“ ไม่ได้!! ” เสียงภวิชตะคอกออกมาเมื่อรู้สิ่งที่น้องสาวของเขาต้องการทำเอาภัสสรถึงกับสะดุ้งเวลาพี่ชายเธอโมโหเด็กเอาแต่ใจอย่างเธอถึงกับสยบและเป็นเด็กดีเลยทีเดียว
“ คราวก่อนน้องโดนทำร้าย พี่วิชไปอยู่ไหน ” เธอถามอย่างงอนๆ “ หยุดเลยไม่ต้องมาย้อนพี่เลยนะ...ใยวาว ” ภวิชเตือนน้องสาวที่กำลังจะเอาแต่ใจในเรื่องไม่ควร ขอบ้าอะไรไม่ขอดันขอพนักงานในร้านให้มาเป็นบอดีการ์ดของตัวเอง “ งั้นวาวขอเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ได้ ” “ นั่นดิวิชทำไมนายไม่ให้น้อง ” ภวัตต์ล้วงกระเป๋ากาเกงยีนส์สีดำพิงขอบโต๊ะใกล้กับโซฟาที่ภัสสรนั่งอยู่ “ เราไม่ไว้ใจผู้ชายหน้าไหนทั้งนั้นแหล่ะ เออไหนๆก็พูดแล้วพี่ยังไม่ได้เคลียร์ คดีความเก่าของเราเลยนะวาว ” “ คดีความอะไรวาวยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย” “ แน่ใจ? ” ภวิชถาม ภวัตต์เริ่มคิ้วขมวด อะไรกันหน่ะไม่อยู่แค่ไม่กี่เดือนเรื่องเยอะขนาดนี้เลยหรอ? “ แน่ใจ ” น้องสาวจอมดื้อเชิดหน้าอย่างมั่นใจ ภวิชล้วงกระเป๋าหยิบโทรศัพท์ราคาแพงขึ้นมาเขาถอนหายใจดัง มันอะไรหนักหนาทำไมต้องพากันขัดใจเขาอยู่เรื่อยทั้งมินตราทั้งน้องสาว เขาเปิดรูปหน้าจอ แล้วดันโทรศัพท์ให้อยู่ในระดับสายตาของน้องสาวตรงหน้า ภาพรณภพที่กอดเธอบนฟอร์เต้นรำนี่นา “ มันเป็นใคร! ” น้ำเสียงเย็นของภวิชทำเอาภัสสรลอบกลืนน้ำลายเขาเข้าขั้นหวงน้องอย่างรุนแรงสะด้วยสิ “ กะก็เพื่อนหน่ะพี่วิชจะกอดกันไม่ได้หรือไง? ” ภวิชถอนหายใจอีกครั้งเพราะภาพที่เห็นเพียงด้านหลังของชายหนุ่มเท่านั้น ทำให้ไม่เห็นใบหน้าน้องก็ยังปากแข็งเขาชักโทรศัพท์เข้าหาตัวแล้วดันออกไปที่เดิมอีกครั้งคราวนี้ภัสสรถึงกับอึ้ง “ แล้วเพื่อนเขาจูบกันแบบนี้หรอ? บอกพี่มาวาวว่ามันเป็นใครก่อนที่พี่จะให้คนของพี่ตามหาตัวมันแล้วพี่รับรองเลยว่าน้องจะไม่ได้เจอกับมันอีก" ภัสสรร้อนรนรู้ดีว่าพี่ชายหวงเธอขนาดไหน “ เฮ้ยจริง! ใครว่ะไหนดูดิ ” คราวนี้กลายเป็นภวัตต์ลุกขึ้นมาดึงโทรศัพท์ไปดูแทน ก็หวงน้องพอกัน “ ใจเย็นก่อนวิชถามใยน้องก่อนว่ามันยังไงกันแน่ ” ภวัตต์เดินมาเอามือจับบ่าน้องชายเบาๆเรียกสติ โชคดีที่เขายังฟังบ้างถึงภวัตต์จะไม่ชอบใจนักแต่ก็ยังมีเหตุผลอยู่อยากให้น้องได้อธิบาย “ ว่ามาสิ พี่จะฟัง ” ยังไม่ทันที่จะได้ฟังน้องสาวสุดที่รักได้อธิบายข้อความในมือถือก็ดังขึ้น “ ตึ้งตึ้ง~” เสียงแจ้งเตือนที่เด้งขึ้นทำให้ภวิชดึงโทรศัพท์กลับไปคิ้วขมวดมุ่นเพ่งมองรูปภาพในโทรศัพท์ คิดถึงใบหน้าขาวๆเนียนๆของมินตรา “ เฮ้อ..คิดคำตอบให้พี่ให้ได้นะใยวาวเดี๋ยวพี่จะกลับมาทวงถ้าตอบไม่ดีเป็นเรื่อง......วัตต์ฝากดูใยน้องทีนะมีเรื่องต้องกลับไปจัดการนิดหน่อย ” “ อืม ได้สิว่าแต่นายมีอะไรรึเปล่าทำไมสีหน้าเครียดจัง ” “ ไว้เราจะเล่าให้ฟังขอตัวก่อนนะ ” “ อืม ” คำตอบสั้นๆที่หมายถึงคำตกลงบทสนทนาสิ้นสุดลงเมื่อภวิชก้าวออกจากห้องไป มินตราที่ตั้งแต่เขาออกจากห้องนอนเมื่อเช้าตรู่ เธอก็ข่มตาให้นอนไม่ได้สักวินาทีสีหน้าทุกข์ทรมานของชายหนุ่มยังวนเวียนในหัวสมอง เธอไม่กล้าทำอะไรสักอย่าง ไม่กล้าแม้แต่จะเปิดประตูออกไปด้วยซ้ำไม่รู้จะวางตัวแบบไหนเธออยู่ที่ไหนยังไม่รู้เลย หิวแล้วด้วยสายตาชำเลือง มองนาฬิกาเกือบทุ่มแล้ว อยากขอโทษชายหนุ่มแต่ก็กลัวว่าเขาจะไม่อยากเจอเธออีก เธอได้ยินเสียงเปิดประตูดังจากห้องข้างๆชุดบางๆที่เธอสวมใส่อยู่มันเป็นผ้าลื่นสายเดี่ยวสีฟ้าสดใสน่ารักที่ใช้สำหรับนอน มันมาได้ยังไงหน่ะหรอตอนแรกเธอก็ตกใจแต่ภวิชบอกว่ามันเป็นของน้องสาวเขาเองเธอจึงถึงบางอ้อ จริงด้วยสิจำได้ว่าเขามีแผลนี่นาแล้วจะทำแผลยังไง มินตราที่นั่งคิดอะไรอยู่ที่ปลายเตียงลุกขึ้นไปยังโซฟาใกล้ๆเธอจำได้ว่าเห็นกล่องทำแผลอยู่นะ กล่องแผลที่เมื่อคืนกฤษนั่นแหละที่ไม่ได้เก็บลงไปด้วย ทำใจกล้าอยู่พักใหญ่ ก่อนจะค่อยๆเคาะประตูเบาๆ แล้วเปิดประตูออกเธอหันหลังแทบจะทันที่เห็นภวิชกำลังถอดกางเกงลงพื้นมีเพียงผ้าขนหนูที่เขาปกปิดกายส่วนเสื้อเชิ้ตนั้นอันตธานหายไปจากร่างแล้ว ภวิชที่ได้ข้อความจากสายชลเกี่ยวกับเอกสารบางอย่างที่ต้องจัดการทำให้เขาต้องเข้าบริษัทกว่าจะกลับมาบ้านก็ตกเย็นเข้าไปแล้ว อีกอย่างก็นึกถึงคนร่างเล็กบอบบางที่อยู่บ้านด้วย “ ขอโทษค่ะไม่คิดว่าคุณกำลังโป๊ ” เธอหันหลังแล้วจับกล่องยาไว้แน่นเนื้อกล้ามหน้าท้อง ซิกแพคไหล่กว้างเธอเคยสัมผัสที่เข้าขั้นเกือบลึกซึ้ง........คิดทีไรหน้าขาวใสแดงทุกที “ คุณมีอะไรหรือเปล่า ” น้ำเสียงเย็นชาที่ดูห่างเหินทำเอามินตราหัวใจกระตุกใจหายวาบเขาโกรธเธอหรือเกลียดเธอไปแล้วหรือเพราะเธอทำให้เขาเจ็บตัวเป็นบาดแผลแล้วเธอยังไม่มีอะไรตอบแทนให้เขาอีก “ ปะเปล่าแค่ มินนึกขึ้นได้ว่าคุณวิชมีแผลมินแค่อยากมาทำแผลให้ ” “ ขอบคุณ เดี๋ยวผมทำเองได้ไม่เป็นไร คุณไปพักเถอะ วางไว้ตรงโต๊ะทำงานล่ะกัน....ปึง ” เสียงปิดประตูห้องน้ำแผ่วเบาเขาเข้าไปอาบน้ำแล้ว จะทำยังไงดีหล่ะในใจทำไมปวดหนึบน้อยใจเขา เขาไม่ทำอะไรเธอก็น่าจะดีใจนี่!!แล้วทำไมพอ เขาทำตัวห่างเหิน คำพูดและสรรพนามไม่มีการเหย้าแหย่เช่นเดิมทำไมพาลจะทำให้น้ำตาไหล..เธอมีใจให้เขา หัวใจหนอชั่งเปราะบางเสียจริง นี่แหล่ะนะผู้หญิงเรา..........ความรู้สึกอะไรแบบนี้มันเป็นเรื่องเซ้นสิทีฟอ่อนไหวง่าย...แต่..ไม่ได้หมายความว่ารู้สึกได้กับทุกคน หากแต่จะรู้สึกกับคนที่ทำให้รู้สึกดีแม้บางทีเพิ่งรู้จักกันก็ตาม การกระทำบางอย่างที่รู้สึกประทับใจนั่นแหล่ะแค่นั้นก็สามารถทำให้ผู้หญิงเราอ่อนไหวได้แล้ว “ แกร๊ก ” เสียงลูกบิดประตูห้องน้ำเปิดออก ประตูห้องนอนกับประตูห้องทำงานที่เชื่อมต่อกันไม่ได้ถูกปิดไว้ดั่งเช่นเคย แน่นอนว่ามินตราเปิดเอาไว้ ภวิชใช้ผ้าผืนเล็กเช็ดผมที่มีหยดน้ำประปรายเม็ดเล็กเม็ดน้อยที่เกาะตามเรือนร่างมันทำให้เขาดูเซ็กซี่ แขนซ้ายมีรอยแผลที่ฉีก แน่นอนอีกแหล่ะว่าภวิชอาบน้ำโดยไม่สนใจมันสักเท่าไหร่...เพราะภายในใจเต้นรัวเร็วแค่ไหนที่เห็นหญิงสาวก้าวเข้ามา เท้าสองข้างก้าวออกจากห้องน้ำโดยไม่ได้สังเกตเห็นว่ามินตรานั่งเหม่ออยู่ที่โซฟาเยื้องห่างจากโต๊ะทำงานเขาเพียงนิดเดียว “ เอ๊ะ...” ในขณะที่เช็ดผมประตูห้องทำงานที่เชื่อมต่อกันทำให้เขาสงสัยว่าในเมื่อเธอออกจากห้องที่เขาหลบมาซุกหัวนอนไปทำไมไม่ปิดประตู เขาจึงถอนหายใจหนักๆเพราะไม่รู้ว่าจะอดทนไม่ให้ใกล้ชิดเธอได้อีกนานแค่ไหน แค่เห็นเธอเข้ามาทำท่าห่วงใยเขาก็แทบอยากกระโจนเข้าไปแนบชิดหลอกแตะอั๋งนิดๆเผื่อเธออาจจะเคลิ้มแล้วยอมให้เขาก็ได้...แต่เมื่อก้าวเข้ามาห้องนอนของตัวเองแล้วเขาก็เดินไปหยิบกางเกงสามส่วนขึ้นสวม แล้วมินตราหายไปไหน “ หึๆสงสัยคงหิวข้าวแล้วมั้ง ” เขาส่ายหัวเบาๆ ก็เขาโทรมาถามคนที่บ้านแล้วว่ามินตราลงมากินข้าวรึยังสาวใช้พากันปฏิเสธไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามินตราคือใครภวิชได้แต่สั่งให้ดูแลให้ดีแต่สาวใช้ก็ยืนยันว่ายังไม่มีผู้หญิงคนไหนลงมาทานข้าวทั้งห่วงทั้งอยากแกล้ง จะว่าไปตอนนี้เธอไม่อยู่นี่นา “ เฮ้อ นุ่มดีจัง ฉันคิดถึงแกมากเลยจริงๆนะเนี่ย ” เขาหลับตาพูดเบาๆเมื่อทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มๆ ความเหนื่อยล้าเริ่มเข้าครอบงำภวิชที่ไม่ค่อยได้พักผ่อนเพียงพอไม่ได้ปลดปล่อยความทรมานจากร่างกายที่มีเมื่อรุ่งเช้า ไหนจะข้อมูลบางอย่างที่เขาได้รับวันนี้ ไหนจะน้องสาวตัวแสบอีก เหนื่อยเป็นบ้า เขายกขาชันข้างนึงเมื่อลำตัวเหยียดยาวลงบนที่นอนมือขวายกก่ายหน้าผาก มือซ้ายวางแนบหน้าท้องลมหายใจสม่ำเสมอ มินตรานั่งรอเขานานพอสมควรก็ไม่เห็นวี่แววว่าเขาจะเดินกลับเข้ามาในห้องทำงานสักที เธอจึงก้าวเข้ามาหาแทน เรือนร่างของภวิชที่ทิ้งตัวนอนบนเตียงนุ่มอย่างเหนื่อยอ่อนทำให้มินตราใจสั่นไหว จริงสินะเขาไม่ค่อยได้พักผ่อนเลยนี่นา เธอวางกล่องทำแผลเบาๆค่อยๆนั่งลงตรงขอบเตียงเนื่องจากภวิชนอนขอบริมๆทางด้านซ้ายของเตียงเลยทำให้ง่ายต่อการทำแผล แผลยาวที่เริ่มฉีกออกถึงมันจะดูเหมือนไม่ลึกมากแต่มันก็ทำให้อักเสบได้ไม่ใช่เล่น มือบางค่อยๆบรรจงทำแผลให้เขาแผ่วเบา เขาคงจะเหนื่อยและอ่อนเพลียมากขนาดถึงขั้นไม่รู้สึกตัวน้ำตาเริ่มคลอเบ้า อย่างรู้สึกผิดที่ทำให้เขาต้องลำบาก เธอแอบลอบชำเลืองมองใบหน้าของเขาใบหน้าที่คมคายยามหลับช่างงดงามอย่างน่าหลงใหล มือบางเอื้อมไปสัมผัสใบหน้าคมค้ามของเขาแตะริมฝีปากหนาแผ่วเบาก่อนจะสัมผัสแผลที่แขนของเขาด้วยริมฝีปากของเธอคล้ายภาวนาให้แผลนี้หายไวๆ “ เจ็บมากไหมค่ะ มินขอโทษ ” เธอแนบใบหน้ากับแขนของเขาอย่างแผ่วเบากลัวว่าเขาจะตื่นอยากบอกเขาเหลือเกินว่ายอมให้เขากอดจูบเธอก็ได้ ดีกว่าเขาเย็นชาแบบนี้ “ คุณทำอะไรหน่ะ? ” ภวิชที่ลืมตาขึ้นมาเห็นมินตราแนบที่แขนของเขาถามด้วยความสงสัยในการกระทำของเธอ?มินตราค่อยๆลืมตาขึ้นมาในเช้าอีกหนึ่งวัน คุณหญิงมณีจึงตรงเข้าไปกอดลูกสาวเอาไว้แน่น “ มินตื่นแล้วหรอลูกเป็นยังไงบ้างค่อยๆลุกนะลูก ” “ มินรู้สึกเจ็บท้องค่ะแม่ แล้วลูกมินหล่ะค่ะ แม่ ลูกมินยังอยู่ใช่ไหมคะ ”มินตราเริ่มผวาเมื่อเธอสัมผัสหน้าท้องเธอจำได้ว่าเมื่อวานเธอมีอาการตกเลือดทำไมเธอเจ็บท้องแล้วความฝันก่อนหน้านั้นที่หนุ่มน้อยเดินหายไปจากเธอคืออะไร “ มินใจเย็นๆนะลูก ” “ ลูกมินยังอยู่ใช่ไหมคะ ลูกของหนู ” “ เขาไม่อยู่แล้วลูก หนูเสียเลือดมากคุณหมอต้องขูดมดลูกเพื่อช่วยชีวิตมินไว้ ” “ ไม่จริงอ่ะ แม่โกหกใช่ไหม ลูกหนูกับพี่วิช แม่โกหกใช่ไหม ฮือๆ แล้วพี่วิชหล่ะคะแม่ พี่วิชเขาปลอดภัยใช่ไหมคะแม่ ใช่ไหมฮือๆ ” “ ใจเย็นก่อนนะลูก คุณวิชเขาปลอดภัยหนูอยากไปหาเขาไหม ” “ จริงนะคะ เขาปลอดภัยจริงนะคะ ” ถึงแม้เธอจะเศร้าใจเรื่องลูกแต่ ภวิชปลอดภัยความหวังเธอก็ยังไม่โดนพังหมดซะทุกอย่าง ผู้เป็นแม่เมื่อเห็นน้ำตาของลูกก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ตามเธอสงสารลูกสาวคนเดียวอย่างจับใจแต่เมื่อโชคชะตาให้ลูกเธอเจอแบบนี้ เธอคงทำได้เพียงยืนอยู่ข้างๆเธอไม่ตอบอะไรมากนอกจากพยักหน้า มินตราถูกพยุงให้นั่งรถเข็นแ
ณ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่ภัสสรใช้เวลาพอสมควรกว่าจะ มาถึง “ ถึงแล้ว ลงมาสิ ” “ เรามาทำอะไรกันที่นี่หรอคะ ” “ ฉันคงพาเธอมานั่งรถเล่นมั้งจะไปไหมเร็วๆเข้า ” “ อ๋อค่ะๆ ” มินตราปลดสายเข็มขัดนิรภัยออกจากตัวแล้วรีบลงจากรถเมื่อเห็นว่าสาวน้อยที่พามาเริ่มหงุดหงิดแต่เธอก็ไม่เคยคิดโกรธภัสสรเลยเธอกลับชอบเพราะภัสสรซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเธอเองมินตราก้าวเท้าเข้ามาในโรงพยาบาลด้วยความรู้สึกหลากหลายเธอสงสัย เธอกังวลหรือเธอกำลังกลัวกันแน่ ภัสสรสรเดินนำมินตราไปจนหยุดที่หน้าห้องพักห้องหนึ่ง “ แกร๊ก ” “ ถึงแล้วเข้าไปสิ ” ภัสสรยืนพิงประตู เบี่ยงหลบทางให้มินตราที่ทำท่าชะเง้อชะแง้มองดู มินตรากล้าๆกลัวๆเดินเข้าไปในห้องเธออยากพบภวิชนะแล้วภัสสรพาเธอมาเยี่ยมใครกัน มินตราเดินใกล้เข้ามายังเตียงผู้ป่วยก็พบกับทั้งพ่อแม่ภวัตต์และรฏาในห้อง เท่านั้นยังไม่พอทุกคนหันมามองเธอเป็นตาเดียวคำพูดต่อมาของภวัตต์ทำให้มินตราก้าวขาไม่ออก “ วิช มินมาหา นายลืมตามาดูเธอหน่อยสิฉันรู้ว่านายคิดถึงเขา ” เปลือกตาภวิชที่ขยุบขยิบเหมือนกับได้ยินสิ่งที่ภวัตต์บอกแต่ปฏิกิริยาไม่มีการตอบสนองที่ทำให้รู้ว่าเขาฟื้น มินตรามอ
“ พี่แหวน พี่มองหาใครหรอค่ะ ” “ อ้าวคุณมิน เปล่าค่ะ พี่แค่กำลังมองหารถคันนึงหน่ะค่ะ จะชอบมาจอดหน้าบ้านเราเป็นเวลานานๆ แต่สองสามวันมานี่ไม่เห็นแล้วหล่ะคะ ไม่รู้ว่าพวกโรคจิตหรือเปล่านะคะ จอดรถหน้าบ้านแต่ไม่มีคนลงจากรถเลย ” มินตรามองไปยังหน้าบ้านที่มีต้นไม้ใหญ่อยู่ตามสายตาสาวใช้ที่บอกไป “ พี่แหวนคิดมากไปหรือเปล่าคะเขาอาจจะเป็นญาติฝั่งตรงข้ามนะคะ ” “ จริงๆนะคะคุณมิน ” “ ชั่งเถอะค่ะ ” “ อะๆ นั่นไงคะรถคันนั้นไงคะคุณมิน ” “ หืม ” มินตราชะงักเท้าที่เธอเพิ่งจะหันหลังกลับเข้าบ้านรถหรูหราที่ หน้าตาคุ้นเคย แล่นมาจอดหน้าบ้านตามคำพูดของสาวใช้มินตราไม่รอให้สาวใช้ตรงไปเปิดประตูเธอเลือกก้าวขาไปหาเอง “ แกร๊ก ” เสียงเปิดประตูรั้วหน้าบ้านและเธอก็ได้เห็นร่างสง่างามสมส่วนของสายชลที่ก้าวลงจากรถเดินตรงมาหาเธอ “ สวัสดีครับคุณมิน ” “ สวัสดีค่ะคุณสายชล ” “ คุณมินสบายดีไหมครับ ” “ ก็อย่างที
ตกกลางคืนภวิชเริ่มมีสติหลังจากดื่มน้ำเมาแล้วยังทะเลาะอย่างรุนแรงกับน้องสาวสุดที่รักอีก เขาอดห่วงมินตราไม่ได้จริงๆจึงต้องหวนกลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้งเพื่อมาหาเธอ คุณหญิงมณีที่อยู่ภายในห้องแต่ทำไมในห้องถึงมีอดีตเพื่อนรักอย่างโทนี่อยู่ด้วยเขาเอานิ้วมือเรียวแตะที่กระจกเพื่อสัมผัสใบหน้า มินตราผ่านอากาศที่หลังจากนี้เขาจะไม่มีสิทธิ์สัมผัสชิดใกล้กับเธออีกแล้ว “ มินพี่ไม่รู้ว่าลูกจะได้อยู่กับพวกเราไหม แต่ถ้าหากลูกได้อยู่ บอกรักเขาแทนพี่ด้วยนะมิน ” น้ำตาไหลลงอีกครั้งนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้ใกล้ชิดกับเธอ “ ไอ้เสี่ยชัย!!! ฉันไม่ปล่อยแกไว้ให้แกทำร้ายลูกกับเมียฉันซ้ำสองแน่!! ” เขาทิ้งความอ่อนโยนครั้งสุดท้ายไว้ให้กับผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาและแม่ของลูกเขาก่อนจะเปลี่ยนสายตาเป็นแข็งกร้าวและข่มเสียงพูดถึงคนที่ทำร้ายดวงใจของเขา ด้วยความแค้นสุมอก มีใครเคยบอกไหมว่าอย่าให้คนอย่างเขาแค้น เพราะนั่นหมายถึงแค้นฝั่งหุ่นทั้งเป็นและตาย เขาจะไม่ยอมให้คนที่เขารักเป็นอันตรายไปอีกแล้วมันมากไปแล้วที่ผ่านมา
ภวิชที่ทำแผลเสร็จตอนนี้เขาพันแผลที่หัวไหล่แล้วเรียบร้อย เขาก็รีบตรงมายังหน้าห้องฉุกเฉินทันที เป็นเวลาที่หมอออกมาจากห้องผ่าตัด “ ภรรยาผมเป็นยังไงบ้างครับ ” “ ตอนนี้หมอทำการผ่าตัดนำกระสุนออกมาแล้วนะครับแต่อาการเธอตอนนี้ยัง...” “ เกิดอะไรขึ้นครับหมอ คุณพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง ” “ เอ่อ คือหมอคิดว่าคุณคงทำใจไว้สักนิดนะครับ ” “ หมายความว่าไงคะหมอ ” รฏาเริ่มใจคอไม่ดี “ เธอมีอาการตกเลือดหน่ะครับ คุณต้องทำใจไว้ส่วนหนึ่งด้วยนะครับเธออาจสูญเสียเด็กในท้อง ” “ เด็กในท้อง หมายถึง ละ ลูกหน่ะหรอ ” ภวิชพูดจาติดขัดเขาพยายามเรียบเรียงสิ่งที่ได้ยิน สายชล ภวัตต์ รฏา รวมถึง กฤษที่อยู่บริเวณนั้น ทุกคนต่างตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน คนที่ตกใจที่สุดคงไม่พ้นภวิช “ เฮ้ย! วิช ” ภวัตต์รีบเข้ามาพยุงน้องชายที่เข่าอ่อนลงทันทีที่หมอพูดจบ มินตราท้องหรอ ที่สาวน้อยเขาเพลียบ่อยๆตอนนั้นที่เขาสงสัยว่าทำไมเธอถึงเหนื่อยง่ายๆ เพราะเธอท้องงั้นหรอ แล้วทำไม ทำไมมินถึงใจร้ายไม่ยอมบอกเขาไม่ยอมให้เขาทำหน้าที่พ่อของลูกบ้าง ภวิชเหมือนคนหูอื้อไม่ได้
- แต่งงานกันนะครับ- ทันทีที่เพลงเล่นจบลงภวิชก็ดึงมือทั้งสองของมินตรามากุมไว้ในขณะที่เขายังคงคล้องแซกโซโฟนอยู่เขาใช้นิ้วมือปาดน้ำตาของคนสวยที่เปื้อนตรงแก้มใสอย่างอ่อนโยนแววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้งเขาย่อตัวไปหยิบกล่องแหวนขึ้นมาแล้วมองกล่องแหวนในมือภาวนาขอให้มินตราตอบรับเขา “ ว่ายังไงครับ แต่งงานกับพี่ได้ไหม พี่จะทำให้มินมีความสุขที่สุด ” “ คุณวิชคือมิน.....” “ ว่ายังไงครับ ” “ มิน ไม่........ ” “ ฟุ้บ ปังๆๆๆ ” เสียงปืนที่ดังขึ้นหลายนัดทำให้ความโรแมนติกทุกๆ อย่างหมดสิ้นลง เสียงระเบิดที่ดังขึ้นท้ายเรือทำให้มินตราตกใจ ภวิชคว้าดึงมินตราเข้ามากอดเขาหันมองซ้ายขวา สายชลที่คอยช่วยเหลือควบคุมระบบไฟอยู่บนสุดของเรือในห้องกัปตัน ลูกน้องบางส่วนที่กระจายคอยดูอยู่รอบๆ เขาไม่ได้บอกมินตราเรื่องนี้เพราะกลัวเธอจะตกใจ แต่สุดท้ายก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ “ วิช ” “ วัตต์นายรีบพามินลงไปจากเรือลำนี้ที ฉันจะดูทางนี้ให้ ” “ แล้วคุณหล่ะคะวิช ” รฏาเป็นฝ่ายถาม สมองมินตราสับสนไปไหม ว่าเกิดอะไรขึ้น “ ผมจะดูต้นทางให้รีบลง