หายใจเข้าพุทธ หายใจออกเธอ

หายใจเข้าพุทธ หายใจออกเธอ

last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-05-16
โดย:  ตื่นจากนิรันดร์อัปเดตเมื่อครู่นี้
ภาษา: Thai
goodnovel18goodnovel
คะแนนไม่เพียงพอ
4บท
5views
อ่าน
เพิ่มลงในห้องสมุด

แชร์:  

รายงาน
ภาพรวม
แค็ตตาล็อก
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป

จอมทัพ x คิน เมะ x เมะ จอมทัพไม่เชื่อว่าคนเราจะดวงซวยได้วันละหลาย ๆ รอบ เมื่อเช้าก่อนออกจากห้องนิ้วก้อยเท้าขวาก็ไปสะดุดจุ๊บกับขอบเตียงยังเจ็บไม่ทันหายเจ็บ ตกเย็นมาก็เกิดล้มวัดพื้นถนนไปจนปากแตก ชีวิตรันทดอย่าบอกใคร แค่อกหักก็เจ็บใจมากพอแล้วยังจะมาซ้ำเติมให้เขาเจ็บตัวเพิ่มอีก แม่งเอ้ย!หรือว่าทั้งหมดนี้จะเป็นไปตามคำทำนายที่หญิงแก่ปริศนาบอก ว่าเขาต้องไปบวช… แนะนำตัวละคร จอมทัพ รัตนไพศาล (จอมทัพ) หนุ่มวิศวะหน้าโหด เชื้อสายไทยแท้ นิสัยซื่อตรง จริงใจ ใจดี รักความยุติธรรม รักเพื่อน ‘หายใจเข้า…พุทธ’ ‘หายใจออก…โธ’ เขาท่องมันซ้ำ ๆ ในใจราวกับคนหมดสติ แต่บทสวดนี้ไม่ช่วยอะไรเขาเลย…แม่งไม่ช่วยเลยสักนิด แม่งเอ้ยไม่ไหวละ!! นากาโมโตะ คิระ (คิน) หนุ่มวิศวะลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ฉลาด ใจเย็น พูดน้อย รักเพื่อน “…มึงยังอยากเป็นเพื่อนกับกูอยู่มั้ยล่ะ?” “ตื่นไวแบบนี้ ตอนบวชไม่ค่อยได้ปลดปล่อยสินะ”

ดูเพิ่มเติม

บทที่ 1

ปฐมบท

“หนุ่มเอ้ย ถึงคราวเคราะห์ร้ายมาเยือน เจ้ากรรมนายเวรตามมาถึงหน้าประตู ถ้าเอ็งไม่บวชละก็ได้เกิดเรื่องแน่ ๆ ”

“เชื่อข้าเถอะหนุ่ม บวชสักพรรษานึง ไม่งั้นเอ็งได้เลือดตกยางออกอย่างแน่นอน…”

น้ำเสียงแหบแห้งของหญิงชราที่ไม่เคยพบเจอหน้ากันมาก่อน คำพูดคนแปลกหน้าติดอยู่ในห้วงความคิดของชายหนุ่มหน้าโหดจนยากที่จะสลัดออก

จอมทัพ ชายหนุ่มรูปร่างกำยำ ขมวดคิ้วเข้มชิดกันเป็นปมแน่น ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรง ท่าทีบึ้งตึงบ่งบอกถึงอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก

“มึงอย่าไปเชื่อเลย ฟังหูไว้หู”

เป็นสายฟ้าที่พูดโพล่งออกมายามเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของจอมทัพ และไม่ปล่อยให้บรรยากาศตึงเงียบไปมากกว่านี้ ปั้นสิบที่เดินมาด้วยกันข้างๆ ก็รีบพุ่งเข้ารับไม้ต่อจากสายฟ้าทันที

“จริง! หมอดูก็คู่กับหมอเดาแหละโว้ยอย่าไปคิดมาก”

ธรรมดาของมนุษย์ที่พยายามบอกว่าไม่คิดมากแต่สุดท้ายก็คิดมาก ความคิดมากมาย ข้อสันนิษฐานต่าง ๆ สะเปะสะปะจนจับต้นชนปลายไม่ถูก ชายหนุ่มหน้าโหดพยายามคิดยังไงก็คิดไม่ตก

จอมทัพมั่นใจว่าไม่เคยรู้จักกับหญิงชราคนนั้นมาก่อนอย่างแน่นอน แต่ทำไมหญิงชราคนนั้นถึงทักเรื่องเคราะห์ร้ายอะไรแบบนั้นกับเขากัน

ว่ากันตามตรงจอมทัพเป็นคนที่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องแบบนี้สักเท่าไหร่ ถึงแม้จะเกิดและเติบโตมาที่ต่างจังหวัด เคยฟังเรื่องแปลก ๆ ลี้ลับที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถพิสูจน์ได้มามากมายก็ตาม ตัวเขานั้นไม่อยากจะเชื่อคำพูดของคนที่ไม่รู้จักที่เข้ามาทักสุ่มสี่สุ่มห้า แต่ความรู้สึกบางอย่างข้างในที่อธิบายไม่ได้นั้นกู่ร้องบอกว่าอาจจะเกิดเรื่องจริงก็เป็นได้

แต่…

ใครมันจะไปเชื่อคำทำนายของคนไม่รู้จักกันมาก่อนกันวะ

ครืด ปั่ก!!

“เห้ยพี่ชาย! เป็นไรมั้ยพี่”

เสียงเคลื่อนไหวจากรอบข้าง ฝีเท้าหลายคู่เคลื่อนที่เข้ามาใกล้เรื่อยๆ ไม่นานก็มีใบหน้าของเด็กหนุ่มโผล่เข้ามาในระยะสายตา แทนที่ภาพวิวทิวทัศน์ของท้องฟ้ายามราตรี

จอมทัพคิดว่าอาจจะจริงอย่างที่คำทำนายของหญิงชราว่าไว้

ร่างสูงกว่า 185 ลุกขึ้นนั่งหลังจากที่นอนแหงนหน้านับดาวอยู่หลายนาที มือแกร่งประครองตัวลุกค้ำยันไว้กับพื้นถนน ใบหน้าคมคายแหงนมองเงาเล็กที่กระทบพื้นถนน ปรากฏเป็นเด็กชายอวบอ้วนสองคนสีหน้าตกใจยืนมองเขาอยู่

“พี่ชายโอเคมั้ยพี่…” เสียงสั่นเบาของเด็กตัวขาวตรงหน้าเอ่ยออกมาด้วยความเป็นห่วง ใบหน้าซาลาเปาเลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูก แม้จะเป็นห่วงพี่ชายบนพื้นแต่ความสงสัยที่มีก็มากกว่า

พี่แกเต็มมั้ย? เด็กชายตัวอวบคิด

ย้อนกลับไปไม่กี่นาทีก่อน เขาและน้องชายออกมาฝึกเล่นสเก็ตบอร์ดกันที่สวนสาธารณะแห่งนี้เป็นประจำ อยู่ดีๆ ก็มีพี่ชายรูปร่างหล่อเหลาดูเท่เอาการ แต่ติดตรงที่หน้าตาไม่ค่อยเป็นมิตรนักในสายตาของเด็กน้อยวัย 10 ขวบ

“พี่ขอเล่นด้วยได้มั้ย” น้ำเสียงเรียบนิ่งของพี่ชายแปลกหน้าบวกกับใบหน้าที่ดูไม่ค่อยจะใจดียากที่พวกเขาสองพี่น้องจะปฏิเสธได้

“นี่ครับ” เด็กชายอ้วนพลีอีกคนน้องยื่นสเก็ตบอร์ดของตัวเองให้คนตรงหน้าด้วยความงงงวยแต่ก็ได้กล้าขัด

เขาไม่ได้หวงนะ แต่ว่าสเก็ตบอร์ดของเด็ก แล้วพี่คนหล่อแต่หน้าโหดตรงหน้าตัวใหญ่อย่างกับยักษ์จะเล่นได้เรอะ

“ขอบใจ” เสียงทุ้มเอ่ยขอบคุณพลางยื่นมือไปรับแผ่นพลาสติกมีล้อมาถือ ก่อนจะเดินออกไปอีกทาง

หลังจากพี่ชายสุดหล่อเดินออกไปไม่นานนัก ก็เกิดเสียงคล้ายวัตถุขนาดใหญ่ล้มตึง เมื่อวิ่งตามเสียงมาก็พบว่าพี่ชายสุดหล่อหน้าโหดนอนราบไปกับพื้นถนนใบหน้าแหงนมองท้องฟ้า มองเผิน ๆ คิดว่านอนชมวิวถ้าไม่เห็นสเก็ตบอร์ดกระเด็นคว่ำไกลออกไปสองช่วงแขน

“ไม่เป็นไร” จอมทัพตอบกลับเด็กชายตรงหน้าพลางส่ายหัวให้กับเหตุการณ์เฮงซวยรอบที่สองของวัน ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบายากที่จะจับใจความได้ “แต่ก็ดีเหมือนกันจะได้มีสติเสียบ้าง…”

จอมทัพไม่เชื่อว่าคนเราจะดวงซวยได้วันละหลายๆ รอบ เมื่อเช้าก่อนออกจากห้องนิ้วก้อยเท้าขวาก็ไปสะดุดจุ๊บกับขอบเตียงยังเจ็บไม่หาย มาตอนเย็นก็เจอล้มวัดพื้นถนนไปอีก ชีวิตรันทดอย่าบอกใคร

“ละ…เลือด” นิ้วป้อมของคนพี่ชี้มาที่ริมฝีปากของคนดวงซวย

มือหนายกขึ้นแตะที่มุมปากของตัวเองเบาๆ สักพักก็ร้อง ซี๊ด!! ออกมาด้วยความเจ็บแสบ สัมผัสได้ถึงความรู้สึกตึกบนริมฝีปากบ่งบอกได้ว่าปากแตก

สิ้นความคิดในหัว คำพูดของหมอดูหญิงแก่เมื่ออาทิตย์ที่แล้วแทรกขึ้นในหัวอีกครั้ง

“ไม่งั้นเอ็งได้เลือดตกยางออกอย่างแน่นอน…”

น่าแปลกที่จอมทัพนึกถึงประโยคเตือนของหญิงแก่ปริศนาทั้ง ๆ ที่ผ่านมาได้อาทิตย์กว่าแล้วด้วยซ้ำ และน่าบังเอิญตรงที่เขานั้นเลือดออกขึ้นมาจริง ๆ

เฮ้อ ใครมันจะไปเชื่อกันวะ

แสดง
บทถัดไป
ดาวน์โหลด

บทล่าสุด

บทอื่นๆ

ความคิดเห็น

ไม่มีความคิดเห็น
4
ปฐมบท
“หนุ่มเอ้ย ถึงคราวเคราะห์ร้ายมาเยือน เจ้ากรรมนายเวรตามมาถึงหน้าประตู ถ้าเอ็งไม่บวชละก็ได้เกิดเรื่องแน่ ๆ ”“เชื่อข้าเถอะหนุ่ม บวชสักพรรษานึง ไม่งั้นเอ็งได้เลือดตกยางออกอย่างแน่นอน…”น้ำเสียงแหบแห้งของหญิงชราที่ไม่เคยพบเจอหน้ากันมาก่อน คำพูดคนแปลกหน้าติดอยู่ในห้วงความคิดของชายหนุ่มหน้าโหดจนยากที่จะสลัดออกจอมทัพ ชายหนุ่มรูปร่างกำยำ ขมวดคิ้วเข้มชิดกันเป็นปมแน่น ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรง ท่าทีบึ้งตึงบ่งบอกถึงอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก“มึงอย่าไปเชื่อเลย ฟังหูไว้หู”เป็นสายฟ้าที่พูดโพล่งออกมายามเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของจอมทัพ และไม่ปล่อยให้บรรยากาศตึงเงียบไปมากกว่านี้ ปั้นสิบที่เดินมาด้วยกันข้างๆ ก็รีบพุ่งเข้ารับไม้ต่อจากสายฟ้าทันที“จริง! หมอดูก็คู่กับหมอเดาแหละโว้ยอย่าไปคิดมาก”ธรรมดาของมนุษย์ที่พยายามบอกว่าไม่คิดมากแต่สุดท้ายก็คิดมาก ความคิดมากมาย ข้อสันนิษฐานต่าง ๆ สะเปะสะปะจนจับต้นชนปลายไม่ถูก ชายหนุ่มหน้าโหดพยายามคิดยังไงก็คิดไม่ตกจอมทัพมั่นใจว่าไม่เคยรู้จักกับหญิงชราคนนั้นมาก่อนอย่างแน่นอน แต่ทำไมหญิงชราคนนั้นถึงทักเรื่องเคราะห์ร้ายอะไรแบบนั้นกับเขากันว่ากันตามตรงจอมทัพเป็นคนที่ไ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-05-16
อ่านเพิ่มเติม
หลง
กาเยนะ วาจายะ เจตะสา วาสังเฆ กุกัมมัง ปะกะตัง มายา ยังสังโฆ ปะฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตังกาลันตะเร สังวะริตุง วะ สังเฆเสียงสวดมนต์ทำวัตรเย็นดังขึ้นทั่วทั้งศาลาวัดจบลง บทบรรเลงขับขานตามคำสอนของพระผู้เป็นเจ้าขัดเกลาแก่เหล่าภิกษุผู้อยู่ในธรรมเป็นที่ตั้ง รวมถึงตัวของชายหนุ่มหน้าโหดด้วยนี่ก็เป็นเวลาเกือบจะสามเดือนแล้วที่ จอมทัพ หรือตอนนี้คงต้องเรียก พระจอม ได้บวชเรียนศึกษาธรรมะภายใต้ชายผ้าเหลืองอดีตหนุ่มหล่อวิศวะ ปัจจุบันเป็นพระบวชใหม่ที่วัดป่าในชนบทแห่งหนึ่ง ที่เลือกต่างจังหวัดแทนในเมืองหลวงมีไม่กี่เหตุผล หนึ่งในนั้นคือรู้สึกถึงความสงบเหมือนได้กลับบ้าน เนื่องจากจอมทัพเกิดและโตที่ภาคเหนือพื้นที่ที่เต็มไปด้วยอากาศเย็นเกือบทั้งปี ที่บ้านทำไร่ทำสวนส่งออกผลไม้รายใหญ่ของภูมิภาค ในทุกการปิดเทอมจึงมักจะไปช่วยงานที่บ้านยกเว้นเทอมนี้ที่เขาเลือกมาบวชแทน และเหตุผลต่อมาคือเขาคิดว่าการที่ได้มาชนบทได้เห็นวิถีชีวิตผู้คน รู้จักผู้คน ทำให้ได้ตระหนักถึงชีวิตมากขึ้นไปอีกขั้น เห็นแบบนี้จอมทัพค่อนข้างจริงจังกับชีวิตและแคร์ผู้คนรอบข้างเป็นอย่างมาก แต่บางครั้งการใจดีก็ใช่ว่าจะได้ดีตอบกลับเสมอไป ญาติโยม
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-05-16
อ่านเพิ่มเติม
สาเหตุ
จิ๊บ ๆ ~เสียงร้องเจื้อยแจ้วของนกเขาตัวเมีย ส่งเสียงเรียกปลุกลูกนกออกจากรังเพื่อป้อนอาหาร วัดนี้เป็นวัดต่างจังหวัดในภาคกลาง พื้นดินถือว่าอุดมสมบูรณณ์ รายล้อมไปด้วยทุ่งนา แมกไม้ วัวควาย และเสียงรถมอเตอร์ไซค์รุ่นเก่าที่กว่าจะสตาร์ทได้แต่ละทีเล่นเอาเหนื่อยหอบ ยังคงดังผ่านไปมา เป็นวิถีชีวิตที่เรียบง่ายที่จอมทัพเจอมาตลอดสามเดือนนี้สายลมเย็น ๆ พัดพาดวงใจเงียบสงบเสมอมา ทว่าครั้งนี้กลับไม่เหมือนเช่นเคย คงเป็นเพราะในใจแอบไหววูบเล็กน้อยที่ต้องจากที่นี่ไปในอีกไม่กี่วัน หรือแท้จริงแล้ว ไม่อยากจะพบเจอใครบางคนแต่ยังไงงานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกราอยู่ดี เขาอยู่ที่นี่ไปตลอดไม่ได้ ยังมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ไหนจะครอบครัว เพื่อนฝูง ที่รอคอยเขากลับไปแกร็ก ๆเสียงไม้กวาดทางมะพร้าวกระทบพื้นปูนเปลือยใต้ศาลาวัด ในทุกเช้าจอมทัพจะทำหน้าที่หลัก ๆ อยู่ไม่กี่อย่าง อย่างเช่นตอนนี้ที่เขากวาดลานวัดอยู่ หลังจากกลับมาจากบิณฑบาตรกับหลวงพ่อและเณร“หลวงพี่ทัพพพพ!” สิ้นเสียงเล็กแหลมตะโกนดังเข้ามาจอมทัพก็หลุดออกจากภวังค์ความคิด ใบหน้าคมหันตามเสียงเรียก เป็นเณรพ่ายนั่นเอง“ว่าไงเณร เรียกซะเสียงดังเลย”“เณรเรียกหล
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-05-16
อ่านเพิ่มเติม
ลา
“หลวงพี่ก็เลยมาบวชอะหรอ” เณรพ่ายถาม ใบหน้าเล็กแหงนมองหลวงพี่ด้วยสายตาที่ตั้งใจจดจ่อ ทำเอาคนเล่าอย่างจอมทัพเอ็นดูกับความตั้งใจฟังของคนตัวเล็กตรงหน้าจอมทัพพยักหน้าตอบเบา ๆ“ประมาณนั้น”จอมทัพเล่าทั้งหมดให้แก่เณรพ่ายฟังเสร็จก็เดินไปหยิบไม้กวาดทางมะพร้าวที่วางทิ้งเอาไว้ก่อนหน้านี้ขึ้นมาหมายจะกวาดต่อเรื่องนี้มีแค่เพื่อน ๆ ของเขาเท่านั้นที่รู้ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องปิดบังอะไร เพราะตอนนี้เขาก็ไม่ได้รู้สึกรักเจนแล้วเหลือแต่ความรู้สึกว่างเปล่าต่อจากนี้…ต่างคนก็ต่างเดินบนทางของตัวเอง“ไม่เป็นไรนะหลวงพี่ หล่อ ๆ อย่างหลวงพี่เณรเชื่อว่าสึกไปสาวติดตรึม” คำพูดและท่าทางแก่แดดของเจ้าตัวจ้อยทำเอาจอมทัพถึงกับถลึงตาดุคนตัวเล็กตรงหน้าทันที“เณรสำรวม ระวังคำพูดด้วย” จอมทัพเอ่ยเสียงดุ ท่าทีจริงจังรวมกับสายตาที่ดุดันทำให้คนตัวเล็กหน้าหงอยลงทันตา“ขอประทานโทษครับหลวงพี่” เสียงอ้อมแอ้มเอ่ยขอโทษเบา ๆ สีหน้าเจื้อนลงถนัดตาร่วมกับท่าทีสำนึกผิดของเณรพ่ายทำเอาจอมทัพถึงกลับใจอ่อน เด็กยังไงก็เป็นเด็ก จอมทัพปลอบตัวเองในใจ“เฮ้อ เอาเถอะ เดี๋ยวไปช่วยกันกวาดศาลากัน”“ครับหลวงพี่!” ใบหน้าหงอยกลับมายิ้มอีกครั้ง ท่าทีสดใสร่า
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-05-16
อ่านเพิ่มเติม
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status