“รู้ไหมยายอุ๊ถามแม่ว่ายังไง ถามว่าลูกสาวได้ผัวฝรั่งเหรอ”มัทรีเข้ามาช่วยมารดาทำอาหารตอนเช้าตรู่ และก็ได้ฟังอีกฝ่ายบ่นตั้งแต่กลับจากตลาดจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่หยุด“แล้วแม่ตอบว่าไงล่ะ”“ก็บอกว่าเป็นแฟนน่ะสิ”มารดาเธอทำตาดุใส่ขณะบอก ทว่ามัทรีกลับยิ้มขำ“ที่วัดนี่ไม่มีใครกล้าเข้ามาถาม แต่เอาไปนินทากันทั้งตลาด”“มันก็ธรรมดาแหละแม่”“อยากพูดกันดีนัก แม่เลยบอกไปว่าบ้านฝรั่งเขารวยมาก รถตู้หรูนั่นก็รถเขาเอง แต่งกับแกแล้วเขาก็จะพาไปอยู่เยอรมัน แต่บ้านที่ไทยเขาก็มีนะ เขามาพักผ่อนบ่อยๆ เอาไปบอกต่อกันให้ถูกด้วย”“ฮ่าๆๆ โอ๊ย...”มัทรีหัวเราะเสียงดังจนโดนมารดาตีเข้าที่แขนไปหนึ่งที แต่เธอก็ยังขำจนตัวโยนทว่าไม่กล้าปล่อยเสียงออกมา เดี๋ยวโดนตีอีก“ยังจะมามัวขำอีก ตกลงแฟนเราเขาจะพาผู้ใหญ่บ้านเขามาหาพ่อกับแม่เมื่อไร”จู่ๆ มารดาก็ถามเรื่องนี้ขึ้นมาทำเอามัทรีอดมองอย่างแปลกใจไม่ได้“แม่จะยกให้แล้วเหรอ”“ยัง”“อ้าว?”“แต่ฉันอยากรู้เอาไว้ ถ้าใครมาถามอีกจะได้บอกให้เอาไปพูดต่อได้ถูก ถึงจะนินทา มันก็ต้องให้นินทาเรื่องจริง”“โธ่แม่ คนนินทา พูดเรื่องจริงก็ไม่สนุกสิ”หญิงสาวบอกยิ้มๆ แต่มารดาค้อนขวับ“ถ้าเขาจะมาเร็วๆ นี
มัทรีเหลือบมองไปยังบิดาในทันทีพร้อมกับส่งสายตาขอร้องให้ช่วย เพราะแม้จะตกใจอยู่บ้างแต่เธอก็คิดถึงฐิติกรมากไม่ต่างกัน ถึงจะยังไม่เคยคิดเรื่องไปอยู่ต่างประเทศก็เถอะ“เอาล่ะๆ ใจเย็นๆ ก่อนเถอะแม่ เขาก็เพิ่งมาขอ ยังไม่ได้จะเอาไปวันนี้พรุ่งนี้ ใช่ไหมพ่อหนุ่ม”บิดาเอ่ยขึ้นอย่างพยายามช่วยแก้สถานการณ์มัทรีรีบกระชับมือหนาอีกครั้งให้เขารับคำ ฐิติกรคิดเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยตอบ“ครับ”หญิงสาวแอบถอนหายใจโล่งอกที่ชายหนุ่มไม่ได้แข็งขืนยืนยันจะทำตามความต้องการของตัวเอง“ถ้าอย่างนั้นก็เท่ากับว่าผู้ใหญ่รับรู้ว่าคบหากันแล้ว เรียนรู้กันไปสักพักแล้วค่อยพาผู้ใหญ่ที่บ้านมาคุยกับพ่อแม่นะ”บิดามัทรีสรุป ทว่ามารดาของเธอไม่ยอมจบ“แต่นี่ฝรั่งนะพ่อ เขาจะพาลูกไปอยู่ตั้งไกลนะ พ่อยอมได้ยังไง มาขอแม่ก็ไม่ยกให้นะ”“ก็คนมันรักกัน เราจะไปบังคับให้แยกกันอยู่ได้ยังไง”บิดาหันไปดุมารดาเบาๆ ที่คู่ชีวิตทำตัวไม่มีเหตุผล“ผมมีบ้านอยู่ที่ไทยครับ ผมพามัทรีกลับมาพักแล้วก็มาเยี่ยมท่านทั้งสองคนบ่อยๆ ได้ครับ”ฐิติกรอธิบายอย่างมีเหตุผลด้วยภาษาทางการ แม้จะดูแปลกแต่ก็เห็นถึงความจริงใจ“เห็นไหม พ่อหนุ่มเขาก็พาลูกกลับมาหาได้ แม่อย่าเพิ่งตีตนไ
บ้านสวนส้มโอที่นครปฐมที่มัทรีอยู่มาตั้งแต่เล็กกลายเป็นสถานที่ที่เธอไม่ค่อยชินเท่าไรนัก เมื่อโตขึ้นและไปเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ นานครั้งหญิงสาวถึงจะกลับมาเยี่ยมบ้าน แต่บ้านก็ให้ความรู้สึกอบอุ่นนอนหลับทุกครั้งที่กลับมาตอนนี้เธอเริ่มเปิดช่องสำหรับสอนภาษาอังกฤษแล้ว รอเพียงวิดีโอแรกตัดต่อเสร็จเธอก็จะได้อัปโหลด และเริ่มเส้นทางยูทูบเบอร์ของตัวเอง โดยหญิงสาวได้รับคำแนะนำจากฐิติกรหลายอย่างในเรื่องเทคนิคการนำเสนอ เรื่องค่าตอบแทนและความปลอดภัย ออกแบบโลโก้ รวมทั้งวิดีโอชายหนุ่มก็เป็นคนตัดต่อให้ ทั้งคู่คุยกันทุกวันแม้จะห่างกันก็ตามทว่าแม้จะคุยกันทุกวันมัทรีก็ยิ่งคิดถึงชายหนุ่ม เธอเริ่มเข้าใจแล้วว่าคนที่เป็นแฟนกันพออยู่คนละจังหวัดหรือคนละประเทศทำไมถึงเลิกกันยิ่งห่างก็ยิ่งต้องเอาใจใส่กันและกันให้มากขึ้นสำหรับเธอกับฐิติกรเองก็ดูเหมือนความรู้สึกในหัวใจจะยิ่งชัดเจนมากขึ้นไปด้วยเช่นกันส่วนเรื่องร้านกาแฟของเธอ ชายหนุ่มให้ยั้งเอาไว้ก่อน พอถามว่าทำไมเขาก็เพียงยิ้มแต่ไม่ตอบขณะทั้งคู่วิดีโอคอลคุยกัน และเธอก็ไม่สามารถเค้นคำตอบจากอีกฝ่ายได้“วันนี้ไปวัดไหมมัท”มารดามาเคาะประตูเรียกในตอนเช้า แม้จะเพิ่งห
ร่างสองร่างบดเบียดเข้าหากัน ทั้งที่บนร่างสาวยังมีเสื้อผ้าครบพร้อมทว่าความร้อนซ่านก็ครอบคลุมแทบทั่วตัวฐิติกรรุกจูบเร่าร้อนแผดเผาชนิดที่ไม่เคยจูบมัทรีแบบนี้มาก่อน ปกติเขาค่อนข้างจะทะนุถนอมเธอ ทว่าในตอนนี้ใจหนุ่มเตลิดมาไกลแล้ว แถมความร้อนกร้าวก็อยากหาทางระบายให้เร็วที่สุด แต่เพราะเป็นมัทรีถึงจะใจร้อนแค่ไหนชายหนุ่มก็พยายามระมัดระวัง ดึงความต้องการของตัวเองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้มือหนาลูบไล้เรือนกายบอบบางนุ่มมือทุกส่วนแผ่วเบา ลากไล้บีบคลึงทั้งอกอวบ เอวบาง ต้นขา กลางร่าง แล้ววกกลับขึ้นยังหน้าอกเคร่งครัดเต็มไม้เต็มมืออีกครั้งโดยครั้งนี้สอดเข้ามาภายในเสื้อเกาะกระชับเคล้นเป็นจังหวะตามใจตัวเองอกอวบสะท้อนเล็กน้อยตามจังหวะหอบหายใจของคนตัวเล็ก มัทรีลูบไล้แขนกำยำบ่าไหล่หนาระบายอารมณ์ร้อนรุ่มที่สุมในร่างกายด้วยไฟเสน่หาที่ถูกจุดจากชายหนุ่ม เธอพยายามผ่อนคลายจิตใจของตัวเองเพื่อลดความกังวลกับสัมผัสแปลกใหม่ อยากลองให้โอกาสตัวเองได้รู้จักความใคร่ในอารมณ์ที่ตื่นเร่าเพราะกามารมณ์ ทว่าหากไม่ใช่ฐิติกรเธอคงไม่ยินยอมเช่นกันปลายนิ้วแข็งแรงสะกิดตะขอด้านหลังแล้วเลื่อนมาดันผ้าลูกไม้ด้านหน้าสูงขึ้น ก้อนเนื
เพราะเครื่องของรติยากับพิสินีออกช่วงค่ำ ฐิติกรจึงเลือกพักต่อในโรงแรมที่เชียงใหม่แทนที่จะตรงกลับเชียงรายทันที และแน่นอนว่ามัทรีต้องพักกับชายหนุ่มร่างบางออกมายืนมองวิวของเมืองเชียงใหม่เวลากลางคืนหลังจากกอาบน้ำแล้ว พร้อมกับคิดถึงเพื่อนรักที่อวยพรให้เธอโชคดี‘จับคุณทิมให้อยู่หมัดนะมัท’พิสินีบอกพร้อมชูหมัดให้เธอก่อนที่ทั้งคู่จะกลับไปรวมกลุ่มกับทุกคนหญิงสาวยิ้มกับตัวเองคนเดียว เธอเองก็ดีใจกับเพื่อนที่มีคนคบหาอย่างจริงจัง ทั้งที่ตอนแรกพิสินีคิดว่าคุณพรรษเป็นเกย์แต่สุดท้ายแล้วไม่รู้ไปสะดุดรักกันได้อย่างไร สงสัยคงต้องไปเค้นถามทีหลังอ้อมแขนอุ่นที่โอบกอดจากด้านหลังทำให้มัทรีสะดุ้งนิดๆ แต่ก็รู้ว่าเป็นใครจึงไม่ได้หันมองหรือตกใจ“ยิ้มอะไรหืม?”“คิดถึงสินีน่ะค่ะ”“เพื่อนคุณทำไมเหรอ”“ฉันดีใจที่สินีมีแฟนแล้ว”เธอบอกไปตามตรง เรื่องน่ายินดีแบบนี้บอกฐิติกรไปพิสินีคงไม่ว่าอะไร“หืม? เพิ่งมีพร้อมกันเหมือนคุณเลยน่ะเหรอ สมกับเป็นเพื่อนกันดีจริง”คำพูดของอีกฝ่ายทำให้มัทรีสะดุดใจ เธอพยายามหันกลับไปมองชายหนุ่ม ทว่าอีกฝ่ายวางคางบนผมเธอไม่ขยับ“ไม่เหมือนนี่คะ เราแค่เพิ่งเดตกัน”เมื่อพูดออกไปแบบนั้นร่างสูงใหญ
เช้าวันต่อมามัทรีรีบตื่นตอนใกล้สว่างแม้จะถูกฐิติกรดึงกลับไปนอนด้วยกันแต่เธอก็ปฏิเสธ“จะปล่อยผมให้นอนหนาวคนเดียวเหรอ ยังเช้าอยู่เลย”“ฉันนัดกับคุณแยมแล้วก็สินีเอาไว้น่ะค่ะ ว่าจะไปนั่งแพด้วยกัน”“นอนต่ออีกหน่อยก็ได้ แยมมาค่อยลุกออกไป ข้างนอกหนาวออก”มือหนาพยายามยื้อตัวเธอเอาไว้ ทว่ามัทรีแกะออกพร้อมบอกเสียงเบา“ไม่ได้ค่ะ ฉันไม่อยากให้คุณแยมกับสินีสงสัยว่าเราทำอะไร”“นี่คุณยังคิดอีกเหรอว่าคนอื่นจะคิดว่าไม่มีอะไร ทั้งที่คุณนอนกับผมทั้งคืนแบบนี้”ฐิติกรถามกลั้วหัวเราะ ทำเอามัทรีหน้างอ“รู้น่า แต่ฉันก็อยากทำตัวให้พร้อม ไม่ใช่มัวขลุกอยู่กับคุณข้างในนี้”เธอมีเหตุผลของเธอเอง แม้จะเข้าใจดีว่าสำหรับคนอื่นเธอคงไม่เหลือความบริสุทธิ์อยู่แล้ว แต่มัทรีไม่อยากให้คนคิดว่าตนเองมัวแต่ติดผู้ชายจนลืมนัดกับเพื่อน“โอเค ตามใจคุณ อยากรอข้างนอกก็รอ เอาเสื้อกันหนาวผมใส่เพิ่มด้วย”ชายหนุ่มไม่อยากเอาแต่ใจให้หญิงสาวหงุดหงิดจนเสียบรรยากาศดีๆ ระหว่างกันจึงยอมปล่อยอีกฝ่ายโดยง่าย แต่ไม่ลืมยื่นเสื้อที่ถอดออกตั้งแต่เมื่อคืนส่งให้ด้วยความเป็นห่วงมัทรีมองเสื้อตัวใหญ่ก่อนจะตัดสินใจรับมาพร้อมกับยิ้มบางส่งให้เขาแล้วพึมพำขอบ