Share

บทที่ 1088

Penulis: กานเฟย
ฮองเฮาเว่ยมองโสมโลหิตชิ้นนั้นตาปริบ ๆ ไหนเลยจะรู้ว่าหลิงอวี๋จะทำเหมือนมิเห็นสายตาของนางแล้วถือโสมโลหิตลงไปเลย

แล้วนางก็ยื่นโสมโลหิตชิ้นสุดท้ายให้เซียวหลินมู่ “โสมโลหิตชิ้นสุดท้ายนี้มอบให้พระสนมฮุ่ยเถิด พระนางเสียเลือดไปมาก ต้องการโสมโลหิตไปบำรุง!”

เซียวหลินมู่รับโสมโลหิตมาโดยสัญชาตญาณ เขาจ้องมองหลิงอวี๋ด้วยสายตาที่ซับซ้อน คาดเดามิออกว่าหลิงอวี๋ช่วยตน หรือว่าอยากใช้โสมโลหิตมาเอาใจจักรพรรดิอู่อันกันแน่

เมื่อฮองเฮาเว่ยเห็นว่าหลิงอวี๋มิได้เห็นตนอยู่ในสายตา ก็โกรธจนฟันแทบจะแตกออกมา

นางจ้องมองหลิงอวี๋อย่างดุร้าย เรื่องโสมโลหิตนี้นางเอาความมิได้แล้ว แต่นางยังคงมีหลักฐานที่ประจักษ์ชัด มิว่าอย่างไรวันนี้ก็ต้องฆ่าพระสนมฮุ่ยและทำให้องค์ชายเย่ต้องโดนไปด้วยให้ได้

“ฝ่าบาท แม้ว่าเรื่องโสมโลหิตจะเป็นข่าวลือ แต่ลูกในท้องของพระสนมฮุ่ยจะมีขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุมิได้กระมังเพคะ!”

“หมอจางไม่มีทางตัดสินพลาด หลักฐานที่พระสนมฮุ่ยตั้งครรภ์ก็ชัดเจนมาก! ต่อให้นางจะกลัวความผิดจนฆ่าตัวตายก็หนีการทำโทษมิพ้นหรอกเพคะ!”

“หากนางสนมในวังทุกคนเลียนแบบนาง เช่นนั้นใครจะเห็นกฎวังหลวงอยู่ในสายตาเล่าเพคะ ต้องถูกลงโทษขั้นเ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terbaru

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2702

    สือเหล่ยเห็นดังนั้นก็เอ่ยยิ้มขึ้นมา “ท่านแม่ทัพหลิง แม้มันจะเป็นสัตว์อสูร แต่ก็ยังเป็นเพียงสัตว์ป่าที่ยังมิถูกขัดเกลา”“ข้าคาดว่ามันคงฟังที่ท่านพูดมิเข้าใจ ต่อไปภายหน้าท่านค่อย ๆ สอนมันไปเรื่อย ๆ มิช้ามันย่อมสื่อใจกับท่านได้!” หลิงเฟิงครุ่นคิดแล้วก็เห็นว่ามีเหตุผล ในเมื่อพูดกับเจ้ากร่างมิรู้เรื่อง ก็คงต้องพามันออกเดินทางไปด้วยกัน!ทั้งสองคำนึงถึงบาดแผลบนตัวของเจ้ากร่าง จึงมิได้เร่งฝีเท้า เพียงค่อย ๆ เดินไปอย่างช้า ๆเดินมาได้ครึ่งค่อนวัน ครั้นเมื่อถึงจุดนัดหมาย ก็ยังมิเห็นวี่แววของอู่หรานและเถาจื่อทั้งสองจึงตัดสินใจเดินตามเส้นทางที่ซานเชวี่ยทิ้งร่องรอยไว้ครั้งนี้เมื่อเดินมาจนเกือบค่อนบ่าย ก็ได้ยินเสียงวิ่งมาจากที่ไกล ๆ ตามมาด้วยเสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราดของสัตว์ป่า“หรือว่าอู่หรานกับเถาจื่อจะเจอเรื่องอันตรายเข้าแล้ว?”หลิงเฟิงชักกระบี่ออกมา แล้วรีบรุดไปข้างหน้าพร้อมกับสือเหล่ยเพื่อไปสมทบกับเถาจื่อและอู่หรานวิ่งไปได้มิถึงร้อยเมตร ก็เห็นเถาจื่อและซานเชวี่ยกำลังประคองอู่หรานที่อาบไปด้วยเลือดวิ่งตรงมาเมื่อเห็นหลิงเฟิง เถาจื่อก็ตะโกนลั่น “พี่ใหญ่หลิง รีบมาช่วยเร็วเข้า!”“พี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2701

    หลิงเฟิงในยามนี้ราวกับเด็กน้อยจอมซน แม้จะเห็นว่าเจ้าตัวประหลาดตาเขียวมิพอใจ แต่เขาก็ยังเอ่ยหยอกเย้าว่า “ก็ให้ชื่อนี้แหละ!”“เจ้าจะคงมิได้จะให้ข้าเรียกเจ้าว่าเจ้าถั่ว เจ้าจิ๋ว หรือว่าเจ้าลิงหรอกใช่หรือไม่?”เจ้าตัวประหลาดตาเขียวกลอกตาอย่างจนใจ ชื่อพวกนี้ยังสู้ชื่อปี้อวี้มิได้เลยด้วยซ้ำ!“หรือจะให้ข้าเรียกเจ้าว่าเจ้ากร่าง?”หลังจากหยอกเย้าเจ้าตัวประหลาดตาเขียวจนพอใจแล้ว หลิงเฟิงก็เริ่มตั้งชื่ออย่างจริงจังเสียที“เจ้ากร่าง ก็มิเลวนะ ต่อให้เจ้ามิชอบ ข้าก็มิเปลี่ยนแล้ว!”หลิงเฟิงแสร้งทำเป็นข่มขู่เจ้าตัวประหลาดตาเขียวเอียงคอ ดูเหมือนจะมิเข้าใจว่าเจ้ากร่างหมายความว่าอะไรหลิงเฟิงจึงทำท่าทางวางมาดใหญ่โตในท่วงทีแบบประหนึ่งตนเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในปฐพี พร้อมกับอธิบายอย่างใจเย็น“เจ้ากร่าง ก็คือความหมายที่ว่าเก่งกาจมาก ๆ เจ้าสามารถเอาชนะเสือดำตัวนั้นได้ ก็นับเป็นเจ้าป่าได้แล้ว!”“ข้าจะตั้งชื่อให้เจ้าว่าหวังป้า[footnoteRef:0]ก็ได้ แต่หวังป้ากับหวังปา[footnoteRef:1]ฟังดูคล้ายกันนัก ฝ่ายหนึ่งเป็นคำด่าคน แต่อีกนัยหนึ่งก็แฝงไว้ซึ่งความยิ่งใหญ่และน่าเกรงขาม!” [0: หวังป้า 王霸 หมายถึง เจ้าป่า]

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2700

    ยังมิทันที่สือเหล่ยจะพูดอะไร หลิงเฟิงก็ไต่ลงไปตามกองหินที่พังทลายนั้นแล้วเขาคล่องแคล่วว่องไว เวลามินานก็ลงไปถึงลำธารด้านล่างแล้วเขาเดินเข้าไป แต่ยังมิทันได้เข้าไปใกล้ เขาก็เห็นว่าลิงตัวนั้นเงยหน้าขึ้นมาในทันที ดวงตาสีเขียวจ้องมองมาที่หลิงเฟิงอย่างโหดร้ายหัวใจของหลิงเฟิงหยุดเต้นไปชั่วขณะ แล้วมองลิงตัวนั้นอย่างกังวลเมื่อคืนหลิงเฟิงได้เห็นความโหดเหี้ยมในการต่อสู้กันของสัตว์ประหลาดสองตัวนี้แล้ว หากลิงตัวนี้กระโจนเข้าใส่ตน เขาก็มิรู้เช่นกันว่าตนจะเป็นคู่ต่อสู้ของมันได้หรือไม่แต่ลิงตัวนั้นมิได้เคลื่อนไหวใด ๆ แต่จ้องมองหลิงเฟิงอย่างโกรธเกรี้ยวอยู่เช่นนั้นหลิงเฟิงเห็นว่าผิวหนังบนร่างของมันเปิดออกและเลือดก็ไหลซึมออกมามิหยุดเขารู้สึกสะกิดใจขึ้นมา สัตว์ประหลาดตาเขียวตัวนี้อ่อนแรงมากแล้ว บางทีมันอาจจะไม่มีแรงโจมตีตนแล้วก็เป็นได้หลิงเฟิงจึงยกมือทั้งสองขึ้น พร้อมทั้งยิ้มแล้วเอ่ยว่า “หากเจ้าฟังข้ารู้เรื่อง ก็จะรู้ว่าข้ามิได้มีเจตนาร้ายต่อเจ้า มิฉะนั้นหากข้าคิดจะสังหารเจ้า เจ้าก็หนีไปมิพ้นหรอก!”“สัตว์ประหลาดน้อย เจ้าดูบาดแผลเต็มตัวเจ้าสิ หากข้ามิช่วยเจ้า เจ้าก็คงจะเลือดไหลออกมาจนตาย!

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2699

    ปกติแล้วภายนอกนั้นเถาจื่อจะทำตัวเหมือนมิได้คิดมากอะไร และยังคงช่วยทุกคนทำงานไปตามเดิมแต่ในบางครั้งหลิงเฟิงก็เห็นว่า เถาจื่อมักจะหลบไปตามลำพังเพื่อสวดส่งวิญญาณให้กับคนที่ตายในการสู้รบเช่นพวกจ้าวซวนอยู่บ่อย ๆครานั้นเมื่อหลิงเฟิงเห็นเข้า ในใจก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาตอนนั้นเขาเองก็ถูกเถาจื่อทำร้ายจนเกือบตายเช่นกัน บนร่างกายเขามีบาดแผลจากมีดขนาดต่าง ๆ อยู่นับสิบแผล และเป็นหลิงอวี๋ที่ช่วยชีวิตเขาไว้ได้หลังจากที่รู้ว่าเถาจื่อคือคนที่ทรยศพวกเขา หลิงเฟิงเองก็อยากสังหารเถาจื่อเช่นกันแต่หลังจากที่ได้ฟังหลิงอวี๋บอกว่า เถาจื่อถูกชายาเจ้าแห่งทะเลควบคุม จึงสูญเสียสติของตนไปแล้วทำความผิดเหล่านั้น ความโกรธที่หลิงเฟิงมีต่อเถาจื่อก็หายไปกว่าครึ่งแล้วแต่ก็เป็นเช่นเดียวกับทุกคน ต่อให้ในแง่ของเหตุผลหลิงเฟิงจะรู้สึกว่าการที่เถาจื่อทรยศพวกเขานั้นมิใช่ความผิดของนางทั้งหมด แต่ทุกครั้งที่เห็นเถาจื่อ ในใจของหลิงเฟิงก็มักจะมีความรู้สึกที่ติดค้างอยู่เสมอวันนั้นเมื่อเห็นเถาจื่อคุกเข่าอย่างตั้งมั่น แล้วสวดบทสวดส่งวิญญาณในใจของหลิงเฟิงก็รู้สึกมิสบายใจยิ่งนักเขานึกถึงคำพูดที่หลิงอวี๋กล่าวไว้ว่า หากเปลี่ยน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2698

    วันรุ่งขึ้น ท้องฟ้าเพิ่งจะสว่าง ทั้งสี่คนก็รีบลุกอย่างรีบร้อน และตามไปทางร่องรอยที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้กันของสัตว์ประหลาดหลิงเฟิงมุ่งมั่นเต็มที่ แล้วชิงอยู่หน้าขบวนไปตลอดทางเพื่อตามรอยสัตว์ประหลาดสองตัวทำเอาต้นไม้หักโค่นไปจำนวนมาก และร่องรอยเหล่านี้ก็ลากยาวไปตลอดสิบกว่าลี้ทั้งสี่คนเห็นเช่นนั้นต่างก็รู้สึกหวาดกลัว แม้ว่าจะมิได้เห็นสภาพการต่อสู้ด้วยตาตนเอง แต่ดูจากเสียงเมื่อคืนกับร่องรอยเหล่านี้แล้ว การสู้รบช่างโหดร้ายนัก“หวังว่าพวกมันจะมิได้ต่อสู้กันจนตายไปด้วยกันนะ!”หลิงเฟิงยิ้มขมขื่นแล้วเอ่ยออกมาแต่อู่หรานกลับมิได้มีความทะเยอทะยานคิดจะทำให้สัตว์อสูรเชื่องเช่นเดียวกับหลิงเฟิงเนื่องจากสัตว์อสูรมิใช่ใครที่ไหนจะสามารถเลี้ยงได้ไหว มันจะต้องกินพวกโอสถเสริมพลังวิญญาณอะไรทำนองนั้น ซึ่งล้วนเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่เงินที่อู่หรานหามาได้ ยังคงต้องใช้ประโยชน์อยู่ เขาทำใจนำเงินออกมาเลี้ยงดูสัตว์อสูรมิได้หรอกสือเหล่ยกับเถาจื่อก็เช่นกันอู่หรานเดินตามหลิงเฟิง พลางสังเกตสัญลักษณ์ของซานเชวี่ยไปด้วยแต่ทางนี้ดูเหมือนจะมิใช่เส้นทางที่ซานเชวี่ยไป เดินไปได้สักพักหนึ่งก็มิพบสัญลักษณ์ของซาน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2697

    เถาจื่อได้ฟังคำพูดของหลิงเฟิงเช่นนั้นก็รู้สึกสบายใจไปมิน้อยนางเองก็มิอยากให้เกิดเรื่องขึ้นกับซานเชวี่ยเช่นกัน ในช่วงนี้ที่ติดกันอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์ เถาจื่อกับพวกซานเชวี่ยล้วนอยู่ด้วยกันราวกับพี่น้องซานเชวี่ยมีความคิดที่บริสุทธิ์ ทำให้เถาจื่อนึกถึงตนเองในอดีต ในใจก็ยิ่งสนิทกับซานเชวี่ยมากขึ้นอีกเสียงต่อสู้ผสมกับเสียงคำรามของสัตว์ยังคงดำเนินต่อไปหลิงเฟิงเห็นประกายสีเขียวกะพริบมิหยุด เขาจึงเอ่ยถาม “อู่หราน เจ้าคิดว่าสัตว์ประหลาดสองตัวนั้นเป็นตัวอะไรกัน?”อู่หรานเป็นคนแดนเทพ ทั้งยังเติบโตมาพร้อมกับเจ้าตำหนักคนเก่าอีกด้วย จึงพอจะรู้จักพวกสัตว์ประหลาดเหล่านี้อยู่บ้างเขาพิจารณาจากขนาดและเสียงคำรามของมันแล้วเอ่ยออกว่า “ข้าว่าสัตว์ประหลาดสองตัวนี้น่าจะเป็นเสือดาว ที่มีขนาดพอ ๆ กัน!”หลิงเฟิงเอ่ยอย่างมิเห็นด้วย “อีกตัวอาจจะเป็นเสือดาว แต่เจ้าเห็นหรือไม่ว่าตัวนั้นเป็นสัตว์ประหลาดตาสีเขียว รูปร่างมิคล้ายเสือดาวนะ!”“ดูเหมือนมันจะยังมิเปล่งเสียงออกมา!”สือเหล่ยจึงขยับเข้ามาแล้วเอ่ยว่า “ข้าก็คิดว่าสัตว์ประหลาดตาสีเขียวมิใช่เสือดาวเช่นกัน มันดูคล้ายลิงขนาดใหญ่มากกว่า! มันดูว่องไวกว่

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status