"นี่คุณ!" หญิงสาวที่ถูกเขาดึงเข้ามามีเอี่ยวด้วยเริ่มจะไม่พอใจ
"ใจเย็นก่อนสิครับรอให้พี่สาวผมออกไปก่อน" ดวงตาคมกริบมองจ้องแบบเปล่งประกาย จนทำให้คนที่ถูกมองสะท้านเข้าไปถึงทรวง
หญิงสาวลอบกลืนน้ำลายลงคอหายใจติดขัด เพราะมองใกล้ระยะเผาขนขนาดนี้
"ยังไงคืนนี้แกต้องไปงานเลี้ยงที่โรงแรมให้ได้ ถ้าแกไม่ไป คงรู้นะว่าพี่จะทำอะไร!" ว่าแล้วกัลยาก็สะบัดบ๊อบออกไปในทันที
เสียงถอนหายใจของชายหนุ่มดังออกมาเมื่อประตูบานนั้นถูกปิดลง แววตาที่เขามองเธอเมื่อสักครู่เปลี่ยนไป จนหญิงสาวต้องรีบลุกออกจากตัก เพราะรู้ดีแล้วว่าเขาจะพูดอะไร
"เดี๋ยวก่อน" คฑาเอ่ยพูดขึ้นเมื่อเห็นเธอเดินไปที่ประตู หญิงสาวหยุดแล้วค่อยๆ หันกลับมา
"คะ?" เขาจะว่าอะไรให้เราไหมเนี่ย ถ้าเหมือนตอนที่เล่นละครตบตาแม่ พอเราหมดประโยชน์แล้วเขาก็ไล่ออกจากห้อง ..เธอถึงต้องได้รีบออกไปก่อนที่เขาจะไล่
"ฉันรู้ว่าเธอฉลาดพอ ที่จะไม่พูดเรื่องนี้"
"เรื่องอะไรคะ"
"ก็เรื่อง...." ชายหนุ่มหยุดพูด คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน ดวงตาคมมองไปที่หญิงคนที่กล้าย้อนถามเขา เพราะเธอฉลาดกว่าที่เขาคิด "ออกไปได้"
เย็นวันเดียวกัน..ที่โรงแรมหรู
"หนูไม่ทำให้แม่ผิดหวังจริงๆ" อัญชัญเอ่ยชมลูกสาว เมื่อเห็นลูกชายเดินเข้ามาในงานเลี้ยง
"คฑาทางนี้" กัลยาชูมือขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้น้องเห็นว่าตัวเองนั่งอยู่โต๊ะไหน
ที่จริงเขาก็เห็นแล้วแหละ เพียงแค่แกล้งมองไปทั่ว
"สวัสดีครับ" มาถึงชายหนุ่มก็ยื่นมือไปทำความรู้จักกับผู้หญิงแปลกหน้าที่นั่งอยู่โต๊ะนั้น เพราะรู้ดีว่าเธอคนนี้คงจะเป็นเป้าหมายที่แม่จัดงานนี้ขึ้นมา
"สวัสดีค่ะ" หญิงสาวสวยเปรี้ยว ใบหน้าถูกแต่งแต้มไปด้วยสีสันของเครื่องสำอางราคาแพง ได้เอื้อมมือไปเพื่อที่จะจับมือกับเขา แบบการทักทายของชาวตะวันตก
"คุณคงเป็นผู้หญิงที่แม่ผมต้องการที่จะแนะนำให้ผมรู้จักใช่ไหมครับ"
"คฑา!" อัญชัญรู้ดีว่าลูกชายจะพูดอะไรต่อ เพราะเขาเคยคว่ำชามของแม่มาหลายครั้งแล้ว
"มีอะไรเหรอครับคุณแม่" ว่าแล้วชายหนุ่มก็หันมองกลับไปด้านหลัง และมองซ้ายมองขวา "แม่อย่าเล่นแบบนี้อีกนะครับ ผมตกใจหมดเลยนึกว่าเมียมาตาม"
"What??" คนที่ถูกพามาดูตัวถึงกับไปไม่เป็น เมื่อได้ยินผู้ชายบอกว่ามีเมียแล้ว
"ไม่ใช่แบบนั้นหรอกลูก" ว่าแล้วผู้เป็นแม่ก็มองไปที่พี่สาว เพื่อส่งสัญญาณ และพี่สาวก็รู้ดีว่าแม่สั่งให้พาน้องชายออกไปก่อน
"ตามพี่มานี่!"
"พี่จะพาผมไปไหนยังไม่ได้ทำความรู้จักกับเธอคนนั้นเลย" ชายหนุ่มแกล้งพูดเพื่อยื้อพี่สาวไว้ไม่อยากเดินตามแรงที่ถูกฉุด
เพี๊ยะ!
"โอ๊ยผมเจ็บนะ พี่ตีผมทำไม" ชายหนุ่มลูบต้นแขนที่ถูกพี่สาวฟาดเมื่อครู่
"ไหนเราบอกว่าจะเชื่อฟังพี่ไง!" พี่สาวเริ่มทวงบุญคุณที่ทั้งสองเคยมีต่อกัน
"แต่นี่มันคนละเรื่องกันนะครับพี่ ผมไม่ได้ชอบผู้หญิงคนนั้นสักหน่อย"
"แต่ผู้หญิงคนที่แกกำลังคบอยู่มันไม่เหมาะสม อยู่ด้วยกันไปก็ไม่รอดหรอก แกควรจะเลิก แล้วหาคนที่เหมาะสมกับตัวเองมาแต่งงานมีครอบครัวได้แล้ว"
"ถ้าพี่จะพูดเรื่องนี้ ผมขอตัวกลับก่อนแล้วกัน"
"คฑา!"
"ผมบอกคุณแล้ว เรื่องหัวใจมันบังคับกันไม่ได้หรอก" ทันใดนั้นก็มีเสียงผู้ชายพูดมาจากทางด้านหลัง กัลยาหันกลับไปมองแบบไม่พอใจ
"คุณสันติ! ไม่ช่วยอะไรแล้วก็อยู่เงียบๆ เถอะน่า!" สันติคือสามีของกัลยา และต้องอยู่ใต้อำนาจภรรยาเท่านั้น
วันต่อมาที่บริษัท..
"คุณริน"
"คะ" รรินธรรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ เมื่อได้ยินเสียงเจ้านายที่ออกจากลิฟต์มาแล้วเรียกชื่อเธอ
"บอกเลขาคนใหม่เข้ามาหาผมหน่อย" คฑาสั่งโดยที่ไม่ได้หยุดก้าวเดิน และตอนนี้เขาก็ได้เข้าไปในห้องแล้วด้วย
รรินธรมองกลับไปดูน้องสาวแบบแปลกใจ ว่าทำไมเจ้านายถึงเจาะจงอยากจะคุยกับน้องเธอโดยตรง
"ทำไมท่านประธานถึงเรียกเรา" แทนที่จะบอกให้น้องสาวรีบตามเข้าไป เธอต้องถามเอาความจริงก่อน
เช้าวันต่อมา.."ขอบพระคุณคุณปู่คุณย่ามากนะคะ""ถ้าอยากมาค้างที่นี่ก็มาได้ตลอดเวลาเลยนะ ปู่กับย่ายินดีต้อนรับเสมอ""ขอบคุณมากเลยนะครับ ส่วนเรื่องประตู เดี๋ยวผมจะให้ช่างมาดูให้""ไม่เป็นไรหรอก แค่เปลี่ยนลูกบิดเฉยๆ ก็ใช้งานได้เหมือนเดิมแล้ว""ให้ช่างมาดูดีกว่าค่ะคุณปู่" รักนรินทร์เกรงใจ มาขออาศัยอยู่บ้านท่านแท้ๆ ยังมาทำของท่านเสียหายอีก"ถ้างั้นก็เอาที่พวกเราสบายใจเลยแล้วกัน เดินทางปลอดภัยนะลูก""ขอบคุณอีกครั้งนะคะ" ทั้งสองไหว้ร่ำลาพวกท่านแล้วก็ออกมา[บ้านภูมิฐาน]ชายหนุ่มพาเธอกลับมาที่บ้านก่อน เพื่อจะมาเปลี่ยนเสื้อผ้าพอมาถึงก็เจอพ่อกับแม่ของเขาอยู่ที่บ้านพอดี"คุณพ่อจะออกไปไหนหรือครับ" เดินเข้ามาก็เห็นผู้เป็นพ่อกำลังจะออกจากบ้าน"ก็เข้าบริษัทน่ะสิ ที่บริษัทโทรมาบอกว่าตามตัวผู้บริหารไม่เจอ""ขอโทษครับ เดี๋ยวผมเข้าไปเอง แต่ขอขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ" เขามัวแต่ยุ่งตามหาเธออยู่ ก็เลยปล่อยปละละเลยเรื่องบริษัทไป"ฉันรออยู่ข้างล่างได้ค่ะ" หญิงสาวชักมือออกเมื่อเขายื่นมาจะจูงเธอขึ้นไปด้วย"จะรออยู่ข้างล่างทำไม..ไม่อาบน้ำก่อนหรือไง""คุณก็ไปอาบเองสิ""ไปด้วยกัน แล้วก็เข้าบริษัทด้วยกัน""ฉ
"ใครเขาจะให้คุณนอนด้วย" หญิงสาวรีบเก็บของบนโต๊ะอาหาร พอเก็บเสร็จก็เดินไปที่ประตูบ้าน "คุณกลับไปเลยนะ ฉันจะล็อกบ้านแล้ว""บอกแล้วไงว่าจะนอนที่นี่ด้วย""แต่นี่มันไม่ใช่บ้านฉันนะ""งั้นก็กลับบ้านสิ""ไม่"จากที่ยืนกอดอกพิงผนังอยู่ชายหนุ่มก็ก้าวเดินไปที่บันได"นี่คุณ!" รักนรินทร์รีบหันไปล็อกบ้านไว้แล้วก็เดินตามเขาขึ้นมา"คุณพักอยู่ห้องไหน""ไม่บอก"ไม่บอกก็ไม่เห็นจะยาก เพราะชั้นบนมีห้องนอนแค่สองห้อง ภูมิฐานเดินไปหน้าห้องนอนหนึ่งในสองนั้น"คุณภูมิหยุดเดี๋ยวนี้นะ!" รักนรินทร์รีบเดินเข้าไปรั้งตัวเขาไว้ก่อนที่จะเปิดประตูห้องนั้น "นี่มันห้องของคุณปู่คุณย่า""คุณก็ไม่บอกแต่ทีแรก" ว่าแล้วชายหนุ่มก็เอื้อมไปเปิดอีกห้องที่อยู่ข้างกัน หญิงสาวก็เลยรีบตามเข้าไป"ก็ได้แต่ฉันให้คุณค้างแค่คืนนี้คืนเดียวนะ"เขาไม่ตอบ..ให้พ้นคืนนี้ไปก่อนแล้วกัน ถ้ายังรับไหวอยู่ภูมิฐานเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วก็เข้าห้องน้ำ ทำเหมือนบ้านของตัวเองยังไงยังงั้นรักนรินทร์ได้แต่ยืนทำหน้าบูดบึ้งใส่ แต่หัวใจกลับเต้นแรงสวนทางกับสิ่งที่แสดงออกมาเพียงไม่นานภูมิฐานก็ออกมาจากห้องน้ำ เธอก็เลยเข้าไปใช้ต่อพรึบ! "กรี๊ดด" หญิงสาวที่กำลังอา
[คอนโด]เพียงไม่นานรถของภูมิฐานก็มาถึงคอนโด ชายหนุ่มลงจากรถได้ก็รีบตรงขึ้นไปก๊อก ก๊อกแกร็ก! แกร็ก!! เขาไม่มีคีย์การ์ดของห้องนี้ ก็เลยต้องได้เคาะประตูแล้วลองเปิด แต่ข้างในก็ยังเงียบอยู่"รักนรินทร์..คุณมาถึงหรือยังเปิดประตูให้ผมหน่อย" ขณะที่เรียกเขาก็ยังคงเคาะประตู แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆชายหนุ่มเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเธอ หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังคงเหมือนเดิม[ร้านขายของชำ]"ผมก็ได้ยินคุณแม่บอกว่า ได้ฤกษ์ยามแล้วไม่ใช่หรือครับพี่" เมื่อเกียร์เห็นพี่สาวมาหา ด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง ก็เลยถามเอาความจริง"สงสัยเขาจะยังไม่พร้อม""พี่จะไปสนใจอะไร" เกียร์ของขึ้นทันทีเมื่อได้ยินว่าฝ่ายชายไม่พร้อมที่จะแต่งงานกับพี่สาว"เรื่องนี้เราอย่าไปพูดให้ใครฟังนะ" ที่รักนรินทร์ต้องเล่าให้เกียร์ฟังก็เพราะอยากจะมาขออาศัยอยู่ที่นี่ก่อน ในระหว่างที่รอให้เขาตัดสินใจ พอคิดแล้วดูเหมือนไม่มีค่า ต้องให้ผู้ชายตัดสินใจว่าอยากจะแต่งงานด้วยไหม"ถ้างั้นพี่ก็ค้างที่ห้องผมเลยแล้วกัน..เพราะผมต้องกลับไปค้างที่บ้านของคุณแม่" ข้าวฟ่างไม่ได้มาด้วย เกียร์แค่แวะมาดูร้านช่วยปู่กับย่า"แล้วคุณปู่คุณย่าของเกียร์จะไม่ว่าพี่เหรอ""
"ปล่อยค่ะนี่มันห้องทำงานนะ" พอเป็นอิสระหญิงสาวก็รีบห้ามปรามกลัวว่าเขาจะเลยเถิด"คุณทำเสน่ห์ใส่ผมหรือเปล่าเนี่ย" ยอมรับว่าไม่เป็นอันทำการทำงานเลย เพราะตั้งแต่ได้สัมผัสร่างกายของเธอมา เขาก็โหยหาเธอโดยตลอด"ทำเสน่ห์? อะไรคือทำเสน่ห์คะ" อย่างที่รู้กันอยู่ว่าเธอเติบโตที่ต่างประเทศ เรื่องแบบนี้ที่นั่นเขาไม่เชื่อกันอยู่แล้ว และไม่มีใครพูดถึง แม้แต่พ่อและแม่ สื่อโซเชียลก็ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่สนใจ แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี"ผมแค่ล้อเล่น มันเป็นเสน่ห์จากตัวคุณเอง""คุณรักฉันจริงเหรอ" รักนรินทร์ถามอีกครั้ง เพราะคิดว่าเขาคงอยากจะพูดแค่ต่อหน้าผู้ใหญ่"รักสิ ผมรักคุณ ว่าแต่คุณคิดยังไงกับผม""คิดยังไง?" ใช่แล้วเราคิดยังไงกับเขากันแน่ แต่พอได้ยินเขาบอกรักทำไมถึงดีใจมาก ดีใจจนห้ามน้ำตาของตัวเองไม่ได้"ผมไม่ได้บังคับให้คุณพูดหรอก เรื่องแบบนี้ต้องพูดออกมาจากใจ เหมือนที่ผมบอกคุณไง""คุณพูดจากใจจริงหรือคะ" ก็มันยากที่จะเชื่อนี่ วันนั้นยังทำเหมือนไม่ชอบหน้าเธออยู่เลย"ถ้าพูดแล้วคุณยังไม่เชื่อ งั้นผมทำให้คุณเชื่อเลยแล้วกัน""ทำอะไรคะ"คนตัวโตเดินมาที่ประตู แล้วก็จัดการล็อกมันไว้ แถมไม่ได้ล็อกแค่ลูกบิด เขายังล็อกก
"กระดาษอะไรแปะอยู่ด้านหลัง" รรินธรที่ยืนอยู่ห่างหน่อยมองไปเห็นตอนที่สามียกแพทเทิร์นขึ้นมาดูหมั่บ รักนรินทร์รีบดึงมันออกมา แล้วก็ขยำไว้ในมือ "ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ก็แค่เจ้านายเขียนโน้ตแก้งานไว้ค่ะ"ภูมิฐานมองที่มือของเธอแบบยิ้มๆ "คุณพ่อกับคุณแม่ทานข้าวมาหรือยังครับ" แล้วเขาก็หันมาชวนพวกท่านคุย"ยังไม่ได้ทานเลย ก็นัดทานข้าวกับพ่อเรานั่นแหละ ไม่รู้ป่านนี้มาหรือยัง""อ้าวหรือครับ พอดีเลยผมกำลังหิว ขอไปร่วมทานด้วยคนนะครับ"ในขณะนั้นโทรศัพท์ของคริสก็ได้ดังขึ้น และคนที่โทรมาก็คือภูสิษฐ์รับโทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่งคริสก็หันมาหาภูมิฐาน"ถ้าจะไปทานด้วยกันก็ป่ะ ตอนนี้พ่อกับแม่เราอยู่ข้างล่างแล้ว" ว่าแล้วคริสก็เอื้อมไปจูงแขนภรรยาให้เดินตามมา ส่วนภูมิฐานก็รีบเดินนำหน้าไป เพื่อเปิดประตูห้องให้"แล้วเราไม่ไปเหรอลูก" รรินธรเห็นว่าลูกสาวไม่เดินตาม"ไม่หรอกค่ะ เดี๋ยวรักหาอะไรทานแถวโรงอาหารนี้ก็ได้"ภูมิฐานถึงกับหันกลับมามอง เพราะเขาเดินนำพวกท่านจะออกนอกห้องอยู่แล้ว..หน้าประตูลิฟต์.."ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีงานด่วน คงไปร่วมทานข้าวด้วยไม่ได้ เอาไว้โอกาสหน้านะครับคุณพ่อคุณแม่" เขาพูดในขณะที่ประตูลิฟต์กำลังเปิดอ
แกร็ก! แกร็ก!!"ทำไมประตูเปิดไม่ได้ล่ะคะคุณ หรือคีย์การ์ดใช้ไม่ได้แล้ว" คีย์การ์ดเคยเป็นของรรินธรสมัยที่พักอยู่ที่คอนโดนี้ ตอนนั้นเธอไม่ได้คืนให้กับคฑา แต่ก็ไม่ได้ทิ้งยังคงเก็บไว้เป็นอย่างดี"ก็เปิดได้อยู่นะ..แต่เหมือนถูกปิด" คริสใช้คีย์การ์ดเปิดอีกครั้งลองดู"ใครคะ" เสียงคนที่อยู่ด้านในดังออกมา เมื่อได้ยินว่าคนข้างนอกจะเปิดลองดูอีกครั้ง"อ้าวหนูยังไม่นอนเหรอลูก เปิดประตูให้พ่อกับแม่หน่อย" ที่ไม่เคาะเรียกเพราะกลัวจะรบกวนลูกสาว"แป๊บหนึ่งนะคะพ่อ"ที่คริสเปิดประตูเข้ามาไม่ได้ ก็เพราะตอนนั้นภูมิฐานอุ้มรักนรินทร์ยืนอยู่ใกล้ประตู พอได้ยินเสียงแกร๊กเท่านั้นแหละเขาก็รีบใช้มือดันประตูปิดไว้เหมือนเดิม ด้านในมันก็เลยล็อกอีกที ..และตอนนี้ทั้งสองกำลังมัววุ่นใส่เสื้อผ้ากันอยู่แกร็ก~"อ้าวนี่หนูยังไม่อาบน้ำเลยเหรอลูก แม่นึกว่าหนูหลับไปแล้วเสียอีก""ยังค่ะมัวเคลียร์งานอยู่" โกหกแม่จะบาปไหมเรา"ถ้างั้นหนูก็ไปทำงานต่อเถอะลูก ไม่ต้องห่วงพ่อกับแม่หรอก""คุณพ่อจะทำอะไรคะ" รักนรินทร์เห็นพ่อกำลังจะเดินไปเปิดประตูห้องนอน"หนูจะให้พ่อกับแม่นอนห้องไหนล่ะ" คริสถึงกับตกใจแล้วหันกลับมาถามลูกสาว"อีกห้องค่ะพ่อ"