บททั้งหมดของ มู่เหรินจอมคนอัจฉริยะ: บทที่ 1 - บทที่ 10

92

คุณชายมู่เหริน

“นายน้อยคุณชายเหวินฉินมาขอพบขอรับ” คำรายงานของบ่าวรับใช้ทำให้ร่างโปร่งบางชะงักงันไปชั่วครู่ ใบหน้างดงามที่ยังคงเยาว์วัยนิ่งเรียบทว่าในใจกำลังหวนนึกไปถึงเจ้าของนามเหวินฉินบุตรชายคนรองของตระกูลเหวินซึ่งเรืองชื่อในเรื่องการค้าขาย “พาเขาไปรอข้าที่เดิม” น้ำเสียงนุ่มทุ้มตอบกลับมาโดยไม่ได้ละสายตาจากหนังสือในมือ บ่าวรับใช้ก้มหัวให้พร้อมถอยหลังกลับออกไปจากห้องหนังสือทำหน้าที่ของตนต่อไป มู่เหรินเหลือบตามองบ่าวรับใช้ครู่หนึ่งแล้วถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายกับคนที่มาขอพบ เขาเป็นบุตรสุดท้องของตระกูลมู่ที่รับใช้ราชวงศ์มาหลายชั่วอายุคน ทว่าแท้จริงแล้วเคยมีอีกนามที่เริ่มจะลืมเลือนไปคือนายศิลา เป็นอาจารย์สอนประวัติศาสตร์ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศไทย ตายด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ในช่วงฤดูฝน เขายังจำช่วงเวลานั้นได้เป็นอย่างดีเนื่องจากยืนเฝ้ามองร่างของตัวเองซึ่งตกลงไปในหุบเหวจังหวัดเชียงใหม่เป็นเวลาสามวันโดยที่ไม่อาจไปไหนได้ก่อนจะถูกนำตัวมาเกิดในที่แห่งนี้ แต่ไม่รู้ว่าทำไมความทรงจำเดิมยังคงอยู่ ผ่านไปหนึ่งชั่วยามมู่เหรินจึงวางหนังสือลงพร้อมลุกขึ้
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-08
อ่านเพิ่มเติม

ตระกูลมู่ 1

สองเท้าก้าวเดินไปโรงเก็บหญ้าข้าง ๆ กันพร้อมหยิบหญ้ามากำหนึ่งขนาดไม่ใหญ่มาก มาวางไว้ให้ม้าทั้งสองตัวกิน เพียงไม่นานผลก็ออกมา เมื่อม้าสีน้ำตาลเข้มทางซ้ายมือใช้เท้าเขี่ยหญ้าไปให้ม้าที่อยู่ทางขวามือ สัญชาตญาณของความเป็นแม่ย่อมให้ผู้เป็นลูกได้กินอิ่มก่อนเสมอ “ม้าตัวสีน้ำตาลเข้มทางซ้ายมือเป็นแม่ สีอ่อนหน่อยทางขวามือเป็นลูก หากหมดธุระของเจ้าแล้วข้าขอตัว” มู่เหรินบอกเสียงเรียบพร้อมสะบัดชายผ้าจากไป คุณชายเหวินฉินอ้าปากค้างอย่างตกตะลึงกับความเย็นชาของคุณชายมู่เหริน ดวงตาคมมองตามร่างโปร่งบางคล้ายคนหัวใจสลาย เขาใช้เวลาร่วมเดือนกว่าจะได้บัตรคิว หวังจะได้พบหน้าสนทนาแต่กลับอยู่ด้วยไม่ถึงหนึ่งเค่อ สนทนาไม่กี่ประโยคก็หมดเวลาเพราะคำตอบนั้นถูกต้องตามกฎที่มู่เหรินให้ไว้กับทุกคน กลับกันหากมู่เหรินตอบผิดจะได้อยู่ร่วมรับประทานอาหารด้วยเป็นเวลาหนึ่งมื้อ แม้คนอื่นอาจไม่เห็นค่าแต่สำหรับเหวินฉินแล้วมันเหมือนรางวัลที่คุ้มค่ากับการรอคอย ทว่าบัดนี้หัวใจดวงน้อยกลับถูกตัดเยื่อใยอย่างไม่ไยดี “จิ่นกวาง ทำไมคุณชายเจ้าถึงได้เย็นชาต่อข้านักเล่า ไม่เห็นใจข้าบ้างหรือ เฝ้ารอมาเนิ่นนา
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-08
อ่านเพิ่มเติม

ตระกูลมู่ 2

“เอาเถิดข้ามิได้คาดหวังให้ใครมาแทนคุณ แค่เจ้ามีชีวิตก็ดีก็พอแล้ว อีกอย่างเรื่องการรบอย่าได้แพร่งพรายไปที่ใดเพราะชีวิตเจ้าจะลำบากยิ่งกว่าเดิม” แม้จะดุดันแต่ก็ยังห่วงใยเพราะอย่างไรก็ยังเป็นบุตร มู่เหรินยิ้มรับ “ท่านพ่อโปรดวางใจ ข้าจะต้องเอาตัวรอดในเรื่องนี้ได้ เพียงแต่สิ่งที่ข้ากังวลคือท่านพี่ทั้งสามจะไม่ยินยอม เป็นเช่นนั้นพวกท่านจะลำบาก ท่านพ่อโปรดบอกเล่าแก่ท่านพี่เองได้หรือไม่ขอรับ” “เรื่องนั้นข้าจะจัดการเอง แต่การไปครั้งนี้จงนำพาหลิงหวางไปด้วย” มู่เหรินนิ่วหน้ากับคำขอ นึกไปถึงเจ้าของชื่อที่เป็นดั่งเงาของเขา ชอบแอบอยู่มุมห้องมืด ๆ และคานไม้ ไม่มีปากเสียง ปิดหน้าสวมชุดดำจนแทบจำหน้าไม่ได้ “หากเป็นความต้องการของท่านพ่อข้าคงมิอาจขัด คืนนี้ข้าจักเริ่มออกเดินทาง หากเจอกันในภายภาคหน้าลูกอาจไปล่วงเกินท่านโปรดอภัยให้ข้าเพราะข้าทำสิ่งใดย่อมมีเหตุผล” มู่ซู่เหลียนพยักหน้ารับอย่างเข้าใจเพราะมู่เหรินทำสิ่งใดมิเคยไม่มีเหตุผลมาก่อน แม้จะยังเยาว์วัยทว่ากลับไม่เหมือนดังพี่น้องคนอื่น ๆ แววตาล้ำลึกมิอาจหยั่งรู้หรือคาดเดาได้จนบางครั้งอดคิดมิได้ว่ามู่เหรินเ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-08
อ่านเพิ่มเติม

ตระกูลมู่ 3

มู่เหรินมองบ้านเกิดเป็นครั้งสุดท้ายเพราะไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้กลับมาอีก ท้องฟ้ามืดมิดยามค่ำคืนในเวลานี้บดบังร่างโปร่งบางที่ยืนใต้ร่มไม้ห่างไกลจากจวนพอประมาณ ส่วนผู้ติดตามขึ้นชื่อว่าเงาก็ยังคงเป็นเงาเหมือนที่ผ่านมา เหลือบตามองเงาร่างที่อยู่ไม่ห่างอย่างกังวล การที่ไม่ได้พูดคุยกับใครเลย คอยแต่หลบซ่อนตัวและแสดงฝีมือเท่านั้นจะเบื่อหน่ายกับโลกใบนี้และเหงามากแค่ไหน “หลิงหวางข้ามีข้อตกลงกับเจ้า หากเจ้าคิดจะติดตามข้าจงแสดงตนออกมาในฐานะสหายข้า หากทำไม่ได้แล้วจงเป็นเงาอย่าให้ข้ารับรู้ตัวตนของเจ้า” มู่เหรินเอ่ยบอกเสียงเรียบ เงาร่างนั้นนิ่งเงียบเพียงครู่ก่อนจะเลือนหายไปกับความมืด เขาถอนหายใจอย่างอ่อนใจ ถึงอย่างไรคนผู้นี้ก็ยังเลือกที่จะเป็นเงา “แต่เจ้ารู้ไหม ข้าอยากเป็นสหายเจ้ามากกว่าสิ่งที่เจ้าเป็น” มู่เหรินเอ่ยเสียงแผ่วไปตามสายลม ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างเหนื่อย ๆ กว่าหลิงหวางจะยอมออกจากเงาคงต้องใช้เวลาหรือไม่ก็ตัวเขาเกิดภัย คนเช่นนี้บิดาไปหามาจากที่ใดกัน เก่งกาจเรื่องวรยุทธ์และยังเก่งเรื่องปลอมตัวอีก ทว่าแม้โฉมหน้าจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหนแต่กลิ่นอายเดิมย
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-08
อ่านเพิ่มเติม

ตระกูลมู่ 4

หลังจากบังคับขู่เข็ญหลิงหวางออกจากเงาตอนนี้เจ้าตัวอยู่ในอาภรณ์สีน้ำเงินเข้มไม่ต่างจากตน บนหัวมีหมวกปีกสานใบใหญ่ปกปิดใบหน้าอย่างมิดชิดทั้ง ๆ ที่หน้าตาออกจะธรรมดา ท่าทางจะไม่ชอบให้ใครมองหน้าจริง ๆ ไม่สิ นี่แค่เป็นหน้าหลอก ๆ ของเจ้าตัวมากกว่า แต่เรื่องนั้นเขาไม่ได้ใส่ใจเพราะอย่างไรเขาก็จดจำคนผู้นี้จากกลิ่นอายรอบตัว มู่เหรินมองแผนที่ในมือเพื่อมุ่งหน้าไปยังหุบเขาปีศาจตามคำแนะนำของบิดา แต่ต้องนิ่วหน้าเพราะแผนที่มิได้บ่งบอกว่าหุบเขาปีศาจอยู่ที่ใดเพราะในประวัติศาสตร์สมัยจั้นกั๋วก็ไม่ได้เล่าเกี่ยวกับหุบเขาปีศาจอีกด้วย เมื่อเงยหน้ามองเพื่อนร่วมเดินทางก็ต้องเลิกคิ้วมองอย่างแปลกใจ การที่ให้ออกมาจากเงาทำให้ชีวิตมืดมนขนาดนั้นเชียวหรือ “อีกหน่อยเดี๋ยวก็ชินเอง” เอ่ยบอกเสียงเรียบก่อนจะก้มมองหาจุดสำคัญ หากเดาไม่ผิดไม่อยู่แคว้นฉีก็ต้องอยู่แคว้นฉิน แต่ว่ามันอยู่ระหว่างเหนือกับใต้ที่ห่างกันไกลมาก เพราะเช่นนี้ในประวัติศาสตร์ในจีนแคว้นฉินถึงไม่มาโจมตีแคว้นฉี “เจ้ารู้จักหุบเขาปีศาจหรือไม่” ในเมื่อไม่รู้จึงเอ่ยถามคนข้างกายที่ยืนนิ่ง ๆ หลิงหวางเงยหน้ามามองเล็กน้อยก่อนจะต
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-08
อ่านเพิ่มเติม

ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่หุบเขาปีศาจ 1

หลังจากทั้งคู่ทานอาหารกลางวันอิ่มแล้วจึงได้ออกเดินทางอีกครั้ง มู่เหรินไม่ได้ใช้ลมปราณลงไปที่เท้าในการเดินทาง เขาอยากเก็บแรงไว้เพราะไม่รู้ข้างหน้าจะเจออันตรายอันใดบ้าง แม้จะไม่เคยออกจากเมืองหลวงแคว้นฉีแต่เขาไม่อยากประมาท ยุทธภพนั้นอันตราย หากพลาดท่าเสียทีได้ไปปรโลกเร็วกว่าอายุขัยแน่          อีกทั้งตนมิใช่คนเก่งกาจ อายุเพียงสิบหกในโลกนี้ยังเรียนรู้ไม่ได้มากนัก แม้ความจริงอายุวิญญาณเขาตอนนี้ย่างห้าสิบเอ็ดปีแล้วก็ตาม และกว่าจะถึงที่หมายก็เข้ายามเว่ย(13.00น.-15.00น.)แล้ว          ที่นี่ดูครึกครื้นไม่ต่างจากเมืองที่ผ่านมา มู่เหรินหาห้องพักในโรงเตี๊ยมขนาดกลางเพื่อนอนพักหนึ่งคืนสองห้องสำหรับสองคน แม้จะรู้ว่าหลิงหวางชอบมาอารักขาเขาก็ตามแต่อย่างไรก็คงต้องมีเวลาส่วนตัวบ้างเช่นอาบน้ำ          จากนั้นจึงได้ออกมาเดินเล่นสำรวจเมือง มีบ้างที่ผู้คนหันมามองเขาด้วยความสนใจเพราะยังมีหมวกปีกสานใบใหญ่ปิดใบหน้า     
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-09
อ่านเพิ่มเติม

ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่หุบเขาปีศาจ 2

มู่เหรินตอบกลับและยกมือคารวะผู้อาวุโสกว่าอย่างนอบน้อม แม้อายุวิญญาณจะมากกว่าทว่าเวลานี้ชีวิตใหม่ของเขาก็เพียงแค่สิบหกปีเท่านั้น “ขอบคุณคุณชายมากเจ้าค่ะที่ช่วยครอบครัวของข้า หากต้องการสิ่งใดตอบแทนบอกข้ามาเถิด ข้าจะตอบแทนทุกอย่าง” สตรีวัยกลางคนเดินเข้าขอบคุณอย่างนอบน้อม ร่างกายยังมีบาดแผลที่กลางหลังและใบหน้าที่ยังมีโลหิตเปราะเปื้อน มู่เหรินมองดูอย่างนับถือในความเข้มแข็งของสตรีตรงหน้ายอมปกป้องบุตรชายด้วยชีวิตของตนเองทั้งๆ ที่ไม่เป็นวรยุทธ “ฮูหยินอย่าได้เกรงใจ ข้าช่วยเหลือเพราะพบเจอโดยบังเอิญ ตอนนี้ท่านบาดเจ็บควรรักษาบาดแผลก่อนเถอะขอรับ มู่เหรินบอกอย่างจริงใจซึ่งนางก็พยักหน้ารับด้วยใบหน้าขาวซีดก่อนจะขอไปทำแผลที่รถม้า เหลือทิ้งไว้ชายฉกรรจ์ซึ่งเดินมาขอบคุณเขาคนแรกและน่าจะเป็นพ่อบ้านของตระกูลหลี่ บาดแผลตามร่างมีเต็มร่างแต่กลับไม่แสดงความเจ็บปวดผ่านทางสีหน้า คงไม่ใช่พ่อบ้านธรรมดาเป็นแน่ “หากไม่เป็นการรบกวนมากเกินไป คุณชายทั้งสองช่วยเดินทางไปส่งพวกเราที่เมืองช่างไค่ได้หรือไม่ขอรับ” มู่เหรินมองสภาพรถม้า ซึ่งมีม้าตายไปหนึ่ง
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-13
อ่านเพิ่มเติม

ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่หุบเขาปีศาจ 3

“ที่นี่เป็นชายแดนของแคว้นเว่ยเมืองข้างหน้าจะเป็นแคว้นฉิน เราน่าจะไปถึงที่นั่นภายในวันนี้” มู่เหรินเปิดแผนที่ดูอีกครั้ง เวลานี้สภาพเขาไม่ได้น่าดูนักเพราะไม่ค่อยได้อาบน้ำเขาจึงเลือกใส่อาภรณ์สีดำแทนสีขาวที่ชอบ ส่วนหลิงหวางก็มีสภาพไม่ต่างกันแต่ก็ไม่เคยปริปากบ่น ทว่าระยะหลังมานี้หลิงหวางรู้จักแสดงความคิดมากขึ้นซึ่งเขาชอบที่อีกฝ่ายเป็นเช่นนี้มากกว่า “ขอรับ แต่ม้าสองตัวของเราคงจะไม่น่าเดินทางได้ต่อหลังจากถึงแคว้นฉินนะขอรับ” มู่เหรินพยักหน้ารับอย่างเข้าใจเพราะพวกมันวิ่งเดินทางเกือบทั้งวันทั้งคืน หนึ่งวันเขาแค่พักไม่เกินสองชั่วยามเท่านั้น ตอนแรกคิดว่าจะเดินทางไปเรื่อยๆ ทว่าเมื่อคิดทบทวนอย่างถี่ถ้วนแล้วทำให้อยากให้ถึงหุบเขาปีศาจโดยเร็ว เพราะจะได้มีวิชาป้องกันตัวเองมากกว่านี้ แม้เขาจะมีวรยุทธแต่กลับรู้สึกว่ามันยังอ่อนด้อย “เดินทางต่อเถอะข้าอยากอาบน้ำเต็มทีแล้ว” มู่เหรินเอ่ยบอกพับเก็บแผนที่คร่าวๆ ในมือไว้ในอกเสื้ออีกครั้ง หลังจากนั่งพักมาสามเค่อแล้ว หลิงหวางพยักหน้ารับเก็บข้าวของอย่างรวดเร็ว เดินไปจูงม้าที่ผูก
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-13
อ่านเพิ่มเติม

ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่หุบเขาปีศาจ 4

“เรื่องนี้ก็พอเข้าใจ แต่ข้าไม่เข้าใจว่าตัดแขนเสื้อจะเสียหายตรงไหน ในวังหลวงพวกเชื้อสายพระวงค์ก็ร่วมสุขสมกับพวกขันทีอยู่แล้ว อีกอย่างเรื่องความรักไม่เห็นจะผิดเลย” “น้องสี่เรื่องของภายในวังหลวงเจ้าไม่ควรนำมาพูด เรามีหน้าที่ต้องทำคงต้องแยกกันแค่นี้” น้ำเสียงจริงจังของผู้ที่เงียบมาตลอดทำให้มู่เหรินรู้สึกขนลุก จากที่ได้ยินและสัมผัสกลิ่นอายมีด้วยกันสี่คนและไม่น่าจะใช่สามัญชนธรรมดาเสียด้วย ความฉลาดหลักแหลมของพวกเขาเริ่มทำให้หวาดหวั่น เขาเหลือบมองหลิงหวางที่ยังนั่งทานต่อเงียบๆ ทว่าใบหูก็คงตั้งใจฟังไม่ต่างจากเขา แม้เขาจะไม่หันไปมองทว่าเขาก็จดจำกลิ่นอายของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี ทั้งสี่ลุกขึ้นจากไปแล้วเขาจึงตั้งใจทานอาหารอีกครั้งลางสังหรณ์เขาบอกว่าพวกนั้นมาสืบข่าวเขาอย่างแน่นอนแต่จะมาจากแคว้นใดนั้นเขาเองก็ไม่รู้เช่นกัน หลังจากทานอาหารมื้อเช้าจบลงมู่เหรินก็ได้หาซื้อหมั่นโถวกับผลไม้ไว้สำหรับเดินทางอีกครั้ง ก่อนจะเดินมาหยุดที่ร้านเสื้อผ้าแห่งหนึ่งภายในเมือง เขาถอนหายใจอย่างทำใจอีกครั้งก่อนจะเดินเข้าไปในร้านพร้อมเลือกชุดสตรีสีขาวมาสองชุด จากนั้นจึงหา
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-13
อ่านเพิ่มเติม

ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่หุบเขาปีศาจ 5

“ขอห้องพักหนึ่งห้อง” มู่เหรินบอกเสี่ยวเอ้อที่ออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะพาขึ้นไปบนห้องพักแม้จะพักสองห้องก็เสียเบี้ยเปล่าๆ เพราะหลิงหวางต้องมานอนกับเขาอยู่แล้วหากไม่หาฟูกมานอนเจ้าตัวก็ปีนขึ้นไปนอนบนคานไม้ไม่รู้ที่ตรงนั้นมีอะไรดี “ข้าจะอาบน้ำก่อน” มู่เหรินหันไปบอกคนที่ตามติดมาซึ่งพยักหน้ารับไปเตรียมน้ำให้อาบโดยไม่ต้องสั่ง ไม่รู้ว่าหลิงหวางจะเปลี่ยนอาชีพจากองครักษ์มาเป็นคนใช้ตั้งแต่เมื่อไร “นายน้อยข้าขอออกไปสืบข่าวข้างนอก เสร็จแล้วจะรีบกลับมาขอรับ” มู่เหรินพยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำที่ถูกเตรียมไว้ให้ หลังจากแช่น้ำอุ่นๆ ก็ทำให้รู้สึกสบายมากขึ้น เขาไม่แน่ใจว่าหลิงหวางจะหาข่าวได้จริงหรือเปล่าแต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย หลังจากอาบน้ำสบายกายใจขึ้นมากมู่เหรินก็กลับมาเปลี่ยนเป็นชุดบุรุษสีฟ้าอ่อน พร้อมผ้าปิดใบหน้าสีขาวก่อนจะออกไปเดินเล่นในตลาดเพราะตอนเข้ามายังไม่ได้เดินเล่น แคว้นฉินนั้นถือว่าเป็นแคว้นที่ใหญ่ที่สุดในเจ็ดแคว้นซึ่งต่างจากแคว้นที่เขาเกิดโดยสิ้นเชิง “หมั่นโถวหอมอร่อยราคาถูกๆ ขอรับ”
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-13
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
123456
...
10
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status