Share

บทที่ 4

last update Huling Na-update: 2024-12-14 20:41:51

"ตกลงพี่จะให้ฉันเข้าไปไหม" ไม่รู้จะตอบพี่สาวยังไง เพราะเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง

"อย่าทำให้พี่ลำบากใจเข้าใจไหม ..รู้ไหมว่างานสมัยนี้มันหายาก ยิ่งตอนนี้พี่ใกล้คลอด ต้องได้เก็บเงินไว้เลี้ยงหลานอีก"

"ค่ะ" ถ้าเขาไม่เริ่มก่อนนะ ..ประโยคหลังเธอได้แค่คิดเอาเพราะไม่กล้าพูดกลัวพี่สาวจะไม่สบายใจ

แล้วหญิงสาวร่างระหงก็ได้ก้าวเดินมาที่หน้าห้องของท่านประธาน พร้อมกับเคาะประตูเบาๆ

"เชิญ"

ประตูบานนั้นถูกเปิดเข้ามาทันทีที่เจ้าของห้องอนุญาต พอเธอเข้ามาก็เห็นว่าเขายืนล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ สายตามองทอดออกไปนอกอาคารที่รอบล้อมไปด้วยกระจก

"เธอต้องการเท่าไร" ชายหนุ่มพูดออกไปแบบไม่อ้อมค้อม แต่ที่จริงมันก็เป็นนิสัยของเขาอยู่แล้ว

"คะ??" ดวงตากลมเปิดกว้างขึ้นเมื่อได้ยินประโยคนั้นจากปากเจ้านาย

"ฉันจะให้เงินเท่าที่เธอต้องการ"

"บอสจะให้ฉันทำไม" หญิงสาวพยายามคิดถึงหน้าพี่สาวไว้ให้มาก เพราะถ้าบู่มบ่ามพูดอะไรออกไปกลัวพี่สาวจะลำบากไปด้วย

"ฉันไม่ได้พิศวาสอะไรในตัวเธอหรอก"

"อ้าว!" หญิงสาวเอ่ยพูดขึ้นโดยที่ไม่ได้รอฟังให้จบก่อน ในเมื่อไม่พิศวาสแล้วจะเรียกเธอเข้ามาหาพระแสงอะไร

"ฟังให้จบก่อนสิ"

"ว่ามา...ค่ะ" เกือบลืมมีหางเสียง

"ฉันจำเป็นต้องใช้งานเธอ ก็อย่างที่เธอเห็น แม่กับพี่สาวของฉัน.."

"ไม่ค่ะ"

"??" ชายหนุ่มถึงกับมองเธอให้เต็มตา เพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีผู้หญิงที่ไหนปฏิเสธเขาแบบนี้ "เธอจะไม่ไปคิดดูหน่อยเหรอ"

"ทำไมต้องคิดด้วยล่ะคะ ถ้าบอสจะเรียกมาคุยเรื่องนี้ ฉันขอกลับไปทำงานก่อนนะคะ" ทำไมเธอต้องเอาตัวเองเข้าไปวุ่นวายกับเรื่องครอบครัวของเขาด้วย เงินน่ะใครจะไม่อยากได้ แต่ถ้าได้มาแล้วมันทำให้ชีวิตวุ่นวาย ขอไม่เอาดีกว่า

ชายหนุ่มได้แต่มองตามผู้หญิงที่อวดเก่งอวดดี เพราะตอนนี้เธอออกจากห้องไปแล้ว

ธุรกิจเป็นหมื่นล้านเขายังจัดการมาได้ กับอีแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียว..

สามวันผ่านไป..

"แม่เล่นแบบนี้เลยเหรอครับ" กลับมาถึงบ้านก็เห็นว่าที่โต๊ะอาหารไม่ได้มีแค่ครอบครัวของเขา

"ก็ในเมื่อชวนลูกออกไปทานข้างนอกแล้วลูกไม่ไป ก็ชวนหนูเอมมี่มาทานที่บ้านเรามันจะไปยากอะไรล่ะ" แม่กับลูกพูดกันเพียงแค่เบาๆ

"วันนี้ผมทำงานมาเหนื่อย ไม่หิวครับ"

"ตาคฑา! ลูกจะทำให้แม่อกแตกตายเลยหรือไง รู้ไหมว่าแม่กลุ้มใจกับลูกมากแค่ไหน"

"คุณแม่ไม่ตายง่ายๆ หรอกครับ"

"หยุดนะคฑาอย่าว่าให้แม่แบบนั้น!"

พอถูกพี่สาวตะคอกเขาถึงได้หยุดพูด

"พี่ว่าเรามานั่งทานข้าวดีกว่า" สันติพี่เขยก็เลยเลื่อนเก้าอี้ให้น้องชายของภรรยา คฑาถึงได้ยอมเดินไปนั่งด้วย

"เอมมี่ว่า.."

"ว่าอะไรครับ" ชายหนุ่มพูดสวนขึ้นโดยที่ยังไม่ให้ผู้หญิงได้พูดต่อ แต่มันไม่ใช่นิสัยของเขาหรอก เขาพยายามทำนิสัยไม่ดีออกมาให้ผู้หญิงที่แม่จัดหามาให้ได้เห็นเฉยๆ

จนผู้หญิงที่ชื่อเอมมี่ไม่กล้าพูดต่อ แต่สายตาของแม่และพี่สาวต่างก็เพ่งเล็งมาที่เขา

"ทานสิครับรออะไรอยู่" ว่าแล้วชายหนุ่มก็เริ่มทานข้าวแบบเอร็ดอร่อย แต่ทำไมแม่จะไม่รู้ว่าลูกชายกำลังทำประชด

วันต่อมา..

รรินธรมองดูสายตาของท่านประธานเวลามองมาที่น้องสาวของเธอมันดูแปลกๆ ถ้าจะว่าท่านสนใจในตัวน้องสาวก็คงไม่ใช่ เพราะคนระดับนี้แล้ว

เย็นวันนั้น..

เป็นอีกวันที่อัญชัญชวนเอมมี่มาทานข้าวที่บ้าน เพราะอยากจะให้ทำความรู้จักกับลูกชายไว้ให้มาก และเอมมี่ก็รู้เรื่องทั้งหมดที่เกี่ยวกับตัวของเขาแล้ว และฝ่ายหญิงก็รับปากแม่เขาว่าจะช่วยให้เต็มที่

"ถ้าแม่ยังขืนทำแบบนี้อยู่อีก ผมจะไปค้างที่คอนโด"

"ลูกไม่ทำแบบนั้นอยู่แล้วแม่รู้ดี ลูกเคยสัญญากับพ่อไว้ก่อนที่จะตาย ว่าจะดูแลแม่แทนพ่อ"

เขาถึงกับพูดไม่ออกเมื่อแม่ทวงคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับพ่อก่อนตาย

"แม่แก่มากแล้ว ไม่รู้เมื่อไรแม่จะไปอยู่กับพ่อ แม่อยากจะอุ้มหลานก่อนไป"

"ไม่จริงหรอกครับ แม่ไม่ได้อยากอุ้มหลาน แต่แม่กลัวว่าผมจะไปคว้าผู้หญิง ที่แม่ไม่ชอบมาเป็นสมาชิกในครอบครัวมากกว่า"

"ในเมื่อลูกรู้แบบนั้นแล้ว ลูกก็อย่าทำให้แม่เสียใจสิ แม่รอเรือหลายๆ ตัวนั้น ไม่เหมาะสมกับลูกเลย"

"ใครรอเรือหลายๆ ตัวครับ" ชายหนุ่มถึงกับงงไม่รู้ว่าแม่กำลังพูดถึงใครอยู่

"ก็คนที่ลูกกำลังพัวพันอยู่ด้วยไง อย่าบอกนะว่าลูกไม่รู้จักชื่อของเธอ?"

"??" เขาลืมไปเลยแล้วเธอชื่ออะไร เคยเรียกแต่ชื่อเลขาที่เป็นพี่สาวของเธอ

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 122 ตอนจบ

    เช้าวันต่อมา.."ขอบพระคุณคุณปู่คุณย่ามากนะคะ""ถ้าอยากมาค้างที่นี่ก็มาได้ตลอดเวลาเลยนะ ปู่กับย่ายินดีต้อนรับเสมอ""ขอบคุณมากเลยนะครับ ส่วนเรื่องประตู เดี๋ยวผมจะให้ช่างมาดูให้""ไม่เป็นไรหรอก แค่เปลี่ยนลูกบิดเฉยๆ ก็ใช้งานได้เหมือนเดิมแล้ว""ให้ช่างมาดูดีกว่าค่ะคุณปู่" รักนรินทร์เกรงใจ มาขออาศัยอยู่บ้านท่านแท้ๆ ยังมาทำของท่านเสียหายอีก"ถ้างั้นก็เอาที่พวกเราสบายใจเลยแล้วกัน เดินทางปลอดภัยนะลูก""ขอบคุณอีกครั้งนะคะ" ทั้งสองไหว้ร่ำลาพวกท่านแล้วก็ออกมา[บ้านภูมิฐาน]ชายหนุ่มพาเธอกลับมาที่บ้านก่อน เพื่อจะมาเปลี่ยนเสื้อผ้าพอมาถึงก็เจอพ่อกับแม่ของเขาอยู่ที่บ้านพอดี"คุณพ่อจะออกไปไหนหรือครับ" เดินเข้ามาก็เห็นผู้เป็นพ่อกำลังจะออกจากบ้าน"ก็เข้าบริษัทน่ะสิ ที่บริษัทโทรมาบอกว่าตามตัวผู้บริหารไม่เจอ""ขอโทษครับ เดี๋ยวผมเข้าไปเอง แต่ขอขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ" เขามัวแต่ยุ่งตามหาเธออยู่ ก็เลยปล่อยปละละเลยเรื่องบริษัทไป"ฉันรออยู่ข้างล่างได้ค่ะ" หญิงสาวชักมือออกเมื่อเขายื่นมาจะจูงเธอขึ้นไปด้วย"จะรออยู่ข้างล่างทำไม..ไม่อาบน้ำก่อนหรือไง""คุณก็ไปอาบเองสิ""ไปด้วยกัน แล้วก็เข้าบริษัทด้วยกัน""ฉ

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 121

    "ใครเขาจะให้คุณนอนด้วย" หญิงสาวรีบเก็บของบนโต๊ะอาหาร พอเก็บเสร็จก็เดินไปที่ประตูบ้าน "คุณกลับไปเลยนะ ฉันจะล็อกบ้านแล้ว""บอกแล้วไงว่าจะนอนที่นี่ด้วย""แต่นี่มันไม่ใช่บ้านฉันนะ""งั้นก็กลับบ้านสิ""ไม่"จากที่ยืนกอดอกพิงผนังอยู่ชายหนุ่มก็ก้าวเดินไปที่บันได"นี่คุณ!" รักนรินทร์รีบหันไปล็อกบ้านไว้แล้วก็เดินตามเขาขึ้นมา"คุณพักอยู่ห้องไหน""ไม่บอก"ไม่บอกก็ไม่เห็นจะยาก เพราะชั้นบนมีห้องนอนแค่สองห้อง ภูมิฐานเดินไปหน้าห้องนอนหนึ่งในสองนั้น"คุณภูมิหยุดเดี๋ยวนี้นะ!" รักนรินทร์รีบเดินเข้าไปรั้งตัวเขาไว้ก่อนที่จะเปิดประตูห้องนั้น "นี่มันห้องของคุณปู่คุณย่า""คุณก็ไม่บอกแต่ทีแรก" ว่าแล้วชายหนุ่มก็เอื้อมไปเปิดอีกห้องที่อยู่ข้างกัน หญิงสาวก็เลยรีบตามเข้าไป"ก็ได้แต่ฉันให้คุณค้างแค่คืนนี้คืนเดียวนะ"เขาไม่ตอบ..ให้พ้นคืนนี้ไปก่อนแล้วกัน ถ้ายังรับไหวอยู่ภูมิฐานเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วก็เข้าห้องน้ำ ทำเหมือนบ้านของตัวเองยังไงยังงั้นรักนรินทร์ได้แต่ยืนทำหน้าบูดบึ้งใส่ แต่หัวใจกลับเต้นแรงสวนทางกับสิ่งที่แสดงออกมาเพียงไม่นานภูมิฐานก็ออกมาจากห้องน้ำ เธอก็เลยเข้าไปใช้ต่อพรึบ! "กรี๊ดด" หญิงสาวที่กำลังอา

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 120

    [คอนโด]เพียงไม่นานรถของภูมิฐานก็มาถึงคอนโด ชายหนุ่มลงจากรถได้ก็รีบตรงขึ้นไปก๊อก ก๊อกแกร็ก! แกร็ก!! เขาไม่มีคีย์การ์ดของห้องนี้ ก็เลยต้องได้เคาะประตูแล้วลองเปิด แต่ข้างในก็ยังเงียบอยู่"รักนรินทร์..คุณมาถึงหรือยังเปิดประตูให้ผมหน่อย" ขณะที่เรียกเขาก็ยังคงเคาะประตู แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆชายหนุ่มเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเธอ หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังคงเหมือนเดิม[ร้านขายของชำ]"ผมก็ได้ยินคุณแม่บอกว่า ได้ฤกษ์ยามแล้วไม่ใช่หรือครับพี่" เมื่อเกียร์เห็นพี่สาวมาหา ด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง ก็เลยถามเอาความจริง"สงสัยเขาจะยังไม่พร้อม""พี่จะไปสนใจอะไร" เกียร์ของขึ้นทันทีเมื่อได้ยินว่าฝ่ายชายไม่พร้อมที่จะแต่งงานกับพี่สาว"เรื่องนี้เราอย่าไปพูดให้ใครฟังนะ" ที่รักนรินทร์ต้องเล่าให้เกียร์ฟังก็เพราะอยากจะมาขออาศัยอยู่ที่นี่ก่อน ในระหว่างที่รอให้เขาตัดสินใจ พอคิดแล้วดูเหมือนไม่มีค่า ต้องให้ผู้ชายตัดสินใจว่าอยากจะแต่งงานด้วยไหม"ถ้างั้นพี่ก็ค้างที่ห้องผมเลยแล้วกัน..เพราะผมต้องกลับไปค้างที่บ้านของคุณแม่" ข้าวฟ่างไม่ได้มาด้วย เกียร์แค่แวะมาดูร้านช่วยปู่กับย่า"แล้วคุณปู่คุณย่าของเกียร์จะไม่ว่าพี่เหรอ""

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 119

    "ปล่อยค่ะนี่มันห้องทำงานนะ" พอเป็นอิสระหญิงสาวก็รีบห้ามปรามกลัวว่าเขาจะเลยเถิด"คุณทำเสน่ห์ใส่ผมหรือเปล่าเนี่ย" ยอมรับว่าไม่เป็นอันทำการทำงานเลย เพราะตั้งแต่ได้สัมผัสร่างกายของเธอมา เขาก็โหยหาเธอโดยตลอด"ทำเสน่ห์? อะไรคือทำเสน่ห์คะ" อย่างที่รู้กันอยู่ว่าเธอเติบโตที่ต่างประเทศ เรื่องแบบนี้ที่นั่นเขาไม่เชื่อกันอยู่แล้ว และไม่มีใครพูดถึง แม้แต่พ่อและแม่ สื่อโซเชียลก็ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่สนใจ แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี"ผมแค่ล้อเล่น มันเป็นเสน่ห์จากตัวคุณเอง""คุณรักฉันจริงเหรอ" รักนรินทร์ถามอีกครั้ง เพราะคิดว่าเขาคงอยากจะพูดแค่ต่อหน้าผู้ใหญ่"รักสิ ผมรักคุณ ว่าแต่คุณคิดยังไงกับผม""คิดยังไง?" ใช่แล้วเราคิดยังไงกับเขากันแน่ แต่พอได้ยินเขาบอกรักทำไมถึงดีใจมาก ดีใจจนห้ามน้ำตาของตัวเองไม่ได้"ผมไม่ได้บังคับให้คุณพูดหรอก เรื่องแบบนี้ต้องพูดออกมาจากใจ เหมือนที่ผมบอกคุณไง""คุณพูดจากใจจริงหรือคะ" ก็มันยากที่จะเชื่อนี่ วันนั้นยังทำเหมือนไม่ชอบหน้าเธออยู่เลย"ถ้าพูดแล้วคุณยังไม่เชื่อ งั้นผมทำให้คุณเชื่อเลยแล้วกัน""ทำอะไรคะ"คนตัวโตเดินมาที่ประตู แล้วก็จัดการล็อกมันไว้ แถมไม่ได้ล็อกแค่ลูกบิด เขายังล็อกก

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 118

    "กระดาษอะไรแปะอยู่ด้านหลัง" รรินธรที่ยืนอยู่ห่างหน่อยมองไปเห็นตอนที่สามียกแพทเทิร์นขึ้นมาดูหมั่บ รักนรินทร์รีบดึงมันออกมา แล้วก็ขยำไว้ในมือ "ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ก็แค่เจ้านายเขียนโน้ตแก้งานไว้ค่ะ"ภูมิฐานมองที่มือของเธอแบบยิ้มๆ "คุณพ่อกับคุณแม่ทานข้าวมาหรือยังครับ" แล้วเขาก็หันมาชวนพวกท่านคุย"ยังไม่ได้ทานเลย ก็นัดทานข้าวกับพ่อเรานั่นแหละ ไม่รู้ป่านนี้มาหรือยัง""อ้าวหรือครับ พอดีเลยผมกำลังหิว ขอไปร่วมทานด้วยคนนะครับ"ในขณะนั้นโทรศัพท์ของคริสก็ได้ดังขึ้น และคนที่โทรมาก็คือภูสิษฐ์รับโทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่งคริสก็หันมาหาภูมิฐาน"ถ้าจะไปทานด้วยกันก็ป่ะ ตอนนี้พ่อกับแม่เราอยู่ข้างล่างแล้ว" ว่าแล้วคริสก็เอื้อมไปจูงแขนภรรยาให้เดินตามมา ส่วนภูมิฐานก็รีบเดินนำหน้าไป เพื่อเปิดประตูห้องให้"แล้วเราไม่ไปเหรอลูก" รรินธรเห็นว่าลูกสาวไม่เดินตาม"ไม่หรอกค่ะ เดี๋ยวรักหาอะไรทานแถวโรงอาหารนี้ก็ได้"ภูมิฐานถึงกับหันกลับมามอง เพราะเขาเดินนำพวกท่านจะออกนอกห้องอยู่แล้ว..หน้าประตูลิฟต์.."ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีงานด่วน คงไปร่วมทานข้าวด้วยไม่ได้ เอาไว้โอกาสหน้านะครับคุณพ่อคุณแม่" เขาพูดในขณะที่ประตูลิฟต์กำลังเปิดอ

  • ภรรยาในนาม   บทที่ 117

    แกร็ก! แกร็ก!!"ทำไมประตูเปิดไม่ได้ล่ะคะคุณ หรือคีย์การ์ดใช้ไม่ได้แล้ว" คีย์การ์ดเคยเป็นของรรินธรสมัยที่พักอยู่ที่คอนโดนี้ ตอนนั้นเธอไม่ได้คืนให้กับคฑา แต่ก็ไม่ได้ทิ้งยังคงเก็บไว้เป็นอย่างดี"ก็เปิดได้อยู่นะ..แต่เหมือนถูกปิด" คริสใช้คีย์การ์ดเปิดอีกครั้งลองดู"ใครคะ" เสียงคนที่อยู่ด้านในดังออกมา เมื่อได้ยินว่าคนข้างนอกจะเปิดลองดูอีกครั้ง"อ้าวหนูยังไม่นอนเหรอลูก เปิดประตูให้พ่อกับแม่หน่อย" ที่ไม่เคาะเรียกเพราะกลัวจะรบกวนลูกสาว"แป๊บหนึ่งนะคะพ่อ"ที่คริสเปิดประตูเข้ามาไม่ได้ ก็เพราะตอนนั้นภูมิฐานอุ้มรักนรินทร์ยืนอยู่ใกล้ประตู พอได้ยินเสียงแกร๊กเท่านั้นแหละเขาก็รีบใช้มือดันประตูปิดไว้เหมือนเดิม ด้านในมันก็เลยล็อกอีกที ..และตอนนี้ทั้งสองกำลังมัววุ่นใส่เสื้อผ้ากันอยู่แกร็ก~"อ้าวนี่หนูยังไม่อาบน้ำเลยเหรอลูก แม่นึกว่าหนูหลับไปแล้วเสียอีก""ยังค่ะมัวเคลียร์งานอยู่" โกหกแม่จะบาปไหมเรา"ถ้างั้นหนูก็ไปทำงานต่อเถอะลูก ไม่ต้องห่วงพ่อกับแม่หรอก""คุณพ่อจะทำอะไรคะ" รักนรินทร์เห็นพ่อกำลังจะเดินไปเปิดประตูห้องนอน"หนูจะให้พ่อกับแม่นอนห้องไหนล่ะ" คริสถึงกับตกใจแล้วหันกลับมาถามลูกสาว"อีกห้องค่ะพ่อ"

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status