ตอนที่59
คิดว่าคงจะอาการหนัก
เมธัชล้วงหยิบมือถือออกมาจากระเป๋าสะพายของดุจดาว เมื่อเห็นว่าเป็นชื่อของโทนี่ เขาจึงกดรับสายทันที
[เป็นอย่างไรบ้างครับพี่ดาว] น้ำเสียงของโทนี่ที่ดังมาตามสายมีความคล้ายคนเมาอยู่บ้าง
“ดาวตกบันไดตอนนี้อยู่ในโรงพยาบาล” เมธัชกรอกเสียงบอกเบา ๆ แต่โทนี่ก็ได้ยินชัดเจน
[ตกบันได? ตกได้อย่างไรแกกับวุ้นเย็นคู่ขาของแก รุมกันทำร้ายพี่ดาวแน่ ๆ ถ้าพี่ดาวไม่ไล่กูกลับมาก่อน ก็คงจะไม่ถูกทำร้ายแบบนี้] โทนี่โวยวายมาตามสาย เมธัชยืนนิ่งอยู่กับที่ สมองของเขามึนชาและงุนงง จนจับต้นชนปลายไม่ถูกแล้ว
“นายพูดเรื่องอะไร ฉันทำร้ายอะไรดาวอย่ามากล่าวหากันมั่ว ๆ แล้วเกี่ยวอะไรกับวุ้นเย็น” เมธัชเอ่ยถามเสียงต่ำ
[แกนั่นแหละมั่ว ต่อหน้าใคร ๆ บอกว่าเป็นพี่น้อง ลับหลังแอบไปมั่วกัน กูกับพี่ดาวรู้เรื่องหมดแล้ว อีวุ้นเย็นมันอยากได้แกเป็นผัวออกนอกหน้า มันปฏิเสธกูก็เพราะมันจะเอามึง มันสารภาพกับกูต่อหน้าพี่ดาวว่ามันจะเอามึง ให้พี่ดาวเลิกกับมึงได้ยินชัดหรือยังไอ้ควาย]
แรงบีบจากฝ่ามือหนา เกือบทำให้โทรศัพท์ของดุจดาวแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ กรามเรียวขบกันแน่นจนมันนูนออกมาอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาคมวับวาวไปด้วยไฟโทสะดูน่ากลัว เมื่อลองเรียงลำดับเหตุการณ์จากคำพูดของโทนี่จนเริ่มนึกภาพออกว่าอะไรเป็นอะไร ความเคียดแค้นชิงชังก่อตัวเข้ามาครอบงำสติและหัวใจของเขาไปจนหมด
“ธัช ดาวเป็นอย่างไรบ้าง ได้ยินแม่บ้านบอกว่าตกบันไดหวังว่าคงไม่เป็นอะไรมากใช่ไหมธัช” ญาดาเดินแกมวิ่งเข้ามาพร้อมกับร้องถามเสียงสั่น
เมธัชสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วค่อย ๆ ปล่อยออกมาเบา ๆ เพื่อระงับไฟโทสะที่ลุกท่วมใจกายอยู่ในตอนนี้
“หมอกำลังตรวจอยู่ในห้องฉุกเฉินครับคุณแม่” เขาตอบเบา ๆ รู้สึกผิดจนไม่กล้าสบตากับแม่ยาย
“มันเกิดอะไรขึ้น ทะเลาะกันหรือว่าอย่างไร” ภากรเอ่ยถาม พร้อมกับมองหน้าของเมธัชอย่างพิจารณา
“ผมก็ยังไม่รู้เลยรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกันครับคุณพ่อ แต่เราสองคนไม่ได้ทะเลาะกันครับ ถามป้าณีได้” ป้าณีคือป้าที่เป็นหัวหน้าแม่บ้านของเขากับดุจดาว
“จริงซิ ได้ยินว่าหนูวุ้นก็เป็นลมอยู่ที่บ้านด้วยไม่ใช่เหรอ สงสัยจะตกใจที่ยายดาวตกบันได เลยเป็นลมไปแบบนั้น แล้วนี่เป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ ธัชได้โทรบอกคุณพี่วิชัยกับคุณโสภาหรือยังลูก โอ๊ย! ทำไมจู่ ๆ มาล้มเจ็บพร้อมกันเนี่ย! สาธุคุณพระคุณเจ้าช่วยคุ้มครองยายดาวกับหนูวุ้นด้วยเถอะเจ้าค่ะ” ญาดาพูดพลางยกมือไหว้ท่วมหัวใจสั่นหวิว ๆ เหมือนจะเป็นลม จนภากรต้องประคองไปนั่งที่เก้าอี้ ไม่นานโสภากับวิชัยก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามาอีกคู่
“ยายวุ้นเป็นอย่างไรบ้างคะคุณธัช” โสภาร้องถามเสียงสั่น ใบหน้าซีดเซียวแทบจะไร้ซึ่งสีเลือด
“ยังไม่รู้เลยครับ หมอยังไม่ออกมามาเลย แต่คิดว่าคงจะอาการหนัก” น้ำเสียงนั้นราบเรียบไร้ซึ่งความรู้สึกใด ๆ ทั้งยังคำพูดชวนสะเทือนใจนั้นอีก ทำให้คนฟังต่างมองหน้ากันด้วยด้วยความแปลกใจ
“โธ่!ยายวุ้นของแม่ ฮือ...” โสภาร้องไห้ออกมา ก่อนจะซบหน้าลงบนฝ่ามือ จนวิชัยต้องเข้าไปบีบไหล่เบาอย่างปลอบโยน
ในตอนนั้นประตูห้องฉุกเฉินก็เปิดออก อาจารย์หมอก็เดินออกมาสองคน คนแรกคือหัวหน้าทีมแพทย์ฉุกเฉินที่ไปรับดุจดาวกับวุ้นเย็นมาจากบ้าน คนที่สองคืออาจารย์หมอผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจและทรวงอก ซึ่งเป็นเจ้าของไข้ของวุ้นเย็น
อาจารย์หมอทั้งสองท่านเดินเข้ามาใกล้ ด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก
“คุณดุจดาวมีอาการเลือดคั่งในสมองและสมองบวม เนื้อสมองเสียหายไปมากแล้ว แต่ยังมีชีพจรอยู่ เราจะทำการผ่าคลอดเอาทารกในครรภ์ออกมาก่อนนะครับเพราะตอนนี้ทารกในครรภ์ยังปกติดี เนื่องจากแรงกระแทกทำให้คุณแม่ต้องคลอดก่อนกำหนด เราจึงจำเป็นต้องช่วยทารก่อน ส่วนคุณแม่ค่อยประเมินการรักษาอีกทีนะครับ”
“โธ่!ยายดาว ฮือ..” ญาดาร้องไห้โฮออกมาราวกับจะขาดใจ ก่อนจะเป็นลมทรุดกองลงกับพื้น จนหมอต้องเรียกเจ้าหน้าที่มาพาเข้าห้องฉุกเฉิน
เมธัชค่อย ๆ ถอยออกมาแล้วทรุดนั่งลงบนเก้าอี้อย่างหมดแรง ไม่อยากจะเชื่อว่าเหตุการณ์เลวร้ายจะเกิดขึ้นกับครอบครัวที่กำลงจะสมบูรณ์ภายในวันเดียวแบบนี้ เพราะคำพูดและการกระทำของวุ้นเย็นเพียงคนเดียว หากดุจดาวต้องตายเขาก็สาปแช่งให้วุ้นเย็นตายตามไปด้วย แต่หากยังมีชีวติอยู่ เขาก็จะทำให้วุ้นเย็นทุกข์ทรมานจนต้องเรียกร้องขอความตายกันเลยทีเดียว
“แล้วยายวุ้นละคะคุณหมอ” โสภารวบรวมความเข้มแข็ง ก่อนเอ่ยถามเสียงสั่น แม้จะกลัวคำตอบแต่ไม่เร็วก็ช้าเธอก็ต้องรู้อยู่ดี
อาจารย์หมอถอนหายใจออกมาเบา ๆ แล้วขยับแว่นด้วยความเคยชินก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่เคร่งเครียด
“คนไข้อาการยังทรง ๆ เรารักษาแบบประคับประคองด้วยการใส่ท่อช่วยหายใจแต่..”
ตอนที่63ความตายมันสบายเกินไปญาดาเล่ามาถึงตอนนี้ก็ร้องไห้โฮออกมาอีก ในขณะที่ภากรและเมธัชปล่อยให้น้ำตาไหลเงียบ ๆ ต่างรู้สึกเทิดทูนบูชาในน้ำใจอันประเสริฐของดุจดาว ที่คิดดีทำดีและมีจิตใจที่เข้มแข็ง กล้าหาญกว่าใครอีกหลายคนญาดาพยายาม ตั้งสติก่อนจะพูดต่อด้วยเสียงที่ปนสะอื้น “ตอนนั้นยายดาวพูดจนฉันและคุณภากรเข้าใจและยอมเซ็นเอกสารฉบับนี้ให้ แต่ไม่คิดเลยสักนิดว่าสุดท้ายยายดาวจะได้บริจาคหัวหัวใจให้หนูวุ้นจริง ๆ ฮือ...” ญาดาสะอื้นฮักออกมาอีกจนภากรต้องดึงมากอดไว้ ทั้งที่หัวใจของเขาก็แหลกสลายแล้วเช่นกัน “ถึงแม้ว่าจะมีเอกสารที่ชัดเจน แต่ทางโรงพยาบาลก็ต้องได้รับความยินยอมจากญาติอีกครั้งนะครับ หมอจะให้เวลาได้ตัดสินใจ แต่ก็ไม่ควนจะนานเกินไปนะครับ เพราะเมื่อสมองหยุดทำงานร่างกายก็จะค่อย ๆ หยุดการทำงานไปด้วยเช่นกัน ถึงตอนนั้นก็ไม่สามารถนำอวัยวะของคุณดุจดาวไปบริจาคเพื่อช่วยใครได้อีก ก็จะเป็นการขัดเจตจำนงค์ของเธอ”
ตอนที่63ความตายมาถึงเราในวันหนึ่งแน่นอน “บริจาคอวัยวะอย่างนั้นหรือ” เมธัชลืมตาขึ้น ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ เพราะเขาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน “ใช่ครับ เราตรวจสอบกับศูนย์รับบริจาค พบว่าเธอระบุชัดว่า หากเข้าสู่ภาวะสมองตาย ขอบริจาคอวัยวะทุกส่วนในร่างกายที่ยังสมบูรณ์ดีให้กับผู้ป่วยที่ต้องปลูกถ่ายอวัยวะ หมอได้ตรวจเช็คดูแล้วก็พบว่า มีตับกับไตหนึ่งข้างที่ยังสมบูรณ์แต่อีกข้างเสียหาย และหัวใจของเธอที่ยังแข็งแรงมากครับ”ห้องเงียบลงอีกครั้ง เหลือเพียงเสียงสะอื้นเบา ๆ“จุดประสงค์ของผู้บริจาคอวัยวะ คือการให้ที่ยิ่งใหญ่เป็นครั้งสุดท้าย และนี่คือเอกสารที่คุณดุจดาวได้ทำเอาไว้เมื่อสองปีก่อนครับ”อาจารย์หมอพูดจบก็ยื่นเอกสารที่เป็นรายละเอียดในการบริจาคอวัยวะ และลายเซ็นของดุจดาว ส่วนเอกสารอีกใบเป็นการบริจาคหัวใจที่ระบุชื่อของผู้รับบริจาคอย่างชัดเจน ทั้งยังมีลายเซ็นของภากรและญาดาเป็นพยานอีกด้วย รูม่านตาข
ตอนที่62ภรรยาของผมยังไม่ตายในที่สุดเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง เมื่อประตูห้องผ่าตัดเปิดออก หมอเดินเข้ามาพร้อมกับรถเข็ญ ที่มีเด็กทารกฝาแฝดหญิงชายส่งเสียงร้องไห้จ้าทั้งสามคนดีดตัวลุกขึ้นแล้วปรี่เข้าไปหาทันที ญาดาเห็นทารกแล้วก็ร้องไห้โฮออกมาอีก “หนู ๆ แข็งแรงดีนะคะ แต่เนื่องจากผ่าตัดคลอดก่อนกำหนด หมอจะพาหนู ๆ ไปเข้าตู้อบก่อนเพื่อความปลอดภัยค่ะ” หมอแจ้งด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ แต่สีหน้าเต็มไปด้วยความเหน็ดเหนื่อยอย่างเห็นได้ชัดเมธัชยืนมองทารกน้อยนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามหมอ โดยไม่ได้ละสายตาไปจากทารกน้อย “ภรรยาของผมเป็นอย่างไรบ้าง เธอดีขึ้นแล้วใช่ไหม ผมจะเข้าไปหาเธอได้หรือยัง” “ตอนนี้อาจารย์หมอกำลังทำการประเมินเพื่อที่จะทำการรักษาค่ะ ญาติสามารถสอบถามได้จากอาจารย์ได้เลยนะคะ อีกไม่ช้าคงออกมา ส่วนหมอต้องขอตัวพาหนู ๆ ไปดูแลก่อนนะคะ” หมอสาวพูดจบก็เดินจากไปพร้อมกับผู้ช่วยและทารกแฝดภากรประคองญาดากลับไป
ตอนที่61อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดโสภาลืมตาขึ้นช้า ๆ จำได้ว่าก่อนหน้านี้เธอเจ็บปวดทรมานอย่างหนัก ในท้องของเธอปวดแสบไปหมด หลังจากนั้นก็เหมือนมีอะไรสอดเข้าทางจมูก ในตอนนั้นมันคือความทรมานจนแทบจะขาดใจตายตาย? ใช่เธอเรียกร้องคำนี้ด้วยตัวเอง เพื่อที่จะบริจาคหัวใจให้วุ้นเย็น และตอนนี้เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้ง และภาวนาว่าให้ตื่นมาภพภูมิของความตาย แต่ทว่า!เธอกลับผิดหวังอย่างรุนแรง “โสภาคุณฟื้นแล้ว โอ้!ผมดีใจเหลือเกิน อย่าทำอะไรแบบนี้อีกนะ”วิชัยร้องขึ้นด้วยความดีใจ พร้อมกับโน้มตัวลงไปจุมพิตที่หน้าผากของโสภาเบา ๆ แต่อีกฝ่ายกลับผลักใบหน้าของเขาออกด้วยความไม่พอใจ “นี่ฉันยังอยู่เหรอ เพราะคุณใช่มั้ย ทำไม ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันตาย ฉันอยากตายเข้าใจมั้ยว่าฉันอยากตาย ฮือ...ฉันอยากตาย...ฮือ..หมอได้โปรดทำให้ฉันตาย แล้วเอาหัวใจของฉันไปให้ลูกสาวฉันด้วยเถิด...ฮือ...ฉันใช้ชีวิตมาพอแล้ว แต่ลูกของฉันเพิ่งได้ใช้เพียงไม่กี่ปีเอง...
ตอนที่60 ต้องกลับมาดูแลลูกนะ “แต่อะไรคะคุณหมอ” โสภาเอ่ยถามอย่างร้อนรนอาจารย์หมอถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล “แต่เรายื้อไว้ได้แค่ชั่วคราวเท่านั้นนะครับ เพราะต้องทำการปลูกถ่ายหัวใจภายในเจ็ดวัน หากไม่ได้รับการปลูกถ่ายหัวใจ เราก็คง....เอาเป็นว่าหมอจะพยายามจนสุดความสามารถก็แล้วกันนะครับ” “คุณหมอหมายความว่า...หากไม่มีผู้บริจาคหัวใจภายในเจ็ดวันนี้ลูกสาวของฉันก็จะไม่ตื่นขึ้นมาอีกแล้วใช่ไหมคะ” “ครับ ถ้ายังไงผมขอตัวเข้าไปดูแลคนไข้ก่อนนะครับ”อาจารย์หมอพูดจบก็เดินจากไป โสภาเซไปข้างหลังก้าวหนึ่ง วิชัยรีบพยุงไว้แล้วบีบไหล่บางเบา ๆ ก่อนจะปลอบด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นอ่อนโยน แม้จะรู้สึกใจหายไม่แพ้กันและยังนึกหาหนทางช่วยไม่เจอเลย &n
ตอนที่59 คิดว่าคงจะอาการหนักเมธัชล้วงหยิบมือถือออกมาจากระเป๋าสะพายของดุจดาว เมื่อเห็นว่าเป็นชื่อของโทนี่ เขาจึงกดรับสายทันที [เป็นอย่างไรบ้างครับพี่ดาว] น้ำเสียงของโทนี่ที่ดังมาตามสายมีความคล้ายคนเมาอยู่บ้าง “ดาวตกบันไดตอนนี้อยู่ในโรงพยาบาล” เมธัชกรอกเสียงบอกเบา ๆ แต่โทนี่ก็ได้ยินชัดเจน [ตกบันได? ตกได้อย่างไรแกกับวุ้นเย็นคู่ขาของแก รุมกันทำร้ายพี่ดาวแน่ ๆ ถ้าพี่ดาวไม่ไล่กูกลับมาก่อน ก็คงจะไม่ถูกทำร้ายแบบนี้] โทนี่โวยวายมาตามสาย เมธัชยืนนิ่งอยู่กับที่ สมองของเขามึนชาและงุนงง จนจับต้นชนปลายไม่ถูกแล้ว “นายพูดเรื่องอะไร ฉันทำร้ายอะไรดาวอย่ามากล่าวหากันมั่ว ๆ แล้วเกี่ยวอะไรกับวุ้นเย็น” เมธัชเอ่ยถามเสียงต่ำ [แกนั่นแหละมั่ว ต่อหน