Share

อยากเจอพ่อแม่

last update Terakhir Diperbarui: 2025-11-24 20:40:15

(วัน) หลายปีผ่านไปครอบครัวของผมใหญ่ขึ้นเพราะน้องๆ โตขึ้นเรียนชั้นสูงขึ้นแยกย้ายกันเรียนในสายที่ชอบแต่ไม่ไกลบ้านนัก ผมอยู่คอนโดลำพัง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ลำพังเสียทีเดียว ก็คุณแมนไปอ้อนคุณยายให้ซื้ออีกห้องชั้นล่างสุดน่ะสิไม่รู้มีแผนอะไรชอบไปตีสนิทกับยามและแม่บ้าน ก็คงเล่นเป็นสายลับเหมือนเดิม

เกิดเป็นลูกคนอย่างพ่อกับแม่ไม่ง่ายเลยนะเหมือนเป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกัน หลายครั้งก็อยากจะดุด่าให้สำนึกจริงจังสักทีว่าทำไมไม่ใช้ชีวิตให้ดีกว่านี้ แต่พอโตขึ้นก็นึกขอบคุณที่เขาไม่ตามกระแสยังคงความเป็นตัวของตัวเองแบบมนุษย์ที่มีความแตกต่างได้แทบจะร้อยเปอร์เซ็น

ที่รู้สึกแบบนั้นเพราะส่วนหนึ่งเห็นครอบครัวคนรักอย่างดีกันเคร่งครัดกับการใช้ชีวิตมากไปหน่อย ยามอยู่ห่างกันคนตัวโตทำท่าจะเป็นจะตายเพราะงานที่บ้านชวนให้อึดอัด พอกลับมาเจอก็อ้อนอยากกอดตลอดเวลาเหมือนเด็กๆ

ทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นบ้านให้ดีกันคอยพักพิงไปเสียแล้ว

“เหนื่อยจังไม่อยากทำงานแล้ว”

คนตัวสูงรูดเนคไทออกจากลำคอแกร่ง นักบาสคนเก่งกลายร่างเป็นนนักธุรกิจหนุ่มขึ้นทุกวัน ใกล้เรียนจบมหาวิทยาลัยเพื่อนคนอื่นมีแพลนเรียนต่อต่างประเทศเริ่มธุรกิจอย่างที่อยากทำ บางคนแพลนเที่ยวเรื่องๆ บางคนอยากพักเรียนสักปี บางคนก็ต้องสืบทอดธุรกิจของที่บ้านไม่ต่างจากผมและดีกันที่ต้องหอบงานมาทำที่คอนโดกันแล้ว

“มันหนักมากเลยเหรองานขายของแบรนด์เนม”

ผมถามคนรักตัวสูงอายุย่างเข้ายี่สิบสองแล้วแต่ดีกันดูโตกว่าวัยมากไม่ต่างจากนักธุรกิจหนุ่มวัยใกล้สามสิบก็ทรงผมเซ็ตเปิดหน้าผากปาดเรียบแข็งโป๊กกับนาฬิกาเรือนหรูราคาแพงไหนจะชุดสูทที่ต้องสวมบ่ออยพอเข้างานสังคมบ่อยกว่าสวมชุดนักศึกษาเสียอีก ต่างจากผมที่บางครั้งก็สวมชุดพนักงานเซเว่นแทนพนักงานที่ไม่เพียงพอ พอเดินเข้าคอนโดมาด้วยกันจึงถูกมองด้วยสายตาแปลกๆ เสมอ อาจจะคิดว่าผมเป็นเด็กเลี้ยงของดีกันก็ได้ ทั้งที่งบดุลของเราต่างกันมาก

ของที่ขายยากอย่างของแบรนด์เนมหลายครั้งก็ขาดงบดุนจนต้องกระตุ้นยอดขายด้วยการใช้ดาราอินฟูลเอนเซอร์มาช่วยยิ่งทำให้ค่าใช้จ่ายมากขึ้นต่อให้ขายได้มากก็ต้องลงทุนกับสินค้าใหม่ไม่รู้จบ ส่วนธุรกิจกำไรไม่มากแต่ขายได้ตลอด 24 ชั่วโมงนั้นมันไม่เคยขาดทุนเลย

“วันก็เห็นเราต้องอับเดตของที่ใส่บนตัวตั้งแต่เจอกันเด็กจนกระทั่งตอนนี้ตามแฟชั่นใหม่ไม่ทันแล้ว อยากเป็นมนุษย์เงินเดือนตอกบัตรเข้างานจัง” คนตัวสูงเดินมาสวมกอดจากข้างหลังวางหน้าเรียวเกยลงบ่าแคบกดปลายจมูกโด่งข้างซอกคอเบาๆ

ที่ประจำของเขาเลยล่ะ

“หึหึ~ นี่คือความฝันที่แท้จริงสินะ” ผมนั่งตรวจบัญชีรายรับรายจ่ายที่โต๊ะทำงานหันไปลูบหน้าหล่อเหนื่อยล้าของคนรักเบาๆ เจ้าตัวยักษ์รัดท่อนแขนแน่นขึ้นยกร่างที่เล้กกว่าตัวเองขึ้นแล้วนั่งเก้าอี้แทนแต่จับผมนั่งตักอีกที

ผมคิดว่าเรารักกันมากพอ เราเข้าใจกันมาก เราเป็นคนรักที่อบอุ่นอ่อนโยนเหมาะสมทั้งการกระทำและคำพูดเพราะไม่เคยทะเลาะกันเลยตั้งแต่คบกันมา ไม่เคยใช้ความรุนแรงกันสักครั้งแม้แต่ตีกันเล่นๆ ยังไม่เคยทำ มันคือสิ่งที่ผมไฝ่ฝันชอบแบบนี้มาก ดีกันเองก็รู้ดีตั้งแต่จูบครั้งแรกผมก็มีอาการไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หลังจากนั้นเขาก็ไม่ทำอะไรที่เกินเลยหรือบุ่มบ่ามอีกเลย ความสัมพันที่ค่อยเป็นค่อยไปเรียบง่ายไม่หวือหวา เป็นความละเมียดละไมของความสัมพันไม่ใช่ความบังเอิญหรือพลั้งเผลอ เรารักกันด้วยความพร้อม ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรความสัมพันที่แน่นแฟ้นก็จะยังเป็นความกลมกล่อมไปอีกนาน

“นั่นสิพวกเรานี่มันไม่ต้องมีความฝันเป็นของตัวเองก็ได้สินะ แค่มีชีวิตสืบต่อจากพ่อแม่หน้าที่นี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแฮะ” ดีกันว่าแบบนั้นพลางยกมือขึ้นลูบผมสั้นชี้เด่กระจุกหนึ่งของผมให้เรียบลงเหมือนเส้นอื่น

“เราไม่ได้สืบทอดกิจการพ่อแม่นะ” ผมหันไปมองคิ้วหนาพลางนวดกลางหว่างคิ้วที่ขมวดเข้าหากันเล็กๆ เสมอ ชอบขมวดคิ้วก็เลยดูแก่ไง

“จริงสิวันสืบทอดกิจการปู่ย่าตายายนี่นา จริงด้วยเราไม่เคยเจอพ่อแม่ของวันเลยเจอแต่น้องๆ พ่อแม่ของวันไม่โอเคหรือเปล่าเนี่ย ไม่อยากให้เราคบกันหรือเปล่าเนี่ย~”

“พ่อแม่เราไม่ใช่คนซับซ้อนพวกเขาใช้ชีวิตอย่างที่อยากทำตลอด พ่อแม่เราเหมือนมนุษย์มากที่สุดแล้วมั้งเราเสียอีกที่เหมือนหุ่นยนต์มีตารางชีวิตมีระเบียบแบบแผน มีแต่ความคาดหวังว่าชีวิตจะต้องดีแบบคนอื่น แต่พวกเขา…ไม่ใช่แบบนั้น พวกเขาดูมีความสุขกับการมีลูกเล่นเกมส์ก่อกวนพ่อแม่ตัวเอง แม่อาจจะเรื่องเยอะหน่อยแต่แกไม่ใช่คนเคร่งครัดในชีวิตหรอก แม่เราเป็นคนที่ไม่มีแบบแผนมากที่สุดในโลกแล้วก็ไม่เหมือนใครมากที่สุดเลย แต่คนที่ทำให้เรากลัวคือคนแปลกอย่างแกนี่แหละ”

“อยากเจอจัง” คนรักตัวโตเอ่ยออกมาเสียงนุ่ม

ทั้งที่ไม่คิดว่าคุณชายแบรนด์เนมจะไม่อยากเจออะไรแบบนั้น คนที่เนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้ามาตั้งแต่เด็กจะอยากเจอคนประหลาดแบบแม่ไปทำไม แค่คิดยังไม่กล้า กลัวความประหลาดของแม่จะทำให้เขาไม่กล้ารักกัน กลัวมาตลอด

แล้วทำไม?…

“ยังทำใจไม่ได้เลย ”

“ถ้า…เราขอคุยเรื่องแต่งงาน ก็จะได้คุยใช่ไหม?”

“หา!”

“ก็คนมันรอมาตั้งนานแค่กอดจูบวันยังกลัวเลยเราเลยคิดว่าวันกลัวว่ามันจะฉาบฉวยเราใกล้เรียนจบแล้วงานที่ทำก็ตายตัวทั้งคู่ไม่มีอะไรที่ต้องทำมากกว่าแต่งงานมีลูกสร้างครอบครัววางแผนครอบครัวแล้วล่ะ วันว่างั้นไหม?”

“อ..อือ อืม”

“วันช่วยเกริ่นกับพ่อให้หน่อยนะ น้า~ เราจะได้แพลนวันบอกพ่อกับแม่เราด้วย”

“…อือ..ได้…ได้สิ”

.

.

แย่แล้ว

จะบอกพ่อกับแม่ยังไงละเนี่ย

โดยเฉพาะตัวแม่

รายนั้นจะเล่นใหญ่แค่ไหนนะ

กลัวดีกันจะเตลิดก็ตอนมาคุยเรื่องแต่งงานนี่แหละ

เฮ้อ!!

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • พ่อกะแม่หยุดดิ๊! หยุดทะเลาะกันสักที เลี้ยงน้องไม่ไหวแล้ว!(mp   ขอบคุณ

    "แมนทำหน้าดีๆ หน่อยลูกชายคนแรกของเรากำลังจะแต่งงานนะ"พ่อของลูกชายทั้งเจ็ดบีบแก้มคนหน้าบึ้งเบะปากมองชายหนุ่มร่างสูงในชุดเจ้าบ่าวลูบผมลูกชายด้วยท่าทางหมั่นไส้เต็มขั้น"แต่งได้ก็เลิกได้คิดว่าโรแมนติกมากมั้งถ่อมาไกลถึงทะเลลมก็แรงมีแต่กลิ่นเกลือใครมันเป็นคนเลือกสถาณที่เนี่ย สิ้นคิดชะมัด" แมนบ่นอุบสะบัดหน้าให้หลุดพ้นเงื้อมมือพ่อของลูก"พี่วันไงพี่วันชอบทะเล" ทูถือไอติมยื่นให้แม่กับพ่อพลางตอบคำถามตัวแม่ แมนหุบปากฉับย่นจมูกอย่างขัดใจแต่แอบเนียนงับไอศกรีมผัวเพราะอยากชิม"อ้าวไม่ใช่หมอนั่นเลือกเรอะ""เรียกลูกเขยให้มันเหมือนชาวบ้านหน่อย""เช๊อะ...ทะเลก็สวยดีดูพระอาทิตย์ตกดินนั่นสิ""เปลี่ยนสีเป็นกิ้งก่าเลยนะ" ดีว่าให้เมียตัวร้ายที่เดินไปสมทบกับปู่ย่าตายายเพื่อหาเหล้าฟรีดื่มแสงสุดท้ายของวันทอดตัวเหนือผิวน้ำ กลืนเข้ากับท้องฟ้าสีทองอ่อนจนแทบมองไม่ออกว่าทะเลเริ่มตรงที่ใดลมเย็นพัดผ่านกลิ่นเค็มจาง ๆ กับกลิ่นดอกลิลลี่ขาวที่ประดับเรียงรายตลอดทางเดิน ผืนผ้าสีงาช้างพลิ้วเบาอยู่เหนือพื้นทราย ทุกอย่างดูเรียบหรูมีรสนิยมบ่งบอกตัวตนความเป็นคนรวยของทั้งสองตระกูลได้เป็นอย่างดีเสียงคลื่นซัดเข้าหาฝั่งเป็นจังหวะ

  • พ่อกะแม่หยุดดิ๊! หยุดทะเลาะกันสักที เลี้ยงน้องไม่ไหวแล้ว!(mp   มึงรักกูมั้ยบ18+

    วันนี้ตัวแม่หมกมุ่นอย่างหนักกับคำว่ารักของลูกเขย เหมือนคนขี้อิจฉาผสมปนเปกับความไร้เดียงสาบวกกับความร้ายเดียงสาของแมนทำให้คนดีถามเมียขึ้น “มึงอายุเท่าไหร่นะไอ้แมน” “เอ่อ..น้องวันอายุเท่าไหร่น้า อ่าา..อื้มม?” เมียไม่เคยจำอะไรเกี่ยวกับตัวเลขได้ ไม่ว่าจะเลขอะไรยิ่งมีลูกเยอะก็จำวันเกิดสลับมั่วไปหมดแทบจะเป่าเค้กทุกเดือน “มึงแก่แล้ว” “เออแล้วไงตูดแก่ๆ จะมาเอาอะไรกับกู” “วุ่นวายไปหมดตั้งแต่เด็กยันแก่ กูไม่รู้ รักไหมไม่รู้แต่จะเอาถอดกางเกงเดี๋ยวนี้!” “เจ้าเซเว่นอายุเท่าไหร่นะ?” “ถามทำไมอี้กมึงเป็นโรคความจำเสื่อมเร๊อะ!” “ก็กูสงสัยไอ้เด็กนั่นมันพูดออกมาด้วยความรู้สึกแบบไหน มันรู้สึกยังไงตอนพูดออกมา มันพูดจริงไหมหรือโกหกเก่ง แต่น้องวันบอกว่ามันดี โอยปวดหัว” “ทีเรื่องตัวเองไม่เห็นมึงจะคิดอะไรท้อง..แพ้ท้อง..แม่ด่า..พ่อไม่คุยด้วยไม่เห็นมึงจะเป็นอะไร” “ลูกรักของข้า น้องวันของข้า มหาสมบัติของข้า” “มึงบ้าไปแล้วไอ้แมน” “มึงสิบ้ากามถอดกางเกงกู” “สาดน้ำใส่สักทีสองทีมึงก็กลับมาร่าเริงเหมือนคนบ้าได้แล้ว” “กูไม่มีแรงมึงตอกมาเลยกูรับบทคนโดนข่มขืนเอง” “เอาหมอนปิดหน้ามึงไว้ได้มั้ยไม่อยากฟังมึงบ่

  • พ่อกะแม่หยุดดิ๊! หยุดทะเลาะกันสักที เลี้ยงน้องไม่ไหวแล้ว!(mp   รักกูมั้ย

    ตึกดึกคืนนั้น เงาดำตะคุ่มๆ คืบคลานเข้ามายังหน้าห้องหนึ่งซึ่งปิดป้ายเตือนไว้ยาวเหยียด ห้องที่ชื่อ Daddy ฝรั่งจ๋ามาแต่ไกล บรรทัดต่อมาเตือนว่าให้เคาะห้องตามลำดับการเกิดพ่อจะได้รู้ว่าใครจะมาหาเรื่องอะไร คนที่รู้ว่าลูกแต่ละคนจะมีเรื่องคุยแบบไหนมาหาเพราะอะไรนี่มันช่างเป็นสุดยอดคุณพ่อเสียจริง แต่ร่างตรงหน้าประตูไม่ได้เคาะมันแต่อย่างใดกลับบิดเปิดเข้ามาแผ่วเบาคืบคลานขึ้นมาบนเตียงกว้างคลานคล่อมร่างกำยำไร้อาภรช่วงบนปกปิดอวดกล้ามเนื้อแน่นหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอ คุณพ่อเพียงหนึ่งเดียวในบ้านนอนหลับสนิทโดยไม่รู้เลยว่ามีภัยคุกคาามคืบคลานคล่อมร่างตนเองและจ้องเขม็งมายังวงหน้าหล่อเหลายามนิทรา สิ่งนั้นเปล่งเสียงท่ามกลางความมืดออกมาว่า! “ไอ้ดี” “..ว่า” ไม่ต้องลืมตาขึ้นมามองก็รู้ว่าใครที่เข้ามาห้องคนอื่นโดยพละการคลานขึ้นเตียงมาตัวขาวโพลน คนที่ไร้มารยาทที่สุดในบ้านและคาดหวังว่ามันจะดีไปกว่านี้ไม่ได้ อีเมียตัวดี “มึงรักกูมั้ย?” คำถามที่มาพร้อมความรู้สึกหยาบกร้านแสบสันไร้ความอ่อนโยนเหมือนกระดาษทรายเบอร์ 88 ทำเอาคนตัวโตขนลุกซู่จนต้องท้าวแขนผงกตัวขึ้นมาเปิดไฟหัวเตียงด้วยใบหน้านิ่งสนิทหรี่ตามองคนร่างควาย

  • พ่อกะแม่หยุดดิ๊! หยุดทะเลาะกันสักที เลี้ยงน้องไม่ไหวแล้ว!(mp   คุณแมน

    ตอนแนะนำตัวกับครอบครัววันครั้งแรก ดีกันคิดว่าคงเป็นแค่ทักทายธรรมดาแต่ไม่… มันคือการเจอกองทัพทั้งเจ็ด…อย่างกับสโนว์ไวท์แน่ะเขายืนหน้าประตูบ้าน ยิ้มสุภาพเหมือนคนดูมีมารยาท ทันใดนั้น ฝูงน้อง ๆ ก็กรูเข้ามาเหมือนเจอดารา“สวัสดีพี่ดีกัน!”“หวัดดีพี่ดีกัน!”“หวัดดีจ้าพี่ดี~!”“เฮลโหลวพี่กันดี เอ้ย ดีกัน!”“ไงพี่กัน!”“โย่วพี่ดีกัน!”เสียงทักดังรัวเหมือนยิงปืนกล“สวัสดีน้องๆ”ใช่ครับแฟนผมมีน้องพ่อแม่เดียวกันมากถึงหกคนรวมแฟนผมเป็นเจ็ดคน…เขากวาดตามองแถวเด็กที่ยืนเป็นระบบระเบียบกว่าทหารเกณฑ์ลูกดกขนาดนี้นี่คือบ้านหรือเครื่องถ่ายเอกสาร?“ลูกดกมาก…” ดีกันกระแอมห่างกันปี สองปี สามปี สูงไล่เลี่ยกันหมด…หน้าตาดีทั้งบ้าน เพราะพ่อแม่หน้าตาดีมากด้วย“ใครให้อินดีกว่านี้มั้ย…ตั้งใจปั๊มลูกอย่างมีระบบมากเลยนี่นา~”น้องซิกยกมือทันที “พ่อบอกว่าอยากครบสิบ!!”ดีกันช็อกจนแทบหยุดหายใจวันตบบ่าเขาเบา ๆดีกันหันมองคนข้างตัวช้า ๆ“…วันอยากมีลูกกับฉันแบบนี้ไหม”วันชะงักเแต่น้องๆ หัวเราะกร๊าก"อยู่บ้านกันหมดเลยเหรอ" ดีกันกวาดตามองรอบบ้านใหญ่ที่เต็มไปด้วยรองเท้ากองหน้าประตู เหมือนทุกคนในจังหวัดนัดกันมาที่นี่"ช่าย นี่

  • พ่อกะแม่หยุดดิ๊! หยุดทะเลาะกันสักที เลี้ยงน้องไม่ไหวแล้ว!(mp   อยากเจอพ่อแม่

    (วัน) หลายปีผ่านไปครอบครัวของผมใหญ่ขึ้นเพราะน้องๆ โตขึ้นเรียนชั้นสูงขึ้นแยกย้ายกันเรียนในสายที่ชอบแต่ไม่ไกลบ้านนัก ผมอยู่คอนโดลำพัง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ลำพังเสียทีเดียว ก็คุณแมนไปอ้อนคุณยายให้ซื้ออีกห้องชั้นล่างสุดน่ะสิไม่รู้มีแผนอะไรชอบไปตีสนิทกับยามและแม่บ้าน ก็คงเล่นเป็นสายลับเหมือนเดิมเกิดเป็นลูกคนอย่างพ่อกับแม่ไม่ง่ายเลยนะเหมือนเป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกัน หลายครั้งก็อยากจะดุด่าให้สำนึกจริงจังสักทีว่าทำไมไม่ใช้ชีวิตให้ดีกว่านี้ แต่พอโตขึ้นก็นึกขอบคุณที่เขาไม่ตามกระแสยังคงความเป็นตัวของตัวเองแบบมนุษย์ที่มีความแตกต่างได้แทบจะร้อยเปอร์เซ็นที่รู้สึกแบบนั้นเพราะส่วนหนึ่งเห็นครอบครัวคนรักอย่างดีกันเคร่งครัดกับการใช้ชีวิตมากไปหน่อย ยามอยู่ห่างกันคนตัวโตทำท่าจะเป็นจะตายเพราะงานที่บ้านชวนให้อึดอัด พอกลับมาเจอก็อ้อนอยากกอดตลอดเวลาเหมือนเด็กๆ ทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นบ้านให้ดีกันคอยพักพิงไปเสียแล้ว“เหนื่อยจังไม่อยากทำงานแล้ว”คนตัวสูงรูดเนคไทออกจากลำคอแกร่ง นักบาสคนเก่งกลายร่างเป็นนนักธุรกิจหนุ่มขึ้นทุกวัน ใกล้เรียนจบมหาวิทยาลัยเพื่อนคนอื่นมีแพลนเรียนต่อต่างประเทศเริ่มธุรกิจอย่างที่อยากทำ

  • พ่อกะแม่หยุดดิ๊! หยุดทะเลาะกันสักที เลี้ยงน้องไม่ไหวแล้ว!(mp   วันจะไปอยู่คอนโด

    เสียงวันสวนกลับทันที พ่อแม่เงียบไปสามวินาทีก่อนระเบิดหัวเราะออกมาพร้อมกัน“อู้วว เสียดสีเหลือเกิ๊น” แมนยกมือกุมอกแสร้งทำสีหน้าเจ็บปวดพลางเอนพิงโซฟา “ไปนอนด้วยได้มั้ย เดี๋ยวเหงา”“ไม่เอาอ้ะ” วันพูดเสียงเนือยตัดบททันควัน “ให้อยู่กับคุณ เอาน้องห้าคนไปอยู่ด้วยดีกว่า”“อะไรอ้ะ~” แม่ทำเสียงสูงทันที ส่วนเจ้าแฝดเริ่มหัวเราะคิกคัก“ผมไปอาบน้ำนอนละ อย่าเสียงดังนะ เดี๋ยวน้องเลียนแบบ” วันพูดก่อนเดินขึ้นห้องไป“อะไรอ้าาาา~”เสียงแม่แมนลากยาวตามหลัง ส่วนพ่อดีก็หัวเราะหึในลำคอเบา ๆ เหมือนจะบอกว่าบ้านนี้…เงียบได้สักวันคงปาฏิหาริย์แล้วล่ะ“มึงดูลูกสิ”แมนทำหน้ายู่ชี้นิ้วไปทางห้องลูกชายคนโตแตสามีเพียงยิ้มให้พลางเทน้ำส้มลงแก้ววางลงตรงหน้าคนท้อง “ดูทำไม ลูกจะเรียนจบมอหกแล้ว โตมาอย่างมีคุณภาพ อาจจะกดดันตัวเองมากไปหน่อย แต่ก็ผ่านมาได้โดยไม่ทะเลาะกัน”“ใครจะกล้าทะเลาะด้วยวะ ดุจะตาย” แม่แมนหัวเราะในลำคอ นึกถึงสายตาคม ๆ ของลูกชายที่เหมือนแม่ตัวเองไม่มีผิดดีหัวเราะเบา ๆ “ดีจริง ๆ มีลูกคนแรกมากำราบความดื้อด้านของตัวเองอีกที”“นี่กูคิดถูกไหมเนี่ย ที่ปล่อยให้มีลูกมากขนาดนี้” แมนพูดพร้อมยกแก้วน้ำส้มขึ้นจิบเหล

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status