Share

ตอนที่ 5 ยาในสุรา4

Author: LiHong
last update Last Updated: 2025-10-29 12:18:15

นางมองทุกส่วนที่ทรงเสน่ห์นั้นอย่างหลงใหล

ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกหวงแหนลำพองใจ ไม่ว่าใครหากได้มองล้วนรู้สึกเฉกเดียวกับนาง

“หม่อมฉันหนิงเอ๋อร์เพคะ ท่านอ๋องทรงให้หม่อมฉัน...”

ยังพูดไม่จบ นางพลันรับรู้ถึงกลิ่นอายอันตราย ได้ยินบุรุษในถังไม้แค่นเสียงลอดไรฟันว่า “ออกไป”

“แต่ว่า ท่านอ๋องเพคะ...”

จ้าวเฟิ่งช้อนตาขึ้นมองแวบหนึ่ง “หากเข้ามาอีกครึ่งก้าว เปิ่นหวางจะฆ่าเจ้า”

ได้ยินดังนั้น ใครจะกล้ารั้งอยู่ “พ่ะ เพคะ ไปแล้วเพคะ”

“ช้าก่อน”

เมื่อเสียงเข้มนี้กระทบโสตประสาท หนิงเอ๋อร์พลันชะงักฝีเท้า ในใจลิงโลดทันใด คิดว่าท่านอ๋องต้องทนไม่ไหว คิดเปลี่ยนใจให้นางปรนนิบัติแน่แล้ว

ทว่ายังไม่ทันหันไปยิ้มหวานกลับได้ยินคำพูดเย็นเยียบแทน

“ต่อไปอย่าให้เปิ่นหวางได้ยินว่าเจ้าใช้ชื่อนี้อีก”

“...!?”

“และอย่ามาให้เห็นหน้าอีก ออกไป!”

“เอ่อ...ท่ะ”

ยังไม่ทันอ้าปาก หลี่อี้ที่ได้ยินพลันเข้ามากระชากตัวนางลากออกไปทันที

ประตูห้องอาบน้ำปิดลงอีกครั้ง จ้าวเฟิ่งหลับตาขบกราม จัดการกับตัวเองต่อไป

ผ่านไปค่อนคืน น้ำในถังกระฉอกไปเกือบครึ่ง แต่พายุอารมณ์ในกายก็ยังไม่ยอมสงบลง จ้าวเฟิ่งหอบหายใจหนักหน่วง               ทั้งกระเส่าและถี่กระชั้น เขานั่งอยู่ในถังไม้ที่มีน้ำเย็นเยียบ สองคิ้วขมวดแน่น สองตาเคร่งเครียด

การสลายฤทธิ์ของยาปลุกกำหนัดมิใช่สิ่งที่สองมือจะทำได้

ชั่วขณะนั้น ภาพหนึ่งพลันปรากฏให้ห้วงภวังค์ เป็นภาพฝันเมื่อคืนก่อน

เขามองเห็นสตรีชุดแดงยืนขนาบข้าง นางผู้งดงามย่อมเป็นเจ้าสาวของเขาจึงใส่ชุดสีแดงเช่นเดียวกับเขา ยืนคู่กับเขาท่ามกลางบรรยากาศมงคลรอบกาย

ในตอนนั้นเบื้องหน้าของเขาคือสตรีอีกคน

นางสวมชุดสีฟ้าเรียบๆ ยืนมองเขาเงียบๆ ใบหน้าเย่อหยิ่งสงบนิ่งสุดหยั่ง พูดเสียงเนิบนาบว่า ‘ยินดีด้วย’

เขาสะบัดแขนจากเจ้าสาวข้างกาย ก้าวเท้ารุดขึ้นหน้า     จับตัวนางกระชากเข้าหา คำรามเสียงลอดไรฟันว่า ‘ยินดีหรือ? เรื่องของเราคงเป็นข้าที่ปรนเปรอให้เจ้ากระมัง’

นางเงยหน้า ทุกคำล้วนเฉือนใจ ‘ในเมื่อท่านแต่งงานแล้ว ไม่มีเหตุผลใดที่ข้าต้องอยู่ข้างกายท่านอีก ข้าแค่หวังว่าท่านจะอยู่ดีมีความสุขกับสตรีที่มีท่านในใจเท่านั้น ในใจข้าไม่ได้มีท่าน’

พูดจบก็สะบัดแขนเดินจากไปอย่างไม่ใยดี นางทิ้งตัวเขาไว้เพียงเบื้องหลังให้มองตามอย่างสิ้นหวัง

แน่นอนว่านั่นเป็นเพียงแค่ความฝัน เพราะความเป็นจริง นางยังคงอยู่ในห้องหนังสือ และตัวเขาก็ไม่ได้แต่งงานกับใคร

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น นางก็ไม่มีสิทธิ์หันหลังให้เขา...

ห้องส่วนตัวของเฉิงอ๋องอยู่ติดกับห้องหนังสือกว้างใหญ่ ด้านนอกมีชั้นหนังสือวางตั้งเรียงราย มีโต๊ะทำงานที่สลักลวดลายน่าเกรงขาม

ระหว่างพื้นที่กว้างใหญ่นั้นด้านในคือห้องอาบน้ำที่มีฉากกั้น หากขยับฉากกั้นออกเล็กน้อยจะมีกลไกซ่อนอยู่

กำแพงที่เชื่อมกับห้องอาบน้ำและห้องหนังสือนี้ถูกจัดให้เป็นห้องพักห้องหนึ่ง ด้านในหรูหรามีระเบียบและเร้นสายตา

ห้องลับของห้องหนังสือแห่งนี้ นับเป็นอาณาเขตหวงห้าม                ยากค้นหา มิให้ผู้ใดเข้ามา

ในห้องลับ เพ่ยหนิงกำลังยืนหันหลังพิงผนังห้องเงียบๆ            ฟังความเคลื่อนไหวจากห้องอีกฝั่งนิ่งๆ

ยิ่งดึกยิ่งหนาว แสงดาวพราวเต็มฟ้า ส่องแสงลอดช่องเล็กๆ ของหน้าต่างเข้ามา หญิงสาวกลับมานั่งตรงโต๊ะตัวเดิมที่มีอาหารหลากสีสันวางอยู่ละลานตา แต่ละอย่างหายากเลื่องชื่อและน่ากิน รสชาติดียิ่งกว่าเหลาอาหารที่นางเคยกินมาตลอดชีวิตสิบหกปี

นอกจากอาหารจะชั้นเลิศ แต่ละมื้อยังอิ่มหนำสำราญ           กินเสร็จยังได้นอนหลับกลางวัน ไม่ต้องตรากตรำทำงานอันใด

ทว่าแม้นางจะชอบกินและอาหารหน้าตาชวนลิ้มลอง หากแต่ดวงตากลมโตดุจกวางน้อยกลับละจากอาหารอย่างไม่ใส่ใจ

นางเท้าคางมองแสงเทียนที่ส่องสว่างกลางห้อง

หน้าต่างที่ไม่ถูกอนุญาตให้เปิดออกทำให้นางต้องนั่งมองแสงจากเทียนแทนแสงจากดวงดาว

ช่างน่าอนาถใจ...

เพ่ยหนิงกำลังนึกถึงคืนแรกที่ทำให้ตัวเองต้องเข้ามาอยู่ในนี้

คืนนั้น นางเข้ามาต่อรองไมตรีกับเฉิงอ๋อง ในใจคิดว่าวันนี้ฆ่ารัชทายาทไม่ได้ วันหน้าย่อมมีโอกาส

นางจึงทวงบุญคุณที่เคยช่วยชีวิตเขา ให้เขาปล่อยนางไป แล้วนางจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีก

ใครจะคาด หลังจากเอ่ยปากไม่เป็นผล นางที่โวยวายจนลำคอแหบแห้งก็ยกน้ำชาที่ไร้การแตะต้องบนโต๊ะของเขาขึ้นดื่มอย่างถือวิสาสะด้วยท่าทางโอหัง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ยามรักปักใจ   ตอนที่ 7 สตรีเอาแต่ใจ 2

    เพ่ยหนิงปรือตามองก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาประชิดมา ก่อนที่ริมฝีปากร้อนผ่าวจะประกบอย่างอุกอาจเอาแต่ใจ หญิงสาวถูกจุมพิตที่ไม่หยาบกระด้างแต่ก็ไม่อ่อนโยนถาโถมเข้าใส่จนมึนงงลมหายใจของนางกำลังถูกลมหายใจของเขาที่ร้อนเร่ายิ่งกว่าเตาไฟเผาไหม้จนแทบละลาย ความแข็งขืนมิผ่อนปรนของเขาทำหัวใจของนางเต้นแรง ริมฝีปากของนางถูกเขาครอบครอง ฝ่ามือยังถูกเขากอบกุมยากปัดป้อง เนื้อตัวถูกเขารุกเร้าเอาแต่ใจมากขึ้นเรื่อย ๆเพ่ยหนิงรู้สึกเหมือนวิญญาณถูกสูบ สมองขาวโพลน คล้ายถูกมอมเมาด้วยจุมพิตอันร้อนแรง ร้ายที่สุดก็คือถูกชักจูงด้วยสิ่งที่ฝ่ามือนางกุมแทบไม่หมดนั้นและก่อนที่นางจะขาดอากาศหายใจ เขาค่อยๆ ผละออก แต่ยังคลอเคลียไม่ห่าง ปลายลิ้นที่ไล้เลียเปลี่ยนจูบเร่าร้อนเป็นการละเลียดชิมริมฝีปากอย่างเว้าวอน คล้ายอ้อนวอนให้ช่วยเหลือกัน“ท่านอ๋อง” นางเสียงสั่น“ช่วยหน่อย” เขาสั่งเสียงเข้ม แฝงนัยร้องขอสาวน้อยหลับตา ข่มอารมณ์ข่มใจอย่างยากลำบาก นางปวดมือมากยิ่งนางขยับ เขาก็เหมือนยิ่งขยาย หากเป็นเช่นนี้ต่อไป...“ท่านเอาแต่ใจเกินไปแล้วนะ”“คืนนั้นเจ้าเอาแต่ใจมากกว่านี้มิใช่หรือไร

  • ยามรักปักใจ   ตอนที่ 6 สตรีเอาแต่ใจ 1

    หลังจากนั้นไม่นานตัวนางก็ร้อนรุ่ม รู้สึกถึงเพลิงผลาญที่แล่นพล่านจะไปทั่วตัวก่อนจะพุ่งขึ้นสูงและดิ่งลงต่ำไปที่ท้องน้อย ท้ายที่สุดนางก็ควบคุมตัวเองเอาไว้ไม่อยู่ ร้องขอเขาเสียงสั่นเครือ ขณะทิ้งตัวลงนั่งบนตักของเขาเขาตัวเกร็ง นิ่วหน้ามองพวกเราต่างไม่รู้ว่าในน้ำชามีอันใดขันทีที่อยู่นอกห้องถูกเฉิงอ๋องเรียกมาสอบถามถึงได้รู้ว่าเป็นชาพระราชทานจากฮ่องเต้ที่รัชทายาทแบ่งมาให้สองมือแกร่งที่ประคองบั้นท้ายของนางซึ่งกำลังถูไถไปมาบนหน้าขาของเขาชะงักค้างไปทันที“ไหวหรือไม่?” เขาถามเสียงเครียดนางตอบเสียงสั่น “ไม่ไหว...”หลังจากนั้นก็เป็นอย่างที่เป็นอยู่ทุกค่ำคืน คือนางไม่ได้ออกจากห้องลับ และเขาก็จะกลับมานอนด้วยแทบทุกคืนไม่รู้ว่าใครติดใจใครเฉิงอ๋องจ้าวเฟิ่งที่แค่กระดิกนิ้วก็มีสาวงามวิ่งตามเป็นพรวนกับนางที่เรียกร้องเขาเพราะยาแค่ครั้งเดียว...หญิงสาวถอนหายใจให้กับความโง่เขลาของตัวเองเป็นครั้งที่เท่าใดมิอาจนับ จากนั้นพลันลุกขึ้น กระชับชุดนางกำนัลไร้สีสันให้แน่นขึ้น ทำท่าจะเดินไปทางเตียงนอนในตอนนี้เอง ประตูเล็กฝั่งที่ติดกับห้องอาบน้ำก็เปิดออก ร่างบุรุษสูงสง่าสวมเพียงเสื้อคลุมเผยแผ่นอกตึงแน่น

  • ยามรักปักใจ   ตอนที่ 5 ยาในสุรา4

    นางมองทุกส่วนที่ทรงเสน่ห์นั้นอย่างหลงใหลยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกหวงแหนลำพองใจ ไม่ว่าใครหากได้มองล้วนรู้สึกเฉกเดียวกับนาง“หม่อมฉันหนิงเอ๋อร์เพคะ ท่านอ๋องทรงให้หม่อมฉัน...”ยังพูดไม่จบ นางพลันรับรู้ถึงกลิ่นอายอันตราย ได้ยินบุรุษในถังไม้แค่นเสียงลอดไรฟันว่า “ออกไป”“แต่ว่า ท่านอ๋องเพคะ...”จ้าวเฟิ่งช้อนตาขึ้นมองแวบหนึ่ง “หากเข้ามาอีกครึ่งก้าว เปิ่นหวางจะฆ่าเจ้า”ได้ยินดังนั้น ใครจะกล้ารั้งอยู่ “พ่ะ เพคะ ไปแล้วเพคะ”“ช้าก่อน”เมื่อเสียงเข้มนี้กระทบโสตประสาท หนิงเอ๋อร์พลันชะงักฝีเท้า ในใจลิงโลดทันใด คิดว่าท่านอ๋องต้องทนไม่ไหว คิดเปลี่ยนใจให้นางปรนนิบัติแน่แล้วทว่ายังไม่ทันหันไปยิ้มหวานกลับได้ยินคำพูดเย็นเยียบแทน“ต่อไปอย่าให้เปิ่นหวางได้ยินว่าเจ้าใช้ชื่อนี้อีก”“...!?”“และอย่ามาให้เห็นหน้าอีก ออกไป!”“เอ่อ...ท่ะ”ยังไม่ทันอ้าปาก หลี่อี้ที่ได้ยินพลันเข้ามากระชากตัวนางลากออกไปทันทีประตูห้องอาบน้ำปิดลงอีกครั้ง จ้าวเฟิ่งหลับตาขบกราม จัดการกับตัวเองต่อไปผ่านไปค่อนคืน น้ำในถังกระฉอกไปเกือบครึ่ง แต่พายุอารมณ์ในกายก็ยังไม่ยอมสงบลง จ้าวเฟิ่งหอบหายใจหนักหน่วง ทั้งกระเส่าและถี่กระชั้น

  • ยามรักปักใจ   ตอนที่ 4 ยาในสุรา3

    หญิงสาวรวบรวมความกล้าครั้งสุดท้าย วิ่งไปดักหน้าเขา“พี่เฟิ่ง ท่านรู้ดีว่าตั้งแต่ข้าเป็นเด็กหญิงไม่ประสา ในใจข้าก็มีเพียงท่านแล้ว ทำไมเล่า ทำไมท่านไม่มองข้าบ้าง ไยต้องมองหาสตรีที่ไม่คู่ควรที่หายตัวไปทางใดก็ไม่รู้ผู้นั้นด้วย”ฝีเท้าอันหนักอึ้งชะงักกึก หางตาจ้าวเฟิ่งกระตุกเบาๆ หวังซูเหยาเห็นดังนั้นก็เริ่มลำพองใจ สองตาปริ่มน้ำแลดูงดงามหยาดเยิ้มจึงส่งให้ไม่มีลดละ จ้องมองอย่างลึกซึ้งเข้าไปในดวงตาคมดำไร้ก้นบึ้งของเขาอย่างจงใจด้วยสภาพของเขายามนี้หากถูกสตรียื้อเวลาให้ร่วมเสวนา เกรงว่าพรุ่งนี้คงต้องส่งแม่สื่อไปเจรจาหมั้นหมายตามแผนการหวังซูเหยาลอบแย้มยิ้มอยู่ในใจ เมื่อเห็นหนทางสำเร็จรำไรทว่าท้ายที่สุด จ้าวเฟิ่งกลับไม่ใส่ใจว่านางจะรู้เรื่องส่วนตัวของเขามากน้อยแค่ไหน แววตาของเขายังคงเฉยเมยคล้ายผลักไส น้ำเสียงของเขาเย็นเยียบผิดกับอาการร้อนรุ่มในอก“ไม่เกี่ยวว่าข้ามีใครเคียงหรือครองตัวสันโดษ เพราะสิ่งเดียวคือข้าไม่ต้องการเจ้า”กล่าวจบเขาปรายตามองนางนิ่งๆ เดินจากไปอย่างเย็นชาอีกคราที่หวังซูเหยาทำได้เพียงมองเงาร่างสูงสง่าจนลับตา รับรู้เพียงกลิ่นอายรังเกียจที่เขาทิ้งไว้ให้แผ่ซ่าน

  • ยามรักปักใจ   ตอนที่ 3 ยาในสุรา 2

    “น้องเหยา เจ้ามาทำอะไรที่นี่” จ้าวเฟิ่งถามเสียงพร่าหญิงผู้นี้มีนามว่า หวังซูเหยา บิดาคือหวังซวี่ ขุนนางใหญ่ในราชสำนัก นับเป็นขุนนางน้ำดีผู้หนึ่ง ส่วนมารดาคือญาติผู้น้องของอดีตฮองเฮาผู้ล่วงลับซึ่งเป็นมารดาของเฉิงอ๋อง กล่าวก็คือ หวังซูเหยานับเป็นสตรีที่ไม่อาจดูเบาในเรื่องสายสัมพันธ์หวังซูเหยามองจ้าวเฟิ่งด้วยสายตาตัดพ้อ มีน้ำตาเอ่อคลอน่าสงสาร สื่อนัยคล้ายต่อว่าสามีที่มิค่อยกลับบ้านมาดูดำดูดีภรรยา“พี่เฟิ่ง รัชทายาททรงให้เหยาเอ๋อร์เข้าวังมาเพื่อพูดคุยกับท่านเรื่อง...เอ่อ...การหมั้นหมายของเราเจ้าค่ะ”ไม่พูดเปล่า นางยังโถมกายอ้อนแอ้นเข้าใกล้ ส่งกลิ่นหอมเชิญชวนให้คนต้องโอบกอดเกินห้ามใจสองแขนงามราวหยกที่เกาะเกี่ยวไหล่หนาคล้ายเกาะเกี่ยวเข้าไปในอณูเนื้อตรงอกด้านซ้าย ความรู้สึกนี้แทรกผ่านเสื้อผ้าเข้าปะทะกล้ามเนื้อหน้าอกทำเอาหัวใจเต้นรัว จ้าวเฟิ่งขนลุกเกรียวลำคอบุรุษแห้งผาก หากเขาคล้อยตามนางสักเล็กน้อย แม้จะกึ่งผลักไสกึ่งโอนอ่อน นางย่อมเป็นของเขาโดยสมบูรณ์ดังใจทว่าจ้าวเฟิ่งแค่ขมวดคิ้ว เม้มริมฝีปากบาง ก้มมองนางนิ่งๆ มิได้กอด แค่ไม่หลบเลี่ยงอาจเพราะร่างกายของเขาตอนนี้กำลังมีความต้อ

  • ยามรักปักใจ   ตอนที่ 2 ยาในสุรา 1

    รัชศกจิ้นหยวนปีที่สิบเก้า กลางเดือนสามในโถงงานเลี้ยงอันโอ่อ่าหรูหรา เบื้องบนฝั่งแท่นประธานปรากฏเรือนร่างสูงศักดิ์ขององค์รัชทายาทเด่นสง่าใบหน้าคมสันหล่อเหลาและงดงามเป็นเอกมีรอยยิ้มน้อยๆ ประดับริมฝีปากสีแดงสดตลอดเวลา ให้ความรู้สึกอบอุ่นน่าค้นหา ทั้งน่าหลงใหลชวนฝันถึงพระองค์สวมผ้าแพรสีม่วงลายมังกรสีขาวปักดิ้นสีทองอร่าม ขับเน้นให้เผยคำว่า ‘รูปงาม’ ยากหาใดเทียมเขาคือองค์รัชทายาทแคว้นจิน นามจ้าวไท่หรงด้านข้างพระวรกายสูงค่าขององค์รัชทายาทจ้าวไท่หรงคือเรือนร่างสูงใหญ่ในอาภรณ์สีดำเข้มของเฉิงอ๋อง นามจ้าวเฟิ่งเดิมทีหากไม่มีบุรุษสูงศักดิ์ผู้อื่นนอกจากรัชทายาท ทุกสายตาของบรรดาคุณหนูวัยกำดัดทั้งหลายต่างย่อมต้องมองเพียงว่าที่ประมุขแผ่นดินผู้นี้ผู้เดียว ทว่าวันนี้นั้นแตกต่าง เมื่อในงานเลี้ยงมีเฉิงอ๋องอยู่ด้วย ทุกสายตาจึงเปลี่ยนมาจับจ้องที่จ้าวเฟิ่งเป็นตาเดียวเหล่าสาวงามนางรำในห้องรับรองก็เช่นกัน พวกนางต่างแอบมองบุรุษหนุ่มเจ้าของใบหน้าคมคายเปี่ยมล้นไปด้วยเสน่ห์เหลือร้ายอย่างจ้าวเฟิ่งจนตาเป็นมันหากเอ่ยว่ารัชทายาทหนุ่มทรงหล่อเหลารูปงามเหนือผู้คน บุรุษผู้เหมาะสมเปรียบเทียบเท่าเท

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status