ผ้าแพร...
หลังจากทานอาหารในครัวเสร็จเรียบร้อยแล้วซึ่งก็ทานไปได้ไม่กี่คำเพราะรู้สึกเหนื่อยจนทานไม่ลงฉันก็ขึ้นไปหยิบหนังสือบนห้องมานั่งอ่านที่สวนหลังบ้านซึ่งเป็นที่ๆฉันมักจะปลีกตัวมานั่งที่นี่เป็นประจำหลังจากทำงานบ้านเสร็จเพราะมันทั้งเงียบและสงบ
สวบ สวบ ฉันหันซ้ายหันขวาเมื่อได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรเหยียบใบไม้ทำให้ฉันรีบหันไปมองรอบๆบริเวณที่ตัวเองนั่งเพราะกล้วว่าจะเป็นงูหรือสัตว์มีพิษ
"จ๊ะเอ๋"
"ว๊ายยยพี่พีท??" ฉันตกใจเมื่อจู่ๆก็มีคนเดินออกมาจากหลังพุ่มไม้ซึ่งก็ไม่ใช่ใครเป็นพี่พีทพี่ชายข้างบ้านที่ไม่ได้เจอกันนานเกือบห้าปีเพราะเขาไปเรียนเมืองนอก
"ดีใจจังที่แพรจำพี่ได้"
"พี่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ" ฉันถามพี่พีทหลังจากที่เขาลอดรั้วกั้นเข้ามาแล้วก็มานั่งข้างๆ
"มาถึงได้สองสามวันแล้ว"
"พี่เรียนจบแล้วสินะคะ"
"อื้มจบแล้วดิ ว่าแต่เราอ่ะเรียนถึงไหนแล้วเข้ามหาลัยแล้วล่ะสิพี่จำได้ว่าก่อนที่พี่จะไปเรียนต่อเรากำลังขึ้นมอสี่"
"แพรไม่ได้เรียนต่อมหาลัยค่ะ"
"อ้าวทำไมอ่ะ"
".........." ฉันไม่รู้จะตอบพี่พีทว่ายังไง
"อย่าบอกนะว่าพ่อแม่เราไม่ให้เรียน"
".........." ฉันเงียบอีกรอบ
"แล้วยัยพลอยล่ะได้เรียนต่อหรือเปล่า ถ้าให้เดาก็คงได้เรียนใช่ไหม"
"ค่ะ"
"พ่อกับแม่เรานี่ยังไงกัน รักลูกไม่เคยเท่ากันเลยตั้งแต่พี่จำความได้พี่ไม่เคยเห็นพ่อแม่เรารักและเอาใจใส่เราเลยอะไรก็ยัยพลอยยัยพลอยทำเหมือนกับว่าเราไม่ใช่ลูก" น้ำเสียงพี่พีทบ่งบอกได้ถึงความไม่พอใจพี่พีทเป็นพี่ข้างบ้านที่ฉันรู้จักมาตั้งแต่เด็กเพราะบ้านเราติดกันพี่พีทรู้เรื่องราวภายในบ้านของฉันทุกอย่างเพราะแม่พี่พีทกับแม่ฉันสนิทกันไปมาหาสู่กันตลอดทำให้ท่านรู้ความเป็นไปของครอบครัวฉันซึ่งแม่ของพี่พีทก็รักและเอ็นดูฉันเหมือนลูกเพราะสงสาร
"แพรชินแล้วค่ะ" ฉันตอบพี่พีทไปอย่างปลงๆ
"แล้วเราอยากเรียนต่อมั้ยล่ะ"
"อยากค่ะ"
"พี่ส่งเราเรียนเอามั้ย"
"พี่พีท" ฉันตกใจเมื่อได้ยินแบบนั้น
"ก็ในเมื่อพ่อแม่เราเค้าไม่ส่งเราเรียนพี่ก็จะส่งเราเรียนเอง"
"ไม่เป็นไรค่ะ แพรเกรงใจ" แม้ว่าฉันจะอยากเรียนต่อมากแค่ไหนแต่ฉันก็เกรงใจพี่พีทเพราะเอาจริงๆเราสองคนก็ไม่ได้เป็นญาติกันเราเป็นแค่คนรู้จักเป็นแค่เพื่อนบ้านแม้จะรู้จักกันมาตั้งแต่ฉันเกิดแต่เขาก็เป็นคนอื่นอยู่ดีเขาจะมาส่งเสียฉันเรียนหนังสือทำไม
"จะมาเกรงใจทำไมเราก็เหมือนน้องสาวของพี่พี่จะภูมิใจมากถ้าได้ส่งเสียเราให้ได้เรียนต่อ"
"แต่พ่อแม่ของแพรท่านคงไม่ยอมหรอกค่ะ"
"ทำไมจะไม่ยอมในเมื่อพี่จะเป็นคนส่งเราเรียนเองเงินของพี่ไม่ใช่เงินพ่แม่เราซะหน่อย"
"อย่าดีกว่าค่ะ แพรไม่อยากมีปัญหากับที่บ้านแต่ยังไงแพรก็ขอบคุณพี่พีทนะคะที่รักแล้วก็หวังดีกับแพรมาตลอด"
"เห้อออ เรานี่นะ"
ระหว่างฉันกับพี่พีทก็นั่งคุยกันพี่แม่บ้านวิ่งมาตามบอกว่าแม่ของฉันให้มาตามไปที่ห้องรับแขก
"เอ่อแล้วแขกกลับไปกันหมดแล้วเหรอจ๊ะ" ฉันถามพี่แม่บ้าน
"ยังค่ะทุกคนยังนั่งคุยกันที่ห้องรับแขกคุณแพรรีบๆเข้าไปนะคะ"
"งั้นเดี๋ยวแพรจะรีบตามไปนะ"
"ใครมาเหรอ" พี่พีทถามฉันหลังจากพี่แม่บ้านเดินไปแล้ว
"ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ยังไงแพรขอตัวก่อนนะคะพี่พีท"
"อื้มรีบไปเถอะเดี๋ยวจะโดนดุอีก"
ฉันรีบเก็บเสื่อเก็บหนังสือแล้วรีบเข้าบ้านเพราะถ้าไปช้าฉันอาจจะโดนแม่ดุ ฉันเดินก้มหน้าก้มตาเข้ามาในห้องรับแขกพอเงยหน้าขึ้นมาก็เจอสายตาดุและไม่พอใจของแม่กับพลอยใสที่ฉันไม่รู้ว่าฉันทำอะไรผิด ก่อนที่สายตาจะหันไปมองอีกฝั่ง
"อคิน??" ใจฉันไหววูบพร้อมกับเอ่ยชื่อของเขาออกมาอย่างไม่รู้ตัวซึ่งเขาก็มองฉันอยู่ก่อนแล้วฉันมองหน้าเขาด้วยใจที่สั่นเพราะเขาคือ อคินคนที่ฉันรัก ใช่เขาจริงๆด้วยฉันไม่ได้ตาฝาดเพราะคิดถึงเขาหรอกนะ เป็นเขาจริงๆ เขามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าพร้อมรอยยิ้มหยันตรงมุมปาก
4ปีต่อมา...."คินไปได้แล้วสายแล้วนะเดี๋ยวเข้าประชุมไม่ทัน" ฉันบอกคินที่ตอนนี้เอาแต่ชะเง้อมองเข้าไปในโรงเรียนอนุบาลคือเขาเป็นอยู่แบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว"แป๊บนึงคินกลัวน้องเพลงมองหาเราสองคนแล้วไม่เจอเกิดแกร้องไห้ขึ้นมาเราจะได้รับกลับบ้าน" ฉันต้องถอนหายใจกับความห่วงลูกสาวแบบเกินเบอร์ของคุณพ่อ ส่วนน้องอลันตอนนี้แกอายุได้8ขวบแล้วแกเรียนอยู่อีกโรงเรียนหนึ่งซึ่งรายนั้นพ่อก็ห่วงไม่แพ้กันแต่น้องอลันไม่ให้ไปส่งเพราะรู้ว่าพ่อเป็นยังไงก็เลยให้คนขับรถที่บ้านไปรับไปส่งแทน"ลูกไม่ร้องหรอกดูสิเล่นกับเพื่อนจนลืมเราสองคนแล้ว""คินห่วงลูกอ่ะคินกลัวลูกโดนเพื่อนแกล้งน้องเพลงยังเล็กอยู่เลยอายุแค่สามขวบเองนะ" น้ำเสียงเหมือนคนจะร้องไห้ของคนเป็นพ่อทำเอาฉันต้องถอนหายใจอีกรอบ"ถึงน้องเพลงจะอายุแค่สามขวบแต่แกก็เก่งนะดูสิเรามาส่งไม่มีร้องไห้เลย" ฉันพยายามปลอบเพื่อให้คินเลิกห่วงลูกแบบเกินกว่าเหตุแต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล"วันนี้เราพาแกกลับก่อนดีมั้ยรอให้คินทำใจได้เมื่อไหร่ค่อยพาแกมาโรงเรียน นะแพรนะ" คินหันมาพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนอย่างน่าสงสารแต่ถามว่าฉันสงสารมั้ย ไม่เลยค่ะ"ไม่ต้องเลยให้ลูกอยู่โรงเรียนส่วนคินก
ผ้าแพร...หลังจากที่เราสองคนพูดคุยปรับความเข้าใจกันแล้วฉันก็ชวนคินมาหาคุณหมอเพื่อตรวจดูอาการของฉันเพราะฉันคิดว่าฉันอาจจะกำลังท้องลูกคนที่สอง ตอนแรกฉันก็ไม่ทันได้คิดจนกระทั่งก่อนออกจากบ้านฉันเปิดตู้เสื้อผ้าก็เจอกับห่อผ้าอนามัยที่ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าสองเดือนที่ผ่านมาฉันไม่ได้หยิบมันออกมาใช้เลย"ยินดีด้วยนะคะคุณผ้าแพรทั้งครรภ์ได้6สัปดาห์แล้วค่ะ^^""เมียผมท้องแล้วจริงๆเหรอครับคุณหมอ คุณหมอไม่ได้หลอกให้ผมดีใจใช่มั้ยครับ" น้ำเสียงคินดูตื่นเต้นสุดๆเมื่อได้ยินคุณหมอบอกว่าฉันท้อง"จริงๆสิคะหมอจะโกหกทำไม^^""เอ่อ แล้วผมต้องทำยังไงต่อครับ คือตอนท้องลูกคนแรก..ผมทำตัวไม่ดีผม...ผมแทบไม่มีโอกาสได้ดูแลเมียกับลูกเลยผมไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อจากนี้" จากน้ำเสียงตื่นเต้นเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเศร้าลงในทันทีมันไม่ใช่แค่น้ำเสียงใบหน้าของเขาก็เศร้าลงเช่นกันจนฉันอดสงสารเขาไม่ได้เขาคงรู้สึกแย่เพราะตอนนั้นที่ฉันบอกเขาว่าฉันท้องเขาไม่ยอมรับซ้ำยังไล่ให้ฉันไปเอาลูกออกอีกเพราะคิดว่าไม่ใช่ลูกตัวเองถึงตอนหลังเขาจะรู้ความจริงและมาดูแลฉันตอนที่ฉันท้องได้หลายเดือนแล้วแต่ตอนนั้นฉันก็ตั้งแง่กับเขาพอลูกคลอดฉันก็ยังพาลูกหนีเข
ผ้าแพร...ฉันนั่งแท็กซี่มาที่โรงพยาบาลแทนการให้คนขับรถที่บ้านมาส่งเพราะฉันกลัวคินจะรู้ว่าฉันมาหาพลอยใส เขาเคยกำชับและสั่งฉันว่าห้ามยุ่งเกี่ยวกับพ่อแม่หรือพลอยใสอีกเพราะพวกเขาไม่เคยเห็นว่าฉันเป็นคนครอบครัว พวกเขาเห็นเงินสำคัญกว่าฉันยอมตัดขาดจากฉันเพื่อแลกกับเงินใช้หนี้ คินบอกว่าตอนนี้ชีวิตของฉันเป็นอิสระแล้วเขาบอกอีกว่าอย่าคิดว่าตัวเองเลวหรืออกตัญญูเพราะพวกเขาเลือกเงินมากกว่าฉันซึ่งเป็นลูกซึ่งฉันก็รับปากคินไปแต่หลังจากได้รับโทรศัพท์จากพลอยใสว่าตอนนี้ป่วยอยู่โรงพยาบาลฉันก็อดเป็นห่วงไม่ได้และนี่คือครั้งแรกที่พลอยใสโทรหาฉันตั้งแต่เราเป็นพี่น้องกันมาซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าเธอรู้เบอร์โทรของฉันได้ยังไงแต่เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะเพราะตอนนี้ฉันเป็นห่วงพลอยใสมาก ตอนที่เธอโทรมาเธอร้องห่มร้องไห้บอกอยากตายอยากฆ่าตัวตายทำให้ฉันรีบออกมาจากบ้าน พอมาถึงโรงพยาบาลฉันก็สอบถามกับเจ้าหน้าที่ว่าพลอยใสพักอยู่ห้องไหนพอรู้ห้องฉันก็รีบขึ้นมาทันทีปรากฏว่าพลอยใสอยู่ห้องพักรวมฉันรีบเดินมาหาทันที"ยัยพลอย""แพร ฮือออ แพร พี่มาเยี่ยมฉันจริงๆด้วย ฮือออ" พลอยใสลุกขึ้นนั่งแล้วกอดเอวฉันไว้แน่น"พลอยเป็นอะไรทำไมถึงมานอนโรงพย
ผ้าแพร...."ขอบคุณนะครับ ขอบคุณที่กลับมาหาคิน คินรักแพรนะ รักที่สุด" จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ เขาระดมจูบฉันไปทั่วใบหน้าเมือ่ฉันตอบตกลงแต่งงานกับเขา จากนั้นเราสองคนจูบกันอย่างดูดดื่ม มือของเขาเริ่มอยู่ไม่สุขลูบไล้ไปทั่วร่างกายของฉัน เขาบีบเคล้นหน้าอกเบาสลับหนัก"หิวนมเมียจังครับ" เสียงกระเส่าเอ่ยขึ้นข้างหูทำให้ฉันรู้ว่าตอนนี้เขาต้องการอะไร"อื้ออ คินอย่านะ" "แพรจ๋า คินอยากกก..." แต่ไม่ทันทีเราสองคนจะทันได้ทำอะไรกันก็มีเสียงเคาะประตูดังอยู่หน้าประตูไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครก๊อก ก๊อก ก๊อก"ปะป๊าค๊าบบบบ อลันอยากเล่นน้ำแล้วค๊าบบบบ ปะป๊าาาาา ปะป๊าค๊าบบ เปิดประตูให้หน่อบค๊าบบบบ""เห้ออออ" พอได้ยินเสียงลูกคินก็ถึงกับถอนหายใจอย่างสิ้นหวังทำเอาฉันถึงกับขำออกมาอย่างช่วยไม่ได้อคิน...หลังจากวันนั้นผมก็พาผ้าแพรกับน้องอลันมาอยู่ที่บ้าน ผมรู้สึกได้ถึงความสุขที่เฝ้ารอมานาน การที่ได้มีผ้าแพรกับลูกอยู่ในชีวิตประจำวันของผมมันเป็นอะไรที่ผมเฝ้ารอมานานและวันนี้มันก็เกิดขึ้นแล้ว มันทำให้ผมมีแรงที่จะทำอะไรต่อมิอะไรทำเพื่อให้พวกเค้าทั้งสองคนมีความสุขผ้าแพรไม่ต้องลำบากเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้วผมให้เธอเป็นแม่บ้านอย่างเดียวไ
ผ้าแพร...กว่าคินจะยอมพาฉันกลับบ้านก็ปาไปเกือบสามทุ่มพอมาถึงฉันก็ถามหาน้องอลันทันทีเพราะไม่เห็นแกคุณป้าบอกว่าแกเล่นจนเหนื่อยหลับไปตั้งแต่ทุ่มนึงแล้ว ฉันกับคินก็เลยขึ้นไปดูลูกที่ตอนนี้แกนอนอยู่ห้องนอนของคินพอเดินเข้ามาก็เจอแกนอนกอดหมอนข้างหลับอย่างมีความสุขอยู่บนเตียง"คินขอบคุณแพรอีกครั้งนะ" คินกอดฉันจากทางด้านหลังเอาคางเกยไหล่ของฉันก่อนจะพูด"ขอบคุณเรื่องอะไรอีก""ก็ขอบคุณที่เลี้ยงลูกของเราอย่างดีและไม่ได้สอนลูกให้ลูกเกลียดคิน""แพรจะทำแบบนั้นทำไมแพรรู้ว่าคินรักลูกมาก""แต่คินก็ไม่ได้ช่วยแพรเลี้ยงลูก""คินไม่ผิดแพรเองต่างหากที่ผิดและต้องขอโทษคินถ้าแพรไม่พาแกหนีไปคินก็คงได้ทำหน้าที่พ่อได้สมบูรณ์มากกว่านี้""ที่แพรหนีไปก็เพราะตอนนั้นคินไม่ทำให้แพรเชื่อใจมันก็เลยไม่แปลกที่แพรจะหนี แพรรู้มั้ยว่าจดหมายที่แพรเขียนฉบับนั้นคินเอามันอ่่านมันบ่อยมากเลยนะเพราะมันตอกย้ำให้คินรู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาคินทำเรื่องเลวร้ายกับแพรมากแค่ไหน""เรื่องมันก็ผ่านมาแล้วอย่าพูดถึงมันอีกเลยนะ""คินจะลืมได้ยังไงคินทำร้ายแพรโดยที่แพรไมไ่ด้ผิดอะไรเลย ถ้าคินไม่เข้าใจผิดเรื่องแพรกับไอ้พีท...คินขอโทษจริงนะที่ตอนนั้นคิ
อคิน....จุ๊บ จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ ผมจูบผ้าแพรด้วยความรู้สึกโหยหา นานแค่ไหนแล้วที่ผมไม่ได้กอดไม่ได้จูบไม่ได้สัมผัสกับร่างกายนี้ จูบครั้งนี้มันไม่เหมือนครั้งที่ผ่านๆมา ผมไม่เคยลืมว่าที่ผ่านมาที่เรามีความสัมพันกันเป็นเพราะผมหลอกเธอเป็นเพราะความแค้นความอยากเอาชนะอยากให้เธอเจ็บปวด แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่มันเกิดจากความรักจริงๆความรักที่ผมมีให้เธอเต็มหัวใจผมอยากชดเชยความผิดพลาดของตัวเองผมอยากทำให้เธอรู้ว่าตั้งแต่นี้ต่อไปผมจะมอบความรักที่ดีให้กับเธอ"แพร...คินรักแพรนะ" ผมกระซิบข้างหูเบาๆก่อนจะจูบลงไปที่ซอกคอของเธออย่างแผ่วเบามือไม้ของผมเริ่่มอยู่ไม่สุขผมลูบไล้ไปทั่วร่างกายของผ้าแพร ถ้าผมไม่อยากหยุดแค่จูบเธอจะว่าอะไรผมหรือเปล่านะเพราะตอนนี้เจ้าน้องชายของผมมันเริ่มตื่นตัว อาจจะเป็นเพราะผมห่างหายไปจากเรื่องอย่างว่ามานานมันก็เลยตื่นเร็ว ก็ตั้งแต่ที่ผมรู้ใจตัวเองว่าผมรักผ้าแพรแล้วก็ตามไปอยู่กับเธอที่น่านผมยอมอยู่อย่างลำบากเพราะอยากใกล้ชิดดูแลผ้าแพรกับลูกจนผมอดแปลกใจตัวเองว่าผมอยู่ได้ยังไงเพราะตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยอยู่อย่างลำบากมาก่อนไม่เคยนอนห้องที่ไม่มีแอร์ ไม่เคยนอนฟูก ไม่เคยทำกับข้าวไม่เคยซักผ้า ไม่เค