ตอนที่45
หนูจะมีหลานแล้ว
“เจ้าบ่าวของดาวก็หล่อค่ะ วันนี้สาว ๆ คงได้อกหักกันเป็นแถวแน่ ๆ” ดุจดาวเอ่ยแซวด้วยรอยยิ้มบาง ๆ เมธัชหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะโน้มหน้าเข้าไปใกล้ แล้วกระซิบริมใบหูบาง
“หนุ่ม ๆ หลายคนก็คงอกหักกันเป็นแถวเหมือนกันนั่นแหละ โดยเฉพาะ เจ้าโทนี่รุ่นน้องลูกครึ่งที่ตามจีบดาวตอนเรียนอเมริกาด้วย”
ดุจดาวเบิกตากว้าง ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ
“ธัชรู้เรื่องนี้ด้วยหรือคะ น้องเขาดีกับดาวมากจริง ๆ แต่ดาวก็ไม่ได้คิดอะไรกับโทนี่เลยนะคะ ธัชก็รู้”
ดุจดาวรีบอธิบาย เรื่องนี้เธอไม่เคยบอกให้เขารับรู้ เพราะใจเธอมีแต่เขา จึงปฏิเสธหนุ่มน้อย ตาน้ำข้าวคนนั้นไป แม้โทนี่จะยอมรับที่ถูกปฏิเสธ แต่ก็ไม่ได้ถอยยังคอยตามมาอยู่ใกล้ ๆ เสมอ โทนี่นั้นเรียนคณะเดียวกันกับเธอ แต่เมธัชเรียนคนละคณะกัน
เมธัชยิ้มบาง ๆ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“ผมรู้มาตลอด แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะผมไว้ใจดาว และก็ไม่ได้คิดอะไรมากด้วย” เมธัชพูดตามตรง เขารักดุจดาวแต่ไม่เคยรู้สึกหึงหวง ทั้งที่ดุจดาวก็เป็นขวัญใจหนุ่ม ๆ ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมแล้วเช่นกัน
ดุจดาวถอนหายใจออกมาเบา ๆ มองลึกเข้าไปในดวงตาของเขาอย่างค้นหา ว่าสิ่งที่เขาบอกว่าไม่ได้คิดอะไรนั้นเป็นความจริงอย่างที่พูดหรือเปล่า เพราะในใจลึก ๆ ก็อยากเห็นเขาแสดงอาการหึงหวงออกมาบ้าง ตามประสาผู้หญิง แต่ก็ไม่เห็นความผิดปกติใด ๆ ในสายตาคู่นั้น
“ดาวขอบคุณนะคะที่ไว้ใจดาว แต่ถ้าธัชจะ..หึงดาวบ้าง ดาวก็ไม่ได้ว่าอะไรนะคะ เหมือนที่..ดาวก็หึงธัชเวลาที่สาว ๆ มากรี๊ดเหมือนกัน” เธอพูดไปพวงแก้มก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ แล้วก้มต่ำด้วยความอาย
เมธัชยกปลานิ้วเรียวเชยปลายคางเล็กขึ้นมา พร้อมกับสบตาคู่หวานของเธอ
“แสดงว่าดาวไม่ไว้ใจผม” เขาถามเสียงต่ำ แต่แววตายังคงอ่อนโยนไม่เปลี่ยนแปลง
“เปล่าค่ะ ดาวไว้ใจธัช แต่ไม่ไว้ใจสาว ๆ พวกนั้นต่างหาก” ดุจดาวส่ายหน้ารัว ๆ
“แค่เราไว้ใจกันและกัน เราก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ผมสัญญาว่าจะไม่มีวันทำให้ดาวเสียใจ จะรักและดูแลดาวทำให้ดาวมีความสุขตลอดชีวิตนะครับ”
เขาบอกด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ดวงตาก็แน่วแน่มั่นคง
ดุจดาวยิ้มออกมาทั้งดวงตาและปาก เห็นได้ชัดว่าเป็นรอยยิ้มที่มีความสุขมากจริง ๆ
“ค่ะดาวเชื่อมั่นในตัวธัช ดาวก็จะเป็นเมียที่ดี และวันข้างหน้าก็จะเป็นแม่ที่ดีค่ะ” พูดจบหน้าผากมนก็ถูกอีกฝ่ายกดริมฝีปากลงมาอย่างแผ่วเบา
“อ้าว!บ่าวสาวมัวมาจู๋จี๋กันอยู่นี่เอง ไปค่ะได้เวลาแล้วเดี๋ยวค่อยไปจู๋จี๋กันต่อให้ห้องหอนะคะ” ช่างแต่งหน้าแซว ทำให้คู่บ่าวสาวหน้าแดงแล้วรีบพาออกจากห้องแต่งตัว
พิธีแต่งงานเล็ก ๆ แต่อบอวลไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข ผ่านพ้นไปด้วยดี หลังจากนั้นต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ของตัวเอง จนเวลาล่วงเลยมาสามเดือน ข่าวดีก็เกิดขึ้นกับครอบครัวของเมธัชและดุจดาว
“จริง ๆ หรือคะ พี่ดาวท้องแล้วหรือคะ” วุ้นเย็นร้องขึ้นด้วยความตื่นเต้น พร้อมกับถามย้ำเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง ในวันที่ทั้งสองครอบครัวนัดกินข้าวด้วยกันที่คฤหาสน์ของวิชัย
“สองเดือนแล้วจ้ะ” ดุจดาวบอกด้วยใบหน้าที่แดงเรื่อ ทั้งดีใจและเขินอาย
“เย้! หนูจะมีหลานแล้ว พี่ดาวไม่ต้องห่วงนะคะ หนูจะเลี้ยงหลานให้พี่ดาวเป็นอย่างดีเลยค่ะ” คนพูดดีใจมาก
“น้อย ๆ หน่อยเถอะยายวุ้น คุณดาวกับ คุณธัชเธอคงไม่ยอมให้หนูเอาลูกเขามาเลี้ยงหรอก ลูกใครใครก็รัก จริง ๆ เลยเชียวเด็กคนนี้”
โสภาเอ่ยปรามลูกสาวด้วยน้ำเสียงที่ดุ ๆ เพราะเกรงใจเมธัชกับดุจดาว วุ้นเย็นจึงหน้าจ๋อยด้วยความน้อยใจ
ดุจดาวเห็นสีหน้าของวุ้นเย็นแล้วก็รู้สึกเอ็นดู เธอยิ้มบาง ๆ ก่อนจะพูดอย่างเอาใจ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ดาวยินดีให้น้องวุ้นช่วยเลี้ยงเพราะดาวคงเลี้ยงคนเดียวไม่ไหว ดาวลืมบอกว่าดาวท้องแฝดค่ะ”
“โอ้โฮ! ท้องแฝดด้วยดีจังเลยนะคะไม่ต้องท้องบ่อย วุ้นเห็นผู้หญิงบางคนท้องทีนึงก็เสี่ยงหลายอย่าง บางคนก็รูปร่างเสีย ไหนจะต้องแพ้ท้อง เวลาคลอดก็คงเจ็บมาก บางคนก็ต้องผ่าคลอด ผู้หญิงเรานี่เก่งที่สุดเลยค่ะ”
“น้าถึงบอกไงคะ ว่าผู้ชายรักลูกก็จริง แต่ไม่ได้ถึงครึ่งที่แม่รักหรอกค่ะ เพราะลูกอยู่ในท้องแม่ก่อน แม่ย่อมผูกพันธ์และห่วงใยลูกมากกว่าพ่อแน่นอน”
ญาดาเอ่ยเสริม พร้อมกับมองค้อนภากรผู้เป็นสามี ที่ก่อนหน้านี้กล่าวหาว่าเธอใจร้ายที่กักบริเวณไม่ให้ดุจดาวได้ออกข้างนอก
“อ้าวคุณ! พ่อก็รักลูกมากเหมือนกันนั่นแหละแล้วก็รักอย่างมีเหตุผลกว่าด้วย ไม่ใช่งมงายไปเชื่อหมอดู” ภากรเถียงเบา ๆ
“งมงายตรงไหน เชื่อไว้ก็ไม่เสียหาย สุดท้ายยายดาวก็อยู่รอดปลอดภัยจนได้แต่งงานมีหลานให้นี่ไงละ ไม่ใช่เพราะคนงมงายเหรอ” ญาดาก็เถียงกลับอย่างไม่ยอมกัน
“พอ ๆ ไม่ต้องเถียงกันแล้ว เก็บแรงไว้เลี้ยงหลานกันเถอะ” วิชัยห้ามทัพอย่างอารมณ์ดี
ตอนที่45หนูจะมีหลานแล้ว “เจ้าบ่าวของดาวก็หล่อค่ะ วันนี้สาว ๆ คงได้อกหักกันเป็นแถวแน่ ๆ” ดุจดาวเอ่ยแซวด้วยรอยยิ้มบาง ๆ เมธัชหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะโน้มหน้าเข้าไปใกล้ แล้วกระซิบริมใบหูบาง “หนุ่ม ๆ หลายคนก็คงอกหักกันเป็นแถวเหมือนกันนั่นแหละ โดยเฉพาะ เจ้าโทนี่รุ่นน้องลูกครึ่งที่ตามจีบดาวตอนเรียนอเมริกาด้วย”ดุจดาวเบิกตากว้าง ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “ธัชรู้เรื่องนี้ด้วยหรือคะ น้องเขาดีกับดาวมากจริง ๆ แต่ดาวก็ไม่ได้คิดอะไรกับโทนี่เลยนะคะ ธัชก็รู้”ดุจดาวรีบอธิบาย เรื่องนี้เธอไม่เคยบอกให้เขารับรู้ เพราะใจเธอมีแต่เขา จึงปฏิเสธหนุ่มน้อย ตาน้ำข้าวคนนั้นไป แม้โทนี่จะยอมรับที่ถูกปฏิเสธ แต่ก็ไม่ได้ถอยยังคอยตามมาอยู่ใกล้ ๆ เสมอ โทนี่นั้นเรียนคณะเดียวกันกับเธอ แต่เมธัชเรียนคนละคณะกันเมธัชยิ้มบาง ๆ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน&nbs
ตอนที่44 จะไม่ทะเลาะไม่โกรธกันอีกภายใต้แสงดาวที่พร่างพราวเต็มท้องฟ้าในคืนเดือนมืด สองหนุ่มสาวกำลังตกปลาตกหมึกกันอย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะที่ประสานกันเกือบทั้งคืนนั้นแสดงให้เห็นถึงความสุขที่ทั้งคู่กำลังได้รับเกือบตีสาม วุ้นเย็นและเมธัชจึงเก็บอุปกรณ์ ตกปลา ทั้งสองมองหมึกและปลาทะเลสด ๆ เป็น ๆ ด้วยความดีใจ ต่างเริ่มนับแต้มของตัวเอง ปรากฎว่าจำนวนหมึกและปลาที่วุ้นเย็นตกได้ น้อยกว่าเมธัช “ฮ่า ๆ พี่เป็นผู้ชนะ ว่าไงจ้ะน้องไม่ร้องนะนะจ้ะ ฮ่า”วุ้นเย็นยื่นปากใส่ ก่อนจะยืนขึ้นเตรียมตัวปั่นจิ้งหรีด ตามที่ได้ตกลงกันไว้ตอนแรก “เฮ้อะ! คนอย่างน้องไม่ร้องหรอกพี่ มีแต่ยอมรับความพ่ายแพ้อย่างคนที่มีน้ำใจนักกีฬาจ้ะ คุณพี่ชาย”พูดจบก็เริ่มก้มตัวลงเอามือข้างหนึ่งจับใบหู ส่วนมืออีกข้างนั้นใช้นิ้วชี้จิ้มลงไปบนพื้นเรือ
ตอนที่43 ติ๊ต่างว่าเป็นไวน์แดง “โอ้โฮ! หน้าตาน่ากินมาก กลิ่นก็ห้อมหอม แต่รสชาติจะเป็นอย่างไรน้า หนูขอชิมก่อนแล้วกันนะ”เธอร้องขึ้นด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะใช้มีด เล็ก ๆ ที่ชายหนุ่มเตรียมมาให้ในจาน หั่นชิ้นเนื้อสเต็กแบบมีเดี๊ยมแรขนาดพอดีคำ แล้วใช้ช้อนส้อมจิ้มขึ้นมาดมนิดหนึ่ง ก่อนจะส่งเข้าไปในปาก พร้อมกับหลับตาทำหน้าฟิน “เป็นไงบ้าง อร่อยกว่าไข่เจียวหมูสับใช่ไหม” เขาถามยิ้ม ๆ ทอดสายตามองใบหน้าเรียวเล็กอย่างเอ็นดู “อร่อยกว่ามาก พี่ชายฝีมือพัฒนาขึ้นแล้ว จริง ๆ ด้วย สุดยอดเลยค่ะ” เธอเอ่ยชมด้วยความจริงใจ ก่อนจะหั่นเนื้อเสตกกินไปอีกหลายคำ อย่างเอร็ดอร่อยและหิวโหย &n
ตอนที่42ให้อภัยกันไม่ได้แล้ว “แล้วยังไงอีก” เขาถามต่อ สีหน้าก็เรียบเฉยไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่น้อยเธอกลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง ไม่เข้าใจว่าเขาจะถามอีกทำไม ในเมื่อคำตอบก็อยู่ในสมุดจิ๋วเล่มนั้นอยู่แล้ว จะให้พูดอีกหรือ เธอก็อายเป็นนะ “ก็เลยพูดไปแบบนั้นค่ะ” เธอก้มหน้าลง มองมือของตัวเองที่ประสานอยู่บนตัก “พี่ว่าหนูไม่ได้หวงหรอก แต่หึงมากกว่า”เฮือก!เขาโพล่งออกมาซึ่งตรงกับคำตอบในใจของเธออยู่แล้ว แต่เธอไม่กล้าพูดมันออกไป “พี่ชาย!หนู...” เธออึกอัก คิดไม่ออกว่าจะยอมรับหรือปฏิเสธดี แต่ถึงอย่างไรเขาก็เห็นสมุดเล่มนั้นอยู่แล้ว จะตอบรับหรือปฏิเสธก็คงจะไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี “พี่เข้าใจ และให้อภัยตั้งแต่เห็นน้องนอนใส่ท่อช่วยหายใจในตอน
ตอนที่41เจ้าดำช่วยชีวิต “ฮ่า ๆ เกือบไปแล้วไหม”เสียงหัวเราะที่ดังออกมาจากเมธัช ทำให้วุ้นเย็นหยุดเล่าแล้วหัวเราะออกมาด้วย “ตอนนี้ขำได้นะ แต่ตอนที่หนูอยู่ในเหตุการณ์น่ะ บอกตรง ๆ ว่าขำไม่ออก คิดทางรอดจนสมองแทบไหล หัวใจจะวายเสียให้ได้ สุดท้ายได้เจ้าดำช่วยชีวิต แต่พอคิดย้อนไป ก็ตลกจริง ๆ ฮ่า ๆ”หญิงสาวหัวเราะจนหน้าแดงปลั่ง ดวงตาเป็นประกายพร่างพราวราวกับดวงดาวนับล้าน เมธัชมองภาพนั้นแล้วบันทึกไว้ในส่วนลึกของหัวใจ “สุดท้ายหนูก็ต้องทำความสะอาดพื้น แล้วก็ขอยายออกมานี่แหละ อ้อ!บอกก่อนนะว่า ถึงหนูจะโตขนาดนี้แล้วก็ตาม แต่การขออนุญาตคุณยายไปเที่ยวค้างคืนนี่ไม่ง่ายเลย จนหนูต้องโทรไปหาคุณแม่ขอให้คุณแม่ช่วยคุยกับยายเลยนะคะ เอ้อ!จริงซิ แล้วพี่รู้ที่อยู่บ้านคุณยายได้ยังไงคะ คุณแม่บอกเหรอ”ประโยคท้ายเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ จริง ๆ อยากถามก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็ลืมพูดเรื่องอื
ตอนที่40 รอยเท้าของหนูเอง “ตอนเช้าหนูได้ยินเสียงคุณยาย ร้องโวยวายว่าขโมยขึ้นบ้านจึงรีบออกมาดู” เธอเล่าพร้อมกับนึกย้อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนที่เธอจะออกมากับเมธัช.........................................................................สองชั่วโมงก่อนออกจากบ้าน “โอ้ตายแล้ว! ขโมยเข้าบ้าน ๆ” ยายวันนาร้องลั่น เมื่อเห็นรอยรองเท้าที่เปื้อนดิน มาทางประตูห้องของหลานสาว เป็นทางยาวออกไปที่ประตูบ้านวุ้นเย็นที่กำลังหลับอย่างสบายก็สะดุ้งตื่น และรีบเปิดประตูห้อง ร้องถามด้วยความตกใจ “เกิดอะไรขึ้นหรือคะคุณยาย เสียงดังแต่เช้าเชียวค่ะ”ยายวันนาหันไปที่หลานสาว แล้วจ้ำอ้าวเข้าไปหา พร้อมกับดึงร่างบางมาใกล้ ๆ กวาดตาสำรวจมองไปทั่วร่าง ด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนก ท่ามกลางความงุนงงของวุ้นเย็น “หนูเป็นอะไรหรือเปล่า