เสียงเคาะดังขึ้นอีกครั้งก่อนที่เธอจะบิดประตูให้แง้มออก “คุณแพร!” แปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นคนที่ยืนตาบวมอยู่หน้าห้อง บ่งบอกให้รู้เลยว่าเธอผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
“ตกใจมากเหรอคะที่เป็นแพร”
“...ก็ผิดคาดนิดหน่อยค่ะ เพราะคิดว่าจะเป็นพี่ราม” น้ำเสียงของอีกฝ่ายทำให้เธอหมั่นไส้จนต้องยั่วกลับไปบ้าง “มีธุระอะไรกับพี่รามหรือเปล่าคะ ถ้ามีเชิญห้องพี่แก้วได้เลยค่ะ เพราะพี่รามยังไม่ได้ย้ายมานอนกับฉันคืนนี้หรอกค่ะ”
พินแพรพยายามไม่ปะทะคารมกับอีกฝ่าย เพราะรู้ว่าตัวเองกำลังเป็นฝ่ายเสียเปรียบเนื่องจากอารมณ์ที่แปรปรวน
“แพรไม่ได้มาหาเรื่องนะคะ แต่แพรมาเพื่อขอคุยด้วยเท่านั้น”
“คุณแพรไม่ต้องเสแสร้งก็ได้ค่ะ เพราะมันดึกมากแล้ว ไม่มีใครหรอกค่ะนอกจากเราสองคน”
“ขอแพรเข้าไปคุยข้างในได้ไหมคะ” เสียงของพินแพรกระด้างขึ้นเล็กน้อย และดันประตูเดินเข้าไปในห้องโดยไม่รอให้เจ้าของห้องอนุญาต
สิริญ่าปิดประตู “ทีนี้ก็บอกมาเลยค่ะว่ามีธุระอะไรกับฉัน”
พินแพรหันมาเผชิญหน้ากับหญิงส
“อยากไป แต่ไปไม่ได้จริง ๆ หนูนิดเที่ยวเผื่อพี่ด้วยก็แล้วกันนะ” เขาต้องไปญี่ปุ่นเช้าตรู่วันอาทิตย์ เพื่อไปร่วมงานแต่งงานของลูกค้าคนสำคัญ และจะกลับมาในวันจันทร์พร้อมกับเธอ เพราะแอนดรูต้องกลับมาแถลงข่าวงานเดินแบบ “เอาไว้ให้แอนดรูเขาเสร็จงานเรียบร้อยแล้ว ลองชวนเขาอยู่ต่อสิหนูนิด เราจะได้ไปด้วยกัน”“นิดจะลองถามเขาดูก่อนนะคะ” เธอตอบแบ่งรับแบ่งสู้ รับประทานอาหารต่อจนอิ่มแล้วจึงลุกไปจุ๊บที่แก้มสามีหนึ่งที “นิดไปเรียนก่อนนะคะ เย็นนี้เจอกัน”“เดี๋ยวก่อน” มือใหญ่จับข้อมือเล็ก ๆ ของภรรยาเอาไว้ รู้สึกอาลัยอาวรณ์ทุกครั้งที่เธอจะออกจากบ้านไปก่อนตัวเอง “พี่ไปส่งนะ”“วันนี้ว่างเหรอคะ”“ไม่ว่างแต่อยากไปส่ง ทำไม่ได้เหรอ”“ทำได้ค่ะ” เธอยิ้มกว้าง พอใจมากที่เขาจะไปส่ง เพราะไม่อยากขับรถฝ่าการจราจรที่แสนติดขัดด้วยตัวเองเหมือนกันรามคลี่ยิ้มกว้างตอบ พาภรรยาไปที่รถพร้อมกับถือกระเป๋าให้เธออย่างเอาใจ เมื่อไปถึงมหาวิทยาลัยก็ถามเวลาเลิกเรียนกับเธอเพื่อจะแวะมารับ
ใบหน้าสวยหวานแบบลูกครึ่งร้อนผ่าว เมื่อเห็นสายตาของคนพูด รวมถึงอาการยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ของสาวใช้ ที่ยืนรอบริการอยู่ห่าง ๆ ทั้งสองคน“ไปเลยก็ได้ค่ะ รอนิดสิบนาทีนะคะ นิดขอเปลี่ยนชุดก่อน” ที่เธอยอมไปกับเขา ก็เพราะสายตาเจ็บปวดของพินแพรต่างหากสิริญ่าเดินออกไปจากห้องอาหารไปแล้ว รามจึงหันไปทางพินแพร มองเธออย่างสบายใจมากขึ้น“แพรอึดอัดหรือเปล่าที่ต้องอยู่ที่นี่ ถ้าอึดอัดก็ย้ายไปอยู่ที่คอนโดของพี่ก่อนก็ได้นะ ถนนเสร็จแล้วค่อยย้ายกลับบ้าน” เขาคิดว่าวิธีนี้เป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเธอแล้ว ส่วนเขานั้นก็มีผลพลอยได้ไปด้วยพินแพรคิดว่าตัวเองไม่มีน้ำตาจะไหลออกมาแล้ว แต่เมื่อได้ยินคำถามของรามมันก็ไหลออกมาท่วมตาอีกจนได้“พี่รามอยากให้แพรไปหรือเปล่าคะ ถ้าพี่รามอยากให้แพรไปแพรก็จะไปค่ะ” ถามเสียงสะอื้นเห็นน้ำตาของเธอแล้วเขาก็สงสารจับใจ แต่คิดอีกทีเขาก็ต้องตัดสินใจให้เด็ดขาด บทเรียนเคยมีมาแล้ว เขาจะให้ปัญหาเดิม ๆ เกิดขึ้นกับตัวเองอีกไม่ได้“พี่ตัดสินใจแทนแพรไม่ได้หรอก ต้องแล้วแต่แพรนะ แพรอยากอยู่ที่ไหน
“พี่รามแคร์ความรู้สึกของนิดด้วยเหรอคะ” เธอหันไปถามเขาด้วยเสียงที่ค่อนข้างดัง คล้ายกำลังน้อยใจจริง ๆ “นิดนึกว่าคุณแพรสำคัญกว่านิดซะอีก”“หนูนิดเป็นเมียพี่นะ พี่จะแคร์คนอื่นมากกว่าได้ยังไงล่ะ” รามรีบพูดเอาใจและพูดตามความจริง“คุณแพรเป็นคนอื่นแน่เหรอคะ นิดนึกว่าเป็นมากกว่านั้นซะอีก”รามมองใบหน้างอง้ำที่อยู่ในอาการเง้างอน แล้วดึงเธอเข้ามากอด จูบริมฝีปากช่างตัดพ้ออย่างดูดดื่ม ด้วยความรู้สึกทั้งรักและเอ็นดู“ปากนี้นะ ทำไมขยันหาเรื่องพี่จังเลย พี่ก็เคยบอกไปแล้วนี่ว่า พี่คิดกับแพรเขาได้แค่น้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น” เขาจูบเธออีกครั้งเมื่อเห็นปากฉ่ำ ๆ เผยอขึ้นคล้ายจงใจชักชวน “ส่วนคนนี้คือเมีย ดังนั้นคนที่เป็นเมียก็ต้องสำคัญกว่าอยู่แล้ว”แขนยาวเรียวตวัดเกี่ยวรอบลำคอของสามี แล้วมอบยิ้มหวานหยาดเยิ้มให้แก่เขา ก่อนจะจูบที่ริมฝีปากรูปกระจับนั้นหนึ่งที“ขอบคุณนะคะที่แคร์นิดที่สุด ต่อไปนิดจะทำตัวให้น่ารักมากกว่านี้นะคะ”“ไม่ต้องฝืนตัวเองก็ได้ พี่อยากให้นิดอยู่กับพี่อย่างมีความสุข มากกว่าต้องมานั่งฝืนตัวเอง”เธอเป็นแบบนี้เขาก็พอใจในระดับหนึ่ง ถึงแม้เธอจะขี้งอนไปนิด เอาแต่ใจตัวเองไปบ้าง แต่เธอก็ไม่ใช่คนที่เอ
“ก็แค่ให้ความสำคัญกับคนอื่นให้น้อยที่สุดเวลาอยู่กับพี่ พี่ก็จะไม่อารมณ์เสียให้เห็นหรอก”รามอมยิ้มนิด ๆ รู้สึกพอใจมากกับการกระทำของเธอ ทำให้อารมณ์ขุ่นเคืองจางหายไปอย่างรวดเร็ว“นิดจะจำเอาไว้ค่ะ” เธอรับรู้นิสัยของเขาเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างแล้ว ก็จะจำเอาไว้และพยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อความสุขของครอบครัว “เรื่องของเรา มีอะไรที่นิดต้องรู้อีกไหมคะ”“ก็แค่..เวลาอยู่ด้วยกันพี่ต้องสำคัญที่สุด หนูนิดจะคบกับเพื่อนผู้ชายก็ได้พี่ไม่ว่า แต่เวลาจะไปไหนมาไหน ก็ขอให้บอกให้พี่รู้ก่อน อย่าให้คนอื่นเป็นคนมาบอกกับพี่ หรือพี่รู้เองทีหลัง เพราะพี่จะเสียความรู้สึกมาก ๆ ถ้าเป็นอย่างนั้น”“แล้วถ้านิดบอก พี่รามจะไม่เสียความรู้สึกเหรอคะ”“ไม่นะ ต่อให้มีคนอื่นมาพูดกับพี่ พี่ก็จะไม่รู้สึกหวาดระแวงเลยด้วยซ้ำ เพราะพี่ถือว่าหนูนิดบอกกับพี่แล้ว มันเป็นเหมือนความรู้สึกเชื่อใจอย่างหนึ่งสำหรับพี่”“จำเอาไว้นะคะว่าขออะไรกับนิดเอาไว้ เพราะนิดก็ต้องการแบบนั้นจากพี่รามเหมือนกัน” เขาและเธอต้องใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ดังนั้นสิ่งที่เขาขอจากเธอได้ เขาก็ต้องทำเหมือนกันถึงจะถูกต้อง “แฟร์ ๆ ไงคะ” คิ้วเรียวสีน้ำตาลเข้มเลิกสูงขึ้นเมื่อเขาหันมาม
“พี่กลับมาก่อน ปล่อยให้ราชเขารับผิดชอบส่วนที่เหลือต่อ”“อ้าว! นิดนึกว่ากลับมาพร้อมกันซะอีก” ตอนที่เขาโทรหาเธอเมื่อช่วงกลางวัน เธอก็ถามถึงราช แต่เขาก็ไม่บอกว่าไม่ได้กลับมาด้วยกัน“ไม่ได้กลับมาหรอกจ้ะ ลูกค้าชวนให้อยู่ฉลองวันเกิดเขาด้วยกันเย็นนี้ พี่ก็เลยให้ราชเขาอยู่ต่อน่ะ”“แล้วทำไมพี่รามถึงไม่อยู่ด้วยล่ะคะ”เขาเหลือบไปมองเธอ ก่อนจะหันไปมองถนนอีกครั้ง “อยากให้พี่อยู่นักเหรอ”“พี่รามก็สมควรจะอยู่ไม่ใช่เหรอคะ”“ก็ใช่ แต่ที่นั่นไม่มีหนูนิด พี่ก็เลยไม่อยากอยู่”คำตอบของเขา ทำให้กลีบปากบางถึงกับคลี่กว้างอย่างห้ามไม่อยู่ ก่อนจะรีบเม้มเข้าหากันอย่างฝืนความรู้สึก.. ถ้าเป็นผู้หญิงที่อ่อนไหวง่ายก็คงถามไปแล้วว่า ไม่มีตัวเองอยู่หรือเพราะไม่มีเลขาคนสวยอยู่กันแน่ แต่บังเอิญว่ามันไม่ใช่นิสัยของตน“แต่นิดชอบนะคะที่ไม่มีพี่รามอยู่ใกล้ ๆ เพราะมันทำให้นิดนอนหลับสบายทั้งคืนเลยค่ะ”เธอหลับสบายจริงเหรอ ขนาดเขายังนอนไม่ค่อยจะหลับเพราะไร้ไออุ่นจากเธอ
“ก็ได้ค่ะ นิดเลิกเรียนตอนห้าโมงนะคะ”(โอเค เดี๋ยวตอนเย็นเจอกันนะครับ)“ค่ะ บาย”(หนูนิด..)“ขา”(...พี่ ..พี่คิดถึงหนูนิดนะครับ)หัวใจของหญิงสาวถึงกับเต้นรัวด้วยความรู้สึกตื่นเต้น เมื่อได้ยินคำพูดที่ฟังดูคล้ายขัดเขินจากปลายสาย เขาคงเขินมากสินะถึงได้ตัดสายทิ้งทันทีที่พูดจบแบบนั้นวิคเห็นอาการยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ของสิริญ่า ก็ยิ่งสงสัยหนักกว่าเดิม สรุปแล้วคนที่โทรมาสายแรกกับสายที่สอง ใครคืนคนพิเศษของเธอกันแน่ หัวใจของเธอยังว่างพอจะให้เขาเข้าไปจับจองได้บ้างไหม เขาอยากรู้จริง ๆ “ยิ้มแก้มปริเลยนะ ใครโทรมาล่ะ”คนที่ยิ้มเพลิน ๆ หุบยิ้มลงไปเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองคนที่ด้านข้าง เพราะมัวแต่ปลื้มปริ่ม จึงลืมไปเลยว่ายังนั่งอยู่ในรถกับเขา“ไปนั่งรอคนอื่นในห้องดีกว่า” เธอบอกกับเขาแล้วเปิดประตูลงจากรถ เก็บความสุขเอาไว้ในใจ แล้วชวนเพื่อนคุยเรื่องอื่นขณะเดินไปที่ห้องเรียนเมื่อเข้าห้องเรียนได้สักพัก อาจารย์คนใหม่ก็เดินเข้ามาทักทายก่อนจะเริ่มทำการสอน และบอกเหตุผลกั