มู่เหรินมองคนตรงหน้าที่มีสีหน้าห่วงใยและยื่นจอกน้ำชามาให้ เขารู้สึกลำบากใจเล็กน้อยแต่ก็ยอมดื่มน้ำชาที่อีกฝ่ายป้อนให้จนหมด หมิงตงฟางยกยิ้มพอใจก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่เดิมโดยไม่ช้าไม่เร็วนัก
“ตงฟางเจ้าต้องเข้าณาฌเก็บตัวหนึ่งเดือนนับแต่นี้ไป” น้ำเสียงอ่อนโยนเมตตาดังมาจากในบ้าน แต่ก็ทำให้ร่างสูงที่เดินกลับไปหยุดเท้าลง หมิงตงฟางนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะมองที่มาของเสียงแล้วทอดถอนใจยาว เขาหันกลับไปมองศิษย์น้องและส่งยิ้มให้อ่อนโยนก่อนจะเอ่ยบอกสองประโยคและจากไปอย่างเงียบๆ “เห็นทีข้าคงไม่ได้พบศิษย์น้องมู่อีกหนึ่งเดือนนับจากนี้แล้ว หมั่นฝึกฝนให้ดี” มู่เหรินมองตามร่างสูงที่จากไปอย่างเงียบๆ ทว่าในใจกลับครุ่นคิดว่า ศิษย์พี่หมิงตงฟางต้องแลกเปลี่ยนกับสิ่งใดถึงจะสามารถสืบทอดเทพแหมู่เหรินมองคนตรงหน้าที่มีสีหน้าห่วงใยและยื่นจอกน้ำชามาให้ เขารู้สึกลำบากใจเล็กน้อยแต่ก็ยอมดื่มน้ำชาที่อีกฝ่ายป้อนให้จนหมด หมิงตงฟางยกยิ้มพอใจก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่เดิมโดยไม่ช้าไม่เร็วนัก “ตงฟางเจ้าต้องเข้าณาฌเก็บตัวหนึ่งเดือนนับแต่นี้ไป” น้ำเสียงอ่อนโยนเมตตาดังมาจากในบ้าน แต่ก็ทำให้ร่างสูงที่เดินกลับไปหยุดเท้าลง หมิงตงฟางนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะมองที่มาของเสียงแล้วทอดถอนใจยาว เขาหันกลับไปมองศิษย์น้องและส่งยิ้มให้อ่อนโยนก่อนจะเอ่ยบอกสองประโยคและจากไปอย่างเงียบๆ “เห็นทีข้าคงไม่ได้พบศิษย์น้องมู่อีกหนึ่งเดือนนับจากนี้แล้ว หมั่นฝึกฝนให้ดี” มู่เหรินมองตามร่างสูงที่จากไปอย่างเงียบๆ ทว่าในใจกลับครุ่นคิดว่า ศิษย์พี่หมิงตงฟางต้องแลกเปลี่ยนกับสิ่งใดถึงจะสามารถสืบทอดเทพแห
แค้วนฉี “รุกฆาต เจ้าแพ้แล้ว คราวนี้บอกข้าได้หรือยังว่าน้องสี่ของเจ้าไปอยู่ที่ใด” น้ำเสียงรื่นเริงและความยินดีกับชัยชนะของจื่อหวังองค์รัชทายาทของแคว้นฉีดังขึ้น ทว่าผู้ที่เล่นหมากรุกด้วยได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอา “ฝ่าบาทคำตอบข้าก็ยังเป็นเช่นเดิม” มู่ฉุนเหยียนตอบกลับอย่างระอา ใบหน้าที่เคยอ่อนโยนเมื่ออยู่ต่อหน้าจื่อหวังเวลานี้ก็ไม่อาจรักษาไว้ได้อีกต่อไป เพราะตลอดหนึ่งเดือนมานี้เขาถูกลากมาเล่นหมากรุกกับองค์รัชทายาทตั้งแต่เช้ามืดจรดเย็น หากจื่อหวังมิใช่ว่าที่ฮ่องเต้คนต่อไปและเป็นสหายเขาคงได้ฝังกลบดินอีกฝ่ายไปแล้วแน่ๆ “ไม่รู้หรือว่าไม่อยากบอกกันแน่ ให้ตายสิ เจ้าจะปากแข็งไปอีกนา
ทว่าแววตากลับเปี่ยมไว้ด้วยสติปัญญา มันดูล้ำลึกและน่าค้นหา คนที่วาดภาพนี้ขึ้นมาได้นั้นต้องมีระดับฝีมือขั้นปรมาจารย์อย่างแน่นอน คนที่งดงามและดูล้ำค่าเช่นนี้เขาไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทุกแคว้นถึงได้มีการเคลื่อนไหวและอยากแย่งชิง ยิ่งข่าวลือที่อีกฝ่ายเป็นบุรุษที่ชื่นชอบตัดแขนเสื้อยิ่งทำให้ผู้คนอยากได้มาครอบครอง งดงามทั้งหน้าตา สติปัญญาและวรยุทธล้ำเลิศจะมีผู้ใดบ้างที่ขวานไขว่ในอำนาจไม่อยากครอบครอง! แต่ว่า... เหมือนเขาจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อน “องค์ชายมีความเห็นเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ” ฉู่เหว่ยหยางละสายตาจากรูปภาพเสมือนจริงหันกลับไปมององครักษ์คู่พระทัย แม้ท่าทางดูเกียจคร้านทว่าดวงตาคู่คมกลับฉายแววล้ำลึกก่อนจะเอ่ยตอบ “ตา
“หลิงหวางเจ้าต้องดื่มให้มากหน่อย ชาของศิษย์พี่หมิงนั้นช่วยทำให้ร่างกายผ่อนคลายจากความเหน็ดเหนื่อยได้ เพราะฉะนั้นเราทั้งสองต้องรู้จักเก็บเกี่ยวผลประโยชน์นี้” มู่เหรินบอกหลิงหวางด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ซึ่งหลิงหวางก็รับมาดื่มอย่างไม่มีอิดออด เขายกยิ้มอย่างพอใจ การที่หลิงหวางไม่พูดไม่แสดงสีหน้าใช่ว่าจะไม่เหนื่อยล้าจากการฝึกฝนเพื่ออนาคตข้างหน้าต้องรักษาสุขภาพที่ดีเอาไว้ “หึ พวกเจ้านี่นะ” หมิงตงฟางรู้สึกไร้คำพูดที่จะกล่าวมองศิษย์น้องทั้งสองที่เข้ากันได้ดีโดยไม่ต้องพูดจาให้มากความ ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกคันยุบยุบที่หัวใจมันมีทั้งความเอ็นดูและอิจฉาที่ดูสองคนนี่จะรักใคร่กลมเกลียวกันดีจนรู้สึกว่า ตนเองนั้นเป็นคนนอก! เมื่อได้เวลายามเหม่า(05:00น.- 07:00น.)มู่เหรินกระโดดลงมาจา
“แล้วเมื่อไหร่นายน้อยจะเลิกสั่งสักทีละขอรับ ไม่เบื่อหรือขอรับถามทุกวัน” คำตอบและคำถามที่ยาวที่สุดในรอบหลายวันที่ผ่านทำให้มู่เหรินหันไปหรี่ตามอง เดี๋ยวนี้องครักษ์ส่วนตัวเขาพัฒนาแล้ว! น่าภูมิใจดีไหม? “จนกว่าจะเรียกข้าว่ามู่เหรินนั่นแหละ” มู่เหรินกอดอกมองหลิงหวางที่ทำหน้าเฉยเมยจนไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ในมือยังมีเตาไฟที่เริ่มดับแล้ว “นายน้อยก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้” คำตอบเดิมๆ ของหลิงหวางทำให้มู่เหรินส่ายหน้าอย่างเบื่อๆ ก่อนจะเดินกลับห้องตัวเอง วันนี้ยังไม่เห็นศิษย์พี่ผู้งดงามเหมือนหลุดพ้นจากทางโลกเลย ส่วนมากจะเห็นแค่เวลาทานข้าวเท่านั้นกลางวันจะหายไปจนน่าแปลกใจ ส่วนอาจารย์ก็เก็บตัวอยู่แ
“ขอบคุณท่านพี่หมิง เรียกข้ามู่เหรินเถอะขอรับ” หมิงตงฟางพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเชื้อเชิญเข้าไปด้านใน มู่เหรินจึงได้เดินตามไปอย่างไม่รีบร้อน จนกระทั่งมาหยุดที่โต๊ะน้ำชาซึ่งมีชายชรานั่งอยู่ แม้จะมากวัยแต่กลับดูทรงภูมิและน่าหวั่นเกรง คนผู้นี้คงเป็นอาวุโสกุ้ยกู๋แน่ๆ “ผู้เยาว์เรียกว่ามู่เหริน ขอคารวะผู้อาวุโสขอรับ” มู่เหรินยกมือประสานหมัดทำความเคารพชายชราตรงหน้าอย่างนอบน้อม หลิงหวางที่ตามมาเงียบๆ ก็ยกมือประสานหมัดคารวะอาวุโสกุ้ยกู๋ก่อนจะหลบไปอยู่มุมห้องด้านหลังนายน้อยเงียบๆ “ไม่ต้องมากพิธี ยกน้ำชาคารวะอาจารย์เถอะ” มู่เหรินยกยิ้มยินดีก่อนจะคุกเข่ารับน้ำชาจากหมิงตงฟางมาคารวะผู