เช้าวันใหม่หลังจากที่ชลดาตื่นขึ้นมากลางดึกและได้เรียบเรียงเหตุการณ์จากความทรงจำของไป๋ลี่ถิงซึ่งเป็นเจ้าของร่างนี้จึงทำให้นางได้รู้ถึงเรื่องราวและต้นสายปลายเหตุและการได้พบจุดจบอันน่าสังเวชนี้
ชลดาได้แต่ขออวยพรให้เธอไปสู่ภพภูมิที่ดีและขอบคุณที่ยกร่างกายนี้ให้เธอต่อไปนี้ชลดาจะใช้ชีวิตเป็นไป๋ลี่ถิงต่อไป
หยางเฉิงคุณที่ตื่นตั้งแต่ยามอิ๋นของทุกวันเพราะต้องไปดูกับดักสัตว์ที่วางเอาไว้หากว่าเขาไปสายอาจจะไม่เหลือเหยื่อในกับดักที่เขาวางเอาไว้เลยก็ได้ เพราะมันเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วหลายครั้ง
น้องชายทั้งสองคนจะตื่นในยามเหม่าทุกวัน ทั้งสองช่วยกันหุงหาอาหารและรดน้ำผักที่ปลูกเอาไว้กินเองที่สวนหลังบ้านจะเรียกว่าบ้านก็ไม่ถูกต้องนักต้องเรียกว่ากระท่อมเก่า ๆ ผุ ๆ จะพังแหล่มิพังแหล่เสียดีกว่า
ชลดาในร่างไป๋ลี่ถิงนอนลืมตาอยู่บนเตียงถึงแม้อยากจะลุกขึ้นมาเต็มทีแต่ก็ไม่สามารถจะลุกขึ้นมาได้เพราะบาดแผลตามร่างกายและยังมีรอยฟกช้ำที่หัวอีก จึงทำได้เพียงนอนลืมตามองหลังคาฟางเก่า ๆ เท่านั้น
“พี่รองท่านว่าพอพี่สะใภ้ตื่นขึ้นมาแล้วนางจะยินดีอยู่กับพวกเราหรือไม่”
“น้องเล็กทำไมเจ้าพูดแบบนั้นล่ะ พี่ใหญ่บอกว่านางคือพี่สะใภ้ของเราก็ต้องอยู่กับเราสิอีกอย่างพี่ใหญ่บอกว่านางเป็นพี่สะใภ้ก็ย่อมหมายความว่านางคือภรรยาของพี่ใหญ่มีที่ไหนกันที่ภรรยาไม่ยินดีอยู่กับสามีถึงแม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนางเมื่อวานนางถึงได้มีสภาพแบบนี้กลับมาก็ตามทีแต่ข้ามั่นใจว่านางจะยินดีอยู่กับพวกเราแน่ ๆ”
“ข้าก็แค่กังวลน่ะ พี่รองเองก็รู้ว่าพี่ใหญ่เคยมีคู่หมั้นแล้วพอครอบครัวเรามีสภาพแบบนี้พี่ใหญ่ก็โดนถอนหมั้นทันที ข้าเองก็อยากให้พี่ใหญ่ได้แต่งภรรยาที่ดีเข้าบ้านข้าเองก็อยากมีพี่สะใภ้เช่นเดียวกันแต่บ้านเราจนมากขนาดนี้จะมีผู้หญิงที่ไหนอยากมาอยู่กัน”
“เอาเถอะ อย่าเพิ่งคิดอะไรให้มันมากมายเลย รอดูไปก่อนเดี๋ยวเราเอาข้าวต้มไปให้พี่สะใภ้กินก่อนนางจะได้กินยา”
“อืม ข้ายกข้าวต้มเองพี่รองท่านยกถ้วยยาเถอะ”
ลี่ถิง (ต่อไปนี้จะเรียกชลดาว่าลี่ถิงแทนนะคะป้องกันการสับสนโดยเฉพาะไรต์เองนี่แหละค่ะ) ที่นอนลืมตามองหลังคาฟางอยู่พลันได้ยินเสียงเด็กชายเดินคุยกันเข้ามาในห้องนอน
นางจึงหันไปมองพบว่าเป็นเด็กชายสองคนที่หน้าตาดีตั้งแต่เด็กเลยจริง ๆ นางยังไม่ได้มองหยางเฉิงคุณผู้เป็นพี่ชายแบบเต็มตาจึงไม่รู้ว่าหน้าตาเขาเป็นอย่างไรจากที่เห็นน้องชายทั้งสองของเขาแล้วก็คงหน้าตาดีไม่ต่างกัน
พลันในใจกู่ร้องว่าโชคหล่นทับแล้วนังดาเอ๊ย แต่ถ้าเป็นชายในฝันคนนั้นจริง ๆ ก็ดีเพราะตัวเธอเองก็มีความรู้สึกผูกพันโดยไม่รู้สาเหตุเหมือนกัน
เสียอย่างเดียวบ้านจนมากถึงมากที่สุดก่อนตายก็จนตายมาแล้วก็ยังจะจนอีกหรือเนี่ย ในขณะที่ลี่ถิงจมอยู่กับความคิดของตัวเองเสียงเล็ก ๆ ของเด็กชายก็ดังขึ้น
“พี่สะใภ้ท่านตื่นแล้ว ลุกไหวหรือไม่ขอรับกินข้าวเสียก่อนจะได้กินยา” หยางฮั่นคุณที่เห็นว่าหญิงสาวตื่นแล้วจึงรีบถามออกมา
“ไม่ค่อยไหวเท่าไหร่จ้ะ”
“พี่รองช่วยพยุงพี่สะใภ้ให้ลุกขึ้นนั่งก่อนขอรับ”
“ได้สิ” หลังจากที่ช่วยให้ลี่ถิงนั่งได้สบายแล้วทั้งสองยื่นชามข้าวต้มที่มีน้ำมากกว่าข้าวให้นาง ลี่ถิงมองด้วยความท้อใจ
แต่เพื่อให้ร่างกายหายเป็นปกติจึงต้องทนกินข้าวต้มที่ไร้รสชาติและยาขม ๆ เข้าไปจนหมดหลังจากนั้นเมื่อทั้งสองเห็นว่าพี่สะใภ้ตัวเองกินข้าวกินยาแล้วจึงปล่อยให้นางได้นอนพัก
พวกเขาจึงออกจากห้องไปและทำงานบ้านและขุดแปลงผักเพิ่มขึ้น หยางสวี่คุณอยากเลี้ยงไก่เพราะมันสามารถออกไข่ให้ได้เก็บกินทุกวัน
เขาจึงบอกกับพี่ชายว่าถ้าหากได้ไก่ป่าที่ยังไม่ตายมาและเป็นตัวเมีย เขาจะขอเอามาเลี้ยงไว้ที่บ้านเอาไว้กินไข่ซึ่งหยางเฉิงคุณก็รับปากน้องชายเป็นอย่างดี นอกจากนี้พวกเขายังปลูกผักเล็ก ๆ น้อย ๆ เอาไว้กินเองอีกด้วย
ยามซื่อหยางเฉิงคุณกลับมาจากดูกับดักที่วางเอาไว้วันนี้เขาไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือมาเลยนอกจากกระต่ายป่าหนึ่งตัวเท่านั้นและผักป่าอีกนิดหน่อย
หลังจากกลับมาแล้วเขานำกระต่ายไปทำความสะอาดและเก็บเอาไว้ทำอาหารเย็นจากนั้นจึงได้ไปช่วยน้องชายทำแปลงผักเพิ่มหลังจากที่กินข้าวต้มไปแล้วหนึ่งชาม
“พี่ใหญ่ท่านกลับมาแล้วหรือขอรับ”
“อืม วันนี้พี่ไม่ได้อะไรมาเลย นอกจากกระต่ายป่าหนึ่งตัว ขอโทษพวกเจ้าด้วยนะที่ทำให้ลำบาก”
“พวกข้าไม่ได้ลำบากอะไรพี่ใหญ่อย่าพูดแบบนี้เลย ถ้าไม่มีพี่ใหญ่พวกเราก็ไม่รู้จะเป็นยังไงท่านพ่อท่านแม่เองก็ไม่อยู่แล้ว”
“เอาไว้พี่ล่าสัตว์พวกหมูหรือกวางได้และนำไปขายพี่จะซื้อชุดใหม่ให้พวกเจ้านะ”
“ขอรับพี่ใหญ่ อ่อพี่สะใภ้ตื่นแล้ว ข้าให้นางกินข้าวกินยาแล้ว ตอนนี้คงหลับไปแล้วล่ะ”
“อืม พี่ก็หวังว่าเมื่อนางหายดีแล้วนางจะยอมอยู่กับพวกเรานะ”
“ข้ามั่นใจว่านางจะต้องอยู่กับพวกเราแน่ ๆ ขอรับ”
“ทำไมน้องรองมั่นใจขนาดนั้นล่ะ”
“ก็พี่ใหญ่บอกว่านางไม่มีใครและถูกนำมาขายอีกอย่างนางจะมาเป็นภรรยาของพี่ ภรรยาก็ต้องอยู่กับสามีสิขอรับ”
“อืม พี่ก็หวังว่านางจะยอมเป็นภรรยาของพี่และยอมอยู่กับพวกเราต่อไป”
ไป๋ลี่ถิงที่นอนมาทั้งวันตอนนี้นางรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแล้วสามารถลุกขึ้นได้แล้วดูเหมือนว่ายาที่ดื่มเข้าไปจะดีพอสมควรตอนนี้นางไม่รู้สึกเจ็บปวดเท่าไหร่แล้วยังมีแค่ส่วนหัวที่มีรอยฟกช้ำเท่านั้น
นางจึงลุกขึ้นและเดินออกมาจากกระท่อม เมื่อออกมาข้างนอกนางมองเห็นภูเขาและป่าเท่านั้น ภายในระยะทาง 1 ลี้นี้ไม่มีบ้านคนอื่นอยู่เลย
นางเดินไปรอบ ๆ บ้านและมองดูสภาพกระท่อมเก่า ๆ นี้ มันจะผ่านฝนผ่านหนาวไปได้หรือไม่ก็ยังไม่รู้ จะทำยังไงได้ มาก็มาแล้วกลับไปก็ไม่ได้แล้วคงต้องทำใจยอมรับและอยู่กับมันให้ได้เท่านั้น
“เจ้าตื่นแล้วหรือ รู้สึกอย่างไรบ้างยังเจ็บอยู่หรือไม่” หยางเฉิงคุณที่มาตอนไหนไม่รู้จู่ ๆ ก็ถามออกมาจึงทำให้นางถึงกับสะดุ้งตกใจ
"อ๊ะ ท่านตกใจหมดเลย ตื่นเมื่อสักครู่เจ้าค่ะ ตอนนี้ไม่เจ็บเท่าไหร่แล้วขอบคุณมากนะเจ้าคะที่ช่วยเหลือข้า”
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกต่อไปเจ้าต้องตอบแทนข้าในฐานะสามีอยู่แล้ว” หยางเฉิงคุณตัดสินใจพูดออกมาและรอดูท่าทีของนางว่าจะมีปฏิกิริยาอย่างไร
“ข้าทราบเจ้าค่ะ แต่ก็อยากขอบคุณท่านเพราะถ้าหากท่านไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยข้าก็คงตายไปแล้วจริง ๆ (ถึงแม้ว่าจะตายไปแล้วจริง ๆ ก็เถอะแต่ใครมันจะไปพูดแบบนั้นได้กันเล่า) ถ้าหากท่านไม่รังเกียจข้าที่ยากจนไร้ญาติไม่มีพ่อแม่ไม่มีทรัพย์สินเงินทองข้าก็ยินดีอยู่เป็นภรรยาของท่านเจ้าค่ะ แต่ถ้าหากวันใดท่านมีคนที่รักและต้องการจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันก็ขอให้ท่านปล่อยข้าไปได้หรือไม่เจ้าคะเพราะข้ารู้ดี ถึงแม้ท่านจะบอกว่าข้าคือภรรยาแต่ความจริงข้าเป็นเพียงทาสของท่านเท่านั้น”
“ข้าไม่เคยคิดเช่นนั้น เจ้าเอาอะไรมาพูดกัน ภรรยาคือภรรยาจะเป็นทาสได้ยังไง เจ้าเลิกคิดไร้สาระได้แล้วกลับเข้าห้องไปนอนพักผ่อนเถอะ”
“ข้านอนมามากแล้วเจ้าค่ะ ขอบพระคุณท่านที่ห่วงใย”
“เจ้าเลิกเรียกข้าว่าท่านสักทีเถอะ ข้าชื่อหยางเฉิงคุณเจ้าเรียกข้าว่าพี่หยางหรือท่านพี่ก็แล้วกัน”
“เจ้าค่ะพี่หยาง เช่นนั้นข้าขอไปดูในครัวก่อนว่ามีอะไรให้ทำหรือไม่”
“อืม มาเถอะข้าพาเจ้าไปเอง”
หยางเฉิงคุณเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเช่นกันทำไมตอนที่เขาได้ยินนางพูดว่าเป็นเพียงทาสของเขาเท่านั้นและนางบอกว่าให้เขาปล่อยนางไปทำไมเขารู้สึกเจ็บปวดที่ใจแปลก ๆ
เมื่อก่อนเขาไม่เคยเป็นแบบนี้เลยหรือว่าเขาจะป่วยเป็นโรคร้ายแรงเข้าแล้วครั้งหน้าที่เข้าไปขายของในเมืองคงต้องไปให้หมอชราตรวจดูเสียหน่อย
เขาจะเป็นอะไรไปตอนนี้ไม่ได้ น้องทั้งสองคนยังไม่โตที่สำคัญเขาเองเพิ่งจะมีภรรยาไม่ใช่หรือ ไม่ได้แล้วคงต้องรีบหาทางรักษาหากว่าเขาป่วยจริง ๆ
หลังจากที่เฉิงคุณได้ซื้อพื้นที่ภูเขาและป่าเอาไว้เป็นจำนวนมากต่อมาไม่นานฮั่นคุณได้แต่งภรรยาเข้ามาในบ้าน เป็นบุตรสาวคนเล็กของท่านเจ้าเมือง ตอนที่เขามาบอกว่าจะตบแต่งภรรยาให้พี่สะใภ้อย่างลี่ถิงส่งแม่สื่อไปสู่ขอ ลี่ถิงตกใจมากแต่ไม่ได้ถามไถ่ให้มากความเพราะเชื่อว่าน้องชายของสามีคงดูคนไม่ผิดซึ่งก็ไม่ต่างกับที่ลี่ถิงคิดเอาไว้ เยว่ซินบุตรสาวของเจ้าเมืองคนนี้หน้าตางดงามอีกทั้งงานบ้านงานเรือนนางจัดการได้เรียบร้อยดีมาก หลังจากที่ฮั่นคุณแต่งภรรยาได้ไม่นาน ภรรยาของเขาก็ตั้งครรภ์อีกไม่นานเขาเองก็จะได้เป็นท่านพ่อแล้ว ส่วนสวี่คุณนั้นไม่มีทีท่าว่าจะแต่งงานเลยไม่อยากแต่งงานไม่ว่าแต่เขากลับทำหน้านิ่งทุกครั้งที่มีสตรีชายตามอง ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากแต่งภรรยาแต่เขายังไม่เจอสตรีที่เขาอยากจะอยู่ด้วยตอนนี้คงต้องเลี้ยงหลานไปก่อน ในที่สุดหมู่บ้านตระกูลหยางได้ก่อตั้งขึ้น เฉิงคุณเป็นผู้นำตระกูลคนปัจจุบัน หมู่บ้านตระกูลหยางมีบริเวณกว้างใหญ่และเจริญรุ่งเรืองมาก คนงานในไร่ที่ตอนนี้กลายมาเป็นคนในหมู่บ้านตระกูลหยางแล้ว เหวินข่ายเองก็ช่วยงานเฉิงคุณอย่างไม่ขาดตกบกพร่องที่หุบเขาหนานซานไม่เพียงแต่มีชื่อเสียงในด้านการแพทย์แต
หลังจากที่ลี่ถิงปวดท้องได้ไม่นานยายเฒ่าหมอตำแยและหนี่ฮวาพร้อมทั้งสาวใช้ในเรือนคอยช่วยอยู่ไม่ห่าง อยู่ ๆ ฝนก็ตกลงมาทั้งฟ้าร้องฟ้าผ่าทั้ง ๆ ที่ไม่มีวี่แววว่าฝนจะตกลงมาเหตุการณ์นี้ทำให้เฉิงคุณเป็นกังวลใจเป็นอย่างมากแต่ลูกชายทั้งสามนั้นบอกว่าไม่มีอะไร ขอท่านพ่ออย่าได้กังวล ในเวลาไม่นานเสียงทารกร้องไห้จ้าดังออกมาจากข้างในห้องพลันพายุฝนที่โหมกระหน่ำอยู่เมื่อสักครู่ก็หยุดลงเหมือนกับว่าไม่เคยมีพายุฝนเกิดขึ้นมาก่อน เรื่องนี้สร้างความแปลกใจให้กับชาวบ้านและคนบ้านตระกูลหยางไม่ได้ ยังไม่ทันหายตกใจ อยู่ ๆ ฟ้าก็ผ่าลงมาอีกครั้งนี้ไม่มีลมหรือพายุฝนแต่กลับมีสายฟ้าผ่าลงมานับไม่ถ้วนท่ามกลางสายฟ้าที่กระหน่ำลงมาเสียงเด็กทารกร้องไห้จ้าขึ้นมาอีกครั้งและครั้งนี้ก็เหมือนเดิมสายฟ้าที่กระหน่ำฟาดลงมาปานทัณฑ์สวรรค์ก็มิปาน พอเด็กทารกคลอดออกมาและส่งเสียงร้องไห้จ้าเหตุการณ์น่าสะพรึงเมื่อสักครู่ก็หายไปทันทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกคนถอนหายใจอย่างโล่งอกไม่เว้นแม้กระทั่งบรรดาเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลาย ยังไม่ทันที่คนบ้านหยางจะได้ตั้งตัวครั้งนี้กลับมีนกจำนวนมากบินอยู่เหนือพื้นที่บ้านตระกูลหยางราวกับว่าพวกมันกำลังดีใจและแ
หลังจากที่ทั้งสองคนได้ตกลงนัดแนะเวลาเดินทางกลับบ้านในครั้งนี้แล้ว เป็นเวลากว่า 4 ปีที่พวกเขาจากบ้านมา ครั้งนี้ซูไคไม่ได้ตามกลับไปด้วยเพราะต้องดูแลในส่วนของกองกำลังลับการเดินทางครั้งนี้จึงมีเพียงต้าหลง เสี่ยวหลง และผู้ติดตามเท่านั้นส่วนองครักษ์เงานั้นต้าหลงได้สั่งให้ไปดูแลที่บ้านตระกูลหยางก่อนหน้านั้นแล้วจำนวน 50 นาย ตอนนี้หวังเต๋อคือมือขวาของต้าหลง เสิ่นหยางคือมือขวาของเสี่ยวหลงเสี่ยวอั่งเป่าและเสี่ยวกู่จื่อม้าทั้งสองตัวตอนนี้มันเติบโตขึ้นมาอย่างสง่างามสมเป็นม้าฝีเท้าดี ที่รู้ใจเจ้านายของมันมาก ตอนนี้พวกมันเองก็ดีใจเป็นอย่างมากที่จะได้กลับบ้านไปเจอพ่อแม่พี่น้องและฝูงของมัน“ท่านประมุขขอรับ เรื่องของฝากให้นายหญิงใหญ่ข้าเตรียมเอาไว้หมดแล้วขอรับ”“ดีมาก เจ้าส่งคนไปแจ้งที่หุบเขาหนานซานหรือยัง พี่ชายข้าว่ายังไงบ้าง”“ท่านประมุขชิงหลง บอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีขอรับ เจอกันที่จุดนัดพบได้เลย”“อืม เจ้าไปเรียกประชุมผู้อาวุโสข้าจะไปแจ้งอาจารย์ปู่"“ขอรับ ท่านประมุข”หลังจากจัดการทุกอย่างที่หุบเขาเรียบร้อยแล้วทั้งสองคนออกเดินทางกลับบ้านทันที เสี่ยวหลงพาคนติดตามมารอพี่ชายที่จุดนัดพบเมื่อต้าหลงมา
หลังจากผ่านพ้นงานแต่งงานอันแสนวุ่นวายของต้าเซิ้นไปได้เพียง 3 เดือน ก็มีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อบรรดาภรรยาเหล่าต้าพร้อมใจกันคลอดลูกในวันเดียวกันยกเว้นแต่ภรรยาของต้าหวังที่คลอดไปก่อนหน้านั้นแล้วเฉิงคุณและคนงานในไร่ต่างวุ่นวายกันมากการที่แม่วัวทั้งสามตัวต่างคลอดลูกในวันและเวลาเดียวกันทำเอาเสี่ยวตั้นและสวี่คุณวิ่งวุ่นไม่แพ้ผู้เป็นพี่ชายและนายท่านส่วนพ่อวัวทั้งหลายก็พากันตื่นเต้นและยังคุยกันว่าใครจะได้ลูกชายหรือใครจะได้ลูกสาว ต้าหลางได้แต่มองบนใส่บรรดาเหล่าต้าเกอของมันจะตื่นเต้นอะไรนักหนากะอีแค่คลอดลูกได้ทีละตัวเนี่ย ต้าหลางนั้นใคร ๆ ก็มองว่ามันยังโสดไม่มีภรรยาแต่หารู้ไม่ว่าต้าหลางนั้นเก็บความลับของมันได้ดีมากไม่มีใครระแคะระคายเรื่องนี้เลยต้าหลางความจริงแล้วไม่ได้โสดสนิทขึ้นคานเหมือนที่ต้าเซิ้นปรามาสเอาไว้ ต้าหลางมีภรรยาแล้วอีกทั้งนางยังเป็นจ่าฝูงของหมาป่าขนเงินที่อยู่กลางป่าลึกและที่สำคัญนางยังให้กำเนิดลูกชายให้ต้าหลาง 11 ตัวตอนนี้ลูก ๆ ของมันมีอายุได้ 3 เดือนแล้ว ไม่แปลกที่มันจะมองบนใส่เหล่าต้าเกอของมัน หลังจากวุ่นวายมา 2 ชั่วยาม ภรรยาต้าฟง คลอดวัวตัวผู้ออกมา เช่นเดียว
เหวินข่ายให้หนี่ฮวาไปตามนายหญิงส่วนตัวเขารีบควบม้าเข้าเมืองเพื่อไปตามนายน้อยทันที ครั้งนี้ต้าเซิ้นทำเกินไปจริง ๆ ใครจะไปคิดว่าเจ้าลิงนี่ที่วัน ๆ เอาแต่อยู่โรงหมอและเข้าป่าหาสมุนไพรจะก่อเรื่องขึ้นได้ลี่ถิงเองก็ตกใจมากนางไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่หนี่ฮวามาเรียก นางก็รีบพาลูกชายลูกสาวไปหาสามีที่ศาลาริมธารท้ายไร่ทันที“หนี่ฮวามีใครไปบอกน้องรองแล้วหรือยัง”“มีแล้วเจ้าค่ะ ข้าให้เสี่ยวตั้นไปเรียนนายน้อยแล้วเจ้าค่ะนายหญิง”“เจ้ารู้หรือไม่มีเรื่องอะไรกัน ต้าเซิ้นก่อเรื่องอะไรขึ้น ปกติข้าไม่เห็นว่าต้าเซิ้นจะเกเรเลยสักครั้ง”“ข้าเองก็ไม่ทราบเจ้าค่ะ พี่เหวินข่ายบอกข้าให้มาเรียนนายหญิงส่วนเขาเข้าเมืองไปตามนายน้อยตามคำสั่งนายท่านเจ้าค่ะ”ลี่ถิงและลูก ๆ มาถึงศาลาริมธารท้ายไร่ ก็ตกใจกับฝูงลิงขนาดใหญ่ นางไม่รู้ว่ามีกี่ตัวกันแน่ แล้วมีตัวที่เหมือนจะเป็นหัวหน้าฝูงนั่งจ้องต้าเซิ้นอยู่ไม่วางตาแต่ยังไม่กล้าลงมือต้าหลางอยู่ตรงกลางระหว่างฝูงลิง ต้าหวัง ต้าฟง เสี่ยวซี เสี่ยวเป่าและบรรดาภรรยาวัวมากันครบ ส่วนเมียของต้าหวังไม่ได้ออกมาจากคอกเพราะนางท้องแก่เต็มที“เกิดอะไรขึ้นท่านพี่ ลิงพวกนี้มาทำไมเจ้าคะ”
หลังจากที่เหล่าต้าทั้งหลายเข้าป่าเพื่อหาของป่าตามที่คุณชายระบุในจดหมายครบแล้ว เวลาก็ผ่านมาได้ 5 วันแล้วทุกอย่างเตรียมเรียบร้อย ถังหูลู่ 500 ไม้ เนื้อแห้งอีกหลาย 100 ชั่ง ลี่ถิงไม่รู้ว่าลูกชายทั้งสองต้องการของมากมายขนาดนี้ไปทำไม เหมือนกับว่าจะเอาไปเลี้ยงคนได้หลายสิบคนเลยทีเดียวแต่ลี่ถิงเองก็ไม่ได้สงสัยในตัวลูกชายทั้งสองนางยังเคารพในการตัดสินใจของลูกชายเสมอ ส่วนเฉิงคุณก็เอาผักดองแบบกิมจิมาจากร้านของฮั่นคุณเอาใส่รถม้าไปให้ลูกชายด้วยเพราะเขารู้ว่าลูกชายอย่างเสี่ยวหลงนั้นชอบมากส่วนคำขอที่ลูกชายได้ขอมานั้นเขาและภรรยาตกลงที่จะทำตามคำขอ แต่ต้องรอให้น้องชายน้องสาวมีอายุครบ 5 ขวบเสียก่อนต้าหลงและเสี่ยวหลงนั้นแน่นอนอยู่แล้วว่าหนึ่งในนั้นต้องเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าหุบเขาหนานซาน หมอเทวดาอู๋จี้ผู้เป็นเจ้าหุบเขาเวลานี้ได้มีการพูดคุยกับทั้งสองคนเอาไว้แล้วและให้สองคนพี่น้องไปตกลงกันเอง เขาไม่ได้ระบุว่าใครขอเพียงเป็นหนึ่งในสองคนนี้ก็พอแล้ว ส่วนซูไคตอนนี้ไม่ว่าศิษย์หลานทั้งสองจะทำอะไรเขาก็เห็นดีเห็นงามไปหมดทุกเรื่อง และซูไคเป็นอีกคนที่ตามใจสองแฝดมาก เขาทำประหนึ่งว่าเด็กทั้งสองคนเป็นลูกของเขาเสียอ