“ เอ่อ...คือ ”
“ โอเครขอโทษที..ผมเผลอหลับไป...กู้ดไน้ท์นะ" ภวิชลุกขึ้นนั้งติดหัวเตียงเมื่อเห็นท่าทางอ้ำอึ้งของเธอแล้วเขาจึงตัดบทพูดให้เธอแล้วกล่าวราตรีสวัสดิ์กับเธอแทน... “ อย่าไปเลยนะคะ ” มิ้นตราลุกจากพื้นขึ้นมานั่งบนเตียงบังทางขวางหน้าชายหนุ่มไว้แทน ภวิชคิ้วขมวดเธอขยับมาจับมือเขาไว้แน่น “ อะไรกันมินคุณจะเอายังไงกันแน่ผมไม่เข้าใจ! ” เขาทำเสียงเข้มขรึมหงุดหงิดโวยวายใส่เธอแต่กลับไม่ยอมดึงมือที่เธอจับเขาไว้ออก ปล่อยมันอยู่นิ่งๆยอมให้เธอจับไว้แน่น เอ๊ะ? มันยังไงกันแน่หล่ะนี่ “ อะไรค่ะที่ว่าจะเอายังไง คืออะไรค่ะ ” หญิงสาวเสตามองพื้นที่เตียงไม่กล้าสบตากับเขาแม้ในใจจะรู้คำตอบก็ตาม “ มิน ผมคิดว่าคุณน่าจะรู้ว่าผมหมายว่ามันหมายถึงอะไร ในเมื่อคุณปฏิเสธผมก็ไม่บังคับก็ตามใจคุณแล้ว คราวนี้คุณต้องการทรมานอะไรผมอีก ” เขาตีหน้าเข้มขรึมหนักกว่าเดิม “ มินขอโทษ อย่าโกรธมินเลยนะคะ มินไม่อยากให้คุณเป็นแบบนี้ฮึกๆ ” น้ำตาใสคลอที่หน่วยเมื่อเขาปฏิเสธพยายามทำตัวไกลจากเธอ เสียงสะอื้นออกมาอย่างห้ามไม่ได้ เธอกำมือเขาไว้แน่นก้มมองพื้นเตียง ภวิชใจอ่อนยวบไม่ใช่อะไรหรอกจริงๆเขารู้ตัวตลอดตั้งแต่ที่มินตราก้าวเข้ามาในห้อง ทำแผลให้เขา สัมผัสจุมพิตที่แผลบางเบาทำให้เขาอบอุ่น แต่ถามเธอทีแรกว่าทำอะไรเธอดันทำท่ากระอักกระอ่วนใจจนเขาหมั่นไส้เลยอยากเอาคืนบ้างก็เท่านั้นสรรพนามที่แทนตัวเองด้วยชื่อทั้งที่ก่อนหน้ามันเป็นคำว่าฉัน คิดในใจว่าอย่างน้อยๆ เธอคงพอมีใจให้กับเขาบ้างล่ะน้าทำให้ภวิชรู้สึกถูกใจจนเผลอรอยยิ้มบางๆตรงมุมปากก่อนจะทำหน้าขรึมเช่นเดิมเมื่อจู่ๆเธอก็เงยหน้าขึ้นสบตากับเขา คนเจ้าเล่ห์หุบรอยยิ้มเกือบไม่ทันแถมยังตีหน้าขรึมถามกลับอีกว่า “ ถ้างั้นคุณจะให้ผมทำยังไงกับคุณดีหืม ใกล้คุณมากไป คุณก็จ้องจะหาว่าผมจะทำร้าย พอผมให้อิสระไม่เข้าไปวุ่นวายคุณก็อยากให้ผมเป็นคนเดิม คุณคิดว่าผม อุ๊บ ” คำพูดภวิชหยุดลงเมื่อมินตรายื่นหน้ามาปิดปากเขาด้วยปากของเธอ ภวิชตกใจในตอนแรกแต่ไม่ได้ทำอะไรกับเธอมากกว่านั้นเพราะเธอถอนริมฝีปากจากเขาเสียก่อน ภวิชสบตาหญิงสาวตรงหน้าต้องการหาคำตอบในสิ่งที่เธอกระทำ แต่แล้วเธอก็กลับหลบสายตาเขาอีกครั้งด้วยใบหน้าสีแดงระเรื่อ “ มินคุณไม่รู้เลยรึยังไงว่าผมทรมานลืมหรือเปล่าว่าผมก็แค่ผู้ชายคนนึงผมอยากทะนุถนอมทำให้คุณมีความสุขไม่ใช่ใช้แรงบังคับต้องพยายามแค่ไหนที่จะไม่เกินเลย แล้วดูสิ่งที่คุณทำกับผมสิ ” “ จุ๊ มินบอกแล้วยังไงคะว่าขอโทษ ” มินตราเอามือจุ๊ที่ปากเขาแล้วยิ้มบางๆลูบใบหน้าคมบางเบาไล้สายตามองทั่วหน้าของเขาสบสายตาเว้าวอนตัดพ้อของเขาที่ส่งมาให้เธอก่อนจะพูดประโยคที่ชายหนุ่มคิดไม่ถึงมาก่อน “ มิน คือ ” หล่อนกัดริมฝีปากของตัวเองจนดูเซ็กซี่ก่อนจะรวบรวมความกล้าไปจูบริมฝีปากหนาอย่างกล้าๆกลัวๆจูบไม่ประสาแต่สร้างความเสียวซ่านกระตุ้นอารมณ์บางอย่างที่ยากต่อการสยบลงได้เขาไม่คิดว่าริมฝีปากบางขบหยอกล้อเขาบางเบาจนภวิชร้องคราง “ อืม... ” แต่เขาไม่คิดจะจูบตอบเธอ แม่แมวน้อยของเขาจะทำอะไรต่อไปล่ะอยากรู้นัก “ อ่า คุณวิช...อุ๊ย..” เธอร้องเสียงหวานหวังให้เขาเชยชมแต่ภวิชกลับตวัดร่างของเธอให้เท้าพ้นพื้นมาแนบชิดกับตัวเขามากขึ้นชายหนุ่มพิงหัวเตียงหยัดเท้าอีกข้างให้เท้าสูงขึ้นส่วนอีกข้างปล่อยเหยียดตรง ใช้มือซ้ายรั้งร่างเธอเข้ามากอด “ ยั่วผมแบบนี้ ผลออกมาคุณแน่ใจแล้วหรอ!ว่าจะไม่เกลียดมัน! ” เขาหอบหายใจด้วยไฟราคะที่กำลังก่อขึ้นอย่างแรงกล้าผลลัพธ์ในที่ว่านี้ก็หมายถึงเพศสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอรสแห่งพิศวาสของเขา เธอแน่ใจหรือเปล่าที่จะยอมให้กับเขาจริงๆ “ มินทำขนาดนี้แล้วนะ ” เธอเอียงหน้าหลบอย่างเขินอาย สองแขนเท้าแนบหน้าอกของเขา แอ่นหน้าอกเอนเอียงหลบไปหน้าคมที่กระเซ้ากระซิบข้างหูของเธอ “ เรียกพี่วิชสิครับมิน ” เขาช้อนปลายคางหญิงสาวให้หันมาสบตากับเขาก่อนจะมอบจุมพิตให้เธอแบบที่เรียกว่าจูบจริงๆ มินตรารู้สึกวูบวาบกับสิ่งที่เขารุกเร้าเข้ามาร่างบางถึงกับสั่นสะท้านภวิชที่ตอนแรกกะจะดูท่าทางและการยั่วของเธอ แต่......ไม่ไหวเสียจริงเห็นทีคงต้องสอนกันอีกยาวไว้ลูกศิษย์ฉายา ที่รัก คล่องแล้วเมื่อไหร่ ค่อยปล่อยให้ทดสอบก็คงไม่สายไปกระมั้ง เขาคิดยิ้มแย้มในใจบรรเลงจูบริมฝีปากบางเบาด้วยอารมณ์อ่อนไหวที่แสนหวาน มินตราแทบหมดเรี่ยวแรวเมื่อเขายกตัวเธอขึ้นทับที่หน้าขาของเขาที่ก่อนหน้านั้นมีข้างหนึ่งที่เท้าชันตั้งบัดนี้วางแบนเรียบกับเตียงกว้างเพื่อจัดสรรพื้นที่ให้ร่างกายของเธอ เขายังทำหน้าที่พรมจูบขบติ่งหูเธอเบาๆ “ พี่วิช อ่า อืม พี่วิชขา ” “ ครับ คนสวย บอกก่อนนะ ต่อให้เขาช้างมาชุด ก็หยุดพี่ไม่ได้แล้ว ” เขาขานรับกระซิบชมหญิงสาวหน้าหวานที่หลับตารับรสจูบที่เรียกได้ว่าเกือบสูบวิญญาณของเธอ “ หึๆ ” มินตราหัวเราะเบาๆกับคำหยอกของเขาที่ดูท่าว่าจะจริง มือแกร่งเริ่มอยู่ไม่สุข ลูบไล้แผ่นหลังจับมือบางวางบนบ่าของเขากระชับลูบไล้บางเบาวนมากอบกุมปทุมถันด้านหน้า “ อ่า ” เสียงหวานครางจนเขาร้อนเป็นบ้าเกือบคุมแทบไม่ได้ “ อืม มินครับจูบพี่หน่อย ” มินตราที่แนบหน้ากับหัวไหล่ส่ายหน้าเบาๆเสียงตอบอู้อี้แต่เดาได้ “ มินจูบไม่เป็น ” “ หึๆ ” เสียงหัวเราะในลำคอของภวิชทำให้มินตราสบตาจ้องกับเขาเธอทำแก้มป่องใส่อย่างที่ภวิชอดใจไม่ได้ต้องใช้ฟันสวยขบเบาๆปลายจมูกหล่อนอย่างหมั่นเขี้ยว “ จูบแบบนี้ไง ” ภวิชบอกแล้วสอนเธอด้วยการขบริมฝีปากล่างเบาๆ หยอกเย้าไปถึงริมฝีบน สร้างเสียงครางหวานส่งออกมาเสียงเรียกชื่อเขาทำให้ภวิชยิ่งเสน่หาในเธอ ชุดสายเดี่ยวเริ่มหลุดเลื่อนลงจากบ่าไปกองอยู่ที่เอว มินตราสติแทบไม่เหลือแล้ว ภวิชไม่รอช้าที่จะส่งเรียวลิ้นกวาดหาสิ่งหอมหวานจากปากของเธอมือหนายังทำหน้าที่บีบคลึงยอดถันที่ชูชันสิเน่หา สะโพกมนถูกคลึงให้ผายริมฝีปากหนานั้นไล้ลงตามเรือนกายขบเม้ม สร้างความเป็นเจ้าของทั้งซอกคอ หัวไหล่ หน้าอกแอ่นรับสัมผัส ภวิชเองก็แทบทนไม่ไหว “ สวยจังเลยครับมิน เขาดูดเม้มเหมือนทารกขาดนมมารดา “ พี่วิชขา ” พายุลูกสุดท้ายพัดกระหน่ำความสุขในบทเพลงพิศวาสไม่จบลงเพียงครั้งเดียวเท่านั้นเขาสร้างความสุขเธอไปเพียงหนึ่งครั้งด้วยเรียวนิ้วเสื้อคลุมสีน้ำเงินล่วงหล่นเพราะมือบางที่ทั้งกำทั้งขยับทั้งปัดด้วยความเสียวซ่านที่เขาส่งมาให้ จนเธอกระตุกปล่อยสายธารให้เขาได้เห็น หน้าบางแดงก่ำหลบตาเขาที่มองเธออย่างหวานเยิ้ม “ นี่แนะจะมองทำไมนักหนาค่ะ ” มินตราตีที่มือเขาบางเบาเบียดชิดแนบกายเขาแน่นกว่าเดิมเพียงเพราะไม่อยากเห็นสายตาหื่นกระหายของเขาที่สำรวจเรือนร่างของเธอแต่รู้ไหมหน่ะมินตราเธอกำลังคิดผิดเพราะนั่นยิ่งทำให้หน้าอกหญิงสาวเบียดชิดกับกายเขามากยิ่งขึ้นภวิชกัดฟันด้วยความรัญจวนแมวน้อยของเขาร้ายกาจจริงๆ “ เอ้า ก็มินสวยนี่ครับ ” เขาจูบหัวมนไหล่อีกครั้งมืออีกข้างงัดบางอย่างที่ ขยายตัวอย่างเต็มที่ออกมาเสียดสีปากทางโพลงแห่งเสน่หาสาว.... “ ซี้ด อ่าอืม ” เสียงทั้งสองคนครางประสานกันมินตรากระชับเรียวแขนโอบกอดภวิชแน่นเมื่อสัมผัสความเสียวกระสันจนขนอ่อนลุกชูชันเมื่อสัมผัสถึงความแตกต่างทั้งเขาและเธอได้ ร่างกายมินตราสั่นเทาจนภวิชต้องโอบกอด “ กลัวรึเปล่าครับ ” “ อืม ” มินตรากัดริมฝีปากแล้วพยักหน้าเธอไม่เคยรู้เรื่องอย่างว่าแบบนี้มาก่อนเคยแค่ทฤษฏีแต่ปฏิบัตินี้ไม่ผ่าน “ ไม่ต้องกลัวนะครับพี่สัญญา จะทำให้มินมีความสุขเอง ” เมื่อสัมผัสได้ถึงการพยักหน้าของเธอนิ้วแกร่งก็เริ่มนำทางในขณะที่มินตรายังคงซบหน้ากับบ่ากว้างของเขา “ อ่าาาอืม~” คนนึงร้องด้วยใกล้ถึงฝั่งเมื่อเขารัวเร็วถี่ขึ้นจนเธอกลั้นเสียงไม่ไหว คนนึงร้องด้วยความเสียวกระสันที่ภายในนุ่มนั้นอ่อนหวานตอดรัดสัมผัสเขาจนแทบคลั่ง “ อะอ๊า ” เมื่อเธอสุขสมแล้วมินตราแทบจะหมดแรงหอบหายใจแผ่วภวิชจูบหน้าผาก ขมับ ไร้ลงริมฝีปากพลางค่อยๆยกร่างมินตราขึ้นโดยที่เธอแทบไม่หลงเหลือสติด้วยซ้ำเขาหลอกล่อให้เธอหลงใหลเพื่อเธอจะได้ไม่ตกใจกับสิ่งแปลกปลอมที่เขากำลังจะใส่เข้าไปในร่างกายของเธอ “ กึก โอ้ยยอืม ” มินตราเผลอจิกไหล่กว้างด้วยความตกใจและเผลอกัดปากชายหนุ่มไปและร้องด้วยความเจ็บปวดกับบางอย่างที่เขาใส่เข้ามา สติและอารมณ์หวิวๆ หายไปเป็นปลิดทิ้งหยาดน้ำใสๆคลอที่หน่วยตา ภวิชเองก็แทบจะขาดใจนี้แค่ใส่ไปได้แค่ส่วนปลายมินตราก็มีสีหน้าที่เจ็บปวดได้ถึงเพียงนี้เขาจูบซ้ำที่หางตาเบาๆ “ ฮือ มะไม่เอาแล้วฮือเจ็บอ่ะ พี่วิชฮือๆหยุดเหอะนะ ” “ หยุดไม่ได้แล้วมิน พี่มาถึงขั้นนี้แล้ว ” “ ไม่ฮือเอาออกไปนะ มินเจ็บโอ้ยฮือๆ ” เธอร้องเจ็บปวดอีกครั้งเมื่อภวิชพยายามดันตัวเขามาอีกครั้งช้าๆภวิชกัดกรามดังกรอดสยบอารมณ์ไม่ให้ทำดั่งใจปรารถณา “ มินขอร้องอย่าขยับไม่งั้นมินจะเจ็บกว่านี้เชื่อพี่สิมันจะดีขึ้น ” เขาพูดเสียงดุสบตากับเธออย่างปรามมินตายอมหยุดอยู่นิ่งเธอไม่อยากเจ็บกว่านี้มันเหมือนร่างโดนมีดผ่าก็ไม่ปาน “ ไม่ร้องนะครับคนดีมินต้องช่วยพี่ด้วยนะถ้าไม่อยากเจ็บแบบนี้ เข้าใจไหม ”จูบซับน้ำตาให้เธอมือหนาไล้ลูบใช้หัวแม่มือคลึงจุดประสาทสัมผัสที่อ่อนไหวของกายสาวมินตราส่งเสียงครางอีกครั้ง มีเพียงใบหน้าที่พยักเพยิดฟังเขาเท่านั้นแค่มินตาขยับนิดเดียวเขาก็ห่อปากซี้ดแล้ว “ มินยกตัวขึ้นอ้าขาให้กว้างอีกหน่อยครับ อืม...เก่งมากเลย ” ภวิชเอ่ยชมเมื่อหญิงสาวเริ่มทำตามเขาค่อยๆขยับกายเข้าหาอีกครั้งช้าๆแต่ทุกครั้งที่ขยับออกและขยับเข้าลึกขึ้น มินตราจะผวากอดเขาแน่นจนเขากลั้นใจถอนแกนกายออกมาจนมินตราร้องครางเบาๆแล้วส่งมันกลับทีจะสุดความยาวในครั้งเดียว “ อร้าย ” มินตราทั้งเจ็บปวดทั้งเสียวซ่านไม่ต่างจากภวิชเขาสัมผัสถึงเยื่อบางๆที่เขาเพิ่งฝ่าฟันผ่ามันมาได้ “ โอ้ววมินจ๋า พี่ขอโทษที่ทำให้มินเจ็บนะ ” เขานิ่งแช่ในร่างกายเธอสักพักพอให้ปรับตัวได้พูดเสียงกระเส่าไปด้วยส่วนล่างก็ค่อยๆขยับเช่นกันความเจ็บปวดแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกโหยหาซึ่งกันและกันอย่างร้องขอทั้งสองกอดเกี่ยวกวัดเสียงครางเสียงหวานแหบพร่า เสียงหอบหายใจคืนนี้ดูท่าไม่จบลงง่ายๆ รางวัลลูกศิษย์สาวเขายังมีไว้ให้อีกเยอะมินตราค่อยๆลืมตาขึ้นมาในเช้าอีกหนึ่งวัน คุณหญิงมณีจึงตรงเข้าไปกอดลูกสาวเอาไว้แน่น “ มินตื่นแล้วหรอลูกเป็นยังไงบ้างค่อยๆลุกนะลูก ” “ มินรู้สึกเจ็บท้องค่ะแม่ แล้วลูกมินหล่ะค่ะ แม่ ลูกมินยังอยู่ใช่ไหมคะ ”มินตราเริ่มผวาเมื่อเธอสัมผัสหน้าท้องเธอจำได้ว่าเมื่อวานเธอมีอาการตกเลือดทำไมเธอเจ็บท้องแล้วความฝันก่อนหน้านั้นที่หนุ่มน้อยเดินหายไปจากเธอคืออะไร “ มินใจเย็นๆนะลูก ” “ ลูกมินยังอยู่ใช่ไหมคะ ลูกของหนู ” “ เขาไม่อยู่แล้วลูก หนูเสียเลือดมากคุณหมอต้องขูดมดลูกเพื่อช่วยชีวิตมินไว้ ” “ ไม่จริงอ่ะ แม่โกหกใช่ไหม ลูกหนูกับพี่วิช แม่โกหกใช่ไหม ฮือๆ แล้วพี่วิชหล่ะคะแม่ พี่วิชเขาปลอดภัยใช่ไหมคะแม่ ใช่ไหมฮือๆ ” “ ใจเย็นก่อนนะลูก คุณวิชเขาปลอดภัยหนูอยากไปหาเขาไหม ” “ จริงนะคะ เขาปลอดภัยจริงนะคะ ” ถึงแม้เธอจะเศร้าใจเรื่องลูกแต่ ภวิชปลอดภัยความหวังเธอก็ยังไม่โดนพังหมดซะทุกอย่าง ผู้เป็นแม่เมื่อเห็นน้ำตาของลูกก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ตามเธอสงสารลูกสาวคนเดียวอย่างจับใจแต่เมื่อโชคชะตาให้ลูกเธอเจอแบบนี้ เธอคงทำได้เพียงยืนอยู่ข้างๆเธอไม่ตอบอะไรมากนอกจากพยักหน้า มินตราถูกพยุงให้นั่งรถเข็นแ
ณ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่ภัสสรใช้เวลาพอสมควรกว่าจะ มาถึง “ ถึงแล้ว ลงมาสิ ” “ เรามาทำอะไรกันที่นี่หรอคะ ” “ ฉันคงพาเธอมานั่งรถเล่นมั้งจะไปไหมเร็วๆเข้า ” “ อ๋อค่ะๆ ” มินตราปลดสายเข็มขัดนิรภัยออกจากตัวแล้วรีบลงจากรถเมื่อเห็นว่าสาวน้อยที่พามาเริ่มหงุดหงิดแต่เธอก็ไม่เคยคิดโกรธภัสสรเลยเธอกลับชอบเพราะภัสสรซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเธอเองมินตราก้าวเท้าเข้ามาในโรงพยาบาลด้วยความรู้สึกหลากหลายเธอสงสัย เธอกังวลหรือเธอกำลังกลัวกันแน่ ภัสสรสรเดินนำมินตราไปจนหยุดที่หน้าห้องพักห้องหนึ่ง “ แกร๊ก ” “ ถึงแล้วเข้าไปสิ ” ภัสสรยืนพิงประตู เบี่ยงหลบทางให้มินตราที่ทำท่าชะเง้อชะแง้มองดู มินตรากล้าๆกลัวๆเดินเข้าไปในห้องเธออยากพบภวิชนะแล้วภัสสรพาเธอมาเยี่ยมใครกัน มินตราเดินใกล้เข้ามายังเตียงผู้ป่วยก็พบกับทั้งพ่อแม่ภวัตต์และรฏาในห้อง เท่านั้นยังไม่พอทุกคนหันมามองเธอเป็นตาเดียวคำพูดต่อมาของภวัตต์ทำให้มินตราก้าวขาไม่ออก “ วิช มินมาหา นายลืมตามาดูเธอหน่อยสิฉันรู้ว่านายคิดถึงเขา ” เปลือกตาภวิชที่ขยุบขยิบเหมือนกับได้ยินสิ่งที่ภวัตต์บอกแต่ปฏิกิริยาไม่มีการตอบสนองที่ทำให้รู้ว่าเขาฟื้น มินตรามอ
“ พี่แหวน พี่มองหาใครหรอค่ะ ” “ อ้าวคุณมิน เปล่าค่ะ พี่แค่กำลังมองหารถคันนึงหน่ะค่ะ จะชอบมาจอดหน้าบ้านเราเป็นเวลานานๆ แต่สองสามวันมานี่ไม่เห็นแล้วหล่ะคะ ไม่รู้ว่าพวกโรคจิตหรือเปล่านะคะ จอดรถหน้าบ้านแต่ไม่มีคนลงจากรถเลย ” มินตรามองไปยังหน้าบ้านที่มีต้นไม้ใหญ่อยู่ตามสายตาสาวใช้ที่บอกไป “ พี่แหวนคิดมากไปหรือเปล่าคะเขาอาจจะเป็นญาติฝั่งตรงข้ามนะคะ ” “ จริงๆนะคะคุณมิน ” “ ชั่งเถอะค่ะ ” “ อะๆ นั่นไงคะรถคันนั้นไงคะคุณมิน ” “ หืม ” มินตราชะงักเท้าที่เธอเพิ่งจะหันหลังกลับเข้าบ้านรถหรูหราที่ หน้าตาคุ้นเคย แล่นมาจอดหน้าบ้านตามคำพูดของสาวใช้มินตราไม่รอให้สาวใช้ตรงไปเปิดประตูเธอเลือกก้าวขาไปหาเอง “ แกร๊ก ” เสียงเปิดประตูรั้วหน้าบ้านและเธอก็ได้เห็นร่างสง่างามสมส่วนของสายชลที่ก้าวลงจากรถเดินตรงมาหาเธอ “ สวัสดีครับคุณมิน ” “ สวัสดีค่ะคุณสายชล ” “ คุณมินสบายดีไหมครับ ” “ ก็อย่างที
ตกกลางคืนภวิชเริ่มมีสติหลังจากดื่มน้ำเมาแล้วยังทะเลาะอย่างรุนแรงกับน้องสาวสุดที่รักอีก เขาอดห่วงมินตราไม่ได้จริงๆจึงต้องหวนกลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้งเพื่อมาหาเธอ คุณหญิงมณีที่อยู่ภายในห้องแต่ทำไมในห้องถึงมีอดีตเพื่อนรักอย่างโทนี่อยู่ด้วยเขาเอานิ้วมือเรียวแตะที่กระจกเพื่อสัมผัสใบหน้า มินตราผ่านอากาศที่หลังจากนี้เขาจะไม่มีสิทธิ์สัมผัสชิดใกล้กับเธออีกแล้ว “ มินพี่ไม่รู้ว่าลูกจะได้อยู่กับพวกเราไหม แต่ถ้าหากลูกได้อยู่ บอกรักเขาแทนพี่ด้วยนะมิน ” น้ำตาไหลลงอีกครั้งนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้ใกล้ชิดกับเธอ “ ไอ้เสี่ยชัย!!! ฉันไม่ปล่อยแกไว้ให้แกทำร้ายลูกกับเมียฉันซ้ำสองแน่!! ” เขาทิ้งความอ่อนโยนครั้งสุดท้ายไว้ให้กับผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาและแม่ของลูกเขาก่อนจะเปลี่ยนสายตาเป็นแข็งกร้าวและข่มเสียงพูดถึงคนที่ทำร้ายดวงใจของเขา ด้วยความแค้นสุมอก มีใครเคยบอกไหมว่าอย่าให้คนอย่างเขาแค้น เพราะนั่นหมายถึงแค้นฝั่งหุ่นทั้งเป็นและตาย เขาจะไม่ยอมให้คนที่เขารักเป็นอันตรายไปอีกแล้วมันมากไปแล้วที่ผ่านมา
ภวิชที่ทำแผลเสร็จตอนนี้เขาพันแผลที่หัวไหล่แล้วเรียบร้อย เขาก็รีบตรงมายังหน้าห้องฉุกเฉินทันที เป็นเวลาที่หมอออกมาจากห้องผ่าตัด “ ภรรยาผมเป็นยังไงบ้างครับ ” “ ตอนนี้หมอทำการผ่าตัดนำกระสุนออกมาแล้วนะครับแต่อาการเธอตอนนี้ยัง...” “ เกิดอะไรขึ้นครับหมอ คุณพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง ” “ เอ่อ คือหมอคิดว่าคุณคงทำใจไว้สักนิดนะครับ ” “ หมายความว่าไงคะหมอ ” รฏาเริ่มใจคอไม่ดี “ เธอมีอาการตกเลือดหน่ะครับ คุณต้องทำใจไว้ส่วนหนึ่งด้วยนะครับเธออาจสูญเสียเด็กในท้อง ” “ เด็กในท้อง หมายถึง ละ ลูกหน่ะหรอ ” ภวิชพูดจาติดขัดเขาพยายามเรียบเรียงสิ่งที่ได้ยิน สายชล ภวัตต์ รฏา รวมถึง กฤษที่อยู่บริเวณนั้น ทุกคนต่างตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน คนที่ตกใจที่สุดคงไม่พ้นภวิช “ เฮ้ย! วิช ” ภวัตต์รีบเข้ามาพยุงน้องชายที่เข่าอ่อนลงทันทีที่หมอพูดจบ มินตราท้องหรอ ที่สาวน้อยเขาเพลียบ่อยๆตอนนั้นที่เขาสงสัยว่าทำไมเธอถึงเหนื่อยง่ายๆ เพราะเธอท้องงั้นหรอ แล้วทำไม ทำไมมินถึงใจร้ายไม่ยอมบอกเขาไม่ยอมให้เขาทำหน้าที่พ่อของลูกบ้าง ภวิชเหมือนคนหูอื้อไม่ได้
- แต่งงานกันนะครับ- ทันทีที่เพลงเล่นจบลงภวิชก็ดึงมือทั้งสองของมินตรามากุมไว้ในขณะที่เขายังคงคล้องแซกโซโฟนอยู่เขาใช้นิ้วมือปาดน้ำตาของคนสวยที่เปื้อนตรงแก้มใสอย่างอ่อนโยนแววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้งเขาย่อตัวไปหยิบกล่องแหวนขึ้นมาแล้วมองกล่องแหวนในมือภาวนาขอให้มินตราตอบรับเขา “ ว่ายังไงครับ แต่งงานกับพี่ได้ไหม พี่จะทำให้มินมีความสุขที่สุด ” “ คุณวิชคือมิน.....” “ ว่ายังไงครับ ” “ มิน ไม่........ ” “ ฟุ้บ ปังๆๆๆ ” เสียงปืนที่ดังขึ้นหลายนัดทำให้ความโรแมนติกทุกๆ อย่างหมดสิ้นลง เสียงระเบิดที่ดังขึ้นท้ายเรือทำให้มินตราตกใจ ภวิชคว้าดึงมินตราเข้ามากอดเขาหันมองซ้ายขวา สายชลที่คอยช่วยเหลือควบคุมระบบไฟอยู่บนสุดของเรือในห้องกัปตัน ลูกน้องบางส่วนที่กระจายคอยดูอยู่รอบๆ เขาไม่ได้บอกมินตราเรื่องนี้เพราะกลัวเธอจะตกใจ แต่สุดท้ายก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ “ วิช ” “ วัตต์นายรีบพามินลงไปจากเรือลำนี้ที ฉันจะดูทางนี้ให้ ” “ แล้วคุณหล่ะคะวิช ” รฏาเป็นฝ่ายถาม สมองมินตราสับสนไปไหม ว่าเกิดอะไรขึ้น “ ผมจะดูต้นทางให้รีบลง