Beranda / โรแมนติก / พิศวาสล่ามรัก / ตอนที่ 1 ผู้มีพระคุณ

Share

พิศวาสล่ามรัก
พิศวาสล่ามรัก
Penulis: จินต์พิชา

ตอนที่ 1 ผู้มีพระคุณ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-12 20:42:16

 

          “สวัสดีค่ะแม่ สวัสดีค่ะน้าศักดิ์” มีนาหญิงสาววัย 20 ปียกมือไหว้มารดาและสามีใหม่ ก่อนจะเอากระเป๋าและหนังสือไปเก็บบนชั้นสอง จากนั้นเธอก็สวมผ้ากันเปื้อนทับชุดนักศึกษาแล้วเดินออกมาหน้าร้านอาหารตามสั่งที่มารดาเปิดขายมาหลายปี

          “วันนี้ลูกค้าเยอะไหมคะแม่”

          “ก็เหมือนทุกวันจ้ะ มีนาหนูมาเหนื่อยๆ ทำไมไม่พักก่อนจะรีบออกมาช่วยทำไมล่ะลูก”

          “ไม่เป็นไรค่ะแม่ แม่ยืนทั้งวันน่าจะเหนื่อยกว่าเยอะเลย”

          “จะว่าเหนื่อยมันก็เหนื่อยแต่ก็ยังพอมีเวลาพัก คนไม่ได้แน่นตลอดทั้งวัน”

          มุกดาและกิตติศักดิ์สามีใหม่เปิดร้านขายอาหารตามสั่ง ถึงแม้ว่าร้านจะเป็นตึกแถวเล็กๆ แต่ลูกค้าก็แวะเวียนมาไม่ขาดสายเพราะในละแวกนี้มีร้านอาหารตามสั่งอยู่เพียงไม่กี่ร้าน

ลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นพนักงานออฟฟิศและนักศึกษามหาวิทยาลัยที่มีนาเรียนอยู่ บางครั้งจึงมีเพื่อนๆ ของเธอตามมาเป็นลูกค้าที่ร้านด้วย

“มีนาเหลือสอบอีกกี่วันล่ะลูก แม่ว่าหนูไปอ่านหนังสือก่อนดีกว่าไหมลูก” มุกดาบอกลูกสาว

“ ไม่เป็นไรค่ะ เหลือสอบอีกแค่วิชาเดียวเองค่ะ มีนาอ่านมาล่วงหน้าแล้วค่ะแม่”

“งั้นก็ตามใจจ้ะ แล้วครั้งนี้จะปิดเทอมกี่เดือนล่ะลูก” มุกดาไม่ค่อยรู้เรื่องการเรียนของลูกสาวเท่าไหร่

“สี่เดือนค่ะ มีนาว่าจะหางานพิเศษทำดูค่ะ ไม่อยากอยู่บ้านเฉยๆ”

“แล้วหนูจะไปทำงานที่ไหนล่ะ หาไว้หรือยัง”

“ยังเลยค่ะแม่ ว่าจะลองถามเพื่อนๆ ดูก่อนค่ะ เทอมที่แล้วเพื่อนมีนาไปทำที่ร้านกาแฟค่ะ มีนาว่าจะลองไปสมัครตามโรงเรียนกวดวิชาดูก่อนค่ะแม่ เผื่อเขาต้องการผู้ช่วย”

“จะไปทำที่ไหนล่ะ น้าว่าหนูช่วยงานที่ร้านก็ได้เดี๋ยวน้าให้ค่าจ้างเอง” กิตติศักดิ์รีบเสนอ

“มีนาต้องช่วยงานที่ร้านอยู่แล้วล่ะค่ะ  แต่ก็อยากลองไปหางานอย่างอื่นทำด้วย” มีนาไม่เกี่ยงถ้าจะต้องช่วยมารดาขายอาหารที่ร้าน แต่ที่เธออยากออกไปทำงานพิเศษก็เพราะไม่ค่อยชอบน้ากิตติศักดิ์สามีใหม่ของมารดาเท่าไหร่เพราะเขามักจะเข้ามาใกล้ๆ และมักจะแอบมองอยู่ตลอดเวลาที่เธออยู่ในร้าน

แต่ก่อนกิตติศักดิ์จะไม่ได้มาอยู่ที่ร้านทุกวันเพราะเขาทำงานเป็นคนขับรถให้กับบริษัทขนส่ง แต่ก็ลาออกเพราะมีปัญหากับเจ้านาย จากนั้นเขาก็ย้ายเข้ามาอยู่กับมารดาและไม่มีทีท่าว่าจะไปสมัครงานที่ไหน

“ถ้าอยากทำงานจริงๆ หนูลองไปถามคุณฤดีดูหน่อยไหมลูกว่ามีงานอะไรให้ช่วยบ้าง แต่ไปช่วยฟรีนะห้ามรับเงินเด็ดขาด”

“มีนาลืมไปเลยค่ะแม่ งั้นหนูไม่ไปทำงานพิเศษแล้วนะคะ”

คุณฤดีที่มารดาพูดถึงก็ลูกสาวของคุณดวงกมลและคุณประพันธ์เจ้าของโรงเรียนเอกชนที่ให้ทุนการศึกษาแก่เธอตั้งแต่เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มาจนถึงตอนนี้ นับเวลาก็ 7 ปีมาแล้ว

ตอนนี้มีนาเรียนอยู่คณะศึกษาศาสตร์เอกคณิตศาสตร์ซึ่งถ้าเรียนจบเธอตั้งใจจะสอบบรรจุเป็นข้าราชการครูตามความฝันในวัยเด็ก เนื่องจากตอนที่เธอยังเป็นเด็กตัวน้อยมักจะตามบิดาไปที่โรงเรียนอยู่บ่อยครั้ง มีนาจึงอยากเป็นครูเหมือนบิดาที่เสียชีวิตไปตั้งแต่เธอเรียนอยู่ชั้น ม.1

“จะไปช่วยเขาทำไมกัน เขามีลูกน้องตั้งมากมาย ช่วยงานที่ร้านไม่ดีกว่าเหรอ” กิตติศักดิ์ไม่อยากให้ลูกเลี้ยงออกไปทำงานที่อื่น เพราะมันหมายถึงโอกาสที่เขาจะเคลมเธอก็จะลดน้อยลงไปด้วย

“เพราะบ้านนั้นเขามีบุญคุณกับมีนา ถ้าไม่มีพวกเขามีนาก็คงได้เรียนแค่ชั้น ม. 3 เองนะคะ ถ้ามีอะไรที่ตอบแทนคนบ้านนั้นได้มีนาก็อยากจะทำค่ะ” มีนาตอบกลับ เพราะลำพังเงินที่มารดาได้จากการขายอาหารก็พอแค่ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันกับค่าเช่าเท่านั้น

“หนูคิดถูกแล้วล่ะลูก เราไม่มีเงินทองไปตอบแทนเขา แต่เรายังพอมีแรงก็ไปช่วยงานเขาบ้าง แม่ล่ะเกรงใจเขาจริงๆ ทั้งค่าเรียนของหนูทั้งค่าเช่าที่ที่ถูกกว่าที่อื่น” เพราะตึกที่เธอเช่าเปิดร้านอยู่นี้ก็เป็นของคุณดลฤดีซึ่งค่าเช่าถูกกว่าที่อื่นถึงครึ่ง เธอจึงอยากให้ลูกสาวได้ไปช่วยงานคุณดลฤดีในช่วงปิดเทอม

“สั่งข้าวหน่อยค่ะ” เสียงลูกค้าหน้าร้านทำให้ทั้งสามคนหยุดคุยเรื่องงานพิเศษของมีนาไปก่อน

“อ้าว ชบาวันนี้ป้าแขไม่ทำกับข้าวเหรอถึงได้ออกมาซื้อได้”

“ที่บ้านมีเรื่องวุ่น ป้าแขก็เลยไม่มีเวลา”

“พี่ชบาจะกินอะไรคะเดี๋ยวมีนาทำให้”

“เอาผัดกะเพราเครื่องในไก่ ผัดผักรวม แล้วก็ต้มยำอีกอย่างจ้ะ”

“เอาข้าวเปล่าด้วยไหมคะ พี่ชบา”

“ไม่ต้องจ้ะพี่หุงข้าวแล้ว”

“สั่งหลายเลยเดี๋ยวพี่แถมหมูยอทอดให้นะ” มุกดารีบหยิบหมูยอใส่ถุงให้กับชบา ปกติแล้วชบาไม่ค่อยได้สั่งอาหารที่ร้านของเธอบ่อย เพราะที่บ้านจะมีแม่ครัวชื่อป้าแขทำอาหารให้ทานอยู่แล้ว นอกเสียจากว่าป้าแขไม่ว่างหรือเจ้านายไม่อยู่บ้าน

มีนาช่วยมารดาทำอาหารระหว่างนั้นชบาก็ชวนสองแม่ลูกคุยถึงเรื่องที่คุณนฤดลเจ้านายของเธอประสบอุบัติเหตุ ทำให้ตอนนี้เจ้านายของเธอไม่มีใครอยู่บ้านสักคน

“ชบาล่ะสงสารคุณท่านมากพอได้ข่าวก็เป็นลมไปเลย”

“แล้วตอนนี้อาการเป็นยังไงบ้างล่ะชบา”

“ชบาก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่คงหนักเอาการเพราะคุณๆ ไม่มีใครกลับบ้านเลย”

“พี่ชบารู้ไหมคะว่าตอนนี้คุณนฤดลเขาอยู่ที่โรงพยาบาลไหน” มีนาถามอย่างเป็นห่วง เธอเคยเจอกับคุณนฤดลมาหลายครั้งเพราะเขามักจะเป็นตัวแทนไปมอบทุนการศึกษาและเขาก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เธอตั้งใจเรียนและตัดสินใจยื่นขอทุนซึ่งปกติแล้วทางโรงเรียนจะคัดเลือกนักเรียนทั้งหมด ปีละ 5 คนเพื่อรับทุนการศึกษาโดยจะเอาคะแนนในชั้นเรียน ม.2 และม.3 เป็นเกณฑ์

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • พิศวาสล่ามรัก   ตอนที่ 37 ถ้าง่ายแต่แรกก็จบ (ตอนจบ)

    “ไม่ค่ะ ยังไงพิมพ์ก็ไม่หย่า”“แต่ผมไม่อยากยื้ออีกต่อไปแล้วนะ คุณไม่มีความสุข ผมก็ไม่มีความสุข”“คุณจะรีบหย่าแล้วไปหาเด็กนั่นเหรอคะ เราคุยกันแล้วนี่ดลว่าเราจะแต่งงานกันสองปี ถึงตอนนั้นคุณค่อยมาคุยเรื่องหย่าดีกว่าไหมคะ”“ถ้าคุณไม่ยอมหย่าผมจะฟ้องหย่า”“คิดดีแล้วเหรอคะดล คุณจะเอาความสุขส่วนตัวมาแลกกับชื่อเสียงของครอบครัวเหรอคะ”“คุณคงคิดว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่าแต่บางครั้งไพ่มันก็เปลี่ยนได้นะพิมพ์”“หมายความว่ายังไงคะ”“ผมมีหลักฐานที่จะฟ้องหย่าคุณได้ ถ้าคุณไม่ยอมจบแบบเงียบๆ”“ถ้าคุณคิดว่ามันคุ้มกับชื่อเสียงก็เอาสิคะ ถ้าคุณฟ้องหย่าพิมพ์ก็จะบอกเรื่องของคุณให้ทุกคนรู้ พิมพ์คงได้รับความเห็นใจมากๆ ใครจะคิดล่ะคะว่าคุณนฤดลที่แสนจะเพอร์เฟกต์จะมีอีหนูซ่อนไว้”“เรื่องแบบนี้ผู้ชายก็มีกันทั้งนั้น แต่ถ้าคนอื่นรู้ว่าคุณก็หนีสามีไปแต่งงานละ มันจะน่าสนใจกว่าไหม”“ดลหมายถึงอะไร” พิมพ์ปภัสเริ่มร้อนตัว“เรื่องที่คุณพาผู้ชายเข้ามาที่บ้าน ผมไม่ว่าอะไรเลยเพราะมันเป็นสิทธิ์ของคุณ แต่ที่คุณควงกันไปเที่ยวต่างประเทศแล้วไปแต่งงานที่นู่น คุณคิดเหรอว่ามันเป็นความลับ”“ดลพูดเรื่องอะไรคะ” พิมพ์ปภัสคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจ

  • พิศวาสล่ามรัก   ตอนที่ 36 เบื้องหลังการแต่งงาน

    ดลฤดีกลับมาถึงเมืองไทยก็รีบเข้าไปคุยเรื่องสำคัญกับมารดาทันทีโดยที่ยังไม่ทันจะเอากระเป๋าเดินทางไปเก็บ“เรื่องด่วนอะไรกันหรือว่ามีนาเป็นอะไร” คุณดวงกมลถามลูกสาวขณะที่ถูกเร่งให้เดินเข้ามาในห้องทำงานของบิดาซึ่งตอนนี้เจ้าของห้องนั้นไปรดน้ำกล้วยไม้อยู่ที่เรือนเพาะชำ“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับมีนาค่ะ มีนาสบายดีทุกอย่างไม่มีปัญหา”“แล้วมันเรื่องด่วนอะไรกันล่ะ”“แม่นั่งก่อนนะคะ”พอให้มารดานั่งและหายาดมมาไว้ใกล้ตัวแล้วก็รีบเล่าเรื่องที่ตัวเองไปเจอมา ทั้งเรื่องที่โรงแรมและเรื่องที่ร้านอาหารในเวกัส“ตาฝาดไปหรือเปล่าลูก เมื่อวานแม่ยังคุยกับน้องอยู่เลย น้องบอกว่าออกมาทานข้าวกับเมียเขา”“แต่ฤดีมีรูปนะคะ นี่ค่ะ” เธอส่งทั้งรูปทั้งคลิปให้มารดาดูซึ่งทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ก็ชัดเจนจนปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่พิมพ์ปภัส“แม่ไม่เข้าใจ เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยัยไง ตอนแต่งงานก็เห็นว่ารักกันดี นี่ลูกชายแม่กำลังโดนหลอกใช่ไหม” หญิงสูงวัยถอนหายใจด้วยความเหนื่อยล้า“ฤดีว่าแม่ลองเรียกน้องเข้ามาที่บ้านดีไหม”“แม่ไม่อยากเห็นน้องต้องเสียใจอีกเลย เวรกรรมอะไรกันนะถึงได้มาเจอเรื่องแบบนี้”“แม่ไม่อยากให้น้องรู

  • พิศวาสล่ามรัก   ตอนที่ 35 ความลับที่เวกัส

    มีนาเดินทางมาถึงอเมริกาได้หลายวันแล้ว หญิงสาวเข้าพักที่อพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนสอนภาษา ส่วนดลฤดีนั้นพักที่โรงแรมใกล้ๆ เพราะอยากให้มีนาลองใช้ชีวิตคนเดียวระหว่างนี้เธอกับสามีก็ไปดูงานที่โรงเรียนซึ่งใช้เป็นต้นแบบในการจัดการเรียนการสอน ก่อนที่จะพากันไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ“พี่วัฒน์คะ”“ครับ”“ฤดีว่าเห็นคนรู้จักนะคะ แต่พี่อย่าเพิ่งหันไปนะคะ นั่งนิ่งๆ ก่อนเดี๋ยวเขาจะรู้ตัวค่ะ”“ให้พี่นั่งนิ่งแล้วพี่จะรู้ได้ยังไงว่าใช่คนรู้จักของเราไหม” ธนวัฒน์ถามภรรยาอย่างไม่เข้าใจ เพราะถ้าเขาไม่หันไปดูแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าใช่คนที่ตนเองรู้จักไหม“เชื่อฤดีนะคะ นั่งอยู่แบบนี้ก่อน” ดลฤดีบอกสามีจากนั้นเธอก็ยกโทรศัพท์ขึ้นเหมือนกำลังถ่ายรูปของธนวัฒน์ แต่ทว่าเธอกำลังซูมกล้องไปไกลกว่านั้นหญิงสาวนึกขอบคุณโทรศัพท์รุ่นใหม่ที่สามารถซูมได้มากจนเห็นได้อย่างชัดเจนว่าคนที่เธอเห็นนั้นใช่คนที่เธอรู้จักไหมดลฤดีกดถ่ายรูป จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นโหมดถ่ายวิดีโอจนกระทั่งเธอคนนั้นเดินหายเข้าไปในลิฟต์“พี่วัฒน์ดูนี่นะคะ” เธอส่งโทรศัพท์ให้สามีดูภาพที่ตนเองถ่ายไว้“นี่มันน้องพิมพ์นี่ครับ ผมไม่รู้เลยว่าเธอมาเที่ยว

  • พิศวาสล่ามรัก   ตอนที่ 34 ตัดเยื่อเหลือใย

    นฤดลแอบมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาอยากคุยกับเธอแต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง เขาคิดว่าระยะเวลาที่ผ่านมานานเกินครึ่งปีนั้นจะทำให้ความรู้สึกที่มีต่อมีนาลดน้อยลงแต่มันกลับตรงกันข้ามเพราะเขายังรักและคิดถึงเธออาจจะมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ เมื่อลองเปรียบเทียบกับครั้งที่ตัวเองตามหาพิมพ์ปภัสไม่เจอมันต่างกันโดยสิ้นเชิงทั้งๆ ที่ตนเองแต่งงานไปแล้วและควรมีความสุขกับคนรักที่รอคอย แต่ในทุกๆ วันในใจของเขายังคงนึกถึงช่วงเวลาที่ตนเองมีความสุขกับมีนาอยู่ตลอด“พี่ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนมีนารอก่อนนะ”“ค่ะพี่ฤดี” มีนานั่งรอดลฤดีที่ห้องรับแขกขณะที่คนอื่นก็ต่างก็กลับห้องของตัวเองไปกันหมดแล้ว“มีนาสบายดีไหม” ในที่สุดเขาก็เปิดปากถาม“ค่ะ คุณดลล่ะคะ”“พี่สบายดี” เขายังแทนตัวเองเหมือนเดิมขณะที่อีกคนนั้นเปลี่ยนสรรพนามไป“แม่บอกว่าปิดเทอมใหญ่มีนาจะไปเรียนภาษาเหรอ” เขาพยายามจะชวนเธอคุย อย่างน้อยตอนนี้ก็อยู่ที่บ้านของตนเองมันไม่ได้น่าเกลียดอะไรถ้าจะพูดคุยกันบ้าง“ค่ะ”“มีอะไรให้พี่ช่วยบอกได้นะ”“ขอบคุณค่ะ”“มีนายังโกรธพี่อยู่เหรอ”“เปล่าค่ะ”“แต่เหมือนมีนาไม่อยากคุยกับพี่เลยนะ” เพราะการถามคำตอบคำแบบนี้ไม่ใช่นิสัยของหญิงสาวท

  • พิศวาสล่ามรัก   ตอนที่ 33 ชีวิตที่ต้องก้าวไปข้างหน้า

    ทางด้านมีนาที่ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ชั้นปี 3 หญิงสาวก็ไม่ได้สนใจใครอื่น แม้จะมีคนเข้ามาจีบแต่มีนาก็ปิดตายหัวใจ เธอทุ่มเทให้กับการเรียนอย่างหนักและวางแผนเอาไว้แล้วว่าถ้าเรียนจบจะเข้าไปช่วยคุณดลฤดีทำงานที่โรงเรียน ถึงแม้จะเป็นโรงเรียนที่นฤดลบริหาร แต่หญิงสาวก็ไม่คิดเอาเรื่องส่วนตัวมาปะปนกับเรื่องงานในเมื่ออีกคนแต่งงานไปแล้วเรื่องราวของเธอกับเขาก็จบลงไปด้วย ไม่มีการติดต่อไม่ว่าจะทางโทรศัพท์ทางไลน์หรือทางข้อความ เขาและเธอทำเหมือนอยู่กันคนละโลก แม้จะเจอกันก็แค่ทักทายตามมารยาทเท่านั้นใช่ว่ามีนาจะไม่เสียใจที่ถูกเขาหลอก แต่ชีวิตของเธอจะต้องก้าวไปข้างหน้าต่อ ถ้ามัวแต่ยึดติดกับเรื่องราวที่ผิดหวังในอดีตเธอก็คงหาความสุขให้กับตนเองไม่ได้ แม้จะรักเขามากแค่ไหน แต่ถ้ามันเจ็บเธอก็ต้องยอมตัดใจ หญิงสาวคิดได้แล้วว่าการอยู่โดยไม่มีคนรักมันไม่ได้เลวร้ายเลยสักนิดมีนายังคงไปมาหาสู่ที่บ้านหลังนั้นอยู่ตลอด เพราะเธอรักและเคารพทุกคนที่นั่น อีกอย่างตอนนี้นฤดลก็ย้ายออกไปอยู่ข้างนอกกับภรรยาแล้ว เธอจึงไม่มีโอกาสได้เจอเขาบ่อยนัก“เรื่องฝึกงานมีนาตัดสินใจหรือยังว่าจะฝึกที่ไหน อาจารย์ว่ายังไงบ้าง” ดลฤดีถามขณ

  • พิศวาสล่ามรัก   ตอนที่ 32 นาฬิกาเดินช้า

    งานแต่งงานของนฤดลถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ แขกที่มาร่วมงานต่างพากันชื่นชมเจ้าบ่าวเจ้าสาวว่าเหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยก “ดลคะ ยิ้มหน่อยสิคะ แขกมากันเยอะแล้วนะ” พิมพ์ปภัสบอกเจ้าบ่าวที่เอาแต่ทำหน้านิ่ง “ผมจะยิ้มก็ต่อเมื่อผมอยากยิ้ม คุณอย่ามาบังคับผม แค่เรื่องแต่งงานมันก็มากเกินไปแล้ว” “แต่วันนี้วันแต่งงานของเรานะคะ” “ผมว่ามันเป็นงานของคุณคนเดียวต่างหากล่ะ” นฤดลพูดพลางทำหน้าเบื่อโลกยิ่งกว่าเดิม “ดลคะ เราแต่งงานกันแล้วนะ พิมพ์ว่าดลเลิกคิดที่จะกลับไปหาเด็กมีนานั่นได้แล้ว” “ผมไม่ได้คิดถึงใครทั้งนั้น ผมก็แค่เบื่อที่จะต้องปั้นหน้าว่ามีความสุข” ที่เขาทำหน้าเบื่อก็เพราะไม่คิดว่างานแต่งของตนจะจัดใหญ่แบบนี้ “อดทนอีกนิดสิคะ เดี๋ยวก็ถึงเวลาเข้าหอแล้ว พิมพ์รับรองว่าดลจะมีความสุขและลืมผู้หญิงทุกคนอย่างแน่นอน” พิมพ์ปภัสกล่าวอย่างมั่นใจ เธอจะต้องทำให้นฤดลลืมผู้หญิงที่ชื่อมีนาให้เร็วที่สุด ก่อนที่จะถึงกำหนดที่เขากับเธอตกลงกันไว้ “ผมบอกเหรอครับว่าจะทำเรื่องแบบนั้นกับคุณ” “ดลค่ะ คุณเป็นผู้ชายนะ จะอดทนได้แค่ไหนกั

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status