“ฉัน... จะไปที่ตรงไหนได้ ชีวิตฉันจะเป็นยังไง ให้แล้วแต่ท่านเถอะ”
“ก็ดีแล้ว หากหล่อนรับปาก จะต้องอยู่กับฉันไปจนกว่าใครคนหนึ่งจะตาย”
ไม่ใช่คำขู่... แต่เขาจะทำมันโดยไม่สนใจเรื่องศีลธรรม นัยน์ตาคู่สีดำขลับเปล่งประกายสีแดง จ้องมองใบหน้าสดสวยนิ่งงัน สนใจเขี้ยวขาวคมตรงมุมปากยังเลื่อนมือมาจับมันด้วยแววตาใคร่รู้ แต่ถูกคว้าหมับเข้าข้อมือ กำมันเอาไว้แน่น
“ฉันกำลังหิวเทียว แม่สาวช่างซุกซน” ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงอีกครั้ง ประกบปิดริมฝีปากอิ่มงามสีแดงชมพู มืออุ่นร้อนปัดป่ายบนกายสาวที่ไม่เคยยินยอมให้ชายใดแตะต้อง เว้นเสียแต่ในฐานะสามี คุณหลวงหนุ่มจึงเอาแต่ใจอยากจับตรงไหนก็จับ มือลูบไล้ผ่านหน้าท้องแบนราบของแม่สาวเอวอ้อนแอ้น ใจนึกอยากเลี้ยงดูหล่อนให้ดีกว่าพ่อแม่เสียอีก จะได้มีน้ำมีนวลกว่านี้
หญิงสาวไม่รู้ตัวเลยว่าเขาใช้เวทมนตร์อาคมอันใด แค่กอดจูบลูบคลำก็ทำให้หล่อนอ่อนระทวยไปทั้งร่าง ลิ้นหนากระหวัดเลียลิ้นเล็ก ๆ ไม่ประสีประสาออกไปพร่ำสอนให้อย่างใจดี นำพาเสียงน่าอายจากการกระทบกระทั่งกันของน้ำลายและริมฝีปาก ยามใบหน้าหล่อเหลาก้มลงพรมจูบไปทั่วใบหน้าลำคอ แตะปลายลิ้นลงบนสะดือสวย เลียชิมไปทั่วกระทั่งถึงยอดออกสีชมพูหวาน อย่างที่บอกว่าหิว หล่อนยังคงปิดตารับทุกสัมผัสเสน่หา
“อื้อ... คุณหลวง... ฉันร้อนเหลือเกินค่ะ อ๊ะ...” ดวงตาคู่สวยเปิดขึ้นอีกครา เมื่อเรียวปากหนาได้รูปเริ่มหยอกล้อกับยอดปทุมถันที่แข็งตึงตามจังหวะของปลายลิ้น เขาทรมานหล่อนด้วยรสชาติอันน่าประหลาดพิศวง
หล่อนยังคงส่งเสียงประหลาด ฟังไม่ได้ศัพท์แม้ว่าเขาไม่ได้ทำการอันใดมาก แค่ขยับปลายนิ้วลากผ่านกลีบดอกไม้งาม ชื่นชมความสวยเบื้องหลังแพรไหมสีดำขลับด้วยนัยน์ตาสีแดงเป็นประกาย ชิมชมดูดดื่มอย่างตะกละตะกลาม ประหนึ่งจระเข้ในวัยหนุ่มที่หากได้พบตัวเมียแล้วจะฟาดหัวฟาดหางเต็มที่เพื่อแย่งชิงมา เพื่อให้ได้ครอบครองเป็นเจ้าของอยู่ตัวเดียว
ร่างบางบิดเร่า มือจิกผ้าปูที่นอนสีขาวจนยับเยิน เมื่ออารมณ์หวามไหมเข้าจู่โจม ถึงจะต้องยอมรับว่ารู้สึกพึงพอใจกับปลายลิ้นอุ่นร้อนเป็นงานยามดูดเม้ม กระหวัดเลียกลางกายสาว จนหล่อนยกตัวขึ้นนั่งตัวขดงอ หวีดร้องขอให้เขาอย่าหยุด! แน่นอนว่าเขาคงไม่หยุด คุณหลวงหนุ่มพลันผลักหล่อนลงนอนอีกครั้ง มือเรียวพยายามจับคว้าเส้นผมของเขาไว้เป็นที่พึ่ง
หล่อนตกอยู่ในสภาพแสนทุลักทุเลเมื่อเขายอมปล่อยจากความหวานหอมเบื้องล่าง กระเถิบกายขึ้นแทรกหว่างกลาง สองขาสั่นระริกด้วยความต้องการบางอย่างแต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
“คุณหลวง... ฉันทรมานค่ะ... ได้โปรด อย่ารังแกฉัน...”
“เช่นนั้นฉันไม่เกรงใจนะแม่แก้ว...” พูดจบ เขาปลอบประโลมหล่อนด้วยจุมพิตเร่าร้อน มือสะกิดปลายยอดเกสรงามคอยปลุกเร้าแต่ไม่ปล่อยให้สุขสมอารมณ์หมาย
เป็นเรื่องสำคัญอย่างสุดซึ้ง สำหรับครั้งแรกของคนสองคนในร่างมนุษย์ คุณหลวงจันจึงใช้ความระมัดระวังตามที่รับปากเอาไว้ สัมผัสหล่อนอย่างเอาใจ ทว่ายังอดทนข่มความปรารถนามากล้นไม่ให้หล่อนนำเขาไปสวรรค์ ใช้ปลายนิ้วตรวจตราทางข้างหน้าก่อนส่งตัวเข้าไป
“อ๊ะ! มะ... มันเจ็บค่ะ”
“ผ่อนคลายเสียหน่อยนะแม่แก้ว อีกประเดี๋ยวหล่อนจะรู้สึกดี ฉันคงไม่กล้าจะทำร้ายเมียตัวเองหรอก”
น้ำตาหลายหยดรินไหลลงอาบแก้มเนียน หล่อนทั้งเจ็บทั้งอึดอัด แต่ก็แปลกที่ยังยอมเชื่อฟังสามี เมื่อเขาเริ่มขยับตัวเข้าออกถี่ระรัวไม่ปล่อยให้หล่อนได้หายใจหายคอ สองขาสั่นเทาก็คอยหนีบสะโพกสอบเอาไว้เพราะประสบเข้ากับความเจ็บปวดเหลือคณา เหมือนร่างถูกฉีกขาดจากการรุกรานของท่อนอุ่นร้อนหน้าตาประหลาดที่หล่อนเห็นครั้งหนึ่ง
ร่างกายหล่อนคงเป็นของเขาจริง ๆ สมกับที่เป็นเมียซึ่งเขาซื้อมาด้วยเงินกว่าห้าหมื่นบาท...
แก้วตานึกน้อยใจอย่างนั้น หากพอความเจ็บปวดถูกแทนที่ด้วยความสุขหฤหรรษ์ ร่างบางแอ่นเอวรับแรงกระแทกกระทั้น ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับควบคุมจังหวะสวาทของบุรุษเพศ
ในห้องเงียบงันเริ่มเต็มไปด้วยเสียง ไม่ต่างจากว่าหล่อนจะแข่งส่งเสียงตะโกนกับผัวให้รู้แพ้รู้ชนะ บางครั้งเขาก็ช้า ก็เร็วเพื่อเอาอกเอาใจหล่อน ยังคอยถามว่าชอบตรงไหนอย่างไร กดสะโพกเข้าลึกสุดทางด้วยสีหน้าเร่าร้อนทรมาน
“แม่ทูนหัวของพี่... อา... ทำไมหล่อนน่ารักน่าพึงใจปานฉะนี้”
ช่องทางคับแคบที่บีบรัดตัวตนอย่างบ้าคลั่งพาเรือนกายกำยำสั่นเทา ทว่าเกร็งจัดจนเส้นเลือดปูดโปน แววตาคู่คมเปล่งประกายสีแดงตามธรรมชาติ เมื่อกุมภิลหนุ่มไม่สามารถข่มความอดทน แม้แต่พลังของตนก็เหมือนกับว่าเขาเพียงลืมมันไปจนหมดสิ้น
“อื้อ... อ๊ะ! คุณหลวง...”
ครั้งสุดท้ายที่คนใต้ร่างสะบัดสองมือกอดรัดรอบคอแน่น หนีบสองเรียวขาโอบกายแข็งแรงของเขานั้น หล่อนกรีดร้องลั่น ขอร้องให้เขาส่งตัวเข้าหาหล่อน รักหล่อนให้มากเท่าปากว่าจะดูแลตราบชั่วชีวิต คุณหลวงจันจึงมอบความเป็นตัวตนทั้งหมดให้ในเฮือกสุดท้าย จนไม่มีเหลือสักหยาดหยดไว้กับตัว ซุกซบใบหน้าพร่างพราวเม็ดเหงื่อในอ้อมแขนเล็ก ๆ พรมจูบบนไรผม ขมับเนียน ตามแก้มแดงก่ำไม่เว้นว่างแม้สักช่วงเดียว
-------------------------------
จวบจนรุ่งฟ้าสาง แก้วตายังคงปล่อยตัวปล่อยใจไปกับประสบการณ์แปลกใหม่ หล่อนเผลอหลงใหลในบรรยากาศเร่าร้อนอบอุ่นอยู่ไม่น้อย เวลาที่เขากอดหล่อน จูบหล่อน ราวกับว่าหล่อนเป็นแก้วล้ำค่าอันแสนบอบบางน่าทะนุถนอม แต่บางครั้งกลับเป็นตรงกันข้าม ราวกับว่าเขาจะทำลายร่างเล็ก ๆ นี้ให้พินาศย่อยยับ
ห้องนอนเรียบร้อยในทีแรกตอนนี้ค่อนข้างเละเทะ หมอนผ้าห่มกระเด็นไปคนละทิศทาง แม้แต่เก้าอี้ทำงานตัวเล็ก ก็มาตั้งอยู่กลางห้อง คราบเลือดสีแดงสดที่แห้งกรังไปกับผ้าสีขาวบ่งบอกว่าหล่อนเป็นเมียเขาโดยสมบูรณ์ บ่าวที่จะมาทำความสะอาดคงตกใจแน่ ๆ
“แล้ว... ดีไหมเล่า?” เสียงแหบพร่าถามคนในอ้อมอก ดวงตาฉ่ำปรือของหล่อนสบมองเขา เหมือนจะอ้อนขออะไรสักอย่าง
ก็เป็นธรรมดาของเด็กวัยซน คุณพ่อหย่อนก้นนั่งลง ลูบศีรษะน้อยของคนลูกอย่างเอ็นดู“ไปได้ครับ แต่อย่าซนมากนะ ไปแล้วรีบกลับมาถ้ำก่อนเราจะขึ้นไปด้วยกันอีกพรุ่งนี้เช้าครับ“หนูไม่ซนครับพ่อ”“เด็กผู้ชายเขาเรียกตัวเองว่าผมครับลูก ภาษาไทยนะ ไม่เหมือนภาษาอื่น ไอก็ไอคำเดียว ไว้พ่อจะสอนลูกอีกเยอะ ๆ อีกหลายภาษาเลยนะ” คุณพ่อผ่านอะไรมามากกว่า ลูกน้อยพยักหน้าเชื่อฟังคุณพ่อ ปากยิ้มไม่หุบ“ครับพ่อ ผมไม่ซนครับพ่อ”“เอ้า... พ่อมีธุระต้องคุยกับแม่เขาหน่อย เรื่องวันหยุดยาวของบ้านเรา เรื่องเข้าโรงเรียนของหนูด้วย”ข้อหลังแค่คิดก็สะพรึง! กัญญาวีร์ทำหน้าตกใจพอลูกชายเข้าไปกอดอ้อนพ่ออย่างดีใจ เพราะจะได้มีเพื่อนในอนาคตคุณแม่คงไม่เห็นด้วยนัก เธออยู่แต่ในต่างจังหวัดมาหลายปี ลงแต่ถ้ำ เลี้ยงแต่ลูก เธอและครอบครัวค่อนข้างเก็บตัว ไม่ไปสนิทสนมกับใครมากนัก เหมือนที่นายจันและบ่าวทำมาก่อนนายคล้าวมีอายุยืนยาวมากกว่าเดิม แก่ช้าลงแต่ก็ไม่รู้ว่าจะลาจากโลกไปในอนาคตหรือไม่“เราจะเข้ากรุงเทพกันหรือคะ? จะให้ลูกไปโรงเรียนจริงหรือคะ...”“ไปครับ ผมยังไปเรียนได้เลย ผมจบโทมาไม่รู้กี่ใบทำไมลูกจะไปเรียนไม่ได้ล่ะ” นายจันผุดยิ้มกว้างหวานให้
“ตอนนี้ฉันยังไม่อยากจะทำอะไรทั้งนั้น” ตัดบทเสียดื้อ ๆ คุณหลวงจันแสนเหนื่อยหน่ายกับชีวิต ไม่อยากสู้รบตบมือกับใครไม่อยากตามหาเมียหรืออะไรทั้งนั้น จึงรีบเก็บของ สนทนากับบ่าวไปเกี่ยวกับเรื่องราวหลังจากที่เขาออกมาจากเมืองพิจิตรแล้วเร่ร่อนไปด้วยกันกับจระเข้รุ่นปู่ รุ่นบิดาของนายคล้าวสองนายบ่าวช่วยกันคนละไม้ละมือก็จัดบ้านโบราณก็สะอาดเอี่ยมเรียบร้อย แม้ใช้เวลาอยู่หลายชั่วโมง ขณะนายคล้าวฉุกใจนึกขึ้นได้ว่าตนเพิ่งอายุสิบกว่าขวบแต่พอก้มหน้าลงมองมือทั้งสองแล้วดูไม่น่าจะใช่ เขาไม่ใช่เด็กสิบขวบหรือเป็นจระเข้บ่าวที่เพิ่งเกิดมาเช่นตอนนั้น เหมือนกับว่าจะลืมเลือนอะไรไปอย่าว่าแต่จะให้นึกเลย... มาอยู่บ้านหลังนี้ได้ยังไงก็ยังไม่รู้คุณหลวงจันได้คำตอบนั้นอีกไม่นาน เมื่อเดินขึ้นไปบนชั้นสองหน้าตู้กระจกสีขาว ข้างกันกับตู้เสื้อผ้าในห้องนอนกว้างขวาง มีกระดาษเขียนด้วยลายมืออ่านได้อย่างชัดเจนว่าเป็นชื่อ... แก้วตา...“ดิฉันแก้วตา... ขอยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดและบ้านหลังนี้ให้คุณหลวงจัน หลังจากที่ดิฉันเสียชีวิตแล้วขอให้ท่านอาศัยอยู่กับคุณพระประสิทธิ์ พะยาน... นายมิ่ง ท่านขุนประไพ...”“ใครหรือครับท่าน...”“มาถามฉันจะไ
เฮือกสุดท้ายของหญิงสาวที่จับขาของเขา นายมิ่งปิดตาลงกัดกรามกรอด ๆ ปากไม่เลิกร่ายคาถา นั่งคุกเข่าลงข้าง ๆ กลุ่มควันสีดำที่ลอยวนอยู่เหนือหม้อติดยันต์ เหลือบตามองเรือนร่างงามใต้ลมหายใจรวยริน พลันหันไปบอกกับผู้ใหญ่อย่างแน่วแน่“อย่างไรก็ฆ่าไม่ตายพ่อปู่ คงจะทำได้เพียงสะกด หลานว่าเราไม่ควรสร้างกรรมต่อพวกเขาให้แก้แค้นกันไปไม่จบสิ้นเลย ขอให้จบกันที่ภพชาตินี้เถิด” “ข้าแค่มาช่วยเหลือ ให้แล้วแต่เอ็งตัดสินใจละกัน ข้าก็หน่ายจะสู้กับอ้ายตาละวันเต็มทน”พ่อเฒ่าผู้เก่งฉกาจในวิชาอาคมจึงยอมตาม ช่วยออกแรงปิดหม้อดินเผาติดยันต์ที่โชกชุ่มด้วยเลือด ก่อนที่ร่างหนากำยำสีนิลสนิทจะหายไปกับตาราวถูกสูบลงหม้อนั้นไปคุณหลวงจันถึงโกรธแค้นสักเท่าไร เจ็บปวดชิงชังกับการถูกหักหลังจากคนที่ไว้ใจที่สุด ทั้งเมียรักและบ่าวที่เลี้ยงดูมาด้วยหยาดเหงื่อ ตรากตรำทำงานกับมนุษย์ ยอมเป็นเบี้ยล่างเพื่อแลกกับเงินและอำนาจบนโลกนี้ซึ่งไม่จำเป็นสำหรับเขาเลย แต่เขากลับยอมจำนนมาต่อหลายปีเขาเพิ่งจะสูญเสียทุกสิ่งเพราะทำร้ายมนุษย์อย่างโหดเหี้ยม ชีวิตเหล่านั้นที่ถูกพรากชิงไปเป็นเวรกรรมที่เขาต้องชดใช้ วิญญาณทั้งหลายยังปรากฏเป็นเงาเลือนรา
เจ้าของบ้านคงไม่ได้เอะใจจนวางแก้วลงแล้วกะพริบตาถี่ ๆ เสียงเนือย ๆ ว่า “แปลกจริง... ชาหอมของเตี่ยหล่อน ดื่มแล้วฉันรู้สึกง่วงพิกล”“ง่วงก็นอนเสียนะคะคุณหลวงของแก้ว...”ประโยคสุดท้ายที่ได้ยิน เช่นเดียวกับรอยยิ้มกว้างหวานของหญิงสาว ชายร่างสูงใหญ่ในเชิ้ตฝรั่งล้มฟุบลงบนโต๊ะข้างจานข้าว โดยมีอีกสองคนถอนหายใจอย่างโล่งอกคุณพระประสิทธิ์ยอมทำตามแผนการของหญิงสาวเพราะไม่อยากให้เจ้านายก่อกรรมไปมากกว่านี้ ตัวเขานั้นเห็นด้วยทุกอย่างถึงเสียใจอยู่ไม่น้อย ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามแผนการ หล่อนใส่ยานอนหลับลงทั้งในอาหารและในแก้วชา เผื่ออย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ทานเข้าไปก็จะต้องหยิบสักอย่าง“ดูแลคุณหลวงจันด้วยนะคะ คุณคล้าว คุณพระประสิทธิ์ ไม่ว่าคนไหนชื่อใด ท่านเป็นทั้งบ่าว เป็นทั้งมิตรสหายที่คุณหลวงไว้วางใจเป็นที่สุด ฝากผัวฉันด้วย”“รีบไปเถอะขอรับ ยานอนหลับคงจะทำให้ท่านหลับได้ไม่นาน จิตท่านเวลานี้เพิ่งหลุดไปยืนอยู่หน้าบ้าน เหลียวซ้ายแลขวามองหาเมียอยู่นั่น”ต่างคนลุกขึ้นช่วยกันกับคุณพระแบกชายร่างกำยำไป ขณะที่คุณหลวงจันตัวใหญ่ที่สุดในบ้านแล้วจึงค่อนข้างทุลักทุเล กว่าจะมาถึงห้องนอน มีหม้อดินเผาของอ้ายมิ่งวางอยู่บนเต
“ใช่ ฉันต้องการจะรู้วิธีเดียวกับที่หมอจระเข้เคยปราบวิญญาณร้ายตนนี้ พ่อเฒ่าแกต้องเล่าให้ฟังแน่”“เอ๊ะ... ฉันก็จำไม่ได้เหมือนกัน” พูดพลางเบือนหน้าหนีไปอีกทาง แม่อ่วมบ่นปาว ๆ ว่าเขาน่ะหวงวิชาแต่แก้วตาล้วงหยิบถุงกำมะหยี่สีแดงออกมา“เอ้า... ฉันเทหมดหน้าตักให้แกหลายบาททีเดียว รับรองว่าแกสบายไปทั้งชาติ ฉันเพิ่งไปถอนธนาคารมา พรุ่งนี้ฉันก็จะไปแล้ว... นี่แน่ะอ้ายหมอมิ่ง แกบอกฉันหน่อยเถอะนะ นะ...”หลังส่งเงินในถุงใส่เงินให้ทั้งใบ นายมิ่งทำตาโต มือคว้าถุงสีแดงมาเปิดออกเห็นเงินเป็นฟ่อนก็ก้มหน้านับ ก่อนจะร่ายอาคมตั้งจิตอธิษฐานไม่ให้วิญญาณตนไหนเข้ามาในอาณาเขตของเขาได้ระหว่างคุยธุระสำคัญ ซึ่งแก้วตาตัดสินใจเล่าทั้งหมดให้ฟังเป็นหนทางเดียวแล้วหล่อนจึงยอมบอกนายมิ่งไปทั้งหมด ทว่าดูท่าทางไม่ใช่เรื่องง่าย คิ้วเข้มหนาขมวดมุ่นมองเงินในมืออย่างไม่แน่ใจว่าควรคืนเจ้าตัวดีหรือไม่ จนเงยขึ้นสบมองใบหน้าสวยหวาน“พญาชาละวันเวลานี้ หากเป็นจริงอย่างที่แกว่ามีอายุห้าร้อยกว่าปี ฉันมีความเห็นว่าฆ่าไม่ตาย แหละหมอปราบจระเข้ต่อให้เก่งฉกาจสักเท่าไร คงไม่สู้ไปตายฟรี ปราบไม่ได้ดอกกระมัง...”“มันต้องมีสักวิธีซี มิฉะนั้นพ่อเฒ่าแก
“เช่นนั้นหล่อนควรลงไปอยู่ถ้ำบาดาลกับฉัน รอจนกว่าบ้านเมืองจะสงบ ผู้คนรุ่นนี้ตายไปเสีย”“ฉันคงคิดถึงเตี่ย คิดถึงเพื่อน ๆ ฉันมาก ฉันไม่อยากไปไหนจากบ้านนี้เลยค่ะ”“มีทางเลือกเสียเมื่อไร ยังไงหล่อนต้องตกลงว่าจะไปกับฉัน” ปลายเสียงเด็ดขาดทำให้คนในอ้อมแขนเงยขึ้นมองเขาด้วยแววตาตัดพ้อ“ท่านพูดเช่นนี้... หมายว่าจะบังคับฉันหรือคะ?”“ก็ไม่เชิงว่าบังคับ แต่ฉันเบื่อหน่ายโลกมนุษย์เต็มทน ฉันจะลงไปเลี้ยงดูลูกในถ้ำบาดาล พาหล่อนกับลูกไปเที่ยวในเมืองที่มีแต่น้ำ ธรรมชาติสวยงาม ฉันเกรงว่าบนบกนี้ไม่สะดวกสบายด้วย อาจจะเกิดสงคราม ผู้คนล้มตาย ลำบากยากแค้นเอามาก ๆ เกินหล่อนจะจินตนาการ อีกไม่นานดอกแม่แก้ว”แก้วตานึกตามคุณหลวงจันพูดอย่างไรก็นึกไม่ออก หล่อนไม่เข้าใจอยู่ดี ยังดื้อดึงพอ ๆ กับเขา“และถ้าฉันไม่ไปเล่าคะ คุณหลวงจะทำอย่างไรกับดิฉัน”“วันพรุ่งนี้สักย่ำค่ำ ท่านเยื้องจะเข้ามาพร้อมบุตรสาว มาคุยกับฉัน ฉันให้เวลาหล่อนคิดถึงตอนนั้น คำตอบของฉันมีเพียงคำตอบเดียว”“บุตรสาวท่านเยื้องเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้?”“ฉันจะรับเมียเพิ่ม...”“คุณหลวง... สาบานว่าจะมีเมียเดียว!” ตะคอกดัง แก้วตาผลักตัวออกจากอ้อมแขนแข็งแรง ลุกพ