LOGINน้ำตาลพยายามให้สติพี่เขย หล่อนรู้ว่าตลอดระยะเวลาสามเดียวหลังจากพี่สาวของหล่อนจากเขาไป มาร์เซโล่ก็เอาแต่เศร้าโศกเสียใจ บางวันก็ซึมเศร้าแทบไม่เป็นอันกินอันนอน “ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ที่เป็นคนซื้อรถใหม่ให้... พี่สาวเธอก็คงไม่ตาย” เสียงของมาร์เซโล่ขมขื่นจนคนเป็นน้องเมียรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่ฝังแน่นอยู่ภายในใจเขา พี่เขยคนนี้เอาแต่ลงโทษตัวเองว่าเป็นคนทำให้ ‘น้ำผึ้ง’ ซึ่งเป็นภรรยาสุดที่รักของเขาและยังเป็นพี่สาวร่วมสายโลหิตของหล่อนต้องมาจบชีวิตเพราะอุบัติเหตุที่ไม่มีใครคาดคิด “มันเป็นอุบัติเหตุนะคะพี่มาร์ค”
View Moreนิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้น
ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล
และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนา
อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ
ขณะที่หญิงสาวนำลังจะหลับตา หลังจากทิ้งร่างบอบบางลงนอนบนเตียงนอนได้เพียงครู่สั้นๆ เสียงคล้ายกระจกแตกกระจายหรือคนกำลังทุบตีขว้างปาข้าวของอะไรสักอย่างก็ดังลั่นออกจากห้องนอนของผู้เป็นเจ้าของบ้านที่อยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าว ทำให้คนเป็นน้องเมียซึ่งกำลังนอนอยู่ในห้องข้างๆ ต้องสะดุ้ง รีบลุกขึ้นจากเตียงตอน แล้วก้าวยาวๆ ออกมาจากห้องด้วยความตกใจ
“พี่มาร์ค”
หญิงสาวเคาะประตู ทว่าเมื่อคนข้างในไม่เปิดรับหล่อนจึงตัดสินใจผลักบานประตูเข้ามาได้ง่ายๆ เพราะว่าเจ้าของห้องไม่ได้ล็อคประตูเอาไว้
สภาพที่เห็นทำให้หล่อนตกใจมาก โลหิตสีแดงฉานอาบอยู่ที่หลังมือของมาร์เซโล่ ร่องรอยแตกร้าวเป็นวงกว้างของบานกระจกข้างผนังใกล้กับตู้เสื้อผ้าเป็นหลักฐานยืนยันได้เป็นอย่างดีว่ามาร์เซโล่ใช้กำปั้นชกกระจกจนเลือดแดงอาบหลังมืออย่างที่เห็น
“หยุดนะพี่มาร์ค”
หญิงสาวปรี่เข้าไปรั้งแขนของพี่เขยเอาไว้ เมื่อเห็นว่าเขาทำท่าว่าจะตะบันกำปั้นเข้าใส่กระจกอีกครั้ง ปกติหล่อนและผู้คนในบ้านเรียกชื่อมาเซร์โล่สั้นๆ ว่า ‘มาร์ค’ จนติดปาก
“ปล่อย... อย่ามายุ่งกับพี่”
เจ้าของบ้านพยายามสะบัดแขนข้างที่ถูกมือเรียวกอดเอาไว้แน่น เพื่อจะหยุดเขาน้ำตาลต้องใช้ทั้งตัวกอดแขนของมาร์เซโล่ เขาคงไม่รู้ว่าหล่อนต้องใช้เรี่ยวแรงทั้งตัวเพื่อจะรั้งแขนกำยำของเขาไว้ได้ เพราะว่ามาร์เซโล่เป็นหนุ่มลูกครึ่งที่ตัวใหญ่ยักษ์เหลือเกิน เมื่อเทียบกับสาวไทยรูปร่างบอบบางอย่างหล่อน
“จะทำร้ายตัวเองทำไมคะพี่มาร์ค... หยุดเถอะนะคะน้ำตาลขอร้อง”
น้ำตาลพยายามให้สติพี่เขย หล่อนรู้ว่าตลอดระยะเวลาสามเดียวหลังจากพี่สาวของหล่อนจากเขาไป มาร์เซโล่ก็เอาแต่เศร้าโศกเสียใจ บางวันก็ซึมเศร้าแทบไม่เป็นอันกินอันนอน
“ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ที่เป็นคนซื้อรถใหม่ให้... พี่สาวเธอก็คงไม่ตาย”
เสียงของมาร์เซโล่ขมขื่นจนคนเป็นน้องเมียรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่ฝังแน่นอยู่ภายในใจเขา
พี่เขยคนนี้เอาแต่ลงโทษตัวเองว่าเป็นคนทำให้ ‘น้ำผึ้ง’ ซึ่งเป็นภรรยาสุดที่รักของเขาและยังเป็นพี่สาวร่วมสายโลหิตของหล่อนต้องมาจบชีวิตเพราะอุบัติเหตุที่ไม่มีใครคาดคิด
“มันเป็นอุบัติเหตุนะคะพี่มาร์ค”
เมื่อเห็นว่าจะรั้งไม่อยู่ วงแขนน้อยๆ ของน้ำตาลจึงกอดร่างของเขาเอาไว้แน่น
หล่อนร้องไห้ พี่เขยก็ร้องไห้ สุดท้ายมาร์เซโล่ก็กอดร่างของน้ำตาลเอาไว้แน่นไม่ต่างกัน แนบแน่นจนหญิงสาวรับรู้ได้ถึความอบอุ่นที่แผ่ลามออกมาจากเนื้อตัวกำยำของเขา กลิ่นสุราที่คละเคล้ากลิ่นกายของพี่เขยทำให้หัวใจของน้ำตาลเต้นแรง
กระทั่งเมื่อสติคืนกลับมา สำนึกในความเหมาะสมระหว่างความเป็น ‘พี่เขย’ กับ ‘น้องเมีย’ ซึ่งเป็น ‘ผู้หญิง’ กับ ‘ผู้ชาย’ ทำให้น้ำตาลเป็นฝ่ายขืนกายออกมาจากอ้อมอกของพี่เขยด้วยท่าทางเกร็งๆ
“ตาลจะทำแผลให้พี่มาร์คนะคะ”
หล่อนบอกพลางจูงมือพี่เขยให้มาทรุดร่างสูงใหญ่ลงนั่งบนโซฟาที่ตั้งอยู่กลางห้อง
มาร์เซโล่จ้องมองเรือนร่างบอบบางในชุดนอนผ้าซาตินลายลูกไม้พลิ้วบางที่ก้าวออกไปจากห้องโดยไม่สนใจโลหิตสีแดงที่ยังไหลซึมออกมาจากหลังมือ
เพียงอึดใจสั้นๆ น้ำตาลก็เดินกลับเข้ามาในห้องพร้อมกับผ้าพันแผลและยาล้างแผล
“ตาลจะทำแผลให้ค่ะ”
น้องเมียกล่าวพลางทรุดร่างลงนั่งหมิ่นๆ ที่ขอบโซฟา ร่างสูงใหญ่ที่นอนเหยียดยาวยื่นแขนออกมาให้หญิงสาวจัดการล้างแผลโดยไม่รู้สึกเจ็บแสบแต่อย่างใด
ท่าทางของมาร์เซโล่ในเวลานี้ดูราวกับคนไร้ความรู้สึก ด้วงตากระด้างไม่ยี่หระต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลที่หลังมือเลยสักนิด เพราะเขารู้ดีว่ามันน้อยนิดเหลือเกิน... เมื่อเทียบกับความ ‘เจ็บในใจ’ ที่ต้องสูญเสียภรรยาสุดที่รักให้กับอุบัติเหตุซึ่งไม่มีใครคาดฝัน
“พี่มาร์คอยู่นิ่งๆ นะคะ”
น้ำตาลเหลือบมองหน้าพี่เขยแวบหนึ่ง หลังจากใส่ยาที่หลังมือแล้วพันด้วยผ้าพันแผล ใบหน้าของมาร์เซโล่ยังนิ่งงันเหมือนคนไร้ความรู้สึก กระทั่งเสียงของน้องเมียดังขึ้นมาอีกครั้ง
“ดีที่แผลไม่ลึกค่ะ”
น้ำตาลบอกขณะสายตาจับจ้องอยู่กับผ้าพันแผล มือเรียวค่อยๆ บรรจงพันผ้าอีกครั้งจนรอบหลังมือของมาร์เซโล่อย่างตั้งอกตั้งใจ
“เสร็จแล้วค่ะ”
น้ำตาลเหลือบมองหน้าพี่เขย ตอนนั้นจึงได้รู้ว่าสายตาแข็งกระด้างของมาร์เซโล่ดูอ่อนโยนลงมาก เขากำลังจ้องมองเรือนร่างของหล่อนด้วยความลืมตัว
ปลายเท้าทั้งสองข้างของน้ำตาลรัดรอบเอวหนาของมาร์เซโล่เอาไว้แน่น ก่อนจะไปไขว้กันอยู่หลังบั้นท้ายของเขา“แน่ใจนะคะว่าจะไม่กลับไปทำที่บ้าน”แม้น้ำตาลรู้อยู่เต็มอกว่าสามีจอมหื่นคนนี้ไม่ยอมหยุดแน่ๆ แต่ที่ต้องถามก็เป็นเพราะว่าอดเป็นกังวลไม่ได้กับประสบการณ์เอาท์ดอร์สุดหยิวที่สามีพยายามชักชวนให้ออกมาเปลี่ยนบรรยากาศจนได้“แน่ใจที่สุด... พี่อยากทำตรงนี้ กลางแจ้งแบบนี้แหละดี เพราะมันทำให้พี่สามารถเห็นใบหน้าของตาลได้ชัดเจน... ตาลคงไม่รู้หรอกว่าพี่ชอบมองดูเวลาตาลทำหน้าเสียวจัดเพราะมีความสุข... อ่าห์ กดลงมา... เข้าแล้ว”มาร์เซโล่บรรยายถึงความรู้สึกที่รับรู้อยู่ใต้น้ำ“อูย... แน่นมากค่ะ”ดวงตาของน้ำตาลหรี่ปรือไปชั่วขณะ ใบหน้าบิดเบ้เหยเก พยายามกดกลีบเนื้อให้กลืนกินดุ้นเอ็นอวบใหญ่ของสามีที่กำลังกระถดกระถอกเข้ามาสอดใส่จนสามารถเบียดกลีบเนื้อหนึบแน่นเข้ามาล้ำลึกสุดโคนพวงสวรรค์“อูย... เสียวเหลือเกินเมียจ๋า”สามีละล่ำละลักออกมาพร้อมกับฝังใบหน้าจูบไซ้เต้านมอวบอัดอย่างไม่รั้งรอ“อ๊าห์... ตาลเสียวหัวนมสุดๆ เลยค่ะพี่มาร์ค ดูดแรงๆ ค่ะ... ”ภรรยาบอกพลางกดศีรษะของเขาลงมาเกลือกไซ้สองเต้าเต่งตึง การที่โดนจู่โจมจุดส
เนื้อของเขายังเสียบคาอยู่ในรูเนื้อคับแน่นของหล่อนราวกับว่าชีวิตนี้จะไม่ยอมแยกออกจากกันอีกสองวันต่อมา“ฝากป้านวลดูลูกๆ ผมด้วยนะครับ”มาร์เซโล่สั่งป้านวลในตอนใกล้ค่ำของวันหนึ่ง“ได้สิคะ... ว่าแต่คุณมาร์คจะไปไหนคะ”ป้านวลอดสงสัยไม่ได้ ตอนนั้นเด็กๆ กำลังหลับอยู่บนห้องนอน“ผมจะพาตาลไปเล่นน้ำที่สระท้ายไร่กาแฟครับ”“เล่นน้ำ... ทำไมไม่เล่นในสระว่ายน้ำล่ะคะ”ป้านวลสงสัย ทั้งที่ในบ้านก็มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่มาร์เซโล่สร้างเอาไว้ให้ลูกๆ“ผมอยากเปลี่ยนบรรยากาศ”เจ้าของไร่กาแฟตอบ เพียงเท่านั้นป้านวลก็รู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร“จะไปสวีทกันใช่ไหมคะ... คริคริ ป้ารู้นะ”ป้านวลหัวเราะเบาๆ“จะได้มีหลานเพิ่มมาอีกคน... ป้านวลไม่ชอบหรือ”“ชอบสิคะชอบ”คนรักเด็กรีบตอบ“ไปเล่นน้ำกันให้สนุกนะคะ... ทางนี้ป้าดูแลเอง”ป้านวลกล่าวยิ้มๆ ครู่ต่อมารถกระบะของมาร์เซโล่ก็วิ่งลับเข้าไปท่ามกลางไร่กาแฟเขียวขจี ใช้เวลาไม่นานสองสามีภรรยาก็พากันมาถึงบึงน้ำใสแจ๋ว ทอดยาวเป็นเวิ้งโอบเข้ามาถึงท้ายไร่“สวยจังค่ะพี่มาร์ค”หล่อนเอนศีรษะแนบซบอกอุ่นของสามี ในโมงยามที่กำลังรู้สึกว่าชีวิตมีความสุขที่สุด หญิงสาวบอกกับสามี ท่ามกลางกระแสลมที
สลับดูดดึงปุ่มกระสันอย่างเมามัน ยิ่งในตอนที่เขาสอดนิ้วกลางเข้ามาทิ่มทะลวงรัวๆ ในรูเนื้อ น้ำตาลก็ซ่านเสียวจนร้องครางแทบขาดใจ“อูย... ”ริมฝีปากของหล่อนห่อเป็นวงกลม ดวงตาหรี่ปรือมองภาพสะท้อนของตัวเองในกระจก เพราะนิ้วยาวของสามีที่ทิ่มทะลวงเข้ามาเป็นจังหวะ สลับกับการใช้ปลายลิ้นดูดเลียเสียงดังจั๊บๆ เมื่อนิ้วขยับออกมาปลายลิ้นก็แทรกลงมาแทนที่กันอย่างได้จังหวะ“พี่มาร์คเลียเก่งจัง”ลิ้นของเขาทำให้สะโพกของน้ำตาลบิดเร่า มาร์เซโล่ย่ามใจที่เห็นเมียรักเสียวซ่านทรมาน จึงแผ่ปลายลิ้นร้อนผ่าวตวัดรัวเข้ารัดเลียติ่งกระสัน ส่งผลให้ความเสียวซ่านแล่นร้าวไปทั้งร่างของคนที่คว่ำลำตัวแนบอยู่กับขอบอ่างล้างหน้า“มะ... ไม่ไหวแล้ว”น้ำตาลเกิดความต้องการจนทุรนทุราย ริมฝีปากที่กำลังดูดเลียไม่ยั้งทำให้สามีรู้ว่าโพรงสวาทของภรรยากำลังกระตุกเกร็ง ตอดรัด เรียกร้องหาความเป็นชายชาตรีของเขาที่พร้อมจะสอดใส่ให้อย่างล้ำลึกถึงอกถึงใจ“ทำตาลเถอะค่ะ... ผัวขา ทำเมียแรงๆ... ไวๆ ใส่ให้เมียลึกๆ นะคะที่รัก” น้ำตาลเสียวจนใบหน้าบูดเบี้ยว สองมือเกาะเกร็งขอบอ่างล้างหน้าเอาไว้แน่น แอ่นบั้นท้ายรับปลายลิ้นของสามีที่สอดชำแรกเข้ามาดู
น้ำตาลถามด้วยสีหน้าเขินๆ เมื่อเหลียวกลับมามองแล้วพบว่าสายตาหื่นกระหายของสามีกำลังจับจ้องอยู่ที่บั้นท้ายของหล่อน“ก็มองบั้นท้ายสุดเซ็กซี่ของเมียพี่น่ะสิจ๊ะ... ”มาร์เซโล่ตอบไม่อ้อม“ว้าย... มองทำไมคะ... ทำเหมือนไม่เคยเห็น”น้ำตาลทั้งขำทั้งเขินไปพร้อมๆ กัน เขาทำราวกับว่าไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งที่ได้เชยชมหล่อนมานานถึงสามปี จะกล่าวได้ว่าทุกซอกทุกมุมในร่างกายของหล่อนมาร์เซโล่สำรวจมาหมดแล้วก็ว่าได้“อยู่กันมาสามปีแล้ว... ยังไม่เบื่อตาลอีกหรือคะ”“ไม่เบื่อจ้ะ... ยิ่งนานยิ่งรัก”ได้ทีเขารีบหวานใส่“มองก้นอยู่นั่นแหละ”หล่อนอาย“ไม่ให้มองก้น... งั้นมองนมก็ได้... ช่วงนี้นมตาลทั้งอวบทั้งใหญ่ น่าดูดสุดๆ”เขาแกะกระดุมเสื้อของหล่อน จัดการถอดเสื้อให้เรียบร้อย รีบครอบริมฝีปากดูดเลียเต้านมแม่ลูกอ่อน“อู้ว... ”น้ำตาลหลุบตาลงมองน้ำนมสีขาวของหล่อนที่โดนดูดแรงจนทะลักออกมาเปียกเปรอะริมฝีปากของสามี เพราะช่วงนี้ร่างกายอยู่ในภาวะของแม่ลูกอ่อนพอดี เต้านมจึงอวบคัดพอเลี้ยงทั้งลูกและสามีให้อิ่มหนำ“พอเถอะ... นมแฉะหมดแล้ว”หล่อนร้องห้าม มาร์เซโล่ละมือจากเต้านมที่รวบดูดอย่างเอร็ดอร่อย ค่อยๆ ลูบไล้ลงมาขยำสะโพกของภรรย
reviews