หลังจากที่รู้ว่าการขอเรียนต่อไม่สำเร็จซ้ำยังถูกท่านทั้งสองพูดตอกย้ำเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีตที่ฉันไม่รู้ว่าเป็นความผิดของฉันจริงๆ หรือเปล่าแต่ท่านคิดไปแล้วว่าเป็นเพราะฉัน ท่านคิดแบบนี้มาตลอดมันจึงไม่แปลกที่ฉันจะขออะไรแล้วท่านไม่ให้ อย่าว่าแต่เรื่องเรียนต่อเลยแม้แต่เรื่องอื่นๆ ก็เช่นกัน ฉันจำได้ว่าตอนที่ฉันยังเด็กฉันไม่เคยมีตุ๊กตามีของเล่นเป็นของตัวเองเลยเพราะพ่อกับแม่ไม่เคยซื้ออะไรให้ ฉันไม่รู้ว่าการได้กอดตุ๊กตาความรู้สึกมันเป็นยังไง จนกระทั่งพลอยใสเกิดมาตอนนั้นฉันอายุได้สองขวบพ่อกับแม่ก็ซื้อของเล่นมาให้เต็มบ้านซื้อตุ๊กตาตัวสวยๆ มาให้พลอยใสหลายตัวฉันทำได้แค่แอบมองอยากได้บ้างอยากเล่นบ้างพอขอแม่แม่ก็ดุทุกครั้งแล้วก็ห้ามฉันไปแย่งของเล่นน้องเล่นด้วย แต่ฉันจะแอบไปเล่นตอนที่พ่อกับแม่ไม่อยู่บ้านพาพลอยใสไปเที่ยวแล้วทิ้งฉันไว้กับแม่บ้านที่บ้านซึ่งการที่ฉันถูกทิ้งให้อยู่บ้านมันเป็นเรื่องปกติจนกระทั่งถึงตอนนี้มันก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ อยากจะบอกว่าตอนนั้นที่ได้เล่นของเล่นได้กอดตุ๊กตาฉันมีความสุขมากฉันอยากมีตุ๊กตาเป็นของเองสักตัวแต่ก็ไม่เคยมี รวมไปถึงเสื้อผ้าของใช้ฉันก็ไม่เคยได้ใช้ของใหม่ๆ เหมือนพลอยใสและด้วยความที่ฉันตัวเล็กทำให้ฉันกับพลอยใสมีรูปร่างใกล้เคียงกันฉันจึงได้แต่เสื้อผ้าที่พลอยใสเบื่อไม่ใส่แล้วบางตัวก็ขาดป้าแม่บ้านก็เอาไปเย็บให้ มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ฉันจำความได้ซึ่งฉันก็ได้แต่แอบน้อยใจที่พ่อกับแม่รักน้องมากกว่าจนกระทั่งฉันโตขึ้นทำให้ฉันรู้เหตุผลว่าเพราะอะไร ฉันได้แต่ถามตัวเองว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นมันเป็นเพราะฉันจริงๆ ใช่ไหมเพราะฉันเกิดมาพร้อมกับความซวยเกิดมาก็ทำให้พ่อกับแม่ลำบาก ต่างกับพลอยใสที่พอเกิดมาก็เอาความโชคดีมาให้มันจึงไม่แปลกที่ท่านจะรักพลอยใสมากกว่า
จนกระทั่งวันนึงในขณะที่ฉันกำลังนั่งเล่นขายของอยู่ที่สวนหน้าบ้านมีรถหรูคันนึงแล่นเข้ามาจอดจากนั้นก็เห็นผู้หญิงกับผู้ชายวัยกลางคนเดินลงมาพร้อมกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งซึ่งน่าจะอายุเท่าๆ กับฉันเด็กชายคนนั้นหันมามองฉันฉันก็มองเขาในมือของเขาอุ้มตุ๊กตาหมีสีขาวตัวนึงเดินมาหาฉันที่นั่งเล่นขายของคนเดียวโดยการเก็บพวกใบไม้ดอกไม้ที่หล่นอยู่มาเล่น
"ทำอะไรอ่ะ" เด็กผู้ชายคนนั้นถามในขณะที่ฉันกำลังเด็ดดอกไม้ใส่ใบตอง
"เล่นขายของ"
"ฉันขอเล่นด้วยสิ"
"เธอเล่นเป็นเหรอ"
"ไม่เป็น" เด็กชายส่ายหน้า
"เราเล่นเป็นแม่ค้านะส่วนเธอก็เล่นเป็นคนซื้อตกลงมั้ย"
"อื้อ" หลังจากนั้นฉันกับเขาก็เล่นด้วยกันเราสองคนเล่นกันอย่างสนุกสนานเขาคือเพื่อนคนแรกของฉันเลยก็ว่าได้
"อ่ะได้แล้ว ไก่ทอดที่สั่ง" ฉันยื่นใบตองที่มีหินวางอยู่สองสามลูกให้กับเขาแล้วเขาก็รับไป
"กี่บาทเหรอ"
"ห้าบาท"
"แต่ฉันไม่มีเงิน"
"ไม่เป็นไรเราให้กินฟรีๆ เลย"
"ไม่ได้ไม่ได้ซื้อของก็ต้องจ่ายตังค์แต่ฉันไม่มีเลย งั้นเอาเจ้าตัวนี้ไปแทนได้มั้ย" เขายื่นตุ๊กตาหมีสีขาวตัวเล็กในมือมาให้ฉัน ฉันมองมันด้วยความตื่นเต้นเพราะมันน่ารักมาก
"ก็ได้" ฉันรีบตุ๊กตาตัวนั้นมาแล้วจ้องมองมัน
"มันมีชื่อมั้ย" ฉันเงยหน้าถาม
"ตุ๊กตาต้องมีชื่อด้วยเหรอ"
"มีสิ"
"งั้นเธอก็ตั้งชื่อให้มันเลย ฉันให้เธอแล้วแลกกับไก่ทอด"
"จริงนะ"
"อื้อ"
"ขอบคุณนะแล้วเธอชื่ออะไร"
"ฉันชื่อ..."
"มาอยู่นี่นี่เองแม่ก็ตามหาตั้งนานป่ะกลับบ้านกันได้แล้วลูก" เขายังไม่ทันได้บอกว่าชื่ออะไรแม่กับพ่อของเขาก็มาตามก่อนจะพาไปขึ้นรถฉันยืนมองแล้วโบกมือลาเขาโดยที่ฉันยังไม่รู้จักว่าเขาชื่ออะไร ซึ่งหลังจากนั้นฉันก็ไม่เคยเห็นเขามาที่บ้านอีกเลยถ้าเจอกันอีกครั้งฉันก็อยากขอบคุณเขาที่ทำให้ฉันได้มีตุ๊กตาเป็นของตัวเอง ฉันตั้งชื่อให้มันว่าเจ้าความสุข ตอนที่ได้มันมากอดตอนที่รู้ว่ามันคือของๆ ฉันแล้วฉันมีความสุขมากที่ในที่สุดฉันก็มีตุ๊กตาเป็นของตัวเองเสียที เหมือนโลกทั้งใบของฉันมีแต่มันฉันคุยเล่นกับเจ้าความสุขทุกวันมันคือเพื่อนรักของฉันคือครอบครัวของฉัน และมันก็อยู่กับฉันมาจนถึงทุกวันนี้
4ปีต่อมา...."คินไปได้แล้วสายแล้วนะเดี๋ยวเข้าประชุมไม่ทัน" ฉันบอกคินที่ตอนนี้เอาแต่ชะเง้อมองเข้าไปในโรงเรียนอนุบาลคือเขาเป็นอยู่แบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว"แป๊บนึงคินกลัวน้องเพลงมองหาเราสองคนแล้วไม่เจอเกิดแกร้องไห้ขึ้นมาเราจะได้รับกลับบ้าน" ฉันต้องถอนหายใจกับความห่วงลูกสาวแบบเกินเบอร์ของคุณพ่อ ส่วนน้องอลันตอนนี้แกอายุได้8ขวบแล้วแกเรียนอยู่อีกโรงเรียนหนึ่งซึ่งรายนั้นพ่อก็ห่วงไม่แพ้กันแต่น้องอลันไม่ให้ไปส่งเพราะรู้ว่าพ่อเป็นยังไงก็เลยให้คนขับรถที่บ้านไปรับไปส่งแทน"ลูกไม่ร้องหรอกดูสิเล่นกับเพื่อนจนลืมเราสองคนแล้ว""คินห่วงลูกอ่ะคินกลัวลูกโดนเพื่อนแกล้งน้องเพลงยังเล็กอยู่เลยอายุแค่สามขวบเองนะ" น้ำเสียงเหมือนคนจะร้องไห้ของคนเป็นพ่อทำเอาฉันต้องถอนหายใจอีกรอบ"ถึงน้องเพลงจะอายุแค่สามขวบแต่แกก็เก่งนะดูสิเรามาส่งไม่มีร้องไห้เลย" ฉันพยายามปลอบเพื่อให้คินเลิกห่วงลูกแบบเกินกว่าเหตุแต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล"วันนี้เราพาแกกลับก่อนดีมั้ยรอให้คินทำใจได้เมื่อไหร่ค่อยพาแกมาโรงเรียน นะแพรนะ" คินหันมาพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนอย่างน่าสงสารแต่ถามว่าฉันสงสารมั้ย ไม่เลยค่ะ"ไม่ต้องเลยให้ลูกอยู่โรงเรียนส่วนคินก
ผ้าแพร...หลังจากที่เราสองคนพูดคุยปรับความเข้าใจกันแล้วฉันก็ชวนคินมาหาคุณหมอเพื่อตรวจดูอาการของฉันเพราะฉันคิดว่าฉันอาจจะกำลังท้องลูกคนที่สอง ตอนแรกฉันก็ไม่ทันได้คิดจนกระทั่งก่อนออกจากบ้านฉันเปิดตู้เสื้อผ้าก็เจอกับห่อผ้าอนามัยที่ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าสองเดือนที่ผ่านมาฉันไม่ได้หยิบมันออกมาใช้เลย"ยินดีด้วยนะคะคุณผ้าแพรทั้งครรภ์ได้6สัปดาห์แล้วค่ะ^^""เมียผมท้องแล้วจริงๆเหรอครับคุณหมอ คุณหมอไม่ได้หลอกให้ผมดีใจใช่มั้ยครับ" น้ำเสียงคินดูตื่นเต้นสุดๆเมื่อได้ยินคุณหมอบอกว่าฉันท้อง"จริงๆสิคะหมอจะโกหกทำไม^^""เอ่อ แล้วผมต้องทำยังไงต่อครับ คือตอนท้องลูกคนแรก..ผมทำตัวไม่ดีผม...ผมแทบไม่มีโอกาสได้ดูแลเมียกับลูกเลยผมไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อจากนี้" จากน้ำเสียงตื่นเต้นเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเศร้าลงในทันทีมันไม่ใช่แค่น้ำเสียงใบหน้าของเขาก็เศร้าลงเช่นกันจนฉันอดสงสารเขาไม่ได้เขาคงรู้สึกแย่เพราะตอนนั้นที่ฉันบอกเขาว่าฉันท้องเขาไม่ยอมรับซ้ำยังไล่ให้ฉันไปเอาลูกออกอีกเพราะคิดว่าไม่ใช่ลูกตัวเองถึงตอนหลังเขาจะรู้ความจริงและมาดูแลฉันตอนที่ฉันท้องได้หลายเดือนแล้วแต่ตอนนั้นฉันก็ตั้งแง่กับเขาพอลูกคลอดฉันก็ยังพาลูกหนีเข
ผ้าแพร...ฉันนั่งแท็กซี่มาที่โรงพยาบาลแทนการให้คนขับรถที่บ้านมาส่งเพราะฉันกลัวคินจะรู้ว่าฉันมาหาพลอยใส เขาเคยกำชับและสั่งฉันว่าห้ามยุ่งเกี่ยวกับพ่อแม่หรือพลอยใสอีกเพราะพวกเขาไม่เคยเห็นว่าฉันเป็นคนครอบครัว พวกเขาเห็นเงินสำคัญกว่าฉันยอมตัดขาดจากฉันเพื่อแลกกับเงินใช้หนี้ คินบอกว่าตอนนี้ชีวิตของฉันเป็นอิสระแล้วเขาบอกอีกว่าอย่าคิดว่าตัวเองเลวหรืออกตัญญูเพราะพวกเขาเลือกเงินมากกว่าฉันซึ่งเป็นลูกซึ่งฉันก็รับปากคินไปแต่หลังจากได้รับโทรศัพท์จากพลอยใสว่าตอนนี้ป่วยอยู่โรงพยาบาลฉันก็อดเป็นห่วงไม่ได้และนี่คือครั้งแรกที่พลอยใสโทรหาฉันตั้งแต่เราเป็นพี่น้องกันมาซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าเธอรู้เบอร์โทรของฉันได้ยังไงแต่เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะเพราะตอนนี้ฉันเป็นห่วงพลอยใสมาก ตอนที่เธอโทรมาเธอร้องห่มร้องไห้บอกอยากตายอยากฆ่าตัวตายทำให้ฉันรีบออกมาจากบ้าน พอมาถึงโรงพยาบาลฉันก็สอบถามกับเจ้าหน้าที่ว่าพลอยใสพักอยู่ห้องไหนพอรู้ห้องฉันก็รีบขึ้นมาทันทีปรากฏว่าพลอยใสอยู่ห้องพักรวมฉันรีบเดินมาหาทันที"ยัยพลอย""แพร ฮือออ แพร พี่มาเยี่ยมฉันจริงๆด้วย ฮือออ" พลอยใสลุกขึ้นนั่งแล้วกอดเอวฉันไว้แน่น"พลอยเป็นอะไรทำไมถึงมานอนโรงพย
ผ้าแพร...."ขอบคุณนะครับ ขอบคุณที่กลับมาหาคิน คินรักแพรนะ รักที่สุด" จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ เขาระดมจูบฉันไปทั่วใบหน้าเมือ่ฉันตอบตกลงแต่งงานกับเขา จากนั้นเราสองคนจูบกันอย่างดูดดื่ม มือของเขาเริ่มอยู่ไม่สุขลูบไล้ไปทั่วร่างกายของฉัน เขาบีบเคล้นหน้าอกเบาสลับหนัก"หิวนมเมียจังครับ" เสียงกระเส่าเอ่ยขึ้นข้างหูทำให้ฉันรู้ว่าตอนนี้เขาต้องการอะไร"อื้ออ คินอย่านะ" "แพรจ๋า คินอยากกก..." แต่ไม่ทันทีเราสองคนจะทันได้ทำอะไรกันก็มีเสียงเคาะประตูดังอยู่หน้าประตูไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครก๊อก ก๊อก ก๊อก"ปะป๊าค๊าบบบบ อลันอยากเล่นน้ำแล้วค๊าบบบบ ปะป๊าาาาา ปะป๊าค๊าบบ เปิดประตูให้หน่อบค๊าบบบบ""เห้ออออ" พอได้ยินเสียงลูกคินก็ถึงกับถอนหายใจอย่างสิ้นหวังทำเอาฉันถึงกับขำออกมาอย่างช่วยไม่ได้อคิน...หลังจากวันนั้นผมก็พาผ้าแพรกับน้องอลันมาอยู่ที่บ้าน ผมรู้สึกได้ถึงความสุขที่เฝ้ารอมานาน การที่ได้มีผ้าแพรกับลูกอยู่ในชีวิตประจำวันของผมมันเป็นอะไรที่ผมเฝ้ารอมานานและวันนี้มันก็เกิดขึ้นแล้ว มันทำให้ผมมีแรงที่จะทำอะไรต่อมิอะไรทำเพื่อให้พวกเค้าทั้งสองคนมีความสุขผ้าแพรไม่ต้องลำบากเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้วผมให้เธอเป็นแม่บ้านอย่างเดียวไ
ผ้าแพร...กว่าคินจะยอมพาฉันกลับบ้านก็ปาไปเกือบสามทุ่มพอมาถึงฉันก็ถามหาน้องอลันทันทีเพราะไม่เห็นแกคุณป้าบอกว่าแกเล่นจนเหนื่อยหลับไปตั้งแต่ทุ่มนึงแล้ว ฉันกับคินก็เลยขึ้นไปดูลูกที่ตอนนี้แกนอนอยู่ห้องนอนของคินพอเดินเข้ามาก็เจอแกนอนกอดหมอนข้างหลับอย่างมีความสุขอยู่บนเตียง"คินขอบคุณแพรอีกครั้งนะ" คินกอดฉันจากทางด้านหลังเอาคางเกยไหล่ของฉันก่อนจะพูด"ขอบคุณเรื่องอะไรอีก""ก็ขอบคุณที่เลี้ยงลูกของเราอย่างดีและไม่ได้สอนลูกให้ลูกเกลียดคิน""แพรจะทำแบบนั้นทำไมแพรรู้ว่าคินรักลูกมาก""แต่คินก็ไม่ได้ช่วยแพรเลี้ยงลูก""คินไม่ผิดแพรเองต่างหากที่ผิดและต้องขอโทษคินถ้าแพรไม่พาแกหนีไปคินก็คงได้ทำหน้าที่พ่อได้สมบูรณ์มากกว่านี้""ที่แพรหนีไปก็เพราะตอนนั้นคินไม่ทำให้แพรเชื่อใจมันก็เลยไม่แปลกที่แพรจะหนี แพรรู้มั้ยว่าจดหมายที่แพรเขียนฉบับนั้นคินเอามันอ่่านมันบ่อยมากเลยนะเพราะมันตอกย้ำให้คินรู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาคินทำเรื่องเลวร้ายกับแพรมากแค่ไหน""เรื่องมันก็ผ่านมาแล้วอย่าพูดถึงมันอีกเลยนะ""คินจะลืมได้ยังไงคินทำร้ายแพรโดยที่แพรไมไ่ด้ผิดอะไรเลย ถ้าคินไม่เข้าใจผิดเรื่องแพรกับไอ้พีท...คินขอโทษจริงนะที่ตอนนั้นคิ
อคิน....จุ๊บ จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ ผมจูบผ้าแพรด้วยความรู้สึกโหยหา นานแค่ไหนแล้วที่ผมไม่ได้กอดไม่ได้จูบไม่ได้สัมผัสกับร่างกายนี้ จูบครั้งนี้มันไม่เหมือนครั้งที่ผ่านๆมา ผมไม่เคยลืมว่าที่ผ่านมาที่เรามีความสัมพันกันเป็นเพราะผมหลอกเธอเป็นเพราะความแค้นความอยากเอาชนะอยากให้เธอเจ็บปวด แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่มันเกิดจากความรักจริงๆความรักที่ผมมีให้เธอเต็มหัวใจผมอยากชดเชยความผิดพลาดของตัวเองผมอยากทำให้เธอรู้ว่าตั้งแต่นี้ต่อไปผมจะมอบความรักที่ดีให้กับเธอ"แพร...คินรักแพรนะ" ผมกระซิบข้างหูเบาๆก่อนจะจูบลงไปที่ซอกคอของเธออย่างแผ่วเบามือไม้ของผมเริ่่มอยู่ไม่สุขผมลูบไล้ไปทั่วร่างกายของผ้าแพร ถ้าผมไม่อยากหยุดแค่จูบเธอจะว่าอะไรผมหรือเปล่านะเพราะตอนนี้เจ้าน้องชายของผมมันเริ่มตื่นตัว อาจจะเป็นเพราะผมห่างหายไปจากเรื่องอย่างว่ามานานมันก็เลยตื่นเร็ว ก็ตั้งแต่ที่ผมรู้ใจตัวเองว่าผมรักผ้าแพรแล้วก็ตามไปอยู่กับเธอที่น่านผมยอมอยู่อย่างลำบากเพราะอยากใกล้ชิดดูแลผ้าแพรกับลูกจนผมอดแปลกใจตัวเองว่าผมอยู่ได้ยังไงเพราะตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยอยู่อย่างลำบากมาก่อนไม่เคยนอนห้องที่ไม่มีแอร์ ไม่เคยนอนฟูก ไม่เคยทำกับข้าวไม่เคยซักผ้า ไม่เค