Share

บทที่ 1336

Author: หว่านชิงอิ๋น
นางค่อย ๆ ทรุดตัวลงพิงประตูอย่างอ่อนแรง

รู้สึกเจ็บปวดใจยิ่งนัก

“อาถง...”

ลั่วชิงยวนเรียกด้วยน้ำเสียงกลั้นสะอื้น

เสียงเย็นชาของเวินซินถงดังขึ้นอีกด้านของประตู “อย่ามาเรียกแบบสนิทสนม”

“เจ้าไม่มีสิทธิ์”

ลั่วชิงยวนถามนางอย่างมิยอมแพ้ “เหตุใด?!”

เวินซินถงหัวเราะเยาะ “เหตุใดรึ? เจ้าถามคำถามนี้แล้วมิรู้สึกขบขันบ้างรึไร?”

“เป็นเจ้าเองที่มาถึงที่นี่ หากวันนี้ข้าจะสังหารเจ้าที่นี่ก็อย่ามาโทษข้าแล้วกัน”

ลั่วชิงยวนเจ็บแปลบที่หน้าอก หมอกสีขาวที่แผ่ซ่านเข้ามาทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกอึดอัด และหายใจมิออก

ในใจก็ยิ่งเจ็บปวดแสนสาหัส

นางมิอยากจะเชื่อเลยว่าเป็นเวินซินถง!

ในตอนที่นำเข็มทิศอาณัติสวรรค์ออกมา ลั่วชิงยวนก็เคยนึกสงสัยอยู่ครู่หนึ่ง

หรือว่าจะเป็นเวินซินถงที่สังหารนาง

ด้วยว่าหากนางต้องการตำแหน่งนักบวชระดับสูง การสังหารลั่วเหลาก็เป็นวิธีที่รวดเร็วที่สุด

แต่นางก็ยังเลือกที่จะเชื่อในสายสัมพันธ์ของศิษย์พี่ศิษย์น้อง

เลือกที่จะเชื่อเวินซินถง

แต่คาดมิถึงว่าเมื่อกลับมายังหอเทียนฉีอีกครั้ง กลับต้องเผชิญกับเหตุการณ์ในตอนที่นางตายในชาติที่แล้ว

“อาถง... เหตุใดเจ้าจึงเปลี่ยนไปเช่นนี้? เจ้าต้องกา
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Jitjumnong Sagaun
น่าเบื่อนิยายเรื่องนี้จริงๆแต่งให้นางเอกโง่ซ่ำซาก อยู่ได้
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1337

    นางรีบวิ่งเข้าไปซ่อนอย่างรวดเร็ว ที่นี่เป็นห้องลับจริง ๆ หลังประตูมีกลไกอยู่เมื่อหมุนกลไก ประตูหินก็ค่อย ๆ ปิดลงลั่วชิงยวนสังเกตเห็นว่า หมอกวิญญาณสามารถลอยเข้ามาได้ผ่านช่องว่างใต้ประตูหิน แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่นี่น่าจะปลอดภัยจากนั้นนางก็หันกลับมา ปรากฏว่าไฟในห้องลับสว่างไสวอยู่แล้วเมื่อนางหันไปเห็นภาพเบื้องหลัง ก็ต้องตกตะลึงเนื่องจากในห้องลับที่ว่างเปล่านี้มีเพียงพรมบนพื้นเท่านั้นนอกจากนี้ก็ไม่มีสิ่งใดทว่าบนพื้นยังมีรอยเลือดสีเข้มลั่วชิงยวนใจหายวาบ พลันรีบเข้าไปตรวจสอบดูพบว่าบนพื้นนี้มีรอยเลือดหลงเหลืออยู่ มีร่องรอยการลาก และบริเวณที่มีรอยเลือดมากที่สุดนั้นเห็นได้ชัดว่าเคยมีศพวางอยู่...ลั่วชิงยวนหายใจสะดุดนางตระหนักได้ในทันทีว่าการคาดเดาของนางนั้นถูกต้องแล้วหลังจากนางถูกสังหาร ศพก็ถูกลากเข้ามาในห้องลับ ดังนั้นเมื่อมีคนมาพบจึงไม่มีผู้ใดพบศพของนางรอจนคลื่นลมสงบ ศพของนางจึงถูกย้ายออกจากที่นี่มิรู้ว่าห้องลับของหอเทียนฉีแห่งนี้มีมาตั้งแต่เมื่อใดแต่ผู้ที่สามารถค้นพบสถานที่แห่งนี้ได้จะต้องเป็นคนของสำนักนักบวช!ก่อนหน้านี้นางมิอยากสงสัย แต่ถึงตอนนี้กลั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1338

    ท่าทางของเฉินชีราวกับจะสังหารได้แม้กระทั่งท่านนักบวชระดับสูงในใจของเวินซินถงเดือดดาล แต่ก็รู้ว่ามิอาจทำให้คนบ้าคลั่งอย่างเฉินชีขุ่นเคืองได้“ลั่วชิงยวน!” เฉินชีเดินเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว พลางเรียกชื่อของลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนในห้องลับได้ยินเสียงของเฉินชี ุจึงอดมิได้ที่จะตกตะลึงเล็กน้อยจากนั้นก็ลุกขึ้นยืน เปิดห้องลับแล้วเดินออกไปหมอกในห้องค่อย ๆ จางหายไป เฉินชีเห็นนางออกมาจากห้องลับก็ประหลาดใจเล็กน้อย“เจ้ามาได้อย่างไร...”“ข้ามิเป็นอะไร ไปกันเถิด”ลั่วชิงยวนก้าวเดินไปยังประตูเมื่อเวินซินถงเห็นนางออกมาพร้อมกับเฉินชี สีหน้าของนางก็บึ้งตึงในดวงตาเต็มไปด้วยความอาฆาตสายตาดุร้ายราวกับจะฉีกร่างลั่วชิงยวนออกเป็นชิ้น ๆเนื่องจากลั่วชิงยวนสูดดมหมอกวิญญาณเข้าไปมากจึงอ่อนแรง นางเดินเซจนเกือบจะล้มลงเฉินชีรีบเข้ามาประคองนางในทันทีเมื่อจับข้อมือของนาง แล้วรู้ถึงสภาพร่างกายของลั่วชิงยวนในยามนี้สายตาของเขาก็ฉายแววมุ่งสังหารในทันทีเขายกฝ่ามือตบเวินซินถงอย่างแรง เวินซินถงถูกพละกำลังนี้ตบจนเกือบจะล้มลงทว่ายังมิทันล้มลง มือของเฉินชีก็บีบคอของนางในทันที แล้วกดเวินซินถงไว้กับกำแพ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1339

    “นางบอกว่าเจ้ากับนักบวชระดับสูงเข้าไปในหอเทียนฉี ดูมิค่อยปกติ จึงได้มาบอกข้า”ลั่วชิงยวนพยักหน้าเป็นเช่นนั้นเองคราวนี้ต้องขอบคุณอวี๋โหรว“เจ้ากลับไปเถิด ข้าต้องการพักผ่อน”ลั่วชิงยวนปิดประตูห้องเฉินชียังมีเรื่องอยากพูด แต่ก็ติดอยู่ในลำคอ เมื่อเห็นประตูที่ปิดลง ในใจก็รู้สึกหนักอึ้งเล็กน้อยไฟในห้องดับลงในมิช้าเฉินชีมิได้จากไป เกรงว่าเวินซินถงจะมาหาเรื่องนางอีกนางสูดดมหมอกวิญญาณเข้าไปมาก คืนนี้จะต้องหลับใหลไปหลายชั่วยามเฉินชีมิวางใจ จึงเหาะขึ้นไปนั่งบนหลังคาเขานั่งเฝ้าอยู่ตลอดทั้งคืน......เมื่อลั่วชิงยวนล้มตัวลงนอนก็จมดิ่งสู่ห้วงนิทราแม้แต่ยามหลับก็ยังคงมิสบาย นางขดตัวอยู่ในมุมหนึ่งพลางกอดเข็มทิศอาณัติสวรรค์ไว้แน่นลั่วชิงยวนมิตื่นจนกระทั่งเกือบเที่ยงของวันรุ่งขึ้นยามราตรี เข็มทิศอาณัติสวรรค์ดูดซับพลังจากสุริยันจันทรา หมอกวิญญาณในร่างของลั่วชิงยวนจึงถูกเข็มทิศอาณัติสวรรค์ขับไล่จนค่อย ๆ สลายไปเมื่อตื่นขึ้นมา อวี๋โหรวก็มาหาพอดีทั้งยังถือยามาให้ด้วย“เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง? ข้าต้มยามาให้แล้ว รีบกินเสียสิ”ลั่วชิงยวนรับชามยามากินไปหนึ่งอึก พลันตกตะลึงเล็กน้อย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1340

    ทันใดนั้น ลั่วชิงยวนใจหายวาบ“มู่หยวนหยวน?!” โฉวสือชีร้องออกมาเขาจำได้ในทันทีทั้งสามรีบไปยังริมแม่น้ำ โฉวสือชีรีบกระโดดลงไปในน้ำเพื่อนำศพขึ้นมามีบาดแผลฉกรรจ์ที่หน้าอก แทงทะลุร่างศพดูเหมือนเกิดจากกระบี่ยาว แต่ก็มิสามารถบอกได้ว่าเป็นกระบี่ชนิดใด ดูเหมือนจะเป็นกระบี่ธรรมดาทั่วไป“เหมือนว่าเพิ่งตายไปเมื่อมิกี่ชั่วยาม” โฉวสือชีสีหน้าเคร่งขรึม“หากรู้เช่นนี้ ข้าก็ควรจะรีบมาหานาง บางทีอาจจะช่วยเหลือนางได้”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วมุ่น อดมิได้ที่จะนึกถึงตอนที่ออกจากเมืองแล้วพบเวินซินถงที่กำลังกลับมาเวินซินถงก็ออกจากวังเมื่อคืน หรือว่าจะเป็นนางที่สังหารมู่หยวนหยวน?เมื่อนึกถึงตรงนี้ ลั่วชิงยวนก็รู้สึกอึดอัดใจรีบวาดยันต์รวมวิญญาณ ทว่ากลับมิสามารถรวมวิญญาณของมู่หยวนหยวนได้ เพราะวิญญาณของนางมิอยู่แล้ว!สีหน้าของลั่วชิงยวนเปลี่ยนไปจากนั้นก็รีบนำเข็มทิศอาณัติสวรรค์ออกมาคำนวณเส้นทางปรากฏขึ้นบนกระจกสุริยันจันทราลั่วชิงยวนเตรียมตัวออกเดินทางในทันที“โฉวสือชี เจ้าจัดการฝังศพของมู่หยวนหยวนเสีย ข้าจะไปตามหาวิญญาณของมู่หยวนหยวนก่อน”โฉวสือชีพยักหน้า “ระวังตัวด้วย”จากนั้นลั่วชิงยวนก็ขี

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1341

    ขณะที่นางกำลังจะลงมือ อวี๋โหรวก็ดึงแขนเสื้อของนางไว้ ส่งสัญญาณให้นางหันกลับไปมองลั่วชิงยวนหันกลับไป จึงเห็นว่าบนหลังคาและด้านหลังวิหารมีศีรษะคนโผล่ออกมากำลังจ้องมองพวกนางอย่างดุร้ายลั่วชิงยวนประหลาดใจ ตอนนี้คนของหุบเขามังกรดำมารวมตัวกันแล้วหรือ?นางจึงข่มโทสะไว้ แล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชา “เจ้าทำให้สหายของข้ากลายเป็นธูปวิญญาณ!”อวี๋เซียจื่อได้ฟังก็ประหลาดใจเล็กน้อย “สหายของเจ้ารึ? ข้ามิรู้จัก”“ข้า อวี๋เซียจื่อ มิเคยนำคนที่เพิ่งตายมาทำธูปวิญญาณ แต่ครั้งนี้เป็นข้อยกเว้น มิคาดคิดว่าจะจับสหายของเจ้ามา”“ขออภัยด้วย”ลั่วชิงยวนกำมือแน่น “ข้าอยากรู้ว่าผู้ใดสังหารนาง! เหตุใดวิญญาณของนางจึงมาอยู่ที่นี่”“ผู้ใดต้องการธูปวิญญาณเหล่านี้?”ลั่วชิงยวนมองธูปวิญญาณที่วางอยู่บนโต๊ะด้วยอารมณ์ซับซ้อนเมื่อคืนนางได้เห็นสิ่งนี้ อวี๋เซียจื่อก็เกรงว่าตนจะเดือดร้อน จึงบอกตามความจริง “มีคนมาสั่งธูปวิญญาณจำนวนมากกับข้า แต่ข้าเป็นคนตาบอด ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นผู้ใด”“บุรุษหรือสตรีก็ต้องแยกแยะได้!”อวี๋เซียจื่อจึงกล่าว “เป็นสตรี”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว สตรี!นางนึกถึงเวินซินถงในทันที!“เมื่อคืนส

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1342

    “ลั่วชิงยวน!” อวี๋โหรวร้องเรียกนางรีบพุ่งเข้าไปประคองลั่วชิงยวนที่ล้มลงไอสีดำสายหนึ่งก่อตัวขึ้นที่หว่างคิ้วของลั่วชิงยวน อวี๋โหรวตื่นตระหนก พลิกตัวขึ้นหลังม้าพาลั่วชิงยวนกลับไปยังเมืองหลวงด้วยกันอย่างรวดเร็วยังมิทันถึงเมืองหลวง ลั่วชิงยวนก็ตัวร้อนจัดอวี๋โหรวคาดมิถึงว่าในธูปวิญญาณจะยังมีกับดักลอบทำร้ายลั่วชิงยวนอวี๋โหรวไม่มีเวลากลับวัง จึงได้แต่พาลั่วชิงยวนไปยังจวนของเฉินชีคนในจวนพาลั่วชิงยวนเข้าไปในห้อง ขณะเดียวกันก็มีคนออกไปตามเฉินชีอวี๋โหรวเฝ้าอยู่ข้างเตียง เปิดเปลือกตาของลั่วชิงยวนเพื่อตรวจสอบว่าดวงตาขุ่นมัวหรือไม่ ทั้งจับชีพจร ทั้งสัมผัสลำคอตอนนี้เฉินชีกระโจนเข้ามาในห้องด้วยความร้อนใจ“เกิดเรื่องอันใดขึ้น? ลั่วชิงยวนเป็นกระไร?”อวี๋โหรวมีสีหน้าเคร่งขรึม “พวกเราไปตามหามู่หยวนหยวน ผลปรากฏว่ามู่หยวนหยวนถูกทำให้กลายเป็นธูปวิญญาณ ในธูปวิญญาณนี้กลับซ่อนกลิ่นอายชั่วร้ายไว้ มันลอบทำร้ายลั่วชิงยวน”“คาดมิถึงว่ากลิ่นอายนี้จะแข็งแกร่งจนร่างกายของลั่วชิงยวนทนมิไหว นางตัวร้อนมาก”“หากมิสามารถขับไล่พลังชั่วร้ายนี้ออกไปได้โดยเร็ว เกรงว่าจะต้องนอนซมอยู่บนเตียงหลายเดือน”“ข้าจะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1343

    นางรินเพิ่มอีกหนึ่งถ้วยแล้วดื่มรวดเดียวก็ยังเหมือนเดิมมิรู้สึกเปลี่ยนแปลงอะไรเมื่อดื่มชาไปถึงสี่ถ้วยติดต่อกัน นางก็เริ่มร้อนใจเมื่อดื่มถ้วยสุดท้ายไปครึ่งถ้วยจึงยกขึ้นมาดู ปรากฏว่าในถ้วยมิใช่ชา แต่เป็นโลหิต...โลหิตสีแดงสดลั่วชิงยวนตัวสั่นสะท้าน ถ้วยในมือร่วงหล่นในทันทีทันใดนั้นเอง ลมก็พัดเปิดประตูห้องอย่างแรงร่างที่กระบี่ปักคาอยู่ตรงหน้าอกปรากฏขึ้นหน้าประตูลมยามราตรีพัดผมสีดำขลับของนาง ใบหน้าที่ซีดเผือดนั้นเปื้อนโลหิตมู่หยวนหยวน!ลั่วชิงยวนใจหายวาบครู่ต่อมา มู่หยวนหยวนก็จับกระบี่ที่ปักอยู่ตรงหน้าอก แล้วค่อย ๆ ดึงออกเลือดสีแดงฉานพรั่งพรูออกมานางดึงกระบี่ออกแล้วกระโจนเข้ามาแทงลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนรีบหลบหลีก แต่มิรู้เหตุใดร่างกายกลับอ่อนแอ ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงจะตอบโต้นางพยายามหลบด้วยความตื่นตระหนก รีบวิ่งไปยังประตูห้องแต่ทั่วทั้งหล้ากลับมืดมิด มิว่านางจะวิ่งไปที่ใดก็ล้วนมีแต่ความมืด มีเพียงร่างที่ถือกระบี่ไล่ตามนางด้านหลังเท่านั้นที่ยังคงอยู่......แสงตะวันยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้อง ขับไล่กลิ่นอายชั่วร้ายที่หว่างคิ้วของลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนสะดุ้งตื่นขึ้นในทันท

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1344

    “แน่นอนว่า... ไม่” ลั่วชิงยวนเลิกคิ้ว มิลังเลแม้แต่น้อยเฉินชีก็มิประหลาดใจ เพียงแค่พยักหน้าแล้วกล่าวด้วยรอบยิ้ม “มิสำคัญหรอก ข้าจริงใจต่อเจ้าก็เพียงพอแล้ว”“หากเจ้าจริงใจต่อข้าก็ไม่มีความหมาย”“ข้าชอบสิ่งที่มีความท้าทาย”รอยยิ้มของเฉินชีเย็นชาจนทำให้คนเห็นรู้สึกหนาวสันหลัง“เจ้าออกไปเถิด ข้าอยากพักผ่อน” ลั่วชิงยวนเริ่มเวียนหัวขึ้นมาอีกแล้ว มิต้องการเสียเวลาพูดคุยกับเขาเฉินชีจึงออกจากห้องไปครู่ต่อมา ประตูก็ถูกผลักเปิดออกอีกครั้ง ลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงมิสบอารมณ์ “ข้าบอกว่าต้องการพักผ่อนมิใช่หรือ?”“ข้าเอง” หลานจียืนอยู่ที่หน้าประตู สีหน้าหม่นหมองเล็กน้อยลั่วชิงยวนหันกลับไปมอง “เข้ามาเถิด”หลานจีถือยาเข้ามา แล้วกล่าวว่า “นี่คือยาที่แม่นางอวี๋ให้ข้านำมาให้”ลั่วชิงยวนรับชามยามา เมื่อตรวจสอบแล้วว่ายาไม่มีปัญหาจึงยกขึ้นกินหลังจากกินเสร็จ หลานจีก็รับชามเปล่ามาแล้วหันหลังเดินออกไปโดยมิเอ่ยคำใดลั่วชิงยวนกินยาเสร็จก็หลับสนิทอีกครั้งขณะที่ยังรู้สึกมึนงง ดูเหมือนว่าระหว่างนั้นจะมีคนเข้ามาในห้องแต่ลั่วชิงยวนไม่มีแรงที่จะลืมตาจนกระทั่งฟ้ามืด จู่ ๆ ลั่วชิงยวนก็รู้สึกร้อนรุ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status