แซะมาแซะกลับครับ ไม่กลัวโดนไล่ออกด้วย เพราะอย่างที่บอก ตำแหน่งลอย ๆ จะไปมีอำนาจอะไรให้เกรงใจ พอทำงานแล้วไม่มีผลงานประจักษ์ ถึงตำแหน่งใหญ่แค่ไหนใบหม่อนก็ท้าชน อย่างน้อยเขาก็ยังมีเพื่อนพี่น้องเป็นแบ๊คอ้อ มีคุณไซรัสที่กายอยากได้นักอยากได้หนาเป็นแบ๊คด้วยการเผชิญหน้าของใบหม่อนและกายในออฟฟิศก็จบลงด้วยการที่ผู้จัดการฝ่ายประสานงานผู้บริหารสะบัดหน้าเดินหนีไปเลย วันนี้ใบหม่อนจึงถือว่าได้เริ่มงานด้วยสิ่งอัปมงคล สมควรไปรดน้ำมนต์ปัดเสนียด“ปากแกดีเหลือเกินนะใบหม่อน ถ้าเขาเอาไปพูดกับผู้บริหารแกเน่าแน่” พีระเอ่ยแซวใบหม่อนในช่วงเวลาพักเที่ยงกลางวัน พวกเขาลงมาหาของอร่อยกินตามประสาทพนักงานเซลล์ขายคอนโดโง่ ๆ “ไม่ต้องรอหรอก มันจ้องจะเล่นงานผมอยู่แล้ว ทั้งป้ายสี ปล่อยข่าวลือ แย่งผู้ชาย เป่าหูผู้บริหารคงไม่ไกลเกินเอื้อมหรอก” ใบหม่อนเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจมากมาย“ดี งั้นต่อไปแกก็ไสหัวไปดูแลลูกค้าซะ ไม่ต้องโคจรมาเจอกับคุณกายให้ฉันเสียวสันหลังแล้ว สองสัปดาห์หน้าจะมีลูกค้าจากเม็กซิโก ฉันยกให้แกดูแลเลย เขาน่าจะอยากได้คอนโดแถววิทยุ แกก็ลองคุยดูแล้วกัน” พีระเอ่ยอย่างชิว ๆ ก่อนจะชะงักเมื่อเจอกับหนุ่มหล่อกล้ามแน่นตรงส
"เอ่อ คุณใบหม่อน มันจะดีเหรอครับ" หนุ่มเอ่ยขึ้นมาอย่างลำบากใจ เขาเองก็เป็นคนของสีหนุ จะให้มาขับรถตามจับผิดเจ้านายแบบนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ดูจากสีหน้าของใบหม่อนตอนนี้แล้ว คงไม่มีอะไรห้ามเขาได้แล้ว"จะไปไม่ไป ไม่ไปผมจะโบกแท็กซี่แล้วนะ" ใบหม่อนไม่พูดเปล่า รีบก้าวขึ้นไปที่ถนน โบกแท็กซี่ด้วยความเร็วราวกับจะโบกเอาความโกรธและความหึงหวงในใจให้มันหมดไป บอดี้การ์ดอย่างหนุ่มถึงกับตามไม่ทัน พลังของเมียขี้หึงนี่มันแรงกล้าจริง ๆ "แกจะไปไหนเนี่ย ไม่กินข้าวแล้วเหรอใบหม่อน" พีระตะโกนไล่หลังมา ตอนที่ใบหม่อนกำลังจะเปิดประตูแท็กซี่"ลาช่วงบ่าย ไปตบเมียน้อย" ใบหม่อนตอบกลับเสียงดังแบบไม่แคร์ใคร ทำเอาพีระที่ยืนอยู่ถึงกับสะดุ้งจริง ๆ งานมันก็ยังเหลืออยู่เยอะ แต่เขาสนับสนุนให้พนักงานทุกคนไปจัดการปัญหาชีวิตของตัวเองให้เรียบร้อยไปตบแล้วต้องมาเม้าท์ให้ฟังด้วยนะขณะที่นั่งอยู่ในแท็กซี่ ใบหม่อนนั่งครุ่นคิดอย่างหงุดหงิดเต็มที่ ภาพที่กายเดินเคียงข้างสีหนุวนอยู่ในหัว จังหวะที่กายสะดุดแล้วสีหนุประคองไว้ มันเหมือนเป็นฉากจากละครน้ำเน่า แต่ก็เกิดขึ้นจริงตรงหน้าเขามองด้วยตาเปล่าก็รู้ว่ามารยาล้วน ๆ ไอ้กาย มันตั้ง
ความไม่แน่นอนในความสัมพันธ์ทำให้ใจของใบหม่อนสั่นไหว แม้ว่าเขาจะไม่เคยมีความสัมพันธ์ที่จริงจังกับใครมาก่อน แต่ก็รู้ว่าความซื่อสัตย์เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตคู่แต่ก็ต้องยอมรับว่า...ชีวิตคู่ของเขาไม่เหมือนกับคนอื่นขณะที่เสียงของคนขับแท็กซี่ยังลอยเข้าหู ใบหม่อนเริ่มตระหนักถึงความจริงบางอย่าง ความรู้สึกที่ทับถมอยู่ภายในถูกดึงกลับมาสู่สติ เขาหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะพยายามบอกตัวเองซ้ำ ๆ ว่าเขาเป็นใครในเรื่องนี้ใบหม่อนแต่งงานเพราะเงิน แต่งกับสีหนุแลกกับเงิน 20 ล้าน ไม่ใช่เพราะความรัก และนั่นก็หมายความว่า เขาไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่ายความสุขส่วนตัว หรือแม้แต่รสนิยมของคุณนุจริงมั้ย…แต่แม้จะพยายามปลอบใจตัวเองแบบนั้น ใบหม่อนก็ยังรู้สึกวูบวาบในอก เพราะถึงจะคิดว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์อะไร แต่หัวใจของเขามันก็ยังคอยแอบหวังอะไรบางอย่างอยู่ดี“บางทีนะน้อง ผู้ชายมันก็เบื่อน้ำพริกถ้วยเก่า ลีลาเดิม ๆ เขาอาจจะอยากลองอะไรที่สดใหม่ แซ่บถึงใจ อย่าไปคิดมาก” คนขับแท็กซี่พูดพลางยักคิ้ว“เดี๋ยวนะ" ใบหม่อนที่กำลังจมอยู่กับความคิดถึงกับชะงักกึก "พี่หมายถึงไอ้นั่นมันแซ่บกว่าผมเนี่ยนะ!!!” ใบหม่อนตอบกลับเสียงสูง รู้สึกเหมื
ใบหม่อนสั่นไปทั้งตัว แม้จะพยายามห้ามความคิดที่ว้าวุ่น แต่เขาก็ไม่อาจห้ามตัวเองไม่ให้ตามไปให้เห็นกับตา เขามาไกลขนาดนี้แล้ว ไม่ว่าจะยังไงก็ต้องเห็นภาพที่ชัดเจนเพื่อไม่ให้ค้างคาใจอีกต่อไปเขารีบวิ่งตามกายและสีหนุเข้าไปในโรงแรมหรู บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความหรูหราและความผ่อนคลาย เหมาะแก่การควงคู่มาเล่นชู้ยิ่งนัก ใบหม่อนเร่งฝีเท้าตามทั้งคู่ไป แต่แล้วเมื่อเขาเลี้ยวตามไปที่ชั้นสอง หัวใจเขาก็เต้นกระหน่ำ เมื่อเห็นภาพที่ไม่คาดคิดกายและสีหนุยืนอยู่ตรงหน้า ราวกับทั้งคู่รู้ว่าเขาจะตามมา พวกเขายืนกอดอกมองมาอย่างกับรอเขาอยู่แล้ว"แก..." ใบหม่อนอึ้งไป ทันใดนั้นความมั่นใจทั้งหมดหายไป เขากลายเป็นคนที่ถูกจับได้เองเสียอย่างนั้น จากที่ตั้งใจจะมาจับผิด กลับกลายเป็นโดนดักไว้แบบไร้ทางหนีเสียเอง“ฉันเห็นตั้งแต่แกลงจากแท็กซี่แล้ว นี่มันเวลางานไม่ใช่เหรอ แกมาทำอะไรตรงนี้” กายเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา สายตาเต็มไปด้วยความดูถูกใบหม่อนอึดอัด ใจเต้นรัว มองไปรอบ ๆ เห็นผู้คนเดินขวักไขว่กันไปมา แต่ทำไมเขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนผิดไปเสียอย่างนั้น“แล้วแกมาทำอะไร” ใบหม่อนสวนกลับ ทั้งที่เสียงยังสั่น แต่พยายามไม่ให้เสี
คำพูดนั้นราวกับสายฟ้าฟาดลงกลางใจ ใบหม่อนรู้สึกเหมือนทุกอย่างแตกสลาย เขากระตุกยิ้มเย้ยตัวเอง หัวเราะเบา ๆ ด้วยความสมเพชครอบครัววสุธรนี่มันเลวร้ายจริง ๆ เขาโดนพี่น้องฝาแฝดเล่นกับหัวใจทั้งคู่เลยดี...ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปก็คุยกันแต่เรื่องเงินแล้ว หัวใจของเขาจะเก็บเข้าลิ้นชัก ไม่ให้คนแก่หัวใจหมาอย่างสีหนุได้เล่นสนุกอีกต่อไป“ผมขอตัวนะ ต้องไปประชุม” สีหนุเอ่ยเสียงราบเรียบ ก่อนจะปลีกตัวเดินไปยังห้องรับรองของโรงแรมหรู ราวกับการสนทนากับใบหม่อนเมื่อครู่ไม่มีความหมายใด ๆ ทุกคำพูดของเขาตอกย้ำความเย็นชาที่แผ่กระจายออกมารอบตัว ตอนนี้เขาเห็นแล้วว่าทั้งคู่น่าจะมาประชุมอะไรสักอย่างด้วยกันที่โรงแรมแห่งนี้ แต่นั่นมันจะสำคัญอะไรหัวใจใบหม่อนพังไปหมดแล้ว“คันมากขนาดนี้เลยเหรอ น่าสมเพช แต่เขาไม่เอาคนแบบแกหรอกนะ เพราะแกมันกระจอก” กายยิ้มเย้ยอย่างสะใจ ขณะที่เอ่ยคำพูดร้ายกาจท่าทางพอใจที่เห็นใบหม่อนแสดงสีหน้าเจ็บช้ำ ที่ผ่านมาเวลาเขารู้ว่าใครกำลังจีบหรือกำลังเริ่มคุยกับใบหม่อน กายจะต้องรีบปาดหน้าชิงมาเป็นของตัวเองก่อนเสมอ ทว่าดูเหมือนใบหม่อนจะไม่เคยรู้สึกรู้สากับเรื่องที่เกิดขึ้นผิดกับครั้งนี้..ผิดกับผู้ชายคนน
สามปีก่อนใบหม่อน ภควัต ธีระวัฒนา หนุ่มน้อยน่ารักผู้เป็นแก้วตาดวงใจของพ่อและแม่ ในที่สุดก็สำเร็จการศึกษาเป็นที่เรียบร้อย แม้ว่าช่วงระหว่างเรียนจะต้องทำงานหนักควบคู่ไปด้วยเพื่อส่งเสียตัวเอง เกรดเฉลี่ยของเขาอาจจะดูพื้น ๆ ไม่ได้โดดเด่น แต่สำหรับอดีตคุณหนูผู้เคยมีทุกอย่างอย่างเขา ความภูมิใจนั้นยิ่งใหญ่เหลือเกินใบหม่อนไม่เคยรู้สึกอับอายกับการที่ครอบครัวเคยล้มละลาย หากตัดเรื่องการถูกกลั่นแกล้งและเหยียดหยามจากกาย ผู้เป็นศัตรูตัวฉกาจออกไปได้ เชื่อเถอะว่าหาเงินมาจุนเจือครอบครัวให้พ้นแต่ละเดือนสำคัญกว่า ใบหม่อนไม่ได้สวมบทบาทเป็นลูกคุณหนูที่ต้องประคับประคองชื่อเสียงดีงาม แต่กลับเป็นเด็กหนุ่มที่พร้อมจะสู้ชีวิตอย่างเต็มที่เพื่อพ่อแม่แม้ว่าพ่อแม่ของใบหม่อนจะต้องทำงานหนักเพื่อใช้หนี้ที่กิจการล้มละลาย แต่บ้านของพวกเขาก็ยังเป็นสิ่งเดียวที่ไม่อาจตัดใจขายออกไปได้ บ้านหลังนั้นเต็มไปด้วยความทรงจำมากมาย ถึงจะไม่เหลือทรัพย์สินอื่นใดอีก แต่บ้านก็ยังเป็นบ้านหลังจากสำเร็จการศึกษาแล้ว แม้ยังไม่ได้งานประจำที่มั่นคง ใบหม่อนก็ไม่ได้หมดหวัง ถึงตลาดงานจะซบเซา แต่เขายังเชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเองและมองโลกในแง่ดีว
ใบหม่อนหันไปมองอย่างงุนงง ชายคนนี้ร่างกายสูงใหญ่ตามแบบฉบับคนต่างชาติ ผมสั้นสีดำตามสมัยนิยม อายุน่าจะมากกว่าใบหม่อนหลายปี ใบหน้าของเขาถูกปิดด้วยหน้ากากอนามัยเช่นเดียวกับผู้คนรอบข้าง แต่ดวงตาคมเบื้องหลังแว่นสายตานั้นฉายแววตระหนก “คุณมายุ่งอะไรด้วย” ใบหม่อนตอกกลับอย่างแข็งกร้าว เสียงของเขาแม้จะเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่สำเนียงภาษาอังกฤษของเขานั้นดีไม่แพ้ชายต่างชาติคนนี้เลยสักนิด เขาพยายามสะบัดตัวออกจากอ้อมแขนของอีกฝ่าย แต่กลับพบว่าชายหนุ่มรัดเขาไว้แน่นยิ่งขึ้น“เป็นบ้ารึยังไง ทำไมไม่รักชีวิตตัวเองบ้างเลย” ชายหนุ่มพูดอย่างหัวเสีย“รักไปทำไม จะอยู่ต่อไปทำไม ผมไม่อยากอยู่ ชีวิตเฮงซวยแบบนี้” ใบหม่อนเอ่ยอย่างสิ้นหวัง น้ำตาเอ่อล้นออกมามากขึ้นชายหนุ่มผู้ไม่รู้จักกันแต่กลับเข้ามาช่วยชีวิตใบหม่อนเอาไว้ ถอนหายใจยาวก่อนจะปรับท่าทีให้นุ่มนวลขึ้น เขาเข้าใจความเจ็บปวดที่ใบหม่อนเผชิญอยู่ เพียงแค่ไม่รู้วิธีที่ถูกต้องจะสื่อสารให้เขาเข้าใจ“อยู่ต่อไปสิ ชีวิตมันไม่ได้มีแต่เรื่องแย่ตลอดหรอก มันจะมีสักวันแน่นอนที่จะดีขึ้น คนเราต้องอยู่ได้ด้วยความหวัง” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความอ่อนโยน“ผมไม่เห
“ผมน่ะเหรอ อืม... ผมจบบริหารนะ แต่ไม่ชอบอะไรเป็นพิเศษ อะไรทำได้ผมก็ทำทั้งนั้น” ใบหม่อนตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ “จริง ๆ ผมชอบอยู่บ้านนะ ชอบแต่งบ้าน จัดสวน เสียดายที่ตอนนี้ไม่มีบ้านให้ทำแล้ว”ชายต่างชาติพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะให้กำลังใจด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “เดี๋ยวก็มีใหม่ คนเราล้มแล้วต้องลุกให้ไว ตั้งเป้าหมายให้ตัวเอง แล้วลุกขึ้นมาใหม่ดีกว่า”คำพูดเรียบง่ายนี้สะท้อนกลับมาทำให้ใบหม่อนเริ่มได้สติกลับคืนมา ในเมื่อเขายังมีลมหายใจอยู่ ก็ยังมีโอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง แม้จะไม่มีพ่อแม่ ไม่มีทรัพย์สินเหลืออยู่เลย แต่ความรู้ที่พวกท่านให้เขามาตลอดยี่สิบกว่าปีก็ยังคงอยู่ใบหม่อนค่อย ๆ ยืนขึ้น ปาดน้ำตาและยิ้มบาง ๆ ให้กับชายแปลกหน้าที่ช่วยดึงเขากลับจากขอบเหวของความสิ้นหวัง “ขอบคุณมากเลยนะครับที่ช่วยเตือนสติ ขอโทษด้วยที่ทำให้แตกตื่น ผมควรไปแล้ว”ทว่าเขายังไม่ทันได้ก้าวจากไป ชายคนนั้นกลับคว้าแขนเขาไว้เบา ๆ “ครับ” ใบหม่อนถามอย่างสงสัย“เธอชื่ออะไรเหรอ” ชายแปลกหน้าถามขึ้น“ผมชื่อใบหม่อนครับ” ใบหม่อนตอบ พลางสังเกตเห็นรอยยิ้มที่อบอุ่นจากอีกฝ่าย“เธอดูเฉลียวฉลาดมากนะ แล้วก็พูด
“เท่าไหร่ล่ะครับ” ใบหม่อนเอ่ยแหย่ สีหน้าแฝงความตื่นเต้นปนขี้เล่น“เท่าที่เธออยากได้” สีหนุตอบด้วยความมั่นใจเยี่ยมมากครับแด๊ดดี๊ มันต้องแบบนี้สิ"มีแค่เงินเหรอครับ" สีหนุมองเขาด้วยสายตาจริงจัง “มีงานแต่งด้วยนะ ฉันจะให้เกียรติเธออย่างเต็มที่ ในฐานะภรรยาของสีหนุ วสุธร เราจะจัดงานแต่งงานกัน”ใบหม่อนหน้าแดงทันที หัวใจเต้นแรงเมื่อได้ยินคำพูดที่หนักแน่นและจริงจังของสีหนุ เขาก้มหน้าลงเล็กน้อย หัวเราะอย่างเขิน ๆ ก่อนจะบ่นอุบอิบ“นั่นมันก็ต้องแต่งอยู่แล้วนี่ครับ ถ้าจะต่อสัญญา คุณควงผมไปทั่วจนลงข่าวทุกสำนัก ผมเสียหายหมดแล้วนะครับ”สีหนุยิ้มบาง ๆ ก่อนเอ่ยเสียงนุ่ม “เรื่องนั้นฉันยินดีชดใช้ให้เต็มที่…ฉันไม่ได้มีให้เธอแค่เงินหรอกนะ” เขาพูดจบก็หยิบเอกสารบางอย่างออกมายื่นให้ใบหม่อนใบหม่อนมองลงไปที่เอกสารในมือ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที เป็นเอกสารโฉนดที่ดินบ้านหลังเก่าที่เขาเคยฝันอยากได้กลับคืน บ้านที่เป็นแหล่งรวมความทรงจำที่มีทั้งพ่อและแม่ บ้านที่เต็มไปด้วยความรักและอบอุ่นที่เขาโหยหามาตลอดชีวิตเขาจับเอกสารนั้นด้วยมือที่สั่นเล็กน้อย หัวใจของเขาเต้นแรง พลางลูบโฉนดเบา ๆ อย่างไม่อยากเชื่อสายตา น้ำตาเริ
“สรุปแล้วมันยังไง แกกับคุณนุ จากตอนแรกเหมือนจะจีบกับคนน้อง แล้วสรุปได้มาคบกับคนพี่ ฉันสับสนไปหมด แล้วถามจริง ๆ นะเขาแก่กว่าแกตั้งเยอะ หนุ่ม ๆ อย่างแกไม่รู้สึกแปลก ๆ เหรอ”“พี่พีไม่รู้อะไร คนแก่นี่แหละแซ่บ ผมชอบ” ใบหม่อนเอ่ยอย่างทะเล้นส่ายหัวอย่างระอาพร้อมกับกลอกตามองบนใบหม่อนหัวเราะลั่นก่อนจะหยิบโทรศัพท์มาเช็กข้อความ“อุ๊ย ไปก่อนนะครับ ผัวมารับแล้ว บาย” ใบหม่อนโบกมือให้หัวหน้าหนุ่มโสดจอมสอดแล้วหมุนตัวเดินจากไป ทิ้งพีระไว้ลำพังเออ ให้มันโสดแค่กูนี่แหละใบหม่อนเดินลงมาด้านล่างด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มสดใส ทุกย่างก้าวของเขาเต็มไปด้วยความสุข ตลอดทางมีสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่เขา คนในบริษัทต่างกระซิบกระซาบกันเบา ๆ ถึงเมียเจ้านายที่เดินยิ้มแย้มราวกับมีโลกเป็นของตัวเอง วันนี้ใบหม่อนตั้งใจออกไปเดทกับสามี หลังจากที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ออกไปเที่ยวด้วยกันเพราะตารางงานแน่นเอี้ยดครั้งสุดท้ายที่ใบหม่อนตื่นเต้นกับการเดทขนาดนี้ คือครั้งนั้นที่เขาเคยไปเดทกับคุณนันท์ อีกฝ่ายอุตส่าห์ให้คนขับรถหรูมารับเพื่อพาไปดินเนอร์ร้านอาหารฝรั่งเศสหรูหรา เหมือนเป็นความฝันที่กลายเป็นการหลอกลวงอันขมขื่น แต่เขาปฏิเสธไม่ได
“มึงมาขอโทษเมียกูก่อน” เสียงของสีหนุดังขึ้นก่อนที่อลันจะเปลี่ยนเป้าหมายไปกล่าวขอโทษ แต่ขอโทษเปล่า ๆ ก็เกรงว่าจะไม่ได้คนตัวเล็กที่ทั้งโดนตบ โดนบีบคอ แล้วยังโดนลูกปืนเชิดหน้าขึ้นอย่างเอาแต่ใจ“ผมรับคำขอโทษเป็นเงินสดเท่านั้น” เจ็บทั้งตัว แถมยังถูกขังตั้งหลายวัน เรื่องอะไรจะยอมง่าย ๆ อย่างน้อยเขาต้องได้อะไรติดไม้ติดมือมาบ้าง สุดท้ายใบหม่อนก็ได้รับการชดเชยเป็นคอนโดแถววิทยุเดิมทีริคาร์โดคู่สัญญาต้องการซื้อ กระบวนการผ่านไปได้ด้วยดีด้วยความรวดเร็ว นอกจากนั้นยังมีโบนัสเป็นเงินก้อนจำนวนหนึ่งให้แก่พนักงานที่ดูแล (ใบหม่อน) เงินที่ทำให้คนตัวเล็กแทบลืมความข้องหมองใจไปเสียหมดอย่างไรก็ตาม สำหรับตระกูลวิลาวรรณนั้นก็ยังคงไม่สามารถให้อภัยตระกูลวสุธรได้อย่างสนิทใจ เธอเลือกที่จะเว้นระยะห่างจากคนในตระกูล แม้จะไม่ได้แสดงออกถึงความโกรธแค้นอย่างเดิม แต่ความบาดหมางยังคงค้างคาอยู่ในใจของพวกเขาในส่วนของพิจิตราผู้ที่เป็นคนพบข้อมูลและคลิปที่เก็บซ่อนเอาไว้ของพี่สาวแล้วเอามาเปิดโปง เธอเองก็ยังคงวางเฉยต่อสีหนุ ถึงแม้ว่าเขาไม่ใช่คนที่ฆ่าพี่สาวของเธอ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าสาเหตุความตายนั้นมาจากคนในครอบครัววสุธร อย่างไรก
หลังจากนั้น พิณธาราถูกจับ และเรื่องราวที่เธอเคยพยายามปกปิดก็ถูกขุดคุ้ยขึ้นมาจนกลายเป็นข่าวฉาว การกระทำผิดของเธอถูกเปิดเผยมากขึ้นเรื่อย ๆ จนแทบจะนับไม่ถ้วน เรื่องราวของเธอและตระกูลวสุธรกลายเป็นข่าวใหญ่โต สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันทั่วทั้งสังคม บ้างก็พูดกันว่า สีหนุ พี่ชายของเธอ ตั้งใจจะมาซ้ำเติมบริษัท ตั้งใจมากระทำเพื่อแก้แค้นให้พ่อแม่ ภรรยา และตัวเองอย่างชัดเจนส่วนคุณนันท์ หลังจากเรื่องนั้นก็ไม่ยอมพบปะใคร หายหน้าหายตาจากสังคมไปช่วงหนึ่ง นอกจากเรื่องงานแล้วเขาก็ไม่ออกมาพบปะกับใคร อาการที่แสดงออกมาดูน่าเป็นห่วงมาก แต่สีหนุจะบอกกับใบหม่อนให้วางใจเพราะข้างกายของนันท์ยังมีวิทย์คอยประกบอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็พอจะมองออกได้ว่าสีหนุเองก็ยังกังวลและเป็นห่วงน้องชายของเขาไม่น้อยเลยเรื่องราวยิ่งครึกโครมมากขึ้น จากการสืบสวนย้อนหลังของเรื่องนี้นำไปสู่การเปิดเผยคดีเก่าที่ยังไม่ได้รับการไขปริศนา การเสียชีวิตของบิดาสีหนุและนันท์ถูกขุดขึ้นมาใหม่ เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นร้อนในสังคม ซึ่งเรื่องราวค่อย ๆ แสดงให้เห็นถึงความจริงเบื้องหลังอันโหดเหี้ยมของพิณธาราที่ถูกซุกซ่อนอยู่ภายใต้ท่าทางใจเย็นน่าเชื่อถื
ดูเหมือนว่าความปรารถนาของเธอจะไม่สัมฤทธิ์ผล คนร้ายตัวจริงคงรู้อยู่แน่ชัดว่าเธอจะต้องบอกความจริงกับสีหนุเข้าสักวันจึงได้ไปจัดการเธอเสียก่อน“คนที่ฆ่าพ่อแม่ของคุณ คนที่หวังจะฮุบอำนาจของวสุธรไปไว้อยู่ในมือ ก็คือคุณพิณธารา คุณอาของคุณค่ะ”สิ้นเสียงของพลอยคลิปก่อนดับไปพร้อมกับเสียงฮือฮาของผู้คน ตามด้วยเสียงโวยวายของเจ้าของงานอย่างพิณธาราที่อยู่ในภาพช็อกไม่ต่างจากคนอื่น“นี่มันอะไรน่ะ มันไม่จริงเลยนะคะทุกคน ต้องมีใครตั้งใจใส่ร้ายฉันแน่นอน ฉันไม่ได้ทำนะคะ” พิณธาราประกาศกร้าว ทว่าสักพักพิจิตรา น้องสาวของพลอยไพลินก็บุกเข้ามาในงานด้วยท่าทางมาดมั่น“จะไม่จริงได้ยังไง หลักฐานพวกนี้ คลิปนี้ฉันเจอมันถูกเก็บไว้ในห้องของพี่พลอย มันถูกซ่อนในนั้นตั้งแปดปีก่อนพี่พลอยจะตายด้วยซ้ำ” หญิงสาวเอ่ยเสียงเข้ม เรียกเสียงฮือฮาจากผู้คนมากขึ้นไปอีก นักข่าวในงานนั้นถึงกับยิงแฟลชใส่เธอและพิณธาราไม่หยุด“และไม่ได้มีแค่คลิปนี้นะ ยังมีหลักฐานทุกอย่างที่เป็นลายลักษณ์อักษร พี่พลอยเป็นคนรวบรวมด้วยตัวเองแล้วซ่อนเอาไว้” ทันทีที่สิ้นเสียงของพิจิตรา ตำรวจก็บุกเข้ามาในงานอย่างไม่มีใครคาดฝันเพื่อมาจับกุมตัวเจ้าของงานอย่างพิณธารา
“ดิฉันเชื่อนะคะว่าทุกท่านที่มาที่นี่ก็ด้วยจุดประสงค์เพื่อให้สังคมของเรานั้นดีขึ้น” พิณธาราเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงจริงใจ ดวงตาของเธอฉายแววมั่นคง“พวกเราเองก็เช่นกัน แม้ว่าสีหนุจะมีกิจการเติบโตแตกแขนงแยกไปจากวสุธร แต่หลานรักของดิฉันก็ยังไม่ลืมรากเหง้า เราต่างทำงานเพื่อความสำเร็จและการเติบโตของตระกูล” เธอยิ้มให้สีหนุและนรภัทรอย่างภาคภูมิใจ“และเพื่อความตั้งใจในการตอบแทนสังคม เราได้จัดงานการกุศลในคืนนี้ขึ้น โดยรายได้ทั้งหมดจะมอบให้กับโครงการช่วยเหลือคนไร้บ้าน”เธอผายมือไปทางหน้าจอขนาดใหญ่ด้านหลัง ขณะที่ผู้ร่วมงานตั้งตารอรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการและความร่วมมือระหว่างสองบริษัทใหญ่ ทว่าภาพที่ปรากฏกลับไม่เป็นอย่างที่คาดไว้ เพราะหน้าจอใหญ่กลับเป็นคลิปวิดีโอของหญิงสาวผู้ล่วงลับพลอยไพลิน วิลาวรรณ อดีตภรรยาของสีหนุพลอยมีท่าทีหวาดระแวงเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้น“ฉันมีเวลาไม่มากนะคะ หวังว่าคลิปนี้จะส่งถึงมือของคุณนุ ฉันจะเขียนพินัยกรรมไว้แล้ว ถ้าฉันตายจริง ๆ หวังว่าเขาจะยื่นสิ่งนั้นให้คุณกับมือนะคะ เพราะถ้าคุณได้เห็นวิดีโอนี้แสดงว่าฉันคงตายไปแล้ว ฉันทนเก็บความรู้สึกผิดแบบนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว” หญิงสาวหลั่
เมื่อควงคู่กันเข้ามา สีหนุและใบหม่อนราวกับเป็นกิ่งทองใบหยกอย่างแท้จริง ความสุขุมและเข้มแข็งของสีหนุถูกเสริมด้วยความอ่อนหวานและอ่อนโยนของใบหม่อน ทั้งคู่เดินเคียงข้างกันอย่างสง่างาม และประหนึ่งว่าโลกทั้งใบหยุดหมุนชั่วขณะเพื่อให้ทุกสายตาพุ่งตรงมายังทั้งสองเสียงฮือฮาดังขึ้นทันทีที่พวกเขาก้าวเข้ามาในงาน บรรดานักข่าวกรูกันเข้ามาถ่ายรูป และพวกแขกก็ไม่พลาดที่จะแอบซุบซิบกันหรือว่าคนนี้คือคนรักคนใหม่ของคุณสีหนุ วสุธรใบหม่อนกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างภาคภูมิใจ นี่สิการเปิดตัวเป็นภรรยาคุณสีหนุครั้งแรก มันต้องเล่นใหญ่ยิ่งใหญ่อลังการให้สมศักดิ์ศรีความมั่นหน้าของเขาเสียหน่อยจากภรรยาเชิงธุรกิจที่แต่งงานแลกเงินยี่สิบล้าน ถูกสามีเก็บไว้ในบ้านไม่ให้ออกไปไหน วันนี้พอตกลงปลงใจคบหากันอย่างจริงจังแล้ว พวกเขาก็เปิดตัวด้วยกันอย่างยิ่งใหญ่ได้สาแก่ใจยิ่งนัก บรรยากาศงานที่ตึงเครียดค่อย ๆ ผ่อนคลายลง เหล่าคนในตระกูลวสุธรต่างยิ้มโล่งอกที่ในที่สุดคนสำคัญอย่างสีหนุก็มาเสียที แม้ว่าตอนนี้ความสนใจของผู้คนจะไม่ได้สนใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในตระกูลเลยสักนิด เพราะดูเหมือนผู้คนกำลังสนใจกับหนุ่มน้อยน่ารักที่ควงคู่กับสีหนุมาด้
หนึ่งเดือนผ่านไปหลังจากเหตุการณ์ลักพาตัวและถล่มแก๊ง Black Craw ทุกอย่างก็กลับสู่สถานการณ์ปกติ และแล้วก็ถึงช่วงเวลาจัดงานการกุศลเพื่อสร้างภาพสมานฉันท์ในครอบครัวให้คนภายนอกได้รับรู้ งานนี้พิณธาราเป็นแม่งาน เธอเชื่อว่างานวันนี้จะช่วยกอบกู้วิกฤตความเชื่อมั่นของวสุธรกลับมาได้ แถมก่อนหน้านี้เธอเพิ่งได้รับข่าวดีจากหลานชาย นันท์มาบอกกับเธอว่าสีหนุยินดีร่วมทุนในโครงการบ้าน Smart Living ที่เธอเคยเสนอไปเมื่อครั้งก่อน เธอไม่รู้ว่าหลานชายของเธอไปทำอีท่าไหนสีหนุถึงได้ยินยอม แต่ดูจากสีหน้าซีดเซียวก็คาดว่าพี่น้องคงเคลียร์ใจกันหนักหน่วงไม่น้อยงานการกุศลระหว่างสองบริษัทใหญ่ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ โถงห้องจัดเลี้ยงที่ตกแต่งอย่างหรูหรา สะท้อนถึงความสำคัญของงานนี้ รายได้ทั้งหมดนั้นจะถูกนำไปช่วยเหลือโครงการคนไร้บ้านต่อไปงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้มีผู้เข้าร่วมมากมาย คนในวงสังคม นักธุรกิจชั้นนำ รวมถึงแขกสำคัญต่าง ๆ ที่ได้รับเชิญ ทุกสายตาจับจ้องไปที่การปรากฏตัวของตระกูลวสุธร และแน่นอนว่า นันท์ นรภัทร วสุธร ประธานบริษัทคนปัจจุบันได้แสดงตัวในฐานะผู้นำทำหน้าที่ผู้รับหน้าแขกในงานไม่หยุด เขาในชุดสูทหรูมีท่าทีสง่างาม
ใบหม่อนพยายามกลั้นยิ้มจนหน้าเบี้ยวพร้อมกับพิจารณาแหวนในนิ้วมือย่างพอใจ“ขอผมแต่งงานเหรอ สวมแหวนให้แบบนี้ ไม่คิดจะถามผมก่อนเหรอครับ” สีหนุขยับเข้ามาใกล้ แววตาเต็มไปด้วยความตั้งใจ “แล้วจะแต่งมั้ยครับคุณใบหม่อน ฉันอายุ 42 แล้ว รุ่นนี้ไม่อ้อมค้อม ฉันอยากได้เธอมาเป็นคู่ชีวิต พร้อมจัดงานแต่งเสมอ สปอร์ต ใจดี พร้อมเปย์ สัญญาว่าจะเป็นสามีที่ดี ทำให้เธอมีความสุขแน่นอน ให้ได้ขนาดนี้เธอจะแต่งกับฉันมั้ย” ใบหม่อนหลุดขำออกมาเมื่อเห็นความทะเล้นของสีหนุ ดวงตาเป็นประกายสดใสจากหัวใจ ที่ผ่านแม้ว่าเขาจะแต่งงานกันเพื่อปรับดวงแลกกับเงินทอง แต่สีหนุก็ปฏิบัติต่อเขาอย่างให้เกียรติดีเยี่ยม สีหนุอาจจะห้าว ดิบ เถื่อน น่ากลัวไปบ้าง ไม่ได้มีความเนี้ยบแบบที่ใบหม่อนชื่นชอบ ผมเผ้าก็ยาวรุงรังไม่ได้มัดรวบทุกครั้ง จนใบหม่อนรู้สึกเหมือนได้แต่งกับอาจารย์แดงบ้าง ทว่าเมื่อได้สัมผัสใกล้ชิดหัวใจไม่นานก็รับรู้ได้ว่าสีหนุเป็นสามีในฝันที่เขาตามหามาตลอดทั้งชีวิตหัวใจของเขาในเวลานี้มีสีหนุนั่งอยู่เต็มหัวใจ“แต่งครับ ยอมตั้งแต่บอกว่าพร้อมเปย์แล้ว” ใบหม่อนตอบพร้อมรอยยิ้มซุกซนน่ามันเขี้ยวจนคนตัวโตอดใจไม่ไหว ก้มลงจูบที่ปากไปอีกครั้