Share

บทที่ 1225

Author: โมเนโต้
ทั้งเฟนด์กับไดอาเนียลล่าลงมาจากหลังม้าทันทีหลังจากที่มันหยุด

ไดอาเนียลล่าที่หน้าแดงเดินไปผูกม้าไว้ใต้ต้นไม้ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากพวกเขานัก ก่อนที่เธอจะเดินกลับมาหาเฟนด์ “ไง? ประสบการณ์การขี่ม้าครั้งแรกของคุณเป็นยังไงบ้าง?” เธอพยายามพูดเพื่อกระจายบรรยากาศที่น่าอึดอัดใจ แต่เพียงครู่เดียวเธอก็รู้ตัวว่าพูดผิดไป

เธอเพิ่งถามเฟนด์ออกไปว่าเขารู้สึกยังไง?

เพื่อคลายความตึงเครียด เฟนด์จึงตอบอย่างเป็นกันเองว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมขี่ม้า ตอนแรกผมรู้สึกค่อนข้างกังวล แต่หลังจากนั้นไม่นานมันก็น่าตื่นเต้น!”

เฟนด์สังเกตเห็นว่าหน้าของไดอาเนียลล่ากลายเป็นสีแดงเข้มหลังจากที่เขาพูดจบ ขณะที่เธอก้มหน้าลง ไม่กล้าสบตาเขา

“เอาล่ะ! เข้าไปกันเถอะ!” พฤติกรรมของเฟนด์ทำให้เธอสับสน ผู้ชายคนนี้เพิ่งพูดอย่างชัดเจนว่า “น่าตื่นเต้น” โรคจิตมาก! แล้วมันจะเป็นแบบนี้ไปได้ยังไงในเมื่อเขากอดเอวเธอไว้? เฟนด์อาจจะชอบเธอ แต่เขาปฏิเสธที่จะยอมรับมัน

เฟนด์พูดไม่ออกเพราะเขารู้ว่าสุดท้ายจะต้องเข้าใจเขาผิดแน่ แต่เขาไม่รู้ว่าจะอธิบายตัวเองยังไง ทำไมเมื่อกี้เขาถึงพูดออกมาว่ามัน 'น่าตื่นเต้น' นะ?

ไม่นานหลังจากที่พวกเขาเข้าไปในหมู่บ้าน ช
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (4)
goodnovel comment avatar
น้องทีมคับ คลับผีแดง
คนเขียนตายแล้วมัง
goodnovel comment avatar
สุกัญญา ชอบรัก
ไม่อัพสองวันแล้วเกิดอะไรขึ้น
goodnovel comment avatar
Atsc CT
ลงเพิ่มหน่อย
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1226

    “โอ้ ภรรยาของนายน้อยเฟนด์เขินมากจนหน้าแดงเหมือนสาวน้อยเลย! แต่ทว่าเธอก็ยังคงดูอ่อนหวาน ไม่แปลกใจเลยที่นายน้อยเฟนด์เลือกคุณ!” ผู้อาวุโสกล่าวเสริมซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนความเห็นนั้นยิ่งทำให้ไดอาเนียลล่ามีความสุขมากเธอกลอกตามองอีกฝ่ายด้วยสายตาพราวเสน่ห์ก่อนจะพูดว่า “คุณพูดถูกที่บอกว่าฉันสวย แต่ฉันไม่ใช่ภรรยาของเขาหรอก”“อ...อะไรนะ?” ผู้อาวุโสรู้สึกเขินอายเมื่อได้ยินแบบนั้น เขาเข้าใจผิดไปเองทั้งหมดเหรอ?เฟนด์ยิ้มอย่างอึดอัดก่อนจะก้าวออกมาข้างหน้าเพื่ออธิบาย “นี่คือคุณหนูลำดับที่สามของตระกูลคาเบลโล ชื่อคุณไดอาเนียลล่า โปรดอย่าเข้าใจเราผิด”ผู้อาวุโสตกใจเมื่อได้ยินคำอธิบายของเฟนด์ “คุณหนูลำดับที่สามของตระกูลคาเบลโล? เธอเป็นคนหนึ่งที่หน้าตาสวยงามมากเลยทีเดียว นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผมเข้าใจฐานะของเธอผิดไป เพราะยังไงซะ ผมก็ได้ยินมาว่าภรรยาของนายน้อยเฟนด์ก็งดงามมากเช่นกัน และนั่นจึงสาเหตุที่ผมเข้าใจผิด คุณหนูลำดับที่สาม ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย!”“ช่างมันเถอะ คนไม่รู้ย่อมไม่ผิด! เพราะยังไงซะคุณก็ไม่เคยเจอฉันมาก่อนหนิ!” ไดอาเนียลล่าโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ แม้ว่าเธอจะมีความสุขที่ได้ยินแบบ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1227

    ผู้อาวุโสคนหนึ่งก้าวออกมาข้างหน้าและมองมาที่เฟนด์อย่างคาดหวังเฟนด์เหลือบมองชายหนุ่มกับหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า เขาคิดเกี่ยวกับมันและพูดว่า “เอาแบบนี้ ฉันจะไปพักผ่อนก่อน แต่พวกเธอทั้งสองคนช่วยมาพบฉันที่ห้องในอีกหนึ่งชั่วโมงได้ไหม?”“ได้ครับ/ค่ะ นายน้อยเฟนด์!” ชายหนุ่มกับหญิงสาวมองหน้ากัน แม้ว่าพวกเขาจะงงนิดหน่อย แต่พวกเขาก็พยักหน้าตกลงไม่นาน ตระกูลโอเวนส์ก็จัดที่พักให้เฟนด์กับไดอาเนียลล่าในสวนที่เงียบสงบ“เราไม่ได้รีบอยู่หรอกเหรอ? ทำไมตอนนี้ไม่รีบล่ะ?” ไดอาเนียลล่าเหลือบมองเฟนด์และพูดอย่างสงสัย “ทำไมคุณถึงบอกให้อัจฉริยะของตระกูลนี้มาพบคุณที่ห้องในภายหลัง? มีเรื่องที่คุณอยากบอกพวกเขาเป็นการส่วนตัวเหรอ?”“ทั้งสองคนเป็นปรมาจารย์ระดับเก้า พวกเขาอยู่ห่างจากระดับกึ่งเทพขั้นต้นเพียงขั้นเดียว” เฟนด์อธิบายให้เธอฟัง “ผมบังเอิญมีวัตถุดิบหลายอย่างที่ใช้ปรุงโอสถได้ ผมสามารถบ่มเพาะมันให้แต่ละคนได้ และช่วยให้พวกเขาทะทวงเข้าสู่ระดับกึ่งเทพขั้นต้น”“คุณ... คุณรู้วิธีบ่มเพาะโอสถด้วยเหรอ?” ไดอาเนียลล่าตกใจกับเรื่องที่ได้รู้ เธอไม่คิดว่าเฟนด์จะบ่มเพาะโอสถเป็นด้วยเพราะยังไงซะ การเล่นแร่แปรธาตุก็ไม่ใช

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1228

    อย่างไรก็ตาม หญิงสาวกลอกตามองไปที่ชายหนุ่ม “นายพูดเรื่องอะไรน่ะ? แล้วทำไมเขาถึงบอกให้นายไปด้วยล่ะถ้าเขาสนใจแค่ฉัน? งั้นนายก็ไม่จำเป็นต้องไปด้วยสิ จริงไหม? เขาจะบอกให้นายมองเราตอนที่เขาเอาเปรียบฉันงั้นเหรอ?”ชายหนุ่มคนนั้นยิ้มอย่างขมขื่น “ฉันเป็นห่วงเพราะเธอหน้าตาสวยมาก จะเกิดอะไรขึ้นถ้านายน้อยเฟนด์อ้างแบบนั้นเพราะทุกคนอยู่ตรงนั้น รวมถึงหัวหน้าตระกูลก็อยู่ตรงนั้นด้วย ถ้าหลังจากที่เราทั้งคู่ไปหาเขา แล้วเขาสั่งให้ฉันออกมาทีหลังล่ะ? ถ้าเขาชวนเธอเข้าไปในห้องคนเดียวล่ะ? เราไม่มีทางรู้หรอก!”“นายพูดเรื่องอะไร? นายน้อยเฟนด์ไม่ใช่คนแบบนั้น!” หญิงสาวกลอกตามองชายหนุ่มอีกครั้ง ก่อนที่จะยิ้มหวานออกมา “มันคงจะดีถ้าผู้ชายที่มีความสามารถอย่างนายน้อยเฟนด์สนใจในตัวฉัน... แต่ฉันได้ยินมาว่าภรรยาของเขาสวยมาก นายก็เห็นความงามของคุณหนูลำดับที่สามของตระกูลคาเบลโลแล้วหนิ ฉันคิดว่าสองคนนั้นมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกัน อาจอธิบายได้ว่าสวรรค์เต็มใจสร้างพวกเขาขึ้นมา!”ชายหนุ่มขมวดคิ้ว “พวกเขาก็พูดออกมาแล้วไม่ใช่เหรอ? ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ภรรยาของเขา พวกเขาเป็นแค่เพื่อนกัน!”“นายนี่โง่จริง ๆ ?” หญิงสาวบ่น “ลองคิดดู

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1229

    หลังจากที่ทั้งคู่พักได้สักสองสามนาที ไม่นานอัจฉริยะของตระกูลโอเวนส์ก็มาที่ห้องของเฟนด์“นายน้อยเฟนด์ มีอะไรสำคัญเหรอคุณถึงบอกให้พวกเรามาพบ?” ทั้งคู่ถามออกมาด้วยความสงสัย เหลือบตามองกันเมื่อพวกเขารู้ตัวว่าไดอาเนียลล่าก็อยู่ในห้องด้วยเฟนด์เพิ่งบ่มเพาะโอสถระดับกลางขั้นหนึ่งห้าเม็ดเมื่อกี้ เขาพลิกมือแล้วหยิบมันออกมาสองเม็ดและพูดว่า “นี่ให้พวกเธอคนละเม็ด พวกนี้เป็นโอสถระดับกลางขั้นหนึ่งที่ใช้เพื่อเพิ่มพลังยุทธ มันจะช่วยให้พวกเธอสองคนทะลวงและบรรลุระดับกึ่งเทพขั้นต้นได้ ฉันแนะนำให้พวกเธอทั้งคู่ฝึกฝนอยู่ที่นี่และค่อยไปที่ตระกูลหลักหลังจากที่พวกเธอทะลวงผ่านได้แล้ว นั่นจะช่วยเพิ่มความเร็วของพวกเธอในการเดินทาง”“อ-อะไรนะ? นี่...นี่สำหรับพวกเราเหรอ?” ชายหนุ่มกลืนน้ำลาย สงสัยว่าเขาได้ยินผิดไปหรือเปล่า นี่คือโอสถ และการได้มันมาดีกว่าการได้หญ้าวิญญาณอีกเพราะเหตุนี้เอง โอสถจึงเป็นของล้ำค่ามากและหาได้ยากเฟนด์เอาของหายากสองชิ้นมาให้พวกเขาทั้งคู่จริง ๆ!“ขอบคุณมากครับ/ค่ะ นายน้อย!” หญิงสาวกินยาเข้าไปพลางขมวดคิ้วออกมานิด ๆ ก่อนที่สีหน้าของเธอจะเปลี่ยนไปอึ้งและตกใจสุด ๆ “ทำไม... ทำไมมันยังร้อนอยู่

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1230

    “ขอบคุณมาก...!” ยังคงมีความเขินอายกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ เฟนด์ต่อสู้กับความเขินและขึ้นไปนั่งบนหลังม้าโดยนั่งอยู่ข้างหลังไดอาเนียลล่า“คุณแน่ใจนะว่าจะไม่จับฉันไว้? แล้วอย่ามาล้มทีหลังนะ!” ไดอาเนียลล่าเตือนพลางหน้าแดง“ก็ได้...!” เฟนด์ตอบก่อนจะวางมือรอบเอวของไดอาเนียลล่าจากด้านหลังเมื่อนึกบางอย่างขึ้นได้ ไดอาเนียลล่าก็พูดขึ้นมาว่า “โอ้ จริงสิ การประลองยุทธที่จัดขึ้นทุก ๆ สามปีในหมู่ตระกูลลึกลับกำลังจะมีขึ้นในเดือนหน้า แม้ว่ามันจะจัดขึ้นเพื่อให้พวกเราได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน แต่มันก็มีความสำคัญมากต่อตระกูลลึกลับทั้งแปดและตระกูลลึกลับอื่น ๆ ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลวู๊ด คุณมีพลังยุทธที่สูงมาก คุณจะเข้าร่วมการประลองด้วยใช่ไหม เพราะคุณเป็นอัจฉริยะของตระกูลหลักหนิ ถูกไหม?”เฟนด์พยักหน้า “พ่อของผมก็บอกผมเกี่ยวกับเรื่องนั้น และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผมต้องเดินทางไปเลือกอัจฉริยะสำหรับตระกูลหลักให้เสร็จโดยเร็ว ผมต้องกลับไปให้ถึงก่อนหน้านั้นเพื่อที่จะได้เข้าร่วมการประลองยุทธนี้ นั่นคือเหตุผลที่ผมไม่อยากพักที่นี่นานเกินไป และรีบออกเดินทางทันที่เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย”เฟนด์ชะงักไปครู

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1231

    เฟนด์เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “นั่นไม่ใช่แค่เรื่องเดียว คุณหายไปตั้งนาน แล้วถ้าคุณไม่กลับไป สมาชิกตระกูลคาเบลโลคงตามหาทุก ๆ ที่ ถ้าเขารู้ว่าคุณถูกจับตัวไป พ่อแม่คุณจะไม่ห่วงหรือไง ถ้าคุณหายไปนานขนาดนั้น?”ไดอาเนียลล่าหน้าหม่นลงเมื่อเธอได้ยินเช่นนั้น เธอครุ่นคิด ก่อนจะพูดออกมาว่า “พวกเขาไม่รู้ว่าฉันถูกมันโรจับไป พวกเขารู้แค่ว่าฉันออกมาเล่น เพราะงั้น พวกเขาไม่ห่วงฉันหรอก เพราะฉันเองก็มีทักษะการต่อสู้ที่ดีด้วย แต่ถ้าฉันไม่กลับบ้านนานเกินไป พวกเขาก็อาจจะเป็นห่วงบ้าง”ขณะที่ม้าหยุด เธอหันไปหาเฟนด์ ก่อนจะพูดพลางยิ้ม “อย่างไรก็ตาม ฉันตัดสินใจแล้วที่จะตามคุณไปเล่นที่ตระกูลวู๊ดด้วย สุดท้ายแล้ว พวกคุณก็จะเข้าร่วมการประลองยุทธในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว ฉันจะตามคุณไปประลองด้วย จะได้เจอครอบครัวของฉัน แล้วหลังจากนั้น…”“ก็…ก็ได้” เฟนด์พยักหน้าเห็นด้วยกับเธอ มันเป็นเรื่องที่ดีที่จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนายหญิงน้อยที่สามแห่งตระกูลคาเบลโล และอย่างน้อย เขาก็น่าจะได้ข้อมูลของตระกูลคาเบลโลด้วย ... ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการล้วงข้อมูลของผู้อาวุโสลำดับหนึ่งของตระกูลคาเบลโลเพื่อที่เขาจะได้เอาตำราโบราณคืนจ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1232

    ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงเดินทางต่อไปบนหลังม้า โดยที่ไดอาเนียลล่ากำลังคิดอยากทานอาหารเย็นกับเฟนด์ด้วยกันสองคนนอกจากนี้แล้ว เธอยังค้นพบว่า การได้อยู่ข้าง ๆ เฟนด์ ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย ถึงเขาจะแก่กว่าเธอหกถึงเจ็ดปี แต่ความเป็นผู้ใหญ่ของเขา ทำให้เธอหลงใหลเขามากกว่าเดิมหลังจากใช้เวลาอยู่กับเขาหลายต่อหลายวันเขาต่างจากนายน้อยคนอื่น ๆ ที่เอาแต่ให้กุหลาบ ช็อคโกแลต จี้หยก และหญ้าวิญญาณให้กับเธอ พวกเขาน่าเบื่อมากสำหรับเธอในที่สุด ทั้งคู่ก็มาถึงชานเมืองเล็ก ๆ ในขณะที่ท้องฟ้าก็ค่อย ๆ มืดลงเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ดูค่อนข้างใหญ่ มีแสงสว่างเจิดจ้าในตอนนี้ ดูเหมือนเทศกาลอะไรบางอย่าง เพราะมีแผงขายของในตลากกลางคืนตั้งเรียงรายอยู่ตามท้องถนน“ไม่เลวเลย… เมืองเล็ก ๆ นี่ดูเหมือนกับเมืองโบราณที่ล่วงลับไปแล้ว ช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจจริง ๆ !” ไดอาเนียลล่ายิ้ม พลางเดินบนถนนบลูสโตนอันกว้างขวาง พร้อมกับจูงม้ามังกรโลหิตตัวสูงใหญ่“อยากกินอะไรก็บอกนะ นายหญิงน้อยที่สามแห่งคาเบลโล ไม่ต้องเกรงใจ อยากกินอะไรเลือกเลย!”"ข้างหน้ามีโรงแรมที่ดูดีเหมือนกันนะเนี่ย!" เฟนด์พูดกับไดอาเนียลล่า พลางดื่มด่ำกับวิวกลางคืน“อืม

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1233

    เช่นเดียวกับผู้ฝึกยุทธทั่ว ๆ ไป คนอย่างพวกเขาไม่ได้มีหินวิญญาณอะไรมากมาย ถ้ามีหินวิญญาณหลายก้อน ก็นับเป็นเรื่องที่ดี ถึงพวกเขาจะใช้หินวิญญาณเพื่อฝึกฝนและพัฒนาตัวเองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ใช้แลกกับอาหารเนี่ยนะ?“ไร้สาระจริง! เบิกตาหมา ๆ ของนายดูซิ! หน้าฉันเหมือนคนไม่มีเงินจะจ่ายค่าอาหารรึไง?” เห็นได้ชัดเลยว่าไม่เคยมีใครปฎิบัติกับไดอาเนียลล่าแบบนี้มาก่อน เพราะเธอแทบจะระเบิดออกมาเมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้ เธอไม่เคยคิดเลยว่าจะโดนดูถูกขนาดนี้เมื่อเธอมาที่เมืองเล็ก ๆ เพื่อทานอาหาร“สาวน้อย เธอพล่ามอะไรน่ะ? เธอรู้ไหมว่าใครเป็นหัวหน้าร้านอาหารของเรา? กล้าดียังไงมาพูดคำว่า 'เบิกตาหมา ๆ ' กับเรา! ฮ่าฮ่า…! จะบอกอะไรให้นะ ถึงเราจะเป็นแค่ลูกจ้าง แต่เราก็ไม่ใช่คนที่เธอจะมายั่วโมโหได้!” ชายร่างกำยำโกรธจัดทันที ก่อนจะมองไดอาเนียลล่าอย่างดูถูกดูแคลน “เธอก็แค่คสวยคนนึง ก็แค่นั้น ไม่ได้มีเงินอะไร นอกจากความสวย เธอรู้เรื่องอะไรด้วยรึไง?”"ถูก!" ชายร่างกำยำอีกคนก็พูดแทรกขึ้นมาทันที “ฉันก็ว่าเธอก็แค่ผู้หญิงที่มีดีแค่สวยเหมือนกันนั่นแหละ ฮ่าฮ่า…! ถ้าไม่มีปัญญาจ่าย ก็ให้พ่อหนุ่มนี่เลี้ยงอะไรง่าย ๆ

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status