Share

บทที่ 85

Author: ฉินอันอัน
นางรู้สึกว่าตนเองวิงเวียนศีรษะเล็กน้อย

อ๋องฉีรู้เรื่องของตระกูลชีอย่างแจ่มชัดได้เช่นไรกัน?

หากเป็นเมื่อก่อน นางอาจจะภาคภูมิใจในตนเอง และรู้สึกว่าตนเองมีเสน่ห์อย่างยิ่ง ถึงดึงดูดให้อ๋องฉีก้มหัว และพยายามอย่างมากเพื่อนางเช่นนี้

แต่เรื่องที่ประสบในช่วงนี้ ทำให้นางไม่สามารถใสซื่อและมั่นใจในตนเองเช่นนี้ได้อีกต่อไป

โดยเฉพาะ อ๋องฉีในตอนนี้ แตกต่างจากอ๋องฉีที่นางเคยรู้จักอย่างสิ้นเชิง

อ๋องฉีในเมื่อก่อนเป็นองค์ชายที่ถ่อมตัว แต่อ๋องฉีในตอนนี้มองดูแล้วยิ่งเหมือนกับ...คนหน้าเนื้อใจเสือเสียมากกว่า

และดูเหมือนว่าอีกไม่นานก็จะดึงมีดออกมาฆ่าคนได้เลย

สมองของนางหมุนอย่างรวดเร็ว และกำชายเสื้อของตนเองไว้แน่นพลางมองอ๋องฉี “ฝ่า ฝ่าบาทเหตุใด เหตุใดถึงรู้เรื่องของชีหยวนได้เจ้าค่ะ?”

อ๋องฉีโน้มตัวไปบีบแก้มของนางเบา ๆ จากนั้นก็ยิ้ม

หัวเราะอย่างเย้ยหยันและทั้งดูถูก จากนั้นเขาก็ค่อย ๆ รับดาบสั้นที่ผู้ติดตามมอบให้อย่างเชื่องช้า และหยิบผ้ามาเช็ดเบา ๆ “ชีหยวน? เจ้าเรียกนางว่าชีหยวนหรือ? ข้านึกว่า เจ้าจะเรียกนาง ว่าสวี่อินอินเสียอีก”

ทันทีที่พูดสวี่อินอินสามคำนี้ออกมา ใบหน้าของชิจิ่นก็ไร้สีอย่างสิ้นเชิง ความ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Jocky Tagool
อ้าว อ๋องฉีก็ได้กลับมาชาติมาเกิดเหมือนกับนางเอกอีก งานยากแล้ว แต่ทำไมมาเกิดใหม่ง่ายจังใครก็มาได้ด้วย สิทธิพิเศษแบบนี้ให้แค่ตัวเอกอย่างเดียวไม่ได้เหรอ เฮอะ!
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 86

    อ๋องฉีได้หมุนตัวออกจากประตูไปแล้ว เขาดมมือของตนอย่างรังเกียจไม่ว่าจะใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดอย่างไร กลิ่นคาวเลือดก็ยังค้างติดอยู่ที่ปลายจมูก เขาแค่นเสียงทีหนึ่ง “หานเยว่เอ๋อร์ส่งข่าวกลับมาหรือยัง?”ขันทีสวีส่ายศีรษะ “ยามนี้ยังไม่มีพ่ะย่ะค่ะ แต่อาจเป็นเพราะพวกเราออกมาแล้ว จึงยังไม่ได้รับข่าวที่คุณหนูหานส่งมาพ่ะย่ะค่ะ”อ๋องฉีพยักหน้า เลิกคิ้วพลางคลึงดวงตาที่รู้สึกปวดเล็กน้อยขันทีสวีถามเขาว่า “ท่านอ๋อง ใช่รู้สึกไม่ค่อยสบายหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ? ช่วงนี้มักทรงรู้สึกปวดหัว จะเรียกหมอมาดูหน่อยหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”ช่วงนี้สุขภาพของอ๋องฉีไม่ค่อยดีนักมาตลอด เริ่มแรกมีไข้ขึ้นไม่หยุด ภายหลังยังมีอาการพูดเพ้อด้วย รอจนได้สติขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ อ๋องฉีก็ราวเปลี่ยนเป็นคนละคนขันทีสวีเป็นคนเก่าแก่ที่รับใช้เขามาตั้งแต่เด็กแล้ว ทว่าช่วงนี้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอ๋องฉี ก็ยังรู้สึกราวกับตนกำลังปรนนิบัตินายคนใหม่อยู่นอกจากนี้ หลังจากที่อ๋องฉีฟื้นขึ้นมา ก็ให้พวกเขาไปสืบเรื่องของตระกูลชีแม้ก่อนหน้านี้องค์ชายจะให้ความสนใจต่อตระกูลชีมาก แต่ที่เมื่อก่อนองค์ชายทรงสนใจตระกูลชีก็เป็นเพราะเรื่องนั้น มิใช่เพราะเด็กสาวผู

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 87

    นางหวังที่เกิดความขัดแย้งกับชีหยวน จากไปอย่างไม่สบอารมณ์ในยามที่กลับไปถึงห้องนั้น อารมณ์โกรธก็ยังคงคุกรุ่นพอดีกับที่หานเยว่เอ๋อร์มาหานาง และรออยู่ที่เรือนของนางโดยตลอด เมื่อเห็นนาง ก็รีบยอบกายคารวะทันทีเมื่อเห็นหานเยว่เอ๋อร์ ความโมโหของนางหวังจึงสงบลงเล็กน้อย นางฝืนยิ้มออกมาบางๆ “เป็นเยว่เอ๋อร์หรือ เหตุใดจึงมาที่นี่เล่า?”กองทัพให้ความสำคัญต่อมิตรภาพของสหายในกอง เมื่อก่อนบิดาของหานเยว่เอ๋อร์เคยช่วยชีเจิ้นไว้ดังนั้น หลังจากที่ชีเจิ้นรับปากคำสั่งเสีย รับทายาทของผู้ที่จากไปมาดูแล ก็ให้ความสำคัญต่อหานเยว่เอ๋อร์เป็นอย่างมากแต่ไรมานางหวังก็เชื่อฟังสามีตนมาโดยตลอด เมื่อสามีให้ความสำคัญกับหลานสาว นางก็ย่อมใส่ใจอย่างมากเช่นกันรวมกับที่หานเยว่เอ๋อร์ก็เชื่อฟังว่าง่ายจริงๆ ไม่เคยเรื่องมากมาก่อน ความสัมพันธ์กับบรรดาเด็กในบ้านก็ไม่เลว ดังนั้นนางหวังจึงมีความรู้สึกที่แท้จริงต่อนางอยู่บ้างเวลานี้ หานเยว่เอ๋อร์กำลังมองไปที่นางหวัง แล้วกล่าวเสียงเบาว่า “ช่วงนี้ท่านป้าดูซูบผอมลงไม่น้อยเลยเจ้าค่ะ”แม้แต่เด็กที่เพิ่งเข้ามาอยู่ระหว่างทางก็ยังมองออกว่าช่วงนี้อารมณ์ของตนไม่ดีนัก แต่ชีหยวน ยัยเ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 88

    เกาเจียมองสีหน้าของนาง “ฮูหยิน ท่านยังคงต้องหาวิธีปลอบคุณชายใหญ่ ยามนี้ เขายังเอาแต่คิดถึงคุณหนูรองไม่วางเลยเจ้าค่ะ…”ทุกครั้งที่มีคนไปใส่ยาให้ชีอวิ๋นถิง ชีอวิ๋นถิงล้วนถามถึงที่อยู่ของชีจิ่น ถามไปก็ด่าไปแถมยังกล่าวคำพูดประเภทที่ว่าไม่มีทางให้ชีหยวนได้เป็นสุขออกมาด้วยทว่ายามนี้ เกาเจียถือว่าเห็นได้อย่างชัดเจนแล้ว เกรงว่าฐานะของชีหยวนในบ้านตอนนี้คงจะมั่นคงยิ่งและตัวของชีหยวนเองก็มีความสามารถ นางสามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคงก่อนหน้านี้ แม้แต่ชีอวิ๋นถิงรวมกับชีจิ่นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง แล้วนับประสาอะไรกับตอนนี้ที่ไม่มีชีจิ่นแล้วหากเขาทำตัวเป็นปรปักษ์กับชีหยวนจริง เกรงว่าสุดท้ายผู้ที่จะโชคร้ายเขาเอง!นางหวังโมโหจนเขวี้ยงถ้วยชาที่อยู่ด้านข้างจนแตกแล้วเวรกรรมจริงๆ!เจ้าลูกเวรคนนี้ยิ่งทำให้คนปวดหัว!เหตุใดเขาถึงไม่รู้จักคิดถึงลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆ มั่งนะ?หากยังก่อเรื่องเช่นนี้ ท่านโหวผู้เฒ่าและฮูหยินผู้เฒ่าไม่มีทางปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจแน่!นางหวังโมโหจนลุกยืนขึ้นมา แม้แต่ฝีเท้าก็ซวนเซอยู่บ้างแล้ว “ข้าจะไปดูเขา!”หานเยว่เอ๋อร์ยืนอยู่บนพื้นหินปูนด้านหลังภูเขาจำลอง เมื

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 89

    เมื่ออ๋องฉีนึกถึงเรื่องที่ ชีจิ่นยั่วยวนชีอวิ๋นถิงแล้วถูกเซี่ยงหรงพบเข้าจนกลายเป็นเรื่องขายหน้า จึงถูกตระกูลชีสละทิ้ง ก็อดเลิกคิ้วไม่ได้ช่างบังเอิญเสียเหลือเกินไม่ ว่าไปแล้วเรื่องนี้ยังเป็นชีหยวนที่ช่วยส่งเสริมด้วยเขานั่งกลับไปบนเก้าอี้เชียนหยี่ [1] ถามเสียงหนักว่า “จากนั้นล่ะ?”สวีถงโจวกลืนน้ำลายอย่างประหม่าเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงที่ลดเบาลงว่า “กระหม่อม กระหม่อมได้ยินว่า ในวันที่ตระกูลเซี่ยงเชิญคณะงิ้วไปร้องที่จวน จิ้งอ๋องจับนักฆ่าได้ผู้หนึ่งพ่ะย่ะค่ะ”นักฆ่าที่พูดถึงคนนี้ ก็น่าจะเป็นคนที่เคลื่อนย้ายสมุดบัญชีไปแล้วสีหน้าของอ๋องฉีแปรเปลี่ยนหลายครั้ง น้ำเสียงก็ไม่มั่นคงเช่นกัน “ความหมายของพวกเจ้าคือ จัดการไปตั้งนาน หลักฐานคดีทุจริตการขนส่งทางน้ำ สุดท้ายยังคงตกไปอยู่ในมือของเซียวอวิ๋นถิง?!”ครั้งนี้มิใช่เพียงสวีถงโจวที่คุกเข่าอยู่บนพื้น ทว่า แม้แต่ขันทีสวีและคนอื่นๆ ก็คุกเข่าลงกับพื้นเช่นกันสวีถงโจวแทบจะหายใจไม่ออกแล้ว เขาที่คุกเข่าอยู่บนพื้นโขกศีรษะอย่างแรงอีกหลายครั้ง เสียงดังจนขันทีสวีที่คุกเข่าอยู่ด้านข้างอดสูดหายใจลึกในใจไม่ได้แต่เขาก็มิได้รู้สึกว่ามีสิ่งใดผิดแม้แต่น

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 90

    เขาก้มศีรษะลงเล็กน้อย รอคอยคำสั่งจากอ๋องฉีผ่านไปครู่หนึ่ง อ๋องฉีจึงกล่าวออกมาช้าๆ ว่า “ต้าปั้น เจ้าให้คนไปสักรอบ ช่วยข้าส่งคำพูดไปตอบหานเยว่เอ๋อร์ประโยคหนึ่ง”ขันทีสวีรับคำอย่างไม่ลังเลขอบฟ้าทอแสงสีขาวออกมา เห็นได้ว่าฟ้ากำลังจะสว่างแล้วหานเยว่เอ๋อร์สวมเสื้อคลุมกันลมเข้าไปในเรือนของชีอวิ๋นถิงชีอวิ๋นถิงยังนอนอยู่บนเตียง เพราะเขาบาดเจ็บค่อนข้างหนัก บาดแผลจึงเจ็บปวดอย่างมาก ทำให้ได้แต่พักรักษาตัวอยู่บนเตียงชั่วคราวเนื่องจากบาดเจ็บสาหัส อารมณ์ของเขาจึงเป็นหงุดหงิดเป็นพิเศษ หลายวันมานี้ เมื่อลืมตาได้ก็ด่าทอคนในตอนที่หานเยว่เอ๋อร์เข้าไป ก็ได้ยินชีอวิ๋นถิงกำลังพูดไปด่าไปข้ารับใช้ในเรือนต่างเงียบกริบราวจักจั่นในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เกรงว่าจะถูกเขาจับผิดนางเดินเข้าไปพลางส่งเสียงหัวเราะออกมาทีหนึ่ง “บาดแผลของพี่ชายใหญ่คงเจ็บปวดมากกระมัง? ยังไม่ทันเข้าประตูมาก็ได้ยินเสียงท่านว่าคนแล้ว”เมื่อเงยหน้าขึ้นแล้วเห็นว่าเป็นหานเยว่เอ๋อร์ สีหน้าของชีอวิ๋นถิงก็อ่อนลงไม่น้อยเขาดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมไว้อย่างไม่สะดวกใจอยู่บ้าง “เจ้ามาทำไมกัน?”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ หานเยว่เอ๋อร์ก็หยิบผ้าเช็ดหน

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 91

    แม้อากาศจะยังคงหนาวอยู่ ทว่าวันนี้ ท้องฟ้ากระจ่างสดใส มีแสงอาทิตย์เฉิดฉายออกมา ส่องผ่านร่มไม้ลงมาต้องเรือนจนเกิดประกายทองระยิบระยับไป๋จื่อและไป๋อินรีดเสื้อผ้าของชีหยวนไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว ยามนี้กำลังสวมลงบนตัวนาง เมื่อเห็นนางงดงามเจิดจรัส ก็ต่างยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้เหลียนเฉียวมองนางด้วยดวงตาเปล่งประกาย “คุณหนูช่างงดงามเหลือเกินเจ้าค่ะ!”ชีหยวนก็เหลือบมองกระจกคราหนึ่งเช่นกัน เวลานี้ คนในกระจกก็กำลังมองมาที่นาง ดวงตาสบประสาน จากนั้นนางก็ได้ยินเสียงของหานเยว่เอ๋อร์ดังมา “พี่หญิงใหญ่ ท่านเตรียมการเสร็จแล้วหรือไม่?”คนของบ้านรองและบ้านสามต่างเป็นพวกระมัดระวัง การที่ชีจิ่นป่วยเป็น ‘โรคร้าย’ แล้วถูกย้ายออกจากจวนอย่างแปลกประหลาด แล้วตระกูลเซี่ยงยังส่งคนมาถอนหมั้นอีกทำให้แม้วันนี้จะเป็นวันเลี้ยงรับญาติ เหล่าคุณชายและคุณหนูทางนั้น จึงมิได้มาสอบถามสิ่งใดกับชีหยวนก่อนเวลาเมื่อเปรียบกันแล้ว หานเยว่เอ๋อร์ก็ออกจะมาเยือนอย่างกระตือรือร้นไปหน่อยแล้วทว่า ชีหยวนมิได้แสดงสิ่งใดออกมาเลย เมื่อเห็นนางมาโดยมิได้รับเชิญ ก็ทำเพียงยิ้มออกมา “วันนี้น้องเยว่เอ๋อร์มาเร็วทีเดียว”หานเยว่เอ๋อร์ตบหลั

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 92

    เหลียนเฉียวรีบรับคำทันทีชีหยวนปฏิบัติต่อข้ารับใช้แตกต่างจากผู้อื่น ดังนั้นตั้งแต่บนลงล่างล้วนเชื่อฟังนางโดยเฉพาะเหลียนเฉียวที่ถือกำเนิดจากบ่าวรับใช้ในตระกูล ยามสืบข่าวในจวน ก็ไม่มีผู้ใดหัวไวกว่านางแล้วแม่นมเสิ่นปรนนิบัติรับใช้ชีหยวนด้วยรอยยิ้ม ขณะเดินทางไปที่เรือนของนางหวังขณะนี้ นางหวังเริ่มรู้สึกประหม่ากังวลขึ้นมาบ้างแล้ว ดังนั้นหนนี้ นางจึงมีความอดทนเพิ่มเป็นพิเศษหลายส่วน นางมองชีหยวนพลางกำชับว่า “อีกครู่เมื่อแขกเหรื่อมาถึงแล้ว ข้าจะต้อนรับแขกสตรีพวกนั้น ส่วนบรรดาพี่น้องสตรีที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเจ้า ก็ต้องให้เจ้าเป็นผู้พาไปเที่ยวเล่นในสวนดอกไม้แล้ว เข้าใจหรือไม่?”ผู้ที่มาร่วมงานเลี้ยงรับญาติ ล้วนเป็นญาติสนิทมิตรสหายที่มีไมตรีต่อกันดังนั้น ย่อมไม่อาจนั่งเฉย ชมพิธีรับญาติอย่างไร้รสชาติแน่นอนว่าต้องมีการดูงิ้ว รับประทานอาหาร จึงจะถือเป็นท่าทางของการเชิญแขกมางานรับญาติแม้นางหวังจะมิพึงใจในตัวชีหยวน แต่ก็เกรงว่าเรื่องนี้จะเกิดเหตุไม่คาดฝันใดขึ้นมาอีก ถึงเวลานั้น ก็ยากจะอธิบายต่อทางชีเจิ้น ท่านโหวผู้เฒ่า และฮูหยินผู้เฒ่าแล้วชีหยวนก็มิได้ขัดนางหวัง ครั้งนี้ นางรับปาก

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 93

    องค์หญิงใหญ่มีสถานะสูงส่ง เป็นพระเชษฐภคินีแท้ๆ ของฮ่องเต้องค์ปัจจุบันทุกคนต่างรู้ดีว่า ทุกปีฮ่องเต้จะต้องเสด็จไปที่วัด มีอยู่ปีหนึ่งก่อนวันส่งท้ายปีเก่า ยิ่งเสด็จขึ้นเขาไปเชิญองค์หญิงใหญ่กลับวังเพื่อไปอยู่ร่วมกันพร้อมหน้าด้วยพระองค์เองแต่ต่อให้เป็นเช่นนั้น องค์หญิงใหญ่ก็มิได้ทรงรับปากบุคคลที่ขนาดฮ่องเต้ก็เชิญไม่ได้ แต่บุตรสาวที่ถูกเลี้ยงดูอยู่ภายนอกของตระกูลชีนับสิบปีกลับเชิญมาได้ แล้วผู้ใดจะเชื่อกัน?ดังนั้น นางย่อมต้องมาชมดูความครึกครื้นอย่างแน่นอนบัดนี้เมื่อได้พบชีหยวน นางยิ่งเลิกคิ้วถามชีหยวนอย่างไม่เกรงใจว่า “ก็อยากถามคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลชีว่า เจ้าขึ้นเขาไปอย่างไร และได้พบองค์หญิงได้อย่างไรกัน? เหตุใดพวกเราจึงไม่มีชะตาวาสนาเช่นนี้บ้าง”สตรีในครอบครัวของขุนนางราชสำนักที่คิดจะไปเสี่ยงโชคดูมีน้อยหรือ?แม้นยอดเขาป๋ายอวิ๋นซานจะไม่อนุญาตให้ขึ้น และอารามที่องค์หญิงใหญ่ทรงประทับอยู่ก็เข้าไปไม่ได้ ทว่าวัดวาอารามที่อยู่รายรอบนั้น ก็แทบจะฮูหยินผู้สูงศักดิ์เหล่านี้เหยียบย่ำจนทุกหนแห่งแล้วนั่นก็เพราะพวกนางอยากลองดูว่า จะหาทางเข้าหาองค์หญิงใหญ่ได้หรือไม่ความเป็นศัตรูของลู่ฮูหยินเ

Latest chapter

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 508

    เขาก้าวเท้าไปด้วยรอยยิ้ม “อมิตา...”ยังไม่ทันกล่าวคำสวดจบ ชีหยวนก็เหยียบต้นไม้ส่งตัวเองลอยขึ้นไป แล้วฟาดเท้าเข้าใส่อกของฉือซานอย่างจัง ฉือซานกระเด็นลงไปกองกับพื้น กระอักเลือดออกมาเต็มปากจากนั้นก็ไม่หยุดการเคลื่อนแม้แต่น้อย นางพุ่งเข้าหาฉือซาน มีดสั้นในแขนเสื้อก็เผยออกมา จ่อเข้าที่อกของเขาฉือซานถึงกับมึนงงไปกับการเคลื่อนไหวนี้ไหนบอกว่าเป็นหญิงสาวที่ไร้หนทาง ไร้ที่พึ่ง ถูกบีบบังคับให้มาขอบุตรไงเล่า?นี่มันคืออะไรกันแน่?!ชีหยวนมองเขาด้วยสายตาเย็นชา สายตานั้นไม่เหมือนกับมองคน แต่เหมือนมองดูหินก้อนหนึ่ง หรือไม่ก็ต้นไม้ต้นหนึ่ง เหมือนมองสิ่งที่ไร้ชีวิตนางไม่พูดพร่ำเพรื่อ ถามขึ้นตรง ๆ “หญิงสาวที่พวกเจ้าลักพาตัวมาจากเรือนพักนอกเมืองเมื่อไม่กี่วันก่อน พวกเจ้าพาไปซ่อนไว้ที่ใด?”ฉือซานเบิกตากว้างในทันที ริมฝีปากสั่นระริกปลายมีดของชีหยวนแทงอกของเขาลึกหนึ่งชุ่นโดยไม่รั้งรอ เลือดไหลพรวดออกจากแผลทันทีจากนั้นนางก็ถาม “ผู่อู๋ย่งเป็นลุงแท้ ๆ ของเจ้าใช่หรือไม่? เห็นได้ยากจริง ๆ หลานของไอ้หมาขันที เขาบอกเจ้าว่าให้เจ้าอยู่นิ่ง ๆ ไปพักหนึ่ง รออีกไม่นานจะให้เจ้าไปเป็นขุนนางที่สำนักพระพุทธศาส

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 507

    ชีหยวนควบม้าเร็วออกจากเมือง โดยไม่พาคนติดตามไปแม้แต่คนเดียว ลมพัดแรงจนเสื้อคลุมสีแดงสดของนางปลิวสะบัด แต่นางกลับไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย แม้หมวกคลุมศีรษะจะเปิดออก นางก็ไม่คิดจะดึงกลับมาสวมอีกนางรู้ดีบนโลกนี้ไม่มีแม่ทัพไร้พ่ายตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน เว้นแต่จ้าวจื่อหลงผู้เป็นดั่งปาฏิหาริย์ ผู้อื่นแม้เป็นแม่ทัพที่เก่งกล้าสักเพียงใด ก็ล้วนเคยลิ้มรสความพ่ายแพ้แต่สำหรับนาง ไม่มีทาง!โดยเฉพาะคนที่ฆ่านาง ทั้งยังทำให้คนที่นางพามาด้วยต้องเติบโตขึ้นโดยไม่มีแม่ ก็ยิ่งสมควรตาย!ตั้งแต่เล็กจนโต สิ่งที่นางไม่เคยเข้าใจก็คือเหตุใดหลี่ซิ่วเหนียงถึงไม่เหมือนแม่คนอื่นสิ่งที่นางอิจฉามากที่สุดก็คือเด็กคนอื่น ๆบัดนี้มีเด็กอีกคนหนึ่งที่ต้องกลายเป็นกำพร้าเพราะนาง ชีหยวนรู้สึกว่าตัวเองช่างบาปหนานักแน่นอนว่าความผิดของนางมีอยู่จริง แต่มันก็ยังมีบางคนที่สมควรจะลงนรกสิบแปดขุม!นางควบม้าเร็วเร่งรุดมาถึงวัดว่านอันที่ชานเมืองหลวง เอียงศีรษะเล็กน้อย จ้องคำว่าวัดว่านอันสามคำนั้นอย่างเย็นชา บนใบหน้าฉายแววเย็นเยียบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนออกจากเมืองหลวงมาถึงที่นี่ก็เป็นเวลาค่ำแล้วยามดึกดื่นเช่นนี้ หญิงสาววัยแรกแย

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 506

    ก็ต้องมี ‘คืนของขวัญ’ กลับไปบ้างกระมัง?ชีเจิ้นก็พลันเข้าใจ เพียงแค่เป้าหมายไม่ใช่ผู่อู๋ย่ง แต่ก็ยังเป็นการไปสังหารคนอยู่ดีเขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกำชับว่า “เช่นนั้นก็ ระวังตัวด้วยแล้วกันนะ”ชีหยวนก็เดินตรงดิ่งออกจากประตูไปชีเจิ้นจึงหันกลับมามองท่านโหวผู้เฒ่าชีกับฮูหยินผู้เฒ่าชี “ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้านึกขึ้นได้แล้ว วันปีใหม่วันนั้น แม่หนูหยวนบอกว่านอกจากจะแวะไปที่เรือนนอกเมืองแล้ว ยังมีธุระที่ต้องทำ มันเป็นธุระอะไรกันแน่?”ทั้งยังเป็น ‘การคืนของขวัญ’ ให้ผู่อู๋ย่งอีกด้วย?ท่านโหวผู้เฒ่าชีถลึงตาใส่เขาอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าถามข้าแล้วข้าจะไปถามใคร โดนขังมาหลายวันแล้วเจ้ายังไม่เหนื่อยหรือไง? ทำตัวดี ๆ รีบไปอาบน้ำแล้วนอนพักเสีย ตอนเย็นค่อยไปกินข้าวที่เรือนใหญ่!”ชีเจิ้นอยากรู้จนใจแทบขาด แต่ก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าชีหยวนกำลังทำเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับผู่อู๋ย่ง และยังจะบอกว่าเป็น ‘การคืนของขวัญ’ ให้อีกฝ่ายอีกต่างหากแต่แล้วเขาก็นึกขึ้นได้อีกเรื่องหนึ่ง “ท่านพ่อ! ผู้บัญชาการไล่จะไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?!”ไล่เฉิงหลงช่วยพวกเขาไว้มาก ที่ไม่โดนลงโทษก็เพราะอีกฝ่ายช่วยไกล่เกลี่ยแล้วไอ้หมาขันทีอ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 505

    ชีหยวนเลิกคิ้วขึ้นนิด ๆ เห็นทั้งสองคนกลับมาดูครบสามสิบสอง ดูก็รู้ว่าไม่ได้ถูกลงโทษ ก็รู้ทันทีว่าเป็นไล่เฉิงหลงที่ช่วยไว้นางหลุบตาลงแล้วส่ายหน้า “ไม่ใช่เพราะข้าหรอกเจ้าค่ะ เรื่องนี้เดิมทีก็เกิดขึ้นเพราะข้า เป็นข้าที่ก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นมา พวกท่านต้องลำบากก็เพราะข้า”ความรู้สึกของท่านโหวผู้เฒ่าชีซับซ้อนอย่างยิ่งชีเจิ้นก็เช่นกันชีหยวนก็ถือว่าเข้าใจฐานะของตนเองดีนัก และไม่ทำตัวเกรงใจเกินจำเป็น พูดสิ่งที่ควรพูด ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าจะมีใครตอบรับได้หรือไม่แต่ว่านางพูดตรงได้ ทว่าท่านโหวผู้เฒ่าชีกับชีเจิ้นย่อมไม่อาจตอบกลับตรง ๆ เช่นนั้น ท่านโหวผู้เฒ่าชีจึงกล่าวว่า “พูดอย่างนั้นก็ไม่ได้หรอก ตำแหน่งนี้ของเขา ทำมาก็หลายปี อยู่กึ่งกลาง หากทำงานของฝ่าบาทได้สำเร็จ เช่นนั้นสักวันก็ต้องเกิดเหตุเช่นนี้”ถ้าหากทำไม่สำเร็จ ต้องสืบหากันไปเรื่อย ๆ ไม่จบไม่สิ้น ฮ่องเต้หย่งชางก็ย่อมต้องเริ่มสงสัยในความสามารถของชีเจิ้น และหมดความอดทนต่อเขาฉะนั้นว่ากันตามจริงแล้ว เคราะห์นี้ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่ดี ยังดีที่มีชีหยวนอยู่ จึงสามารถคลี่คลายเรื่องราวได้รวดเร็วขนาดนี้ท่านโหวผู้เฒ่าก็โล่งอก เมื่อเห็นเหล่าลูก

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 504

    ฮ่องเต้หย่งชางกวาดพระเนตรมองโดยรอบ ตวาดเสียงเกรี้ยว “อ่างน้ำมงคลเล่า? ไยถึงได้มาช่วยดับไฟกันช้านัก?!”แล้วก็รีบร้อนหันไปถามไล่เฉิงหลง ซึ่งรับหน้าที่เฝ้าตำหนักเฟิ่งเจ่าในวันนี้ “ร่างของกุ้ยเฟยเล่า?”ไล่เฉิงหลงเหงื่อไหลท่วมทั้งร่าง คุกเข่าลงแล้วคารวะ “กระหม่อมกับนายพันลู่ช่วยกันหามร่างของกุ้ยเฟยออกมาได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่...”พวกเขาก็รู้ดีว่าเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยมีตำแหน่งเช่นไรในพระทัยของฮ่องเต้หย่งชาง ไหนเลยจะกล้าปล่อยให้ร่างของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยถูกเผาจนมอดไหม้?หากปล่อยให้เป็นเช่นนั้นจริง เกรงว่าพวกตนก็คงต้องลงไปอยู่กับบรรพบุรุษแล้วแต่ถึงจะช่วยออกมาได้ ทว่าร่างของกุ้ยเฟยก็ยังคงดูเวทนานักอย่างน้อยเส้นผมของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยก็ถูกไฟไหม้ไปแล้วครึ่งหนึ่งใบหน้าก็ถูกควันรมจนดำไปหมดฮ่องเต้หย่งชางปิดดวงเนตรลง เอื้อมพระหัตถ์ไปลูบไล้ใบหน้าของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟย สั่งการด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ไล่เฉิงหลง ลู่อี้เฟิง ดูแลไม่ดีจนตำหนักเฟิ่งเจ่าเกิดเพลิงไหม้ ให้ไปรับการลงโทษโบยสามสิบไม้ที่กรมวัง!”จากนั้นก็นิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วถามต่อ “เหตุใดอ่างน้ำมงคลถึงกลายเป็นน้ำแข็ง?”ในวังหลวง ตามถนนสาย

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 503

    ฮ่องเต้หย่งชางเหนื่อยล้าอย่างถึงที่สุดหลายวันมานี้ ทุกค่ำคืนเขามักจะฝันถึงเรื่องราวในอดีตตัวเขากับพระชายาหลิ่วสมัยยังอยู่ในดินแดนศักดินาในช่วงนั้น ยามใดที่คลื่นลมในทะเลพัดแรง ไม่รู้ว่าหลังคาบ้านของราษฎรกี่หลังจะปลิวว่อนทุก ๆ ปีล้วนมีคนต้องสังเวยชีวิตเพราะเหตุนี้ไม่น้อยแค่นั้นยังพอทนได้ แต่ภูมิอากาศก็ยังเย็นชื้น ทำให้ข้อกระดูกของเขาเจ็บเรื้อรังพระชายาหลิ่วจึงมักช่วยทำการรมยาเฉพาะจุดให้เขา อยู่เคียงข้างช่วยเหลือราษฎร คิดหาหนทาง ร่วมมือกับขุนนางท้องถิ่น แบ่งเขตพื้นที่ แล้วสอนชาวบ้านสร้างบ้านจากหินที่แข็งแรงมั่นคงในบริเวณที่ปลอดภัยกว่ายังได้ขอร้องอดีตฮ่องเต้ให้ส่งช่างจากกรมโยธามาช่วยสอนการเปิดเตาเผาและเผาอิฐพวกเขาค่อย ๆ แก้ไข นำพาเมืองจางโจวจากดินแดนยากไร้กลายเป็นเมืองมั่งคั่ง แม้แต่เมืองใกล้เคียงอย่างเฉวียนโจวก็ยังได้สร้างท่าเรือบางคราก็ฝันถึงเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยแรกเริ่มเดิมที เขาก็ไม่ได้คิดจะให้เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยเข้าวังเลยด้วยซ้ำเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยอายุน้อยกว่าเขามากเกินไป ห่างกันถึงสิบสองปีเขามองนางเหมือนน้องสาวคนหนึ่งมาตลอดแต่เมื่อเวลาค่อย ๆ ผ่านไป เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 502

    ปิดไม่มิดแล้วเขาไม่มีทางบ้าเลือดถึงขั้นลากผู่อู๋ย่งลงไปด้วยหรอก อย่างน้อยแบบนี้ผู่อู๋ย่งก็ยังอาจเห็นแก่ที่เขาเชื่อฟัง แล้วช่วยดูแลคนในตระกูลของเขาบ้างมิเช่นนั้น เกรงว่าตระกูลสวีคงไม่เหลือแม้แต่คนเดียวเซี่ยกงกงเชิญไล่เฉิงหลงเข้ามา ไล่เฉิงหลงก็นำเอกสารคำรับสารภาพพร้อมลายนิ้วมือของคนเหล่านั้นมาขึ้นถวายฮ่องเต้หย่งชางเพียงแค่เหลือบตามอง ก่อนจะเหวี่ยงเอกสารลงตรงหน้าสวีฮว่าน “เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีก? คดีลักลอบค้าของเมื่อปลายปีก่อนก็เริ่มสอบตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เจ้าคงคิดหาแพะรับบาปไว้ตั้งแต่นั้นกระมัง? ถึงได้ยุยงปลุกปั่นพวกครัวเรือนทหารที่มีเอี่ยว ให้เชื่อว่าตระกูลชีหักหลังพวกเขา ให้พวกเขารับผิดแทน!”สวีฮว่านฟุบหน้าลงกับพื้น สั่นเทาไปทั้งร่าง เอ่ยปากวิงวอนไม่หยุด “ฝ่าบาทโปรดเมตตา ฝ่าบาทโปรดไว้ชีวิตเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้หย่งชางแค่นเสียงเย็น แล้วกวาดดวงเนตรมองเหล่าขุนนางบุ๋นบู๊ “เมื่อครู่พวกเจ้าล้วนโกรธแค้นลุกฮือกันขึ้นมา กล่าวว่านี่คือการสมคบคิดศัตรู ขายชาติ ทรยศหักหลัง เป็นความผิดฐานคิดกบฏ พวกเจ้าพูดถูกแล้ว”สิ้นคำ ก็เรียกผู้บัญชาการศาลต้าหลี่เติ้งเหรินกู้ “คดีนี้ให้ศาลต้าหลี่เป็นผู้สื

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 501

    แน่นอนว่าผู่อู๋ย่งไม่มีพ่อ พ่อของเขาตายไปนานแล้ว มิเช่นนั้นจะเข้ามาเป็นขันทีในวังได้อย่างไรกันเล่า?!แต่ตอนนี้ ความรู้สึกในใจเขามันไม่ต่างอะไรกับพ่อเพิ่งตายไปจริง ๆ เลยบัดซบเอ๊ย!เหลวไหลสิ้นดี!ที่ไหนมีขันที ที่นั่นก็ต้องมีคนของเขาแฝงอยู่รัชทายาทวังบูรพาโง่เง่าอย่างกับหมู ทั้งยังอ่อนแอขี้โรค ร่างกายก็เจ็บออด ๆ แอด ๆ ไปทั้งตัวต่อให้เซียวอวิ๋นถิงฉลาดหลักแหลมแค่ไหน ก็ใช่ว่าจะรอดพ้นสายตาเขาไปได้ทุกอย่าง ไม่ว่าอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นแค่คน ไม่ใช่เทพเซียน!เขาเตรียมตัวไว้แล้วว่าส่งขันทีไปขัดขวางเซียวอวิ๋นถิง แล้วก็ให้องครักษ์เสื้อแพรไปทำเลยหลักฐานทั้ง ๆ ที่เขาวางแผนทุกอย่างเอาไว้อย่างไม่มีที่ติแต่สุดท้ายเซียวอวิ๋นถิงกลับวางแผนเหนือกว่า ส่งของไปถึงฮ่องเต้หย่งชางก่อนเสียได้แล้วจะไม่ให้เขาโมโหได้อย่างไร?!ไอ้บ้าสองตัวนั่น!คนหนึ่งเจ้าเล่ห์ อีกคนเหี้ยมโหด ราวกับสุนัขจิ้งจอกกับอสรพิษรวมหัวกัน ใครหน้าไหนเข้าใกล้ก็ต้องถูกพวกเขากัดเข้าให้สักแผลเขาสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วรีบสงบสติอารมณ์ลงอย่างรวดเร็วเขาเบือนหน้าหนีอย่างเย็นชา ไม่มองทางสวีฮว่านอีกเขาไม่เคยกังวลเลยว่าเรื่องนี้จะพัวพัน

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 500  

    ก็ใช่ว่าจะเคราะห์ร้ายเสียทีเดียว ถึงอย่างไรก็ไม่มีคนมาสนใจเขานัก ล้วนแต่ยุ่งกับการจัดการจวนฉู่กั๋วกงกันทั้งนั้น ต่อมาเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยก็ตายไปอีก เรื่องราวเยอะเกินไป ไม่มีใครจะนึกถึงเขาหรอก ทว่าเขาเองก็กลัวมาก! น้องหญิงคนนั้นของเขา มิใช่คนที่จะสะสางหนี้แค้นด้วยคุณธรรมมาตั้งแต่ตอนเยาว์วัยแล้ว หลังจากนี้จะต้องหาโอกาสมาจัดการเขาแน่! พูดให้ถึงที่สุด เรื่องทั้งหมดนี้ต้องโทษสกุลชีอย่างเดียว หากว่าสกุลชีไม่พาตัวพระชายาหลิ่วกลับมา เรื่องราวทั้งหมดนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น ดังนั้นแล้วในตอนนี้อุตส่าห์หาโอกาสได้แล้วทั้งที เข้าย่อมต้องเหยียบย่ำสกุลชีให้เต็มที่แน่นอน ผู่อู๋ย่งยิ่งรู้สึกขบขันเต็มที พอเห็นว่าสวีฮว่านเหลือบสายตามองตนเองด้วยความเคร่งเครียดแล้ว ก็เบนสายตาออกเชิงว่าตักเตือนทันที สวีฮว่านรีบก้มศีรษะลง บัดนี้ลำคอของเขายังเจ็บแปลบ ๆ อยู่เลย ไหนจะตรงช่วงท้องอีก ดูเอาเถิดว่านางเด็กชีหยวนคนนี้ดุร้ายโหดเหี้ยมมากขนาดไหน หัวใจของเขาเต้นระส่ำว้าวุ่นไม่เป็นสุข จนถึงตอนนี้ ทั่วท้องพระโรงทั้งฝ่ายบู๊ฝ่ายบุ๋นล้วนพุ่งเป้าโจมตีจุดอ่อนของสกุลชี ทว่าเซียวอวิ๋นถิงกลับยังคงไม่ปรากฏตัว

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status