LOGINวราลีสะดุ้งตื่นขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่านิทรารมย์ของเธอกำลังถูกรบกวนจากอะไรบางอย่าง หญิงสาวรีบผลักเขาออกทันทีเมื่อรู้สึกตัวเต็มที่ในขณะที่ ภีรวัจน์กำลังซุกไซ้ซอกคอของเธออย่างเพลิดเพลิน
“หยุดนะ” เสียงของเธอดังขึ้นพร้อมกับการผลักไสเขาให้พ้นไปจากการเกยทับอยู่บนร่างของเธอออกอย่างตกใจ
เขาหัวเราะน้อยๆ กับท่าทางที่มองเขาอย่างหวาดระแวงของเธอ
“คนขี้หวง”
“พี่เคนเข้ามาได้ยังไง”
“คิดว่าไอ้แผนปัญญาอ่อนของไหมมันจะขัดขวางผมได้งั้นเหรอ”
“ออกไปนะ” เธอไล่เขาทันที
“แล้วจะให้ผมไปนอนไหน” เขาถามอย่างอารมณ์ดีกับท่าทางเหมือนกวางน้อยหลงทางของเธอ
“มันเรื่องของพี่เคน”
“อย่าใจร้ายนักเลยน่า นอนกันสองคนอุ่นดีออก”
“ไหมไม่อยากนอนกับคนแปลกหน้าแถมบ้ากามเหมือนพี่เคน”
“แล้วอยากนอนกับใครสุภาพบุรุษเหมือนไอ้หน้าจืดนั่นเหรอ”
อารมณ์ของภีรวัจน์เริ่มคุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อพูดถึงพิษณุ วราลีรับรู้ได้ถึงอารมณ์ของเขาที่กำลังเป็นอันตรายกับเธอ
เขาเข้าประชิดตัววราลี…หญิงสาวพยายามถอยหนีจนไปชิดหัวเตียง ตอนนี้หลังเธอพิงแตะกับหัวเตียงจนไม่สามารถหนีเขาไปไหนได้อีก เขาใช้แขนทั้งสองข้างค้ำที่หัวเตียงโดยมีวราลีอยู่ภายในกรอบวงแขนของเขา
“ถอยไป”
“คิดว่ากำลังสั่งใครอยู่” เสียงวางอำนาจของเขาพูดอยู่ห่างเธอไม่ถึงคืบ เขารวบร่างเธอมากอดไว้
วราลีดิ้นหนีทันทีแต่ยิ่งดิ้นก็เหมือนยิ่งทำให้หน้าอกอวบของเธอเบียดแนบชิดกับหน้าอกแกร่งของเขามากยิ่งขึ้น ความนุ่มหยุ่นที่กำลังเสียดสีกับร่างกายท่อนบนของเขาทำให้ภีรวัจน์ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ไฟปรารถนาของเขาเริ่มลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง
“ดิ้นอีกสิไหม” เขาพูดเสียงแหบพร่าในขณะที่ตายังจ้องที่ริมฝีปากของเธอไม่วางตา วราลีรู้สึกตัวพยามยามดันตัวออกห่างแต่ภีรวัจน์กลับดันให้เธอเบียดกับเขามากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
“ปล่อยค่ะ”
“ผมชอบจังเวลาที่ไหมเบียดกับผมแบบนี้” ความตั้งใจเดิมของเขาหายไปในทันทีเมื่อร่างนิ่มๆ ของเธออยู่ในอ้อมแขนของเขาแบบนี้
“คนบ้า” หญิงสาวหน้าแดงอย่างอับอาย เพราะแผ่นหลังของเธอถูกดันเข้าหาเขาจนอกอวบของเธอทั้งสองข้างของเธอถูกเบียดจนจมไปกับหน้าอกกว้างของเขา
“ขอผมนะคนดี” น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนเป็นเว้าวอน จนวราลีอ่อนยวบ
“อย่าค่ะ” เสียงห้ามของวราลีดังแผ่วๆ ก่อนที่ริมฝีปากร้อนๆ ของเขาจะปิดลงมา
เสียงของวราลีขาดเป็นห้วงๆ เมื่อกระแสความร้อนระอุจากการถูกปลุกเร้าอย่างร้อนแรงและเรียกร้องจากเขากำลังทำให้สติของเธอเลื่อนลอย
ปากร้อนและจมูกโด่งขอภีรวัจน์เลื่อนต่ำลงมาหาซอกคอของวราลีอีกครั้งหลังจากที่ระดมจูบเธออย่างหิวกระหาย ในตอนนี้วราลีไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป เธอติดกับแรงปรารถนาที่เขาบรรจงสร้างขึ้นกับร่างกายเธอซะแล้ว หญิงสาวเงยหน้าขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้เขาซุกไซ้ซอกคอได้ถนัดยิ่งขึ้น มือน้อยๆ ของเธอยกขึ้นโอบรอบคอเขาไว้ก่อนและเลื่อนไปมาบนไหล่กว้างและแผ่นหลังของเขา
ภีรวัจน์เลื่อนสายเสื้อนอนเล็กๆ ให้ตกลงมาตามแขน ก่อนจะเอื้อมมื้อไปปลดตะขอบราตัวสวยของเธอออกอย่างช่ำชอง
ภาพที่ปรากฏต่อหน้าเขาตอนนี้เย้ายวนใจเป็นอย่างมาก วราลีนั่งเปลือยกายท่อนบนอยู่ตรงหน้าเขา ผมของเธอสยายลงมาปกคลุมไหล่เปลือยเอาไว้ หน้าอกอวบกลมกลึงทั้งสองข้างตั้งตระหง่านอวดความงามของมันต่อสายตาเขา
ภีรวัจน์ก้มลงไปหามันอย่างรวดเร็ว เขาประคองความกลมกลึงข้างหนึ่งเข้าปากก่อนจะดูดกลืนมันอย่างหิวกระหาย ส่วนอีกข้างก็ถูกมือของเขากอบกุมเอาไว้อย่างหวงแหน ก่อนจะบีบคลึงไปมาอย่างเพลิดเพลิน หน้าอกทั้งสองข้างของวราลีชูชันขึ้นรับสัมผัสจากมือและปากร้อนๆ ของเขาทันที
ปลายลิ้นร้ายกาจของเขาแตะที่ยอดอกสีชมพูของเธอและตวัดเลียไปมาอย่างช่ำชอง ในขณะที่ยอดอกอีกข้างหนึ่งก็ถูกปลายนิ้วร้อนๆ ของเขาเขี่ยและคลึงสลับกันอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
หญิงสาวกัดริมฝีปากจนห้อเลือดเพื่อพยายามระงับเสียงครางของตัวเองไม่ให้หลุดลอดออกมา
“ฮื้อ” ในที่สุดเสียงครางอย่างรัญจวนของเธอก็หลุดรอดออกมาเมื่อไม่สามารถต้านทานกระแสวาบหวามและรัญจวนที่กำลังโรมรันเธออยู่ในขณะนี้ได้
ภีรวัจน์เชยชมอกอวบทั้งสองข้างของเธอไปมาอย่างไม่รู้สึกเบื่อ ความสวยงามและหอมหวานที่เขาได้รับทำให้เขาไม่อยากผละไปไหน
วราลีแทรกมือเข้าไปในกลุ่มผมของเขาเพื่อระบายความวาบหวามที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงจากริมฝีปากร้ายกาจและมือร้อนๆ ของเขา หญิงสาวเผลอแอ่นหลังเข้าหาและใช้มือกดศีรษะทุยให้แนบชิดกับหน้าอกอวบอิ่มมากยิ่งขึ้น ในบางจังหวะโดยที่ลิ้นของเขาก็ทำหน้าที่ตอบสนองทันทีเช่นกัน
“อืม” ภีรวัจน์ครางออกมาอย่างพึงพอใจกับปฏิกิริยาตอบสนองอย่างร้อนแรงของวราลี ชายหนุ่มเลื่อนมือลงไปและสอดมันเข้าใต้ชายกระโปรงนอนและปัดชายขึ้นมากองไว้ที่หน้าท้องของเธออย่างรำคาญ ก่อนจะใช้นิ้วเกี่ยวบิกินี่ตัวน้อยและรูดลงไปตามขาเรียวยาวของเธอ
มือของเขาตรงเข้าไปครอบครองกุหลาบงามที่เป็นจุดที่อ่อนไหวที่สุดบนร่างกายของเธอ ซึ่งในขณะนี้มีหยดน้ำใสๆ กลั่นออกมาอย่างต่อเนื่อง นิ้วของเขาแซะเข้าไปในร่องกุหลาบอย่างช่ำชองเพื่อสำรวจความสวยงามบริเวณนั้นของเธอ
“พี่เคน..อย่า..” วราลีเปล่งเสียงห้ามอย่างอับอายที่เขาสัมผัสเธออย่างใกล้ชิดแบบนั้น แต่ร่างกายของเธอกลับทรยศด้วยการขยับเข้าหานิ้วอุ่นๆ ของเขาอย่างน่าเจ็บใจ
“อื้อ” หญิงสาวหมดความอดทนอดกลั้นเมื่อร่างกายทั้งท่อนบนและท่อนล่างของเธอกำลังถูกปลุกเร้าด้วยปากและมืออันร้ายกาจของเขาโดยไม่เว้นจังหวะให้เธอได้ตั้งสติเลยสักนาที
“คุณเมธิน” เขาตอบเรียบๆ“แล้วยังไงคะ” เธอถามเขาต่อแต่ลำคอเริ่มตีบตัน“ถ้าคุณจะถอนหมั้นแล้วไปคบกับเขาผมก็ยินดีนะ” น้ำเสียงที่พูดราวกับไม่รู้สึกยินดียินร้ายของเขาบาดลึกลงไปในหัวใจของภีรดาอย่างไม่เคยรู้สึกเท่านี้มาก่อน ความรู้สึกที่เขาคิดจะผลักไสเธอให้คนอื่นมันเหมือนเธอไม่เคยมีความหมายอะไรต่อเขาเลย ทำให้ภีรดาต้องเมินหน้าหนีจากใบหน้าเข้มๆ ของเขาภวินท์มาจอดรถส่งเธอที่หน้าบ้านหลังจากที่ภีรดานั่งเงียบมาตลอดทาง“ถ้าคุณพร้อมเมื่อไหร่ก็บอกผม” เขาหันมาพูดก่อนที่ภีรดาจะเปิดประตูรถลงไป“พิมไม่เคยมีความหมายอะไรกับพี่เลยใช่ไหมคะ” เธอหันไปถามเขาอย่างเจ็บปวด น้ำเสียงสั่นเครือ“พิม” เขาเรียกเธอย่างตกใจ“พี่ไก่มีหัวใจบ้างหรือเปล่า” เสียงหวานเอ่ยอย่างตัดพ้อ น้ำตาที่สกัดกั้นไว้ตลอดทางเริ่มไหลออกมาเต็มสองแก้ม พร้อมกับกำปั้นน้อยๆ ที่หันไปทุบที่หน้าอกเขาติดๆ กันเพื่อระบายสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในหัวใจมาตลอด เขารวบมือของเธอไว้“ปล่อยนะ” เธอหันไปแหวใส่เขาทั้งๆ ที่ยังไม่หยุดร้องไห้“หยุดร้องไห้ก่อนแล้วพูดกันดีๆ” น้ำเสียงเขาอ่อนโยนลง“ไม่หยุด พิมเกลียดพี่ไก่ ใช่...พิมมันบ้า บ้าที่หลงรักพี่ ทั้งๆ ที่พี่ไม่เคยเห็นพิมอ
“พิมเป็นเหน็บค่ะสงสัยจะนั่งนาน”เขาช้อนร่างบางของเธอไว้ในวงแขน ก่อนจะเดินไปที่โซฟาตัวยาวที่อยู่ใกล้ๆ และวางลง ภวินท์นั่งลงข้างล่าง ถอดรองเท้าเธอออก แล้วนวดให้อย่างเบามือ ทำให้ภีรดานึกไปถึงเมื่อสี่ปีก่อนที่เธอเคยแกล้งเขาและเขาต้องนวดให้เธอแบบนี้ หญิงสาวเริ่มหน้าแดงเมื่อนึกถึงตอนที่เขาจูบเธอเป็นครั้งแรกหลังจากนั้น“ดีขึ้นหรือยัง”“ก็เอ่อค่ะ” ในยามนี้ภีรดาเหมือนนางอายทำอะไรก็ดูขัดเขินไปหมด เพราะไม่คิดว่าเขาจะอ่อนโยนกับเธอได้ขนาดนี้ภวินท์จึงหัวเราะกับท่าทางเงอะงะของคู่หมั้นสาว“พิมครับเป็นอะไรไปครับ” คำพูดของเขายิ่งทำเอาเธออ่อนยวบจนแทบละลาย คนอย่างเขาพูดเพราะกับเธอได้ขนาดนี้เลยเหรอ“พี่ไก่คะ”“ครับว่าไง”“ไม่ว่าอะไรพิมใช่ไหมคะที่พิมจะเรียกว่าพี่ไก่”“ไม่ว่าครับเพียงแต่มันไม่ชิน”“แล้วถ้าถอนหมั้นกันแล้ว พิมยังจะเรียกเหมือนเดิมได้หรือเปลา” ภีรดาถามต่อแต่คำถามของเธอทำให้เขาหน้าตึงขึ้นมาทันที“ตามใจสิ” เขาตอบห้วนๆ และทำท่าจะเดินไปจากตรงนั้น ภีรดาลุกขึ้นและดึงแขนเข้าไว้“เดี๋ยวก่อนค่ะ โกรธพิมเหรอคะ” เธอพูดอย่างงอนง้อ“ไม่ได้โกรธ”“แล้วทำไมต้องเดินหนีพิมล่ะคะ”“ก็แค่คู่หมั้นกำมะลอจะใส่ใจอะไรกั
“ไม่นะคะพี่เคน” เธอปฏิเสธทันที“พี่คงไม่ยอมให้เรื่องมันผ่านแล้วผ่านเลยไปอย่างแน่นอน พิมไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ แล้วถ้าเรื่องนี้ถึงหูคุณพ่อคุณแม่ท่านคงไม่ทำแค่ที่พี่ทำแน่”คำพูดที่เด็ดขาดของภีรวัจน์ทำให้เธอรู้ว่าเธอหมดทางปฏิเสธ แล้วภวินท์ล่ะจะเป็นอย่างไรบ้าง เขาจะรู้สึกอึดอัดแค่ไหนที่ต้องหมั้นกับเธอทั้งๆ ที่ไม่ได้รักภีรดาถูกภีรวัจน์สั่งให้ย้ายแผนกมาฝึกงานกับฝ่ายบัญชีหลังจากนั้น หากเป็นแต่ก่อนเธอคงไม่ยอมพี่ชายง่ายๆ แบบนี้แต่ตอนนี้เธอกลับรู้สึกว่านั่นเป็นการดีสำหรับเธอ เพราะเธอยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับภวินท์ในตอนนี้วราลีทราบข่าวเรื่องนี้จากปากของภีรดา ทำให้เธอตื่นเต้นไม่น้อยเพราะไม่คิดว่าจะได้เพื่อนรักมาเป็นพี่สะใภ้ในที่สุด เธอรู้ว่าภีรดาแอบชอบภวินท์มาหลายปีแล้ว แต่พี่ชายของเธอก็เอาแต่เมินเฉยและเย็นชาใส่ภีรดามาตั้งแต่แรกเช่นกัน เธอรู้สึกดีใจแทนภีรดาอย่างมากแต่ก็รู้สึกไม่ชอบใจนักที่รู้ว่าภีรวัจน์เป็นผู้บังคับให้ภวินท์หมั้นกับภีรดา คนร้ายกาจนั่นชอบวางอำนาจและชอบสั่งให้คนนั้นคนนี้ทำตามที่ตัวเองต้องการอยู่ร่ำไป โดยที่ไม่ได้ถามความสมัครใจเขาสักนิดความห่างเหินระหว่างภวินท์กับภีรดาเริ่มมากขึ้นเ
ภวินท์เป็นที่หมายปองของสาวๆ ทั้งบริษัท เพราะนอกจากเขาจะหน้าตาหล่อเหลาแล้ว เขายังวางตัวได้ดีและทำงานเก่งจนมีความก้าวหน้า ในหน้าที่การงานมากกว่าคนหนุ่มที่อายุรุ่นราวคราวกัน ภีรดาเองก็เคยเห็นผู้หญิงมองตามเขาหลายครั้งหญิงสาวลุกขึ้นและเดินตรงมาหาเขาที่โต๊ะ เธอยืนอยู่ข้างหน้าโต๊ะและไม่ยอมขยับไปไหน ภวินท์เงยหน้าขึ้นมองเธอนิดหนึ่งก่อนจะก้มหน้าลงสนใจงานตรงหน้าต่อ“งานของคุณเสร็จแล้วเหรอ” ภีรดารู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกที่เขาพูดกับเธอแต่ไม่ยอมมองหน้าสักนิด“ยัง”“อ้อลืมไปว่าคุณเป็นลูกสาวเจ้าของบริษัท แต่อยากทำอะไรก็ทำเถอะ ส่วนผมมันแค่ลูกจ้างต้องทำงานให้คุ้มเงินเดือน” ภีรดาหน้าชาเพราะเหมือนเขากำลังย้อนสิ่งที่เธอเคยพูดเอาไว้เพราะอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น“ก็บอกแล้วไงว่าฉันขอโทษ” ภีรดาพูดอย่างงอนง้อ“ขอโทษเรื่องอะไร”“ก็ที่ฉันพูดไม่ดีกับนายวันก่อน”“คุณก็พูดถูกนี่” เขาพูดเหมือนไม่ใส่ใจคำขอโทษของเธอสักนิด“เมื่อไหร่นายจะหายโกรธฉันซักที”“ผมคงไม่บังอาจไปโกรธลูกสาวนายจ้างอย่างคุณหรอกครับ” น้ำเสียงเขาราบเรียบและห่างเหินจนภีรดาเริ่มจะหมดความอดทน“งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นฉันอยากสั่งอะไรนายก็ได้ใช่ไหม” เธอพู
“อย่าทำอะไรบ้าๆ อีกนะ” วราลีหันกลับมาค้อนขวับพร้อมทั้งพูดกับเขาเสียงดุๆ“ไหมก็รู้ว่าห้ามผมไม่ได้”“ถ้าคิดจะล่วงเกินไหมอีก ไหมจะ..” เธอหยุดพูดไว้แค่นั้นเพราะไม่รู้ว่าคนอย่างเธอจะสามารถทำอะไรเขาได้“จะ..อะไรครับยาหยี”“ถอยไปนะ ไหมจะไปอาบน้ำ” เธอพูดจะสะบัดตัวออกแต่ครั้งนี้กลับเป็นอิสระอย่างง่ายดาย เพราะเขายอมปล่อยเธอแต่โดยดีวราลีรีบเดินตัวปลิวเข้าห้องน้ำอย่างไม่ยอมเสียเวลาเพราะกลัวคนบ้านั่นจะทำอะไรบ้าๆ กับเธออีก อาบน้ำเสร็จกลับออกมาพร้อมกับใส่เสื้อคลุมอย่างมิดชิดและดวงตากลมโตของเธอหันมามองเขาที่ยังคงนอนสบายใจอยู่บนที่นอนเช่นเดิม สายตาของเขามองเธอทุกอิริยาบถจนเธอแทบจะเดินขาขวิดภีรวัจน์หัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนที่จะลุกจากเตียงแล้วแกล้งเดินเฉียดเธอไปเข้าอาบน้ำบ้างวราลีแต่งตัวเสร็จและนั่งรอเขาอยู่ที่เตียง เธอหันหลังให้เขาตั้งแต่เห็นเขาเดินออกมาจากห้องน้ำ คนบ้านั่นหน้าไม่อายสักนิดกับการที่ต้องเปลื้องผ้าต่อหน้าเธอ แต่เธอเขินอายเกินกว่าจะมองภาพนั้นได้ภีรวัจน์เดินเข้ามาใกล้หญิงสาวหลังจากที่เขาแต่งตัวเสร็จ เขามานั่งซ้อนข้างหลังและสอดมือเข้ามาที่เอวคอดของเธอ“พี่เคน”เขาไม่ตอบแต่ฝังจมูกลงบนซอกคอข
เขาผละลุกขึ้นจากร่างเปลือยเปล่าของเธออย่างรวดเร็วก่อนจะตรงเข้าไปยังห้องน้ำ และเปิดฝักบัวเพื่อให้สายน้ำเย็นๆ ดับความร้อนระอุและความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับร่างกายเขาจนรวดร้าวในตอนนี้ภาพการตอบสนองที่ร้อนแรงอย่างไม่รู้ตัวของวราลียังตามหลอกหลอนเขาทำเอาเขาแทบคลั่งและต้องใช้ความอดทนอย่างมากที่จะไม่เปิดประตูห้องน้ำกลับออกไปหาเธออีกครั้งวราลีควานหาเสื้อนอนมาใส่อย่างอับอาย ร่างกายเธอยังสั่นเทาจากพิษของแรงปรารถนาที่เพิ่งดับมอดลง เธอไม่รู้จะสู้หน้าเขาอย่างไรทั้งๆ ที่ปากตะโกนบอกว่าเกลียดเขา แต่ร่างกายเธอกลับตอบสนองเขาอย่างร้อนแรงราวกับสาวร้อนรักไม่มีผิดภีรวัจน์กลับออกมาอีกครั้ง หลังจากที่สายน้ำช่วยบรรเทาความร้อนระอุของเขาลงไปได้จนเกือบเป็นปกติวราลีนั่งอยู่ที่เตียงโดยใช้ผ้าห่มพันร่างของตัวเองเอาไว้อย่างหนาแน่น ตาสองคู่ประสานกันเป็นครั้งแรกหลังจากที่เพิ่งผ่านเหตุการณ์อันวาบหวามไปหญิงสาวหน้าแดงและเสหลบตาเขาอย่างอับอายเมื่อนึกถึงปฏิกิริยาอันน่าอับอายของตัวเองเขาหัวเราะน้อยๆ กับท่าทางของเธอ ก่อนจะเดินลงมานั่งที่เตียงข้างๆ เธอ วราลีสะดุ้งและตะครุบชายผ้าห่มเอาไว้แน่น“ตลกน่าไหม นึกว่าผ้าห่มแค่นี้จะช่







