Share

บทที่ 285  

Penulis: ฉินอันอัน
ขอบฟ้าเริ่มสว่างรำไร ดวงตะวันสีทองเคลื่อนขึ้นจากปลายฟ้า มอบความอบอุ่นให้ยามเช้าที่ชุ่มไปด้วยหยาดน้ำค้าง

ทว่าเวลานี้พวกเหล่าจ้าวกลับไม่รู้สึกถึงความอบอุ่นแม้แต่น้อย พวกเขาทุกคนตั้งท่าระวังภัยอย่างเคร่งเครียด ยกอาวุธในมือขึ้นอย่างพร้อมเพรียง

กระทั่งเห็นศีรษะโผล่ออกมาจากซอกเขา

เหล่าจ้าวก็ผงะไป

เซียวอวิ๋นถิงกลับพุ่งลงจากเนินเขาทันที และโยนซองธนูในมือทิ้งไปให้เหล่าจ้าว ก็สาวเท้าวิ่งตรงไปหาชีหยวนทันที

เสี้ยวพริบตานั้น เซียวอวิ๋นถิงอธิบายความรู้สึกภายในใจของตนเองไม่ถูก

ทว่าความตื่นเต้นในน้ำเสียงของเขานั้นปิดไม่มิด

“เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” เขามองชีหยวน แทบจำไม่ได้ว่าคนมอมแมมตรงหน้าตอนนี้ก็คือชีหยวน

ชีหยวนสะบัดศีรษะ ไล่น้ำค้างที่เกาะอยู่ออกไป พอได้ยินเช่นนั้นก็ยิงฟันใส่เซียวอวิ๋นถิงไปหนึ่งที: “กำลังเดินทางกลับเมืองหลวง แต่ก็อยากแวะมาดูสถานการณ์ที่นี่สักหน่อย”

ดูอะไร?

เซียวอวิ๋นถิงแทบจะเข้าใจในทันที: “อยากดูว่าคนสกุลหลิ่วค้นพบแล้วหรือยังอย่างนั้นหรือ?”

ชีหยวนผงกศีรษะ พลางปัดมือเพื่อเอาเศษดินโคลนที่ติดอยู่บนมือออกไป ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่ยี่หระ: “หลุมข้างล่างถูกคนรื้อไปแล้ว
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 286  

    คนอย่างชีหยวนรู้จักกลัวอะไรบ้าง? เขานวดใบหน้าของตนเองที่เริ่มแข็งทื่อไป พลางส่งเสียงเฮอะออกมาแล้วถึงจะเอ่ยขึ้นว่า: “หากเป็นอย่างที่เจ้าว่า บัดนี้อ๋องฉีได้รับบาดเจ็บและกำลังเดินทางกลับเมืองหลวง เช่นนั้นเจ้าต้องระวังตัวให้ดี เขากลับเมืองหลวงไปได้อย่างปลอดภัย ย่อมปกปิดเรื่องที่เขาแอบหนีออกจากเมืองหลวงได้เป็นธรรมดา ทว่าความแค้นของพวกเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยที่มีต่อเจ้ามีแต่จะยิ่งเพิ่มขึ้น” ชีหยวนเปล่งเสียงอืมออกมาอย่างไม่ใส่ใจ: “ใช่ ฉะนั้นข้าจึงต้องรีบกลับเมืองหลวง หากว่าข้าไม่ได้อยู่ที่เมืองหลวง พวกเขาจะจัดการข้าได้ง่ายขึ้น” เดิมทีนางก็ควรเป็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์ที่อาศัยใช้ชีวิตอยู่ในจวนโหว ..... ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด พออยู่กับชีหยวนแล้ว บทสนทนามักจะจบลงเร็วเสมอ คงจะเป็นเพราะนางพูดน้อยเกินไปกระมัง มีอะไรก็จะพูดแค่นั้นตลอดมา ไม่เคยใช้คำพูดเยิ่นเย้อฟุ่มเฟือย เซียวอวิ๋นถิงมองนางด้วยสายตาลุ่มลึก: “หลังจากนี้มีแผนการอะไรหรือ? บัดนี้เจ้ามีศัตรูอยู่รอบด้าน” “คอยดูสถานการณ์ เดินทีละก้าว” ชีหยวนตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ “ใครกล้าโผล่ออกมาก่อนก็จัดการคนนั้นก่อน” ถึงอย่างไรหากคนอื่นไม่ตายก็ต้

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 287  

    แม้จะเจ็บปวดใจกับเรื่องของบุตรชาย และเรื่องที่องครักษ์ลับถูกกำจัดก็ชวนให้หงุดหงิดใจมากเช่นกัน ทว่าสำหรับสกุลหลิ่วแล้ว ไม่มีสิ่งใดสำคัญและเร่งด่วนไปมากกว่าอ๋องฉี อย่างน้อยที่สุดอ๋องฉีก็กลับมาได้อย่างปลอดภัยแล้ว! ฉู่กั๋วกงสูดหายใจลึก ก่อนจะเปล่งเสียงรับคำเบา ๆวางฝ่ามือบนห่อผ้า พร้อมหลับตาลงด้วยสีหน้าโศกเศร้าเพียงชั่วขณะ จากนั้นถึงจะส่งห่อผ้าให้คนสนิท: “นำสิ่งนี้ไปให้ฮูหยิน บอกให้ฮูหยินคอยข้ากลับมาก่อนค่อยหารือกัน” จะยอมให้บุตรชายของเขาจะตายอย่างคลุมเครือ และถูกฝังร่างไปอย่างน่าสมเพชเช่นนี้ไม่ได้เป็นอันขาด คนสนิทรับคำด้วยความยำเกรง ฉู่กั๋วกงก็มิได้อ้อยอิ่งรีบรุดไปที่จวนอ๋องฉีทันที ครั้นเขามาในจวนอ๋องฉีแล้ว หัวใจของเขาพลันกระตุกวูบ เพราะแม้แต่ขันทีสวีที่หนักแน่นสุขุมมาตั้งแต่ไหนแต่ไรยังควบคุมร่างกายไว้ไม่อยู่ยืนตัวสั่นเทิ้มอยู่หน้าประตูแบบนี้เป็นครั้งแรก เขาเร่งฝีเท้าเข้าไปถามไถ่ทันที: “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?! ท่านอ๋องเป็นอย่างไรบ้าง?” ขณะเดียวกันเขาพลันรู้สึกจุกแน่นในอกจนแทบหายใจไม่ออก คงมิได้เกิดเหตุร้ายขึ้นอีกแล้ว? สีหน้าของขันทีสวีบัดนี้ยากเกินจะอธิบาย เขาลืมแม้ก

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 288  

    เขารู้ดีว่าความหงุดหงิดของอ๋องฉีในยามนี้ย่อมมีสาเหตุมาจากความกังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของตนเอง หากว่าเกิดปัญหาจริงและรักษาไม่หายแล้ว… เขาไม่กล้าคิดเลยว่าจะมีโทษทัณฑ์แบบใดตกใส่ตัวพวกเขาบ้าง ฉู่กั๋วกงยื่นมือไปกดอ๋องฉีไว้ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ: “ท่านอ๋องอย่าเพิ่งร้อนใจ ข้าส่งคนไปเชิญหมอเทวดาเซวียมาแล้ว เขาจะต้องมีหนทางแน่” ได้ยินฉู่กั๋วกงเอ่ยเช่นนี้ ความกังวลภายในใจของอ๋องฉีถึงจะคลายลงไปบ้าง เขาเงยศีรษะขึ้นมองฉู่กั๋วกง: “ท่านตา ข้าไม่เจอตัวพระชายาหลิ่ว” ยิ่งเจ็บปวด ความโกรธแค้นในใจของอ๋องฉีก็ยิ่งทวีคูณ ขณะเดียวกันก็คิดถึงเป้าหมายสำคัญขึ้นมาได้ เขาไล่ตามชีหยวนออกไป เดิมก็เพื่อไปหาพระชายาหลิ่ว ผลสุดท้ายชีหยวนเพียงแค่ล่อเขาออกไปและหายตัวไปชั่วขณะหนึ่ง ชั่วขณะนั้น ไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วชีหยวนไปที่ใด และได้ไปพบพระชายาหลิ่วแล้วหรือไม่? ตามแผนการเดิมของเขา ตั้งใจจะใช้สกุลเซี่ยเป็นตัวประกันข่มขู่ให้ชีหยวนส่งตัวพระชายาหลิ่วมาก น่าเสียดายนางผู้หญิงคนนั้นเจ้าเล่ห์เหมือนจิ้งจอก ถึงขั้นสังหารพวกโจวเสี่ยวเผิงอย่างไร้ความปรานี มิหนำซ้ำยังโยนความผิดให้พวกโจรป่า ด้วยเหตุนี

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 289  

    เขาขมวดคิ้วแน่นยืนรออยู่ที่ระเบียงทางเดินด้านนอกตามความต้องการของหมอเทวดาเซวีย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมาแล่นเข้าสมองอย่างรวดเร็วราวกับภาพยามควบอาชาชมบุปผา สรุปแล้ว เรื่องราวทั้งหมดล้วนเกี่ยวข้องกับชีหยวนทั้งสิ้น หัวใจด้านซ้ายของเขาพลันเต้นผิดจังหวะไปหนึ่งครั้ง เสี้ยวพริบตาเดียวเลือดลมในตัวพลันเดือดพล่าน นานครู่ใหญ่ถึงจะสามารถข่มอารมณ์นั้นไว้ได้ ขณะเดียวกันความคิดหนึ่งก็แล่นเข้ามาในสมอง หลังจากหมอเทวดาเซวียสาละวนกับหน้าที่ตนเองอยู่ด้านในพักใหญ่ ก็เรียกให้ฉู่กั๋วกงเข้าไปด้านใน บัดนี้ภายในห้องถูกเก็บกวาดเรียบร้อยแล้ว อุปกรณ์ต่าง ๆ รวมทั้งผ้าพันแผลชุ่มเลือดและอ่างน้ำล้วนถูกยกออกไปหมดแล้ว บนโต๊ะมีกำยานกลิ่นดอกไป๋เหอถูกจุดไว้ ทำให้ทั้งห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมสดชื่น ทว่าฉู่กั๋วกงมิอาจดื่มด่ำกับบรรยากาศได้ เขากระชากข้อมือหมอเทวดาเซวียขึ้นมาพลางถามด้วยความเคร่งเครียด: “ตกลงเป็นอย่างไรบ้าง?” อ๋องฉีเป็นพระโอรสที่ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้หย่งชางมากที่สุด ตอนเยาว์วัยยังเคยถูกฮ่องเต้หย่งชางอุ้มขึ้นมานั่งตักและพาเข้าสภาขุนนางด้วย และด้วยเหตุผลนี้ ฐานะของเขาในสายตา

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 290  

    หัวไหล่ของอ๋องฉีถูกเขย่าแบบนั้น โลหิตพลันไหลทะลักออกมาอีกครั้ง ฉู่กั๋วกงรีบปล่อยมือออก ประคองอ๋องฉีไปนั่งบนตั่ง เห็นสภาพอ๋องฉีแล้ว ภายในใจของฉู่กั๋วกงเองก็เจ็บปวดแทบขาดใจ เขาลูบไหล่อ๋องฉีเบา ๆ : “ท่านอ๋องไม่ต้องรีบร้อน กระหม่อมจะช่วยสะสางหนี้แค้นนี้ให้ท่านเดี๋ยวนี้” อ๋องฉีเงยหน้ามองเขา ในที่สุดก็พอจะมีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง: “จะล้างแค้นอย่างไร?” ฉู่กั๋วกงกระตุกมุมปากขึ้นอย่างเยือกเย็น: “ประเดี๋ยวท่านก็จะได้ทราบเอง” บัดนี้แน่นอนว่าชีหยวนย่อมไม่ทราบเรื่องราวระหว่างอ๋องฉีและฉู่กั๋วกง แม้นางจะไม่รู้ แต่ก็พอจะเดาได้ไม่ยาก คนเหล่านี้ล้วนแต่เป็นคนที่สามารถตัดสินความเป็นความตายของคนอื่นได้ แต่ไม่ยอมให้คนอื่นมาแต่ต้องพวกตนอย่างเด็ดขาด บัดนี้พวกเขาเสียท่าไปตั้งขนาดนี้ ต้องกำลังรวมหัวกันคิดหาหนทางสังหารนางอยู่แน่ เซียวอวิ๋นถิงมาส่งนางถึงหน้าประตูจวนโหว เห็นนางดูไม่รู้จักตื่นตระหนกแม้แต่น้อย ก็รู้สึกเหลืออดขึ้นมาหน่อย ๆ : “เจ้าไม่มีอะไรจะพูดกับข้าสักคำจริงหรือ?” ล่วงเกินคนไว้ตั้งมากมายเพียงนั้น ออกไปครั้งเดียว ก็ลวงหลิ่วจิงหงไปสังหาร ทำให้อ๋องฉีบาดเจ็บสาหัส มิหนำซ้ำยังกวาดล้าง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 291

    ท่านโหวผู้เฒ่ารออยู่ในเรือนหมิงเยว่ของชีหยวนมาโดยตลอดเมื่อครั้งชีหยวนออกไป ต้นไห่ถางกลางลานยังเปลือยเปล่าปราศจากใบเขียว แต่บัดนี้กลับผลิใบอ่อนออกมาแล้วเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเลื่อนลอยพริบตาเดียว ชีหยวนคืนมาได้เกือบสามเดือนแล้วในสามเดือนนี้ มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายเหลือเกินเขาตั้งสติให้มั่น พอเห็นไป๋จื่อออกมา เขาก็สูดหายใจเข้าลึก เอ่ยถามว่า “คุณหนูใหญ่ล้างหน้าล้างตาเสร็จแล้วหรือ?”ตอนที่ชีหยวนกลับมานั้นแลดูเหมือนคนเถื่อน ผู้ใดจะเชื่อว่านางคือบุตรสาวคนโตแห่งจวนโหว?คนที่ไม่รู้เห็นแล้วคงคิดว่าเพิ่งไปขุดถ่านจากซีเป่ยกลับมาฮูหยินผู้เฒ่าไอขึ้นมาคราหนึ่ง รีบตบแขนท่านโหวผู้เฒ่าเบา ๆ พลางถลึงตาใส่เขาไป๋จื่อแย้มยิ้มเปี่ยมสุขนับแต่ติดตามชีหยวนมา นางก็ได้ใช้ชีวิตอันสุขสบายเกินกว่าที่เคยนึกฝันสาวใช้ที่ออกจากเรือนหมิงเยว่ ยามอยู่ในจวนโหวก็ไม่มีผู้ใดกล้ารังแกแต่ก่อนบรรดาเจ้านายที่ไม่คิดจะเสียเวลามองพวกนาง บัดนี้กลับมีท่าทีอ่อนโยนลงถนัดตาโชควาสนานั้นเลี้ยงบำรุงผู้คนได้จริง ๆ ยามนี้นางเปี่ยมล้นด้วยพลังชีวิต นางยิ้มเบิกบานพลางขานรับว่า “คุณหนูใหญ่เชิญท่านโหวผู้เฒ่ากับฮูหยินผู้เฒ่

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 292

    จะจัดการเช่นใดเล่า?หลิ่วจิงหงเป็นทายาทแห่งจวนฉู่กั๋วกง อีกทั้งยังเป็นผู้สืบทอดที่โดดเด่นที่สุดของจวนบัดนี้ เขาสิ้นชีพแล้ว ส่วนอ๋องฉียังบาดเจ็บสาหัส จวนฉู่กั๋วกงย่อมบ้าคลั่งเป็นแน่ท่านโหวผู้เฒ่ากดมือฮูหยินผู้เฒ่าไว้ มองนางคราหนึ่งเป็นเชิงห้ามปรามไม่ให้กล่าวมากความแล้วจึงเอ่ยขึ้นอย่างมั่นคงว่า “การช่วงชิงอำนาจ ล้วนแย่งชิงกันด้วยชีวิตอยู่แล้ว”แม้จะกล่าวเช่นนั้น แต่ชาในถ้วยของท่านโหวผู้เฒ่ากลับหมดแล้ว ทว่าเขายังคงยกขึ้นแตะริมฝีปากจิบราวกับยังมีอยู่ ก่อนจะวางลงด้วยสีหน้าราบเรียบจากนั้นจึงหันไปมองชีหยวน เอ่ยว่า “แต่ว่า สิ่งที่ย่าของเจ้าคิดก็ถูกแล้ว แม่หนูหยวน เจ้าทำให้ฟ้าทะลุเป็นโพรงแล้ว ต่อจากนี้คงมิพ้นภัยพิบัติอันยิ่งใหญ่”ชีหยวนรับคำเสียงเบา ก่อนจะกล่าวว่า “ทุกสิ่งที่ข้ากระทำล้วนอยู่ในเงามืด หลิ่วจิงหงและอ๋องฉี พวกเขาทั้งสองล้วนเลี้ยงดูหน่วยกล้าตาย นั่นคือโทษทัณฑ์ประหารเก้าชั่วโคตร ชีวิตของข้าไร้ค่า ทว่าพวกเขากลับหวงแหนชีวิตนัก ดังนั้นไม่ต้องกลัวไปหรอกเจ้าค่ะ ในที่แจ้งพวกเขาย่อมมิกล้าทำอันใดข้า”กล่าวคือ การลงทัณฑ์ทางกฎหมายนั้น อย่าคิดเลยว่าจะใช้กับนางได้ผลหาไม่แล้ว ต่อให้

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 293

    ฉู่กั๋วกงลูบหลังมือของภรรยา แล้วหัวเราะเบา ๆ ก่อนเอ่ยว่า “การแต่งงาน”แต่งงานหรือ?ฉู่กั๋วกงฮูหยินชะงักงัน มองสามีอย่างไม่อยากเชื่อสายตาสามีนางโกรธจนเสียสติไปแล้วหรือไร?หญิงสาวคนนั้นเพิ่งสังหารบุตรชายของพวกเขาไป ยังทำให้อ๋องฉีบาดเจ็บสาหัส แล้วบัดนี้ เขาจะไปสู่ขอชีหยวนหรือ?!พอเห็นสีหน้าของฮูหยิน ฉู่กั๋วกงก็รู้ว่านางคิดเลยเถิดไปเสียแล้ว อดไม่ได้ที่จะแย้มยิ้มบางเบา “ฮูหยิน บางครั้งการแต่งงานก็ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป”เขากล่าว จากนั้นก็กระซิบสองสามประโยคข้างหูฉู่กั๋วกงฮูหยินสีหน้าของฮูหยินฉู่กั๋วกงเดี๋ยวแดงก่ำ เดี๋ยวเขียวคล้ำ สุดท้ายในดวงตาก็เต็มไปด้วยความเคียดแค้น “ดี!”นางเอ่ยพูด ดวงตาก็ยังคงแดงก่ำ “แต่ว่าท่านกั๋วกง บุตรชายของเราเล่า... บุตรชายของเราจะทำเช่นไร?”จะล้างแค้นอย่างไร คนที่ตายไปแล้วก็มิอาจฟื้นคืนชีพต่อให้ชีหยวนตายหมื่นครั้ง ก็ไม่อาจทดแทนบุตรชายของนางได้แม้เพียงปลายเล็บเมื่อกล่าวถึงบุตรชาย ฉู่กั๋วกงเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กันหลายคืนที่ผ่านมา ยามเขาหลับตานอนก็หวาดหวั่นใจนัก ได้ยินเสียงร้องโหยหวนและฝันเห็นสภาพน่าเวทนาของของบุตรชายแต่ยิ่งเป็นเช่นนั้น เขากลับยิ่งต้องรั

Bab terbaru

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 510

    พระที่ถูกจี้ด้วยธูปร้องเสียงหลงกลางป่าเขาที่เงียบสงัด เสียงกรีดร้องของพระรูปนั้นดังสนั่นแทบทะลุทะลวงเมฆบนฟ้าพระรูปอื่น ๆ ต่างก็ตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พอเห็นชีหยวนก็พากันทำหน้าเหมือนเห็นผีนี่ผีหรือ หญิงสาวผู้นี้ ไฉนถึงออกมาได้อย่างปลอดภัย?!ไม่น่าเชื่อว่าฉือซานจะไม่ลงมือกับหญิงสาวที่งดงามขนาดนี้?!แต่พวกเขาไม่มีเวลาคิดหาคำตอบอีกต่อไปแล้ว เพราะชีหยวนได้ชักกระบี่อ่อนจากเอวออกมาใช้วรยุทธ์ของนางเพื่อฆ่าสวะพวกนี้ถือเป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตนโดยแท้ เวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป พระสิบกว่ารูปก็ตายหมดจิ้งคงถึงกับอึ้งงันเขาขดตัวเป็นก้อน ยื่นมือออกมาบังอย่างขลาดกลัว “อย่านะ อย่า อย่าสังหารข้า อย่าสังหารข้าเลย!”ชีหยวนเก็บกระบี่อ่อนไป เอ่ยถามเสียงขรึม “ลุกขึ้นเองไหวหรือไม่?”จิ้งคงถึงเพิ่งรู้ว่าชีหยวนไม่มีเจตนาจะฆ่าเขา เขาฝืนรับคำ แล้วค่อย ๆ ยันกายลุกขึ้นจากพื้น แล้วมองไปที่ชีหยวนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ลังเลชีหยวนเอ่ยถามเขาตรง ๆ ไม่อ้อมค้อม “รู้หรือไม่ว่าหญิงสาวพวกนั้นถูกขังอยู่ที่ใด?”จิ้งคงน้ำตาคลอทันที ที่แท้นางมาที่นี่เพื่อช่วยพวกหญิงสาวพวกนั้นเขารีบพยักหน้า “รู้ ทุกค

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 509

    ด้านนอก บรรดาพระกำลังรุมสั่งสอนจิ้งคงผู้ที่ขัดขวางไม่ให้ชีหยวนเข้าวัดเมื่อครู่จิ้งคงกลิ้งอยู่กับพื้น สองมือกอดศีรษะ ปกป้องจุดสำคัญของร่างกาย พร้อมเรียกศิษย์พี่ไม่ขาดปาก พยายามคลานขึ้นมาคุกเข่าขอร้องแต่เขาเพิ่งจะลุกขึ้นได้ พระอีกรูปก็เตะเขาล้มลงไปอีก แล้วพูดเสียงเย็นชา “ข้าก็ว่าอยู่ พักนี้เหตุใดหญิงสาวแรกรุ่นถึงมาที่วัดน้อยลง ที่แท้ในวัดเราก็มีคนทรยศ!”จิ้งคงถูกซ้อมจนใบหน้าเขี้ยวช้ำบวมปูด ปากกับจมูกมีเลือดไหล แต่กลับไม่กล้าเช็ด ตาโปนจนแทบลืมไม่ขึ้น เริ่มโขกศีรษะกับพื้นไม่หยุด “เป็นความผิดของศิษย์น้องเอง ศิษย์น้องไม่กล้าอีกแล้ว ขอศิษย์พี่ไว้ชีวิตข้าด้วย ขอให้ศิษย์พี่ไว้ชีวิตข้าด้วย!”“ไว้ชีวิตเจ้าหรือ?!” พระที่เป็นหัวโจกอีกคนคว้ากำธูปจากกระถางธูปใกล้มือ แล้วพลิกกลับด้าน จี้ลงบนหัวของจิ้งคงอย่างกะทันหันจิ้งคงพลันกรีดร้องโหยหวน พลางร้องไห้กลิ้งไปมาบนพื้นพระพวกนั้นกลับพากันหัวเราะเสียงดังพระที่ใช้ธูปจี้หัวจิ้งคงเอ่ยเสียงดูแคลน “พวกเราก็รู้กันดี พระอาจารย์ชอบเก็บหญิงสาวที่ดีที่สุด หน้าตาสวยที่สุดไว้ให้ ‘บรรพบุรุษเบื้องบน’ เสวยสุข คนที่มาวันนี้น่ะ งามไม่เป็นสองรองใคร เห็นแวบเดียวก

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 508

    เขาก้าวเท้าไปด้วยรอยยิ้ม “อมิตา...”ยังไม่ทันกล่าวคำสวดจบ ชีหยวนก็เหยียบต้นไม้ส่งตัวเองลอยขึ้นไป แล้วฟาดเท้าเข้าใส่อกของฉือซานอย่างจัง ฉือซานกระเด็นลงไปกองกับพื้น กระอักเลือดออกมาเต็มปากจากนั้นก็ไม่หยุดการเคลื่อนแม้แต่น้อย นางพุ่งเข้าหาฉือซาน มีดสั้นในแขนเสื้อก็เผยออกมา จ่อเข้าที่อกของเขาฉือซานถึงกับมึนงงไปกับการเคลื่อนไหวนี้ไหนบอกว่าเป็นหญิงสาวที่ไร้หนทาง ไร้ที่พึ่ง ถูกบีบบังคับให้มาขอบุตรไงเล่า?นี่มันคืออะไรกันแน่?!ชีหยวนมองเขาด้วยสายตาเย็นชา สายตานั้นไม่เหมือนกับมองคน แต่เหมือนมองดูหินก้อนหนึ่ง หรือไม่ก็ต้นไม้ต้นหนึ่ง เหมือนมองสิ่งที่ไร้ชีวิตนางไม่พูดพร่ำเพรื่อ ถามขึ้นตรง ๆ “หญิงสาวที่พวกเจ้าลักพาตัวมาจากเรือนพักนอกเมืองเมื่อไม่กี่วันก่อน พวกเจ้าพาไปซ่อนไว้ที่ใด?”ฉือซานเบิกตากว้างในทันที ริมฝีปากสั่นระริกปลายมีดของชีหยวนแทงอกของเขาลึกหนึ่งชุ่นโดยไม่รั้งรอ เลือดไหลพรวดออกจากแผลทันทีจากนั้นนางก็ถาม “ผู่อู๋ย่งเป็นลุงแท้ ๆ ของเจ้าใช่หรือไม่? เห็นได้ยากจริง ๆ หลานของไอ้หมาขันที เขาบอกเจ้าว่าให้เจ้าอยู่นิ่ง ๆ ไปพักหนึ่ง รออีกไม่นานจะให้เจ้าไปเป็นขุนนางที่สำนักพระพุทธศาส

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 507

    ชีหยวนควบม้าเร็วออกจากเมือง โดยไม่พาคนติดตามไปแม้แต่คนเดียว ลมพัดแรงจนเสื้อคลุมสีแดงสดของนางปลิวสะบัด แต่นางกลับไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย แม้หมวกคลุมศีรษะจะเปิดออก นางก็ไม่คิดจะดึงกลับมาสวมอีกนางรู้ดีบนโลกนี้ไม่มีแม่ทัพไร้พ่ายตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน เว้นแต่จ้าวจื่อหลงผู้เป็นดั่งปาฏิหาริย์ ผู้อื่นแม้เป็นแม่ทัพที่เก่งกล้าสักเพียงใด ก็ล้วนเคยลิ้มรสความพ่ายแพ้แต่สำหรับนาง ไม่มีทาง!โดยเฉพาะคนที่ฆ่านาง ทั้งยังทำให้คนที่นางพามาด้วยต้องเติบโตขึ้นโดยไม่มีแม่ ก็ยิ่งสมควรตาย!ตั้งแต่เล็กจนโต สิ่งที่นางไม่เคยเข้าใจก็คือเหตุใดหลี่ซิ่วเหนียงถึงไม่เหมือนแม่คนอื่นสิ่งที่นางอิจฉามากที่สุดก็คือเด็กคนอื่น ๆบัดนี้มีเด็กอีกคนหนึ่งที่ต้องกลายเป็นกำพร้าเพราะนาง ชีหยวนรู้สึกว่าตัวเองช่างบาปหนานักแน่นอนว่าความผิดของนางมีอยู่จริง แต่มันก็ยังมีบางคนที่สมควรจะลงนรกสิบแปดขุม!นางควบม้าเร็วเร่งรุดมาถึงวัดว่านอันที่ชานเมืองหลวง เอียงศีรษะเล็กน้อย จ้องคำว่าวัดว่านอันสามคำนั้นอย่างเย็นชา บนใบหน้าฉายแววเย็นเยียบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนออกจากเมืองหลวงมาถึงที่นี่ก็เป็นเวลาค่ำแล้วยามดึกดื่นเช่นนี้ หญิงสาววัยแรกแย

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 506

    ก็ต้องมี ‘คืนของขวัญ’ กลับไปบ้างกระมัง?ชีเจิ้นก็พลันเข้าใจ เพียงแค่เป้าหมายไม่ใช่ผู่อู๋ย่ง แต่ก็ยังเป็นการไปสังหารคนอยู่ดีเขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกำชับว่า “เช่นนั้นก็ ระวังตัวด้วยแล้วกันนะ”ชีหยวนก็เดินตรงดิ่งออกจากประตูไปชีเจิ้นจึงหันกลับมามองท่านโหวผู้เฒ่าชีกับฮูหยินผู้เฒ่าชี “ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้านึกขึ้นได้แล้ว วันปีใหม่วันนั้น แม่หนูหยวนบอกว่านอกจากจะแวะไปที่เรือนนอกเมืองแล้ว ยังมีธุระที่ต้องทำ มันเป็นธุระอะไรกันแน่?”ทั้งยังเป็น ‘การคืนของขวัญ’ ให้ผู่อู๋ย่งอีกด้วย?ท่านโหวผู้เฒ่าชีถลึงตาใส่เขาอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าถามข้าแล้วข้าจะไปถามใคร โดนขังมาหลายวันแล้วเจ้ายังไม่เหนื่อยหรือไง? ทำตัวดี ๆ รีบไปอาบน้ำแล้วนอนพักเสีย ตอนเย็นค่อยไปกินข้าวที่เรือนใหญ่!”ชีเจิ้นอยากรู้จนใจแทบขาด แต่ก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าชีหยวนกำลังทำเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับผู่อู๋ย่ง และยังจะบอกว่าเป็น ‘การคืนของขวัญ’ ให้อีกฝ่ายอีกต่างหากแต่แล้วเขาก็นึกขึ้นได้อีกเรื่องหนึ่ง “ท่านพ่อ! ผู้บัญชาการไล่จะไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?!”ไล่เฉิงหลงช่วยพวกเขาไว้มาก ที่ไม่โดนลงโทษก็เพราะอีกฝ่ายช่วยไกล่เกลี่ยแล้วไอ้หมาขันทีอ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 505

    ชีหยวนเลิกคิ้วขึ้นนิด ๆ เห็นทั้งสองคนกลับมาดูครบสามสิบสอง ดูก็รู้ว่าไม่ได้ถูกลงโทษ ก็รู้ทันทีว่าเป็นไล่เฉิงหลงที่ช่วยไว้นางหลุบตาลงแล้วส่ายหน้า “ไม่ใช่เพราะข้าหรอกเจ้าค่ะ เรื่องนี้เดิมทีก็เกิดขึ้นเพราะข้า เป็นข้าที่ก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นมา พวกท่านต้องลำบากก็เพราะข้า”ความรู้สึกของท่านโหวผู้เฒ่าชีซับซ้อนอย่างยิ่งชีเจิ้นก็เช่นกันชีหยวนก็ถือว่าเข้าใจฐานะของตนเองดีนัก และไม่ทำตัวเกรงใจเกินจำเป็น พูดสิ่งที่ควรพูด ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าจะมีใครตอบรับได้หรือไม่แต่ว่านางพูดตรงได้ ทว่าท่านโหวผู้เฒ่าชีกับชีเจิ้นย่อมไม่อาจตอบกลับตรง ๆ เช่นนั้น ท่านโหวผู้เฒ่าชีจึงกล่าวว่า “พูดอย่างนั้นก็ไม่ได้หรอก ตำแหน่งนี้ของเขา ทำมาก็หลายปี อยู่กึ่งกลาง หากทำงานของฝ่าบาทได้สำเร็จ เช่นนั้นสักวันก็ต้องเกิดเหตุเช่นนี้”ถ้าหากทำไม่สำเร็จ ต้องสืบหากันไปเรื่อย ๆ ไม่จบไม่สิ้น ฮ่องเต้หย่งชางก็ย่อมต้องเริ่มสงสัยในความสามารถของชีเจิ้น และหมดความอดทนต่อเขาฉะนั้นว่ากันตามจริงแล้ว เคราะห์นี้ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่ดี ยังดีที่มีชีหยวนอยู่ จึงสามารถคลี่คลายเรื่องราวได้รวดเร็วขนาดนี้ท่านโหวผู้เฒ่าก็โล่งอก เมื่อเห็นเหล่าลูก

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 504

    ฮ่องเต้หย่งชางกวาดพระเนตรมองโดยรอบ ตวาดเสียงเกรี้ยว “อ่างน้ำมงคลเล่า? ไยถึงได้มาช่วยดับไฟกันช้านัก?!”แล้วก็รีบร้อนหันไปถามไล่เฉิงหลง ซึ่งรับหน้าที่เฝ้าตำหนักเฟิ่งเจ่าในวันนี้ “ร่างของกุ้ยเฟยเล่า?”ไล่เฉิงหลงเหงื่อไหลท่วมทั้งร่าง คุกเข่าลงแล้วคารวะ “กระหม่อมกับนายพันลู่ช่วยกันหามร่างของกุ้ยเฟยออกมาได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่...”พวกเขาก็รู้ดีว่าเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยมีตำแหน่งเช่นไรในพระทัยของฮ่องเต้หย่งชาง ไหนเลยจะกล้าปล่อยให้ร่างของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยถูกเผาจนมอดไหม้?หากปล่อยให้เป็นเช่นนั้นจริง เกรงว่าพวกตนก็คงต้องลงไปอยู่กับบรรพบุรุษแล้วแต่ถึงจะช่วยออกมาได้ ทว่าร่างของกุ้ยเฟยก็ยังคงดูเวทนานักอย่างน้อยเส้นผมของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยก็ถูกไฟไหม้ไปแล้วครึ่งหนึ่งใบหน้าก็ถูกควันรมจนดำไปหมดฮ่องเต้หย่งชางปิดดวงเนตรลง เอื้อมพระหัตถ์ไปลูบไล้ใบหน้าของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟย สั่งการด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ไล่เฉิงหลง ลู่อี้เฟิง ดูแลไม่ดีจนตำหนักเฟิ่งเจ่าเกิดเพลิงไหม้ ให้ไปรับการลงโทษโบยสามสิบไม้ที่กรมวัง!”จากนั้นก็นิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วถามต่อ “เหตุใดอ่างน้ำมงคลถึงกลายเป็นน้ำแข็ง?”ในวังหลวง ตามถนนสาย

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 503

    ฮ่องเต้หย่งชางเหนื่อยล้าอย่างถึงที่สุดหลายวันมานี้ ทุกค่ำคืนเขามักจะฝันถึงเรื่องราวในอดีตตัวเขากับพระชายาหลิ่วสมัยยังอยู่ในดินแดนศักดินาในช่วงนั้น ยามใดที่คลื่นลมในทะเลพัดแรง ไม่รู้ว่าหลังคาบ้านของราษฎรกี่หลังจะปลิวว่อนทุก ๆ ปีล้วนมีคนต้องสังเวยชีวิตเพราะเหตุนี้ไม่น้อยแค่นั้นยังพอทนได้ แต่ภูมิอากาศก็ยังเย็นชื้น ทำให้ข้อกระดูกของเขาเจ็บเรื้อรังพระชายาหลิ่วจึงมักช่วยทำการรมยาเฉพาะจุดให้เขา อยู่เคียงข้างช่วยเหลือราษฎร คิดหาหนทาง ร่วมมือกับขุนนางท้องถิ่น แบ่งเขตพื้นที่ แล้วสอนชาวบ้านสร้างบ้านจากหินที่แข็งแรงมั่นคงในบริเวณที่ปลอดภัยกว่ายังได้ขอร้องอดีตฮ่องเต้ให้ส่งช่างจากกรมโยธามาช่วยสอนการเปิดเตาเผาและเผาอิฐพวกเขาค่อย ๆ แก้ไข นำพาเมืองจางโจวจากดินแดนยากไร้กลายเป็นเมืองมั่งคั่ง แม้แต่เมืองใกล้เคียงอย่างเฉวียนโจวก็ยังได้สร้างท่าเรือบางคราก็ฝันถึงเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยแรกเริ่มเดิมที เขาก็ไม่ได้คิดจะให้เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยเข้าวังเลยด้วยซ้ำเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยอายุน้อยกว่าเขามากเกินไป ห่างกันถึงสิบสองปีเขามองนางเหมือนน้องสาวคนหนึ่งมาตลอดแต่เมื่อเวลาค่อย ๆ ผ่านไป เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 502

    ปิดไม่มิดแล้วเขาไม่มีทางบ้าเลือดถึงขั้นลากผู่อู๋ย่งลงไปด้วยหรอก อย่างน้อยแบบนี้ผู่อู๋ย่งก็ยังอาจเห็นแก่ที่เขาเชื่อฟัง แล้วช่วยดูแลคนในตระกูลของเขาบ้างมิเช่นนั้น เกรงว่าตระกูลสวีคงไม่เหลือแม้แต่คนเดียวเซี่ยกงกงเชิญไล่เฉิงหลงเข้ามา ไล่เฉิงหลงก็นำเอกสารคำรับสารภาพพร้อมลายนิ้วมือของคนเหล่านั้นมาขึ้นถวายฮ่องเต้หย่งชางเพียงแค่เหลือบตามอง ก่อนจะเหวี่ยงเอกสารลงตรงหน้าสวีฮว่าน “เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีก? คดีลักลอบค้าของเมื่อปลายปีก่อนก็เริ่มสอบตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เจ้าคงคิดหาแพะรับบาปไว้ตั้งแต่นั้นกระมัง? ถึงได้ยุยงปลุกปั่นพวกครัวเรือนทหารที่มีเอี่ยว ให้เชื่อว่าตระกูลชีหักหลังพวกเขา ให้พวกเขารับผิดแทน!”สวีฮว่านฟุบหน้าลงกับพื้น สั่นเทาไปทั้งร่าง เอ่ยปากวิงวอนไม่หยุด “ฝ่าบาทโปรดเมตตา ฝ่าบาทโปรดไว้ชีวิตเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้หย่งชางแค่นเสียงเย็น แล้วกวาดดวงเนตรมองเหล่าขุนนางบุ๋นบู๊ “เมื่อครู่พวกเจ้าล้วนโกรธแค้นลุกฮือกันขึ้นมา กล่าวว่านี่คือการสมคบคิดศัตรู ขายชาติ ทรยศหักหลัง เป็นความผิดฐานคิดกบฏ พวกเจ้าพูดถูกแล้ว”สิ้นคำ ก็เรียกผู้บัญชาการศาลต้าหลี่เติ้งเหรินกู้ “คดีนี้ให้ศาลต้าหลี่เป็นผู้สื

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status