LOGINภีรวัจน์ผละห่างออกมาเล็กน้อยเพื่อมองดูความสวยงามของเธอในตอนนี้ วราลีนั่งชิดอยู่กับหัวเตียงโดยที่ร่างกายทั้งท่อนบนและท่อนล่างของเธอเปลือยเปล่า ผมยาวของเธอยุ่งเหยิงและปกคลุมลงไปตามแผ่นหลังและเคลียอยู่บนไหล่บางส่วน ริมฝีปากของเธอเผยอน้อยๆ จากการบวมเพราะถูกเขาจูบอย่างหิวกระหาย หน้าอกอวบคู่สวยของเธอตั้งตระหง่านอวดโฉมของมัน ขาสวยทั้งสองข้างของเธอแยกออกจากกันและคร่อมร่างของเขาเอาไว้ ความงามของกุหลาบปรากฏอยู่ตรงหน้าเขา ในขณะที่เสื้อผ้าของเขายังอยู่ครบทุกชิ้น
ชายหนุ่มก้มลงไปหามันทันที ปากของเขาเข้าครอบครองกลีบกุหลาบที่มีน้ำหวานเกาะอยู่อย่างอ่อนโยนและหวงแหนก่อนจะเปลี่ยนเป็นร้อนแรงและหิวกระหาย ลิ้นร้อนๆ ของเขาตวัดไปมาเพื่อดูดชิมความหอมหวานของมันแล้วสอดเข้าไปในร่องลึกและขยับเข้าออกเป็นจังหวะอย่างสำรวจ ค้นหาและสร้างความคุ้นเคยจนหญิงสาวต้องขยับสะโพกตามการเข้าออกของเขา
“พี่เคนขา” เสียงของวราลีเรียกเขาอย่างลืมตัว มือทั้งสองของกำปูผ้าที่นอนแน่นจนยับอยู่ยี่ คลื่นความรัญจวนกระหน่ำผ่านลิ้นร้อนๆ ของเขาทุกจังหวะที่เขาขยับเข้าออก น้ำหวานของกุหลาบหลั่งไหลออกมาให้เขาชิมอย่างต่อเนื่อง ชายหนุ่มดูดกลืนมันอย่างไม่อิ่มเอม เขาเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นจนวราลีเกร็งไปทั่วช่องท้อง
“โอย พี่เคนขา ไหมไม่ไหวแล้ว” เสียงอ้อนวอนที่หวานหูของเธอ ทำเอาภีรวัจน์ปวดร้าวไปทั่วร่างกายอะไรบางอย่างในตัวเขากำลังเร่งเร้าให้เขาปลดปล่อย
ชายหนุ่มถอดลิ้นออกจากบริเวณนั้นและเลื่อนตัวขึ้นไปหาเธอ ดวงตาคู่สวยปรือปรอยและฉ่ำเยิ้มด้วยฤทธิ์ของแรงพิศวาส จังหวะรักที่เขาจงใจหยุดชะงักลงทำให้วราลีผวาเข้ากอดเขาอย่างทรมาน
“ไหม” เขาเรียกเธอเสียงแหบพร่า
“ช่วยไหมที” เธออ้อนวอนเขาเสียงสั่นอย่างไม่เหลือความยับยั้งชั่งใจเพราะความทรมานมันกำลังแผดเผาเธออยู่ตอนนี้อย่างรุนแรงจนเธอร้อนรุ่มไปทั่วร่าง
อกนุ่มหยุ่นเปลือยเปล่าของเธอที่เสียดสีกับร่างกายเขาตอนนี้ทำให้แทบอยากจะทำอะไรตามใจตัวเองในตอนนี้
ภีรวัจน์แกะกระดุมเสื้อนอนของตัวเองออกอย่างรวดเร็วและดึงร่างเปลือยเปล่าของวราลีเข้าไปกอดไว้อีกครั้ง ความนุ่มหยุ่นของเธอสัมผัสกับอกเปลือยเปล่าของเขาเป็นครั้งแรก วราลีรู้สึกมีความสุขอย่างประหลาดในขณะที่ภีรวัจน์แทบจะคลั่ง..ความอดทนของเขาเริ่มลดน้อยลงเต็มทีจนแทบจะขาดผึง
“ไหม ผมจะไม่ไหวแล้ว” เสียงทรงอำนาจของเขาถูกเปล่งออกราวกับสัมผัสถูกของร้อน ก่อนจะกดริมฝีปากลงบนริมฝีปากของเธออีกครั้ง นิ้วแกร่งแทรกเข้าไปในกลีบกุหลาบของเธอ วราลีผวากอดเขาแน่นอีกครั้ง
ความคับแน่นโอบรัดนิ้วแกร่งของเขาเอาไว้จนภีรวัจน์ไม่กล้าขยับเพราะกลัวเธอเจ็บ แต่วราลีกลับขยับเข้าหาเขาอย่างเร่งเร้าจนชายหนุ่มต้องขยับนิ้วเข้าออกเป็นจังหวะ น้ำหวานถูกกลั่นออกมาอย่างต่อเนื่องทำให้เขาขยับเข้าออกได้ถนัดยิ่งขึ้น หญิงสาวปั่นป่วนในช่องท้องจนเกร็งไปทั้งตัว
ภีรวัจน์ผละจากริมฝีปากเย้ายวนที่ถูกเขาครอบครองอย่างยาวนานจนเริ่มบวมเจ่อ หญิงสาวแหงนเงยหน้าขึ้นเพื่อสูดอากาศที่เธอรู้สึกว่ามันเข้าไปหล่อเลี้ยงร่างกายเธอไม่ทันในตอนนี้ เขาซบลงที่ซอกคอขาวนวลของเธอก่อนจะซอกซอนและซุกไซ้ด้วยปากร้อนๆ และจมูกโด่งของเขา
ในขณะที่นิ้วแกร่งของเขายังคงขยับเข้าออกสลับกับกดลึกเป็นจังหวะจนหญิงสาวต้องเบียดสะโพกเข้าหาเขาหลายต่อหลายครั้ง
“พี่เคนขา” หญิงสาวเรียกเขาอย่างวาบหวามปนหอบ เสียงหวานๆ ของเธอยิ่งเหมือนเร่งเร้าให้เขาหมดความยับยั้งชั่งใจ
ภีรวัจน์เงยหน้าขึ้นมองเธอและประสานสายตากับนัยน์ตาฉ่ำเยิ้มของเธอ
“ครับที่รัก”
“คน..ใจ..ร้าย” เธอต่อว่าเขาทั้งที่เสียงยังคงหอบสั่นเพราะเขาไม่ได้หยุดจังหวะการขยับนิ้วอันร้ายกาจของเขาสักนิด
“ร้ายตรงไหน” เขาพูดอย่างอารมณ์ดีท่ามกลางพายุพิศวาสที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรงอยู่ในตอนนี้
“พี่กำลังทำอะไรกับไหมคะ” เธอถามเหมือนคนละเมอ
“ลงโทษคนเจ้าชู้”
“ใคร..เจ้าชู้” สงครามย่อยๆ กำลังเกิดขึ้นครั้ง
“ไหม” เขาตอบชิดริมฝีปากของเธอ เขาหัวเราะออกมาน้อยๆ เพราะเธอยังอุตส่าห์หาเรื่องทะเลาะกับเขาจนได้ทั้งๆ ที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มกันอยู่
“พี่เคน…ต่างหาก” น้ำเสียงเธอเหมือนงอนๆ แต่ปนหอบเพราะเขาไม่ได้หยุดโรมรันเธอเลย
“ที่รักครับ” เขาเรียกเธออย่างอ่อนโยน
“อย่ามาเรียก” วราลีพยายามประท้วง แต่เขาตอบโต้โดยการกดนิ้วเข้าไปจนสุดทำเอาหญิงสาวเสียวซ่านอย่างรุนแรงอีกครั้ง
“คนใจร้ายช่วยไหมด้วย” เธออ้อนวอนเขาเสียงสั่น
“เรียกผมเพราะๆ ก่อนสิครับที่รัก”
“ไม่” วราลียังดื้อดึงแต่เขาก็ตอบโต้ด้วยการทรมานเธอด้วยการกดนิ้วเข้าออกเบาบ้างหนักบ้างจนวราลีผวากอดเขาแน่น
“ครับที่รัก” เขากระซิบที่ข้างหู
“ช่วยไหมนะคะพี่เคน อย่าทรมานไหมอีกเลย”
“เรียกผมว่าที่รักก่อน แล้วผมจะตามใจไหม” เขาต่อรอง วราลีเขินอายกับคำนั้นเกินกว่าจะพูดมันออกมาได้ แต่จังหวะการเร่งเร้าอย่างร้ายกาจของเขาทำให้เธอไม่มีทางเลือกมากนัก เพราะตอนนี้ร่างกายของเธอกำลังทรมานจนถึงขีดสุดแล้ว
“ค่ะ พี่เคน...ที่รัก”
“ที่รักของใครครับ”
“ที่รักของไหม ช่วยไหมนะคะ” ตอนนี้เธอยอมทำตามเขาทุกอย่าง ขอเพียงแค่ให้เขาปลดปล่อยเธอจากความทรมานนี้เสียที
ภีรวัจน์ยิ้มอย่างพอใจก่อนจะเร่งจังหวะการเข้าออกถี่ยิบ ความคับแน่นของเธอตอดรัดนิ้วแข็งแกร่งของเขามากขึ้นเรื่อยๆ
“ไม่ไหวแล้ว”
หน้าท้องแบนราบของวราลีขมวดเกร็ง ก่อนที่ร่างกายของเธอจะกระตุกอย่างรุนแรง โดยมีแสงดาวนับพันดวงพร่างพราวอยู่ตรงหน้า เมื่อเขาพาเธอไปแตะขอบสายรุ้งที่สวยงาม
ภีรวัจน์กอดเธอไว้แน่นเมื่อพาเธอส่งถึงฝั่ง แต่เขากลับทรมานเพราะความปวดร้าวของร่างกายตัวเองที่กำลังเรียกร้องการปลดปล่อยเช่นกัน
“คุณเมธิน” เขาตอบเรียบๆ“แล้วยังไงคะ” เธอถามเขาต่อแต่ลำคอเริ่มตีบตัน“ถ้าคุณจะถอนหมั้นแล้วไปคบกับเขาผมก็ยินดีนะ” น้ำเสียงที่พูดราวกับไม่รู้สึกยินดียินร้ายของเขาบาดลึกลงไปในหัวใจของภีรดาอย่างไม่เคยรู้สึกเท่านี้มาก่อน ความรู้สึกที่เขาคิดจะผลักไสเธอให้คนอื่นมันเหมือนเธอไม่เคยมีความหมายอะไรต่อเขาเลย ทำให้ภีรดาต้องเมินหน้าหนีจากใบหน้าเข้มๆ ของเขาภวินท์มาจอดรถส่งเธอที่หน้าบ้านหลังจากที่ภีรดานั่งเงียบมาตลอดทาง“ถ้าคุณพร้อมเมื่อไหร่ก็บอกผม” เขาหันมาพูดก่อนที่ภีรดาจะเปิดประตูรถลงไป“พิมไม่เคยมีความหมายอะไรกับพี่เลยใช่ไหมคะ” เธอหันไปถามเขาอย่างเจ็บปวด น้ำเสียงสั่นเครือ“พิม” เขาเรียกเธอย่างตกใจ“พี่ไก่มีหัวใจบ้างหรือเปล่า” เสียงหวานเอ่ยอย่างตัดพ้อ น้ำตาที่สกัดกั้นไว้ตลอดทางเริ่มไหลออกมาเต็มสองแก้ม พร้อมกับกำปั้นน้อยๆ ที่หันไปทุบที่หน้าอกเขาติดๆ กันเพื่อระบายสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในหัวใจมาตลอด เขารวบมือของเธอไว้“ปล่อยนะ” เธอหันไปแหวใส่เขาทั้งๆ ที่ยังไม่หยุดร้องไห้“หยุดร้องไห้ก่อนแล้วพูดกันดีๆ” น้ำเสียงเขาอ่อนโยนลง“ไม่หยุด พิมเกลียดพี่ไก่ ใช่...พิมมันบ้า บ้าที่หลงรักพี่ ทั้งๆ ที่พี่ไม่เคยเห็นพิมอ
“พิมเป็นเหน็บค่ะสงสัยจะนั่งนาน”เขาช้อนร่างบางของเธอไว้ในวงแขน ก่อนจะเดินไปที่โซฟาตัวยาวที่อยู่ใกล้ๆ และวางลง ภวินท์นั่งลงข้างล่าง ถอดรองเท้าเธอออก แล้วนวดให้อย่างเบามือ ทำให้ภีรดานึกไปถึงเมื่อสี่ปีก่อนที่เธอเคยแกล้งเขาและเขาต้องนวดให้เธอแบบนี้ หญิงสาวเริ่มหน้าแดงเมื่อนึกถึงตอนที่เขาจูบเธอเป็นครั้งแรกหลังจากนั้น“ดีขึ้นหรือยัง”“ก็เอ่อค่ะ” ในยามนี้ภีรดาเหมือนนางอายทำอะไรก็ดูขัดเขินไปหมด เพราะไม่คิดว่าเขาจะอ่อนโยนกับเธอได้ขนาดนี้ภวินท์จึงหัวเราะกับท่าทางเงอะงะของคู่หมั้นสาว“พิมครับเป็นอะไรไปครับ” คำพูดของเขายิ่งทำเอาเธออ่อนยวบจนแทบละลาย คนอย่างเขาพูดเพราะกับเธอได้ขนาดนี้เลยเหรอ“พี่ไก่คะ”“ครับว่าไง”“ไม่ว่าอะไรพิมใช่ไหมคะที่พิมจะเรียกว่าพี่ไก่”“ไม่ว่าครับเพียงแต่มันไม่ชิน”“แล้วถ้าถอนหมั้นกันแล้ว พิมยังจะเรียกเหมือนเดิมได้หรือเปลา” ภีรดาถามต่อแต่คำถามของเธอทำให้เขาหน้าตึงขึ้นมาทันที“ตามใจสิ” เขาตอบห้วนๆ และทำท่าจะเดินไปจากตรงนั้น ภีรดาลุกขึ้นและดึงแขนเข้าไว้“เดี๋ยวก่อนค่ะ โกรธพิมเหรอคะ” เธอพูดอย่างงอนง้อ“ไม่ได้โกรธ”“แล้วทำไมต้องเดินหนีพิมล่ะคะ”“ก็แค่คู่หมั้นกำมะลอจะใส่ใจอะไรกั
“ไม่นะคะพี่เคน” เธอปฏิเสธทันที“พี่คงไม่ยอมให้เรื่องมันผ่านแล้วผ่านเลยไปอย่างแน่นอน พิมไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ แล้วถ้าเรื่องนี้ถึงหูคุณพ่อคุณแม่ท่านคงไม่ทำแค่ที่พี่ทำแน่”คำพูดที่เด็ดขาดของภีรวัจน์ทำให้เธอรู้ว่าเธอหมดทางปฏิเสธ แล้วภวินท์ล่ะจะเป็นอย่างไรบ้าง เขาจะรู้สึกอึดอัดแค่ไหนที่ต้องหมั้นกับเธอทั้งๆ ที่ไม่ได้รักภีรดาถูกภีรวัจน์สั่งให้ย้ายแผนกมาฝึกงานกับฝ่ายบัญชีหลังจากนั้น หากเป็นแต่ก่อนเธอคงไม่ยอมพี่ชายง่ายๆ แบบนี้แต่ตอนนี้เธอกลับรู้สึกว่านั่นเป็นการดีสำหรับเธอ เพราะเธอยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับภวินท์ในตอนนี้วราลีทราบข่าวเรื่องนี้จากปากของภีรดา ทำให้เธอตื่นเต้นไม่น้อยเพราะไม่คิดว่าจะได้เพื่อนรักมาเป็นพี่สะใภ้ในที่สุด เธอรู้ว่าภีรดาแอบชอบภวินท์มาหลายปีแล้ว แต่พี่ชายของเธอก็เอาแต่เมินเฉยและเย็นชาใส่ภีรดามาตั้งแต่แรกเช่นกัน เธอรู้สึกดีใจแทนภีรดาอย่างมากแต่ก็รู้สึกไม่ชอบใจนักที่รู้ว่าภีรวัจน์เป็นผู้บังคับให้ภวินท์หมั้นกับภีรดา คนร้ายกาจนั่นชอบวางอำนาจและชอบสั่งให้คนนั้นคนนี้ทำตามที่ตัวเองต้องการอยู่ร่ำไป โดยที่ไม่ได้ถามความสมัครใจเขาสักนิดความห่างเหินระหว่างภวินท์กับภีรดาเริ่มมากขึ้นเ
ภวินท์เป็นที่หมายปองของสาวๆ ทั้งบริษัท เพราะนอกจากเขาจะหน้าตาหล่อเหลาแล้ว เขายังวางตัวได้ดีและทำงานเก่งจนมีความก้าวหน้า ในหน้าที่การงานมากกว่าคนหนุ่มที่อายุรุ่นราวคราวกัน ภีรดาเองก็เคยเห็นผู้หญิงมองตามเขาหลายครั้งหญิงสาวลุกขึ้นและเดินตรงมาหาเขาที่โต๊ะ เธอยืนอยู่ข้างหน้าโต๊ะและไม่ยอมขยับไปไหน ภวินท์เงยหน้าขึ้นมองเธอนิดหนึ่งก่อนจะก้มหน้าลงสนใจงานตรงหน้าต่อ“งานของคุณเสร็จแล้วเหรอ” ภีรดารู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกที่เขาพูดกับเธอแต่ไม่ยอมมองหน้าสักนิด“ยัง”“อ้อลืมไปว่าคุณเป็นลูกสาวเจ้าของบริษัท แต่อยากทำอะไรก็ทำเถอะ ส่วนผมมันแค่ลูกจ้างต้องทำงานให้คุ้มเงินเดือน” ภีรดาหน้าชาเพราะเหมือนเขากำลังย้อนสิ่งที่เธอเคยพูดเอาไว้เพราะอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น“ก็บอกแล้วไงว่าฉันขอโทษ” ภีรดาพูดอย่างงอนง้อ“ขอโทษเรื่องอะไร”“ก็ที่ฉันพูดไม่ดีกับนายวันก่อน”“คุณก็พูดถูกนี่” เขาพูดเหมือนไม่ใส่ใจคำขอโทษของเธอสักนิด“เมื่อไหร่นายจะหายโกรธฉันซักที”“ผมคงไม่บังอาจไปโกรธลูกสาวนายจ้างอย่างคุณหรอกครับ” น้ำเสียงเขาราบเรียบและห่างเหินจนภีรดาเริ่มจะหมดความอดทน“งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นฉันอยากสั่งอะไรนายก็ได้ใช่ไหม” เธอพู
“อย่าทำอะไรบ้าๆ อีกนะ” วราลีหันกลับมาค้อนขวับพร้อมทั้งพูดกับเขาเสียงดุๆ“ไหมก็รู้ว่าห้ามผมไม่ได้”“ถ้าคิดจะล่วงเกินไหมอีก ไหมจะ..” เธอหยุดพูดไว้แค่นั้นเพราะไม่รู้ว่าคนอย่างเธอจะสามารถทำอะไรเขาได้“จะ..อะไรครับยาหยี”“ถอยไปนะ ไหมจะไปอาบน้ำ” เธอพูดจะสะบัดตัวออกแต่ครั้งนี้กลับเป็นอิสระอย่างง่ายดาย เพราะเขายอมปล่อยเธอแต่โดยดีวราลีรีบเดินตัวปลิวเข้าห้องน้ำอย่างไม่ยอมเสียเวลาเพราะกลัวคนบ้านั่นจะทำอะไรบ้าๆ กับเธออีก อาบน้ำเสร็จกลับออกมาพร้อมกับใส่เสื้อคลุมอย่างมิดชิดและดวงตากลมโตของเธอหันมามองเขาที่ยังคงนอนสบายใจอยู่บนที่นอนเช่นเดิม สายตาของเขามองเธอทุกอิริยาบถจนเธอแทบจะเดินขาขวิดภีรวัจน์หัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนที่จะลุกจากเตียงแล้วแกล้งเดินเฉียดเธอไปเข้าอาบน้ำบ้างวราลีแต่งตัวเสร็จและนั่งรอเขาอยู่ที่เตียง เธอหันหลังให้เขาตั้งแต่เห็นเขาเดินออกมาจากห้องน้ำ คนบ้านั่นหน้าไม่อายสักนิดกับการที่ต้องเปลื้องผ้าต่อหน้าเธอ แต่เธอเขินอายเกินกว่าจะมองภาพนั้นได้ภีรวัจน์เดินเข้ามาใกล้หญิงสาวหลังจากที่เขาแต่งตัวเสร็จ เขามานั่งซ้อนข้างหลังและสอดมือเข้ามาที่เอวคอดของเธอ“พี่เคน”เขาไม่ตอบแต่ฝังจมูกลงบนซอกคอข
เขาผละลุกขึ้นจากร่างเปลือยเปล่าของเธออย่างรวดเร็วก่อนจะตรงเข้าไปยังห้องน้ำ และเปิดฝักบัวเพื่อให้สายน้ำเย็นๆ ดับความร้อนระอุและความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับร่างกายเขาจนรวดร้าวในตอนนี้ภาพการตอบสนองที่ร้อนแรงอย่างไม่รู้ตัวของวราลียังตามหลอกหลอนเขาทำเอาเขาแทบคลั่งและต้องใช้ความอดทนอย่างมากที่จะไม่เปิดประตูห้องน้ำกลับออกไปหาเธออีกครั้งวราลีควานหาเสื้อนอนมาใส่อย่างอับอาย ร่างกายเธอยังสั่นเทาจากพิษของแรงปรารถนาที่เพิ่งดับมอดลง เธอไม่รู้จะสู้หน้าเขาอย่างไรทั้งๆ ที่ปากตะโกนบอกว่าเกลียดเขา แต่ร่างกายเธอกลับตอบสนองเขาอย่างร้อนแรงราวกับสาวร้อนรักไม่มีผิดภีรวัจน์กลับออกมาอีกครั้ง หลังจากที่สายน้ำช่วยบรรเทาความร้อนระอุของเขาลงไปได้จนเกือบเป็นปกติวราลีนั่งอยู่ที่เตียงโดยใช้ผ้าห่มพันร่างของตัวเองเอาไว้อย่างหนาแน่น ตาสองคู่ประสานกันเป็นครั้งแรกหลังจากที่เพิ่งผ่านเหตุการณ์อันวาบหวามไปหญิงสาวหน้าแดงและเสหลบตาเขาอย่างอับอายเมื่อนึกถึงปฏิกิริยาอันน่าอับอายของตัวเองเขาหัวเราะน้อยๆ กับท่าทางของเธอ ก่อนจะเดินลงมานั่งที่เตียงข้างๆ เธอ วราลีสะดุ้งและตะครุบชายผ้าห่มเอาไว้แน่น“ตลกน่าไหม นึกว่าผ้าห่มแค่นี้จะช่







