Share

มายาปฏิพัทธ์
มายาปฏิพัทธ์
Author: Mamaya Writer

บทนำ

Author: Mamaya Writer
last update Last Updated: 2024-10-15 11:35:34

มายาปฏิพัทธ์

เขียนโดย เฌอรินทิพย์

บทนำ

‘ถ้าแกยังไม่ยอมเลิกมีแฟนเป็นผู้หญิง ไม่ต้องกลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก!!’

เธอยังจำเสียงนี้ได้ดีและไม่มีวันลืม ไม่ว่ากี่ครั้งที่ปิดเทอมจากมหา’ลัย กลับบ้านมาก็มักจะโดนว่าแบบนี้ทุกครั้ง จนตอนนี้เรียนจบมาสองปีกว่าทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แล้ว ก็ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนใจมารดาได้เลย ทุกวันหยุดปีใหม่ปีที่แล้วต้องคิดนานว่าควรจะกลับไปดีไหม?

สุดท้ายก็กลับไปและ...

‘ฉันเลี้ยงให้แกโตมาชอบผู้ชายด้วยกัน!’

เป็นแบบนี้มาตลอดจนเมื่อหลายเดือนก่อนแม่เกิดป่วยกะทันหันและด่วนจากไป ทั้งครอบครัวตอนนี้จากสามคนเหลือเพียงคนเดียว คำสั่งเสียของแม่คือการที่ให้แต่งงานกับผู้ชายมีครอบครัวดีๆ ซึ่งมันแทบไม่มีวันเป็นไปได้เลย เธอไม่ได้รังเกียจผู้ชายแต่ทว่าการคบกับผู้หญิงด้วยกันมันก็ไม่ได้แย่อะไรมากมาย...อีกอย่าง ในทางตรงกันข้ามเธอกลับรู้สึกว่าสบายใจกว่ากันเยอะทีเดียว

“น้องต๋อมอยากสั่งอะไรมาทานไหมครับ”

จรีภรณ์หรือ ‘ต๋อม ’ส่ายหน้าแทนคำตอบนั่ง เธอตรงข้ามฝั่งรุ่นพี่หนุ่มที่ทำงานร่วมกัน แม้สายตาจะไม่ได้แสดงออกมาว่าเกลียดผู้ชาย แต่ท่าทางที่ดูเหินห่างก็พอบอกให้อีกฝ่ายรู้ว่าไม่สนใจ ต่อให้ตัดผมสั้นแล้วใบหน้าก็ยังคงหวานและทำให้มีผู้ชายเข้ามาจีบเพราะคิดว่าเป็นสาวเปรี้ยว!

“พี่ได้ข่าวว่าต๋อมชอบกิน...”

“จะสั่งอะไรก็สั่งเลย” เป็นการขานรับไม่มีหางเสียงเพราะคนอย่างจรีภรณ์ไม่ใช่สาวที่เรียบร้อยและเป็นกุลสตรีที่ต้องง้อผู้ชายหรือทำตัวออดอ้อน อีกอย่างด้วยความที่ใจที่ไม่ชอบเพศตรงข้ามแล้วคงไม่สามารถตอบรับความรู้สึกของอีกคนได้ จึงไม่อยากจะพัฒนาความสันพันธ์จากเพื่อนร่วมงานหรือรุ่นพี่ไปเป็นอย่างอื่น

“อะไรก็ได้...ค่ะ”

ชายหนุ่มได้แต่มองใบหน้าสวยหวานไม่วางตา ทำให้จรีภรณ์รู้สึกอึดอัดที่ต้องอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ความจริงแล้วคนที่ชวนคือเพื่อนร่วมงานผู้หญิงที่บอกว่าสุดสัปดาห์มื้อกลางวันนัดกันไปกินเลี้ยงซึ่งมีแต่ผู้หญิงแล้วทำไมตอนนี้มีเพียงแค่เธอและคุณรุ่นพี่หน้าจืดเท่านั้นเล่า!

“งั้นพี่สั่งให้นะครับ”

หญิงสาวยิ้มเจื่อนๆ พลางพยักหน้ารับโดยไม่ปริปากพูดอะไร ระหว่างที่รออาหารมาเสิร์ฟจรีภรณ์ได้แต่นั่งหันมองไปทางอื่น เมื่อบรรยากาศเริ่มอึดอัดมากขึ้นเรื่อยๆ จนทนไม่ไหวจึงออกปากขอชายหนุ่มไปเข้าห้องน้ำ

“ขอไปเข้าห้องน้ำก่อน...นะคะ”

พูดเสร็จก็ลุกเดินจากไปทันที เมื่อเดินห่างออกมามากพอแล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมา จรีภรณ์เดินเข้ามาในห้องน้ำล้างมือและส่องมองตัวเองที่หน้ากระจก ไม่มีใครดูออกว่าภายในของหญิงสาวนั้นไม่ได้ชอบเพศตรงข้ามเลยสักนิด

จรีภรณ์มีใบหน้าหวานกับดวงตากลมโตและจมูกที่รับริมฝีปากพอดี ผมสั้นที่ตัดเท่าใบหูดูให้เหมือนผู้ชายหน้าหวานแต่ใบหน้าก็ยังคงอิ่มไม่เปลี่ยน...ทว่าการแต่งตัวนั้นดูตรงข้ามกับหน้าตาอย่างชัดเจน หญิงสาวจงใจให้เป็นแบบนั้นเพื่อหลีกผู้ชายที่เข้ามาจีบ แต่มันก็ไม่ได้ดูน้อยลงเลย

เมื่อระบายความรู้สึกอึดอัดเสร็จแล้วจึงเดินกลับมานั่งที่โต๊ะเหมือนเดิม อาหารถูกเสิร์ฟจนเต็มแต่จะให้นั่งกินกับ ผู้ชายเหมือนมาเดทกันคงจะยากหน่อย

“สรุปคนอื่นจะไม่มาใช่ไหมคะ?” จรีภรณ์เอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์มากนัก

รุ่นพี่เพื่อนร่วมงานยิ้มระบายก่อนพูดขึ้น “พี่ขอโทษที่ไม่ได้โทรบอกเลย ต๋อมคงจะไม่ว่าอะไรพี่ใช่ไหม?”

“ไม่เลย พี่ฮิปโป” จรีภรณ์พูดลากเสียงยาวพร้อมชื่อของอีกฝ่าย เมื่อเรียกทีก็จะกลั้นขำกับชื่อเล่นนั้นไม่ได้ ปกติแล้วทุกคนในแผนกจะเรียกว่า ‘พี่โป’ คงจะมีแต่เธอที่เรียกเต็มๆ ว่าฮิปโป

“ครับ งั้นเราทานกัน”

หญิงสาวเพียงยิ้มรับและหยิบช้อนตักอาหารเข้าไปพลางเหลือบสายตามองชายหนุ่มตรงหน้าไป...ทำไมสีหน้าดูมีความสุข ต่างจากเราที่อมทุกข์อยู่ในใจละวะเนี่ย!

“น้อมต๋อมชอบอะไรเป็นพิเศษไหมครับ”

จรีภรณ์คาช้อนในปากไว้ เงยหน้าขึ้นมองพี่ฮิปโปแล้วส่ายหน้าตอบ

“ไม่มีเลยหรือครับ อย่างเช่นชอบสีอะไร ชอบดอกไม้อะไร หรือว่าชอบดูหนังแนวไหน”

ถามมาเป็นชุดนี่กะจะรุกจีบใช่ไหมเนี่ย!

จรีภรณ์เคี้ยวอาหารในปากให้หมดก่อนจะเอื้อมมือหยิบน้ำดื่มตามแล้วพูดขึ้น “ไม่มีค่ะ”

“ไม่มีเลยเหรอครับ” ฮิปโปยังคงถามซ้ำและรอคำตอบ

“ไม่มีค่ะ”

“จริงๆ หรือครับ” ชายหนุ่มเริ่มส่งสายตาอ้อนวอนให้ตอบ

“สีที่ชอบสีดำ ดอกไม้ไม่มี หนังที่ชอบดูก็แนวฆาตกรรม”

จรีภรณ์ตอบอย่างไม่ใส่ใจมากนักและหวังว่าอีกฝ่ายคงไม่สนใจด้วย...

“จริงหรือครับ งั้นถ้ามีภาพยนตร์แนวฆาตกรรมออกมาพี่จะชวนต๋อมไปดูด้วยกันนะ”

ห๊า!! จรีภรณ์เบิกตากว้างด้วยความตกใจ

“ไม่ต้องๆ เกรงใจเปล่าๆ ค่ะ” รีบบอกปฏิเสธทันทีเพราะแค่วันนี้ไม่ถึงชั่วโมงทำเอาอึดอัดจะแย่อยู่แล้ว หากไปดูหนังด้วยกัน ไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเป็นยังไงต่อ...

“น้องต๋อมครับ” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังทำให้จรีภรณ์ต้องเงยหน้าขึ้นมอง

“พี่ชอบน้องนะครับ”

จรีภรณ์นั่งอึ้ง อาหารที่อยู่ในปากแทบจะสำลักติดคอ

“น้องต๋อมครับ...”

จรีภรณ์รีบมองหน้าและฉีกยิ้มให้อีกฝ่าย

“พี่ฮิปโปอย่ามโนไปเอง! ให้ต๋อมเป็นรุ่นน้องพี่ดีแล้ว!” จรีภรณ์ตอบปฏิเสธไปทันที ครั้นมองสีหน้าอีกฝ่ายที่แสดงความผิดหวังออกมาก็รู้สึกผิดนิดๆ แต่จะให้ชอบคุณพี่ฮิปโปตรงหน้าเห็นทีคงจะไม่ได้

คงตัดใจแล้วละมั้ง...

“ไม่เป็นไรครับ พี่จะจีบน้องเชื่อว่าสักวันน้องต้องชอบพี่แน่ๆ”

ห๊า!! ไม่ตัดใจง่ายๆ หนำซ้ำยังจะจีบต่อ...เอาไงดี รับรองวันนี้ได้ตกนรกเป็นๆ ทั้งวันแน่ๆ

“ใช่! ต๋อมนึกได้ว่ามีธุระ งั้นขอตัวกลับก่อนนะคะ” เมื่อพูดจบก็ลุกขึ้นวิ่งหายไปในทันทีทิ้งให้อีกฝ่ายตั้งรับไม่ทัน กว่าจะรู้ตัวก็นั่งอยู่คนเดียวเสียแล้ว

จรีภรณ์เดินออกมาห่างมากพอสมควรที่จะหยุดพักหายใจ กะแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ไม่คิดว่าคนในแผนกจะช่วยกันเพื่อให้พี่ฮิปโปได้มีโอกาสอยู่กับเธอ มันจะเลวร้ายมากแค่ไหนถ้าเกิดเดินจูงมือผู้ชาย อี๋! ไม่อยากจะคิดเลย...

หญิงสาวเดินออกจากห้างสรรพสินค้าขึ้นรถเมล์เพื่อกลับไปยังอพาร์ตเมนต์ นั่งรถไม่ถึงสี่สิบหน้าทีก็ถึงที่หมาย สายตามองไปรอบๆ พลางถอนหายใจออกมา พลันมองเห็นลูกสุนัขที่วิ่งผ่านตัดหน้าไปก็อดที่จะมองนานๆ ไม่ได้

เจ้าสุนัขตัวน้อยวิ่งผ่านออกไปที่ถนนใหญ่สามเลน จรีภรณ์เห็นว่ารถบรรทุกที่วิ่งมาด้วยความเร็วนั้นได้เบรกหักเลี้ยวลงข้างทางเพื่อหลบเจ้าสุนัข รถสิบล้อพุ่งเข้าชนป้าโฆษณาขนาดใหญ่ที่อยู่ห่างจากหญิงสาวไม่ถึงห้าเมตร จรีภรณ์ยืนนิ่งตัวแข็งก่อนตั้งสติได้ โชคดีที่รถไม่พุ่งเข้าใส่เธอ

แกร๊ก...แอ๊ด

ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ขยับเอียงค่อยๆ ล้มลงมา จรีภรณ์รีบที่จะเดินถอยออกห่างแต่ทว่า....

“เฮ้ย...!!!”

_________________________________________

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มายาปฏิพัทธ์   บทที่ 81 (ตอนพิเศษ) เมื่อผมอยากมีน้องสาว III (END)

    ครั้นเห็นสีหน้าของภรรยาก็รู้สึกสนุก เขายิ้มออกมาแล้วพูดขึ้น “คุณอยากให้ผมหยุดไหม?”นั่นเป็นคำถามที่เขาควรถามหรือไม่?!จรีภรณ์ก้มหน้านิ่งลงด้วยความอายร่างกายกำลังเรียกร้องหาเขา ถ้าให้เธอหยุดตอนนี้...หญิงสาวขยับตัวลงเดินเข้ามาหาชายหนุ่ม“ไม่อยากมีกอหญ้าให้ต้นน้ำแล้วหรือคะ?” น้ำเสียงหวานพูดเชิญชวนชายหนุ่ม กตตน์ใจอ่อนทันตา เพราะเสียงและสายตาที่ชวนเขาขนาดนี้มีหรือจะปฏิเสธลงได้กตตน์ดันหญิงสาวชิดกับขอบโต๊ะเขาจูบเธอก่อนที่จะอุ้มร่างเล็กวางนอนกับโต๊ะทำงาน ของและกองเอกสารที่วางอยู่มุมโต๊ะถูกปัดหล่นที่พื้นโดยไม่มีใครสนใจชายหนุ่มฝั่งปลายจมูกลงที่ส่วนอ่อนไหวอีกครั้งหนึ่งคราวนี้เขาสามารถทำให้เธอตอบสนองและครางออกมาได้มากกว่าเดิม“คุณชอบไหม?”&nb

  • มายาปฏิพัทธ์   บทที่ 80 (ตอนพิเศษ) เมื่อผมอยากมีน้องสาว II

    ต้นน้ำวิ่งออกมาจากห้องหันมองประตูด้วยสีหน้าที่บ่งบอกถึงความอดทน เพราะอยากจะมีน้องสาวไวๆ จึงต้องยอมนอนคนเดียวตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป ทั้งยังต้องปล่อยให้พ่ออยู่แม่ด้วยกันนานๆ“กำลังอดทน?”จรีภรณ์ทวนคำพูดของลูกชายก่อนจะวางงานเเละลุกขึ้นทันทีทว่าประตูห้องเปิดเข้ามาเสียก่อน“มาเอาของหรือคะฉันจะไปดูลูกหน่อย”หญิงสาวพูดขณะเตรียมก้าวไปทว่ามือแกร่งของชายหนุ่มรั้งไว้เสียก่อน“ต้นน้ำไม่เป็นอะไรหรอกคุณโอ๋ลูกมาไปจนติดคุณเเล้วรู้ไหม"กตตน์พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มเเล้วเอ่ยต่อไปว่า“ต้นน้ำแกบอกว่าอยากมีน้องสาว…”จรีภรณ์ส่งสายตามองสามีเธอรับรู้ถึงน้ำเสียงกะล่อนของเขาได้“คุณไม่ได้พูดอะไรกับลูกใช่ไหม?!”“ผมเปล่าพูดอะไร&rdqu

  • มายาปฏิพัทธ์   บทที่ 79 (ตอนพิเศษ) เมื่อผมอยากมีน้องสาว I

    จากวันนั้นก็ผ่านมาหลายปีแล้วทุกอย่างไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนเเปลงไปมากกว่าเก่าเพียงเเต่สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนเเปลงไปคือความรู้สึกของเขาหลายปีมานี้จนกระทั่งมีลูกชายคนเเรกเธอรับรู้การเปลี่ยนไปของผู้ชายคนนี้มากรวมทั้งตัวของเธอด้วยเเต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงอยู่ในความทรงจำของเธอไปตลอดคือ'พริมมา'ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีก็ไม่มีวันลืมได้ว่าร่างกายนี้…เสียงลมหายใจนี้เป็นของหล่อนที่มอบให้เธอได้กลับมาอยู่กับเขาอีกครั้งหนึ่ง“แม่ค้าบบ”เสียงของเด็กชายวัยสี่ปีกว่าๆดังขึ้นขณะที่เสียงฝีเท้าวิ่งพราดเข้ามาหาผู้เป็นแม่มือน้อยๆดึงชายกระโปรงชุดนอนเป็นเชิงเรียกให้มารดาที่นั่งทำงานอยู่บนโซฟาหันมามอง“มีอะไรครับคนเก่งของแม่”จรีภรณ์ละสายตาจากเอกสารหันมองลูกชายตัวน้อยเด็กชายส่งสมุดวาดรูปให้กับผู้เป็นแม่

  • มายาปฏิพัทธ์   บทที่ 78 (ตอนพิเศษ) คนในโชคชะตา III

    ขวัญข้าวจัดกระเป๋าขณะที่มือก็ถือกุญแจเอาไว้ แต่ถือไว้ไม่ดีจึงทำให้หล่นลงพื้น ไม่เพียงแค่นั้นขณะก้มลงเก็บสายสะพายกระเป๋าก็ร่วงลงมาด้วยทำให้น้ำหนักทั้งหมดอยู่ที่แขนซ้าย หญิงสาวมีใบหน้าหงุดหงิดเล็กน้อยเพราะของที่เยอะทำให้หยิบจับอะไรไม่สะดวก แต่ก็โทษใครไม่ได้ที่ดันซื้อมาเยอะเองเพราะคิดว่าคืนนี้ต้องอยู่ดึกทำรายงานยาว เกรงว่าจะหิวเลยจัดซะเต็ม‘ของเธอใช่ไหม ?’ เสียงทุ้มเอ่ยทักขึ้นขณะที่ยื่นมือส่งกุญแจให้กับเธอ ขวัญข้าวพยักหน้ารับก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงเขาอีกแล้ว...!!‘ขอบคุณค่ะ’ หญิงสาวกล่าวพร้อมกับเอื้อมมือรับ‘พักอยู่ห้องนี้เหรอ’ ธนวินทร์เอ่ยถามขึ้น‘ค่ะ’‘เหรอ’ เขายิ้ม ‘เราพักอยู่ห้องข้างๆ เธอนะ’ขวัญข้าวยิ้มเจื่อนๆ ก่อนหันมาเปิดประตูห้อง แต่ก็นึกเพราะคนเก่าที่อยู่เป็นรุ่นพี่ผู้หญิง แสดงว่าเขาเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ได้ไม่นาน‘เธอชื่ออะไรเหรอ ?’ ชายหนุ่มเอ่ยถามพร้อมกับส่งยิ้มที่เป็นมิตรให้ คนตัวเล็กมองอยู่นานก่อนจะตอบกลับ‘ข้าวค่ะ’&lsquo

  • มายาปฏิพัทธ์   บทที่ 77 (ตอนพิเศษ) คนในโชคชะตา II

    หลังเลิกเรียนวิชาสุดท้ายของวัน อาจารย์ผู้สอนเก็บของและเดินออกไปจากห้อง พะแพงลุกขึ้นวางของแล้วเดินเข้ามาหาเพื่อนในกลุ่มก่อนจะพูดขึ้นเสียงดัง‘วันนี้ไปส่องผู้ชายกัน !’‘ที่ไหน ! / ไปตอนไหน !’ แก้วและปรางพูดขึ้นพร้อมกันขณะที่ ขวัญข้าวนิ่งเงียบทำราวกับว่าไม่ได้ยินที่พะแพงพูด‘ข้าว แกต้องไปด้วยนะ’‘การบ้านยังไม่เสร็จเลย’ หญิงสาวหาข้ออ้าง‘แกทำการบ้านทุกวันนั่นแหละ ! อย่าอ้าง วันนี้ต้องไปด้วย ! เห็นว่าเด็กบริหารหล่อๆ มาเล่นกีฬาที่สนามเยอะเลย’หญิงสาวยิ้มเจื่อนๆ มองหน้าเพื่อนรักทั้งสามคนทำตาปริบๆ‘ไม่ต้อง ! แกต้องไปส่องผู้ชาย ทำการบ้านไปด้วยได้บรรยากาศดีจะตาย’ แก้วพูดขึ้นขวัญข้าวทำหน้ามุ่ย ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะหาข้ออ้างหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆเป็นเวลานานเกือบชั่วโมงที่นั่งรวมตัวอยู่กับเพื่อนแล้ว ‘ส่องผู้ชาย’ ขวัญข้าวแทบไม่มีอะไรทำจนต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมานั่งเล่นเกมเป็นการฆ่าเวลา จนกระทั่งผ่านไปถึงสองชั่วโมงเพื่อนทั้งสามของเธอก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะกลับหอ หญิงสา

  • มายาปฏิพัทธ์   บทที่ 76 (ตอนพิเศษ) คนในโชคชะตา I

    มีคนบอกว่าการพบกันของคนสองคนมาจากโชคชะตา แต่สำหรับเธอแล้วเหมือน ‘กรรม’ มากกว่า การพบกันไม่ใช่ว่าจะเกิดเรื่องราวดีๆ ระหว่างกันขึ้นเสมอไป มันอาจจะโชคร้ายและแสนเศร้ามากๆ เลยก็ได้ แม้จะมีความสุขแต่ทว่าผลสุดท้ายแล้วคือความเจ็บปวดดีๆ นี่เองเสียงฝีเท้าจากส้นสูงคู่หนึ่งก้าวหยุดอยู่ที่บ้านไม้สองชั้นบรรยากาศ ร่มรื่นมีไม้ดอก ไม้ประดับปลูกล้อมรอบไว้ อีกทั้งในบ้านก็มีต้นไม้ใหญ่หนึ่งต้นที่คอยให้ร่มเงา เธอเอื้อมมือกดกริ่งเรียกคนในบ้านและยืนรอ“กลับมาแล้วเหรอข้าว” เสียงของหญิงวัยกลางคนเอ่ยขึ้นขณะที่เดินมาเปิดประตูบ้านให้“กลับมาแล้วค่ะแม่” ขวัญข้าวขานรับทันทีที่ประตูเปิดออกหญิงสาวขนสัมภาระเข้ามาในบ้านแล้วเดินมากอดผู้เป็นมารดา“คิดถึงจังเลยค่ะ”สองปีได้ที่ต้องไปทำงานที่เมืองนอกโดยแทบไม่มีเวลากลับมาเลย ปีหนึ่งกลับมาแค่ช่วงปีใหม่เท่านั้น ต่อให้จะโทรคุยกันในช่วงที่มีเวลาว่างก็ตาม แต่ก็ไม่เท่ากับการพบหน้าคุยกันอยู่ดี“จ้ะ...แล้วนี่กลับมาทำงานที่นี่เลยไหม ?”“ค่ะ เพราะงานวิจัยที่นั่นเสร็จแล้ว&rdquo

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status