LOGINพี่เอ็มขับมอเตอร์ไซค์พาฉันมาจนถึงคาเฟ่ที่ฉันอยากนั่ง ร้านตกแต่งด้วยโทนสีที่ฉันชอบ มีโซฟานุ่มๆ กับตุ๊กตาหมีน่ารักตัวโตๆ ให้ถ่ายรูป
ดีจัง! จะว่าไปแล้วช่วงเวลาของการเป็นวัยรุ่นที่ผ่านๆ มาฉันใช้มันไม่ค่อยจะคุ้มเอาเสียเลย คงเพราะโตมาในครอบครัวที่ทั้งเข้มงวดและกดดัน “จะกินอะไรสั่งได้เลยผึ้ง ไม่ต้องเกรงใจพี่” พูดพร้อมกับยื่นเมนูมาวางไว้ให้ แล้วเท้าคางเอียงหน้ามองฉันอย่างหวานซึ้ง บอกฉันว่าไม่ต้องเกรงใจ แล้วตัวเองอ่ะเกรงใจพี่อั๋นเขาบ้างไหมที่ไปยืมตังค์เขามาน่ะ แต่ตอนนี้ความหิวมันรุมเร้าจนฉันไม่เหลืออารมณ์จะเกรงใจใครแล้ว แถมภาพอาหารสวยๆ ในเมนูมันก็ช่างดึงดูดใจเหลือเกิน ฉันจึงต้องรีบสั่งทั้งอาหาร ขนม และเครื่องดื่มมาจนเต็มโต๊ะ “แล้วพี่เอ็มล่ะ ไม่สั่งอะไรเหรอ” หันไปถามแฟนที่นั่งยิ้มอยู่ข้างๆ ทันทีที่นึกได้ “ไม่ล่ะ เห็นผึ้งสั่งมาตั้งเยอะแยะขนาดนี้ กินคนเดียวไม่หมดหรอก เดี๋ยวพี่ค่อยกินที่เหลือเอง” พูดจบก็โอบกอดฉันพร้อมกับเอียงหน้ามาซบไหล่เล็กอย่างออดอ้อน นั่น! ผู้หญิงโต๊ะข้างๆ หันมามองใหญ่แล้ว คงนึกไม่ถึงว่าหนุ่มหน้าเข้มท่าทางดุดันแบบแฟนฉันจะกลายร่างเป็นผู้ชายขี้อ้อนได้ถึงขนาดนี้ ว่าแต่เขา… ฉันเองก็หลงแฟนมากไม่แพ้กัน เดี๋ยวพอกินเสร็จก็ต้องรีบกลับบ้านก่อนที่ป๊ากับหม่าม้าจะสงสัยเอา เฮ้อ… เวลาก็ผ่านไปเร็วเกิน อยากหยุดเวลาเอาไว้ในช่วงที่มีแต่เราสองคนแบบนี้จัง ฉันนั่งมองอาหารกับเครื่องดื่มที่ทยอยมาเสิร์ฟด้วยแววตาเปล่งประกายวิบวับ มือจ้วงตักอาหารเข้าปากอย่างรวดเร็ว และรสชาติของแกงกะหรี่ที่แตะลิ้นก็เรียกรอยยิ้มแห่งความสุขให้อาบบนใบหน้าขาวนวลเนียนในทันที แต่คนที่ดูแล้วน่าจะมีความสุขมากกว่าฉันในเวลานี้ก็คือพี่เอ็มที่กำลังนั่งยิ้มมองฉันกินพร้อมกับเอามือลูบขาอ่อนขาวๆ ของฉันไปด้วย บรรยากาศแบบนี้… ต้องถ่ายรูปเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกซะหน่อย เมื่อฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมจะถ่ายเซลฟี่ใบหน้าหมวยสวยเก๋ของตัวเอง คนหน้าหล่อที่นั่งข้างๆ ก็รีบยื่นใบหน้ามาเข้ากล้องทันที แค่นั้นยังไม่พอ ยังขยับแก้มสากของตัวเองเข้ามาแนบชิดติดกับแก้มนุ่มของฉันอีกด้วย รอยยิ้มแห่งความสุขของเราทั้งคู่เห็นเด่นชัดจนแทบจะทะลุจอโทรศัพท์ออกมา ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มกับผิวสีแทนของพี่เอ็มมันช่างตัดกับใบหน้าหมวยๆ กับผิวขาวใสของฉันเสียจริงๆ “รูปคู่รูปแรกของเราเลยนะเนี่ย ขออีกรูปนะผึ้ง” คราวนี้พี่เอ็มหันหน้ามาหอมแก้มฉันทันตอนที่นิ้วเล็กกดถ่ายพอดี งื้อ… และภาพมันก็ดูสวีทน่ารักมากๆ “ส่งรูปมาให้พี่หน่อยนะผึ้ง โทรศัพท์ผึ้งถ่ายรูปสวยดี ส่วนเครื่องของพี่แม่งกาก… ใกล้พังแล้ว ถ่ายรูปไม่ค่อยจะติด” ทำไมพอได้ยินแล้วฉันต้องหัวเราะด้วยวะ ฉันส่งรูปคู่ของเราเข้าเครื่องเขาทางไลน์พร้อมกับแอบถอนหายใจออกมาเบาๆ ปีนี้พี่เอ็มก็ย่างยี่สิบสองแล้วนะ ไม่รู้เมื่อไหร่จะหางานทำเป็นเรื่องเป็นราวแล้วก็สร้างฐานะเสียที แต่เรียนไม่จบมัธยมแบบนี้จะไปทำงานอะไรล่ะ ถ้าเป็นงานที่ต้องใช้วุฒิการศึกษาสมัครเข้าไป คงไม่พ้นค่าจ้างที่เทียบเท่ากับค่าแรงขั้นต่ำ “เป็นอะไรไปผึ้ง ทำไมมองพี่แบบนั้น” ดูเหมือนว่าคนตัวโตจะรู้ทันความคิดของฉันเข้า เพราะจู่ ๆ ก็ทำหน้าเศร้าขึ้นมาจนฉันเห็นแล้วรู้สึกเอ็นดู มือเล็กเลยรีบเอาช้อนตักข้าวแกงกะหรี่หมูทอดป้อนเข้าปากให้เขาอย่างเอาอกเอาใจพร้อมรอยยิ้มน่ารัก “อร่อยเนอะพี่เอ็ม” โอ๊ย! มีความสุขจัง เฮ้อ! เมื่อใดก็ตามที่เรามีความสุข เวลาก็ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วทุกที เดี๋ยวก็ต้องรีบกลับบ้านแล้ว และก่อนกลับบ้านต้องไม่ลืมที่จะเอาเบบี้ออยล์มาเช็ดเครื่องสำอางบนใบหน้าออกให้หมดเกลี้ยง เพราะเดี๋ยวป๊ากับหม่าม้าเห็นเข้าจะสงสัยว่าฉันแอบมาหนีเที่ยว เฮ้อ! ถ้าไม่ต้องมาคอยหลบๆ ซ่อนๆ แบบนี้ก็คงจะดี คืนนี้ก็ต้องมุ่งมั่นอ่านหนังสือเตรียมสอบอีก ส่วนพี่ชายข้างบ้านจอมหื่น ได้เอาฉันจนหนำใจไปแล้ว คืนนี้คงจะไม่มาวุ่นวายก่อกวนอย่างแน่นอน โล่งใจไปเปราะหนึ่ง! หลังจากนั่งสวีทกินของอร่อยด้วยกันในคาเฟ่บรรยากาศน่ารักจนพุงกาง พี่เอ็มก็ขับมอเตอร์ไซค์มาส่งฉันที่ป้ายรถเมล์ ส่วนฉันก็รีบลบเครื่องสำอางออกแล้วก็เดินกลับบ้านอย่างรวดเร็ว เมื่อกลับมาถึงบ้านที่เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดเก่าๆ แล้วเห็นป๊ากับหม่าม้ากำลังเหน็ดเหนื่อยอยู่กับการเก็บร้าน ลูกสาวคนเดียวที่เป็นความหวังของครอบครัวอย่างฉันก็ยิ่งรู้สึกผิด “กลับมาแล้วเหรอผึ้ง ดูเหนื่อยเชียว ติวเป็นยังไงบ้าง เข้าใจบทเรียนขึ้นบ้างไหม หม่าม้าซื้อราดหน้าหมูนุ่มร้านเฮียเหน่งมาวางไว้ให้ แล้วก็มีขนมหวานอยู่ในตู้เย็น ผึ้งกลับมาหิวๆ เข้าไปกินก่อนสิ” หม่าม้ายิ้มใจดีบอกฉันที่กำลังยืนหาวอยู่หน้าร้าน สองมือของฉันถือหนังสือเตรียมสอบวิชาฟิสิกส์เอาไว้เพื่อให้ดูแนบเนียนเหมือนเพิ่งไปติวมา โอย… ยิ่งรู้สึกผิดมากกว่าเดิม ตอนนี้อิ่มจนไม่รู้จะอิ่มยังไงแล้ว หม่าม้าคงจะรู้ว่าฉันเบื่อข้าวหน้าเป็ดก็เลยอุตส่าห์ไปซื้อราดหน้าหมูนุ่มเจ้าอร่อยมาให้ แบบนี้ฉันก็ต้องกินให้หมดเพื่อไม่ให้ม้าเสียน้ำใจและสงสัยเอา “ติวก็โอเคนะ… เข้าใจมากขึ้นกว่าเดิม งั้นหนูขอไปกินราดหน้าก่อนนะม้า เสร็จแล้วจะได้ไปอ่านหนังสือต่อ ฉันที่อิ่มแปล้กลับมาที่บ้านค่อยๆ เอาช้อนจ้วงตักราดหน้าหมูนุ่มเข้าปากช้าๆ จนหมด แบบนี้คงจะอิ่มไปถึงพรุ่งนี้เช้าเลยเนี่ย ร่างเล็กที่พุงเริ่มจะปลิ้นค่อยๆ เดินขึ้นบันไดไปยังห้องนอน ถึงเวลาที่จะต้องตั้งใจอ่านหนังสือซะที หวังว่าจะไม่ง่วงแล้วก็เผลอหลับไปเหมือนกับเมื่อคืนก่อนอีกนะ ฉันนั่งลงตรงโต๊ะอ่านหนังสือ ความอิ่มจนเกินพอดีทำให้รู้สึกง่วง หลังจากหาวจนน้ำตาไหลเสร็จไปสองรอบ ก็เปิดหนังสือวิชาเคมีอ่านทบทวนตรงจุดที่ยังไม่ค่อยจะเข้าใจ นี่ฉันไม่เข้าใจบทเรียนมากขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย แย่แล้ว! อาทิตย์หน้าสอบติดกันรวดเดียวสี่วัน แล้วแบบนี้จะไปเตรียมตัวทันได้ยังไง ครืด ครืด ~ โทรศัพท์ที่วางอยู่บนเตียงสั่นทำลายสมาธิขึ้นมา เดาว่าต้องเป็นพี่เอ็ม อืม! ใช่จริงๆ ด้วย Line > 🐸 เอ็ม จักรวาล: แฟนครับ วันนี้พี่มีความสุขจัง พรุ่งนี้เราออกไปเที่ยวกันอีกนะ [ บ้าบอจริงๆ เลยพี่เอ็ม วันนี้ตอนออกไปกับเขาก็ลุ้นแทบแย่เพราะกลัวจะมีคนรู้จักมาเห็นเข้า] 🍯 Honey: พี่เอ็ม ผึ้งไม่อยากโกหกป๊ากับม้าแล้ว! แล้วอาทิตย์หน้าผึ้งก็มีสอบปลายภาคด้วย พรุ่งนี้ผึ้งจะอ่านหนังสืออยู่ที่บ้าน 🐸 เอ็ม จักรวาล: พี่คิดถึงผึ้ง ลงมาตรงประตูหลังบ้านได้ไหม 🍯 Honey: ตอนนี้เลยเหรอ เดี๋ยวก่อนพี่เอ็ม เราเพิ่งจะห่างกันได้ไม่ถึงชั่วโมงเองนะ [ ช่วยไปทำงานทำการแล้วหาเงินใช้คืนพี่อั๋นซะทีเถอะ] 🐸 เอ็ม จักรวาล: งั้นดึกๆ พี่ปีนขึ้นไปหานะ 🍯 Honey: พี่เอ็ม เดี๋ยวโดนจับได้! [ จะบ้าตาย เคยกลัวอะไรบ้างไหมเนี่ยชีวิต! เอาแต่ใจตัวเองที่สุดเลย ] 🐸 เอ็ม จักรวาล: โอเคครับแฟน งั้นเจอกันพรุ่งนี้ก็ได้ เดี๋ยวพี่ออกไปห้องซ้อมที่บ้านไอ้อั๋น มันชวนโคฟเวอร์เพลงลงยูทูป 🍯 Honey: โอเค… ไปเลย อัพคลิปลงยูทูปแล้วบอกผึ้งด้วยนะ ผึ้งอยากดู 🐸 เอ็ม จักรวาล: เจอกันพรุ่งนี้นะแฟน ฝันดีนะ จุ๊บๆ ฉันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่วางโทรศัพท์ก่อนจะตั้งใจอ่านหนังสือต่อ สิ่งที่เป็นความสุขของพี่เอ็มคงมีอยู่สองอย่างเท่านั้น นั่นก็คือ... ฉันกับการร้องเพลง“จริงๆ ไม่ต้องรีบตื่นไปส่งผึ้งก็ได้ พี่เอ็มน่าจะนอนต่อ ผึ้งขึ้นรถเมล์แล้วต่อรถไฟฟ้าแป็บเดียวก็ถึง” ยิ่งเห็นเขาอ้าปากหาวฉันก็ยิ่งเกรงใจ ร้องเพลงเสร็จกลับมาก็ดึก ยังต้องรีบตื่นมาดักรอฉันตรงนี้อีก“ไม่เป็นไร พี่อยากไปส่งแฟน แฟนพี่โคตรสวยเลยรู้ไหม พอเข้ามหาลัยก็ยิ่งสวย พี่หวงจะแย่ นี่ถ้าไปนั่งเฝ้าตอนเรียนได้พี่คงไปแล้ว” พอฉันได้ยินก็หลุดขำออกมา ก่อนจะขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์แล้วก็โอบกอดคนตัวอุ่นเอาไว้แน่น กลิ่นกายแมนๆ ของแฟนมันทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นบ้าเลยเรื่องความหื่นของคุณนักร้องนำวงปีเตอร์แพนนั้นก็ไม่มีแผ่วลงเลย พี่เอ็มยังไม่ย้ายไปอยู่ที่อื่น ยังคงอยู่ที่ร้านจักรยานกับแม่ แฟนฉันเขารักแม่มาก เขาบอกว่าในโลกนี้มีผู้หญิงอยู่แค่สองคนที่เขารักสุดหัวใจและอยากจะดูแลให้ดีที่สุด นั่นก็คือ ‘แม่อ้อยกับน้องน้ำผึ้งสาวข้างบ้าน’ อีกเหตุผลหนึ่งที่เขาไม่ยอมย้ายไปอยู่ที่อื่นก็คือ... เพราะร้านจักรยานมันเป็นบ้านที่อยู่ติดกับบ้านฉัน“พี่ต้องเห็นหน้าผึ้งทุกวัน ถึงไม่ได้เอาทุกวัน ก็ต้องเห็นหน้าทุกวัน เข้าใจไหม” นี่คือสิ่งที่พี่เอ็มพูดกับฉันตั้งแต่ตอนเราเพิ่งจะเริ่มคบกัน และคุณพี่ชายข้างบ้านที
พี่เอ็มรีบขับรถพาฉันกลับบ้านก่อนจะเย็น หลังจากเดินมาถึงบ้านฉันก็วิ่งขึ้นบันไดไปยังห้องนอนของตัวเองในทันที ร่างเล็กบอบบางนั่งลงตรงโต๊ะอ่านหนังสือ จะตั้งใจเตรียมตัวสอบอีกครั้ง กำหนดสอบคือวันจันทร์ที่จะถึงนี้ มีเวลาอ่านหนังสือสามวันต้องทำให้ได้ แต่ก่อนจะเตรียมตัวสอบมือเล็กรีบเปิดเอกสารอ่านรายละเอียดของหลักสูตรก่อนหลักสูตรแพทย์แผนจีนบัณฑิต คณะแพทย์ตะวันออก มหาวิทยาลัยอรุณรักษา เรียนตั้งหกปีแน่ะ เนื้อหาก็ดูยากเหมือนกันนะเนี่ย ต้องเรียนภาษาจีนประกอบด้วยแบบนี้ป๊ากับหม่าม้าต้องชอบแน่เลย ฉันมีพื้นฐานภาษาจีนอยู่ค่อนข้างจะดีเลยทีเดียว แบบนี้คิดว่าไม่น่าจะยากเท่าไหร่ พอเรียนจบก็มาเปิดคลินิกแพทย์แผนจีนได้เลยตามประสาแพทย์ทางเลือก‘หากมีความรู้ภาษาจีนจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ’ นั่นไง! เข้าทางฉันเลย งื้อ… ต้องขอบคุณพี่เอ็มจริงๆแต่เดี๋ยวก่อน! ค่าเทอมเทอมละแปดหมื่นห้า ยังไม่รวมค่าอุปกรณ์ ค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตรก็ล้านกว่าโอย... อย่างแพงฉันรู้แหละว่าป๊ากับหม่าม้าส่งฉันเรียนไหวเพราะพอจะมีเงินเก็บอยู่ก้อนใหญ่ แต่ร้านก๋วยเตี๋ยวก็ไม่ได้มีกำไรมากมายอะไร แล้วในแต่ละวันทั้งคู่ก็ทำงานหนักมากแต่ถึง
“แล้วพี่เอ็มรู้ได้ยังไงว่าผึ้งเอ็นท์ไม่ติด” ฉันถามเขาหลังจากที่ยื่นใบสมัครเสร็จเรียบร้อย พอพี่เอ็มวางหูโทรศัพท์ก็รีบหันมาหาฉันทันที นั่น! เพิ่งจะสังเกตว่าแฟนใช้ไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดซะด้วย “พี่เอ็ม โทรศัพท์เครื่องใหม่สวยดีนะ” แอบแซวพร้อมกับแย่งมาดู และภาพพักหน้าจอก็เป็นรูปของเรา… รูปที่เขาหอมแก้มฉันในคาเฟ่ “อืม… พี่เพิ่งไปถอยมาเมื่อวาน ได้เงินค่าโฆษณาจากยูทูปมาสี่หมื่น” รีบตอบด้วยความภาคภูมิใจ “พอเปลี่ยนเครื่ิองแล้วงานเข้าเลยเนี่ยเห็นไหม เมื่อกี๊ไอ้อั๋นเพิ่งโทรมาบอกว่ามีงานฉลองใหญ่จ้างให้ไปเล่นเป็นวงเปิดงานที่เยาวราช” ว่าแล้วเชียว! ชักจะดังใหญ่แล้วนะแฟนฉัน “ว่าไง… ตอบผึ้งมาก่อน พี่เอ็มรู้ได้ยังไงว่าผึ้งเอ็นท์ไม่ติด” เขาไปซื้อใบสมัครสอบตรงมาให้ฉันตั้งแต่ก่อนฉันจะกดดูผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยเสียอีก “ก็พี่เป็นคนคอยขับรถรับส่งผึ้งไปสอบเอง ดูจากหน้าตาท่าทางก็รู้แล้ว” อืม! ช่วงนั้นสีหน้าของฉันห่างไกลกับคำว่าเบิกบานมากเลยทีเดียว ก็คนมันทำข้อสอบไม่ค่อยจะได้นี่นา “อืม… ดูถูกจริงๆ ดูไม่เคยผิดเลย ไม่ผิดเลยสักนิด” แกล้งพูดกลั้วหัวเราะก่อนจะได้ยินเสียงท้องของตัวเองร้อง “พี่ก็หิวเหมือนกั
“ผึ้งไปสอบเถอะ ถ้าสอบได้แล้วป๊าไม่ส่งผึ้งเรียน เดี๋ยวพี่จะเป็นคนส่งผึ้งเอง พี่หาเงินได้แน่นอน เชื่อพี่ พี่สัญญาว่าพี่จะดูแลผึ้ง… ดูแลให้ดีที่สุด” โอย… น้ำตาจะไหล ทำไมถึงรู้สึกซาบซึ้งใจแบบนี้วะใบหน้าหล่อเหลาจ้องมองฉันอย่างจริงจัง ฝ่ามือหนาถูกยื่นมาลูบผมฉันเบาๆ ด้วยความเอ็นดูและต้องการจะให้กำลังใจ“ขอกอดหน่อยได้ไหม” พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปซบอกคนตัวสูง อ้อมกอดอบอุ่นและเรียวแขนกำยำที่พร้อมจะปกป้องดูแลฉันเสมอ พอเงยหน้าขึ้นจะมองเขา ม่านน้ำตาก็ดันมาบัง… ทำให้ฉันมองหน้าหล่อๆ ของเขาไม่ชัดเสียนี่ปลายนิ้วเรียวยื่นมาปาดน้ำตาให้ฉันเบาๆ ก่อนที่ปากหยักที่มีกลิ่นบุหรี่จางๆ จะฉกจูบฉันแบบยั้งใจไว้ไม่อยู่ เขาดูดปากฉันอย่างเร่าร้อนเหมือนเช่นเคย ส่วนฉันก็จูบตอบเขาแบบต้องการจะส่งผ่านความรักเข้าไปทางนั้นเราทั้งคู่ยืนดูดปากกันอย่างดูดดื่มและเนิ่นนานตรงซอกตึก คำสัญญาที่เขาบอกว่าจะดูแลฉันให้ดีที่สุดมันก้องอยู่ในหู ถึงแม้ที่ผ่านมาพี่เอ็มดูไม่ค่อยจะน่าเชื่อถือสักเท่าไหร่ แต่วันนี้ฉันกลับเชื่อมั่นในคำพูดเขาจนหมดหัวใจ“พี่เอ็มจะดูแลผึ้งจริงๆ นะ” มองแบบอยากจะขอฝากความหวังเอาไว้ที่
วันนี้คือวันชี้ชะตาชีวิตของฉัน…กำหนดประกาศผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็คือวันนี้ ฉันเลือกคณะเภสัชของมหาวิทยาลัยรัฐบาลชื่อดังเป็นอันดับหนึ่งและอันดับเดียว แน่นอนว่าการแข่งขันสูงมากจริงๆ และคนที่ตื่นเต้นเฝ้ารอฟังผลมากกว่าฉันก็คือ ‘ป๊า’ ป๊ากับหม่าม้าผู้ซึ่งประหยัดอดออม เอาแต่ใส่เสื้อผ้าเก่าๆ และไม่ยอมไปเที่ยวที่ไหนเพราะตั้งใจจะเก็บเงินเอาไว้ซื้อตึกตรงข้างร้านจักรยานเพื่อมาเปิดร้านยาตอนฉันเรียนจบเภสัชฉันเครียดกลัวเอ็นท์ไม่ติด แล้วก็ระบายกับพี่เอ็มทุกวัน ส่วนเขาก็เอาแต่บอกว่าไม่เป็นไรหรอก… ชีวิตยังมีทางออกเสมอ อย่าเครียดสิผึ้ง มีพี่อยู่ทั้งคนมันก็จริงนะ… ฉันรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยเวลาอยู่กับเขา แต่ฉันแบกความหวังของครอบครัวอยู่นี่ไงว่าแต่ตอนนี้แฟนรูปหล่อข้างบ้านหายไปอยู่ที่ไหน ทำไมถึงไม่มาเดินป้วนเปี้ยนตรงหน้าร้าน ตามปกติในช่วงเวลาแบบนี้เขาต้องมาคอยแอบดูฉันแล้ว“ผลเอ็นท์ออกวันนี้ไม่ใช่เหรอ รีบๆ เปิดดูสิผึ้ง มัวชักช้าอยู่ได้” ที่มัวแต่ชักช้าอยู่ก็เพราะกลัวจะเอ็นท์ไม่ติดแล้วทำให้ป๊าโกรธนี่แหละ คะแนนสอบของฉันไม่น่าจะถึงเภสัชนะฉันว่า“ใจเย็นๆ สิป๊า ตอนนี้เว็บมันล่มน่ะ ใครๆ ก็กดดูผลกัน” ฉันยังคง
ฉันอาบน้ำทาโลชั่นหอมกรุ่น ใส่ชุดอยู่บ้านสบายๆ เดินลงไปหาแฟนที่ประตูหลังบ้าน พอเปิดประตูปุ๊บคนตัวโตก็รีบพุ่งตัวเข้ามาในบ้านของฉันทันที นี่คงจะแอบเอากุญแจประตูรั้วเหล็กตรงกระถางกล้วยไม้ไขเข้ามายืนรอฉันอยู่หน้าประตูบ้านสักพักแล้วยังไม่ทันที่ฉันจะพูดอะไรร่างสูงใหญ่ก็วิ่งขึ้นบันไดไปยังห้องนอนของฉันร้ายกาจจริงๆ เลยแฟนฉัน เผลอไม่ได้เลยทีเดียว พอฉันเดินตามขึ้นไปบนห้อง ก็เห็นเขานอนยิ้มกอดหมอนข้างอยู่บนเตียงเป็นที่เรียบร้อย“มาเร็วครับแฟน มาให้พี่นอนกอดหน่อย”กวักมือเรียกด้วยท่าทางน่าเอ็นดู... คงอยากจะให้ฉันดูเอ็น“พี่นอนกอดเฉยๆ จริงๆ พี่คิดถึงผึ้ง อยากกอดแน่นๆ มาเร็วๆ สิ” ยังคงอ้อนฉันไม่ยอมหยุด ฉันเลยต้องรีบล็อคประตูห้อง แล้วเดินขึ้นเตียงไปนอนกอดเขา ซุกตัวอยู่ในอ้อมอกอบอุ่น สูดกลิ่นกายที่ฉันหลงใหลฝ่ามืออุ่นโอบประคองแก้มนุ่มของฉันเอาไว้ จากนั้นริมฝีปากหยักสวยจึงประกบจูบฉันอย่างดูดดื่มลึกล้ำ เมื่อตักตวงความหอมหวานจากกลีบปากนุ่มของฉันจนหนำใจก็ถอนริมฝีปากออกแล้วสบตาพูด“พี่มีของขวัญให้” ล้วงกระเป๋าหยิบของที่ว่าขึ้นมาทันที มันคือกระปุกเครื่องประดับเล็กๆ ของร้านทองแห่งหนึ่ง“อะไรเนี่ยพี่







