“สวัสดีครับ” เภสัชกรวัยกลางคนที่ประจำเค้าเตอร์ขายยาทักทายลูกค้าทั้งสอง “ผมต้องการยาคุมกำเนิด” อดัมแจ้งสิ่งที่ต้องการโดยทันที น้ำฟ้าหันไปมองคนข้างกายที่ยังกุมมือเธอด้วยดวงตาที่เบิกกว้างจนดวงตาสีน้ำตาลเข้มแทบจะหลุดออกจากเบ้าตา “ครับ” เภสัชกรขานรับพร้อมกับหันหลังหยิบสิ่งที่ลูกค้าตรงหน้าต้องการ ด้วยแววตาที่เรียบเฉย “คุณครับ...คุณคิดว่าเธอคนนี้ควรใช้เวลากับผมเพียงแค่ยี่สิบเอ็ดหรือแค่ยี่สิบแปดวันเท่านั้นเหรอครับ” คำพูดของอดัมสร้างความฉงนไม่เข้าใจให้กับเภสัชกรตรงหน้าอย่างมาก “เอ่อ ขอโทษครับ...ผมไม่เข้าใจ” “ก็เธอคนนี้...คนที่ยืนอยู่ข้างๆผม...เธอเข้าใจว่าผมจะให้เธออยู่กับผมเพียงแค่ปริมาณยาคุมกำเนิดที่ผมให้เธอกิน” อดัมพูดต่อโดยที่สายตาของเขายังคงจ้องอยู่ที่เภสัชกรเท่านั้น แต่กลับเป็นเภสัชกรที่ย้ายสายตามามองคนที่ถูกกล่าวถึง และตอนนี้เภสัชกรก็เห็นใบหน้าเธอซับสีเลือดอย่างเห็นได้ชัดมากขึ้นเมื่อได้ยินประโยคคำพูดของคนข้างๆเธอ “เข้าใจแล้วครับ ทั้งร้านผมมียาตัวนี้อยู่น่าจะหนึ่งลังและในหนึ่งลังนั้นมีอยู่สี่ร้อยกล่อง คุณจะเหมาหมดเลยมั้ยครับ” เภสัชกรวัยกลางคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากกว่าชายตรงหน้าหลายปีนัก
View More‘ประเทศไทย’
เสียงเครื่องยนต์เรือยอร์ชค่อยๆ ดับลงจนเงียบสนิทเหลือเพียงเสียงคลื่นกระทบฝั่งหาดทรายขาว ณ เกาะรุ่งอรุโณทัย อดัม และ เจอาร์ ลงจากเรือเดินลงทะเลเพื่อไปยังบ้านพักที่พ่อเขาได้สร้างไว้เพื่อการพักผ่อน และนี้เป็นการมาเยือนเกาะแห่งนี้เป็นครั้งที่สามของอดัม แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไปเพราะเกาะแห่งนี้ได้เป็นของเขาอย่างสมบูรณ์แล้ว แม่ได้ยกให้เขาเป็นของขวัญจบการศึกษาระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของสหรัฐอเมริกาด้วยวัยเพียงยี่สิบสี่ปี เกาะนี้แม่ของเขาเป็นผู้ตั้งชื่อตามนามปากกาของแม่ที่เป็นนักเขียน
อดัม เบนเน็ต ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน แม่เขาเป็นคนไทย และแม่ได้เกาะนี้เป็นของขวัญจากพ่อ แต่ท่านทั้งสองก็ไม่ค่อยมีเวลากลับมาเมืองไทยพวกท่านจะอยู่ที่อเมริกาที่เมืองซอลท เลค ซิตี้ รัฐยูทาห์เป็นส่วนใหญ่ ถึงแม้จะเป็นลูกครึ่ง แต่ด้วยพ่อของเขาเป็นลูกครึ่งผิวสีอเมริกันจึงทำให้ อดัม ดูจะเป็นคนเอเชียที่มีรูปร่างสูงใหญ่แบบคนอเมริกัน ส่วนสูงมากกว่าหกฟุต แต่นัยน์ตาสีเขียวแบบคุณย่าที่เป็นอเมริกันแท้ และสีผิวน้ำผึ้งแบบแม่ ทุกอย่างที่องค์ประกอบมาเป็นเขาทำให้อดัมจัดเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์ และเขายังเป็นนายแบบมีสายเลือดศิลปินที่มาจากทั้งคุณย่าที่เป็นนักดนตรี พ่อที่เป็นทั้งนักร้องและนักดนตรีส่วนแม่เป็นนักเขียน ประกอบกับอดัมมีบุคลิกที่มั่นใจในตัวเองสูงเพียบพร้อมไปทุกอย่าง ฐานะ ความรู้ รูปร่างหน้าตา แต่จะมีใครสักกี่คนที่รู้ว่าเขาคือทายาทเพียงคนเดียวของอีธาน เบนเน็ต มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่แห่งฟิลา-เดลเฟีย ซึ่งเป็นปู่ของเขานั่นเอง
การเดินทางมาเมืองไทยครั้งนี้ของอดัมก็เพื่อมาตามความต้องการของพี่ชายที่ต้องมาทำภารกิจของหัวใจ และอีกวัตถุประสงค์ของตัวเขาคือมาสำรวจ ‘เกาะรุ่งอรุโณทัย’ อีกครั้ง และวันมะรืนนี้เขาต้องเดินทางไปประเทศอังกฤษเพื่อไปจัดการธุรกิจแทนพี่ชายคือ อลัน ซาวันเดอร์ พี่ชายแท้ๆแต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เขาทั้งสองต้องใช้คนละนามสกุล
อดัมและผู้ติดตามคนสนิทที่เปรียบเสมือนพี่ชายต่างสายเลือดอีกหนึ่งคนคือเจอาร์ซึ่งมีอายุแก่กว่าอดัมหนึ่งปีแต่ฝีมือทั้งบุ๊นและบู้ไม่ได้แตกต่างไปจากอดัมเลย ทั้งสองคนมักจะเดินทางไปในทุกๆที่กันเพียงลำพัง โดยเป็นที่แปลกใจของคนที่พอรู้ภูมิหลังว่ามาเฟียใหญ่อย่างอดัมกลับไม่มีผู้ติดตามคอยคุ้มกันมากมาย ทั้งๆที่มีคนมากมายหมายจะปลิดชีวิตมาเฟียอย่างเขา แต่ถ้าใครก็ตามที่รู้จักอดัมเป็นอย่างดีก็จะไม่อยากจะเป็นผู้รับหน้าที่ในการลอบสังหารมาเฟียผู้นี้ เพราะอดัมถูกฝึกศิลปะการต่อสู้หลายรูปแบบตั้งแต่อายุเพียงสิบสองขวบ แต่เขามีการฝึกพื้นฐานมาตั้งแต่เยาว์วัยตามวัยและความสามารถของร่างกาย และนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้อดัมมีรูปร่างที่ดีมากจนเขาก็นึกสนุก โดยตัวเองมีฉากหน้าเป็นนายแบบที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง
อดัมมองไปรอบๆเกาะที่ยังคงสวยงามมากเหมือนเดิม ถึงแม้พวกเขาไม่ค่อยได้มาแต่ทุกอย่างได้รับการดูแลอย่างดีจากเพื่อนของแม่และท่านทั้งสองยังเป็นพ่อและแม่ทูนหัวของพี่ชายเขาด้วย พวกท่านก็เปรียบเสมือนพ่อกับแม่เขาเช่นกัน และเกาะแห่งนี้พ่อทูนหัวของพี่ชายก็แนะนำให้พ่อของเขาซื้อไว้ และพ่อทูนหัวของพี่ชายก็ซื้ออีกเกาะที่อยู่ไม่ห่างไกลจากที่นี่มากโดยตั้งชื่อเกาะว่า ‘เกาะมุก’ ตามชื่อลูกสาวเพียงคนเดียวของพวกท่านทั้งสอง เกาะนี้เคยเป็นของตระกูลศิริสินธร แต่เมื่อประมาณเกือบสามสิบปีก่อนครอบครัวนี้ประสบปัญหาของธุรกิจจึงต้องขายเกาะทั้งสองที่เป็นสมบัติสืบทอดกันมาหลายรุ่นด้วยราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดมาก เพราะเขาทราบเพียงว่าตอนนั้นตระกูลนี้ต้องการเงินด่วนเพื่อประคองธุรกิจของตระกูลไว้
“พี่เจอาร์....” อดัมเรียกบอดิการ์ดคนสำคัญทันที เพราะตอนนี้สายตาของเขาสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่างในทะเลที่มีการขยับเคลื่อนห่างไกลจากสายตาเขาไปเรื่อยๆ
“นาย!!!...นั้นคนกำลังจะจมน้ำครับ” เจอาร์พูดออกมาอย่างมั่นใจ อดัมเมื่อได้ยินแบบนั้นวิ่งลงสู่ทะเลอีกครั้ง และแวกว่ายเข้าหาร่างที่ตอนนี้กำลังจะหายสู่ห้วงลึกของก้นทะเล ซึ่งเจอาร์วิ่งและว่ายตามไปติดๆ
“บ้าจริง!” อดัม คิดในใจนี้มันเกาะส่วนตัว แล้วใครกล้าบังอาจมาทำสิ่งชั่วร้ายสร้างมนทิลให้กับเกาะของเขา อดัมด่ำดิ่งสู้พื้นทรายใต้ท้องทะเลจุดเดียวกับร่างนั้นลงสู่ผิวใต้น้ำท้องทะเลนั้น และเขาก็สมประสงค์คว้าแขนเรียวเล็กของร่างบางนั้นได้และดึงขึ้นสู่ผิวน้ำเพื่อให้ปอดทั้งของเขาและเจ้าของร่างบางนี้มีอากาศเข้าไป
เจอาร์เข้าไปช่วยอดัมรับร่างบางและพาขึ้นสู่หาดทรายอีกครั้ง อดัมมองร่างบางนั้นไม่ไหวติง ไร้ซึ่งการตอบสนองทั้งสองคนเร่งฝีเท้าทันที เจอาร์วางร่างของสาวน้อยบนพื้นทรายนั้นทันที อดัมเข้าไปนั่งคุกเข่าข้างๆ ร่างบางนั้นและเริ่มต้นการทำซีพีอาร์เพื่อดึงวิญญาณกลับสู่ร่างบางนั้นทันที
อื้ม...อ๊ากกก..โอ็ก โอ็ก เสียงไอพร้อมน้ำทะเลที่ไหลออกมาจากปากบางแดงก่ำนั้น อดัมจ้องมองร่างบางนั้นถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะซีดเซียวผมดำยาวประบ่าจะเปียกลีบไปกับศีรษะมนนั้น แต่เธอช่างมีใบหน้าที่เกลี้ยงเกลาและงดงามน่ารักยิ่งนัก ถึงแม้เธอจะค่อนข้างตัวเล็กผอมบางแบบสาวเอเชียแต่ทุกอย่างของเธอก็สมส่วนลงตัวนัก
“อ๊ะ!” อดัมหัวใจกระตุกวาบทันทีเพียงแค่เธอปรือตาลืมขึ้นมาสบตากับเขา และดวงตากลมโตนั้นก็ค่อยๆ ปิดสนิทลงอีกครั้ง อดัมช้อนร่างบางนั้นและมุ่งหน้าไปยังบ้านพักทันที เพราะเขาต้องทำให้ร่างกายนี้อบอุ่นโดยเร็ว เจอาร์เพียงแค่ตามไปเงียบๆ
“นายว่าธุระของนายมาเลยดีกว่า” อดัมหันไปพูดกับอังเดรโดยทันทีเมื่อคิดว่าถ้าเสร็จธุระแล้วก็จะได้ไปห่างๆจากพ่อลูกคู่นี้ ที่เขาดูออกว่าต้องการแก้วตาและดวงใจของเขามากแค่ไหน “ผมจะไม่อ้อมค้อมเลยล่ะกัน...ผมอยากจะฝากเอ็ดเวิร์ดไว้กับพวกคุณทั้งสองต่อจากนี้ไป” “อะไรนะคะ!” น้ำฟ้าที่ได้ยินเช่นกันถามกลับโดยทันที อดัมขมวดคิ้วมองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ “พวกคุณได้ยินไม่ผิดหรอกครับ...เราต่างรู้ดีว่าผมเป็นใคร...ตอนนี้เอ็ดเวิร์ดคือสิ่งสุดท้ายที่มีความหมายต่อชีวิตผม...ผมไม่มีใครให้ไว้วางใจได้นอกจากพวกคุณที่จะช่วยเลี้ยงดูแลเขาต่อไป” “แล้วแม่ของเอ็ดเวิร์ดละคะ” “ผู้หญิงคนนั้นไม่เค
‘หนึ่งปีต่อมา....’ “สวยจังเลยนะคะ...” น้ำฟ้าเอ่ยออกมากับความสวยงามของธรรมชาติที่ลือเลื่องของสวิสเซอร์แลนด์ “ตอนนี้คุณแม่น้ำทิพย์กับคุณพ่อศตวรรษท่านทั้งสองก็ไม่ต้องแยกจากกันแล้ว” อดัมเป็นคนเอ่ยโดยที่ยืนอยู่ข้างๆน้ำฟ้าที่มีอนาสตาเซียในอ้อมแขน ตอนนี้พวกเขาทั้งสามอยู่ที่สวิสเซอร์แลนด์ สถานที่ที่ความรักของคุณแม่น้ำทิพย์กับคุณพ่อศตวรรษของน้ำฟ้าเกิดขึ้น ด้วยความช่วยเหลือจากบดินทร์ที่เป็นธุระจัดการส่งอัฐิของคุณแม่น้ำทิพย์มาให้ตามคำขอของน้ำฟ้าที่ต้องการให้พ่อกับแม่ได้อยู่ด้วยกันอีกครั้งที่สวิสเซอร์แลนด์ที่พ่อของเธอถูกฝังอยู่ที่นี่ “น้ำรักคุณพ่อคุณแม่นะคะ” น้ำฟ้าพึมพำเบาๆให้เสียงของเธอไปตามลมที่พัดตลอดเวลา อดัมโอบกอดน้ำฟ้าจากด้านหลังถ่ายทอดความ ไออุ่นจากร่างกายเขาให้กับน้ำฟ้าดั่งกับว่าอดัมต้องการเป็นตัวแ
“หนูมุกไปเถอะ” อลันเรียกหนูมุกเดินออกจากตรงนั้นปล่อยอดัมกับเด็กผู้ชายที่ยังคงจ้องมองกันอย่างไม่มีใครยอมใคร หนูมุกที่เดินเคียงข้างอลันไป อดไม่ได้ที่ต้องคอยหันมามองอดัมกับเด็กผู้ชายตัวเล็กที่ใจใหญ่มาก อย่างเป็นห่วง “สวัสดีค่ะพี่อลัน คุณมุก” น้ำฟ้าทักทายผู้มาใหม่ทั้งสอง และสายตาก็มองเลยทั้งสองไป คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเมื่อไม่เห็นอดัมเดินเข้ามา “พี่อดัมยังไม่เสร็จธุระนะคะ” หนูมุกชี้แจงทันทีอย่างเข้าใจน้ำฟ้า “ธุระ?” น้ำฟ้าถามกลับอย่างไม่เข้า.... “ก๊อก ก๊อก” เสียงเคาะประนำขัดจังหวะความสงสัยของน้ำฟ้า ทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องเงียบเสียงลงทันที เมื่อรถเข็นที่มีอนาสตาเซียนอนอยู่เข้ามาในห้อง และความสนใจของทุกคนก็อยู่ที่ทารกน้อยทันที
น้ำฟ้าพยักหน้าและทุกอย่างก็เริ่มทันทีเมื่อทุกคนพร้อม อดัมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้มีโอกาสมายืนอยู่ในห้องคลอดในฐานะพ่อ และในความรู้สึกของเขาตอนนี้เขาตื่นเต้นไม่แพ้น้ำฟ้าแต่เขาต้องใจเย็นๆ และเขาสามารถบอกได้เลยว่าความรู้สึกนี้ ที่เขาเป็นอยู่ไม่มีช่วงเวลาไหนเทียบได้เลยแม้แต่ในยามที่เขารับตำแหน่งเป็นหัวหน้าแก็งที่มากมายด้วยอำนาจก็ยังไม่สำคัญเท่ากับตำแหน่ง ‘พ่อ’ น้ำฟ้าที่อดทนและพยายามอย่างเต็มที่ในช่วงเวลาของผู้หญิงทุกคนที่ใฝ่ฝันอยากให้เกิดกับตัวเอง นั่นก็คือการให้ชีวิตน้อยๆที่จะเป็นทุกๆสิ่งทุกๆอย่างของคนที่ได้ชื่อว่า ‘แม่’ ช่วงเวลาจากนาทีเปลี่ยนเป็นชั่วโมงและแล้วความสำเร็จก็ปรากฎให้เขาและเธอต้อนรับสมาชิกใหม่ อดัมค่อยๆรับชีวิตใหม่มาจากพยาบาลหลังจากเวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง เขาโน้มกายลงมาหาน้ำฟ้าพร้อมกับค่อยๆวางแก้วตาของเขาในอ้อมกอดของเธอ “สวัส
“เลิกขี้แยได้แล้ว เรานะเป็นคุณแม่แล้วนะ” บดินทร์พูดกับน้ำฟ้าเป็นภาษาไทยตลอดและแน่นอนอดัมฟังทุกคำเข้าใจเป็นอย่างดี “น้ำไม่ได้ขี้แยสักหน่อย” บดินทร์ยิ้มให้กับน้องสาวที่เขารักมากที่สุด “คุณเจอาร์บอกว่าน้ำไปตรวจครรภ์มา แล้วรู้เหรอยังว่าหลานพี่เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย?” “ยังค่ะ! เราสองคนจะรอวันคลอดค่ะ” น้ำฟ้าพูดพร้อมกับหันไปยิ้มกับอดัม บดินทร์มองภาพตรงหน้าแล้วพลอยทำให้เขายิ้มตามไปด้วย “วันนี้ผมไม่ได้มาเพียงแค่จะมากล่าวลาอย่างเดียว...นี่ครับแคชเชียร์เช็คจำนวนหนึ่งร้อยล้านบาทผมขอซื้อบ้าน ‘ศิริสินธร’ คืนนะครับ ขอบคุณมากที่คุณช่วยบริษัทของคุณพ่อผมไว้ และยังส่งคนที่มีความสามารถเข้าไปช่วยจนบริษัทไม่ล้มละลายไปเสียก่อน &rdquo
อดัมขยับเคลื่อนไล่ต่ำลงมาเรื่อยๆ โดยปล่อยลิ้นร้ายออกมาเป็นตัวนำทาง ลากไปตามร่างบางที่กระสับส่ายเสียวซ่านกับสัมผัสนั้น ความเย็นของเครื่องปรับอากาศแทบไม่มีผลต่อร่างเปลือยเปล่าทั้งสองที่แนบชิดอย่างกับว่า ถ้าต้องห่างออกมาแล้วอาจทำให้ร่างทั้งสองแตกสลายหายวับไปทันที อดัมเมื่อลากลิ้นมาถึงหน้าท้องแบนราบก็จุมพิตแผ่วเบาอย่างกับเขาส่งผ่านความรักของเขาไปให้แก้วตาภายในนั้น และเมื่อมาถึงจุดหมายปลายทางที่นิ้วทำหน้าที่เรียกความชุ่มฉ่ำออกมาอย่างที่ต้องการแล้ว อดัมขยับร่างกายเข้าไปอยู่ระหว่างขาเล็กที่เขาจับให้ตั้งชันเข่าขึ้นพร้อมกับขยับเปิดทางมากขึ้น อ้าร์ส อ้าร์สสส เสียงครางของน้ำฟ้าดังออกมามากขึ้น เมื่อใบหน้าของอดัมเข้าแนบชิดความงามของดอกกุหลาบนั้น ลิ้นหนาออกมาเรียกร้องกวาดต้อนธารน้ำที่ไหลออกมาภายนอกจนหมดอย่างตะกละตะกรามและรวดเร็ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอและเป็นที่พอใจของอดัมลิ้นหนาขยับเข้าล่วงล้ำกายสาวกวาดต้อนธารน้ำมากขึ้น&nbs
Comments