“องค์หญิงหก ฟางเหยาเหยา ตู้ตงหงกับฉินรั่วซือควรเปลี่ยนเป็นสวีเยวี่ย เผิงเสี่ยวฮุ่ยและเว่ยอวิ๋นนะ!”หลิงอวี๋เอ่ยขึ้นมา “สวีเยวี่ย เผิงเสี่ยวฮุ่ยและเว่ยอวิ๋นต่างก็เก่งวรยุทธ มีความอดทนดี ทั้งยังเตะลูกกลมได้ดีอีกด้วย! พวกนางเหมาะสมกว่า!”ยังมิทันที่เซียวทงจะพูดอะไร ตู้ตงหงก็ตะโกนขึ้นมา “พระชายาอ๋องอี้ นี่ท่านหมายความว่าอย่างไร? กำลังดูถูกใครอยู่หรือไร? เหตุใดท่านมิพูดว่าให้เปลี่ยนตัวหลิงหว่านเล่า? เห็นได้ชัดว่าท่านมีอคติกับข้า!”ฉินรั่วซือลังเลอยู่ครู่หนึ่ง นางมิอยากได้รับเหรียญขยะนั่น!แต่นี่เป็นโอกาสที่จะแสดงตัวต่อหน้าองค์จักรพรรดิกับเซียวหลินเทียน!หลังจากกลับมาจากเว่ยโจว ฉินรั่วซือก็คิดอยู่ตลอดว่าจะเข้าใกล้เซียวหลินเทียนแล้วแต่งงานเข้าตำหนักอ๋องอี้ได้อย่างไรแต่ก็มิเคยมีโอกาสนั้นเลย!วันนั้นฉินรั่วซือรู้สึกกลุ้มมากจึงพาสาวใช้ไปจุดเครื่องหอม นางอธิษฐานต่อหน้าพระว่า ขอเพียงนางได้แต่งงานกับเซียวหลินเทียน นางจะมาปิดทองพระพุทธรูปคิดมิถึงเลยว่า หลังจากที่นางคำนับเสร็จจะมีสตรีที่งดงามมีเสน่ห์ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังพระพุทธรูป นางมองฉินรั่วซือด้วยรอยยิ้มมิคล้ายยิ้มแล้วเอ่ย“เจ้าอยากแต่ง
“หากพูดเช่นนี้เสียแต่แรก จะได้รับโทษเช่นนั้นหรือ!”อิงเหนียงยิ้มเยาะแล้วเอ่ย “เจ้ากลับไปรอก่อน อีกมิกี่วันข้าจะทำให้เจ้าแต่งงานเข้าตำหนักอ๋องอี้!”“ต่อไปหากข้าต้องการให้เจ้าทำสิ่งใด ข้าจะหาคนส่งข้อความถึงเจ้า! หากเจ้ากล้ามิเชื่อฟังข้า ข้าก็จะทำให้เจ้าตาย!”อิงเหนียงเอ่ยอย่างโหดร้าย “เจ้าเองก็อย่าแม้แต่จะคิดขอให้ใครช่วยเอาหนอนกู่ออกให้เจ้า หนอนกู่ที่ข้าเลี้ยงไว้ หากมีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติข้าก็จะรู้ทันที!”“หากเจ้ายังมิได้เอาหนอนกู่ออกไป ข้าก็สามารถทำให้เจ้าตายได้! ดังนั้น... เจ้าควรทำตัวดี ๆ!”หลังจากที่อิงเหนียงไปแล้ว ฉินรั่วซือก็ไม่มีกะจิตกะใจที่จะไหว้พระแล้ว นางรีบพานางรับใช้กลับบ้านทันทีมิถึงสองวัน นางก็ได้ยินข่าวว่า ฮองเฮาเว่ยเสนอให้ตนแต่งงานกับเซียวหลินเทียนในฐานะชายารองจริง ๆ!ตอนนั้นที่ฉินรั่วซือได้ยินข่าวก็รู้สึกประหลาดใจและมีความสุขมาก อิงเหนียงทำได้จริง ๆ หรือ?แต่ต่อมา หลังจากฉินซานกลับมา เขาถามฉินรั่วซือด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “รั่วซือ เหตุใดฮองเฮาถึงให้เจ้าไปเป็นชายารองท่านอ๋องอี้? เจ้าไปทำสิ่งใดลับหลังข้า?”ฉินรั่วซือมีหรือจะกล้าบอกความจริง จึงเอ่ยไปอย่างรู้สึกผิด
เมื่อเซียวทงเห็นว่าฉินรั่วซือมิยอมเปลี่ยนตัวก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจให้กับหลิงอวี๋ “ท่านพี่สะใภ้สี่ อย่าได้ทำให้ความกระตือรือร้นของทุกคนลดน้อยลงเลย! เอาตามนี้เถิด!”“ไป พวกเราไปเปลี่ยนอาภรณ์เตรียมตัวกัน!”ฟางเหยาเหยาก็มิพอใจที่หลิงอวี๋เสนอจะเปลี่ยนตัวนางเช่นกัน จึงลากตู้ตงหง เผยเหลียนและคนอื่น ๆ ตามองค์หญิงหกไปเปลี่ยนอาภรณ์หลิงอวี๋จนใจ จึงกระซิบกับอันซิน “เจ้าให้พวกสวีเยวี่ย เผิงเสี่ยวฮุ่ยและเว่ยอวิ๋นไปเปลี่ยนอาภรณ์ด้วย เตรียมพร้อมไว้หากประเดี๋ยวมีคนมิไหวก็จะให้เข้าแทน!”มิรู้ว่าอันซินไปบอกพวกนางว่าอย่างไร แต่คนเหล่านั้นมิได้มีการโต้แย้งแล้วไปหาที่เปลี่ยนอาภรณ์ทันทีทางด้านแขกบุรุษได้ยินว่าพวกสตรีกำลังจะแข่งขันเตะลูกกลมกัน จักรพรรดิอู่อันจึงนำพวกเขามารอชมความสนุกกันทั้งสามกลุ่มจากสามแคว้น มีองค์หญิงจากทั้งสามแคว้นเป็นหัวหน้า อันได้แก่ เซียวทง มู่หรงชิ่งและเซี่ยโฮ่วตานรั่วไทเฮาเป็นประธานในการจับสลาก หัวหน้าทั้งสามคนต่างเปลี่ยนเป็นชุดขี่ม้า มัดผม เรียบร้อยและยืนต่อหน้าไทเฮาอย่างกล้าหาญไทเฮายิ้มแล้วให้ไป่ซุ่ยวางหลอดฉลากไว้บนโต๊ะ และเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “การแข่งขันเตะลูกกลมสตรีสามแคว้น
หลิงอวี๋เองก็จนใจเช่นกัน แต่หัวหน้ากลุ่มได้รับการยืนยันจากจักรพรรดิอู่อันแล้ว ตนคิดจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนเองได้ที่ไหนกัน!“พวกเจ้าคอยดูกลยุทธ์และจุดเด่นของทั้งสองฝ่ายไว้ให้ดีก่อน! คอยสังเกตข้อบกพร่องของพวกนางให้มากเป็นพิเศษ! พวกเรามิอยากอยู่รั้งท้าย หากความแข็งแกร่งของเรามิเท่าของพวกนาง เราก็ทำได้เพียงคิดอุบายเอาชนะให้ได้!”สวีเยวี่ยที่สามารถเล่นเตะลูกกลมได้ กับเผิงเสี่ยวฮุ่ย เว่ยอวิ๋น เจียงอวี้และคนอื่น ๆ ต่างก็เฝ้าดูอย่างตั้งใจในมิช้าฉีตะวันออกก็ทำประตูได้แล้วหนึ่งลูก เซี่ยโฮ่วตานรั่วก็กระโดดขึ้นมาอย่างมีความสุขแล้วโบกมือไปที่ผู้ตัดสินองค์ชายหนิงแห่งฉีตะวันออกแย้มรอยยิ้มบนในหน้า เขานั่งอยู่กับองค์ชายคัง เซียวหลินเทียนและมู่หรงเหยียนซงเมื่อองค์ชายคังเห็นท่าทีตื่นเต้นของเซี่ยโฮ่วตานรั่ว เขาก็ยิ้มแล้วเอ่ย “องค์ชายหนิง องค์หญิงตานรั่วเป็นวีรสตรีในหมู่สตรีจริง ๆ นางมีความสามารถทั้งทางบุ๋นและบู๊ หาได้ยากมากในหมู่สตรี!”“องค์ชายคังชมเกินไปแล้ว!”องค์ชายหนิงอยู่ในวัยยี่สิบต้น ๆ ใบหน้าของเขาคมชัดราวกับประติมากรรม มีขอบมีมุม ภายนอกดูสงบสง่างาม แต่ในดวงตามีประกายที่ทำให้คนมิกล้าดูถูกแม้
หลังจากถูกเตือนจากหลิงอวี๋ จูหลานก็ได้ตรวจสอบเรื่องที่เสี่ยวเป่าของนางติดเชื้อโรคฝีดาษแล้วสิ่งที่ทำให้นางตกใจก็คือ อาการเจ็บป่วยของเสี่ยวเป่านั้นเกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์จริง ๆ!และเป็นพระชายาเว่ยอีกแล้วที่ติดสินบนคนรับใช้ แอบเอาเสื้อผ้าที่ผู้ป่วยโรคฝีดาษสวมใส่มาวางไว้ใต้หมอนของเสี่ยวเป่าเงียบ ๆจูหลานโกรธมาก และดุด่าองค์ชายเย่“ท่านไม่มีความสามารถที่จะไปเทียบเทียมกับผู้อื่นด้วยซ้ำ แต่กลับคิดถึงตำแหน่งนั้น! ดูเอาเถิด ท่านเพิ่งจะเคลื่อนไหว เขาก็ลงดาบกับลูกชายของท่านแล้ว!”“ท่านยังห้ามหม่อมฉันมิให้ไปขอร้องพี่สะใภ้สี่ให้มาตรวจเสี่ยวเป่าอีก… หากไม่มีพี่สะใภ้สี่ เสี่ยวเป่าก็คงตายไปแล้ว!”จูหลานตะโกนออกมาอย่างเศร้าเสียใจ “เซียวหลินมู่ หม่อมฉันแต่งงานกับท่านโดยมิคิดว่าท่านจะต้องกลายเป็นผู้สูงศักดิ์ที่สุดในฉินตะวันตก!”“หากตำแหน่งนั้นสำคัญสำหรับท่านมากถึงเพียงนั้น... สำคัญมากจนท่านแลกได้กระทั่งชีวิตของเราแม่ลูก! เช่นนั้นท่านก็ไปแย่งชิงมาให้ได้เสียเถิด! หวังเพียงว่าในท้ายที่สุดท่านจะมิเสียใจเพคะ!”ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา จูหลานก็ขับไล่องค์ชายเย่ออกจากเรือนของตนก่อนหน้านี้นางบอกหลิงอวี๋ว
พวกของพระชายาเส้าและจักรพรรดิอู่อันต่างจมอยู่ในความคิดของตัวเอง ครึ่งแรกของการแข่งขันระหว่างเยวี่ยใต้กับฉีตะวันออกก็จบลงแล้ว ผลคะแนนห้าต่อสองโดยที่ฉีตะวันออกเป็นผู้นำคะแนนหลังจากพักไปสิบห้านาทีการแข่งขันก็ดำเนินต่อไปในช่วงครึ่งหลัง ในที่สุดเซียวทงก็กลับมาพร้อมกับเหล่าสตรี นางก็ยังคงมิรู้สึกกังวลเลยแม้แต่น้อยแล้วลากตู้ตงหงกับเผยเหลียนออกไปกระซิบพึมพำกันอยู่ข้าง ๆหลิงอวี๋เห็นแล้วก็พูดมิออก นางสังเกตเห็นแล้วว่ากลุ่มของเซี่ยโฮ่วตานรั่วนั้นแข็งแกร่งมากจริง ๆ สตรีในสนามมีความอดทนดี ทั้งยังทำงานร่วมกันได้ดีด้วยทว่าหากต้องการจะเอาชนะกลุ่มของเซี่ยโฮ่วตานรั่วนั้น มันยากเกินไป!ส่วนกลุ่มของมู่หรงชิ่งอ่อนแอกว่าของเซี่ยโฮ่วตานรั่วเล็กน้อยมู่หรงชิ่งเป็นคนนิสัยดี แต่ระดับการจัดการของนางนั้นด้อยกว่ามาก แม้ว่ากลุ่มของนางจะมิได้อ่อนแอ แต่ความสามารถของกลุ่มในการร่วมมือกันนั้นด้อยกว่ากลุ่มของเซี่ยโฮ่วตานรั่วมาก!หลิงอวี๋ยังสังเกตเห็นอีกว่า ระหว่างพักมู่หรงชิ่งถูกมู่หรงเหยียนซงเรียกไปคุยอยู่สักพักนี่เป็นครั้งแรกที่หลิงอวี๋ได้เห็นมู่หรงเหยียนซง แม้ว่าจะอยู่ห่างไกล มิได้ยินสิ่งที่พวกเขาคุยกัน
การเดิมพันมีการตกลงแล้วทั้งสองฝ่ายก็พร้อมที่จะแข่งขันกันแล้วผู้รักษาประตูที่เซียวทงเลือกคือหลี่อวี้เจิน นับว่าเป็นผู้รักษาประตูที่พึ่งพาได้ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋ให้ลู่หนานไปหาข้อมูลคุณหนูเหล่านี้แล้ว จึงพอจะเข้าใจสถานการณ์โดยรวมของทุกคนหลี่อวี้เจินผู้นี้มาจากครอบครัวนายทหาร ฝึกฝนวรยุทธกับพ่อและพี่ชายของนางมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นความคล่องตัวและความอดทนของนางจึงไม่มีปัญหาหลิงอวี๋ หลิงหว่าน เผยเหลียนและตู้ตงหงนั้น เซียวทงจัดให้เล่นกองกลางฉินรั่วซือ ฟางเหยาเหยา เถาลี่และเจียงอวี้ สี่คนนี้เล่นเป็นกองหลังส่วนกองหน้าคือเซียวทงกับเจิงจื่ออวี้รับผิดชอบเมื่อได้ยินสิ่งนี้หลิงอวี๋ก็เอ่ยโดยมิรู้ตัว “องค์หญิงหก ให้เจียงอวี้ไปเล่นไปกองหน้ากับท่านเถิด! เจียงอวี้มีความอดทนที่ดี ดังนั้นนางจึงเหมาะสมกว่าที่จะเป็นกองหน้า!”เซียวทงเลิกคิ้วแล้วยิ้มเยาะพลางเอ่ย “หลิงอวี๋ ข้าเป็นหัวหน้าหรือเจ้าเป็นหัวหน้า? ข้าย่อมมีเหตุผลของตัวเองที่จัดการเช่นนี้! เจ้าเพียงแค่เชื่อฟังคำสั่งก็พอแล้ว!”“แม้ว่านี่จะเป็นการแข่งขัน แต่ก็คล้ายกับการต่อสู้ หากเจ้ามิฟังผู้นำ ก็จะถูกลงโทษ!”หลิงอวี๋โกรธขึ้นมาครู่หนึ่ง เห
การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไปคราวนี้เซียวทงส่งลูกกลมอีกครั้ง หลิงอวี๋มองขณะที่นางส่งลูกกลมให้หลิงหว่านอีกครั้ง คราวนี้หลิงหว่านรีบวิ่งไปข้างหน้า แล้วตะลึงใช้หัวโหม่งลูกกลมไปที่ฟางเหยาเหยาฟางเหยาเหยาดูเหมือนจะตอบสนองช้าไปครึ่งจังหวะ คนของมู่หรงชิ่งจึงแย่งลูกกลมไปได้อีกครั้งแล้วหลิงอวี๋รีบเข้าไปแย่งลูกกลมแล้วเตะไปที่เจียงอวี้ เจียงอวี้ตอบสนองอย่างรวดเร็ว รีบวิ่งไปรับลูกกลมแล้วยิงไกล...หนึ่งต่อหนึ่ง!หลิงอวี๋ถอนหายใจโล่งอก ตราบใดที่มิแพ้เยวี่ยใต้ ขยะนี้ก็จะมิตกใส่หัวของฉินตะวันตก...นางเหลือบมองมู่หรงชิ่งอย่างขอโทษ นี่คือการแข่งขันระหว่างแคว้น เช่นนั้นการแข่งขันจึงต้องมาก่อน และมิตรภาพมาเป็นอันดับสองเท่านั้นมู่หรงชิ่งมองออกมาก ๆ เมื่อนางเห็นหลิงอวี๋มองมาที่ตน นางก็ยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นให้สูง ๆ “พี่หญิงหลิงอวี๋ มิคาดคิดเลยว่าเจ้าจะเตะลูกกลมเก่งถึงเพียงนี้!”“สู้ ๆ!”“สู้ ๆ!”หลิงอวี๋ก็ทำท่าสู้ ๆ ให้นางกลับเช่นกันในการแข่งขันถัดไป เซียวทงจ้องหลิงหว่านส่งลูกกลม ครั้งหนึ่งเตะลูกกลมไปที่หัวของหลิงหว่าน อีกครั้งก็เตะไปที่หลังของหลิงหว่านหลังจากผ่านไปหลายครั้งแล้ว สีหน้าของหลิงอวี๋
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี
ชีวิตนี้หาสหายรู้ใจได้ยากนัก!หลงเพ่ยเพ่ยยิ้ม นางก็รู้สึกว่าตนกับเย่หรงพูดคุยสื่อสารกันง่ายเช่นกันเย่หรงฉลาด ที่สำคัญที่สุดคือมิใช่บุรุษประเภทหัวโบราณคร่ำครึ มิเหมือนพวกพี่สามที่เอะอะก็วางตนเป็นผู้ใหญ่สั่งสอนนางเฮ้อ หากสามีในอนาคตของนางสามารถพูดคุยกันได้เหมือนเย่หรง เช่นนั้นสามีภรรยาจะมิรักใคร่กลมเกลียวกันมากหรอกหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยคิดแล้วพลันหน้าแดงเรื่อ นี่นางกำลังคิดฟุ้งซ่านอะไรอยู่!“พวกเรามาคิดกันก่อนดีกว่าว่าอีกประเดี๋ยวหากพบเสด็จย่าแล้วจะทำอย่างไรดี!”หลงเพ่ยเพ่ยมิกล้าคิดฟุ้งซ่านต่อไป รีบเปลี่ยนเรื่องคุย“ท่านกังวลว่าท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นจะก่อกวนหรือ?”เย่หรงก็ดึงความคิดกลับมา พวกเขาใกล้จะถึงภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้ว ต้องคิดหาข้ออ้างให้ดี“อืม ท่านหญิงชิงเฉิงมิใช่คนประเภทที่จะเจรจาด้วยง่าย ๆ ท่านหญิงอวิ๋นยังพอคุยง่ายอยู่บ้าง แต่ในเมื่อพวกนางรับคำสั่งจากชายาเจ้าแห่งทะเลมาเพื่อถ่วงเวลาเสด็จย่า ย่อมมิยอมให้ข้าบรรลุเป้าหมายแน่!”หลงเพ่ยเพ่ยเผยสีหน้าอมทุกข์เย่หรงพลันนึกถึงข่าวลือเกี่ยวกับท่านหญิงอวิ๋นขึ้นมา แม้ท่านหญิงอวิ๋นจะเป็นธิดาแท้ ๆ ของชายาเจ้าแห่งทะเล แต่ช่วงห
“โอ้ ใต้หล้านั้นแตกต่างจากใต้หล้าของพวกเราหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยถูกเย่หรงกระตุ้นความอยากรู้ จึงจ้องมองพลางถาม“อืม บ้านเรือนที่นั่นสูงเท่าภูเขา สูงที่สุดอาจถึงร้อยชั้นได้ ทั้งยังมีรถมากมายที่มิต้องใช้ม้าลาก วิ่งได้เร็วมาก!”เย่หรงเล่าให้หลงเพ่ยเพ่ยฟังไปเรื่อย ๆเมื่อพูดถึงเครื่องบินก็ทำให้หลงเพ่ยเพ่ยเบิกตากว้าง นางมองเย่หรงอย่างงง ๆ “เจ้าโกหกกระมัง จะมีเครื่องมือที่สามารถบรรทุกคนขึ้นไปบนฟ้าได้อย่างไร!”“มีจริง ๆ ข้ามิได้โกหกท่าน พี่หญิงหลิงหลิงจำได้มากกว่าข้าเสียอีก รอมีโอกาสให้นางเล่าให้ท่านฟัง ท่านก็จะเชื่อว่าข้ามิได้โกหกท่าน!”เย่หรงเริ่มตื่นเต้น “ท่านหญิง ท่านปู่มิได้บอกหรือว่าคันฉ่องคุนหลุนของตงกู่อวี้สามารถพลิกฟ้าคว่ำปฐพีได้?”“หากพวกเราได้คันฉ่องคุนหลุนมา มิต้องรอเวียนว่ายตายเกิด ข้าจะพาท่านไปดูใต้หล้านั้น! ท่านจะต้องชอบใต้หล้านั้นอย่างแน่นอน!”เย่หรงพูดจนหลงเพ่ยเพ่ยใจเต้นระรัว นางกล่าวออกไปโดยมิต้องคิด “ได้ เช่นนั้นรอพวกเราช่วยแดนเทพผ่านพ้นภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้ พวกเราหาคันฉ่องคุนหลุนเจอแล้วก็ไปด้วยกัน ไปดูใต้หล้าที่เจ้าพูดถึงกัน!”“ตกลงตามนี้!”เย่หรงยกมือขึ้น หลงเพ่ยเพ่
คนหนึ่งคือคนที่ตนรัก อีกคนคือสหายที่ดีที่สุดของตน!แต่พวกเขากลับร่วมมือกันหลอกลวงตน!หยางหงหนิงหันหลังเดินออกไปด้วยใบหน้าบึ้งตึง นางจะมิปล่อยชายชั่วหญิงโฉดคู่นี้ไปแน่!สิ่งที่นางมิได้มาครอบครอง ยอมทำลายทิ้งเสียดีกว่ายอมให้คนอื่นได้ไป!หยางหงหนิงกลับไปที่รถม้าของตน เค้นเสียงลอดไรฟันออกมาคำหนึ่ง “ไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์!”ด้านหน้า เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยต่างก็ร้อนใจดั่งไฟเผา ฮองเฮาเสด็จไปสองชั่วยามแล้ว พวกเขาจะตามทันพระนางหรือ?อีกทั้งต่อให้ตามทัน มีท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นอยู่ พวกนางต้องช่วยชายาเจ้าแห่งทะเลขัดขวางมิให้ฮองเฮาเรียกตัวหลิงอวี๋เข้าเฝ้าแน่“ท่านหญิง พวกเราจะไปทันหรือไม่? ชายาเจ้าแห่งทะเลจะลงมือกับพี่หญิงหลิงหลิงแล้วหรือไม่?”เย่หรงถามอย่างร้อนรนหลงเพ่ยเพ่ยก็ร้อนใจเช่นกัน หลิงอวี๋ยังรอให้นางช่วยชีวิตอยู่ แต่นางก็มิรู้ว่าจะสามารถทูลขอพระราชโองการจากฮองเฮาได้สำเร็จหรือไม่“พวกเราพยายามเต็มที่เถอะ! ขอเพียงตามเสด็จย่าทัน ต่อให้ข้าต้องคุกเข่าอ้อนวอนก็ต้องให้นางพาพี่หญิงหลิงหลิงออกมาให้ได้!”หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวปลอบใจเย่หรงเห็นหลงเพ่ยเพ่ยวิ่งวุ่นไปทั่วกับตนก็นับว่าพยายามเ
รองแม่ทัพจางยังคงกล่าวพลางยิ้มแย้ม “ท่านหญิงฉางเล่อมามิถูกจังหวะ วันนี้ฮองเฮาพร้อมด้วยท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นพาคุณชายน้อยทั้งหลายเสด็จไปชมดอกไม้ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”ว่ากระไรนะ?หลงเพ่ยเพ่ยนิ่งอึ้งไป ท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นล้วนเป็นธิดาของเจ้าแห่งทะเล และเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลงเพ่ยเพ่ยด้วยเหตุใดพวกนางถึงมิไปชมดอกไม้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เล่า แต่กลับเลือกไปชมดอกไม้ในตอนที่ตนต้องการความช่วยเหลือจากเสด็จย่าพอดีนี่น่ะหรือ?“ไปนานเท่าใดแล้ว?”หลงเพ่ยเพ่ยสงสัยว่านี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของชายาเจ้าแห่งทะเล“สองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วขอรับ!”รองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้มหลงเพ่ยเพ่ยอยากจะชกหน้ายิ้ม ๆ ของรองแม่ทัพจางเสียสักหมัด เหตุใดนางมองรอยยิ้มของรองแม่ทัพจางแล้วเหมือนกำลังสมน้ำหน้าตนอยู่เลยเล่า“เจ้ามิได้หลอกข้าใช่หรือไม่?”หลงเพ่ยเพ่ยถามเสียงเย็นรองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้ม “ท่านหญิงฉางเล่อพูดเล่นแล้ว ไหนเลยข้าน้อยจะกล้าหลอกท่านหญิง! หากมิเชื่อท่านลองถามใครดูก็ได้ว่าที่ข้าน้อยพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่!”“หากท่านหญิงมีธุระด่วนจร