 LOGIN
LOGINเสียงบรรเลงบทเพลงรักดังไปทั่วห้องนอน สองคนขับประสานกันส่งผ่านความสุขให้แก่กัน ชายหนุ่มรูปร่างราวเทพบุตรซาตาน ดวงตาคมเต็มไปด้วยแววตากระหายหื่น
เขายืนอยู่ปลายเตียงในมือมีเชือกเส้นใหญ่ ร่างเทพบุตรซาตานนั้นค่อยคืบคลานเข้ามาหาหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียง สองมือจับรวบที่ขาเธอจากนั้นก็แยกขามัดไว้กับเสาเตียงทีละฝั่ง ก่อนจะขยับไปยังด้านบนนำมือสองข้างมารวบติดเอาไว้
“มันจะเจ็บไหม”
มุมปากคนถูกถามยกยิ้มแต่ไม่ตอบ ซาตานตนนั้นเดินวนรอบเตียงก่อนจะเดินไปหยิบแสสีดำขึ้นมา จากนั้นก็ฟาดลงบนตัวของเธอ
“อ๊ะ” เสียงหญิงสาวร้องด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะรุนแรงกับเธอแบบนี้ ความหวาดกลัวกับเกมรักที่เขาบอกว่าสนุก เธอเริ่มไม่อยากสนุกด้วยแล้ว
“มาร์คัสหยุดเถอะ เกตุเริ่มกลัวแล้ว” เกตุแก้วมองชายหนุ่มที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ภายนอกเขาเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ เสเพล และเอาแต่ใจ แต่ใครจะคิดว่าบนเตียงเขาจะร้อนแรงกว่าอามรณ์เสียอีก
“ไม่ต้องกลัว สิ่งเหล่านี้จะกระตุ้นอารมณ์ให้เกตุยิ่งต้องการมากขึ้น” ใจเธอหวาดหวั่นกับเกมรัก พยายามขยับตัวหนีแต่มือและขาที่ถูกรั้งเอาไว้ก็ไม่อาจทำให้เธอหลุดพ้นเขาได้
เทพบุตรซาตานตนนั้น เริ่มขยับเข้าหาเธอ ใบหน้าซาตานก้มลงจูบปลอบให้เธอคลายความกังวลกับเกมรักที่ยังไม่ทันเริ่ม ริมฝีปากสากบดขยี้จนเธอเริ่มอ่อนลง สองมือสากก็ลูบไล้ไปตามร่างกาย ก่อนจะขยับล้วงเข้าไปยังด้านในกางเกงในตัวจิ๋ว
หญิงสาวสะดุ้งผวา ปล่อยจูบอันร้อนแรงเปิดตามองเขาให้ชัดเมื่อนิ้วเขาเริ่มคืบคลานเข้าไปในร่างกายของเธอ “เดี๋ยวก่อน” เธอยังไม่ได้เตรียมตัวเลย
แต่เทพบุตรซาตานตรงหน้าก็ไม่สนสิ่งใด กดมันลงไปจากนั้นก็บดขยี้จนร่างเธอแทบแหลกละเอียด เธอเพิ่งเข้าใจก็ตอนนี้ว่าเชือกพวกนั้นมีประโยชน์อะไร
พอเธอขยับคิดจะหนีก็ทำไม่ได้ ความเสียวซ่านความถูกพันธนาการที่ถูกรัดแน่น ทำให้เธอ “อ๊ะ” ร่างบางสั่นเทา นิ้วมือที่สอดเข้าไปรับรู้ถึงน้ำรักที่กำลังไหลออกมา
“บอกแล้วว่าเธอต้องชอบ”
“นายไปรู้วิธีพวกนี้มาจากไหน”
มุมปากมาร์คัสยกยิ้ม “มันอยู่ในสายเลือด” สายเลือดมาเฟียอย่างเขาไม่ต้องบอกต้องสอนก็สามารถถ่ายทอดทางสายเลือดอยู่แล้ว
หญิงสาวมองแผ่นอกราวกับเทพบุตร ความต้องการปรารถนาในกายเขาของเธอก็ยิ่งอยากมีมากขึ้น “ได้โปรด”
คนได้ยินเสียงขอร้องไม่ได้เร่งรีบตามเธอ เขาถอดนิ้วออกมาจากนั้นก็ลุกขึ้น หมายคิดจะถอดกางเกงชิ้นสุดท้ายออก หวังให้เธอได้เห็นสิ่งที่เรียกว่า เทพบุตรของจริง
ก๊อก ๆๆๆ เสียงเคาะประตูทำให้คนที่กำลังจะถอดกางเกงขมวดคิ้ว ใครกันที่กล้ามาขัดจังหวะเขาตอนนี้ ในเมื่อกำลังจะได้มีความสุขเขาก็ทำไม่ได้ยิน
ก๊อก ๆๆๆ เสียงเคาะรอบที่สอง ตามมาด้วยเสียงหนึ่งที่ทำให้เขาสะดุ้ง “มาร์คัส นายจะออกมาไหม วันนี้มีสอบไฟล์นอลวันสุดท้าย ถ้านายไม่รีบไปตอนนี้นายเรียนไม่จบแน่”
เสียงบ่นเหมือนแม่นั้นจะใคร นอกจากยัยปอฝ้ายเพื่อนสนิทของเขาที่กล้าหาญมาเคาะเขาถึงห้อง “ออกมา ถ้าไม่มาภายใน 1-10 ฉันจะไปแล้ว”
จบกันเกมรักที่เขาคิดจะสร้าง ปัง!! ดูเหมือนมือไม่พอเพราะตอนนี้ตามด้วยเท้า “รู้แล้ว” เสียงพูดไปอย่างรำคาญ จากนั้นก็รีบไปหยิบเสื้อผ้านักศึกษามาสวมใส่แทน
สายตาก็หันมองคนบนเตียง “นายจะไปไหน”
“ไปสอบ ก็เห็นแล้วว่าเพื่อนเธอพูดอะไร”
เกตุแก้วมองบนกับคนขัด เธอกำลังจะลิ้มรสความสุขปอฝ้ายก็เข้ามาขัดทุกรอบ สายตามองเขาที่สวมกระดุมเม็ดสุดท้าย จากนั้นก็หันไปหยิบกระเป๋าสะพาน
“เดี๋ยวมาร์คัสปล่อยฉันก่อน”
มาร์คัสหันมองคนถูกพันธนาการ ก็จัดการปลดเชือกตรงมือให้จากนั้นก็วิ่งออกจากห้องอย่างรวดเร็ว เมื่อออกไปก็ได้ยินเสียงบ่นของปอฝ้ายดังต่ออีก
“นายทำอะไรชักช้า”
“เออน่าเธออย่าอยากรู้เลย”
“เมื่อวานก็เตือนแล้วว่าวันนี้สอบเก้าโมง ตอนนี้กี่โมงแล้วนายไม่ดูนาฬิกาหรือไง” ปอฝ้ายยังบ่นไม่หยุดตั้งแต่หน้าห้องเขาจนกระทั่งถึงประตูลิฟท์ด้านล่าง
“แม่คูณหยุดบ่นเถอะ” สีหน้าคนถูกห้ามมองอย่างเหนื่อยใจ เดินตามเข้าไปยังรถที่จอดอยู่ด้านนอก ขนาดคนขับรถเขายังไม่กล้าปลุก ต้องโทรให้เธอมาเรียกถึงคอนโด
เธอไม่ใช่แม่เขาสักหน่อย อีกอย่างเธอไม่อยากจะขัดพวกเขาสองคน ปอฝ้ายนึกถึงเสื้อผ้าที่เห็นตกอยู่บนพื้นใกล้ประตู ก็รู้ว่าต้นเหตุของการสายนี้คืออะไร
“ตอนนี้นายคบใครอยู่หรือเปล่า”
เมื่อขึ้นมาบนรถแล้ว ปอฝ้ายก็ถามมาร์คัส ชายหนุ่มหันมองแล้วปฏิเสธทันที “เปล่า” เสียงสูงแบบนี้แสดงว่ามี
ในเมื่อไม่อยากบอกเธอก็ไม่ถามแล้วกัน รอจนถึงมหาวิทยาลัยสอบจนเสร็จ ตอนที่พวกเราจะกลับกันนั้น เสียงมือถือก็ดังขึ้น
“เกตุแก้ว” ปอฝ้ายมองเบอร์เพื่อนที่เคยเรียนเชียงใหม่ด้วยกัน จำได้ว่าเมื่อหลายเดือนก่อนอีกฝ่ายบอกว่าจะมาหางานทำที่กทม. แต่หลังจากนั้นก็เงียบไปเลย
“ว่าไงเกตุ”
“ฝ้ายเหรอ ตอนนี้เราอยู่กทม. ทำงานที่ผับหนึ่งอยู่ วันนี้เป็นวันหยุดพอดีมาเจอกันหน่อยไหม”
ปอฝ้ายนัดแนะอีกฝ่าย ก่อนจะจบที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่ใกล้มหาลัย กำลังจะขึ้นรถเมล์รถของมาร์คัสก็จอดแล้วลดกระจก
“เธอจะไปไหน”
“ไปห้าง” ปอฝ้ายบอกชื่อห้าง มาร์คัสที่หมดอารมณ์ตั้งแต่เช้าและอยากตอบแทนที่เธอทำให้เขามาสอบทัน
“เดี๋ยวไปส่ง ขึ้นมาสิ ตอนนี้ฉันว่างพอดี”
คำว่าว่างพอดีของเขา ทำให้คิ้วเธอกระตุกเตือนว่าต้องมีอะไรสักอย่าง และก็เป็นอย่างที่เห็น “นายอยากจะมาหลีสาวก็บอกเถอะ”

เพี๊ยง ๆ เสียงฟ้าผ่าลงมากลางอากาศทำให้ปอฝ้ายตกใจแล้วก้มหน้าปิดตาเอาไว้ สองมือก็ท่องพุธโธเพื่อให้เธอไปถึงที่หมายโดยเร็ว หวังเพียงให้ตัวเองมีชีวิตรอดก็พอคิ้วมาร์กัสก็ขมวดเช่นกัน ดูเหมือนสภาพอากาศวันนี้จะเลวร้ายพอสมควร หลังจากที่ประเมินแล้วดูเหมือนพวกเราต้องหาที่จอดก็เลยบอกคนขับเฮลิคอปเตอร์ด้านหน้าเจลโล่รับคำพยายามจะเลี้ยวกลับไปยังโรงงานดังเดิมหรือไม่ก็ขอลงจอดที่สนามบินที่เชียงใหม่แทน แต่จังหวะเลี้ยวกลับนั้นจู่ๆ ก็มีเสียงสัญญาณเตือน จากนั้นเสียงฟ้าผ่าลงมาใกล้หูชิปหายแล้ว เจลโล่มองสัญญาณใบพัดด้านบนเสียหายไปสองใบ หันมองมาร์กัสที่เริ่มหยิบร่มชูชีพขึ้นมาอย่างรวดเร็วให้พวกเราใส่เอาไว้ จากนั้นก็เตรียมตัวให้พร้อมเมื่อเครื่องบินกำลังสั่นขึ้นเรื่อยๆ เสียการทรงตัวอย่างหนัก“บินไปภูเขาลูกโน่น” แม้จะฝนตกแต่ก็พอมองเห็นว่าภูเขาลูกนั้นโล่งเตียนพอที่จะสามารถลงจอดได้ แต่แล้วไม่ทันจะหักเลี้ยวพายุลูกใหม่ก็พัดเข้ามาทำให้เฮลิคอปเตอร์หมุนเข้าไปในพายุดังกล่าวจากนั้นเสียงร้องของปอฝ้ายก็ดังขึ้น มาร์กัสโอบหญิงสาวไว้ในอกจากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบไป....หรือว่าพวกเราตายแล้วตอนที่มาร์กัสรู้สึกตัวลืมตาขึ้นมาก็พบว่า
“ครับ ว่าจะไปส่งเกตุแก้วที่บ้านและคงยาวเลย” ยาวของเขาอาจจะไม่ได้ไปส่งเกตุแก้ว แต่อาจจะจบที่อื่น แม้แต่ปอฝ้ายยังเข้าใจมาร์กัสพยักหน้ารับรู้ ส่วนคนเป็นน้องหันมองปอฝ้ายอีกรอบ“ว่าแต่เราก็อย่ากลับดึก” พูดจบก็เดินไปสองก้าว ก่อนจะเดินกลับมาใหม่ “หรือว่าจะให้เราไปส่ง ไหนๆ ก็ทางผ่านอยู่ งั้นกลับเลยไหม”ปอฝ้ายอ้าปากจะปฏิเสธ เพราะไม่อยากไปกับพวกเขาสองคน แต่มาร์คัสก็พูดเองเออเอง จากนั้นก็ลากเธอกลับบ้านจนได้มาร์กัสมองท่าทางของน้องชายคิ้วหนาก็ขมวดเข้าหากัน น้องชายกำลังทำตัวเป็นหมาหวงก้างทั้งที่ตัวเองมีแฟนอยู่แล้วคนที่กลายเป็นคนนอกอย่างปอฝ้ายกำลังนั่งอยู่หลังรถ มองพวกเขาสองคนคุยกันอย่างสนุก ก่อนที่เกตุแก้วจะหันมาชวนคุยต่อ“ว่าแต่ฝ้ายเถอะ เรียนจบแล้วจะมาอยู่เชียงใหม่เลยไหม”“อืม ก็วางแผนแล้วว่าจะทำโรงงานที่จะเปิดใหม่”เกตุแก้วยิ้มแล้วหันไปถามมาร์คัสต่อ “แล้วนายล่ะ สรุปจะมาอยู่เชียงใหม่ไหม”มาร์คัสหันมองเกตุแก้ว “ไม่แน่ใจคงต้องดูก่อน เพราะธุรกิจที่ กทม. ก็ต้องมีคนดูแล เท่าที่คุยกับมาดามท่านอยากให้เราอยู่ที่ กทม.มากกว่า”พอเกตุแก้วได้ยินแบบนั้นก็ทำเสียงง้องอนใหญ่ ปอฝ้ายเหล่มองเพื่อนจากนั้นก็หันมองก
“ฝ้าย” เสียงใสหนึ่งดังขึ้นทำให้ปอฝ้ายหันมอง พบว่าเป็นเกตุแก้วจริงๆ หญิงสาวดูสีหน้าตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็เดินมาหาเธอก่อนจะหันมองคนข้างตัวเธอ“เจอกันอีกแล้วนะ”ปอฝ้ายหันมองมาร์คัสที่นิ่งเงียบผิดปกติ “พวกเธอสองคนรู้จักกัน?” เป็นคำถามที่มาร์คัสเองไม่อยากตอบเมื่อคืนเขาไปเที่ยวผับแล้วก็ได้เจอกับเกตุแก้วก่อนที่พวกเราจะจบกันบนเตียง และเขาก็ให้เธอได้ลิ้มรสบทรักที่แสนร้อนแรงตอนเช้า แต่ไม่จบเพราะมีคนมาขัดเสียก่อนเกตุแก้วยิ้มแล้วถามปอฝ้าย “แฟนฝ้ายหรือเปล่า”ปอฝ้ายรีบส่ายหน้าปฏิเสธอย่างรวดเร็ว “เปล่าเขาเป็นเพื่อนฝ้าย”“ออ อย่างนั้นถ้าเกตุจะขอจีบพ่อหนุ่มคนนี้ได้ไหม” มุมปากเกตุแก้วยิ้มอย่างมีเลศนัยปอฝ้ายหันมองคนข้างหลัง ก่อนจะมองเกตุแก้วอีกรอบ และนั่นก็ทำให้พวกเขาสองคนได้คบกัน โดยที่เธอเองก็ไม่มีสิทธิที่จะปริปากบอกความรู้สึกตัวเองได้อีกเลยพวกเขาไปด้วยกันแล้ว แต่เธอก็ยังนั่งอยู่ร้านกาแฟต่อ คิดจะหยิบหนังสือมาอ่านเล่น สมองก็ดูเหมือนจะไม่ทำงาน สายตาหันมองผู้คนที่รถที่กำลังวิ่งไปมาสี่ปีที่ผ่านมา ความรู้สึกที่เธอให้เขาแม้จะไม่ปริปากบอกแต่เธอก็คิดว่าเขาอาจจะรับรู้ แต่สุดท้ายเธอก็เป็นได้แค่เพื่อนของเขา
เสียงบรรเลงบทเพลงรักดังไปทั่วห้องนอน สองคนขับประสานกันส่งผ่านความสุขให้แก่กัน ชายหนุ่มรูปร่างราวเทพบุตรซาตาน ดวงตาคมเต็มไปด้วยแววตากระหายหื่นเขายืนอยู่ปลายเตียงในมือมีเชือกเส้นใหญ่ ร่างเทพบุตรซาตานนั้นค่อยคืบคลานเข้ามาหาหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียง สองมือจับรวบที่ขาเธอจากนั้นก็แยกขามัดไว้กับเสาเตียงทีละฝั่ง ก่อนจะขยับไปยังด้านบนนำมือสองข้างมารวบติดเอาไว้“มันจะเจ็บไหม”มุมปากคนถูกถามยกยิ้มแต่ไม่ตอบ ซาตานตนนั้นเดินวนรอบเตียงก่อนจะเดินไปหยิบแสสีดำขึ้นมา จากนั้นก็ฟาดลงบนตัวของเธอ“อ๊ะ” เสียงหญิงสาวร้องด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะรุนแรงกับเธอแบบนี้ ความหวาดกลัวกับเกมรักที่เขาบอกว่าสนุก เธอเริ่มไม่อยากสนุกด้วยแล้ว“มาร์คัสหยุดเถอะ เกตุเริ่มกลัวแล้ว” เกตุแก้วมองชายหนุ่มที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ภายนอกเขาเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ เสเพล และเอาแต่ใจ แต่ใครจะคิดว่าบนเตียงเขาจะร้อนแรงกว่าอามรณ์เสียอีก“ไม่ต้องกลัว สิ่งเหล่านี้จะกระตุ้นอารมณ์ให้เกตุยิ่งต้องการมากขึ้น” ใจเธอหวาดหวั่นกับเกมรัก พยายามขยับตัวหนีแต่มือและขาที่ถูกรั้งเอาไว้ก็ไม่อาจทำให้เธอหลุดพ้นเขาได้เทพบุตรซาตานตนนั้น เริ่มขยับเข้าหาเธอ ใบหน้าซาต
พวงกุญแจตุ๊กตาเน่าที่แขวนอยู่บนกระเป๋าเอกสารของเขานั้น เหมือนเป็นเครื่องย้ำเตือนว่าอดีตเมื่อสิบปีก่อนเขาเคยเจอใครมาก่อนมาร์กัสหันมองนอกหน้าต่างนึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น ตอนที่เขาได้กลับมาอยู่กับครอบครัวตัวเองอีกครั้ง หลังจากที่ปู่และย่าพาตัวเขาไปเลี้ยงดูตั้งแต่เด็กๆความทรงจำในวัยเยาว์นั้นเขามักจะได้คิดเสมอว่าตัวเขาอาจจะไม่ใช่ลูกรัก หรือลูกที่พ่อแม่ต้องการ ยามที่เห็นพี่และน้องมาเยี่ยมแล้วพวกเขาสนิทสนมกันหัวเราะมีความลับต่อกันเขาก็มักจะคิดว่าตัวเองเป็นคนนอกเสมอ ถึงแม้ตอนหลังเขาได้กลับมาอยู่กับพ่อแม่แล้ว แต่เวลามันล่วงเลยผ่านไปสิบปีเสียงเรียกของแอร์เพื่อรับเครื่องดื่มทำให้เขาหลุดจากความคิดหันมารับเครื่องดื่ม ในชั้นเฟิร์สคราสมองเห็นเด็กน้อยด้านหน้าเกตกำลังวิ่งเล่นอยู่ตรงห้องน้ำ ความทรงจำครั้งเดิมก็กลับมาอีกครั้งสิบปีที่เขาได้บินกลับมาไทยพร้อมพ่อแม่ครั้งแรก ครั้งนั้นเขาเดินไปยังด้านหลังคิดจะเข้าห้องน้ำชั้นเฟิร์สคลาสแต่พบว่ามีคนเข้าอยู่แล้ว เขารู้สึกปวดหนักจึงเลือกเดินไปยังด้านหลังชั้นรองแทน มาถึงห้องน้ำก็มีคนเปิดประตูพอดี เขาจะเข้าแต่แล้วก็มีเด็กสาวที่ไหนไม่ทราบวิ่งเข้ามาตัดหน้าเขาจา








