ร้อยบุปผาบานพร้อมรัก

ร้อยบุปผาบานพร้อมรัก

last updateDernière mise à jour : 2025-06-05
Par:  องค์หญิงโนเนมMis à jour à l'instant
Langue: Thai
goodnovel18goodnovel
Notes insuffisantes
24Chapitres
53Vues
Lire
Ajouter dans ma bibliothèque

Share:  

Report
Overview
Catalog
Scanner le code pour lire sur l'application

เพราะมีดวงกินภรรยา ฟางเทียนอวี้จึงไปทำพิธีปัดเป่าสิ่งไม่ดีที่สำนักร้อยบุปผา สำนักที่ขึ้นชื่อเรื่องการปัดเป่าสิ่งอัปมงคลและยังขึ้นชื่อเรื่องสมุนไพรชั้นดีทำให้บุรุษและสตรีมีใบหน้าที่หล่อเหลาสวยงาม แต่ทว่าเขากลับได้พบ เซียวเหมยลี่ สตรีผู้ข้ามภพมาอยู่ในร่างของคุณหนูตระกูลเซียว ผู้ถูกเรียกขานว่า ธิดาสวรรค์ แต่นางไม่รู้เรื่องของสำนักร้อยบุปผาจึงทำพิธีมั่ว ๆ ให้กับเขา เรื่องราววุ่นวายปนฮาจึงบังเกิด

Voir plus

Chapitre 1

บทที่ 1 การพบเจอ

เมืองหลวงหวงเฉวียน

รัชศกเจิ้งหลงปีที่สิบ

"หลีกทาง ท่านอ๋องมาถึงแล้ว!!!"

เสียงกีบเท้าม้าที่ย่ำลงบนพื้นดินดังสนั่นกึกก้องไปทั่วทั้งปฐพี กอปรกับเสียงออกคำสั่งให้หลีกทางของเหล่าองครักษ์ทำให้เหล่าชาวบ้านที่กำลังเดินสัญจรไปมาบนถนนต้องรีบหลบเข้าข้างทาง พลางมองดูขบวนทหารร่วมแสนนายที่กำลังเดินทางเข้าประตูเมืองหลวง 

บนอาชาสีขาวมีบุรุษผู้หนึ่งรูปร่างกำยำ ใบหน้าของเขาคมคายหล่อเหลา ดวงตาเย็นชาราวหิมะแรกของเหมันต์ฤดู จมูกโด่งคมเป็นสัน ริมฝีปากหนาใหญ่ องคาพยพทั้งห้าบนใบหน้าของเขาช่างหล่อเหลาเสียจนสตรีทั้งเมืองหลวงเฝ้าใฝ่ฝันคะนึงหา

เขาคือ ชินอ๋องฟางเทียนอวี้ น้องชายร่วมมารดาของฮ่องเต้ฟางเจิ้งหลง ผู้นำทัพกองกำลังทหารนับแสนนาย บุกโจมตีเหล่ากบฏและศัตรูจนแตกพ่ายและยอมศิโรราบ 

"โอ๊ย ท่านอ๋องช่างรูปงามยิ่งนัก!!!" 

"ดูเรือนร่างกำยำนั่นสิ ข้าอยากจะโผเข้าไปกอดเสียเหลือเกิน" 

"ให้ตายเถิด!!! ข้าอยากจะเป็นสตรีของท่านอ๋องจนจะบ้าตายอยู่แล้ว!!!" 

เสียงชื่นชมของเหล่าสตรีน้อยใหญ่ดังเซ็งแซ่ขึ้นมาเป็นระยะตลอดทางที่ฟางเทียนอวี้ควบม้าผ่าน เขาไม่ได้แสดงสีหน้าใดใดออกมา แต่กลับเชิดหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง พลางครุ่นคิดในใจ 

แน่นอน!!! ข้าน่ะหล่อเหลาที่สุดในใต้หล้าแห่งนี้แล้ว 

วังหลวง

"น้องรักของข้า เจ้ากลับมาพร้อมชัยชนะอีกแล้ว" 

ฮ่องเต้ฟางเจิ้งหลงเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ยินดีปรีดา พลางจ้องมองฟางเทียนอวี้ด้วยความรักใคร่ ยามนี้ภายในห้องทรงอักษรมีเพียงเขากับพี่ชายสองคน ฟางเทียนอวี้จึงยกขาขึ้นไปพาดบนโต๊ะอย่างสบายอารมณ์ ฟางเจิ้งหลงเองก็ไม่ได้ถือสา กลับเอ่ยถามน้องชายด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน 

"อาเทียน เจ้าอยากได้สิ่งใดเป็นรางวัล บอกพี่มาเถิด พี่จะให้เจ้าทุกอย่าง" 

ฟางเจิ้งหลงยิ้มตาหยีจ้องมองฟางเทียนอวี้อย่างมีความสุข แต่ไหนแต่ไรมาเขากับน้องชายผู้นี้ก็รักใคร่ปรองดองกันมาโดยตลอด อีกทั้งยังมีมารดาคนเดียวกัน ฟางเทียนอวี้ก็ไม่เคยคิดแย่งชิงบัลลังก์กับเขา อีกทั้งยังปกป้องเมืองหลวงเอาไว้อย่างสุดกำลัง เขาจึงรักน้องชายผู้นี้ยิ่งกว่าใคร 

ฟางเทียนอวี้จ้องมองฟางเจิ้งหลง ก่อนจะยิ้มมุมปาก

"ท่านพี่ ข้าอยากได้สมุนไพรบำรุงผิวพรรณ ทั้งภายในและภายนอก" 

ฟางเจิ้งหลงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย 

น้องชายคนนี้อะไรก็ดีไปเสียหมด ติดอย่างเดียว สำอางยิ่งกว่าสตรี!!! 

แม้จะอยู่ในสนามรบตรากตรำสู้รบกับศัตรูไม่ได้หยุดพัก แต่ทว่าฟางเทียนอวี้กลับมีผิวกายที่ขาวสะอาด แม้จะไม่ขาวงดงามเฉกเช่นสตรี แต่ก็ดีกว่าบุรุษในวัยเดียวกันมากนัก 

"อาเทียน เจ้าน่ะเป็นบุรุษ จะนำสิ่งของพวกนี้ไปทำไม..." 

"ท่านพี่จะไม่ยอมมอบให้ข้าหรือ?" 

ฟางเจิ้งหลงเงียบกริบไม่ได้เอ่ยสิ่งใด เพราะรู้จักนิสัยของน้องบัดซบผู้นี้ดี 

หากเขาไม่ตามใจ มันก็จะหาข้ออ้างนั่นนี่มาทำให้เขาลำบากใจ! 

"เอาเถิด ข้าจะให้คนนำไปส่งให้เจ้าที่จวน" 

"ท่านพี่นี่ดีเหลือเกิน" 

ดีกับผีน่ะสิ!!! น้องเวร 

"อาเทียน ข้าว่าเจ้าถึงวัยที่จะต้องแต่งงานแล้ว ข้าจะหาสตรีที่เหมาะสมให้เจ้าดีหรือไม่?" 

ฟางเจิ้งหลงเอ่ยถามฟางเทียนอวี้ด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีเท่าใดนัก นับแต่ฟางเทียนอวี้ถึงวัยหนุ่ม ได้หมั้นหมายกับสตรีถึงสามคน แต่ยังไม่ทันได้แต่งงานสตรีเหล่านั้นก็ล้มป่วยจนตกตายไปเสียก่อน เมื่อเป็นเช่นนี้ผู้คนจึงเล่าลือกันว่า ฟางเทียนอวี้มีดวงกินภรรยา ทำให้ไม่มีสตรีบ้านไหนอยากจะหมั้นหมายและแต่งงานเข้าจวนอ๋องของเขา 

ยิ่งคิดฟางเจิ้งหลงก็ยิ่งกลุ้มใจ ต่างจากฟางเทียนอวี้ที่มีสีหน้าเรียบเฉย 

"ท่านพี่จะกังวลไปไย ข้าไม่ใช่องค์รัชทายาทที่จะต้องรีบแต่งงานมีภรรยาสืบทอดตำแหน่งเสียหน่อย" 

"ไม่ได้!! เจ้าต้องมีชายาดูแลจัดการเรือนหลัง นี่เป็นธรรมเนียมของราชวงศ์เรา เจ้าต้องรีบแต่งงานก่อนอายุยี่สิบปี เข้าใจหรือไม่?" 

"น่าเบื่อ!!!" 

"อ้อ! ข้านึกออกแล้ว หลายวันก่อนข้าได้ยินเหล่าขุนนางเล่าลือกันว่า ที่เมืองหลวงเรา มีสำนักร้อยบุปผา เป็นสำนักที่ขึ้นชื่อเรื่องการแก้ไขปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกจากตัวคนได้ นี่ ๆ ๆ เจ้าลองไปดูเสียหน่อย" 

"ไร้สาระท่านพี่!!!" 

"ข้าสั่งให้เจ้าไป!!! ไปเถิดน่า หากเจ้าไม่ชอบใจก็ไม่ต้องไปอีก ข้าได้ยินว่าสำนักร้อยบุปผาน่ะมีดีหลายอย่าง ทั้งยังขึ้นชื่อเรื่องสมุนไพรที่บำรุงหน้าตาด้วยนะ ส่วนหนึ่งที่ข้าได้มาก็เพราะมีขุนนางนำมาถวาย ฮองเฮาของข้าก็ใช้อยู่" 

ฟางเทียนอวี้ที่ได้ยินเช่นนั้นก็หูผึ่งขึ้นมาทันที 

เรื่องเกี่ยวกับความหล่อเขาสนใจเป็นอย่างมาก! 

ผู้ใดบ้างไม่อยากให้ตนเองหล่อเหลาดูดี 

ไปสักรอบก็ได้ 

เมื่อคิดได้เช่นนั้นฟางเทียนอวี้จึงพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะขอตัวกลับจวนของตนไปในทันที

ยามนี้เป็นช่วงกลางเหมันต์ฤดู หิมะโปรยปรายลงมาเป็นระยะ ฟางเทียนอวี้ควบม้ามาหยุดอยู่ที่ร้านขายสุราชั้นดีร้านหนึ่ง ก่อนจะกระโดดลงจากหลังม้า แล้วลงไปซื้อสุรามาเก็บเอาไว้หลายไห เมื่อจ่ายเงินและบอกที่ให้ไปส่งสุราเรียบร้อยแล้ว เขาก็เดินมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าร้าน ก่อนจะยื่นมือขึ้นไปรองรับหิมะที่ตกโปรยปรายลงมาบาง ๆ พลางครุ่นคิดบางสิ่งบางอย่างไปเรื่อยเปื่อย

ในขณะที่เขากำลังยื่นเหม่อลอยคิดบางสิ่งบางอย่างโดยไม่ทันระวัง ก็ถูกสตรีผู้หนึ่งชนเข้าอย่างจัง สุราในมือของสตรีนางนั้นหกราดรดเสื้อผ้าของเขาจนเปียกชุ่ม 

"ไม่มีตามองหรือ!!!!!" 

"ขออภัยเจ้าค่ะ ขออภัยเจ้าค่ะ" 

"โว้ยยยย!!! ผีปากบวม!!!" 

ฟางเทียนอวี้ที่กำลังจะหันไปด่าทอสตรีนางนั้น แต่เมื่อหันไปเขาก็ต้องสะดุ้งโหยง 

ให้ตายเถิด!!! เหตุใดปากของนางจึงบวมขนาดนั้น!!! 

"ปะ ปากเจ้า?" 

"ขออภัยด้วยนะคุณชายท่านนี้ บังเอิญข้าโดนผึ้งต่อยปากมาน่ะเจ้าค่ะ เลยรีบหาสุรามาดื่ม เขาว่ามันบรรเทาอาการบวมได้" 

ฟางเทียนอวี้ที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น พลางมองสตรีตรงหน้าด้วยสายตาที่รังเกียจ 

ตำราบทไหนกันบอกว่าสุราลดอาการปากบวมได้!!! 

แต่ช้าก่อน! นางทำเสื้อผ้าข้าเลอะนี่นา

"เจ้าทำเสื้อข้าเลอะ!!!" 

"ขออภัยด้วยคุณชาย ข้ามีเงินติดตัวอยู่สามอีแปะ ท่านเอาไปก่อนนะเจ้าคะ ข้าไปละ ข้ารีบ" 

"เดี๋ยว!!! กลับมานะ!!! บัดซบ!!! เงินแค่สามอีแปะจะเอาไปทำสิ่งใดได้" 

ฟางเทียนอวี้กำลังจะวิ่งตามสตรีนางนั้นไปแต่ก็ต้องหยุดชะงัก 

จะวิ่งไม่ได้!!! เดี๋ยวความหล่อกระจัดกระจาย 

เมื่อคิดได้เช่นนั้นฟางเทียนอวี้จึงสงวนท่าที กระโดดขึ้นไปบนหลังม้ามุ่งหน้ากลับจวนอ๋องทันที 

อย่าให้ข้าได้เจอหน้าเจ้าอีกรอบนะ!!! สตรีปากบวม

Déplier
Chapitre suivant
Télécharger

Latest chapter

Plus de chapitres

Commentaires

Pas de commentaire
24
บทที่ 1 การพบเจอ
เมืองหลวงหวงเฉวียนรัชศกเจิ้งหลงปีที่สิบ"หลีกทาง ท่านอ๋องมาถึงแล้ว!!!"เสียงกีบเท้าม้าที่ย่ำลงบนพื้นดินดังสนั่นกึกก้องไปทั่วทั้งปฐพี กอปรกับเสียงออกคำสั่งให้หลีกทางของเหล่าองครักษ์ทำให้เหล่าชาวบ้านที่กำลังเดินสัญจรไปมาบนถนนต้องรีบหลบเข้าข้างทาง พลางมองดูขบวนทหารร่วมแสนนายที่กำลังเดินทางเข้าประตูเมืองหลวง บนอาชาสีขาวมีบุรุษผู้หนึ่งรูปร่างกำยำ ใบหน้าของเขาคมคายหล่อเหลา ดวงตาเย็นชาราวหิมะแรกของเหมันต์ฤดู จมูกโด่งคมเป็นสัน ริมฝีปากหนาใหญ่ องคาพยพทั้งห้าบนใบหน้าของเขาช่างหล่อเหลาเสียจนสตรีทั้งเมืองหลวงเฝ้าใฝ่ฝันคะนึงหาเขาคือ ชินอ๋องฟางเทียนอวี้ น้องชายร่วมมารดาของฮ่องเต้ฟางเจิ้งหลง ผู้นำทัพกองกำลังทหารนับแสนนาย บุกโจมตีเหล่ากบฏและศัตรูจนแตกพ่ายและยอมศิโรราบ "โอ๊ย ท่านอ๋องช่างรูปงามยิ่งนัก!!!" "ดูเรือนร่างกำยำนั่นสิ ข้าอยากจะโผเข้าไปกอดเสียเหลือเกิน" "ให้ตายเถิด!!! ข้าอยากจะเป็นสตรีของท่านอ๋องจนจะบ้าตายอยู่แล้ว!!!" เสียงชื่นชมของเหล่าสตรีน้อยใหญ่ดังเซ็งแซ่ขึ้นมาเป็นระยะตลอดทางที่ฟางเทียนอวี้ควบม้าผ่าน เขาไม่ได้แสดงสีหน้าใดใดออกมา แต่กลับเชิดหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง พลางครุ่นคิดในใจ แน
last updateDernière mise à jour : 2025-06-05
Read More
บทที่ 2 กฎในราชวงศ์
อึก อึก "นี่เหมยลี่ เจ้าจะดื่มอีกนานมั้ย ตั้งแต่เจ้าฟื้นมาก็มีท่าทีประหลาดคนนัก!!! ลูกค้าเจ้าก็ไม่รับ"อิงเย่ว์นั่งมอง เซียวเหมยลี่ที่กำลังยกสุราขึ้นดื่มจอกแล้วจอกเล่าด้วยแววตาที่เอือมระอา ตั้งแต่เซียวเหมยลี่ตกน้ำและฟื้นขึ้นมา ก็ราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เซียวเหมยลี่วางจอกสุราในมือลง ก่อนจะจ้องมองอิงเย่ว์แท้จริงแล้วนางทะลุมิติจากโลกปัจจุบันมาอยู่ในอดีต อยู่ในร่างของสตรีที่มีชื่อและใบหน้าเหมือนกับนางไม่ผิดเพี้ยน นางไม่รู้ว่ามันเกิดสิ่งใดขึ้น นางกำลังว่ายน้ำอยู่ดีดีก็เกิดหมดสติ มารู้ตัวอีกทีก็ลืมตาตื่นขึ้นมาอยู่ในร่างนี้เสียแล้ว เซียวเหมยลี่ในร่างนี้เป็นบุตรสาวของสำนักร้อยบุปผา ท่านพ่อท่านแม่ของนางเปิดกิจการที่เกี่ยวกับการปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย อีกทั้งยังมีเคล็ดลับความงามอีกมากมายที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เซียวเหมยลี่คนเก่าเก่งกาจไม่ต่างจากบิดามารดา แต่นางตายจากโลกนี้ไปแล้ว มีเพียงเซียวเหมยลี่คนใหม่ที่ไม่มีความรู้เรื่องใดเลยสักอย่างนอกจากการกิน การดื่ม และความรู้เกี่ยวกับเครื่องสำอางเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้นการข้ามภพทะลุมิติมาในครั้งนี้ เซียวเหมยลี่ต้องปรับตัวเป็นอย่างมาก นี
last updateDernière mise à jour : 2025-06-05
Read More
บทที่ 3 เทียนมีธูปไม่มี
สองวันต่อมา ปากของเซียวเหมยลี่ก็กลับมาเป็นปกติ ยามนี้นางกำลังผลัดเปลี่ยนอาภรณ์เพื่อเตรียมไปช่วยงานท่านพ่อท่านแม่ที่สำนักร้อยบุปผา ก่อนหน้าที่จะข้ามมาโลกอดีต นางมีหลายสิ่งที่ขาดหายไป ชาติที่แล้วนางไม่มีพ่อแม่ ต้องอยู่กับน้าสาวที่คอยกดขี่ข่มเหง ต้องอดมื้อกินมื้อ มีชีวิตที่ไม่ดีมากนัก แต่เมื่อมาอยู่ในยุคสมัยนี้ นางมีท่านพ่อท่านแม่ที่รักนางมาก มีครอบครัวที่ดี มีทุกสิ่งที่นางไม่มี แม้จะต้องปรับตัวมากกว่าแต่ก่อน แต่นางก็รู้สึกว่าการมีชีวิตเช่นนี้เป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย "คุณหนูเจ้าคะ นายท่านบอกว่า หากคุณหนูแต่งกายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ไปที่สำนักร้อยบุปผาเลยนะเจ้าคะ" "รู้แล้ว" เซียวเหมยลี่หยิบร่มคันหนึ่งออกมากาง ก่อนจะเดินตรงไปที่รถม้าที่จอดรอเอาไว้ นางก้าวเดินขึ้นรถม้าอย่างไม่รีบไม่ร้อน คนขับรถม้าที่เห็นว่าเซียวเหมยลี่ขึ้นไปนั่งเรียบร้อยแล้ว ก็รีบออกเดินทางไปยังสำนักร้อยบุปผาในทันที เซียวเหมยลี่เคยสงสัยว่าเหตุใดท่านพ่อและท่านแม่จึงตั้งชื่อกิจการว่าสำนักร้อยบุปผา นางจึงไปถามอิงเย่ว์ ก็ได้คำตอบว่า เพราะสำนักร้อยบุปผานอกจากจะสามารถปัดเป่าสิ่งอัปมงคลจากร่างกายของคนเราได้แล้ว ยังมีสมุนไพรชั้น
last updateDernière mise à jour : 2025-06-05
Read More
บทที่ 4 ดวงไม่ค่อยดี
เช้านี้อากาศค่อนข้างดีเนื่องจากเข้าสู่ช่วงปลายฤดูเหมันต์แล้ว ยามนี้ผู้คนกำลังเตรียมตัวฉลองส่งท้ายปีเก่า เพื่อต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง ฟางเทียนอวี้ควบม้าไปตามทาง เพื่อตรวจดูความเป็นไปในเมืองหลวง ตลอดสองข้างทางมีเหล่าสตรีจ้องมองเขาตาเป็นมัน บางคนก็ขว้างดอกไม้มาให้เขา บางคนก็ขว้างผ้าเช็ดหน้า ขว้างถุงหอมมาให้ แต่ช้าก่อน!!! ผู้ใดกันขว้างพุทราเน่ามาให้ข้า!!! ข้าเป็นถึงชินอ๋องผู้หล่อเหลาราวเซียนสวรรค์แห่งหวงเฉวียนเชียวนะ!!! ด้านเซียวเหมยลี่ในยามนี้นางกำลังนั่งอยู่ที่ชั้นสองของร้านน้ำชา ได้ยินว่าที่นี่มีชาชั้นดีมาใหม่ อีกทั้งยังมีพุทราผลโตรสชาติหวานอร่อยอีกด้วยนางจึงอยากมาลองลิ้มชิมรสเสียหน่อย จึงพาอิงเย่ว์มาที่นี่ด้วยกันตั้งแต่เช้าตรู่ "อิงเย่ว์เจ้าดูสิ พุทราลูกนี้เน่า!!!""เหมยลี่!!! เจ้าอย่าโยนออกไปด้านนอกหน้าต่างเช่นนั้นสิ!!! เดี๋ยวก็ปาไปโดนหัวคนเข้า" "ข้าโยนไปแล้วนี่ ช่างเถิด ถือว่าคนที่โดนซวยก็แล้วกัน" ฟางเทียนอวี้รู้สึกอารมณ์เสียมาก กลิ่นของผลพุทราเน่ายังคงติดตรึงบนอาภรณ์ของเขา แต่เขาจะโมโหมากก็ไม่ได้ เดี๋ยวความหล่อกระจัดกระจาย!!! เช้านี้เขาต้องรีบเร่งเข้าวังหลวง เพื่อร่ว
last updateDernière mise à jour : 2025-06-05
Read More
บทที่ 5 พบเจอ
ด้านเซียวเหมยลี่นั้นก็กำลังนั่งแทะเมล็ดแตงโมด้วยความเบื่อหน่าย หลังจากที่ทำพิธีให้ลูกค้าก่อนหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว นางก็มานั่งเล่นกับอิงเย่ว์ที่โต๊ะรับแขกชั้นล่างของสำนักร้อยบุปผา"เหมยลี่ อีกเดี๋ยวจะมีลูกค้าอีกหนึ่งคนนะ เจ้าต้องต้อนรับดีดีเล่า ได้ยินว่าเป็นถึงเชื้อพระวงศ์เชียวนะ ชื่อว่าชินอ๋องฟางเทียนอวี้" อิงเย่ว์ที่กำลังถือจานใส่ขนมมาวางบนโต๊ะ เอ่ยกับเซียวเหมยลี่ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน เซียวเหมยลี่ยื่นมือไปหยิบขนมในจานมาเคี้ยวตุ้ย ๆ ก่อนจะเอ่ยตอบ "ข้าจำสิ่งใดไม่ได้ เจ้าให้ท่านแม่ข้าทำแทนเถิด ข้ากลัวว่าจะเกิดความผิดพลาดขึ้นมาได้" "ได้อย่างไรกัน ยามนี้ท่านป้ากลับจวนไปแล้ว คนที่ทำพิธีนี้ได้ก็มีเพียงเจ้าที่เป็นสตรีคนเดียวในตระกูลเซียว เจ้าต้องตั้งใจนะเหมยลี่" เซียวเหมยลี่ถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยหน่าย บัดซบจริง ๆ!!! เกิดใหม่ทั้งที จะให้เกิดในร่างคนดีดีไม่ได้หรือไรกัน!!! "เหมยลี่" "รู้แล้วน่า อย่าบ่นเยอะได้หรือไม่" "โอ๊ะ น่าจะมาถึงแล้ว"ไม่นานนักก็มีเสียงฝีเท้าม้าที่ด้านหน้าสำนักร้อยบุปผา อิงเย่ว์รีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะเดินออกไปต้อนรับแขกทันที เซียวเหมยลี่ไม่ได้สนใจสิ่งใดมาก
last updateDernière mise à jour : 2025-06-05
Read More
บทที่ 6 พิธีเริ่มแล้ว
เซียวเหมยลี่คร้านจะถกเถียงกับฟางเทียนอวี้อีก อย่างไรเสียโลกอดีตแห่งนี้ก็นับถือกันที่ฐานันดรศักดิ์ หากนางไปมีเรื่องกับเขาไม่เลิก คนที่เดือดร้อนก็คงจะเป็นนางเอง เมื่อคิดได้เช่นนั้น นางจึงเอ่ยถามฟางเทียนอวี้ด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ "วันนี้ท่านอ๋องต้องการทำสิ่งใดหรือเพคะ" "ไม่อ้อมค้อม ได้ยินว่าสำนักร้อยบุปผาของเจ้าสามารถปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายได้ ข้าจึงอยากมาลองดูเสียหน่อย" "แล้วเหตุใดจึงอยากทำเล่าเพคะ เป็นถึงเชื้อพระวงศ์แท้ ๆ" "อย่าสู่รู้!!!" "ไม่สู่รู้แล้วจะรู้ที่มาที่ไปได้อย่างไรเพคะ หากไม่รู้หม่อมฉันก็ทำพิธีไม่ถูกนะเพคะ" ฟางเทียนอวี้ที่ได้ยินเช่นนั้นจึงเอ่ยกับเซียวเหมยลี่อย่างไม่สบอารมณ์ "คู่หมั้นข้าตกตายไปสามคนแล้ว ข้าจึงอยากมาทำพิธีเสียหน่อย" "ตายแล้ว!!! ดวงกินภรรยาหรือนี่!!!" "หุบปาก!!! ก่อนที่ข้าจะตัดลิ้นเจ้า!!!" "โอ๊ย!!! ไม่พูดแล้วเพคะ ไม่กล้าแล้ว" "ดี!!! เริ่มทำพิธีได้" "ช้าก่อนเพคะ การจะทำพิธีท่านอ๋องจะต้องยอมทำตามข้อตกลงเสียก่อน นั่นก็คือ ไม่ว่าระหว่างพิธีจะเกิดสิ่งใดขึ้น ห้ามโวยวายและห้ามโมโหเด็ดขาด มิเช่นนั้นพิธีจะไม่สำเร็จลุล่วงและสิ่งชั่วร้ายอาจจะเพิ่มมากขึ้นเพคะ"
last updateDernière mise à jour : 2025-06-05
Read More
บทที่ 7 จวนอ๋อง
เช้าวันต่อมา ผู้คนต่างโจษจันกันสนุกปาก เมื่อเห็นว่าที่ด้านหน้าสำนักร้อยบุปผายามนี้มีทหารประจำการอย่างเข้มงวด หน้าสำนักถูกปิดประตูแน่นหนา มีป้ายเขียนเอาไว้ว่าปิดทำการชั่วคราว ผู้คนต่างเล่าลือกันว่า เมื่อวานนี้มีเชื้อพระวงศ์มาที่สำนักร้อยบุปผา แล้วคนในสำนักร้อยบุปผาคงทำสิ่งใดล่วงเกินเชื้อพระวงศ์เข้า จึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น มีทั้งคนเสียดายและคนที่สมน้ำหน้าปะปนกันไปด้านในสำนักร้อยบุปผายามนี้ ฟางเทียนอวี้ที่ใบหน้ามีแต่ผดผื่นแดงขึ้นเต็มไปหมด กำลังจ้องมองเซียวเหมยลี่อย่างดุดัน "ท่านอ๋องขออภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ บุตรสาวกระหม่อมไม่ได้ตั้งใจจะล่วงเกินพระองค์เลยแม้แต่น้อย!!!" "ไม่ตั้งใจหรือ เจ้าแหกตาดูหน้าข้าสิ!!!" "ท่านอ๋องโปรดไว้ชีวิตด้วย!!! เซียวเหมยลี่รีบร้องขอความเมตตาจากท่านอ๋องเร็วเข้า!!!" ฟางเทียนอวี้หรี่ตามองเซียวเหมยลี่คราหนึ่งก่อนจะครุ่นคิดในใจ ชื่อนางก็เพราะดีแต่สกปรกไปเสียหน่อยแล้วยังทำให้หน้าเขาเป็นเช่นนี้อีกด้วย!!!เซียวเหมยลี่ที่นั่งคุกเข่าก้มหน้าในยามนี้กำลังถูกมารดาของนางถลึงตาใส่อย่างดุดัน โทษฐานที่นางทำเรื่องไม่เหมาะไม่ควร แทนที่นางจะถามอิงเย่ว์ในสิ่งที่ไม่รู้ แต่กลับจัดก
last updateDernière mise à jour : 2025-06-05
Read More
บทที่ 8 ผี...
กลางดึกคืนนั้นเซียวเหมยลี่รู้สึกว่านอนไม่หลับ อาจจะเพราะแปลกที่ผิดทาง นางจึงนอนพลิกซ้ายพลิกขวาอย่างทรมาน ไม่นานนักก็รู้สึกว่าตนเองปวดเบาขึ้นมาจนกลั้นไม่ไหว แต่เมื่อนึกถึงคำพูดของฟางเทียนอวี้นางก็พยายามขมิบเอาไว้อย่างเต็มกำลัง ให้ตายเถิด!!! จวนประหลาด หากบ่าวไพร่ปวดหนักจะทำเช่นไรกันนะ!!! "ทนไม่ไหวแล้ว!!!" ท้ายที่สุดเซียวเหมยลี่ก็ทนไม่ไหว นางจึงลุกจากเตียงนอน ก่อนจะเดินออกจากเรือนเพื่อไปหาที่ปลดทุกข์ นางทนไม่ไหวแล้ว จะผีหรือสิ่งใดนางก็ไม่กลัวทั้งนั้น เมื่อจัดการธุระของตนเองเสร็จเรียบร้อยแล้ว เซียวเหมยลี่จึงเดินลัดเลาะไปตามริมสระน้ำเพื่อกลับเรือนนอน แต่ทว่าระหว่างทางนางกลับได้ยินเสียงประหลาดเสียงหนึ่งเข้า โอวววว อื้มมมม ซี้ดดดดด เซียวเหมยลี่พยายามเงี่ยหูฟัง ก่อนจะยกมือขึ้นทาบอก ตายแล้ว!!! เสียงผีร้องหรือ!!! แล้วเหตุใดมันจึงร้องว่า ซี้ดดดด เล่า!!!เมื่อคิดได้เช่นนั้นเซียวเหมยลี่ก็รู้สึกขนลุกขนชันขึ้นมาเสียดื้อ ๆ นางรีบเร่งฝีเท้าก้าวเดินกลับเรือนนอน ก่อนที่สายตาของนางจะเหลือบไปเห็นบางสิ่งบางอย่างเข้า เซียวเหมยลี่พยายามเพ่งสายตามองดูฝ่าความมืด ก่อนจะพบกับใครบางคนที่นางคุ้นตา ฟางเท
last updateDernière mise à jour : 2025-06-05
Read More
บทที่ 9 ตระกูลเซียวเกิดเรื่อง
เช้าวันต่อมาเซียวเหมยลี่ยังคงทำหน้าที่เหมือนเช่นเคย เพียงแต่วันนี้นางกับฟางเทียนอวี้มีท่าทีกระอักกระอ่วนอย่างเห็นได้ชัด เซียวเหมยลี่เหลือบมองหว่างขาของฟางเทียนอวี้เป็นระยะ ในขณะที่ฟางเทียนอวี้ก็เหลือบมองริมฝีปากของเซียวเหมยลี่เช่นเดียวกัน "เอ่อ ผื่นแดงลดลงเร็วมากเพคะ หม่อมฉันคิดว่าน่าจะไม่ถึงสิบวันคงจะหายดีแล้ว" "อืม" "เช่นนั้นหม่อมฉันขอตัวก่อนนะเพคะ" เซียวเหมยลี่เอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินกลับไปที่เรือนของตนทันที เมื่อมาถึงก็พบว่าพ่อบ้านโจวนำแตงกวามามอบให้นางหนึ่งตะกร้าใหญ่ บอกว่าแตงนี้มีรสชาติหวานกินกับสิ่งใดก็อร่อย เซียวเหมยลี่เอ่ยขอบคุณพ่อบ้านโจว ก่อนจะหยิบแตงกวาผลใหญ่ขึ้นมาดู ขนาดเท่ากับท่อนเอ็นลำมังกรของฟางเทียนอวี้เลย เมื่อดึงสติกลับมาได้เซียวเหมยลี่ก็ยกมือขึ้นทาบอกตนเองก่อนจะอุทานในใจ ตายแล้ว!!! ภาพเมื่อคืนยังติดตาข้าไม่หายเลย เพราะวันนี้ไม่มีสิ่งใดให้ต้องทำมากนัก เซียวเหมยลี่จึงขออนุญาตฟางเทียนอวี้กลับจวนตระกูลเซียว ฟางเทียนอวี้พยักหน้าเล็กน้อย เซียวเหมยลี่ที่เห็นเช่นนั้นจึงเดินทางกลับจวนตระกูลเซียวทันที ระหว่างทางนางแวะซื้อขนมติดไม้ติดมือไปฝากอิงเย่ว์ด้วย ในขณะที่ก
last updateDernière mise à jour : 2025-06-05
Read More
บทที่ 10 สุราพาเพลิน
ด้านเซียวเหมยลี่ในยามนี้นั้นก็รู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมาก นางรินสุราที่นำมาจากจวนของตนเองใส่จอก ก่อนจะยกขึ้นดื่ม จอกแล้วจอกเล่า ในสมองพยายามคิดหาทางช่วยตระกูลเซียวจากหนี้ที่ไม่ได้ก่อในครานี้ให้ได้ แต่คิดเพียงใดนางก็คิดไม่ออก เมื่อมองดูไปที่นอกหน้าต่างนางก็ถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง ยามนี้ถึงเวลาปรุงยาสมุนไพรให้ฟางเทียนอวี้แล้ว นางจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วจัดเตรียมสมุนไพรก่อนจะเดินตรงไปที่เรือนใหญ่ทันที ส่วนฟางเทียนอวี้นั้นก็ได้ข่าวจากพ่อบ้านโจวที่ส่งให้ไปสืบ ได้ความว่า บิดาของเซียวเหมยลี่นั้นแท้จริงติดหนี้การพนันจนนำสำนักร้อยบุปผาไปจำนอง แต่กลับหลอกคนในตระกูลว่าไปเซ็นค้ำให้สหายสนิท และคนที่บิดาของเซียวเหมยลี่นำสำนักร้อยบุปผาไปจำนองเอาไว้นั่นก็คือฟางเจียเอ๋อร์น้องชายต่างมารดาของเขา "ท่านอ๋อง ได้เวลาแช่สมุนไพรแล้วเพคะ"ฟางเทียนอวี้เงยหน้าไปมองเซียวเหมยลี่คราหนึ่ง เขารับรู้ได้ถึงสายตาที่ทุกข์ใจของนาง ทุกครายามที่นางเจอหน้าเขาจะต้องหาทางเอ่ยวาจาจิกกัดเขา แต่วันนี้นางกลับเงียบรู้สึกเงียบหูพิลึก!!! "ไปเตรียมของให้พร้อม อีกเดี๋ยวข้าจะตามไป" "เพคะ" เซียวเหมยลี่เดินโซเซเข้าไปในห้องนอนของฟางเที
last updateDernière mise à jour : 2025-06-05
Read More
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status