เซียวหลินมู่ก้นกระแทกนั่งลงบนพื้นเขาคิดมิถึงเลยว่าจู่ ๆ เซียวหลินเทียนจะต่อต้านเขา จึงจ้องมองเซียวหลินเทียนอย่างมึนงงและมิพอใจ“เซียวหลินมู่… นี่เจ้ากำลังโทษข้ารึ?”เซียวหลินเทียนเห็นเถาจื่อกับหานเหมยตามมาแล้วจึงส่งหลิงอวี๋ไปให้พวกนาง “ประคองพระชายาไปนั่งด้านข้าง!”เถาจื่อกับหานเหมยรีบประคองหลิงอวี๋ไปนั่งที่นั่งด้านข้างอย่างรวดเร็วเซียวหลินเทียนเข้าไปใกล้เซียวหลินมู่ด้วยใบหน้าโกรธเกรี้ยวแล้วคว้าคอเสื้อของเขาพลางตะคอกด้วยความโกรธ“ข้าเห็นแก่หน้าของพระสนมฮุ่ยจึงมิอยากถือสาเอาความกับเจ้า แต่วันนี้หากมิพูดให้ชัดเจน เจ้าก็จะคิดไปว่าข้าเป็นหนี้เจ้าจริง ๆ!”“คนสารเลวเยี่ยงเจ้าเห็น ๆ อยู่ว่ามีโสมโลหิต แต่กลับมิบอกข้า! มาถ่วงเวลาข้าช่วยอาอวี๋ เจ้ายังคิดว่าเจ้ามีเหตุผลอยู่อีกรึ?”“อาอวี๋ช่วยพระชายากับลูกของเจ้า ถ้าเกิดเจ้ามีจิตสำนึกใด ๆ ก็ควรบอกข้าว่าเจ้าใช้โสมโลหิตไปแล้ว ให้ข้าคิดหาวิธีอื่น! แต่เจ้ามิบอก!”“ได้ ข้าเข้าใจได้ว่าเจ้ามีความยากลำบากเพื่อจะปกป้องเสด็จแม่ของเจ้า!”“แต่เหตุใดสมองโง่ ๆ ของเจ้ามิคิดบ้างเล่า? ข้าจะรู้ได้เยี่ยงไรว่าเจ้ามีโสมโลหิต? คนที่เปิดเผยข้อมูลให้กับข้ากำล
หลิงอวี๋ทั้งหงุดหงิดทั้งโกรธเซียวหลินมู่ แต่เมื่อเห็นเขาขอร้องตนอย่างน่าสงสาร ก็นึกถึงว่าเขาเองก็กตัญญูต่อพระสนมฮุ่ย จึงระงับความโกรธไว้ได้“เนื้องอกของพระสนมฮุ่ยเป็นเนื้อร้ายหรือไม่นั้น ต้องรอการตรวจชิ้นเนื้อ วันนี้หม่อมฉันไม่มีแรงจะตรวจแล้ววันหลังหากรู้แน่ชัดแล้วจะบอกท่านอีกที!”“สำหรับการรักษาในภายหน้า หม่อมฉันจัดตำรับยาให้พระนางแล้ว วิธีการดูแลพระนางก็ได้ทำการสอนแม่นมกับนางกำนัลไว้แล้ว! กินยาตามตำรับยาไปก่อน รอหม่อมฉันตรวจเนื้องอกเสร็จแล้วค่อยปรับตำรับยากันอีกที!”“ได้ ๆ... พี่สะใภ้กลับไปพักผ่อนให้สบายเถิด วันหลังข้าจะไปขอบคุณที่ตำหนัก!”เซียวหลินมู่เห็นว่าหลิงอวี๋ยังคงช่วยเสด็จแม่ของตนโดยมิถือสาความบาดหมางครั้งก่อนเช่นนี้ ก็ยิ่งรู้สึกละอายใจ“มิต้องมาที่ตำหนัก ธรณีประตูตำหนักเราต่ำเกินไป มิสามารถทักทายคนสูงส่งเช่นเจ้าได้หรอก!”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างเย็นชา “อาอวี๋ทำการผ่าตัดให้เสด็จแม่ของเจ้าและจัดตำรับยาให้แล้ว ค่าตรวจรักษาหนึ่งแสน! คงมิแพงใช่หรือไม่!”“เจ้าจ่ายเงินหนึ่งแสนซื้อโสมโลหิต แต่ก็ยังมิสามารถช่วยเสด็จแม่ของเจ้าได้ อาอวี๋ของข้าตัดต้นเหตุให้พระนางไปแล้ว! เจ้ากลับไป
แม้ว่าจักรพรรดิอู่อันจะสั่งให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ปิดปากเงียบเรื่องของพระสนมฮุ่ยมิให้เอาไปพูดข้างนอก แต่ฮองเฮาเว่ยก็ถูกยึดตราหงส์ไปเพราะเหตุนี้ เช่นนี้ไหนเลยจะปิดข่าวได้วันรุ่งขึ้น ก็มีข่าวลือต่าง ๆ แพร่สะพัดออกไปแล้วบางคนบอกว่าเป็นเพราะเซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋เข้าไปรายงานในวัง จึงทำให้ฮองเฮาเว่ยถูกองค์จักรพรรดิยึดตราหงส์ไปบางคนบอกว่าองค์ชายเย่มิได้มีโสมโลหิต พวกเรื่องความเนรคุณหรือเห็นคนใกล้ตายแล้วมิช่วยเหลือนั่นล้วนเป็นเรื่องที่ท่านอ๋องอี้จงใจแต่งเรื่องขึ้นเพื่อให้องค์ชายเย่เสื่อมเสียชื่อเสียงแม้แต่เรื่องราชองครักษ์ผางไร้ความสามารถทางเพศก็แพร่กระจายไปเช่นกันเรื่องราวต่าง ๆ เริ่มแปลกประหลาดมากขึ้นเรื่อย ๆท้ายที่สุดระบุไปว่าเซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋ใช้ความโปรดปรานที่จักรพรรดิอู่อันมีต่อพวกเขามาจัดการฮองเฮาเว่ยกับองค์ชายเย่ในช่วงเวลาหนึ่ง ขุนนางกับราษฎรมากมายในเมืองหลวงที่มิรู้ความจริงก็แอบดูถูกเซียวหลินเทียนกันคิดว่าเซียวหลินเทียนใช้วิธีการใส่ร้ายน้องชายของตนกับฮองเฮาเว่ยเพื่อชิงตำแหน่งองค์รัชทายาทศฤคาลเงินรวบรวมข่าวลือต่าง ๆ แล้วส่งมาให้เซียวหลินเทียนเซียวหลินเ
เซียวหลินเทียนถึงได้เข้าใจความหมายของหลิงอวี๋ ดวงตาของเขามืดมนลงเล็กน้อย นี่เป็นโอกาสที่จะตรวจสอบว่าเซียวหลินมู่ควรค่าที่จะผูกมิตรด้วยหรือไม่จริง ๆก่อนหน้านี้เซียวหลินมู่ให้พ่อบ้านส่งเงินค่าตรวจรักษาหนึ่งแสนมาให้ ทั้งยังบอกว่าจะตอบแทนหลิงอวี๋ด้วยตอนนี้ชื่อเสียงของตนกับหลิงอวี๋แพร่ออกไปว่าเป็นคนโหดร้าย ถ้าเกิดเซียวหลินมู่มีเจตนาที่จะกลับใจสักหน่อยก็จะรู้ว่าควรยืนหยัดล้างมลทินแทนตนเองกับหลิงอวี๋“ได้ เอาตามที่เจ้าว่า! ข้าจะไปจัดการทันที!”เซียวหลินเทียนให้จ้าวซวนไปทักทายที่กระทรวงยุติธรรม ให้ขุนนางกระทรวงยุติธรรมเอาตัวหมอจางไปที่ภัตตาคารจี๋เสียงในวันพรุ่งนี้ตอนเที่ยงอีกด้านหนึ่ง เซียวหลินเทียนก็ให้หลู่ชิ่งหาคนสองสามคนไปกระจายข่าวว่าหมอจางจะคำนับขอโทษหลิงอวี๋ต่อหน้าธารกำนัลที่ภัตตาคารจี๋เสียงเขาแค่อยากสร้างแรงกระตุ้นให้คนมาดูเหตุการณ์นี้มากขึ้นแล้วพลิกสถานการณ์ข่าวที่หมอจางจะคำนับขอโทษหลิงอวี๋แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วเมื่อจางเจ๋อลูกชายของหมอจางได้ยินข่าวลือ ก็โกรธมากจนทุบถ้วยชาในมือแตก“หลิงอวี๋ นางสารเลว กลั่นแกล้งกันเกินไปแล้วจริง ๆ!”“ท่านพ่อของข้าถูกนางบีบสูญเสียตำแห
วันรุ่งขึ้น เซียวหลินเทียนก็ไปภัตตาคารจี๋เสียงกับหลิงอวี๋ รอให้หมอจางมาคำนับขอโทษหลิงอวี๋วันนี้ภัตตาคารจี๋เสียงอัดแน่นไปด้วยผู้คนมากมาย คนมากหลายมาชมความตื่นเต้นนี้ ชั้นสองชั้นสามล้วนแน่นขนัดไปด้วยผู้คนเกิ่งเสี่ยวหาวเดินไปต้อนรับอย่างมีความสุขแล้วพาหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนขึ้นไปชั้นบนก่อนก่อนหน้านี้ธุรกิจของเกิ่งเสี่ยวหาวถูกลูกพี่ลูกน้องของจ้าวเจินเจินกดจนลูกค้าน้อย หลิงอวี๋จึงเสนอแนวคิดให้เกิ่งเสี่ยวหาวภัตตาคารลดค่าใช้จ่ายลง มีการปรับเปลี่ยนอาหารตามฤดูกาล และทุก ๆ สัปดาห์ก็จะมีแนะนำอาหารใหม่ ๆ ทั้งยังมีการเสนอเครื่องดื่มฟรีด้วย ส่วนหอริมธารามีการให้บริการแบบส่วนตัว อาหารก็ล้วนมีการพัฒนาใหม่หลิงอวี๋ยังได้เตรียมเครื่องปรุงรสสุดพิเศษหลายอย่างให้พ่อครัวของเกิ่งเสี่ยวหาวใช้ทำเป็ดย่างกับหมูย่างด้วยรสชาตินี้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเมืองหลวง พวกคนที่มีเงินมากินอาหารจะสนใจสิ่งแวดล้อมกับรสชาติสภาพแวดล้อมของหอริมธาราเป็นเอกลักษณ์ และมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ช่วงนี้ภัตตาคารทั้งสองฝั่งของเกิ่งเสี่ยวหาวที่นั่งเต็มทุกวัน ยังมีหลายคนที่มาที่นี่แล้วเข้าแถวรอที่นั่งอยู่ข้างนอก นับดูแล้วก
หลิงอวี๋มีความสามารถมากขึ้นเรื่อย ๆ เสด็จพ่อเกือบจะมอบความรักที่มีต่อตนให้กับนางหมดแล้ว!นี่มันเป็นไปได้เยี่ยงไร!นางก็แค่มีทักษะการแพทย์เล็กน้อยมิใช่หรือ? มีอะไรที่ดีกว่าตนกัน!เซียวทงยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ คำพูดคำจาก็แขวะขึ้นมาเช่นกัน “ท่านมิได้แกล้งทำใช่หรือไม่? มิเช่นนั้นจะดีขึ้นอย่างรวดเร็วถึงปานนี้ได้เยี่ยงไร!”เซี่ยโฮ่วตานรั่วก็ยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย พลางเอ่ยเยาะเย้ย “ข้าคิดดูแล้วก็คงจริง! พระชายาอ๋องอี้เป็นหมอชั้นเซียนในเมืองหลวงของพวกเจ้า หากนางคิดจะแสร้งทำเป็นได้รับบาดเจ็บ นางมีวิธีมากมายทีเดียว!”วันนั้นเซี่ยโฮ่วตานรั่วถูกซินจิ้งรีบพาตัวไป แต่ภาพที่หลิงอวี๋ขวางลูกธนูให้เซียวหลินเทียนตอนนั้น นางเห็นมันด้วยตาตัวเองการที่เซียวหลินเทียนมีท่าทีโกรธเพราะหลิงอวี๋เช่นนั้น มันทำให้นางหึงจนเป็นบ้าหลังจากที่นางกลับไปนางมิเสียใจที่ตนเองทำเช่นนั้นเลย นางแค่เกลียดตนที่เหตุใดถึงมิยิงธนูให้เร็วกว่านั้นแล้วฆ่าหลิงอวี๋ไปเสีย!เมื่อเป็นเช่นนี้ เซียวหลินเทียนก็จะเป็นของตนแล้ว!นางแค่ชอบบุรุษที่มีความก้าวร้าวเช่นเซียวหลินเทียน นางต้องการความรักที่แข็งแกร่งเช่นนี้!เซี่ยโฮ่วตานรั่วกวาดม
หลิงอวี๋มองฉินรั่วซือด้วยสายตาเหยียดหยาม ท่าทีเยาะเย้ยของนางชัดเจนมากจนทำให้ฉินรั่วซือมิกล้าปะทะสายตาของนางแล้วเลี่ยงไปโดยมิรู้ตัวหลิงอวี๋หมดคำจะพูด เมื่อกี้ก็พูดลื่นไหลดีมิใช่หรือ?แม้แต่สายตาของตนก็ทนรับมิได้ มีพลังต่อสู้เพียงเท่านี้ยังจะกล้าที่จะท้าทายตนอีก!นางมองไปทางเซียวทงแล้วยิ้มเย็นชา “องค์หญิงหก หม่อมฉันรู้ว่าองค์หญิงมีอคติกับหม่อมฉัน! แต่องค์หญิงจะเอ่ยวาจาไร้สาระมิได้กระมังเพคะ!”“มาบอกว่าหม่อมฉันแสร้งทำเป็นได้รับบาดเจ็บหรือ? องค์หญิงกำลังจะบอกว่าเสด็จพ่อโง่เขลาเบาปัญญาหรือ?”“วันนั้นหม่อมฉันได้รับบาดเจ็บ เสด็จพ่อพาถังถีเตี่ยนมาตรวจด้วยตัวพระองค์เอง! หม่อมฉันจะแสร้งทำหรือไม่ เสด็จพ่อกับถังถีเตี่ยนย่อมรู้ดียิ่งกว่าองค์หญิงมิใช่หรือ?”“หรือองค์หญิงคิดว่า หม่อมฉันสามารถติดสินบนเสด็จพ่อกับถังถีเตี่ยนให้พวกเขาแสดงละครตามหม่อมฉันได้กระนั้นหรือ?”เซียวทงถูกหลิงอวี๋ขัดเอาไว้จนพูดมิออก หากนางยืนกรานว่าหลิงอวี๋แสร้งทำ นั่นก็เป็นการยอมรับว่าเสด็จพ่อโง่เขลาเบาปัญญามิใช่หรือ?เซี่ยโฮ่วตานรั่วเห็นว่าเซียวทงพูดมิออก จึงช่วย “แม้ว่าการบาดเจ็บของเจ้าจะเป็นเรื่องจริง แต่ก็มิน่าจะร้าย
หลิงอวี๋กระตุกริมฝีปากอย่างยากจะสังเกตเห็น ฉินรั่วซือผู้นี้ ก่อนหน้านี้ตอนที่คลุกคลีอยู่กับเซียวทงกับเสิ่นจวนก็เรียนรู้เรื่องการพูดจาเจ็บแสบมาจากเสิ่นจวนหลังจากที่เสิ่นจวนถูกตระกูลเสิ่นส่งตัวไป ฉินรั่วซือก็กลายเป็นผู้ติดตามส่วนตัวของเซียวทง นางซึมซับบทเรียนของเสิ่นจวนมาบ้าง ทุกครั้งที่นางเห็นว่าสถานการณ์ท่าจะมิดี นางก็จะหลบไปอยู่ห่าง ๆทว่าตั้งแต่ที่ฮองเฮาเว่ยบอกว่าจะประทานนางให้แต่งงานไปเป็นชายารองของเซียวหลินเทียน สตรีผู้นี้จึงกระตือรือร้นขึ้นมาอีกครั้งครั้งที่แล้วที่เตะลูกกลมฉินรั่วซือก็เล่นไปตามสถานการณ์ ครั้นได้ยินว่าตนได้รับบาดเจ็บก็รีบวิ่งไปแสดงตัวตนที่ตำหนักอ๋องอี้ทันที!ตอนนี้ได้เปลี่ยนแผนการแล้ว จึงใช้ภาพลักษณ์ใสซื่อน่าสงสารเช่นนี้ลงสนามนี่คือเส้นทางแห่งการเสแสร้งใช่หรือไม่?นางคิดว่าท่าทางอ่อนโยนและอ่อนแอจะสามารถกดตนลงไปได้หรือ?หากเซียวหลินเทียนชอบประเภทนี้ บอกได้แค่ว่าเซียวหลินเทียนตาบอดแล้วเมื่อเห็นว่าฉินรั่วซือถูกตนเปิดโปงก็ยังพยายามดึงเซียวหลินเทียนไว้ อยากจะทำให้เซียวหลินเทียนสงสัยในตัวของตนเอง หลิงอวี๋จึงโกรธยังมิทันที่นางจะได้พูดอะไร ฟางเหยาเหยาเห็นฉินร
“ข้ามีนามว่าหลานฮุ่ยจวน ข้าเป็นคนให้กำเนิดเจ้ามา เป็นแม่ของเจ้า!”ท่านอาสุ่ยเอ่ยต่อ “อาอวี๋ แม่รอเจ้ามาหลายปีแล้ว ขอเพียงเจ้าเปิดห้องขังนี้ แม่ก็จะอยู่กับเจ้าตลอดไปได้!”หลิงอวี๋เห็นแสงสีรุ้งเหล่านั้นจางลงไป จากนั้นนางก็มาอยู่ในห้องขังที่มืดมิดห้องหนึ่งสตรีที่สวมอาภรณ์เก่า ๆ ผู้หนึ่งกำลังถูกขังอยู่ในกรงเหล็ก บนใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ ดูราวกับว่าถูกทุบตีมาอย่างสาหัสเมื่อนางเห็นหลิงอวี๋ สตรีผู้นั้นก็พุ่งเข้ามาคว้าลูกกรงไว้แล้วเรียกนางด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวังใบหน้านั้นมีความอ่อนโยนและค่อนข้างคุ้นเคย หลิงอวี๋จึงเดินเข้าไปหาโดยมิรู้ตัว“ท่านคือท่านแม่ของข้าหรือ?”นางเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความสับสน“ข้าคือแม่ของเจ้า… อาอวี๋ เจ้าคือลูกที่ข้าอุ้มท้องมาสิบเดือนและให้กำเนิดเจ้ามา เหตุใดเจ้าจึงจำข้ามิได้เล่า?”“อาอวี๋ แม่ก็มิอยากแยกจากเจ้าเช่นกัน แต่คนเลวพวกนั้นมาพรากเราออกจากกัน พวกเขาขังแม่ไว้ที่นี่ ทุบตีทำร้ายแม่ ทรมานแม่!”สตรีผู้นั้นสะอื้นพลางเอ่ยออกมา “แม่คิดถึงเจ้าตลอดเวลาที่อยู่ในคุก ที่เจ้ามาหาที่นี่มิใช่ว่าเพื่อจะมาช่วยเหลือแม่หรอกหรือ?”“เจ้ารีบไขประตูช่วยแม่ออ
“มิใช่ ข้ามีนามว่าสิงอวี๋ พวกเขาจำคนผิดแล้ว!”แม้ว่าหลิงอวี๋จะชอบเสียงของสตรีผู้นี้ แต่จะฟังแค่ประโยคเดียวของนางแล้วยอมรับตัวตนเลยก็คงมิได้ท่านอาสุ่ยยิ้มออกมาแล้วทำไม้ทำมือไปทางเจ้าแห่งทะเลเจ้าแห่งทะเลยกมือขึ้นมา จากนั้นองครักษ์ผู้หนึ่งก็ก้าวเข้ามาเปิดกลไกของกรงเหล็ก ประตูเหล็กจึงเลื่อนขึ้นไป และท่านอาสุ่ยก็เดินเข้าไปหลิงอวี๋รู้สึกหวั่นใจขึ้นมา นี่เจ้าแห่งทะเลต้องการจะทำกระไร?เขาพาท่านอาสุ่ยที่ดูประหลาดผู้นี้มาก็เพราะคิดจะเกลี้ยกล่อมตนหรือ?“สิงอวี๋ เจ้าแห่งทะเลตรัสว่าท่านเป็นบิดาของเจ้า และระหว่างเจ้ากับเจ้าแห่งทะเลก็มีเรื่องเข้าใจผิดกันบางอย่าง เจ้าแห่งทะเลทรงให้ข้ามาเกลี้ยกล่อมเจ้าว่าอย่าได้ดื้อดึงกับท่านเลย”ท่านอาสุ่ยเอ่ยออกมาอย่างอ่อนโยน “พ่อลูกกันมิโกรธกันข้ามวันข้ามคืน หากมีเรื่องอันใดเข้าใจผิดกัน พูดกันตรง ๆ ก็จบ!”“เจ้าบอกกับอามาว่า เหตุใดเจ้าจึงมิยอมรับบิดาของเจ้า?”หลิงอวี๋เหลือบมองเจ้าแห่งทะเลที่ยืนอยู่ด้านข้างแล้วยิ้มบาง ๆ “มิใช่ว่าข้ามิยอมรับพ่อ แต่พวกเขาจำคนผิดจริง ๆ เจ้าค่ะ!”“ข้ามิใช่หลิงอวี๋ และมิใช่บุตรีของเจ้าแห่งทะเลแน่นอน! ข้าสกุลสิง ท่านพ่อท่านแม่ขอ
หลิงอวี๋มองชายาเจ้าแห่งทะเลที่เดินออกไป แววตาพลันเย็นเยียบลงนางมิคิดว่าชายาเจ้าแห่งทะเลจะมาที่นี่ด้วยตนเองเพียงเพื่อกล่าวถึงเรื่องไร้สาระเหล่านี้ชายาเจ้าแห่งทะเลต้องมีแผนสำรองอื่นอีกแน่นอน“ศิษย์พี่ ชายาเจ้าแห่งทะเลคิดจะทำอะไรกันแน่เจ้าคะ?”เถาจื่อถามอย่างสงสัย “เหตุใดพวกเขามิพาพวกเราไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์?”ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนยังคิดอยู่ว่า หากมิสามารถพาหลิงอวี๋ออกมาได้ ก็จะไปซุ่มรออยู่ใกล้ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อเตรียมพร้อมชิงตัวคนทว่ายามนี้ชายาเจ้าแห่งทะเลกลับมิเล่นตามตำรา เพียงแค่กักตัวหลิงอวี๋ไว้ในจวนเจ้าแห่งทะเล พวกเขามิกังวลว่าจะเกิดเรื่องมิคาดฝันขึ้นหรือไร?“มีความเป็นไปได้สองอย่าง ประการแรกคือ บางทีวิธีนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาอาจจะมิใช่วิธีสลายเลือดละลายกระดูกตามข่าวลือ แต่อาจจะเป็นวิธีอื่น!”“อย่างไรเสียข่าวลือเหล่านี้ก็แพร่มาหลายร้อยปีแล้ว อาจเป็นไปได้ว่า ตระกูลหลงจงใจปล่อยข่าวออกมาก็เพื่อข่มขวัญผู้ที่ละโมบอยากได้หยกหล้าสุขาวดี!”หลิงอวี๋วิเคราะห์อย่างใจเย็น“ส่วนอีกความเป็นไปได้หนึ่งก็คือ ตัวหยกหล้าสุขาวดีเองยังมีความลับอยู่ เจ้าแห่งทะเลมิรู้ ทว่าเขาคิดว่าข้ารู้ จ
ภารกิจของชายาเจ้าแห่งทะเลคือการงัดปากหลิงอวี๋ให้บอกวิธีเข้าไปในหยกหล้าสุขาวดีภารกิจนี้ยากยิ่ง!ชายาเจ้าแห่งทะเลยังมิอาจพูดตรง ๆ ได้ มิฉะนั้นก็เท่ากับเป็นการชี้ให้หลิงอวี๋ล่วงรู้ถึงความมิรู้ของพวกเขาเกี่ยวกับหยกหล้าสุขาวดีทั้งยังจะกระตุ้นให้หลิงอวี๋ไปค้นพบความลับของหยกหล้าสุขาวดี ถึงกาลนั้นเจ้าแห่งทะเลต้องการครอบครองหล้าสุขาวดีก็คงยากยิ่งกว่าการขึ้นสวรรค์เสียอีกเมื่อครู่ชายาเจ้าแห่งทะเลกำลังครุ่นคิดอย่างหนักว่าจะทำอย่างไรให้หลิงอวี๋ประนีประนอมยอมบอกความลับของหยกหล้าสุขาวดีออกมาอย่างว่าง่าย แต่คิดไปคิดมาก็ยังไม่มีแผนการที่ดีเลยนางทำได้เพียงลองหยั่งเชิงดูก่อน ดูว่าจะสามารถใช้เซียวหลินเทียนและบุตรชายของหลิงอวี๋มาเกลี้ยกล่อมให้นางคายความลับออกมาได้หรือไม่“หลิงอวี๋ เจ้าอย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ ฟังเงื่อนไขที่ข้าจะมอบให้เจ้าก่อน!”ชายาเจ้าแห่งทะเลระงับโทสะไว้ และกล่าวอย่างเยือกเย็น “เจ้าคือฮองเฮาแห่งฉินตะวันตก เซียวเยวี่ยบุตรชายเจ้าคือรัชทายาทแห่งฉินตะวันตก แต่ไหนแต่ไรแผ่นดินนั้นของพวกเจ้ากับพวกเราก็มิเคยก้าวก่ายกัน!”“อีกทั้งสามีข้าก็คือบิดาของเจ้า พวกเราก็มิได้อยากจะฆ่าล้างพวกเจ้าหรอก
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว