-ของเล่นคนใจร้าย- หนึ่งคนมีรักฝั่งใจ อีกคนพร้อมที่จะฉุดรั้งแล้วเริ่มต้นใหม่ ไมเนอร์ 'อย่าเอาใจลงมาเล่นกับฉัน' ประโยคที่เขามักบอกกับเธอ ฝันดี เธอที่พยายามจะฉุดดึงเขาขึ้นมา แต่ก็เหมือนว่าเธอจะพยายามอยู่ฝ่ายเดียว "ฉันให้เธอได้ทุกอย่างฝันดี..ยกเว้นหัวใจ" "^^" "อย่าพยายามเพราะมันเสียเวลา" "ลองมาเป็นฉันสิ" "เธอไม่ใช่คนแรกและคนเดียวที่ฉันนอนด้วย" "...." คำเตือน/Warning มีคำหยาบ - พระเอกใจร้าย - เย็นชา - โหด - ดิบ - เถื่อน - ขี้หึงมาก - ดราม่าหนักหน่วง - พระเอกเลว ได้โปรดระวังหัวของคนข้าง ๆ เพราะโมโหพระเอกเรื่องนี้ นิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นจากจินตนาการของนักเขียนที่จะอยากเขียน ไม่มีเจตนาจะพาดพิงถึงสถานที่หรือผู้อื่นแต่อย่างใด นิยายไม่ได้อิงจากความเป็นจริงทั้งหมด อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน Thanks for following me🙏❤️
더 보기“นายครับ”
“มีใครมาก่อกวนไหม” “ไม่ครับ” “แล้วเดซี่ไปไหน เธอควรอยู่ดูแลโซนนี้ไม่ใช่เหรอ” ดวงตาคมกริบกวาดมองหาหญิงสาวที่ควรจะอยู่ประจำที่ตัวเอง ทว่ากลับไม่พบแม้เงาของเธอ “วันนี้คุณเดซี่ลาครับ” “แล้วใครมาแทน” “เด็กใหม่ครับ เห็นคุณเดซี่บอกว่าเป็นรุ่นน้อง” “แล้วเธออยู่ไหน” “ห้องวีไอพีสามครับ” “อืม” เขาพยักหน้าให้ลูกน้องก่อนจะเดินขึ้นไปยังห้องทำงานตัวเองที่อยู่ชั้นสี่ ชั้นบนสุด ระหว่างที่เดินสายตาก็คอยสอดส่องดูลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการกันล้นหลาม ทว่าอยู่ ๆ ต้องหยุดชะลอเท้าที่กำลังก้าวเมื่อกำลังจะผ่านห้องวีไอพีสามไป แอดด “อยู่นิ่ง ๆ สิวะอีนี่” พรึ่บ! “ปล่อยฉันนะ!” ไม่รู้อะไรทำให้เขาเอื้อมมือไปเปิดประตู แต่สิ่งที่ทำเขาชะงักไปนั่นก็คือภาพที่ผู้ชายสามคนกำลังช่วยกันกดขี่ข่มเหงผู้หญิงคนหนึ่ง ทันทีที่เขาเปิดประตูเข้ามาเธอคนนั้นก็พุ่งตัวมาหลบหลังเขาทันที “พวกมึงทำอะไร” ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงเยือกเย็นแววตานิ่งน่ากลัว “พะ พวกผมไม่ได้ทำอะไรครับ” เพราะรู้ว่าคนตรงหน้านั้นน่ากลัวแค่ไหน ทำให้ทั้งสามไม่กล้าที่จะต่อกลอนด้วย “แล้วที่กูเห็นนี่คืออะไร” ถ้าปฏิเสธถือว่าหน้าตัวเมียมาก ภาพมันฟ้องขนาดนี้แล้วว่าพวกมันกำลังจะข่มขืนผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ไม่มีทางสู้ ยังจะบอกว่าไม่ได้ทำอะไรอีกอย่างนั้นเหรอ “ผู้หญิงคนนี้เข้ามายั่วพวกผมครับ!” “ใครยั่วพวกนาย ฉันแค่เข้ามาดูแลตามหน้าที่ แต่พวกนายกลับกระชากฉันลงไปทำมิดีมิร้าย” ร่างสูงเอี้ยวหน้าไปมองหญิงสาวที่เถียงกลับทันควัน ดูเธอเองก็เอาเรื่องใช่ได้ ปากกล้าดี “มันทำอะไร” เสียงทุ้มเอ่ยถามทำใบหน้าสวยเงยขึ้นไปมอง ดวงตากลมโตนิ่งชะงักไปทันทีเมื่อเห็นใบหน้าเขาชัด ๆ สันจมูกโด่ง ใบหน้าของเขาดูดีจนเธอไม่อาจละสายตาไปจากเขาได้ ทว่า.. “จะตอบฉันได้ยัง” เสียงของเขาดึงสติเธอให้กลับมา หญิงสาวพสะบัดหัวไล่ความคิดนั้นทิ้งไปก่อนจะเอ่ยอย่างฉะฉาน “พวกเขาจะเอาเหล้าที่ผสมยาให้ฉันกิน” เพราะเธอเห็นหนึ่งในนั้นกำลังเทยาลงใส่แก้ว และเธอก็ไม่ได้โง่ที่จะดูไม่ออกว่ามันคือยาอะไร ในสถานที่แบบนี้มีแค่ไม่กี่อย่างเท่านั้นแหละ “ยา?” “ใช่ค่ะ” พยักหน้าตอบ “ใครอยู่ข้างนอก!” ชายหนุ่มตะโกนเรียกลูกน้องที่ยืนรอเขาอยู่ด้านนอกให้เข้ามา “ครับนาย” “ลากคอพวกมันออกไปกระทืบ” เขาสั่งลูกน้องเสียงเหี้ยมพลางจ้องไปยังทั้งสามแววตาดุดัน แม้เขาจะเปิดผับก็จริง แต่ร้านเขามีกฎชัดเจนว่าห้ามนำอาวุธและสิ่งเสพติดเข้ามาในร้านเด็ดขาด หากฝ่าฝืนเขาไม่จำเป็นต้องส่งพวกมันให้กับตำรวจ ในเมื่อตัวเองสามารถจัดการได้ทำไมเราต้องส่งให้คนอื่นจัดการแทนล่ะ ว่าไหม? “พวกผมขอโทษครับคุณไมเนอร์” “ลากมันออกไป” “ไป!” เสียงร้องขอให้ชายหนุ่มไว้ชีวิตดูจะไม่เป็นผลเมื่อเขาทำเพียงปรายตามองพวกมันเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งสามถูกลากออกไปยังหลังร้าน ตอนนี้ภายในห้องก็เหลือแค่เขากับหญิงสาวอีกคน “กลับไปทำงานตัวเองซะ” เขาสั่งหญิงสาวให้กลับไปทำหน้าที่ตัวเองต่อ ลูกค้าเริ่มเยอะขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว “ขอบคุณนะคะ” ร่างบางยกมือไหว้พร้อมกับเอ่ยขอบคุณเขาไปอย่างซาบซึ้งในน้ำใจ หากไม่ได้ผู้ชายตรงหน้าเธอก็แย่เช่นกัน “อืม” เขาหมุนตัวเตรียมจะเดินออกจากห้องไป ทว่า.. “เดี๋ยวค่ะ!” เท้าที่ก้าวหยุดชะงักโดยที่เขาไม่ได้หันกลับมา หญิงสาวมองเสี้ยวใบหน้าอีกคนก่อนแนะนำตัวเองให้เขาได้รู้จัก “ฉันฝันดีค่ะ แล้วคุณเอ่อ..” “ไม่จำเป็นไม่ต้องอยากรู้จัก” เพราะเธอไม่ได้มีค่ามากพอที่เขาจะต้องทำความรู้จักด้วย “แค่ชื่อก็บอกไม่ได้เหรอคะ” หญิงสาวพึมพำเสียงเบา แค่ชื่อเองนะ บอกกันไม่ได้เลยงั้นเหรอ “....” ครั้งนี้ไมเนอร์ยอมหันมาเผชิญหน้ากับหญิงสาว เขาใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างหงุดหงิด เธอเป็นใครถึงกล้ามาพูดแบบนี้กับเขา “เธอคงจะมาแทนเดซี่” เขาไล่สายตามองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะเลื่อนขึ้นมาสบตากับเธออีกครั้ง “ใช่ค่ะ คุณรู้จักพี่เดซี่ด้วยเหรอ” ทำไมเขาจะไม่รู้ เขาน่ะ..รู้ลึกเลยต่างหาก “งั้นเธอก็ควรรีบไปทำงานตัวเองดีกว่ามายืนถามชื่อคนที่เพิ่งรู้จักกัน” “ฉันแค่..” “หวังว่าเธอจะเข้าใจที่ฉันบอกนะ” พูดจบเขาก็เดินหันหลังออกจากห้องไปทันที “ขี้เก็กชะมัด” ปากเล็กขยับว่าตามหลังอีกคนไปด้วยความหมั่นไส้ ฝันดี หญิงสาววัย 29 ปีเจ้าของความสูง 170 เซนติเมตร เธอมีนิสัยที่ไม่ค่อยยอมคนสักเท่าไหร่ กล้าได้กล้าเสีย เป็นคนแข็งนอกอ่อนใน ตอนนี้เธอทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านพักตัวเองมากนัก และวันนี้เธอก็ว่างพอดีเลยมารับจ๊อบทำงานแทนรุ่นพี่สาวคนสนิทอย่างพี่เดซี่ ค่าจ้างที่นี้ค่อนข้างสูงและสวัสดิการดีมาก ทุกครั้งที่มาเธอจะได้ทิปคืนหนึ่งไม่ต่ำกว่าสี่ห้าพัน ทำให้เธอสนุกกับการทำงานเป็นที่สุด และแน่นอนว่างานกลางคืนมันค่อนข้างเสี่ยงกับเธอเช่นกัน เพราะต้องกลับบ้านดึก ๆ คนเดียว ไหนจะลูกค้าที่เมาแล้วเริ่มแสดงความหื่นกามออกมา เธอต้องคอยรับมือกับคนพวกนี้ตลอด แต่ดีที่ไม่ได้มาบ่อยเท่าไหร่ แม้เงินจะดีแต่มันก็ยังเสี่ยงสำหรับเธออยู่ดี ฝันดีมองตามร่างสูงที่เข้ามาช่วยเธอไปจนลับตา เธอไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นใครมาจากไหน เธอแค่อยากขอบคุณที่เขาเข้ามาช่วยเธอได้ทันพอดีเท่านั้น หากไม่ได้เขาเธอคงแย่ไปแล้ว นี่เป็นครั้งที่สองที่เธอมาทำที่นี่ และไม่ว่าจะมากี่ครั้งหญิงสาวก็ไม่เคยเห็นหรือรู้จักเจ้าของร้านเลยสักครั้ง เคยได้ยินผ่าน ๆ ว่าหน้าตาดีมากแล้วก็โหดมากเช่นเดียวกัน เธอเองก็อยากเห็นเพราะไม่รู้ว่าหน้าตาเขาเป็นคนยังไง ส่วนครอบครัวของเธอ..ฝันดีมีเพียงแม่ที่อยู่ด้วย ณ ตอนนี้ เธอเสียพ่อไปตอนอายุ 20 ทำให้หญิงสาวและแม่ต่างดิ้นรนทำงานจนได้บ้านมาหนึ่งหลัง พอการเงินเริ่มเข้าที่เธอจึงให้แม่อยู่บ้าน ส่วนตัวเองออกมาทำงาน บริษัทที่เธอทำเงินเดือนก็ดีใช้ได้ ทำให้เหลือกินเหลือใช้ในทุก ๆ เดือนไม่มีสะดุด ฝันดีเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างแกร่งและไม่ชอบขอความช่วยเหลือจากใคร ไม่ยอมให้ใครเอาเปรียบตัวเองได้ง่าย แต่เหตุการณ์ก่อนหน้านั้นที่ไม่สู้เพราะตัวเองสู้ไม่ไหว นั่นมันผู้ชายสามคนเลยนะใครจะไปสู้ไหวกัน แต่ในขณะนั้นเอง.. “น้อง!” เสียงตะโกนเรียกซึ่งไม่รู้ว่าเรียกใครทำฝันดีหันไปมอง ก่อนจะเห็นว่าเจ้าของเสียงนั้นกำลังเรียกเธอ “ค่ะพี่” พี่ไว้ก่อนเพราะไม่รู้อายุของคนที่เรียก “มาช่วยโซนนี้หน่อย” “ได้ค่ะ” เธอรีบไปช่วยเพื่อนทำงานด้วยความเร่งรีบ หญิงสาวทำงานอย่างนขมักเขม้นจนกระทั่งเวลาเลิกงาน หญิงสาวรับเงินแล้วกลับไปพักผ่อนทันที ก่อนกลับไม่ลืมที่จะแวะซื้อโจ๊กไปฝากแม่และของตัวเองหนึ่งถุง เพราะเวลาที่เธอเลิกงานมันก็เกือบเช้าแล้ว ดีที่เป็นวันหยุดเลยไม่เหนื่อยมากเท่าไหร่ หลังจากซื้อของเสร็จเธอก็เรียกวินเพื่อกลับบ้านตัวเองไปทันทีอีกด้านทันทีที่ขึ้นมาบนห้อง ไมเนอร์รีบพาตัวเองไปยืนตรงระเบียงพร้อมกับแง้มม่านมองลงไปยังโต๊ะที่หญิงสาวนั่งอยู่ นั่นก็คือคนที่เข้ามาทักเขาก่อนหน้านี้ ทำไมเขาจะจำเธอไม่ได้ จำได้แม่นเลยแหละไมเนอร์ ชายหนุ่มอายุ 39 ปีเจ้าของความสูง 190 เซนติเมตร เขาเป็นเจ้าของสถานบันเทิงแห่งนี้ และยังเป็นเจ้าของสนามแข่งรถที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ทางด้านสถานะหัวใจตอนนี้ปิดสนิท ไม่เปิดรับให้ใครเข้ามา สำหรับผู้หญิงแล้วเขาให้ได้แค่ในฐานะคู่นอนเท่านั้น แล้วจะไม่มีกินรอบสองเด็ดขาด ส่วนเรื่องครอบครัวเขาขอไม่เปิดเผยก็แล้วกันเพราะไม่อยากพูดถึง รู้แค่ว่าครอบครัวของเขาตอนนี้มีแค่น้องชายก็พอแล้ว"นายครับ" อคิน ลูกน้องคนสนิทของไมเนอร์เข้ามาหาผู้เป็นนายหลังจากได้รับข้อความ"ไปเรียกเดซี่มาหากู" เขาสั่งโดยที่สายตายังจับจ้องไปยังหญิงสาว ทั้งสองที่นั่งอยู่โต๊ะโซนล่าง"ครับ"อคินออกไปแล้วทว่าไมเนอร์ยังคงยืนอยู่ที่เดิม แต่ในจังหวะนั้นเอง.. ฝันดีดันเงยหน้าขึ้นมาทำให้เขารีบเอาตัวหลบอย่างไว ก่อนจะหมุนตัวเดินไปทิ้งตัวลงนั่งที่โต๊ะทำงานตัวเอง ที่เขาสั่งให้ลูกน้องไปเรียกเดซี่มาก็เพราะว่าเขามีบางอย่างที่อยากจะคุยกับอีกคน..“ค่ะคุณไ
ฝันดีเป็นคนที่ค่อนข้างซีเรียสเรื่องเงินนิดหนึ่ง กว่าเธอจะตัดสินใจซื้ออะไรได้แต่ละอย่างก็โดนใยไหมขยั้นขยออยู่หลายครั้ง เมื่อมานั่งคำนวณรายจ่ายในแต่ละเดือน หักค่ารถค่าบ้านค่าอะไรไปหมดแล้วเธอยังเหลือใช้เหลือกิน นั่นจึงทำให้เธอตัดสินใจที่จะออกมันในที่สุดเมื่อทั้งสองมายืนรอรถอยู่หน้าบริษัทได้ครู่หนึ่งรถแท็กซี่ก็ขับมาจอดอยู่ตรงหน้า พวกเธอพากันขึ้นไปนั่งก่อนจะบอกสถานที่แก่โชเฟอร์"ดีนะฉันมีชุดมาเปลี่ยน" ใยไหมพูดขึ้น"ปกติเธอก็เป็นคนแต่งตัวแซ่บอยู่แล้วป่ะ" ไม่จำเป็นต้องหาชุดมาเปลี่ยนเพื่อนเธอก็สวยได้"แซ่บแล้วยังไง ชุดทำงานกับชุดเที่ยวจะใส่รวมกันไม่ได้นะจ๊ะสาวน้อย""เวลาทำงานนี้จะเป็นจะตายกันนะ ถึงเวลาเที่ยวนี่ดี๊ด๊ากันจังเลย""แน่นอน""ฟ้าก็ช่างส่งเราสองคนมาเจอกัน""คนสวยกับคนสวยมันก็ต้องคู่กันอยู่แล้ว"ไม่นานสองสาวก็มาถึงร้าน ฝันดีทำการจ่ายค่าโดยสารไปก่อนจะลงจากรถตามเพื่อนสาวไป ทั้งคู่ยืนนิ่งมองเหล่าบอดี้การ์ดที่ยืนเฝ้าประตูทางเข้าร้าน ทำใบหน้าสวยหันมองหน้ากันทันทีก่อนจะกระตุกยิ้มแล้วจูงมือกันเดินเข้าไปยังด้านใน"บัตรค่ะ" ใยไหมยื่นบัตรตัวเองแล้วก็ของฝันดีให้กับชายชุดดำนำไปตรวจดู เมื่อตรวจเ
“แม่”“ว่าไง”“วันนี้หนูทำโอทีอาจกลับดึกนะ” “ให้ไปรอรับไหม” เพราะมีกันแค่สองคน พวกเขาจึงดูสนิทมาก ฝันดีและแม่ของเธอจะเหมือนเพื่อนกันซะมากกว่า มีปัญหาหรือไม่สบายใจเธอมักจะมาปรึกษาแม่ตัวเองตลอด ทุกเรื่องเธอจะเล่าให้แม่ฟังหมด ผู้เป็นแม่เองก็ให้คำปรึกษาลูกสาวได้เป็นอย่างดีเช่นกัน“ไม่ต้องเลยนะ พักผ่อนไปเถอะฝันกลับเองได้”“ถ้ามีอะไรก็โทรมาแล้วกัน”“เค ฝันไปทำงานก่อนนะ”“อืม”บริษัทไอที“สวัสดีจ้าน้องฝัน”“มอนิ่งค่ะพี่น้อยหน่า” หญิงสาวส่งยิ้มทักทายรุ่นพี่ที่ทำงาน วันนี้ฝันดีรีบมาแต่เช้าเพื่อเคลียร์งานตัวเองให้เสร็จ จะได้ไม่กลับดึกมาก“ทำไมมาเช้าจังวันนี้”“รีบมาเคลียร์งานให้จบค่ะ”“ฮ่า ๆ เรานี่หน่า” เพื่อนที่ทำงานมักเรียกเธอว่าฝันเพียงสั้น ๆ หลังจากทักทายพี่น้อยหน่าหัวหน้าแผนกบัญชีเสร็จเธอก็ขึ้นไปยังชั้นทำงานของตัวเอง ทันทีที่ตูดถึงเก้าอี้ฝันดีก็เริ่มลงมือทำงานในส่วนของตัวเองทันที แต่ในขณะนั้นเอง..“ไงแสบ” เสียงทุ้มของใครบางคนทำใบหน้าสวยเงยขึ้นไปมอง“อ้าวคุณแผ่นดิน” ฝันดีระบายยิ้มให้ใครบางคนที่กำลังเดินตรงมาหาเธอ ก่อนที่ร่างสูงนั้นจะมาหยุดนิ่งข้างโต๊ะทำงานของเธอ“มาเช้านะ” เขามองไปรอบ ๆ ก็
“นายครับ”“มีใครมาก่อกวนไหม”“ไม่ครับ”“แล้วเดซี่ไปไหน เธอควรอยู่ดูแลโซนนี้ไม่ใช่เหรอ” ดวงตาคมกริบกวาดมองหาหญิงสาวที่ควรจะอยู่ประจำที่ตัวเอง ทว่ากลับไม่พบแม้เงาของเธอ“วันนี้คุณเดซี่ลาครับ”“แล้วใครมาแทน”“เด็กใหม่ครับ เห็นคุณเดซี่บอกว่าเป็นรุ่นน้อง”“แล้วเธออยู่ไหน”“ห้องวีไอพีสามครับ”“อืม” เขาพยักหน้าให้ลูกน้องก่อนจะเดินขึ้นไปยังห้องทำงานตัวเองที่อยู่ชั้นสี่ ชั้นบนสุด ระหว่างที่เดินสายตาก็คอยสอดส่องดูลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการกันล้นหลาม ทว่าอยู่ ๆ ต้องหยุดชะลอเท้าที่กำลังก้าวเมื่อกำลังจะผ่านห้องวีไอพีสามไปแอดด“อยู่นิ่ง ๆ สิวะอีนี่”พรึ่บ!“ปล่อยฉันนะ!” ไม่รู้อะไรทำให้เขาเอื้อมมือไปเปิดประตู แต่สิ่งที่ทำเขาชะงักไปนั่นก็คือภาพที่ผู้ชายสามคนกำลังช่วยกันกดขี่ข่มเหงผู้หญิงคนหนึ่ง ทันทีที่เขาเปิดประตูเข้ามาเธอคนนั้นก็พุ่งตัวมาหลบหลังเขาทันที“พวกมึงทำอะไร” ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงเยือกเย็นแววตานิ่งน่ากลัว“พะ พวกผมไม่ได้ทำอะไรครับ” เพราะรู้ว่าคนตรงหน้านั้นน่ากลัวแค่ไหน ทำให้ทั้งสามไม่กล้าที่จะต่อกลอนด้วย“แล้วที่กูเห็นนี่คืออะไร” ถ้าปฏิเสธถือว่าหน้าตัวเมียมาก ภาพมันฟ้องขนาดนี้แล้วว่าพวกมันกำ
댓글