“จันทร์... ดูท่าทางคุณคงไม่ไหวแล้วนะ”
มาร์เซโล่เอื้อมมือไปแตะแขนของแฟนเก่า เมื่อเห็นว่าจันทร์เจิดเมาจนหลับคาแก้ว
ครั้นเมื่อเขาทำท่าว่าจะลุกขึ้นจากโต๊ะเพื่อประคองหล่อน ป้านวลก็รีบเอ่ยขึ้นทันที
“คุณมาร์คนั่งดื่มกับเพื่อนๆ ไปเถอะค่ะ เดี๋ยวป้าพาคุณจันทร์เจิดไปส่งที่ห้องนอนให้นะคะ”
เข้าแผน... ป้านวลรีบอาสา ค่อยๆ ประคองร่างอวบอัดของจันทร์เจิดซึ่งเมาพับไม่ได้สติขึ้นมาส่งจนถึงห้องนอนซึ่งอยู่ชั้นสองของบ้าน
“แฟนเก่ามานอนค้างบ้านแกแบบนี้... แสดงว่าถ่านไฟเก่ากำลังจะคุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้งใช่ไหมวะไอ้มาร์ค”
ราเมศแซวเจ้าของบ้าน เมื่อเห็นว่าตอนนั้นเหลือแต่คนกันเอง หารู้ไม่ว่าน้ำตาลซึ่งกำลังช่วยสาวใช้ชาวพม่าสองคนเก็บถ้วยเก็บจาน กำลังแอบเงี่ยหูฟังคำตอบของมาร์เซโล่อย่างใจจดใจจ่อ
“คงต้องดูๆ กันไปก่อน... ”
มาร์เซโล่ตอบพลางกระดกเหล้าลงคอ ไม่ได้ปฏิเสธว่าถ่านไฟเก่าระหว่างเขากับจันทร์เจิดกำลังจะคุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง
ซึ่งในเรื่องนี้มีแต่ตัวของมาร์เซโล่เองเท่านั้นที่รู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร? เพราะสาเหตุอันใดที่ทำให้เขากลับมาสานสัมพันธ์กับจันทร์เจิดอีกครั้ง เมื่อหล่อนเป็นฝ่ายกลับมาหาเขา
มาร์เซโล่หารู้ไม่ว่าคำพูดของเขาที่ว่า ‘คงต้องดูๆ กันไปก่อน’ นั้นเอง ที่ทำให้หัวใจของน้องเมียปวดแปลบรวดร้าวระบมขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
เพราะว่าการที่มาร์เซโล่พูดออกมาชัดเจนแบบนี้... ก็เท่ากับว่าเขากำลังเปิดทางให้จันทร์เจิดเข้ามาเป็นนายหญิงคนใหม่ของบ้าน
ระหว่างที่มาร์เซโล่กับราเมศกำลังนั่งสนทนากันอย่างออกรสชาติ นาวินก็ถือโอกาสชักชวนน้ำตาลออกมานั่งดื่มที่ม้านั่งกลางสนามหญ้า
เมื่อเห็นว่านาวินเริ่มแสดงอาการเกี้ยวพาน้ำตาลออกมาอย่างเห็นได้ชัด ทำให้มาร์เซโล่เหลือบมองมาทางน้องเมียบ่อยครั้ง จู่ๆ เขาก็รู้สึกขวางหูขวางตาขึ้นมาแปลกๆ เมื่อเห็นว่าน้ำตาลพูดคุยกับชายอื่น
“เห็นทีว่าผมคงต้องขออนุญาตไอ้มาร์คมาที่บ้านนี้บ่อยๆ ซะแล้ว... ”
นาวินกล่าวพลางเหลือบมองใบหน้าสะสวยของน้ำตาล มาร์เซโล่เพิ่งรู้ว่าเขารู้สึกหวงแหนน้องเมียก็ตอนนี้เอง
“มึงไม่เห็นต้องขออนุญาตกู... บ้านหลังนี้ยินดีต้อนรับมึงเสมอ อยากมาเมื่อไรก็มาสิวะไอ้วิน”
มาร์เซโล่กัดฟันพูด
“ว้าว... ผู้ปกครองอนุญาตแล้ว... งั้นคงขออนุญาตแวะมาหาคุณตาลบ่อยๆ นะครับ”
นาวินเริ่มเมา ด้วยความเป็นคนที่มีนิสัยเจ้าชู้ ทำให้เขาทำตาเล็กตาน้อยกับน้ำตาลอยู่บ่อยครั้ง นาวินสนใจน้ำตาลมากถึงกับขอเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งหญิงสาวก็ให้ไปตามมารยาท
เมื่อถึงเวลาที่งานเลี้ยงเลิกรา ภายหลังเสร็จจากส่งเพื่อนรักทั้งสองคนกลับบ้าน มาร์เซโล่เดินกลับมานั่งดื่มต่ออีกครู่สั้นๆ เขาเริ่มแสดงอาการพาลกับน้องเมียอย่างเห็นได้ชัดเมื่ออยู่กันสองต่อสอง
“ตาลขอตัวไปนอนก่อนนะคะ”
หญิงสาวกล่าวเมื่อเห็นว่าตอนนั้นเป็นเวลาดึกมากแล้ว อีกทั้งน้ำค้างก็แรงขึ้นเรื่อยๆ
“ไม่ให้ไปไหนทั้งนั้น... มานั่งชงเหล้าให้พี่ก่อน”
ดวงตาของมาร์เซโล่แดงก่ำ น้ำตาลรู้สึกหวาดๆ เขาทำราวกับว่าโกรธเคืองหล่อนนักหนา
“พี่มาร์คดื่มมากแล้วนะคะ”
น้ำตาลสังเกตเห็นว่าพี่เขยเริ่มเมา แต่หล่อนก็ไม่กล้าขัด จำต้องชงเหล้าให้มาร์เซโล่ตามที่เขาสั่ง
“ถามอะไรหน่อย”
“คะ... ”
“ชอบไอ้วินเพื่อนพี่ใช่ไหม?”
จู่ๆ เจ้าของบ้านก็เอ่ยออกมา
“ทำไมพี่มาร์คถามแบบนี้คะ... ตาลกับพี่วินก็คุยกันตามปกตินี่คะ ไม่ได้แสดงทีท่าอะไรที่เกินเลยจนน่าเกลียด”
น้ำตาลกล่าว
“ทำไมต้องให้เบอร์โทรมันด้วย”
เสียงของพี่เขยบอกให้รู้ว่าโกรธ
“ก็พี่วินเค้าขอนี่คะ... คงน่าเกลียดถ้าตาลปฏิเสธไม่ยอมให้”
น้ำตาลรู้ดีว่าหล่อนทำไปตามมารยาท
“แรดนะเรา”
มือของเขากำแก้วเหล้าเอาไว้แน่น สายตาจ้องหน้าหล่อนอย่างคาดโทษ
“พี่มาร์คหยาบคาย”
หล่อนเม้มปากใส่เขา
“ก็จริงนี่นา... ทำตัวง่าย... ใจง่ายแบบนี้แสดงว่าถ้ามันขอเอา... ตาลก็ยอมให้มันเอาใช่ไหม”
มาร์เซโล่ระเบิดอารมณ์ออกมาด้วยความลืมตัว เขาเพิ่งรู้ว่าหึงหวงน้องเมียก็ตอนนี้
“พี่มาร์คหยาบคายสุดๆ”
หญิงสาวจ้องหน้าพี่เขยด้วยสายตาผิดหวัง หล่อนไม่คิดว่าจะได้เห็นคำพูดแบบนี้หลุดออกมาจากปากของมาร์เซโล่ที่วางตัวเป็นผู้ใหญ่น่าเคารพนับถือมาโดยตลอด
“พี่... พี่ขอโทษ”
เจ้าของบ้านสูดหายใจแรง น้ำตาลรู้ว่าเขาพยายามระงับอารมณ์
“ไม่เป็นไร... ตาลจะคิดว่าพี่มาร์คเมา”
“พี่... ”
ไม่ทันที่พี่เขยจะกล่าวอะไรออกมา น้องเมียก็ชิงแทรกขึ้นเสียก่อน
“ดึกแล้ว... ตาลขอตัวไปนอนนะคะ”
โดยไม่รอให้มาร์เซโล่อนุญาต หญิงสาวรีบเดินหนีออกมาเสียก่อน ปล่อยให้พี่เขยทอดสายตามองตามเรือนร่างอวบอัดรัดรึงด้วยความรู้สึกผิดที่เผลอแสดงอารมณ์หึงหวงออกมาอย่างที่เห็น
มาร์เซโล่นั่งดื่มต่ออีกหลายแล้ว มือของเขาจับอยู่ที่แก้วเหล้าก็จริง ทว่าจิตใจกลับว้าวุ่นกระวนกระวายถึงแต่เรือนร่างอรชรและใบหน้าสะสวยของน้ำตาล... มาร์เซโล่ตั้งคำถามกับตัวเองซ้ำๆ ว่าอาการแบบนี้แสดงว่าเขากำลัง ‘หลงรักน้องเมีย’ ใช่ไหม?
“อุ๊ย... คุณมาร์ค ไหวมั้ยคะนั่น”
ปลายเท้าทั้งสองข้างของน้ำตาลรัดรอบเอวหนาของมาร์เซโล่เอาไว้แน่น ก่อนจะไปไขว้กันอยู่หลังบั้นท้ายของเขา“แน่ใจนะคะว่าจะไม่กลับไปทำที่บ้าน”แม้น้ำตาลรู้อยู่เต็มอกว่าสามีจอมหื่นคนนี้ไม่ยอมหยุดแน่ๆ แต่ที่ต้องถามก็เป็นเพราะว่าอดเป็นกังวลไม่ได้กับประสบการณ์เอาท์ดอร์สุดหยิวที่สามีพยายามชักชวนให้ออกมาเปลี่ยนบรรยากาศจนได้“แน่ใจที่สุด... พี่อยากทำตรงนี้ กลางแจ้งแบบนี้แหละดี เพราะมันทำให้พี่สามารถเห็นใบหน้าของตาลได้ชัดเจน... ตาลคงไม่รู้หรอกว่าพี่ชอบมองดูเวลาตาลทำหน้าเสียวจัดเพราะมีความสุข... อ่าห์ กดลงมา... เข้าแล้ว”มาร์เซโล่บรรยายถึงความรู้สึกที่รับรู้อยู่ใต้น้ำ“อูย... แน่นมากค่ะ”ดวงตาของน้ำตาลหรี่ปรือไปชั่วขณะ ใบหน้าบิดเบ้เหยเก พยายามกดกลีบเนื้อให้กลืนกินดุ้นเอ็นอวบใหญ่ของสามีที่กำลังกระถดกระถอกเข้ามาสอดใส่จนสามารถเบียดกลีบเนื้อหนึบแน่นเข้ามาล้ำลึกสุดโคนพวงสวรรค์“อูย... เสียวเหลือเกินเมียจ๋า”สามีละล่ำละลักออกมาพร้อมกับฝังใบหน้าจูบไซ้เต้านมอวบอัดอย่างไม่รั้งรอ“อ๊าห์... ตาลเสียวหัวนมสุดๆ เลยค่ะพี่มาร์ค ดูดแรงๆ ค่ะ... ”ภรรยาบอกพลางกดศีรษะของเขาลงมาเกลือกไซ้สองเต้าเต่งตึง การที่โดนจู่โจมจุดส
เนื้อของเขายังเสียบคาอยู่ในรูเนื้อคับแน่นของหล่อนราวกับว่าชีวิตนี้จะไม่ยอมแยกออกจากกันอีกสองวันต่อมา“ฝากป้านวลดูลูกๆ ผมด้วยนะครับ”มาร์เซโล่สั่งป้านวลในตอนใกล้ค่ำของวันหนึ่ง“ได้สิคะ... ว่าแต่คุณมาร์คจะไปไหนคะ”ป้านวลอดสงสัยไม่ได้ ตอนนั้นเด็กๆ กำลังหลับอยู่บนห้องนอน“ผมจะพาตาลไปเล่นน้ำที่สระท้ายไร่กาแฟครับ”“เล่นน้ำ... ทำไมไม่เล่นในสระว่ายน้ำล่ะคะ”ป้านวลสงสัย ทั้งที่ในบ้านก็มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่มาร์เซโล่สร้างเอาไว้ให้ลูกๆ“ผมอยากเปลี่ยนบรรยากาศ”เจ้าของไร่กาแฟตอบ เพียงเท่านั้นป้านวลก็รู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร“จะไปสวีทกันใช่ไหมคะ... คริคริ ป้ารู้นะ”ป้านวลหัวเราะเบาๆ“จะได้มีหลานเพิ่มมาอีกคน... ป้านวลไม่ชอบหรือ”“ชอบสิคะชอบ”คนรักเด็กรีบตอบ“ไปเล่นน้ำกันให้สนุกนะคะ... ทางนี้ป้าดูแลเอง”ป้านวลกล่าวยิ้มๆ ครู่ต่อมารถกระบะของมาร์เซโล่ก็วิ่งลับเข้าไปท่ามกลางไร่กาแฟเขียวขจี ใช้เวลาไม่นานสองสามีภรรยาก็พากันมาถึงบึงน้ำใสแจ๋ว ทอดยาวเป็นเวิ้งโอบเข้ามาถึงท้ายไร่“สวยจังค่ะพี่มาร์ค”หล่อนเอนศีรษะแนบซบอกอุ่นของสามี ในโมงยามที่กำลังรู้สึกว่าชีวิตมีความสุขที่สุด หญิงสาวบอกกับสามี ท่ามกลางกระแสลมที
สลับดูดดึงปุ่มกระสันอย่างเมามัน ยิ่งในตอนที่เขาสอดนิ้วกลางเข้ามาทิ่มทะลวงรัวๆ ในรูเนื้อ น้ำตาลก็ซ่านเสียวจนร้องครางแทบขาดใจ“อูย... ”ริมฝีปากของหล่อนห่อเป็นวงกลม ดวงตาหรี่ปรือมองภาพสะท้อนของตัวเองในกระจก เพราะนิ้วยาวของสามีที่ทิ่มทะลวงเข้ามาเป็นจังหวะ สลับกับการใช้ปลายลิ้นดูดเลียเสียงดังจั๊บๆ เมื่อนิ้วขยับออกมาปลายลิ้นก็แทรกลงมาแทนที่กันอย่างได้จังหวะ“พี่มาร์คเลียเก่งจัง”ลิ้นของเขาทำให้สะโพกของน้ำตาลบิดเร่า มาร์เซโล่ย่ามใจที่เห็นเมียรักเสียวซ่านทรมาน จึงแผ่ปลายลิ้นร้อนผ่าวตวัดรัวเข้ารัดเลียติ่งกระสัน ส่งผลให้ความเสียวซ่านแล่นร้าวไปทั้งร่างของคนที่คว่ำลำตัวแนบอยู่กับขอบอ่างล้างหน้า“มะ... ไม่ไหวแล้ว”น้ำตาลเกิดความต้องการจนทุรนทุราย ริมฝีปากที่กำลังดูดเลียไม่ยั้งทำให้สามีรู้ว่าโพรงสวาทของภรรยากำลังกระตุกเกร็ง ตอดรัด เรียกร้องหาความเป็นชายชาตรีของเขาที่พร้อมจะสอดใส่ให้อย่างล้ำลึกถึงอกถึงใจ“ทำตาลเถอะค่ะ... ผัวขา ทำเมียแรงๆ... ไวๆ ใส่ให้เมียลึกๆ นะคะที่รัก” น้ำตาลเสียวจนใบหน้าบูดเบี้ยว สองมือเกาะเกร็งขอบอ่างล้างหน้าเอาไว้แน่น แอ่นบั้นท้ายรับปลายลิ้นของสามีที่สอดชำแรกเข้ามาดู
น้ำตาลถามด้วยสีหน้าเขินๆ เมื่อเหลียวกลับมามองแล้วพบว่าสายตาหื่นกระหายของสามีกำลังจับจ้องอยู่ที่บั้นท้ายของหล่อน“ก็มองบั้นท้ายสุดเซ็กซี่ของเมียพี่น่ะสิจ๊ะ... ”มาร์เซโล่ตอบไม่อ้อม“ว้าย... มองทำไมคะ... ทำเหมือนไม่เคยเห็น”น้ำตาลทั้งขำทั้งเขินไปพร้อมๆ กัน เขาทำราวกับว่าไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งที่ได้เชยชมหล่อนมานานถึงสามปี จะกล่าวได้ว่าทุกซอกทุกมุมในร่างกายของหล่อนมาร์เซโล่สำรวจมาหมดแล้วก็ว่าได้“อยู่กันมาสามปีแล้ว... ยังไม่เบื่อตาลอีกหรือคะ”“ไม่เบื่อจ้ะ... ยิ่งนานยิ่งรัก”ได้ทีเขารีบหวานใส่“มองก้นอยู่นั่นแหละ”หล่อนอาย“ไม่ให้มองก้น... งั้นมองนมก็ได้... ช่วงนี้นมตาลทั้งอวบทั้งใหญ่ น่าดูดสุดๆ”เขาแกะกระดุมเสื้อของหล่อน จัดการถอดเสื้อให้เรียบร้อย รีบครอบริมฝีปากดูดเลียเต้านมแม่ลูกอ่อน“อู้ว... ”น้ำตาลหลุบตาลงมองน้ำนมสีขาวของหล่อนที่โดนดูดแรงจนทะลักออกมาเปียกเปรอะริมฝีปากของสามี เพราะช่วงนี้ร่างกายอยู่ในภาวะของแม่ลูกอ่อนพอดี เต้านมจึงอวบคัดพอเลี้ยงทั้งลูกและสามีให้อิ่มหนำ“พอเถอะ... นมแฉะหมดแล้ว”หล่อนร้องห้าม มาร์เซโล่ละมือจากเต้านมที่รวบดูดอย่างเอร็ดอร่อย ค่อยๆ ลูบไล้ลงมาขยำสะโพกของภรรย
ไม่ได้ สุดท้ายปาร์ตี้มั่วเซ็กก็ดำเนินต่อไปตามเดิมราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่นานเสียงครวญครางจากการร่วมเพศเร่าร้อนก็ดังลั่นขึ้นมาอีกครั้ง ภายในห้องจึงเต็มไปด้วยภาพของหนุ่มสาวที่จับคู่เสพสังวาสกันอย่างเอาเป็นเอาตาย บ้างร่วมเพศจนอ่อนล้าหมดแรงไปกับฤทธิ์ยาก็คลานขึ้นมาจากพื้น ขึ้นมานั่งพี้ยากันต่อ บ้างก็ดูดบารากุ พ่นควันสีขาวพวยพุ่งไปทั่วห้องซึ่งระงมไปด้วยเสียงร้องครวญครางของหนุ่สาวที่พาตัวเองไปสู่สรวงสวรรค์ชั้นฟ้าเพราะถูกมอมเมาด้วยฤทธิ์ของยาและเซ็กส์สับปาด์ต่อมางานแต่งระหว่างมาร์เซโล่กับจันทร์เจิดถูกล้มเลิกไปในที่สุด ภายหลังหายจากเมายาหล่อนก็โทรมาขอโทษเขาด้วยเกิดความรู้สึกอับอายในสิ่งที่ได้กระทำลงไป ซึ่งมาร์เซโล่ก็ให้อภัย เพราะไม่อยากให้มีอะไรติดค้างต่อกันมาร์เซโล่รู้ว่าถ้ายังฝืนแต่งงานกันเพราะเหตุผลทางธุรกิจ... ก็ทำนายได้ไม่ยากว่าสุดท้ายคงต้องจบชีวิตคู่ด้วยการหย่าร้างอย่างแน่นอน และจันทร์เจิดเองก็ละอายเกินกว่าจะกลับมาเป็นเหมือนเก่ามาร์เซโล่ตัดสินใจขายหุ้นของบริษัทให้กับบิดาของจันทร์เจิดเป็นผู้บริหารต่อไป ส่วนตัวเขาตัดสินใจแต่งงานกับน้ำตาลแล้วพาหล่อนมาใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางไร่กาแฟที่เ
“เอางั้นนะ”มาร์เซโล่ไม่ขัด“ค่ะ... เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ... บาย”พูดคุยกันไม่กี่คำ จันทร์เจิดก็ตัดสายไปก่อน ตอนคุยกันมาร์เซโล่ได้ยินเสียงเพลงแดนซ์ดังกระหึ่มเข้ามาในสาย คงไม่ต้องสงสัยว่าจันทร์เจิดกับเพื่อนๆ ของหล่อนกำลังสนุกสนานกันสุดเหวี่ยง ความรู้สึกผิดที่แอบลักขโมยกินของรักของคนอื่นทำให้น้ำตาลพยายามขืนกายออกมาจากอ้อมกอดของมาร์เซโล่ หลังจากซบซุกอยู่ในอ้อมอกซึ่งรกไปด้วยเส้นขนของเขาอยู่นานเป็นครู่“เป็นอะไรไปอีกล่ะ”มาร์เซโล่รู้ว่าน้ำตาลคงรู้สึกไม่ดี กับการที่ต้องซุกกายอยู่ในอ้อมกอดของเขาซึ่งกำลังคุยกับว่าที่ภรรยา“ถามก็ไม่ตอบ... เป็นอะไร”เสียงของพี่เขยเข้มขึ้น เมื่อเห็นว่าหล่อนนิ่งเงียบ“ตาล... พี่ถามไม่ได้ยินหรือไงว่าเป็นอะไร?”“เป็นตัวสำรอง... เป็นนางบำเรอ... และต่อไปก็คงเป็นเมียน้อย... นี่แหละสิ่งที่ตาลเป็นอยู่ในตอนนี้”น้ำตาลประชด หล่อนสะบัดหน้ากลับมาตอบ สิ่งที่ได้ยินทำให้มาร์เซโล่นิ่งอึ้ง เพราะว่าหล่อนไม่ได้พูดอะไรเกินไปกว่าความจริงที่เป็นอยู่“อย่าบอกนะว่าจะกลับ”เขาถามเมื่อเห็นหญิงสาวทำหน้ากระเง้ากระงอด ก้าวลงจากเตียงไปคว้าผ้าขนหนูขึ้นมากระโจมอก ก้มเก็บเสื้อผ้าที่กองอยู่กับพื้นแ