“คุณหลวง... เข้ามาได้ยังไงคะ?”
“ก็พังประตูเข้ามาน่ะซีแม่ ฉันจะอาบน้ำบ้าง หล่อนไม่ให้ฉันอาบ เห็นทีว่าอยากลงไปแช่โอ่งมังกรหลังบ้านฉันกระมัง แต่ว่าคงจะต้องต่อสู้กับบ่าวนะแม่ โอ่งหลังบ้านนั้นน่ะ ผัวเมียต้องแก่งแย่งกัน” เขาช่างพิรี้พิไรจีบเมีย ทั้งที่อยากจะอาบน้ำด้วยมากกว่า ดวงตาคู่สวยจึงเบิกกว้างมองตั้งแต่แผงอกกว้างกำยำไล่ลงมาถึงไรกล้ามเรียงตัวสวยบริเวณหน้าท้อง ความร้อนแรงของเขาคงจะทำให้หล่อนร้อนตามไปด้วย ก่อนจะเบือนหน้าไปอีกทางพอรู้ตัวว่าทำกิริยาไม่งาม
“ทำไมถึงไม่ซื้อโอ่งเพิ่มเล่าคะ?”
“หากฉันซื้ออ่างเพิ่ม ให้ผัวเข้าไปในอ่างหนึ่งใบ อีกคนก็เข้าไปในอ่างหนึ่งใบ มันจะไม่โรแมนติกน่ะซี ต้องเข้าไปอาบร่วมกันในอ่างเดียวกัน”
“ทำไมจะต้องอาบอ่างเดียวกัน”
หล่อนถามหน้าบึ้งตึงเพราะได้ยินอยู่ว่าพูดเรื่องโอ่ง คุณหลวงจันก็วกกลับมาเรื่องอ่าง ให้มันได้อย่างนี้สิ
“เป็นผัวเมียกัน อาบน้ำอ่างเดียวกัน มันออกจะกระชุ่มกระชวยแม่แก้ว”
“เป็นผัวเมียกัน อาบโอ่งหรือว่าอาบอ่าง คนละอ่างก็เหมือนกันค่ะคุณหลวง”
“ไม่จริงหล่อน...”
กว่าผู้ชายตัวโตจะสะบัดผ้าขนหนูทิ้งลงพื้นแล้วก้าวขาลงอ่าง แก้วตาหน้าตื่นตะลึงมองกลางกายชายที่มีแพรไหมปกคลุม ผ่านหน้าไปไว ๆ ขณะที่เขาขยับกายเข้าหาหล่อนในอ่างเล็กแคบ แหวกฟองสีขาวออกกระจายไปทั่ว
“แม่แก้วตา... แม่คนงามของพี่” ทั้งเสียงแหบพร่าและนัยน์ตาประกายสีแดงสดสวยทำให้หล่อนนิ่งอึ้งมองเขา เพราะไม่ผิดแน่ หล่อนไม่ได้คิดไปเอง แสงสีนวลอ่อนในห้องน้ำตอนนี้สะท้อนเข้านัยน์ตาของเขายิ่งทำให้เห็นชัดเจน
“ทำไม... ดวงตาคุณหลวง... เป็นสีแดง...”
ไม่ทันได้ตกใจนาน เรียวปากหนาก็ประกบปิดลงบนริมฝีปากอิ่มงาม มอบจุมพิตอ่อนหวานนุ่มนวลทว่าเนิบนาบอาลัยราวคิดถึงความหอมหวานนี้นักหนา โดยไม่สนว่าหล่อนจะคิดอย่างไรกับการรับรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา กุมภิลหนุ่มในร่างมนุษย์ยังคอยสูบลมหายใจหอบสั่นจากปากเล็กดื้อรั้นประหนึ่งจะกลืนกิน
เรือนร่างเปลือยเปล่าแนบชิดอิงแอบหากแตะต้องกัน พาลพาให้น้ำในอ่างเหมือนจะกลายเป็นน้ำร้อนจัด ฝ่ามือหนาอยู่ไม่สุขเลื่อนลูบบนเอวคอดบาง ขยับขึ้นมาบนอกอวบอัด บีบกำเบา ๆ จนหล่อนสะดุ้ง
คุณหลวงจันคงคิดเรื่องอาบน้ำผึ้งพระจันทร์กับเมียในเร็ววัน แต่กระนั้น คนในอ้อมแขนก็แสนจะเหนียมอาย เพียงถูกสะกิดเข้าบนยอดกายสาวที่แข็งเป็นตุ่มไตตามอารมณ์หวามไหว มือเรียวพลันผลักอกกว้างออก
“คุณหลวงคะ... พอก่อนนะคะ”
“ทำไมล่ะ?”
“ฉันเกรงว่าฉันไม่รู้จักเรื่องหนุ่มสาวดี”
“อยู่เฉย ๆ ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นแหละแม่ ฉันรู้หน้าที่ผัว ฉันยินดีจะสอนหล่อนเอง”
“คุณหลวงว่าจะไม่บังคับจิตใจฉัน”
“เป็นเด็กดื้อเงียบ เอาแต่ใจตนเป็นใหญ่ ฉันยินดีจะตามใจหล่อนแต่ไม่ใช่ทุกคราวนะแม่แก้ว หล่อนควรจะตามใจฉันบ้าง” ต่อว่าตัดพ้อเสียงเข้ม หญิงสาวทำหน้าบึ้งตึงใส่เขาที่จับคางหล่อนเชยขึ้น โน้มใบหน้าลงประกบจุมพิตอีกครา
ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคุณหลวงจันยิ่งกับคนไร้ประสบการณ์ ไม่เคยถึงเนื้อต้องตัวบุรุษ พอเขากอดหล่อน ถูไถยอดอกสีหวานด้วยแผงออกแข็งแรงอบอุ่น หล่อนก็ทำเก้ ๆ กัง ๆ เลื่อนมือขึ้นโอบรอบคอ ในที่สุดปากอันดื้อรั้นก็กลับมาโอนอ่อนตาม เมื่อถูกบดเบียดบังคับให้เผยอปากขึ้นรับจูบหวานอย่างไม่ลดละ แต่เพียงไม่นาน เขาเป็นฝ่ายผละออกจากริมฝีปากคู่งาม ก้มหน้าลงมองดวงตาคู่สวยฉ่ำปรือดูเสียอกเสียดาย
“หล่อนชอบให้ฉันจูบ แต่หล่อนกลัวอะไร... หล่อนรู้สึกยังไง?”
“ฉันไม่ใช่คนพูดจาโจ่งแจ้งอย่างคุณหลวงค่ะ”
“ผู้หญิงกระไรใจดำ หล่อนไม่ให้ฉันได้มีความสุขสมกับที่เสียค่าขันหมากทองหมั้นตั้งแพงโข ช่างปะไร ฉันจะจูบตามเนื้อตัวหล่อนให้ช้ำเทียว...” ในน้ำเสียงและท่าทีเง้างอน ร่างกำยำรุ่มร้อนดึงเอวบางเข้าหา ยกก้นงามงอนให้นั่งบนกลางกายเพื่อที่จะยืดขายาว ๆ ด้วยลักษณะอ่างที่มีขอบโค้งวางพักแขนได้อย่างพอดี แต่เพราะนั่งทับบางอย่างในน้ำอุ่นร้อน แก้วตาจึงหน้าตาตื่นตระหนก แม้จะยังวางมือบนแผงอกกว้างซึ่งเขาจับข้อมือนั้นไว้
“หะ... หาง... ค่ะ...” ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าตกใจ นอกจากนัยน์ตาสีแดงสดสวยประกายทำให้หญิงสาวสั่นกลัว ยังสัมผัสได้ว่าทับบางอย่างเข้าจัง มันบุกรุกผ่านซอกขาของหล่อน แยกกลีบดอกไม้งามที่โอบกอดมันไว้อย่างเต็มใจยินดี ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างเพราะสัมผัสร้อนที่ถูไถกันเพียงภายนอก และถัดไปนั้น...
“แปลกตรงที่ไหนหล่อน ผู้ชายก็มีหางทั้งนั้น”
“หางไอ้เข้ค่ะ!”
บางคนทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย เหมือนเป็นเรื่องปรกติยังมองไปทางผิวขรุขระสีดำสนิทที่พาดยาวผ่านขอบอ่างไป
“เวลาฉันตื่นเต้นก็เป็นอย่างนี้ มันชอบออกมาเกะกะวุ่นวาย หล่อนคงไม่ว่านะแม่”
-------------------------------
แก้วตาเกือบส่งเสียงกรีดร้องออกมาหากไม่ถูกปิดปากด้วยจุมพิตกระชากวิญญาณ เขาวางหล่อนลงบนเตียงอย่างนิ่มนวล สอดปลายนิ้วเข้าไปในเส้นผมที่สยายกระจายบนหมอน ประคองป้อนจูบอย่างไม่ลดละ กระทั่งความตกใจหางสีดำขนาดใหญ่ ขรุขระสวยงาม ถูกลืมไปชั่วขณะ กว่าผู้ชายตัวโตจะผละจูบออก มองหล่อนด้วยแววตาเร่าร้อนทรมาน
“คะ... คุณ... หลวงเป็น... พญาจระเข้?”
“และหล่อนเป็นเมียฉัน บ้านหล่อนยกลูกสาวให้ฉันแล้ว หล่อนจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น หาไม่... ฉันจะจับกินทั้งหล่อนและบ่าวกินเสีย ฉันอาจจับพ่อแม่หล่อนกินด้วยก็ได้”
เรียวปากงามสั่นระริก ใช่เพราะความหวาดกลัวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ท่อนแข็งขึงที่กำลังถูไถบนหน้าขาทำให้หล่อนไม่เป็นตัวของตัวเอง นานแล้วที่หล่อนได้แลเห็นสองหนุ่มสาวกอดรัดกันโดยบังเอิญ เมื่อคราวไปเที่ยวเล่นแถวสำนักหมอผีของอ้ายมิ่ง ต่างคนมีสีหน้าประหลาดชอบกลแต่ก็ดูมีความสุข ยากจะหาคำมาอธิบาย ยังมีเรื่องหนึ่งจากในตำราผุดวาบเข้าในหัว
พญากุมภิลขึ้นบกมาไล่ล่าลิ้มรสเนื้อมนุษย์ จับตัวลูกสาวเศรษฐีเมืองพิจิตรไปเป็นเมีย... หรือทั้งหมดจะไม่ใช่เรื่องจริง เหตุใดเขาถึงมาอยู่ตรงหน้าหล่อน สู่ขอหล่อนตามธรรมเนียมประเพณีด้วยเงินทองไม่ใช่น้อย ๆ
ก็เป็นธรรมดาของเด็กวัยซน คุณพ่อหย่อนก้นนั่งลง ลูบศีรษะน้อยของคนลูกอย่างเอ็นดู“ไปได้ครับ แต่อย่าซนมากนะ ไปแล้วรีบกลับมาถ้ำก่อนเราจะขึ้นไปด้วยกันอีกพรุ่งนี้เช้าครับ“หนูไม่ซนครับพ่อ”“เด็กผู้ชายเขาเรียกตัวเองว่าผมครับลูก ภาษาไทยนะ ไม่เหมือนภาษาอื่น ไอก็ไอคำเดียว ไว้พ่อจะสอนลูกอีกเยอะ ๆ อีกหลายภาษาเลยนะ” คุณพ่อผ่านอะไรมามากกว่า ลูกน้อยพยักหน้าเชื่อฟังคุณพ่อ ปากยิ้มไม่หุบ“ครับพ่อ ผมไม่ซนครับพ่อ”“เอ้า... พ่อมีธุระต้องคุยกับแม่เขาหน่อย เรื่องวันหยุดยาวของบ้านเรา เรื่องเข้าโรงเรียนของหนูด้วย”ข้อหลังแค่คิดก็สะพรึง! กัญญาวีร์ทำหน้าตกใจพอลูกชายเข้าไปกอดอ้อนพ่ออย่างดีใจ เพราะจะได้มีเพื่อนในอนาคตคุณแม่คงไม่เห็นด้วยนัก เธออยู่แต่ในต่างจังหวัดมาหลายปี ลงแต่ถ้ำ เลี้ยงแต่ลูก เธอและครอบครัวค่อนข้างเก็บตัว ไม่ไปสนิทสนมกับใครมากนัก เหมือนที่นายจันและบ่าวทำมาก่อนนายคล้าวมีอายุยืนยาวมากกว่าเดิม แก่ช้าลงแต่ก็ไม่รู้ว่าจะลาจากโลกไปในอนาคตหรือไม่“เราจะเข้ากรุงเทพกันหรือคะ? จะให้ลูกไปโรงเรียนจริงหรือคะ...”“ไปครับ ผมยังไปเรียนได้เลย ผมจบโทมาไม่รู้กี่ใบทำไมลูกจะไปเรียนไม่ได้ล่ะ” นายจันผุดยิ้มกว้างหวานให้
“ตอนนี้ฉันยังไม่อยากจะทำอะไรทั้งนั้น” ตัดบทเสียดื้อ ๆ คุณหลวงจันแสนเหนื่อยหน่ายกับชีวิต ไม่อยากสู้รบตบมือกับใครไม่อยากตามหาเมียหรืออะไรทั้งนั้น จึงรีบเก็บของ สนทนากับบ่าวไปเกี่ยวกับเรื่องราวหลังจากที่เขาออกมาจากเมืองพิจิตรแล้วเร่ร่อนไปด้วยกันกับจระเข้รุ่นปู่ รุ่นบิดาของนายคล้าวสองนายบ่าวช่วยกันคนละไม้ละมือก็จัดบ้านโบราณก็สะอาดเอี่ยมเรียบร้อย แม้ใช้เวลาอยู่หลายชั่วโมง ขณะนายคล้าวฉุกใจนึกขึ้นได้ว่าตนเพิ่งอายุสิบกว่าขวบแต่พอก้มหน้าลงมองมือทั้งสองแล้วดูไม่น่าจะใช่ เขาไม่ใช่เด็กสิบขวบหรือเป็นจระเข้บ่าวที่เพิ่งเกิดมาเช่นตอนนั้น เหมือนกับว่าจะลืมเลือนอะไรไปอย่าว่าแต่จะให้นึกเลย... มาอยู่บ้านหลังนี้ได้ยังไงก็ยังไม่รู้คุณหลวงจันได้คำตอบนั้นอีกไม่นาน เมื่อเดินขึ้นไปบนชั้นสองหน้าตู้กระจกสีขาว ข้างกันกับตู้เสื้อผ้าในห้องนอนกว้างขวาง มีกระดาษเขียนด้วยลายมืออ่านได้อย่างชัดเจนว่าเป็นชื่อ... แก้วตา...“ดิฉันแก้วตา... ขอยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดและบ้านหลังนี้ให้คุณหลวงจัน หลังจากที่ดิฉันเสียชีวิตแล้วขอให้ท่านอาศัยอยู่กับคุณพระประสิทธิ์ พะยาน... นายมิ่ง ท่านขุนประไพ...”“ใครหรือครับท่าน...”“มาถามฉันจะไ
เฮือกสุดท้ายของหญิงสาวที่จับขาของเขา นายมิ่งปิดตาลงกัดกรามกรอด ๆ ปากไม่เลิกร่ายคาถา นั่งคุกเข่าลงข้าง ๆ กลุ่มควันสีดำที่ลอยวนอยู่เหนือหม้อติดยันต์ เหลือบตามองเรือนร่างงามใต้ลมหายใจรวยริน พลันหันไปบอกกับผู้ใหญ่อย่างแน่วแน่“อย่างไรก็ฆ่าไม่ตายพ่อปู่ คงจะทำได้เพียงสะกด หลานว่าเราไม่ควรสร้างกรรมต่อพวกเขาให้แก้แค้นกันไปไม่จบสิ้นเลย ขอให้จบกันที่ภพชาตินี้เถิด” “ข้าแค่มาช่วยเหลือ ให้แล้วแต่เอ็งตัดสินใจละกัน ข้าก็หน่ายจะสู้กับอ้ายตาละวันเต็มทน”พ่อเฒ่าผู้เก่งฉกาจในวิชาอาคมจึงยอมตาม ช่วยออกแรงปิดหม้อดินเผาติดยันต์ที่โชกชุ่มด้วยเลือด ก่อนที่ร่างหนากำยำสีนิลสนิทจะหายไปกับตาราวถูกสูบลงหม้อนั้นไปคุณหลวงจันถึงโกรธแค้นสักเท่าไร เจ็บปวดชิงชังกับการถูกหักหลังจากคนที่ไว้ใจที่สุด ทั้งเมียรักและบ่าวที่เลี้ยงดูมาด้วยหยาดเหงื่อ ตรากตรำทำงานกับมนุษย์ ยอมเป็นเบี้ยล่างเพื่อแลกกับเงินและอำนาจบนโลกนี้ซึ่งไม่จำเป็นสำหรับเขาเลย แต่เขากลับยอมจำนนมาต่อหลายปีเขาเพิ่งจะสูญเสียทุกสิ่งเพราะทำร้ายมนุษย์อย่างโหดเหี้ยม ชีวิตเหล่านั้นที่ถูกพรากชิงไปเป็นเวรกรรมที่เขาต้องชดใช้ วิญญาณทั้งหลายยังปรากฏเป็นเงาเลือนรา
เจ้าของบ้านคงไม่ได้เอะใจจนวางแก้วลงแล้วกะพริบตาถี่ ๆ เสียงเนือย ๆ ว่า “แปลกจริง... ชาหอมของเตี่ยหล่อน ดื่มแล้วฉันรู้สึกง่วงพิกล”“ง่วงก็นอนเสียนะคะคุณหลวงของแก้ว...”ประโยคสุดท้ายที่ได้ยิน เช่นเดียวกับรอยยิ้มกว้างหวานของหญิงสาว ชายร่างสูงใหญ่ในเชิ้ตฝรั่งล้มฟุบลงบนโต๊ะข้างจานข้าว โดยมีอีกสองคนถอนหายใจอย่างโล่งอกคุณพระประสิทธิ์ยอมทำตามแผนการของหญิงสาวเพราะไม่อยากให้เจ้านายก่อกรรมไปมากกว่านี้ ตัวเขานั้นเห็นด้วยทุกอย่างถึงเสียใจอยู่ไม่น้อย ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามแผนการ หล่อนใส่ยานอนหลับลงทั้งในอาหารและในแก้วชา เผื่ออย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ทานเข้าไปก็จะต้องหยิบสักอย่าง“ดูแลคุณหลวงจันด้วยนะคะ คุณคล้าว คุณพระประสิทธิ์ ไม่ว่าคนไหนชื่อใด ท่านเป็นทั้งบ่าว เป็นทั้งมิตรสหายที่คุณหลวงไว้วางใจเป็นที่สุด ฝากผัวฉันด้วย”“รีบไปเถอะขอรับ ยานอนหลับคงจะทำให้ท่านหลับได้ไม่นาน จิตท่านเวลานี้เพิ่งหลุดไปยืนอยู่หน้าบ้าน เหลียวซ้ายแลขวามองหาเมียอยู่นั่น”ต่างคนลุกขึ้นช่วยกันกับคุณพระแบกชายร่างกำยำไป ขณะที่คุณหลวงจันตัวใหญ่ที่สุดในบ้านแล้วจึงค่อนข้างทุลักทุเล กว่าจะมาถึงห้องนอน มีหม้อดินเผาของอ้ายมิ่งวางอยู่บนเต
“ใช่ ฉันต้องการจะรู้วิธีเดียวกับที่หมอจระเข้เคยปราบวิญญาณร้ายตนนี้ พ่อเฒ่าแกต้องเล่าให้ฟังแน่”“เอ๊ะ... ฉันก็จำไม่ได้เหมือนกัน” พูดพลางเบือนหน้าหนีไปอีกทาง แม่อ่วมบ่นปาว ๆ ว่าเขาน่ะหวงวิชาแต่แก้วตาล้วงหยิบถุงกำมะหยี่สีแดงออกมา“เอ้า... ฉันเทหมดหน้าตักให้แกหลายบาททีเดียว รับรองว่าแกสบายไปทั้งชาติ ฉันเพิ่งไปถอนธนาคารมา พรุ่งนี้ฉันก็จะไปแล้ว... นี่แน่ะอ้ายหมอมิ่ง แกบอกฉันหน่อยเถอะนะ นะ...”หลังส่งเงินในถุงใส่เงินให้ทั้งใบ นายมิ่งทำตาโต มือคว้าถุงสีแดงมาเปิดออกเห็นเงินเป็นฟ่อนก็ก้มหน้านับ ก่อนจะร่ายอาคมตั้งจิตอธิษฐานไม่ให้วิญญาณตนไหนเข้ามาในอาณาเขตของเขาได้ระหว่างคุยธุระสำคัญ ซึ่งแก้วตาตัดสินใจเล่าทั้งหมดให้ฟังเป็นหนทางเดียวแล้วหล่อนจึงยอมบอกนายมิ่งไปทั้งหมด ทว่าดูท่าทางไม่ใช่เรื่องง่าย คิ้วเข้มหนาขมวดมุ่นมองเงินในมืออย่างไม่แน่ใจว่าควรคืนเจ้าตัวดีหรือไม่ จนเงยขึ้นสบมองใบหน้าสวยหวาน“พญาชาละวันเวลานี้ หากเป็นจริงอย่างที่แกว่ามีอายุห้าร้อยกว่าปี ฉันมีความเห็นว่าฆ่าไม่ตาย แหละหมอปราบจระเข้ต่อให้เก่งฉกาจสักเท่าไร คงไม่สู้ไปตายฟรี ปราบไม่ได้ดอกกระมัง...”“มันต้องมีสักวิธีซี มิฉะนั้นพ่อเฒ่าแก
“เช่นนั้นหล่อนควรลงไปอยู่ถ้ำบาดาลกับฉัน รอจนกว่าบ้านเมืองจะสงบ ผู้คนรุ่นนี้ตายไปเสีย”“ฉันคงคิดถึงเตี่ย คิดถึงเพื่อน ๆ ฉันมาก ฉันไม่อยากไปไหนจากบ้านนี้เลยค่ะ”“มีทางเลือกเสียเมื่อไร ยังไงหล่อนต้องตกลงว่าจะไปกับฉัน” ปลายเสียงเด็ดขาดทำให้คนในอ้อมแขนเงยขึ้นมองเขาด้วยแววตาตัดพ้อ“ท่านพูดเช่นนี้... หมายว่าจะบังคับฉันหรือคะ?”“ก็ไม่เชิงว่าบังคับ แต่ฉันเบื่อหน่ายโลกมนุษย์เต็มทน ฉันจะลงไปเลี้ยงดูลูกในถ้ำบาดาล พาหล่อนกับลูกไปเที่ยวในเมืองที่มีแต่น้ำ ธรรมชาติสวยงาม ฉันเกรงว่าบนบกนี้ไม่สะดวกสบายด้วย อาจจะเกิดสงคราม ผู้คนล้มตาย ลำบากยากแค้นเอามาก ๆ เกินหล่อนจะจินตนาการ อีกไม่นานดอกแม่แก้ว”แก้วตานึกตามคุณหลวงจันพูดอย่างไรก็นึกไม่ออก หล่อนไม่เข้าใจอยู่ดี ยังดื้อดึงพอ ๆ กับเขา“และถ้าฉันไม่ไปเล่าคะ คุณหลวงจะทำอย่างไรกับดิฉัน”“วันพรุ่งนี้สักย่ำค่ำ ท่านเยื้องจะเข้ามาพร้อมบุตรสาว มาคุยกับฉัน ฉันให้เวลาหล่อนคิดถึงตอนนั้น คำตอบของฉันมีเพียงคำตอบเดียว”“บุตรสาวท่านเยื้องเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้?”“ฉันจะรับเมียเพิ่ม...”“คุณหลวง... สาบานว่าจะมีเมียเดียว!” ตะคอกดัง แก้วตาผลักตัวออกจากอ้อมแขนแข็งแรง ลุกพ