นายท่านมิลเลอร์พยักหน้าและมองดูนาฬิกาของเขา “เอาล่ะ ใกล้ได้เวลาแล้ว ไปแจ้งเชฟคนอื่น ๆ ว่าเราจะต้องเสิร์ฟอาหารให้ครบ 12 ส่วน ไม่มีพลาด เข้าใจไหม?” นายท่ายมิลเลอร์จัดปกคอเสื้อก่อนเดินออกไปข้างนอก “ฉันจะออกไปดูข้างนอก ข้างนอกน่าจะมีแขกเยอะ ฉันควรไปแนะนำตัวกับพวกเขา” ตอนนี้ เฟนด์มาเพียงคนเดียวที่หน้าทางเข้าบ้านพักแคร์ฟรี “สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ?” พนักงานต้อนรับสาวก้าวเข้ามาหาเฟนด์และแสดงรอยยิ้มที่สุภาพบนใบหน้าของเธอ “ผม…” เฟนด์เงียบไปครู่หนึ่งขณะที่เขาใช้สมองเพื่อหาคำตอบ หลังจากนั้น เขาก็พูดต่อ "ผมมาที่นี่เพื่อเข้าร่วมการประชุมของทหารผ่านศึก 'วันวานแห่งความทรงจำของการต่อสู้'!" เจ้าบ้านสาวยิ้มออกมา “ฉันรู้ว่าคุณมารวมตัวกันที่นี่ ฉันอยากรู้สถานะและยศของคุณ ให้ฉันดำเนินการลงทะเบียนให้คุณและนายท่านของเราได้เตรียมเหรียญที่ระลึกสำหรับทุกคนในงานไว้แล้ว คุณสามารถปักได้เลยบนเสื้อผ้าของคุณ!” เฟนด์คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า "ผมเป็นแค่ทหารธรรมดา ในเมื่อราชาแห่งสงครามเป็นเจ้าภาพการประชุม ผมมาที่นี่เพื่อพบปะเพื่อนฝูงและพูดคุยเรื่องเครื่องดื่ม!" รอยยิ้มบนใบหน้าของพนักงานต้อนรับสาว
ผู้บัญชาการหญิงสังเกตเห็นเฟนด์ เธอยิ้มให้เขาและเดินเข้าไปข้างใน เฟนด์ที่ยืนอยู่ข้างๆ แสร้งทำเป็นชื่นชมต้นบอนไซ ผู้คนมางานมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามที่คาดไว้ ทหารทั่วไปได้รับเหรียญตราที่ระลึกทองแดง ในขณะที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้ช่วยของพวกเขาได้รับเหรียญเงิน ไม่กี่นาทีต่อมา ชายคนหนึ่งก็มาถึง ผู้ชายคนนั้นเป็นพันตรี และทัศนคติของเจ้าของงานที่มีต่อเขานั้นเป็นมิตรกว่ามาก เฟนด์เหลือบมองที่ตราที่ระลึกของชายคนนั้นขณะที่เขาเดินผ่านไป มันทำด้วยทองคำ การออกแบบตราทั้งหมดนั้นก็ใกล้เคียงกัน แม้ว่าวัสดุจะแตกต่างกันมาก ไม่นานหลังจากนั้น ราชาแห่งสงครามหนึ่งดาราก็มาถึง เขาดูค่อนข้างหนุ่มและร่าเริง ตราของคนนั้นทำด้วยทองคำขาว เฟนด์ส่ายหัวอย่างขมขื่น เขาสรุปเองว่าทุกคนได้ตราตามตำแหน่ง “นี่ ทำไมนายยังไม่เข้าไปข้างในอีก? ทำไมยังยืนอยู่ตรงนี้อีกล่ะ? ใกล้เที่ยงแล้วนะ!”ราชาแห่งสงครามสังเกตเห็นเฟนด์และยิ้มให้เขา “โอ้ะ ผมแค่กำลังชมไปรอบ ๆ!” เฟนด์ตอบด้วยรอยยิ้ม ราชาแห่งสงครามหัวเราะอย่างร่าเริง “พนักงานต้อนรับที่สวยงามพวกนั้นดึงดูดสายตาคุณใช่ไหมล่ะ? มีคนที่ชอบบ้างไหม? ถ้ามี ก็ไปขอเบอร์เธอได้เล
“อืมมม! ขอบคุณสำหรับน้ำใจนะ!” แม็กนัสพยักหน้า และติดเหรียญตราลงบนอกของเขา เฟนด์มองดูอย่างห่าง ๆ ดวงตาของเขาถูกบดบังไปด้วยแสงอาทิตย์ที่สะท้อนจากเหรียญตรา ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักได้ว่าเหรียญตรานั้นมีคุณภาพสูงมาก ส่วนล่างของตรานั้นทำมาจากทองคำขาว และประกอบไปด้วยเพชรที่อยู่ด้านบน เฟนด์พูดไม่ออก เขาก้มศรีษะมองลงไปที่เหรียญตราสีบรอนซ์ที่ติดอยู่บนหน้าอกของเขา มันช่างต่างกันมากเหลือเกินฝูงคนมากมายเดินเข้ามาหลังจากที่พวกเขาพูดจบ “ราชาแห่งสงครามซัทเธอร์แลนด์ เดี๋ยวนะ คือพวกเขาเหรอ?” หนึ่งในพนักงานนำทางคิ้วขมวดขึ้นมาทันที หลังจากนั้น เจ้านายของพวกเขาได้สั่งให้พวกเขาเตรียมเหรียญตราที่แตกต่างกันด้วยความหวังที่ว่ามันจะง่ายขึ้นต่อการจัดอันดับของคนในกองทัพ ด้วยเหรียญตราต่าง ๆ พวกเขาจะไม่ทำผิดต่อผู้ที่ไม่ควร อย่างไรก็ตาม คนพวกนี้ยังไม่ได้แนะนำตัวเองเลย “ทำไมล่ะ? นี่คือแขกของผม เขาเป็นลูกชายของพี่ชายคนสนิทของผม ผมพาเขามาด้วยไม่ได้เหรอ?” แม็กนัสหันไปพูดอย่างเย็นชา“ไม่ค่ะ ไม่… ฉันถามเพราะผมไม่มั่นใจว่าเขาคือจอมพลหรือราชาแห่งสงคราม เจ้านายของพวกเราสั่งไว้ว่าทุกคนที่เข้ามาที่นี่ จะต้องติดเหรียญตร
มุมปากของเฟนด์กระตุกขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่เขาได้ยิน ชายคนนี้ช่างประจบคนเก่งเสียจริงเห็นได้ชัดว่าแม็กนัสมีความสุขมากที่ได้ยินเช่นนั้น เขายิ้มอย่างพึงพอใจเขารีบปรับอารมณ์ กางนิ้วชี้ออกและวางมันลงบนริมฝีปาก “ชู่ว… อย่าเอะอะไป!”“เข้าไปดูข้างในกันดีกว่า! ผมอยากรู้ว่าใครมาบ้าง”“ไม่เลวเลย มีคนมามากกว่าร้อยคน ดูเหมือนว่าผม แม็กนัส ซัทเธอร์แลนด์จะยังคงมีศักดิ์ศรีอยู่สินะ!” ในที่สุดแม็กนัสก็โบกมือและเดินเข้าไปพร้อมกับคนอื่น ๆ“แน่นอนอยู่แล้ว ใครจะไม่อยากมาล่ะ ในเมื่อพวกเขารู้ว่าคุณลุงก็มา!”ลูกชายบุญธรรมพูดขึ้นมาทันที “เราจะพูดอย่างงั้นไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้ป่าวประกาศอะไร ผู้คนก็ต่างก็เดินทางมากันเองหลังจากที่ได้ยินเกี่ยวกับผม ผมไม่สามารถขอร้องให้ใครมาได้อยู่แล้ว ใช่ไหมล่ะ?” แม็กนัสพูดขณะที่เดินเข้าไปด้านใน“ไอ้หนุ่ม มายืนทำไมตรงนี้? หมาที่ดีมันไม่ยืนขวางทางหรอกนะ ไม่รู้รึไง?” ทายาทเศรษฐีดุว่าเฟนด์ ชี้นิ้วไปที่เขา เมื่อเห็นว่าเฟนด์ยืนอยู่ตรงทางเข้าเพื่อแสดงความจงรักภักดีของเขา “รู้ไหมว่านี่ใคร? เขาคือแม็กนัส ซัทเธอร์แลนด์ ราชาแห่งสงครามซัทเธอร์แลนด์ ราชาแห่งสงครามเจ็ดดาราเขาเ
“ฮ่าฮ่า ราชาแห่งสงครามซัทเธอร์แลนด์ ผมไม่ได้หาเรื่องคุณหรอกนะ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนที่ใช้ชื่อของคุณเพื่อให้ตัวเองมีอำนาจต่อหน้าคนอื่นก็เถอะ คุณไม่ต่อว่าเขาเลยด้วยซ้ำถึงแม้ว่าสิ่งที่เขาพูดจะหยาบคายและน่ารังเกียจ แต่คุณกลับมาวิจารณ์ผมเนี่ยนะ?” “จุ๊จุ๊ ผมจำได้ว่าคุณมีชื่อเสียงที่ดีในกองทัพนะ ทุก ๆ คนพูดว่าคุณเป็นคนดีและเป็นคนง่าย ๆ ราชาแห่งสงครามคนที่รู้ถูกรู้ผิด ผมไม่คิดเลยว่าคุณจะเปลี่ยนไปตั้งแต่คุณกลับมาเมื่อไม่นานนี้” “หรือมันจะเป็นไปได้ ที่ข่าวลือของต่าง ๆ ของพวกทหารไม่เป็นจริง” เฟนด์หัวเราะ เดิมที่เขามีความประทับใจดี ๆ ต่อราชาแห่งสงคราม แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะปิดบังตัวตนที่แท้จริงของเขาได้ดีจริง ๆ หรือไม่ก็เขาได้รับการกระทบกระเทือนหลังจากกลับมาจากสนามรบแม็กนัสพูดไม่ออกเลยเมื่อเขาได้ยินเฟนด์พูด เขาไม่ใช่คนพูดเก่ง และสิ่งที่เฟนด์พูดก็สมเหตุสมผล เขาเพิ่งจะตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายเมื่อไม่นานมานี้ “ไอ้หนุ่ม แกกล้าดียังไงมาวิจารณ์ราชาแห่งสงครามของพวกเรา? แกคงรนหาที่ตายจริง ๆ สินะ!” เศรษฐีเด็กกัดฟันแล้วเดินหน้าไปสองก้าวเพื่อผจัญหน้ากับเฟนด์อย่างโกรธแค้น“คนอย่างแกคงตายง่ายสุดในสน
“ขอโทษ?” ควิลหันกลับมา เขาชะงัก สีหน้าของเขาพูดอย่างเห็นได้ชัดว่า “เอาจริงดิ”“ไอหนุ่ม นี่ฉันได้ยินแกผิดไปหรือเปล่า? แกจะให้ฉันขอโทษแกน่ะเหรอ?”“ฮ่าฮ่า มันโง่รึเปล่าวะ?”“นั่นสิ มันไม่รู้หรือไงว่านายน้อยแห่งเซนอสมาจากไหน?”“จุ๊จุ๊ เขานี่มันกล้าขนาดนี้เลยเหรอ?”บอดี้การ์ดของควิลขำทีละคนราวกับว่าได้ยินมุกตลก“ใช่ นายก็รู้ว่านายผิด ลุงของนายก็พูดว่านายผิด รู้แบบนี้แล้วนายก็ควรขอโทษไม่ใช่รึไง?” เฟนด์ยืนกราน สีหน้าไม่ใยดีปรากฏขึ้นบนในหน้าของเขา“ไอ้เวร โคตรนักเลงเลยนี่หว่า ฉันให้อภัยแกเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นมิตรภาพ แต่แกไม่ต้องการมันอย่างงั้นเหรอ? แกเคยนึกถึงผลที่จะตามมาไหม? ฉันไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับแกนักหรอกนะ เพราะฉันเป็นคนใจกว้าง แต่นี่แกจะไม่ยอมจริง ๆ ใช่ไหม?!” ควิลโกรธจนหน้าเปลี่ยนสี นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอกับนักเลงแบบนี้ เขาล่ะอยากให้บอดี้การ์ดของเขาต่อยเฟนด์เสียจริงอย่างไรก็ตาม งานในวันนี้จัดขึ้นโดยแม็กนัส และมันคงไม่ดีแน่ถ้าเขาทำอะไรไปในตอนนี้ นอกจากนั้นคงไม่ดีแน่ถ้าจอมพลและราชาแห่งสงครามต่าง ๆ มาเห็นเข้า ท้ายที่สุดแล้วเฟนด์เคยรับใช้เคทธีเซียถึงแม้ว่าเขาจะเป็นแค่ทหาร
เฟนด์ยิ้มอย่างเย็นชา จิตสังหารก่อตัวขึ้นในเขา“แกอยากตายนักรึไง? กล้าดียังไงถึงพูดกับเขาแบบนั้น?” เดนนิสโกรธมากจนเกือบจะสติแตก เขาตบควิล “ไอ้สวะ! ถ้าฉันอยู่ในสนามรบ ตอนนี้แกคงถูกตัดหัวไปแล้ว!” เพี๊ยะ! มันเป็นตบที่แรงและเสียงดังมากเดนนิสคิดว่าการที่เฟนด์ไม่ตอบโต้มีสาเหตุอยู่สองประการ ประการแรกเขารู้สึกว่าไม่ควรให้ค่ากับคน ๆ นี้ ส่วนประการที่สองคือเขาไม่อยากเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม ควิลเป็นลูกชายของพี่คนสนิทของราชาแห่งสงครามเจ็ดดารา และมันอาจเป็นปัญหาได้ถ้าเฟนด์ไม่ให้เกียรติราชาแห่งสงครามมันคงเป็นเรื่องยากที่เฟนด์จะปิดบังตัวตนของเขาหากเขาสติแตกในตอนนี้ เฟนด์เพิ่งกลับมาได้ไม่นาน แม้แต่ภรรยาของเขายังไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา เห็นได้ชัดว่าเขาอยากใช้ชีวิตแบบปกติในทางกลับกัน เขา เดนนิส ไม่สนใจแม้แต่น้อยและเขาไม่มีอะไรต้องกลัว อย่างไรก็ตาม เฟนด์ช่วยชีวิตเขาไว้เขาจะยืนเฉยได้ยังไงเมื่อเห็นอีกฝ่ายพูดกับเฟนด์แบบนั้น?“แกกล้าดียังไงมาตบนายน้อยของพวกเรา?” พวกบอดี้การ์ดเข้ามาทันทีหลังจากเห็นนายน้อยของพวกเขาถูกตบ บอดี้การ์ดสองคนกำหมัด เตรียมจู่โจมอีกฝ่าย ผัวะ ผัวะ! เดนนิ
เฟนด์เงียบไปครู่นึงก่อนจะทำใจให้เย็น เขายิ้มอย่างไม่รู้สึกรู้สาแล้วพูดว่า“ไม่เป็นไร วันนี้เป็นการรวมตัวเพื่อฉลองมิตรภาพของเพื่อนในสงคราม ฉันจะปล่อยมันไปแล้วกัน!”เมื่อควิลได้ยินดังกล่าวมุมปากเขากระตุกขึ้น ผู้ชายคนนี้พูดเหมือนกับว่าเขาเป็นผู้เสียหายร้ายแรง แต่คนที่เป็นผู้เสียหายคือเขาต่างหาก นายน้อยคนเล็กสุดจากตระกูลเซนอสน่ะเดนนิสก็พยักหน้าเช่นกัน เขาเดินเข้าไปพร้อมกับพันตรีทั้งสองและเฟนด์ หลังจากเฟนด์และคนอื่นๆเดินจากไป ควิล เขาทนไม่ไหวอีกแล้ว เขาพูดกับแม็กนัสที่อยู่ข้างๆเขาว่า “คุณลุง คุณลุงยอมไปได้ยังไง? ผู้ชายคนนั้นหยิ่งยโสเกินไปและมันก็ไม่เคารพคุณลุงด้วย แถมยังพูดว่า ‘แล้วไง’ ถ้าคุณเป็นราชาแห่งสงครามเจ็ดดาราอีก? เขาพูดเหมือนเขาเป็นเทพแห่งสงครามอย่างนั้นแหละ!”“ฮ่าฮ่า ไม่เป็นไรหรอก เขาก็เป็นแค่ทหารธรรมดาเท่านั้น ฉันเป็นราชาแห่งสงคราม มันคงจะเกินไปถ้าฉันยืนกรานที่จะเอาเรื่องเขา นอกเหนือจากนั้น นายพูดว่านายเป็นนายน้อยแห่งตระกูลเซนอส แล้วนายจัดการเขาไม่ได้รึไง?” แม็กนัสหัวเราะ คำพูดของเขาเต็มไปด้วยคำใบ้ต่าง ๆ มันคงไม่สะดวกที่จะทำอะไรในตอนนี้ แต่เขาสั่งสอนพวกนั้นได้เสมอในตอนหลัง