุฎหงส์พลางพระดำเนินเข้ามาหานางทันทีในระยะใกล้ชิดเพื่อทอดพระเนตรให้แน่พระทัย ครั้นพระเนตรสีนิลกาฬทรงทอดพระเนตรมงกุฎหงส์ที่นางประดับอยู่บนศีรษะก็ทรงจดจำได้ทันทีว่าเป็นแบบเดียวกับคู่ชะตาของพระองค์สวมในวันแรกที่ทรงเบิกเนตรขึ้นมาพบนางในชุดเจ้าสาว ซึ่งมีลักษณะเหมือนกันทุกประการ พระองค์รีบมีรับสั่งออกไปทันใด

“นี่คือการตรวจสอบเพื่อความปลอดภัยก่อนเข้าพิธี องค์หญิงให้ความร่วมมือด้วย” จอมมารรับสั่งออกไป ก่อนจะได้ยินเจ้าสาวตอบกลับมา

“เรื่องเล็กน้อยเพียงเท่านี้เหตุไฉนชินอ๋องจึงต้องเสด็จมาด้วยพระองค์เองเล่า ให้ทหารองครักษ์มาตรวจสอบก็เพียงพอแล้วมิจำเป็นให้พระองค์ต้องมาเสียเวลากับเรื่องแบบนี้แต่อย่างใด” องค์หญิงต่างแคว้นรับสั่งถามกลับไป

พระวรกายสูงใหญ่ทะมึนก้มลงทอดพระเนตรเจ้าสาวตรงหน้าพระพักตร์ครั้นทรงได้ยินเช่นนั้น

“ก็ข้าพอใจ! มีอะไรไหม!” รับสั่งสุรเสียงห้วนสั้นพร้อมมีรับสั่งตามติดมา

“เอาพัดลงข้าจะตรวจสอบใบหน้าของเจ้”รับสั่งบังคับเจ้าสาว 

และนั่นทำให้จอมมารทอดพระเนตรดวงตากลมโตสีเมล็ดองุ่นจ้องมาที่พระองค์เขม็งด้วยความไม่พอใจ

“ทรงทำเช่นนี้ผิดธรรมเนียมในพิธีนะเพคะ พระสวามีของหม่อมฉันเท่านั้นจึงจะสามารถเปิดพัดที่ปิดใบหน้านี้ได้ พระองค์รับสั่งให้เปิดเผยรูปโฉมของหม่อมฉันก่อนพระสวามีเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง”

ครั้นจอมมารทรงได้ยินเช่นนั้นพระโอษฐ์ค่อยๆ คลี่ยิ้มออกมาบางๆ

“สมควรอย่างไร ไม่สมควรเป็นอย่างไร ข้าไม่รู้จัก ข้าสนใจแต่เพียงว่าเจ้ามีใบหน้าของสตรีที่ข้ากำลังค้นหาอยู่หรือเปล่าเท่านั้น...เอาพัดลง!” ประโยคสุดท้ายรับสั่งสุรเสียงดุดัน

องค์หญิงต่างแคว้นทรงยืนนิ่งมิยอมขยับเขยื้อนพระวรกายแม้แต่น้อย และไม่ยอมนำพัดลงตามพระบัญชาแต่อย่างใด ยังคงยืนอย่างไม่สะทกสะท้านมิหนำซ้ำยังจ้องพระองค์ไม่หลบสายพระเนตรจอมมารแม้แต่น้อย

“ช่างเป็นสตรีที่ใจกล้าและเด็ดเดี่ยวยิ่งนัก กล้าจ้องหน้าข้าโดยไม่ยอมหลบสายตาเสียด้วย ถ้าเช่นนั้นก็ดี! อยากจะรู้เช่นกันว่าเจ้าจะหลบหลีกข้าไปได้สักกี่น้ำ” รับสั่งพร้อมดึงพัดที่อยู่ในมือของนางออกทันใด

“เพียะ!” มือเรียวสวยขององค์หญิงต่างแคว้นฟาดลงบนพระหัตถ์หนาของจอมมารอย่างไม่เกรงกลัว ก่อนจะรีบหมุนตัวกลับพร้อมใช้พัดยกขึ้นปิดบังใบหน้าจนมิดชิด

“อุ้ย!ขออภัย!ด้วยความตกใจมือมันลั่นไปเองเพคะ”เสียงตอบกลับมานั้นเต็มไปด้วยความยียวนกวนอารมณ์ให้จอมมารเริ่มทรงมีพระอารมณ์ขุ่นมัว

ทันใดนั้นเองสายพระเนตรเหลือบไปพบรอยไฟอัคคีลามเลียอยู่ตรงข้อมือข้างที่กำลังยกพัดขึ้นสูงเพื่อปิดบังใบหน้า รอยไฟอัคคีถูกแป้งทาทับเอาไว้จนเลือนรางจนถึงข้อมือเพียงเท่านั้น แต่ผิวเนื้อนวลเนียนเหนือขึ้นไปเต็มไปด้วยรอยไฟอัคคีอย่างเห็นได้ชัด

“จะ....เจ้า!” รับสั่งได้เพียงเท่านั้นเสียงของหัวหน้าขันทีดังขึ้นอยู่ทางด้านหลังขึ้นมาโดยพลัน

“ชินอ๋องพ่ะย่ะค่ะ! ทรงมาอยู่ตรงนี้เองกระหม่อมตามหาจนทั่ว” หัวหน้าขันทีกราบทูลกลับไป

“มีอะไร!” รับสั่งสุรเสียงห้วนและนั่นทำให้หัวหน้าขันทีสะดุ้งโหยงขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินพระสุรเสียงที่บ่งบอกว่าทรงมีพระอารมณ์มิสู้ดีนัก

“อะ...เออ...ฝ่าบาททูลเชิญพระองค์ให้เสด็จไปเป็นสักขีพยานพิธีอภิเษกสมรสในวันนี้ด้วย ตอนนี้ใกล้จะถึงฤกษ์มงคลแล้วทูลเชิญชินอ๋องขึ้นเกี้ยว และองค์หญิงก็รีบขึ้นเกี้ยวเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ” ประโยคสุดท้ายหัวหน้าขันทีหันไปกราบทูลเจ้าสาวในพิธีของวันนี้

ครั้นจอมมารทรงได้ยินเช่นนั้นพระพักตร์หล่อเหลาหันกลับไปทอดพระเนตรคู่ชะตาของพระองค์ทันที แม้จะยังมิได้ทอดพระเนตรใบหน้าแต่รอยไฟอัคคีเป็นสิ่งยืนยันได้เป็นอย่างดี ผู้ครอบครองไฟอัคคีของพระองค์เท่านั้นจึงจะปรากฏรอยเช่นนี้ขึ้นบนเรือนกาย

“ไปกราบทูลฝ่าบาท! ว่าข้าต้องการเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับองค์หญิงแทนพระองค์!” รับสั่งกับหัวหน้าขันที

“หา!” เสียงอุทานดังออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน ทุกชีวิตมีอาการตื่นตะลึงไปตามๆ กันกับถ้อยรับสั่งเช่นนั้น

ท่ามกลางอาการตกตะลึงของผู้คนในบริเวณนั้น ชินอ๋องตรงเข้าไปคว้าแขนเรียวของเจ้าสาวโดยพลัน

“ข้าจะเข้าพิธีแต่งงานกับเจ้า! ไปกับข้า!”รับสั่งพร้อมลากนางให้ไปพร้อมกับพระองค์

“พรืดดด!” ท่อนแขนเรียวสะบัดออกจากพระหัตถ์หนาของจอมมารด้วยความรวดเร็ว

“หม่อมฉันไม่เข้าพิธีกับพระองค์ เป็นตายร้ายดีเยี่ยงไรคนอย่าง... เยว่วาวา จะไม่ขอเข้าพิธีแต่งงานกับบุรุษผู้มีนามว่าโจวชินซางอย่างเด็ดขาด!”

และนั่นทำให้พระเนตรสีนิลกาฬของจอมมารแปรเปลี่ยนเป็นดวงเนตรสีเลือดขึ้นมาโดยพลันก่อนจะเลือนหายไปเพียงชั่วพริบตา

“เจ้าเป็นของข้าเยว่วาวา!” จอมมารรับสั่งสุรเสียงกึกก้อง

“พรึ่บ!!!” พระเนตรสีนิลกาฬเปิดขึ้นมาทันทีครั้นทรงหลุดจากภวังค์แห่งความฝัน

พระวรกายใหญ่ลุกพรวดพราดจากฟูกพระบรรทม พระพักตร์หล่อเหลาส่ายไปมาติดๆ กันด้วยทรงทบทวนความฝันเมื่อครู่ที่ผ่านมาให้มั่นพระทัยอีกรอบ พระโอษฐ์ค่อยๆ คลี่ยิ้มกว้างด้วยความดีพระทัยอย่างยิ่งยวด

“เยว่วาวา! ในที่สุดข้าก็ล่วงรู้ชื่อของเจ้าแล้ว” รับสั่งพร้อมทรงรีบลุกจากแท่นพระบรรทม 

พระวรกายสูงทะมึนพระดำเนินออกจากห้องพระบรรทมอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมาทรงหยุดยืนอยู่กลางสวนหย่อม พระพักตร์แหงนขึ้นทอดพระเนตรท้องฟ้าเบื้องบน เพื่อควานหาตำแหน่งดวงดาว พระเนตรสีนิลกาฬกวาดสายพระเนตรไปทั่วท้องฟ้าก่อนจะหยุดนิ่งเมื่อดาวราชินีปีศาจส่องแสงเจิดจ้าให้พระองค์ได้ทอดพระเนตร พระโอษฐ์คลี่ยิ้มกว้างออกมาทันที

“นางปรากฏตัวแล้ว! เหตุใดเจ้าจึงหายไปนานถึงห้าปีเช่นนี้เยว่วาวา รู้หรือไม่ว่าข้าเพียรเฝ้าค้นหาเจ้าแทบพลิกแผ่นดินไปทั่วทุกแคว้น แต่ตำแหน่งดวงดาวของเจ้ากลับไปปรากฏอยู่ที่แคว้นเทียนโจวเสียนี่ เห็นทีถึงเวลาแล้วที่จะต้องกลับเมืองหลวง” รับสั่งได้เพียงเท่านั้นทรงหยุดนิ่งคิดกับความฝันของพระองค์ทันใด

“ตลอดระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมาข้าไม่เคยฝันเห็นนางแม้แต่น้อย จนกระทั่งคืนนี้แสดงว่าไฟอัคคีซึ่งเป็นตาที่สามของข้าได้สื่อสารให้ข้าล่วงรู้ทันทีที่นางปรากฏตัว เพื่อบอกตำแหน่งและเหตุการณ์ในอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นกับนาง ไม่ได้การแล้ว... ข้าต้องรีบกลับเมืองหลวงเดี๋ยวนี้! หาไม่แล้วจะคลาดกับเจ้าอีก หากแม้นกลับไปไม่ทันเวลา” รับสั่งพร้อมหันพระวรกายกลับพระดำเนินไปที่ห้องพระบรรทม

 จอมมารหนุ่มมิสามารถข่มพระเนตรบรรทมได้อีกต่อไป เพราะหัวใจล่องลอยไปไกลถึงเมืองหลวงของแคว้นเทียนโจว ทันทีที่ไฟอัคคีซึ่งสถิตอยู่ที่กายนางสื่อสารให้พระองค์ทรงล่วงรู้ว่าบัดนี้คู่ชะตาของพระองค์ปรากฏกายขึ้นมาอีกครั้งหลังจากหายไปอย่างไร้ร่องรอยถึงห้าปี ราวกับว่าไม่มีตัวตนอยู่ในภพนี้ 

และครานี้จอมมารจะไม่เสียเวลาอีกต่อไป พระองค์จะทรงทำทุกอย่างเพื่อนำนางมาเคียงข้างพระวรกายเพราะเยว่วาวา เป็นเจ้าของหัวใจเพียงหนึ่งเดียวที่สถิตอยู่ในความรู้สึกและทุกลมหายใจเข้าออกของพระองค์

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • พิศวาส 3000 ปี   จอมมารทะลุศตวรรษ 1.5 (ตอนอวสาน)

    พระราชวังจำลองพิธีอภิเษกสมรสในซีรีส์เรื่องดัง ถ่ายทำฉากกราบไหว้ฟ้าดินระหว่างนางมารร้ายตัวเอกของเรื่องและชินอ๋องแห่งแคว้นเทียนโจว ปรากฏขึ้นต่อสายตาของเฉินวาวาด้วยความรู้สึกยากเกินจะบรรยายออกมาได้ ด้วยทุกอย่างตรงกับพิธีที่การทุกอย่างในยุคอดีต ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งสถานที่โดยรอบ บรรดาข้าราชบริพารที่ยืนประจำจุดของตน รวมไปถึงตำแหน่งที่ประทับขององค์ฮ่องเต้ล้วนเหมือนกันทุกอย่าง“อะ... อะไรกันนี่!” หญิงสาวในชุดเจ้าสาวโบราณในพิธีเตรียมพร้อมเข้าฉากถึงกับยืนตะลึงไปโดยพลันในขณะที่อู๋ชิงเหยียนก็มีอาการไม่แตกต่างกันแม้แต่น้อย ไม่คาดคิดว่าพิธีแต่งงานในยุคโบราณจะยิ่งใหญ่อลังการถึงขนาดนี้“โอ้โฮ! วาวาเธอนี่โคตรโชคดีเลยให้ตายสิ! ได้เข้าฉากแต่งงานยิ่งใหญ่อลังการแบบนี้ ราวกับว่าเข้าไปมีชีวิตในซีรีส์เรื่องนี้เลยนะ” แม่ผู้จัดการสาวกล่าวออกมาตามความรู้สึก“ฉันเคยเข้าพิธีแบบนี้มาแล้วกับชินอ๋องแห่งเทียนโจว และครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ฉันจะได้เข้าพิธีแบบนี้อีก แตกต่างตรงที่คนที่ฉันจะเข้าพิธีในครั้งนี้ไม่ใช่ท่านอ๋องของฉัน”

  • พิศวาส 3000 ปี   จอมมารทะลุศตวรรษ 1.4

    งานแสดงแฟชั่นโชว์เครื่องเพชรเฉินวาวานั่งเงียบงันอยู่บนรถ SUV ของบริษัทฯ ซึ่งเธอเดินทางมาร่วมงานในฐานะเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ของ JCS GOLD MASTER ใบหน้างดงามลึกล้ำถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางจนเฉิดฉายน่ามองชวนหลงใหลอย่างยิ่งยวด หากแต่ดวงตาคู่สวยกลับมีแต่ความหม่นหมอง ไม่มีชีวิตชีวาเหมือนก่อน“เฮ้อ!” เสียงถอนหายใจดังออกมาจากแม่ผู้จัดการสาว บ่งบอกให้รู้ว่าเธอกลุ้มใจกับอาการของเพื่อนรัก“วาวา! ถึงงานแล้วไม่ลงเหรอ นั่งเหม่อมาตลอดทาง ไม่ใช่สิ นั่งเหม่อมจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเป็นแบบนี้จะสองอาทิตย์แล้วนะ ถามจริงเถอะ! เมื่อไรอาการแบบนี้จะหายไปจากตัวแกเสียที” หญิงสาวบ่นกระปอดกระแปดให้เพื่อนรัก“ไม่หาย! ไม่มีใครรักษาฉันหายหรอกเหยียนเหยียน ป่วยกายรักษาด้วยยาหายได้ แต่ป่วยใจคนที่รักษาได้คือคนรักของฉันเท่านั้น มีเพียงท่านอ๋องคนเดียวที่ทำได้” กล่าวพร้อมหยาดน้ำตาหลั่งรินออกมาทันที“แปะ!” น้ำตาร่วงหล่นลงมาทันใด“อั้ยยะ! อย่าร้องนะ! อย่าร้อง... ห้ามร้องเด็ดขาดเลย จะต้องเข้าไปในงาน

  • พิศวาส 3000 ปี   จอมมารทะลุศตวรรษ 1.3

    มณฑลเสฉวน ณ โรงพยาบาลเฉิงตูภายในห้องคนไข้พิเศษพระวรกายสูงใหญ่ทะมึนของจอมมารชินซางยังคงอยู่ในห้วงญาณหลับใหลมาโดยตลอด พระพักตร์หล่อเหลาตราตรึงรัญจวนจิต รับกับขนตางามงอนเป็นแพยาวสวย พระนาสิกโด่งสันสวยขึ้นเป็นสันคม ภายใต้เกศาสีเงินยาวสยายเต็มหมอนที่กำลังถูกนางพยาบาลใช้แปรงหวีพระเกศาสีเงินยาวสยายอย่างเบามือ“ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้หล่อยิ่งกว่าพระเอกหนังอีกเลยเนอะ พระเอกบางคนยังหล่อสู้ไม่ได้เลย เป็นลูกครึ่งหรือเปล่าก็ไม่รู้ถึงมีเส้นผมสีบลอนด์เงินแบบนี้ สีเงินสม่ำเสมอไม่ใช่สีขาวเพราะผมหงอกก่อนวัยด้วย แถมสูงเกือบสองเมตร หุ่นก็ดี๊ดี... กล้ามเนื้อแน่นไปทุกส่วนเลย เช็ดตัวให้ทีไรมีความสุขจริงๆ เลยนะเธอ” นางพยาบาลสองคนที่ช่วยกันดูแลคนไข้ปริศนา ต่างคุยกันอยู่ใกล้เตียงด้วยความเคลิบเคลิ้มอย่างยิ่งยวดตั้งแต่จอมมารถูกช่วยขึ้นจากน้ำตกในอุทยานแห่งชาติที่เดียวกันกับเฉินวาวา หากแต่พบพระองค์ห่างไกลออกไปนอนหมดสติอยู่ทางต้นน้ำ หลังจากนั้นได้ถูกช่วยจากเจ้าหน้าที่อุทยานนำส่งโรงพยาบาลเฉิงตู หลังพระชายาเข้าทำการรักษาไปแล้วหนึ่งวัน นับ

  • พิศวาส 3000 ปี   จอมมารทะลุศตวรรษ 1.2

    ร่างระหงตรงดิ่งเข้าสวมกอดนางพยาบาลที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอด้วยความดีใจอย่างยิ่งยวด ในขณะที่อีกฝ่าย อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมนางร้ายหน้าสวยจึงรู้จักชื่อของเธอ สายตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ“คุณเฉินวาวารู้จักชื่อของฉันด้วยเหรอคะ” นางพยาบาลที่เหมือนมู่อิงราวเป็นคนเดียวกันถามทำลายความเงียบหญิงสาวที่กำลังสวมกอดด้วยความดีใจ ยิ้มกว้างพร้อมหยาดน้ำตาก่อนจะปล่อยร่างนั้นออกจากอ้อมกอดของเธอเพื่อสำรวจใบหน้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ครั้นยิ่งมองยิ่งเหมือนมู่อิงในยุคอดีตทำให้เฉินวาวายิ่งหลั่งน้ำตามากขึ้นไปกว่าเดิม“ขอโทษด้วยคะ พอดีคุณเหมือนกับคนที่ฉันรู้จักมากๆ เธอมีชื่อและหน้าตาเหมือนกับคุณพยาบาลไม่มีผิดเพี้ยน ก็เลยทำให้นึกถึงและคิดถึงมากด้วย”หญิงสาวตอบพลางส่งเสียงสะอื้นไห้ออกมาทันทีนางพยาบาลสาวถึงกับน้ำตาคลอเบ้าขึ้นมาทันที เธอเอื้อมมือไปจับมือเรียวสวยของนางร้ายที่เธอชื่นชอบ พร้อมเอ่ยปลอบโยน“อย่าร้องไห้เลยนะคะ เดี๋ยวคนที่คุณรู้จักถ้ารู้ว่าร้องไห้เพราะคิดถึงแบบนี้จะไม่สบายใจเอาได้ ร้องไห้มากตาบวมเดี๋ยวไม่สวยนะคะ”หญิงสาวยิ้มกว้างออกมาทันทีเม

  • พิศวาส 3000 ปี   จอมมารทะลุศตวรรษ 1.1

    ยุคอนาคตมณฑลเสฉวน ณ.โรงพยาบาลเฉิงตูภายในห้องพิเศษบัดนี้ร่างงามระหงของเฉินวาวา กำลังนอนหลับใหลอยู่บนเตียงคนไข้ของโรงพยาบาล หญิงสาวได้กลับคืนสู่ยุคอนาคต และยังคงอยู่บนผืนแผ่นดินจีนอันกว้างใหญ่ เธอหลับใหลตั้งแต่อยู่ในอดีตกาลจนกระทั่งกลับมาสู่อนาคตอย่างไม่คาดฝันร่างของเธอถูกพบอยู่บริเวณน้ำตกในอุทยานแห่งชาติในชุดเกราะและสวมหน้ากากทองคำอยู่ด้วยในขณะนั้น แผลจากคมธนูที่ถูกฮ่องเต้แคว้นเยว่ยิงปักถูกร่างนั้น ถูกเย็บและได้รับรักษาเป็นอย่างดีจากแพทย์แผนปัจจุบันไม่มีใครล่วงรู้ว่าเธอมาปรากฏกายอยู่ที่นี่ได้อย่างไร และเพราะเหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ ในขณะที่การพบนางร้ายหน้าสวยเฉินวาวาเป็นข่าวดังขึ้นหน้าหนึ่งขึ้นมาอีกครั้ง เพราะหญิงสาวหายสาบสูญไปนานกว่าหนึ่งเดือน อันเป็นระยะเวลาของโลกอนาคตที่ดำเนินอยู่ ซึ่งแตกต่างจากยุคอดีตที่จากมากาลเวลาในยุคอดีตผ่านไปแล้วหนึ่งปีในขณะที่เธอใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นนักข่าวต่างรอทำข่าวกันอย่างเนืองแน่น เมื่อข่าวการค้นพบของเฉินวาวา นางร้ายหน้าสว

  • พิศวาส 3000 ปี   จอมมารในตำนาน 1.2

    ฉับพลันสุรเสียงของจอมมารชินซางดังกระหึ่มท่ามกลางทะเลเพลิง“มันผู้ใดหาญกล้าแตะต้องราชินีของข้า!” สุรเสียงของจอมมารดังกึกก้อง พร้อมพระวรกายค่อยๆ ปรากฏขึ้นท่ามกลางทะเลเพลิงที่ลุกโชนท่วมสูงทิวเขาต่อหน้ากองทัพของทั้งสามแคว้นท่ามกลางสายตาของมนุษย์ที่มีมากมายเป็นเรือนแสนของสองฝั่งแม่น้ำ ต่างยืนมองอย่างตกตะลึงเมื่อเห็นบุรุษสวมอาภรณ์สีนิลกาฬ เกศาสีเงินปลิวยายสยาย ในขณะที่รองแม่ทัพซึ่งล่วงรู้เหตุการณ์ทุกอย่างเมื่อเห็นชินอ๋องทรงฟื้นขึ้นดั่งเดิมและปรากฏอยู่ตรงหน้าท่ามกลางทะเลเพลิงอยู่ในขณะนี้“ชินอ๋องทรงฟื้นแล้ว! พระองค์ช่วยพระชายาด้วยพ่ะย่ะค่ะ! ฮ่องเต้โฉดผู้นี้กำลังจะจับพระชายาถ่วงน้ำ!” รองแม่ทัพตะโกนแทรกออกไปทันทีและนั่นทำให้ชิงอวิ้นฮ่องเต้ถึงกับชะงักงันเมื่อบุรุษสูงใหญ่ตรงพระพักตร์แท้จริงแล้วคือชินอ๋องผู้วายชนม์ไปแล้วเมื่อสามเดือนก่อนแต่บัดนี้กลับมาปรากฏพระวรกายด้วยร่างที่ยังคงรูปมิเน่าเปื่อยแต่อย่างใด“เป็นไปไม่ได้! คนตายแล้วฟื้นคืนกลับมาอย่างนั้นรึ!” รับสั่งรำพึงรำพันในขณะเดียวกันพระวรกายสูงใหญ่ทะ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status