ผ้าแพร...
หลังจากล้างหน้าล้างตาเสร็จฉันก็เดินลงมาในครัวเพื่อช่วยแม่บ้านทำอาหารเพราะวันนี้จะมีแขกมาทานอาหารที่บ้านซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าเป็นใครแต่คิดว่าต้องเป็นคนที่สำคัญมากๆเพราะอาหารแต่ละอย่างที่สั่งให้ฉันทำล้วนแล้วแต่เป็นเมนูมีราคาแพงทั้งนั้น
"คุณแพรเป็นอะไรคะตาบวมเลยถูกคุณท่านดุมาอีกแล้วเหรอคะ"
"เปล่าหรอกค่ะ" ฉันปฏิเสธแม้หลักฐานจะปรากฏอยู่บนหน้า
"ตาแดงจมูกแดงขนาดนี้ยังบอกว่าเปล่าอีกเหรอคะ"
"แพรไม่ได้เป็นอะไรจริงๆค่ะป้าผ่อง"
"โอเคค่ะไม่เป็นก็ไม่เป็น" ป้าผ่องมองหน้าฉันก่อนจะถอนหายใจ ป้าผ่องเป็นทั้งแม่บ้านแม่ครัวแม่นมเพราะท่านเลี้ยงฉันมาตั้งแต่เกิดเพราะพ่อกับแม่ท่านไม่ดูดำดูดีฉันเลยตั้งแต่ฉันจำความได้ฉันก็มีแต่ป้าผ่องคนเดียวที่ดูแลอาบน้ำป้อนข้าวพาฉันไปหาหมอไปฉีดวัคซีนพาไปส่งโรงเรียนเพราะโรงรียนที่ฉันเรียนเป็นโรงรียนเล็กๆในหมู่บ้าน
เวลาต่อมา...
หลังจากที่ฉันกับป้าผ่องแล้วก็แม่บ้านอีกสองคนช่วยกันทำอาหารจนเสร็จฉันก็รีบไปตัดดอกไม้ที่สวนหน้าบ้านเพื่อนำมาใส่แจกันไปวางบนโต๊ะอาหารให้ดูสวยงาม
ปรี๊นนนน ปรี๊นนน เสียงแตรรถดังพร้อมกับเสียงตะโกนเรียกชื่อ
"พี่แพร!!!" เสียงตะโกนเรียกของน้องสาวคนเดียวของฉันทำให้ฉันต้องรีบเดินไปหาทันที
"อ้าวพลอย กลับมาแล้วเหรอ" ฉันถามน้องสาวที่อยู่บนรถในชุดนักศึกษาสั้นกุดรัดรูป
"ไม่กลับมาแล้วจะเห็นมั้ยล่ะถามอะไรโง่ๆ"
"พี่ก็แค่ถามทำไมต้องว่ากันด้วย"
"ก็พอใจจะว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่พอใจที่ถูกด่าว่าโง่ ก็ไปฟ้องพ่อกับแม่สิ" พลอยใสมองหน้าฉันอย่างท้าทาย
"แล้วเรียกพี่มีอะไร"
"ไปช่วยฉันแต่งตัว"
"แต่พี่กำลังตัดดอกไม้ไปใส่แจกันอยู่นะ รอก่อนได้มั้ย"
"ไม่รอ ทำไมต้องรอ"
"แต่พี่..."
"ฉันให้เวลาพี่สิบนาทีให้ตามขึ้นไปบนห้องถ้ายังไม่ขึ้นไปฉันจะฟ้องแม่แน่ว่าพี่ขัดใจฉัน แล้วหลังจากนั้นก็คงจะรู้นะว่าจะเจอกับอะไร"
หลังจากนั้นพลอยใสก็ขับรถเข้าไปจอดที่โรงจอดส่วนฉันก็รีบตัดดอกไม้แล้วเดินเข้าบ้าน
ห้องนอนของพลอยใส...
ฉันเคาะประตูห้องนอนของน้องสาวก่อนจะเปิดเข้าไป ห้องนอนของพลอยใสใหญ่และกว้างกว่าห้องฉันหลายเท่าข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างภายในห้องล้วนแล้วแต่เป็นของมีแพงๆกระเป๋าใบละหลายแสนรองเท้านับสิบๆคู่ราคาคู่ละเป็นหมื่นเสื้อผ้าชุดนึงไม่ต่ำกว่าหมื่น ส่วนของฉันน่ะเหรอก็เป็นเสื้อผ้าตามตลาดนัดตัวไม่กี่ร้อยที่พอจะหาซื้อได้เพราะพ่อแม่จะให้เงินฉันใช้เดือนละห้าพันฉันก็เก็บไว้ซื้อของที่จำเป็นที่เหลือก็เอาฝากธนาคาร ส่วนพลอยใสเธอจะได้เงินจากพ่อกับแม่เดือนนึงก็น่าจะหลายหมื่นบางเดือนก็เป็นแสน ถามว่าฉันอิจฉาน้องสาวไหมที่ได้เงินมากกว่าฉันฉันไม่ได้อิจฉาฉันแค่น้อยใจเท่านั้นเอง แต่ก็นั่นแล่ะพอคิดถึงเหตุผลที่ฉันกับพลอยใสได้ไม่เท่ากันฉันก็ได้แค่ทำใจเท่านั้น
"พี่เลือกชุดที่คิดว่าสวยที่สุดดูดีที่สุดออกมาวางบนเตียงเดี๋ยวฉันจะมาเลือก เอาที่สวยที่สุดนะเข้าใจไหม" พลอยใสเดินมาบอกฉันก่อนจะเข้าไปอาบน้ำ ฉันเดินเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบชุดที่คิดว่าสวยที่สุดออกมาวางไว้ให้พลอยใสเลือกตามที่เธอสั่ง ฉันนั่งรอที่ปลายเตียงเกือบชั่วโมงจนกระทั่งพลอยใสสวมชุดคลุมอาบน้ำออกมา เธอกอดอกใช้สายตามองชุดที่ฉันวางเรียงไว้บนเตียงก่อนจะหยิบขึ้นมาดูทีละชุดชุดไหนไม่โอเคก็จะโยนลงพื้น
"ฉันเอาชุดนี้ แต่เหมือนชุดนี้มันจะมีรอยยับอยู่หน่อยนึง พี่เอาไปรีดให้ฉันเดี๋ยวนี้แล้วก็กลับมาช่วยฉันแต่งหน้าด้วยเร็วๆล่ะอย่ามัวแต่โอ้เอ้เข้าใจไหม" พลอยใสยื่นชุดที่เลือกมาให้ฉันก่อนจะเดินไปนั่งรอที่โต๊ะเครื่องแป้งที่มีเครื่องสำอางราคาแพงวางเรียงรายอยู่เต็มไปหมด ต่างกับโต๊ะเครื่องแป้งในห้องของฉันที่มีแค่แป้งฝุ่นครีมทาผิวกับลิปสติกแท่งไมกี่บาทเท่านั้น
4ปีต่อมา...."คินไปได้แล้วสายแล้วนะเดี๋ยวเข้าประชุมไม่ทัน" ฉันบอกคินที่ตอนนี้เอาแต่ชะเง้อมองเข้าไปในโรงเรียนอนุบาลคือเขาเป็นอยู่แบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว"แป๊บนึงคินกลัวน้องเพลงมองหาเราสองคนแล้วไม่เจอเกิดแกร้องไห้ขึ้นมาเราจะได้รับกลับบ้าน" ฉันต้องถอนหายใจกับความห่วงลูกสาวแบบเกินเบอร์ของคุณพ่อ ส่วนน้องอลันตอนนี้แกอายุได้8ขวบแล้วแกเรียนอยู่อีกโรงเรียนหนึ่งซึ่งรายนั้นพ่อก็ห่วงไม่แพ้กันแต่น้องอลันไม่ให้ไปส่งเพราะรู้ว่าพ่อเป็นยังไงก็เลยให้คนขับรถที่บ้านไปรับไปส่งแทน"ลูกไม่ร้องหรอกดูสิเล่นกับเพื่อนจนลืมเราสองคนแล้ว""คินห่วงลูกอ่ะคินกลัวลูกโดนเพื่อนแกล้งน้องเพลงยังเล็กอยู่เลยอายุแค่สามขวบเองนะ" น้ำเสียงเหมือนคนจะร้องไห้ของคนเป็นพ่อทำเอาฉันต้องถอนหายใจอีกรอบ"ถึงน้องเพลงจะอายุแค่สามขวบแต่แกก็เก่งนะดูสิเรามาส่งไม่มีร้องไห้เลย" ฉันพยายามปลอบเพื่อให้คินเลิกห่วงลูกแบบเกินกว่าเหตุแต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล"วันนี้เราพาแกกลับก่อนดีมั้ยรอให้คินทำใจได้เมื่อไหร่ค่อยพาแกมาโรงเรียน นะแพรนะ" คินหันมาพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนอย่างน่าสงสารแต่ถามว่าฉันสงสารมั้ย ไม่เลยค่ะ"ไม่ต้องเลยให้ลูกอยู่โรงเรียนส่วนคินก
ผ้าแพร...หลังจากที่เราสองคนพูดคุยปรับความเข้าใจกันแล้วฉันก็ชวนคินมาหาคุณหมอเพื่อตรวจดูอาการของฉันเพราะฉันคิดว่าฉันอาจจะกำลังท้องลูกคนที่สอง ตอนแรกฉันก็ไม่ทันได้คิดจนกระทั่งก่อนออกจากบ้านฉันเปิดตู้เสื้อผ้าก็เจอกับห่อผ้าอนามัยที่ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าสองเดือนที่ผ่านมาฉันไม่ได้หยิบมันออกมาใช้เลย"ยินดีด้วยนะคะคุณผ้าแพรทั้งครรภ์ได้6สัปดาห์แล้วค่ะ^^""เมียผมท้องแล้วจริงๆเหรอครับคุณหมอ คุณหมอไม่ได้หลอกให้ผมดีใจใช่มั้ยครับ" น้ำเสียงคินดูตื่นเต้นสุดๆเมื่อได้ยินคุณหมอบอกว่าฉันท้อง"จริงๆสิคะหมอจะโกหกทำไม^^""เอ่อ แล้วผมต้องทำยังไงต่อครับ คือตอนท้องลูกคนแรก..ผมทำตัวไม่ดีผม...ผมแทบไม่มีโอกาสได้ดูแลเมียกับลูกเลยผมไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อจากนี้" จากน้ำเสียงตื่นเต้นเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเศร้าลงในทันทีมันไม่ใช่แค่น้ำเสียงใบหน้าของเขาก็เศร้าลงเช่นกันจนฉันอดสงสารเขาไม่ได้เขาคงรู้สึกแย่เพราะตอนนั้นที่ฉันบอกเขาว่าฉันท้องเขาไม่ยอมรับซ้ำยังไล่ให้ฉันไปเอาลูกออกอีกเพราะคิดว่าไม่ใช่ลูกตัวเองถึงตอนหลังเขาจะรู้ความจริงและมาดูแลฉันตอนที่ฉันท้องได้หลายเดือนแล้วแต่ตอนนั้นฉันก็ตั้งแง่กับเขาพอลูกคลอดฉันก็ยังพาลูกหนีเข
ผ้าแพร...ฉันนั่งแท็กซี่มาที่โรงพยาบาลแทนการให้คนขับรถที่บ้านมาส่งเพราะฉันกลัวคินจะรู้ว่าฉันมาหาพลอยใส เขาเคยกำชับและสั่งฉันว่าห้ามยุ่งเกี่ยวกับพ่อแม่หรือพลอยใสอีกเพราะพวกเขาไม่เคยเห็นว่าฉันเป็นคนครอบครัว พวกเขาเห็นเงินสำคัญกว่าฉันยอมตัดขาดจากฉันเพื่อแลกกับเงินใช้หนี้ คินบอกว่าตอนนี้ชีวิตของฉันเป็นอิสระแล้วเขาบอกอีกว่าอย่าคิดว่าตัวเองเลวหรืออกตัญญูเพราะพวกเขาเลือกเงินมากกว่าฉันซึ่งเป็นลูกซึ่งฉันก็รับปากคินไปแต่หลังจากได้รับโทรศัพท์จากพลอยใสว่าตอนนี้ป่วยอยู่โรงพยาบาลฉันก็อดเป็นห่วงไม่ได้และนี่คือครั้งแรกที่พลอยใสโทรหาฉันตั้งแต่เราเป็นพี่น้องกันมาซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าเธอรู้เบอร์โทรของฉันได้ยังไงแต่เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะเพราะตอนนี้ฉันเป็นห่วงพลอยใสมาก ตอนที่เธอโทรมาเธอร้องห่มร้องไห้บอกอยากตายอยากฆ่าตัวตายทำให้ฉันรีบออกมาจากบ้าน พอมาถึงโรงพยาบาลฉันก็สอบถามกับเจ้าหน้าที่ว่าพลอยใสพักอยู่ห้องไหนพอรู้ห้องฉันก็รีบขึ้นมาทันทีปรากฏว่าพลอยใสอยู่ห้องพักรวมฉันรีบเดินมาหาทันที"ยัยพลอย""แพร ฮือออ แพร พี่มาเยี่ยมฉันจริงๆด้วย ฮือออ" พลอยใสลุกขึ้นนั่งแล้วกอดเอวฉันไว้แน่น"พลอยเป็นอะไรทำไมถึงมานอนโรงพย
ผ้าแพร...."ขอบคุณนะครับ ขอบคุณที่กลับมาหาคิน คินรักแพรนะ รักที่สุด" จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ เขาระดมจูบฉันไปทั่วใบหน้าเมือ่ฉันตอบตกลงแต่งงานกับเขา จากนั้นเราสองคนจูบกันอย่างดูดดื่ม มือของเขาเริ่มอยู่ไม่สุขลูบไล้ไปทั่วร่างกายของฉัน เขาบีบเคล้นหน้าอกเบาสลับหนัก"หิวนมเมียจังครับ" เสียงกระเส่าเอ่ยขึ้นข้างหูทำให้ฉันรู้ว่าตอนนี้เขาต้องการอะไร"อื้ออ คินอย่านะ" "แพรจ๋า คินอยากกก..." แต่ไม่ทันทีเราสองคนจะทันได้ทำอะไรกันก็มีเสียงเคาะประตูดังอยู่หน้าประตูไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครก๊อก ก๊อก ก๊อก"ปะป๊าค๊าบบบบ อลันอยากเล่นน้ำแล้วค๊าบบบบ ปะป๊าาาาา ปะป๊าค๊าบบ เปิดประตูให้หน่อบค๊าบบบบ""เห้ออออ" พอได้ยินเสียงลูกคินก็ถึงกับถอนหายใจอย่างสิ้นหวังทำเอาฉันถึงกับขำออกมาอย่างช่วยไม่ได้อคิน...หลังจากวันนั้นผมก็พาผ้าแพรกับน้องอลันมาอยู่ที่บ้าน ผมรู้สึกได้ถึงความสุขที่เฝ้ารอมานาน การที่ได้มีผ้าแพรกับลูกอยู่ในชีวิตประจำวันของผมมันเป็นอะไรที่ผมเฝ้ารอมานานและวันนี้มันก็เกิดขึ้นแล้ว มันทำให้ผมมีแรงที่จะทำอะไรต่อมิอะไรทำเพื่อให้พวกเค้าทั้งสองคนมีความสุขผ้าแพรไม่ต้องลำบากเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้วผมให้เธอเป็นแม่บ้านอย่างเดียวไ
ผ้าแพร...กว่าคินจะยอมพาฉันกลับบ้านก็ปาไปเกือบสามทุ่มพอมาถึงฉันก็ถามหาน้องอลันทันทีเพราะไม่เห็นแกคุณป้าบอกว่าแกเล่นจนเหนื่อยหลับไปตั้งแต่ทุ่มนึงแล้ว ฉันกับคินก็เลยขึ้นไปดูลูกที่ตอนนี้แกนอนอยู่ห้องนอนของคินพอเดินเข้ามาก็เจอแกนอนกอดหมอนข้างหลับอย่างมีความสุขอยู่บนเตียง"คินขอบคุณแพรอีกครั้งนะ" คินกอดฉันจากทางด้านหลังเอาคางเกยไหล่ของฉันก่อนจะพูด"ขอบคุณเรื่องอะไรอีก""ก็ขอบคุณที่เลี้ยงลูกของเราอย่างดีและไม่ได้สอนลูกให้ลูกเกลียดคิน""แพรจะทำแบบนั้นทำไมแพรรู้ว่าคินรักลูกมาก""แต่คินก็ไม่ได้ช่วยแพรเลี้ยงลูก""คินไม่ผิดแพรเองต่างหากที่ผิดและต้องขอโทษคินถ้าแพรไม่พาแกหนีไปคินก็คงได้ทำหน้าที่พ่อได้สมบูรณ์มากกว่านี้""ที่แพรหนีไปก็เพราะตอนนั้นคินไม่ทำให้แพรเชื่อใจมันก็เลยไม่แปลกที่แพรจะหนี แพรรู้มั้ยว่าจดหมายที่แพรเขียนฉบับนั้นคินเอามันอ่่านมันบ่อยมากเลยนะเพราะมันตอกย้ำให้คินรู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาคินทำเรื่องเลวร้ายกับแพรมากแค่ไหน""เรื่องมันก็ผ่านมาแล้วอย่าพูดถึงมันอีกเลยนะ""คินจะลืมได้ยังไงคินทำร้ายแพรโดยที่แพรไมไ่ด้ผิดอะไรเลย ถ้าคินไม่เข้าใจผิดเรื่องแพรกับไอ้พีท...คินขอโทษจริงนะที่ตอนนั้นคิ
อคิน....จุ๊บ จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ ผมจูบผ้าแพรด้วยความรู้สึกโหยหา นานแค่ไหนแล้วที่ผมไม่ได้กอดไม่ได้จูบไม่ได้สัมผัสกับร่างกายนี้ จูบครั้งนี้มันไม่เหมือนครั้งที่ผ่านๆมา ผมไม่เคยลืมว่าที่ผ่านมาที่เรามีความสัมพันกันเป็นเพราะผมหลอกเธอเป็นเพราะความแค้นความอยากเอาชนะอยากให้เธอเจ็บปวด แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่มันเกิดจากความรักจริงๆความรักที่ผมมีให้เธอเต็มหัวใจผมอยากชดเชยความผิดพลาดของตัวเองผมอยากทำให้เธอรู้ว่าตั้งแต่นี้ต่อไปผมจะมอบความรักที่ดีให้กับเธอ"แพร...คินรักแพรนะ" ผมกระซิบข้างหูเบาๆก่อนจะจูบลงไปที่ซอกคอของเธออย่างแผ่วเบามือไม้ของผมเริ่่มอยู่ไม่สุขผมลูบไล้ไปทั่วร่างกายของผ้าแพร ถ้าผมไม่อยากหยุดแค่จูบเธอจะว่าอะไรผมหรือเปล่านะเพราะตอนนี้เจ้าน้องชายของผมมันเริ่มตื่นตัว อาจจะเป็นเพราะผมห่างหายไปจากเรื่องอย่างว่ามานานมันก็เลยตื่นเร็ว ก็ตั้งแต่ที่ผมรู้ใจตัวเองว่าผมรักผ้าแพรแล้วก็ตามไปอยู่กับเธอที่น่านผมยอมอยู่อย่างลำบากเพราะอยากใกล้ชิดดูแลผ้าแพรกับลูกจนผมอดแปลกใจตัวเองว่าผมอยู่ได้ยังไงเพราะตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยอยู่อย่างลำบากมาก่อนไม่เคยนอนห้องที่ไม่มีแอร์ ไม่เคยนอนฟูก ไม่เคยทำกับข้าวไม่เคยซักผ้า ไม่เค