“แล้วลุงล่ะ หล่อพอไหม แม่ของโรซี่เขาจะชอบลุงไหม” เขาแกล้งถาม
แม่หนูลุกขึ้นยืนบนเก้าอี้ ให้ความสูงเท่ากับคนที่นั่งอยู่ มือป้อมๆ จับหน้าเขาหันซ้ายขวา มองอย่างสำรวจ ก่อนจะพยักหน้าให้
“หล่อค่ะ ลุงริคกี้หล่อที่สุดเลย หล่อกว่าผู้ชายทุกคนที่มาชอบแม่ลิช”
โรซี่น้อยการันตีความหล่อของคุณลุงใจดีของแก เทียบกับหนุ่มๆ ที่มาชอบมารดาของแก ในสายตาของแม่หนู ริคคาโด้หล่อมาก หล่อยิ่งกว่าผู้ชายคนไหนที่แกเคยเห็น ความลำเอียงนี้ได้มาจากที่เขาเคยช่วยเธอไว้ จนเกิดเป็นความประทับใจ คะแนนของเขาจึงนำลิ่ว
“แบบนี้เจ้านายของลุง ก็มีสิทธิ์จีบแม่ของโรซี่ใช่ไหมครับ” ทนายเอริกนึกสนุก แกล้งพูดแหย่
“ไม่ได้หรอกค่ะ แม่ลิชเป็นของพ่อโรซี่คนเดียว วันหนึ่งพ่อจะกลับมา โรซี่ต้องดูแลแม่ลิชไว้ให้พ่อค่ะ”
แม่หนูไม่ยอมให้ผู้ชายคนไหนเข้ามาใกล้แม่ของแก โรซี่น้อยปกป้องแม่ไว้เพื่อรอพ่อกลับมา คุณลุงริคกี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ถึงแกจะชอบเขามาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะให้เขามาแทนที่พ่อของแก
“หมดหวังแล้วครับคุณท่าน โรซี่น้อยหวงแม่ไว้ให้พ่อของแก”
ทนายเอริกหันมาบอกเจ้านายของตน ด้วยน้ำเสียงเจือหัวเราะ เขาเห็นแววตาของเจ้านายยามได้ฟังโรซี่เอ่ยถึงพ่อของแก มันมีรอยอิจฉาฉายออกมา ริคคาโด้เองก็มีลูกชายอยู่คนหนึ่ง แต่ดูเหมือนความผูกพันจะเทียบกับแม่หนูที่เพิ่งพบหน้าคนนี้ไม่ติด คุณชายน้อยโรมิโอถูกวางตัวเป็นทายาทของตระกูลมาร์เซียอาโน่รุ่นต่อไป จึงได้รับการอบรมอย่างเข้มงวดจากนายท่านฟรองซัวร์ ทำให้คุณชายน้อยเป็นเด็กเงียบขรึมจริงจัง ไม่ร่าเริงเหมือนหนูน้อยโรซี่ การเป็นเด็กผู้ชายจึงออดอ้อนไม่เป็น ไม่น่ารักน่าเอ็นดูเท่าเด็กหญิง
“อย่าพูดมากน่า นั่นอาหารมาแล้ว ฉันสั่งเผื่อนายด้วย ฝีมือแม่ของโรซี่เขาทำอร่อยนะ”
ริคคาโด้ตัดบท ไม่อยากฟังอะไรแสลงหู เขาอยากรู้นักว่าพ่อของหนูน้อยโรซี่จะหล่อเหลาเท่าเขาไหม แม่ของโรซี่น้อยถึงทำเมินเฉยต่อเขาราวกับหัวหลักหัวตอ
“นายกินข้าวไปก่อนนะ ฉันจะไปดูแม่ของโรซี่สักหน่อย โรซี่ลุงขอไปเยี่ยมแม่ของหนูหน่อยได้ไหม นำทางลุงไปสิ”
เขาบอกทนายเอริกเสียงเข้ม ก่อนจะลดเสียงหันมาถามเด็กหญิงด้วยเสียงนุ่มนวล
“ไปทางนี้ค่ะ เดี๋ยวโรซี่จะพาไป”
แม่หนูน้อยชูแขนให้เขาอุ้ม ดูเหมือนจะติดใจการอุ้มของมาเฟียหนุ่มเสียแล้ว ทั้งสองพากันเดินอ้อมออกไปจากด้านหน้าของร้าน ก่อนที่นายพัชรจะยกถาดอาหารมาถึงโต๊ะ
“โรซี่ไปไหนเสียแล้ว” คนเป็นตาถามหาหลานสาว
“ชวนคุณริคคาโด้ไปเดินเล่นข้างนอกครับ อีกเดี๋ยวคงจะกลับมา”
ทนายเอริกจำต้องปดไป เขาไม่อยากให้ตาของโรซี่ ไม่พอใจเจ้านายของเขา ที่เข้าไปหาลูกสาวของอีกฝ่ายถึงในบ้าน เขาเคยรู้ว่าคนไทยถือเรื่องมารยาทแบบนี้มาก
“ทางคุณต้องการห้องพักกี่ห้องครับ ตอนนี้ทางเราเหลือห้องพักอยู่สามห้อง”
นายพัชรเปิดแทปเลตให้ทนายเอริก ดูห้องพักที่ยังเหลืออยู่ มีห้องพักขนาดเล็กสองห้อง และห้องใหญ่อีกหนึ่งห้อง
“ผมขอทั้งสามห้องเลยครับ ห้องใหญ่ของเจ้านายผม ส่วนห้องเล็กอีกสองห้อง ของผมกับบอดีการ์ดของท่าน”
ทนายเอริกบอก พลางตักอาหารเข้าปากก่อนจะครางในคอ เมื่อสัมผัสรสชาติอร่อย เขาหยุดพูดจัดการตักอาหารบนโต๊ะรับประทานอย่างเอร็ดอร่อย แถมยังขอเติมข้าวอีกจาน จนนายพัชรยิ้มขำ ต่างชวนกันพูดคุยเรื่องสับเพเหระต่างๆ จนลืมไปว่าริคคาโด้พาแม่หนูโรซี่ไปที่ไหน
บ้านพักของครอบครัวโรซี่น้อยเป็นบ้านหลังเล็กๆ มีสองห้องนอน หนูน้อยนอนห้องเดียวกับมารดา แม่หนูบอกให้ริคคาโด้เดินออกจากหน้าร้านอาหารมาตามทางเดินด้านข้าง ซึ่งติดกับห้องพักของโฮมสเตย์
“เดินตรงไปตามทางนี้ค่ะ”
แม่หนูชี้มือให้คนอุ้มเดินเข้าไปในบ้าน ริคคาโด้เดินผ่านห้องนั่งเล่นไปยังชั้นบนของบ้าน จนมาหยุดที่หน้าประตูห้องหนึ่ง โรซี่น้อยเคาะประตูสองสามครั้ง พร้อมกับตะโกนเรียก
“แม่ลิชขา...”
เงียบไม่มีเสียงตอบ หนูน้อยหันมามองหน้าคุณลุงของแก คนมากวัยกว่าลองเอื้อมมือไปบิดลูกบิดประตู ปรากฏว่าประตูไม่ได้ล็อกไว้
ปกติอลิชาจะไม่ล็อกประตูห้อง เพราะลูกสาวจะเข้าออกห้องนี้ไปมาระหว่างห้องของผู้เป็นตาของแก
“ไม่ได้ล็อกห้องนี่”
ริคคาโด้เปิดประตูเข้าไป เขาปิดประตูอย่างเบามือไม่ให้มีเสียงดัง มองเข้าไปในห้องเห็นเตียงนอนขนาดใหญ่วางอยู่กลางห้อง เฟอร์นิเจอร์แล้วการตกแต่งในห้องมีลวดลายดอกกุหลาบสีหวาน บ่งบอกว่าเป็นห้องของผู้หญิงโดยแท้ ด้านในสุดเป็นห้องน้ำมีเสียงกำลังเปิดน้ำฝักบัวดังออกมา
“แม่ลิชกำลังอาบน้ำค่ะ ลุงริคกี้รอตรงนี้นะคะ เดี๋ยวโรซี่ไปหาแม่ลิชก่อน”
โรซี่น้อยขอลงยืนเอง แล้วจูงมือริคคาโด้ไปนั่งรอที่เก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ก่อนจะพาตัวเองวิ่งไปยังห้องน้ำ เปิดประตูที่แง้มไว้เดินเข้าไปอย่างว่องไว
“แม่ลิชขา...” หนูน้อยเรียกแม่ของแกเสียงแจ๋ว
ภายในห้องน้ำอลิชากำลังอาบน้ำอยู่ใต้ฝักบัว เมื่อได้ยินเสียงเรียกก็หันมายิ้มให้ลูกสาว
“โรซี่ มาอาบน้ำกับแม่สิลูก มอมแมมไปหมดแล้ว”
หญิงสาวเดินตัวเปล่าเข้ามาถอดเสื้อผ้าของลูก พาหนูน้อยไปอาบน้ำด้วยกัน โรซี่ไม่ทันจะได้บอกว่ามีคนรออยู่ในห้อง ก็ถูกแม่ของแกจับอาบน้ำพร้อมกันแล้ว
ริคคาโด้นั่งรออยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เขาได้ยินเสียงสองแม่ลูกคุยกันเพราะโรซี่น้อยไม่ได้ปิดประตูสนิท ประตูจึงแง้มออกทำให้เสียงภายในห้องน้ำลอดผ่านออกมา
คนเป็นพ่อน้ำตาแทบหยดเมื่อต้องส่งมอบแก้วตาดวงใจของตน ให้คนอื่นรับไปดูแล ความรักความห่วงใยของผู้เป็นพ่อทำให้หวงลูกสาวมาก พยายามทำทุกวิธีให้ลูกอยู่กับครอบครัวให้นานที่สุด แต่ก็ทำได้แค่เพียงถ่วงเวลา เมื่อลูกต้องเติบโตไปใช้ชีวิตของตัวเอง จำต้องยอมปล่อยมือ พาลูกไปส่งให้คนที่จะดูแลยอดดวงใจของพ่อ ให้ดีที่สุด“ริคคาโด้คะ โรซี่น้อยโตแล้ว เรียนจบตามที่คุณต้องการ ลูกต้องมีชีวิตของตัวเอง มีครอบครัวของแกเอง เราจะรั้งลูกไว้ให้อยู่กับเราตลอดชีวิตไม่ได้หรอกค่ะ อเลสซานโดรได้พิสูจน์ให้คุณเห็นแล้ว ว่าเขาเหมาะสมกับโรซี่น้อยของเรา เขาทำให้เราเชื่อมั่นว่า จะสามารถดูแลโรซี่น้อยได้ดีไม่แพ้กับเรา ลูกจะต้องมีความสุขมากแน่นอนค่ะ”อลิชาบอกสามี ในตอนที่ริคคาโด้พยายามเลื่อนการแต่งงานของลูกสาว ออกไปให้นานที่สุด เขายังทำใจไม่ได้หากต้องปล่อยมือจากลูก คำพูดของภรรยาเตือนสติให้ริคคาโด้ยอมปล่อยวาง งานแต่งงานจึงเกิดขึ้น“โรซี่น้อย ตื่นเต้นไหมลูก”ริคคาโด้กระซิบถามลูกสาว ขณะชลอฝีเท้าเดินช้าลงอีกสักหน่อย อีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงแท่นพิธีแล้ว เขาต้องส่งลูกให้อเลสซานโดรดูแลไปตลอดชีวิต หัวใจของคนเป็นพ่อจุกแน่นด้วยความอาลัยอาวรณ์“ตื
“ท่านอคติกับผม ท่านไม่ให้โอกาสผมได้พิสูจน์ความจริงใจสักหน่อยหรือครับ”อเลสซานโดรท้วงขึ้น เขายอมทำทุกอย่าง เพียงเพื่อให้ริคคาโด้ยอมรับเขา“จริงใจเหรอ นายอย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ว่านายทำอะไรลูกสาวฉันรึไง โรซี่น้อยยังเด็กไม่เท่าทันวัวแก่อย่างนายหรอก ลูกสาวของฉันอาจจะไม่เข้าใจความรักด้วยซ้ำ แต่ถูกนายหลอกให้หลงเชื่อ”ริคคาโด้ยังโมโหไม่หาย อเลสซานโดรย่ำยีหัวใจเขา มันกล้าจูบลูกสาวของเขาในงานเดบูตองต์“ท่านอย่าดูถูกหัวใจของโรซี่น้อยสิครับ ลูกสาวของท่านเธอมีหัวใจที่แสนบริสุทธิ์ เธอรู้จักความรักและเลือกที่จะรักอย่างถูกต้องดีงาม”อเลสซานโดรโต้กลับทันที โรซี่อาจจะอายุเพียงสิบแปดปี แต่เธอมีความคิดอ่าน มีสติยั้งคิดในการเลือกที่จะรัก ริคคาโด้ปรามาสหัวใจของลูกสาวมากเกินไป“โรซี่น้อยยังเด็ก แกไม่รู้จักหรอกความรักเป็นยังไง”ริคคาโด้เชื่อแบบนั้น แต่เขาไม่รู้ว่า ลูกสาวตัวน้อยของเขานั้น มีหัวใจรักยิ่งใหญ่แค่ไหน“โรซี่รู้จักความรักค่ะ พ่อริคกี้”โรซี่น้อยเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับอลิชา สาวน้อยเดินไปหาบิดาและบอกกับท่านว่า“ความรักของโรซี่คือความถูกต้องดีงาม รักที่ให้เกียรติทั้งตัวเอง ครอบครัว และคนรัก พี่ชายเป็นท
บนฟลอร์เต้นรำ อเลสซานโดรพาร่างงามระหงของโรซี่ เต้นรำไปรอบๆ ฟลอร์ เขามองใบหน้างดงามที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามกว่าทุกครั้งด้วยแววตาชื่นชม นึกเปรียบเทียบกับสาวน้อยเดบูตองต์คนอื่นในงาน เขาให้คะแนนแบบไม่ลำเอียงเลยว่า โรซี่น้อยของเขางดงามที่สุด“พ่อริคกี้ต้องโมโหพี่ชายมากแน่ๆ ดูสิคะจ้องมาเหมือนจะเผาพี่ชายให้ตาย” โรซี่น้อยอดยิ้มขำไม่ได้“พี่ชายเลยต้องขอโรซี่เป็นแฟน ไม่อย่างนั้นโรซี่อาจจะขึ้นคานก็ได้นะ”อเลสซานโดรพูดเอาดีเข้าตัวอย่างน่าหมั่นไส้ โรซี่น้อยหัวเราะคิกขำคนหน้ามึน“เราไปทางนู้นกันดีกว่า หลังของพี่ชายถูกสายตาพ่อของโรซี่ กรีดจนเหวอะไปหมดแล้ว”อเลสซานโดรพาโรซี่น้อย เต้นรำไปจนสุดฟลอร์อีกด้าน ก่อนจะพาเธอเดินออกมาจากงาน หามุมสงบคุยกัน“พี่ชายบอกหรือยังว่า วันนี้โรซี่สวยมาก”อเลสซานโดรทำปากหวานเอ่ยชมสาวน้อย โรซี่ยิ้มพลางหมุนตัวให้เขาดู“ชมมาเยอะๆ ได้เลยค่ะ โรซี่รับได้”อเลสซานโดรยื่นมือไปดึงร่างงามมากอดไว้ มองใบหน้างดงามนั้นด้วยแววตาอ่อนโยน“โรซี่น้อยของพี่ชาย สวยที่สุดในโลก สวยเหมือนเจ้าหญิง พี่ชายขอเป็นเจ้าชายให้โรซี่ได้ไหม”“ได้สิคะ ถึงเจ้าชายจะแก่เหนียงยานไปหน่อย แต่ก็หล่อมาก หล่อกว่าหนุ
เพลงจบลงสาวน้อยเดบูตองต์เดินกลับมาหาคนในครอบครัว อลิชาปลาบปลื้มจนน้ำตาไหล ในขณะที่ริคคาโด้ห้ามตัวเองให้หยุดยิ้มไม่ได้“โรซี่น้อยของพ่อ หนูเป็นความภาคภูมิใจของครอบครัวเรานะลูก”ริคคาโด้ดึงร่างอรชรของโรซี่น้อยมากอดไว้ ปลื้มอกปลื้มใจกับงานเปิดตัวครั้งแรกของลูกสาว วงสังคมชั้นสูงจะต้องจับตามองลูกสาวคนสวยของเขาแน่นอน พวกบรรดาพ่อแม่ก็คงพากันมาทาบทามให้ลูกชายของตนเอง จนเลือกเขยขวัญไม่หวาดไม่ไหว แต่ให้พวกนั้นฝันหวานไปก่อนเถอะ เขายังไม่พร้อมยกโรซี่น้อยให้ใครดูแล“ขอบใจมากนะโรมิโอ ลูกดูแลน้องได้ดีมาก” อลิชาเอ่ยชมลูกชายโรมิโอเติบโตมาอย่างสง่างามไม่แพ้บิดา เขาตัวสูงใหญ่เกือบเท่าริคคาโด้แล้ว อีกไม่กี่ปีก็คงเหมือนผู้เป็นบิดา ส่วนเลโอนาโดลูกชายคนเล็ก ขอตัวไม่มาร่วมงานนี้ เพราะไม่ใช่งานของเด็ก“งานเลี้ยงยังอีกยาว ถ้ามีคนมาขอเต้นรำ พ่อริคกี้จะอนุญาตไหมคะ” โรซี่น้อยเอ่ยถามบิดา“เลือกคนเต้นหน่อยนะโรซี่น้อย ถ้าไอ้คนไหนมันฉวยโอกาสบอกพ่อได้เลย พ่อจะเตะมันออกจากงาน”ริคคาโด้ยังหวงลูกสาวคงเส้นคงวา แม้ต้องจำยอมให้โรซี่น้อยเต้นรำกับหนุ่มๆ แต่ก็ต้องจับตาดูตลอดเวลา“คุณป๋าทำตาขวางแบบนี้ หนุ่มๆ ที่ไหนจะกล้ามาขอโร
“ได้แน่นอน เรามาเป็นแฟนกันตั้งแต่ตอนนี้เลย พี่ชายจะเป็นแฟนที่ดีของโรซี่น้อย”“พี่ชายใจร้อนจัง โอเคค่ะ แต่ห้ามบอกพ่อริคกี้นะ” สาวน้อยยอมตกลง แต่มีข้อแม้สำคัญ“ไม่บอก ไม่บอกแน่นอน”ใครจะกล้าเสี่ยงให้ว่าที่พ่อตารู้ ขืนบอกไปเขามีหวังถูกอีกฝ่ายถลกหนังหัวแน่ ริคคาโด้หวงลูกสาวแค่ไหนทำไมเขาจะไม่รู้“แล้วเป็นแฟนกัน มันต่างจากตอนนี้ยังไงคะ”โรซี่น้อยทำตาแป๋ว มองหน้าชายหนุ่มท่าทางอยากรู้ หัวใจคนถูกมองเต้นรัวแรง มองตอบด้วยแววตาอ่อนหวาน“ต่างสิครับ คนเป็นแฟนกันต้องรักกันมากๆ แล้วก็ต้องเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตด้วยกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน แล้วก็ทำแบบนี้ได้”อเลสซานโดรเชยคางมน ก่อนจะก้มลงไปแตะริมฝีปาก มอบจุมพิตแรกให้สาวน้อยอย่างอ่อนหวาน“โรซี่น้อย ไม่ชอบเหรอครับ”เขาเงยหน้าขึ้น หลังจากจูบสาวน้อยจนพอใจ แล้วพบว่าโรซี่น้อยนิ่งเงียบไป หน้าแดงจัด“ชอบ... ชอบสิคะ โรซี่รู้สึกดีจังคะ”โรซี่น้อยตอบด้วยน้ำเสียงสั่นนิดๆ สบตาเขาด้วยแววตาสดใส ไร้มารยา“ถ้าโรซี่จูบพี่ชาย จะรู้สึกเหมือนกันไหมคะ”เจ้าตัวอยากรู้ว่า หากเป็นฝ่ายจูบเขาก่อนจะรู้สึกแบบเดียวกันหรือเปล่า“ก็ต้องพิสูจน์ดู”อเลสซานโดรยิ้มด้วยความเอ็นดู โรซี่น้อยยังอ
“พี่ชายไม่ได้เป็นแฟนโรซี่สักหน่อย อย่ามาหวงกันสิ โรซี่ยังต้องพบเจอผู้คนอีกมากมาย ไม่อยากปิดกั้นตัวเองค่ะ”สาวน้อยบอกอย่างตรงไปตรงมาตามนิสัย ขณะมองหน้าพี่ชายที่ทำหน้าสลดด้วยความเห็นใจ แม่ลิชเคยบอกว่าหากจะรักชอบใคร ให้ถามหัวใจตัวเองให้ดี ว่ารู้สึกกับคนคนนั้นอย่างไร โรซี่น้อยรู้จักพี่ชายมาหลายปี สนิทสนมคุ้นเคยกันจนรู้สึกว่า อีกฝ่ายเหมือนคนในครอบครัว ยังหาคำตอบให้ตัวเองว่ารู้สึกกับเขาเกินคำว่าพี่ชายหรือเปล่า“พี่ชายขอโทษครับ พี่ชายเอาแต่ใจตัวเองเกินไป โรซี่น้อยมีสิทธิ์จะเลือกเต้นรำกับใครก็ได้ ตามที่โรซี่น้อยพอใจ พี่ชายมันก็แค่ตาแก่อายุมาก คงสู้หนุ่มๆ หน้ามนคนอื่นไม่ไหว”อเลสซานโดรทอดถอนใจแล้วยิ้มขมขื่น เขาเดินหนีมายืนเกาะราวกั้นขอบเรือ มองดูฝูงปลาโลมาสีชมพูพากันเล่นน้ำด้วยแววตาหม่นเศร้า ถึงจะมีอำนาจมากมายเป็นถึงประมุขตระกูลเบตาโทรี่ ก็ไม่สามารถทำให้สาวน้อยคนนี้สนใจเขามากกว่าผู้ชายคนอื่น“พี่ชายอย่าน้อยใจสิคะ โรซี่แค่ไม่อยากให้พ่อริคกี้เป็นห่วง พี่ชายก็รู้นี่คะว่าเวลาพ่อริคกี้เป็นห่วงโรซี่ทีไร ลำบากคนอื่นๆ ทุกที”โรซี่น้อยขยับเข้ามายืนข้างๆ มองร่างสูงใหญ่ ไม่ต่างจากบิดาของเธอด้วยแววตาอ่อนห