ตอนที่58
ดาวตกบันไดลงมาใช่ไหม
“ดาว!”
เมธัชร้องสุดเสียงด้วยความตกใจสุดขีด ร่างสูงใหญ่พุ่งตัวเข้าไปหาร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น หัวใจของเขาพอชื้นขึ้นมาบ้าง เมื่อพบว่ายังมีลมหายใจแผ่วออกมาจากจมูกของดุจดาว เขาไม่รอช้าโทรเรียกรถพยาบาลทันที พร้อมกับเรียกชื่อของดุจดาวไม่หยุด ในตอนนั้นดุจดาวก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา ใบหน้าที่ซีดขาวเหยเกด้วยความเจ็บปวด เมธัชเห็นแล้วก็ร้องขึ้นด้วยความดีใจจนน้ำตาไหล
“ดาว! อย่าขยับตัวนะ ดาวตกบันไดลงมาใช่ไหม”
เมธัชพูดอย่างร้อนรน ในขณะที่ดุจดาวพยักหน้าเบา ๆ ริมฝีปากขาวซีดขยับช้า ๆ เหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง น้ำเสียงที่ผ่านออกมาก็แผ่วเบา จนเขาต้องก้มลงไปฟังใกล้ ๆ
“ช่วย...วุ้น....เย็น...ด้วย...ดาว...เจ็บ ฮึก..ทั้ง..ตัว” ดุจดาวพูดกระท่อนกระแท่น เพราะรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง เธอจำได้ว่าตกบันไดและหลับไปแล้ว แต่ได้ยินเสียงเรียกของเมธัชดังมาจากที่ไกล ๆ จึงลืมตาขึ้นอีกครั้ง เธอพยายามมองใบหน้าของเมธัชแต่พบว่ามันกลายเป็นภาพซ้อน จนรู้สึกคลื่นไส้อยากจะอาเจียน
เมธัชได้ยินดังนั้นจึงกวาดตามองไปรอบ ๆ แต่ก็ไม่เห็นวุ้นเย็น
มีเสียงฝีเท้าวิ่งตึก ๆ เข้ามาในบ้าน เขาจึงหันขวับไปมอง เพราะคิดว่าเป็นวุ้นเย็น แต่ปรากฏว่าเป็นแม่บ้านของเขาเอง
“เกิดอะไรขึ้นคะ ป้าได้ยินเสียงกรีดร้องดัง..อ้าวตายแล้ว คุณดาวตกบันไดหรือคะนั่น!” แม่บ้านร้องลั่นด้วยความตกใจ
“ผมเรียกรถพยาบาลแล้ว ป้าช่วยเก็บเอกสารที่ร่วงอยู่บนขั้นบันไดให้ทีนะ”
เมธัชออกคำสั่ง พร้อมกับชะเง้อมองออกไปหน้าบ้าน ด้วยท่าทีกระสับกระส่าย ในหัวของเขากังวลแต่เรื่องของดุจดาวจนลืมว่าดุจดาวบอกให้ช่วยวุ้นเย็น
“ได้ค่ะ ๆ” ป้าแม่บ้านรีบขึ้นบันไดไปเก็บเอกสารที่ร่วงอยู่ แต่แล้วสายตาก็พบเข้ากับร่างของวุ้นเย็นที่นอนหมดสติอยู่ชั้นบน
“ว๊าย! คะคุณวุ้นเย็นค่ะคุณธัช คุณวุ้นเย็นอยู่ที่นี่ค่ะ” ป้าแม่บ้านกรีดร้องด้วยความตกใจ พร้อมกับร้องเรียกเมธัชเสียงดัง ก่อนจะเข้าไปประคองร่างที่อ่อนปวกเปียกของวุ้นเย็นขึ้นมา และพบว่าใบหน้าของวุ้นเย็นนั้นซีดขาว แต่หัวใจกลับเต้นแรงและเร็วจนได้ยินอย่างชัดเจน
เมธัชใจหายวาบ อยากจะขึ้นไปดูวุ้นเย็น แต่ก็เป็นห่วงดุจดาว ที่ส่งเสียงครางเบา ๆ ด้วยความเจ็บปวด
แต่ไม่ทันที่จะได้ตัดสินใจทำอะไร รถพยาบาลก็แล่นเข้ามาจอดที่บ้านพอดี พร้อมกับเจ้าหน้าที่ขนอุปกรณ์ช่วยชีวิตเข้ามา
“ข้างบนยังมีอีกคนครับ เธอเป็นโรคหัวใจอยู่ด้วยครับคุณหมอ”
หมอพยักหน้า แล้วหันไปบอกให้นักศึกษาแพทย์และพยาบาลอีกสองคนขึ้นไปตรวจดูอาการของวุ้นเย็นนักศึกษาแพทย์ตรวจเช็คอาการเบื้องต้นก่อนจะร้องบอกเสียงดัง
“คนไข้หมดสติเพราะหัวใจและชีพจรเต้นเร็ว แล้วก็ความดันต่ำครับอาจารย์”
“รีบพาไปขึ้นรถ เดี๋ยวผมจัดการต่อเอง” อาจารย์หมอออกคำสั่ง ก่อนจะก้มลงตรวจอาการเบื้องต้นของดุจดาว และเมื่อพูดคุยสอบถามดุจดาวเริ่มพูดจาสับสน ส่องไฟดูดวงตาก็พบว่ารูม่านตาไม่เท่ากัน ดวงตาของหมอใต้กรอบแว่นเปลี่ยนเป็นนิ่งขรึม หัวคิ้วขมวดเล็กน้อยคล้ายกำลังประเมินสถานการณ์อย่างเร่งด่วน ก่อนจะเรียกทีมงานมา ยกร่างของดุจดาวใส่เปลอย่างระมัดระวัง แล้วพาขึ้นรถไปอย่างรวดเร็ว โดยมีเมธัชถือเอกสารของดุจดาวขึ้นรถไปด้วย
รถของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ทั้งกว้างและมีเครื่องมือกู้ชีพครบครัน เรียกว่าเป็นห้องฉุกเฉินขนาดเล็กก็ว่าได้ ทันทีที่ประตูรถปิดลง ภายในรถคันดังกล่าวก็ดูเหมือนจะโกลาหล เพราะทีมแพทย์ที่นำด้วยอาจารย์หมอและนักศึกษาแพทย์ปีสี่กำลังเร่งให้การช่วยเหลือดุจดาวกับวุ้นเย็นกันให้วุ่น เสียงร้องบอกตัวเลขต่าง ๆ ดังขึ้นเป็นระยะ พาให้หัวใจของเมธัชเต้นระทึก เขาทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นั่งอยู่ในมุมที่เจ้าหน้าที่จัดให้อยู่เงียบ ๆ
เขาถามตัวเองในใจว่าเป็นครั้งที่ร้อยว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมผู้หญิงที่เขารักมากทั้งสองคน ถึงตกอยู่ในอาการโคม่าพร้อมกันได้ เรื่องนี้คงต้องสอบถามป้าแม่บ้านอย่างละเอียด แม้ในตอนที่เขาไปถึงจะไม่มีแม่บ้านคนไหนอยู่ในบ้านเลยก็ตาม ซึ่งมันไม่ปกติ แต่คงต้องไว้ทีหลังเพราะตอนนี้เขาอยากรู้แค่ว่าหญิงสาวที่เขารักทั้งสองคนปลอดภัยดีแล้วแค่นั้น
“คุณดุจดาวอาเจียนสองครั้งแล้วค่ะอาจารย์”
นักศึกษาแพทย์ปีสี่ร้องบอกอาจารย์หมอ ที่กำลังฉีดยาเข้าเส้นเลือดให้กับวุ้นเย็นอยู่ฝั่งตรงกันข้าม อาจารย์หมอฉีดยาเสร็จก็หันมาตรวจดูอาการอยู่ครู่หนึ่ง สีหน้าของอาจารย์หมอเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก
“เตรียมCT ทันทีที่ไปถึงโรงพยาบาล เช็คการดิ้นของทารกในครรภ์ด้วย” อาจารย์หมอสั่งด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวลอย่าเห็นได้ชัดเจน จากนั้นก็หันมาทางด้านของวุ้นเย็นอีก สลับกันไปมาอย่างนั้นจนถึงโรงพยาบาล
เมธัชถูกกันให้รออยู่หน้าห้องฉุกเฉินเขาเดินไปเดินมาด้วยท่าทีกระสับกระส่าย สำหรับเขาวุ้นเย็นดูจะอาการแย่กว่าดุจดาว เพราะตอนที่หมอไปถึงนั้นดุจดาวยังมีสติพูดได้เป็นคำ ๆ แต่วุ้นเย็นหลับไหลไม่ได้สติเลย ในตอนนั้นเสียงมือถือของดุจดาวก็ดังขึ้น
ตอนที่63ความตายมันสบายเกินไปญาดาเล่ามาถึงตอนนี้ก็ร้องไห้โฮออกมาอีก ในขณะที่ภากรและเมธัชปล่อยให้น้ำตาไหลเงียบ ๆ ต่างรู้สึกเทิดทูนบูชาในน้ำใจอันประเสริฐของดุจดาว ที่คิดดีทำดีและมีจิตใจที่เข้มแข็ง กล้าหาญกว่าใครอีกหลายคนญาดาพยายาม ตั้งสติก่อนจะพูดต่อด้วยเสียงที่ปนสะอื้น “ตอนนั้นยายดาวพูดจนฉันและคุณภากรเข้าใจและยอมเซ็นเอกสารฉบับนี้ให้ แต่ไม่คิดเลยสักนิดว่าสุดท้ายยายดาวจะได้บริจาคหัวหัวใจให้หนูวุ้นจริง ๆ ฮือ...” ญาดาสะอื้นฮักออกมาอีกจนภากรต้องดึงมากอดไว้ ทั้งที่หัวใจของเขาก็แหลกสลายแล้วเช่นกัน “ถึงแม้ว่าจะมีเอกสารที่ชัดเจน แต่ทางโรงพยาบาลก็ต้องได้รับความยินยอมจากญาติอีกครั้งนะครับ หมอจะให้เวลาได้ตัดสินใจ แต่ก็ไม่ควนจะนานเกินไปนะครับ เพราะเมื่อสมองหยุดทำงานร่างกายก็จะค่อย ๆ หยุดการทำงานไปด้วยเช่นกัน ถึงตอนนั้นก็ไม่สามารถนำอวัยวะของคุณดุจดาวไปบริจาคเพื่อช่วยใครได้อีก ก็จะเป็นการขัดเจตจำนงค์ของเธอ”
ตอนที่63ความตายมาถึงเราในวันหนึ่งแน่นอน “บริจาคอวัยวะอย่างนั้นหรือ” เมธัชลืมตาขึ้น ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ เพราะเขาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน “ใช่ครับ เราตรวจสอบกับศูนย์รับบริจาค พบว่าเธอระบุชัดว่า หากเข้าสู่ภาวะสมองตาย ขอบริจาคอวัยวะทุกส่วนในร่างกายที่ยังสมบูรณ์ดีให้กับผู้ป่วยที่ต้องปลูกถ่ายอวัยวะ หมอได้ตรวจเช็คดูแล้วก็พบว่า มีตับกับไตหนึ่งข้างที่ยังสมบูรณ์แต่อีกข้างเสียหาย และหัวใจของเธอที่ยังแข็งแรงมากครับ”ห้องเงียบลงอีกครั้ง เหลือเพียงเสียงสะอื้นเบา ๆ“จุดประสงค์ของผู้บริจาคอวัยวะ คือการให้ที่ยิ่งใหญ่เป็นครั้งสุดท้าย และนี่คือเอกสารที่คุณดุจดาวได้ทำเอาไว้เมื่อสองปีก่อนครับ”อาจารย์หมอพูดจบก็ยื่นเอกสารที่เป็นรายละเอียดในการบริจาคอวัยวะ และลายเซ็นของดุจดาว ส่วนเอกสารอีกใบเป็นการบริจาคหัวใจที่ระบุชื่อของผู้รับบริจาคอย่างชัดเจน ทั้งยังมีลายเซ็นของภากรและญาดาเป็นพยานอีกด้วย รูม่านตาข
ตอนที่62ภรรยาของผมยังไม่ตายในที่สุดเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง เมื่อประตูห้องผ่าตัดเปิดออก หมอเดินเข้ามาพร้อมกับรถเข็ญ ที่มีเด็กทารกฝาแฝดหญิงชายส่งเสียงร้องไห้จ้าทั้งสามคนดีดตัวลุกขึ้นแล้วปรี่เข้าไปหาทันที ญาดาเห็นทารกแล้วก็ร้องไห้โฮออกมาอีก “หนู ๆ แข็งแรงดีนะคะ แต่เนื่องจากผ่าตัดคลอดก่อนกำหนด หมอจะพาหนู ๆ ไปเข้าตู้อบก่อนเพื่อความปลอดภัยค่ะ” หมอแจ้งด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ แต่สีหน้าเต็มไปด้วยความเหน็ดเหนื่อยอย่างเห็นได้ชัดเมธัชยืนมองทารกน้อยนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามหมอ โดยไม่ได้ละสายตาไปจากทารกน้อย “ภรรยาของผมเป็นอย่างไรบ้าง เธอดีขึ้นแล้วใช่ไหม ผมจะเข้าไปหาเธอได้หรือยัง” “ตอนนี้อาจารย์หมอกำลังทำการประเมินเพื่อที่จะทำการรักษาค่ะ ญาติสามารถสอบถามได้จากอาจารย์ได้เลยนะคะ อีกไม่ช้าคงออกมา ส่วนหมอต้องขอตัวพาหนู ๆ ไปดูแลก่อนนะคะ” หมอสาวพูดจบก็เดินจากไปพร้อมกับผู้ช่วยและทารกแฝดภากรประคองญาดากลับไป
ตอนที่61อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดโสภาลืมตาขึ้นช้า ๆ จำได้ว่าก่อนหน้านี้เธอเจ็บปวดทรมานอย่างหนัก ในท้องของเธอปวดแสบไปหมด หลังจากนั้นก็เหมือนมีอะไรสอดเข้าทางจมูก ในตอนนั้นมันคือความทรมานจนแทบจะขาดใจตายตาย? ใช่เธอเรียกร้องคำนี้ด้วยตัวเอง เพื่อที่จะบริจาคหัวใจให้วุ้นเย็น และตอนนี้เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้ง และภาวนาว่าให้ตื่นมาภพภูมิของความตาย แต่ทว่า!เธอกลับผิดหวังอย่างรุนแรง “โสภาคุณฟื้นแล้ว โอ้!ผมดีใจเหลือเกิน อย่าทำอะไรแบบนี้อีกนะ”วิชัยร้องขึ้นด้วยความดีใจ พร้อมกับโน้มตัวลงไปจุมพิตที่หน้าผากของโสภาเบา ๆ แต่อีกฝ่ายกลับผลักใบหน้าของเขาออกด้วยความไม่พอใจ “นี่ฉันยังอยู่เหรอ เพราะคุณใช่มั้ย ทำไม ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันตาย ฉันอยากตายเข้าใจมั้ยว่าฉันอยากตาย ฮือ...ฉันอยากตาย...ฮือ..หมอได้โปรดทำให้ฉันตาย แล้วเอาหัวใจของฉันไปให้ลูกสาวฉันด้วยเถิด...ฮือ...ฉันใช้ชีวิตมาพอแล้ว แต่ลูกของฉันเพิ่งได้ใช้เพียงไม่กี่ปีเอง...
ตอนที่60 ต้องกลับมาดูแลลูกนะ “แต่อะไรคะคุณหมอ” โสภาเอ่ยถามอย่างร้อนรนอาจารย์หมอถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล “แต่เรายื้อไว้ได้แค่ชั่วคราวเท่านั้นนะครับ เพราะต้องทำการปลูกถ่ายหัวใจภายในเจ็ดวัน หากไม่ได้รับการปลูกถ่ายหัวใจ เราก็คง....เอาเป็นว่าหมอจะพยายามจนสุดความสามารถก็แล้วกันนะครับ” “คุณหมอหมายความว่า...หากไม่มีผู้บริจาคหัวใจภายในเจ็ดวันนี้ลูกสาวของฉันก็จะไม่ตื่นขึ้นมาอีกแล้วใช่ไหมคะ” “ครับ ถ้ายังไงผมขอตัวเข้าไปดูแลคนไข้ก่อนนะครับ”อาจารย์หมอพูดจบก็เดินจากไป โสภาเซไปข้างหลังก้าวหนึ่ง วิชัยรีบพยุงไว้แล้วบีบไหล่บางเบา ๆ ก่อนจะปลอบด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นอ่อนโยน แม้จะรู้สึกใจหายไม่แพ้กันและยังนึกหาหนทางช่วยไม่เจอเลย &n
ตอนที่59 คิดว่าคงจะอาการหนักเมธัชล้วงหยิบมือถือออกมาจากระเป๋าสะพายของดุจดาว เมื่อเห็นว่าเป็นชื่อของโทนี่ เขาจึงกดรับสายทันที [เป็นอย่างไรบ้างครับพี่ดาว] น้ำเสียงของโทนี่ที่ดังมาตามสายมีความคล้ายคนเมาอยู่บ้าง “ดาวตกบันไดตอนนี้อยู่ในโรงพยาบาล” เมธัชกรอกเสียงบอกเบา ๆ แต่โทนี่ก็ได้ยินชัดเจน [ตกบันได? ตกได้อย่างไรแกกับวุ้นเย็นคู่ขาของแก รุมกันทำร้ายพี่ดาวแน่ ๆ ถ้าพี่ดาวไม่ไล่กูกลับมาก่อน ก็คงจะไม่ถูกทำร้ายแบบนี้] โทนี่โวยวายมาตามสาย เมธัชยืนนิ่งอยู่กับที่ สมองของเขามึนชาและงุนงง จนจับต้นชนปลายไม่ถูกแล้ว “นายพูดเรื่องอะไร ฉันทำร้ายอะไรดาวอย่ามากล่าวหากันมั่ว ๆ แล้วเกี่ยวอะไรกับวุ้นเย็น” เมธัชเอ่ยถามเสียงต่ำ [แกนั่นแหละมั่ว ต่อหน