เป็นโชคดีที่ปรายลดากลับมาในอีกไม่นาน ไม่ได้เถลไถลที่ไหน ด้วยความเป็นห่วงเพื่อน ทว่าก้าวแรกที่เหยียบห้องนอนแขกพร้อมถุงพลาสติกใบเล็กเต็มไปด้วยยา หลังจากที่หาอยู่ว่าเพื่อนไปไหน
“อ้าว... ทำไม... มานอนห้องนี้ล่ะคะ?” คำถามเต็มวงหน้าสดสวยที่ก้มลงมองสภาพของคนทั้งสอง ผมสีน้ำตาลเปียกชุ่มลู่ไปกับหน้าซีดขาวราวกระดาษ ตัวม้วนอยู่ในผ้าห่มเป็นหนอนดักแด้
อลันเงยหน้าขึ้นช้า ๆ ตะกุกตะกักเอ่ย “ผม... ทำน้ำหกใส่เธอครับ”
“คุณอลันนี่นะจริง ๆ เลย ใครทำก็ช่วยรับผิดชอบด้วยนะคะ” บ่นพลางหยุดยืนท้าวเอวเอาเรื่อง เธอไม่เชื่อหรอกว่าเพื่อนไม่ได้โดนแกล้ง
“ครับ ผมต้องช่วยอยู่แล้วล่ะ”
“ได้ช่วยแน่ ๆ ค่ะ เตียงฉันนี่เปียกชุ่ม น้ำมันวางอยู่ข้าง ๆ มันจะหกลงที่นอนได้ยังไง แล้วทำไมเสื้อคุณอลันถึงได้เปียกไปด้วย?”
“เธอ... ตกใจอะไรไม่รู้ มากอดผม” คนตอบลอบกลืนน้ำลายอย่างไม่อยากให้ถูกจับได้ว่าเขาทำอะไร ขณะดวงตาคู่สวยหรี่เล็กจนเหยียดตรง เหมือนจะเอาคำตอบใหม่แต่กลับเอ่ยไล่
“ออกไปก่อน ฉันจะเช็ดตัวให้ปริม”
“อ้อ... ครับ” เสียงทุ้มตอบอย่างเก้อเขินอยู่เล็กน้อย ตาคมเหลือบมองคนบนเตียงครั้งหนึ่งอย่างนึกสงสาร ด้วยความที่เข้าใจเธอผิด ก่อนที่เขาจะยอมลุกออกไป ให้หญิงสาวทั้งสองคนอยู่กันตามลำพัง
-------------------------------
อาการปวดหัวตัวร้อนค่อยทุเลาลงในสองวันถัดมา นัชชาคิดว่าคงเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดา ด้วยความที่เธอได้ฉีดวัคซีนครบทุกสายพันธุ์ไข้หวัดยิบย่อยตามแม่สั่งให้เลขานุการหนุ่มชาวฝรั่งเศสพาไปทุกครั้ง...
บางครั้งเธอเรียกเขาว่า ‘พ่อแบร์’ แม่จะไม่ค่อยพอใจนัก หล่อนคงอยากใช้ชีวิตซิงเกิ้ลมัม โสดสวยรวยมากอยู่ไม่ว่าจะผ่านมาสักกี่ปี
ใช่ว่าเธอไม่รู้เรื่องระหว่างแม่กับเลขานุการหนุ่มอายุน้อยกว่าว่ามีอะไรแปลก ๆ เป็นเพราะว่ารู้แล้วไม่อยากก้าวก่ายต่างหาก แบร์นาร์ดเองก็ดูแลเธอดียิ่งกว่าพ่อแท้ ๆ ที่มีครอบครัวใหม่ไปแล้วไม่เคยมาสนใจไยดีเธอกับแม่อีกหลังหย่าขาดกันไป
หลังรับประทานอาหารเช้า ข้าวต้มทรงเครื่องฝีมือเพื่อนสาวเสร็จ ได้รับโทรศัพท์จากแบร์นาร์ดว่าเขาจะลาพักร้อน นัชชาจึงยังไม่กลับบ้าน เพราะถ้าไม่มีแบร์นาร์ดอยู่แปลว่าไม่มีคนคอยสงบสติอารมณ์แม่เวลาโมโห
ถึงวันนี้สถานการณ์ของเธอและแม่จะค่อนข้างดีขึ้นมากแล้ว พอแม่รู้เรื่องที่เธอไม่สบายจากปรายลดา คนเป็นแม่ก็ต้องห่วงลูกสาวคนเดียวเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าเธอจะสร้างเรื่องอะไรร้ายแรงสักแค่ไหน
“ค่ะ คุณแม่... ค่ะ เดี๋ยวหนูดูแลให้นะคะ ดูแลเป็นอย่างดีเลยค่ะ” เสียงหวานรับปากเป็นดิบดี ก่อนจะวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะรับประทานอาหาร
ถ้วยชามสองใบบนโต๊ะ ด้วยฝีมือแม่ครัวอย่างปรายลดาราบเรียบเหมือนไม่เคยมีข้าวต้มในนั้น เหลืออีกคนที่ค่อย ๆ ตักไปทำงานไปโดยไม่ได้สนใจสองสาว อลันเพียงเหลือบตามองอยู่เป็นพัก ๆ
พอของถูกวางลงทั้งโทรศัพท์มือถือ ด้ามช้อนส้อม นัชชาจะค่อย ๆ เอาทิชชูเปียกบนโต๊ะเช็ดมันทุกอย่าง เธอยังใช้หน้ากากอนามัยปิดทันทีที่รับประทานอาหารเสร็จ หญิงสาวอีกคนในชุดนอนลายหวานสีชมพูสีเดียวกันถามหน้ายุ่ง
“ฆ่าเชื้ออะไรขนาดนั้นยะ? แล้วนี่ในบ้าน กลัวโควิดหรือว่ากลัวเชื้อโรคอะไร?”
คนได้ยินจัดแจงหน้ากากบนหน้าให้เข้าที่ ตวัดตามองคนในฝั่งขวา “ไม่ได้ ต้องสะอาดกริ๊บ... แล้วแกอย่าเข้าใกล้ฉันมาก เดี๋ยวตัวเล็กติดไปด้วย คนท้องกินยาอะไรลำบาก ฉันห่วงหลานฉัน”
“ค่ะ คุณเพื่อน... ฉันก็ไม่ค่อยจะได้ดูแกหรอก ไม่ติดหวัดอยู่แล้ว คนนู้นต่างหาก...” พูดพลางส่งสายตากรุ้มกริ่มไปทางชายหนุ่มที่หลุบตาลงมองแท็บเล็ตโดยไม่พูดอะไร
วันนี้อลันอยู่ในเสื้อยืด กางเกงขายีนสีซีดตามเทรนแฟชั่น ที่เก็บไว้ในท้ายรถของเขาเวลาเดินทาง ตามนิสัยความเป็นคนใส่ใจกับการทำงานอยู่ตลอด
“พูดคำเดียวกันเป๊ะ กลัวฉันติดหวัด”
“ก็แน่ล่ะว่าต้องกลัว... คนเขาห่วงแกกันทั้งบ้านนะคะ คุณแม่” เสียงหวานบอกเพื่อนผ่านหน้ากากที่ปิดป้องใบหน้าสดสวยไว้ครึ่งหนึ่ง
ไม่มีใครเห็นรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าของนัชชา เธอหลับ ๆ ตื่น ๆ เพราะพิษไข้ แต่ก็จำได้ว่าใครคอยป้อนข้าว ป้อนยา เฝ้าไข้อยู่ยังทำเรื่องบางอย่าง! ปรายลดาเองยังเห็นว่าอลันดูใส่ใจคนป่วยเป็นพิเศษ ทั้งที่เขาไม่ใช่คนที่จะใส่ใจใครเท่าไรนัก หากไม่ใช่ปรเมษฐ์หรือเธอ
“คุณอลันดูแลแกดีมาก ได้นอนบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้...”
ต่างคนคงคิดว่าจะได้ยินคำขอบคุณของนัชชา เธอแค่จิกหางตามองอย่างไม่สบอารมณ์
“มันควรจะต้องดูไหมคะ? ใครมันสาดน้ำใส่ฉัน คนนะไม่ใช่หมา เอาน้ำมาสาด นอนอยู่ดี ๆ แท้ ๆ เกิดลูกสาวคุณนายนิตยาช็อกตายเพราะไข้ขึ้นมา แน่ใจนะว่ารับผิดชอบไหว?”
คำเหน็บแนมกระตุกต่อมโทสะของเลขานุการหนุ่ม ใต้ขอบตาดำคล้ำจัดเพราะอดหลับอดนอน สายตาคมปลาบละจากจอสี่เหลี่ยมในมือพร้อมแผ่รังสีอำมหิต
“ผมไถ่โทษไปแล้วนะครับ ต้องการอะไรอีกไม่ทราบ?”
“เปล่าค่ะ แค่พูดลอย ๆ ยังไงก็ขอบคุณนะคะ ที่ช่วยเฝ้าไข้ฉันเป็นอย่างดี” พูดแล้วก็ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ไม่รู้ว่าขอบคุณจริง ๆ หรือยังไงแน่ บรรยากาศอึมครึมบนโต๊ะรับประทานอาหารทำให้ปรายลดารีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
“เออนี่แก... ตกลงเรื่องพี่ธามมันยังไง? สรุปว่าตอนนี้แกโสดใช่ป่ะ เลิกกันแล้วเหรอ?”
หญิงสาวยอมเลิกราศึกปะทะสายตาอย่างดุเดือดกับคนที่นั่งอยู่ในฝั่งซ้าย จากที่นั่งหัวโต๊ะของเธอ ด้วยความตั้งใจว่าจะเอาคืนทีหลัง เพื่อหันไปตอบ
“ทำไมล่ะ แกจะหัวเราะเยาะฉันหรือไง?”
“เปล่าเลยนะปริม ใครจะกล้าไปหัวเราะเพื่อนกัน ฉันเห็นแกคบใครก็ไปไม่รอดสักคน คบ ๆ เลิก ๆ พี่ธามเขาเป็นคนดี ฉันว่าเขาไม่เหมาะสมกับแก แกมันร้ายกาจมาก” ตามด้วยเสียงหัวเราะหลังจากนั้น หยอกล้อกันเหมือนปรกติซึ่งอีกฝ่ายไม่ได้คิดอะไร นัชชาฉีกยิ้มกว้างตอบให้ยังยกมือไปแตะบ่ามนเบา ๆ
“ขอบใจมากที่ชมว่าฉันร้ายกาจเพื่อนรัก ฉันคงเป็นอย่างที่แกว่าแหละ” รอยยิ้มเลือนหายไปจากใบหน้าสะสวย ความคิดบางอย่างผุดขึ้นมาในหัว
อลันไม่ได้กลับไปทำงานกับเจ้านายเก่าอย่างปรเมษฐ์ เมื่อคุณนายนิตยาไม่ยอม หล่อนรั้งเขาไว้ด้วยคำว่าจะไม่ยกลูกสาวให้คำเดียว เขาจึงต้องลาออกเป็นการถาวรแต่ส่งน้องชายคือเจมส์ไปฝึกงานเลขาฯ แทนชีวิตแต่งงานเรียบง่ายที่มีความสุขในทุก ๆ วัน จะมีทะเลาะกันบ้างเพราะความเอาแต่ใจประสาเด็กสาว หรือเรื่องความขี้หึงของอลันมาถึงจุดหมายปลายทางในช่วงบ่าย ผ่านด่านตรวจคนเข้ามาเมืองมาอย่างง่ายดาย คนเป็นสามีก็ทำหน้าที่ผู้นำครอบครัว เรียกรถแท็กซี่ บอกทางที่จะไปด้วยภาษาท้องถิ่น ช่วยคนขับรถเก็บกระเป๋าใบใหญ่ไว้ข้างหลัง“พี่พูดได้กี่ภาษาอ่ะ? ทำไมปริมไม่เคยถามพี่เลยนะ” เสียงหวานบ่นถามทั้งตัวเองและคนที่ปิดประตูนั่งตามในที่นั่งข้างหลัง“ภาษาไทย... โปรตุเกส สเปน ฝรั่งเศส ภาษาอังกฤษครับที่รัก...”ความสนิทสนมกันเกินไป มีบางอย่างที่ไม่รู้... หญิงสาวชะงักนิ่งไปหลังนับนิ้วจนครบว่าไม่ผิดแน่“ตั้งห้า... ภาษา แล้วปริมเคยว่า...” เธอหน้าตาตะลึงมองเขาที่แค่ยิ้มกับคำดูถูกคราแรกพบหน้ากัน แน่ว่าอลันจำมันได้แม่น!‘เลขาฯ แม่ฉัน คุณแบร์นาร์ด หนุ่มฝรั่งเศสพูดได้ตั้งสี่ภาษา...’“ตอนสักอายุสิบห้า พ่อแม่พี่ไม่ค่อยว่าง พี่กลับมาอยู่บราซิลกับ
“ไม่มีอะไรแล้ว ไม่ต้องร้อง...”สองหนุ่มสาวกอดกันตัวกลม สองหนุ่มบอร์ดี้การ์ดมองหน้ากันก็ตรงไปสะสางเรื่องให้เรียบร้อย เจ้าของห้องที่ใบหน้าลำคอเต็มไปด้วยรอยข่วนไม่ได้หนีหรือมีท่าทีหวาดกลัวอานนท์เป็นคนส่งการ์ดกุญแจห้องให้เธอเดินออกไปเฉย ๆ และแค่มองหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดชายอื่นด้วยแววตาเศร้าหมองจนเธอจากไป-------------------------------เรื่องวุ่นวายทั้งหมดถึงหูคุณนายที่มารออยู่ข้างล่างเพนเฮ้าส์ของนายอานนท์พร้อมกับแบร์นาร์ดนิตยาเพิ่งรู้ว่าลูกสาวมีปัญหากับปิ่นแก้ว ทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นเรื่องใหญ่โตจนเกิดการทำร้ายร่างกาย คุณแม่ที่กำลังเกรี้ยวโกรธจึงส่งทนาย โทรบอกพวกพ้องให้จัดการกับคนผิดอย่างถึงที่สุดนัชชาไม่ใช่เด็กที่จะร้องไห้เพราะความกลัว แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจเพราะถูกเลี้ยงดูมาเช่นนั้นวันนี้เธอแค่ทำตัวเป็นเด็กเล็ก ๆ ตั้งแต่อ้อนกอดผู้ชายตัวโต ให้เขาต้องอุ้มขึ้นรถในที่นั่งข้างหลัง ในสายตาของหลายคนรวมถึงพ่อแม่คงไม่ขัดหรือห้ามปราม เพราะคงจะห้ามกันไม่ได้กับการที่คุณหนูของบ้าน โตเป็นสาว ได้ตกหลุมผู้ชายสักคนหัวปักหัวปำเมอร์เซเดสเบนซ์สีดำแล่นฉลิวในความเงียบ มีโอกาสได้นั่งกันตามลำพังข้า
ก็คงจะเดาได้ไม่ยากว่าตัวต้นเหตุยังวนเวียนอยู่แถวนี้ หลังจากที่เขาขับรถมาสมทบกับเจมส์ ยังมีบอร์ดี้การ์ดนอกเครื่องแบบอีกสองคน ตามคำสั่งของคุณนายว่าให้เฝ้าลูกสาวไว้ “พวกสวะน่ะพอได้ ตำรวจต้องการตัวอยู่แล้ว ซัดทอดความผิดไปว่าเก็บกันเอง ขัดผลประโยชน์ แต่คุณนักธุรกิจคนดังคนนั้น ใจเย็น ๆ หน่อย” “อย่างมากก็กลับไปอยู่บราซิล...” พูดจบก็เหน็บอาวุธไว้ด้านหลัง ก่อนลงจากรถยนต์อย่างไม่รอช้า แน่นอนว่าเขาจะใช้มันในยามจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น ถุงมือถักทอด้วยเส้นใยโพลีเอสเทอร์บางละเอียด ใช้กับงานที่ป้องกันคราบเหงื่อและรอยนิ้วมือจะทำให้เขาไม่ทิ้งรอยนิ้วมือเอาไว้ถูกสวมทีละข้าง ใบหน้าหล่อเหลานิ่งเฉย ลอบมองซ้ายขวามือกระตุกหมวกแก้ปให้ปกใบหน้าลงมาเล็กน้อย เปลวไฟในดวงตาคู่คมสีฟ้าครามลุกโชน จับจ้องอยู่กับรถยนต์สีดำอีกสองคันถัดไป คนขับนั้นเป็นพี่น้องห่าง ๆ หน้าตา ความสูง และรูปร่างเป็นล่ำสันใกล้เคียงกันกับเขา สองคนข้างหลังที่เพิ่งจะขึ้นรถไปต่างหากคือเป้าหมาย... ------------------------------- สิ่งที่นัชชาไม่ต้องการมากที่สุด คือความเจ
“พี่ให้โอกาสน้องขอโทษน้องสาวพี่แล้วนะคะน้องปริม แต่น้องยังทำปากดี ช่วยไม่ได้”แทนที่นัชชาจะกลัว กลับแค่นหัวเราะ “ฮึ! แกคิดดีแล้วเหรอ? ที่มายุ่งฉันน่ะ”“ไม่ได้ยุ่ง แค่มาเป็นกามเทพ... กับเป็นเพื่อนเจ้าสาว พี่คงต้องขอแสดงความยินดีล่วงหน้า” เสียงหัวเราะดัง ยกมือขึ้นป้องปากด้วยท่าทางเสแสร้ง ความคับแค้นใจสะท้อนขึ้นในแววตากร้าวของนัชชา หยัดกายลุกขึ้นนั่งในท่าเตรียมพร้อมปะทะ!“ฉันว่าแกควรไปพบจิตแพทย์นะนังปิ่น ไม่ก็หัดเข้าวัดเข้าวาซะบ้าง ผู้ชายเขาไม่เอาทำพาลไปทั่ว รับรองได้ว่าแม่ฉันเอาเรื่องแกแน่ ๆ” เสียงขู่ฟ่อหลุดรอดจากไรฟัน หญิงสาวอีกคนก็ขยับก้าวช้า ๆ มาหยุดลงข้างเตียงอย่างท้าทาย“แม่น้องไม่เอาเรื่องพี่หรอก... ดีเสียอีก... พี่มาช่วยให้เรื่องมัน Happy ending พี่ไม่ได้มาฆ่าใคร ไม่ได้ทำร้ายอะไรเราเลยนะ” ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของปิ่นแก้วแม้กระการแต่งตัวสบาย ๆ เสื้อยืดกางเกงยีน ทุกอย่างเหมือนเป็นเรื่องของคนกันเองตามปากว่าเป็นความสะใจล้วน ๆ ในเมื่อหล่อนอุตส่าห์อยู่เงียบ ๆ แลัวนังเด็กปากดี! ยังไปเอาเรื่องปานทิพย์ที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลยความคิดแค้นของปิ่นแก้วไม่น้อยไปกว่านัชชา ดวงตาคู่สวยคมฟาด
เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาในเชิ้ตสีดำสนิทนั่งตัวเกร็ง มือกุมพวงมาลัยแน่น เครื่องปรับอากาศอุณหภูมิปรกติในรถให้ความรู้สึกเย็นยะเยียบ เขาจึงต้องกดปลายเท้าเหยียบลงอีก เพื่อให้ถึงจุดหมายเร็วขึ้น“ขับช้า ๆ หน่อยสิคุณอลัน จะรีบไปไหนกัน บ้านฉันก็อยู่แค่นี้” ใบหน้าสดสวยของสาววัยสี่สิบห้าละจากแท็บเล็ตในมือ สารถีประจำตัวก็ลดความเร็วลงเล็กน้อย โดยที่ยังไม่ลืมเรื่องสำคัญหลายวันมานี้เขาเหนื่อยหน่ายกับการพูดเรื่องเดิม ๆ คือมาขอลูกสาว เมื่อคุณนายนิตยาทำเป็นไม่สนใจยังให้เหตุผลว่าลูกสาวของหล่อนเด็กเกินจะมีครอบครัว“ลูกปริม... มีเงินใช้หรือเปล่า?”“ปริมหาเงินใช้เอง แต่ถ้าวันไหนไม่มีหรือไม่พอ ผมไม่เคยปล่อยให้เมียลำบาก ผมโอนไวครับ”เมีย ย้ำชัดหนักแน่น คนข้างหลังปิดตาลงเพื่อสะกดกลั้นความโกรธ ก่อนจะเหน็บแนมด้วยถ้อยคำร้ายกาจ“ทรัพย์สมบัติพ่อ ทำไมไม่เอาไปลงทุน จะรอแต่งงานกับผู้หญิงไทยเอากรีนการ์ดค่อยกว้านซื้อที่ดินหรือว่ายังไง?”“ผมจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร? ผมไม่ได้อยากได้สัญชาติไทย เลิกให้คนไปสืบเรื่องของผมนะครับคุณนาย ที่ดินที่ผมไปดูมาคือเรือนหอของผมกับปริม ผมจะให้เธอเลือกเองว่าอยากได้บ้านแบบไหน”“แบร์นาร์ดบอกฉัน
ความสัมพันธ์อันดีของเขาจบลงที่การปล่อยมือจากสาวร้อนแรงอย่างปิ่นแก้ว ไม่ว่าเป็นใครก็คงจะต้องเสียดายอยู่ อานนท์คิดว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวานดีกว่า“รอบนี้แกรับเสื้อมาจากจีนกี่กระสอบอ่ะ? ฉันต้องหุ้นกับแกเท่าไร” พูดไปพร้อม ๆ กับที่จดขยุกขยิกลงในโทรศัพท์ขนาดพอดีมือ สีหน้าจริงจังของนัชชาคงเฉพาะเวลาเรียน และธุรกิจเล็ก ๆ ของเธอกับเพื่อนสาวปรายลดาเป็นคนริเริ่มร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นในคราวแรก สุดท้ายก็ทำคนเดียวไม่ไหว โดยเฉพาะตอนนี้ที่ท้องโตมากจนเห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างเคลื่อนไหวไปมา คราวเด็กน้อยในท้องถีบแขนถีบขา อีกไม่ถึงสองเดือนคลอดลูกแล้วคงจะได้ยุ่งวุ่นวายมากกว่านี้“ชุดนอนแขนสั้น กางเกงผ้าฝ้าย แจ็คเก็ตยีน อย่างละสามกระสอบ พวกงานลิขสิทธิ์เก็บไว้ก่อน ล่อซื้อเยอะไม่อยากเสี่ยง ทั้งหมดเท่าไรแกคิดเลย”กองเสื้อผ้าตรงหน้ามีที่ขายไม่ออก ตัวไหนขายดีปรายลดาก็จะสั่งมาอีกเป็นล็อต ๆในห้องพักแบ่งแยกเป็นสัดส่วน ห้องสตูดิโอของคอนโดมิเนียมกลายเป็นที่เก็บเสื้อผ้านับพันตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต่างคนมีความเห็นตรงกันว่าไม่ควรไปเสียเงินเช่าห้องเก็บเสื้อผ้าย่านประตูน้ำ ด้วยค่าเช่าหลักครึ่งแสนต่อเดือนในเมื่อห้องนี้ก็ไม